ศาลเจ้าคะซุงะ (Kasuga Taisha) ศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองนารา
ก่อตั้งขึ้นในเวลาเดียวกันกับที่จังหวัดนาราเป็นเมืองหลวง โดยถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าที่รับผิดชอบในการปกป้องเมือง ศาลเจ้าคะซุงะไทฉะยังเป็นศาลเจ้าที่ดูแลตระกูลฟูจิวาระ ซึ่งเป็นตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของญี่ปุ่นในช่วงยุคนาราและเฮอัน นอกจากนั้นศาลเจ้าคะซุงะยังเป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้า 4 องค์นั่นคือ เทพเจ้าในศาลเจ้าคาชิมะ (จังหวัดอิบารากิ) เทพเจ้าในศาลเจ้าคาโทริ (จังหวัดชิบะ) และเทพเจ้าในศาลเจ้าฮิราโอกะ (โอซาก้า) ซึ่งแตกต่างจากศาลเจ้าทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น
ศาลเจ้าคะซุงะจึงเป็นเสมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ทางตะวันออกของเมืองนารา ครอบคลุมพื้นที่กว่า 93 เฮกตาร์ ศาลเจ้าสามารถเข้าถึงได้โดยใช้เส้นทางยาวผ่านป่า ซึ่งจบลงที่อาคารศาลเจ้าขนาดเล็ก 4 แห่งที่เป็นที่ตั้งของเทพเจ้าคะซุงะ อาคารแต่ละหลังตั้งเคียงข้างกันจากตะวันออกไปตะวันตกมีหลังคาหน้าจั่วที่ยกขึ้นอย่างสง่างามที่เรียกว่าหลังคาคิริซุมะ มุงหลังคาด้วยเปลือกไม้ไซเปรส เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมศาลเจ้าที่เรียกว่า Kasuga-zukuri ชานชาลาขนาดเล็กคล้ายเฉลียงและฉากสูงชันที่ด้านหน้าของห้องโถงแต่ละห้องได้รับการปกป้องด้วยหลังคาหลังคาที่ยื่นออกมาจากปลายหน้าจั่ว
และในเดือนธันวาคมปี ค.ศ.1998 ที่นี่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของนาราโบราณ” หรือขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก รวมถึงป่าดึกดําบรรพ์คะซุงะไทฉะ และคะซุงะยามะอีกด้วย ซึ่งในทุกวันนี้ยังมีการสวดมนต์เพื่อสันติภาพระดับชาติและระดับโลก เพื่อความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนตลอดมา
ที่มาที่ไปของศาลเจ้าคะซุงะไทฉะ
ย้อนกลับไปราวๆ 1,300 ปีก่อนที่เมืองหลวงของประเทศถูกสร้างขึ้นที่จังหวัดนารา เทพเจ้าทาเคมิคาซึจิโนะมิโคโตะได้เดินทางจากศาลเจ้าคาชิมะ (อยู่ในจังหวัดอิบารากิ) ไปยังภูเขามิคาสะซึ่งถือเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู๋ในจังหวัดนาราแห่งนี้ และอาศัยอยู่บนยอดเขา เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและความสุขของประชาชน ต่อมาเมื่อวัฒนธรรมเท็มเปียวเจริญรุ่งเรืองมีการ สร้างอาคารอันงดงามบนที่ตั้งปัจจุบันของศาลเจ้าแห่งนี้ซึ่งก็คือจุดเริ่มต้นของ Kasuga Taisha นั่นเอง
ย้อนกลับไปราวๆ 1,300 ปีก่อนที่เมืองหลวงของประเทศถูกสร้างขึ้นที่จังหวัดนารา เทพเจ้าทาเคมิคาซึจิโนะมิโคโตะได้เดินทางจากศาลเจ้าคาชิมะ (อยู่ในจังหวัดอิบารากิ) ไปยังภูเขามิคาสะซึ่งถือเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู๋ในจังหวัดนาราแห่งนี้ และอาศัยอยู่บนยอดเขา เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและความสุขของประชาชน ต่อมาเมื่อวัฒนธรรมเท็มเปียวเจริญรุ่งเรืองมีการ สร้างอาคารอันงดงามบนที่ตั้งปัจจุบันของศาลเจ้าแห่งนี้ซึ่งก็คือจุดเริ่มต้นของ Kasuga Taisha นั่นเอง
ศาลเจ้าแห่งโคมไฟ
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นที่รู้จักเกี่ยวกับศาลเจ้าคะซุงะไทฉะก็คือ ที่นี่มีโคมไฟหินเรียงรายอยู่ประมาณ 2,000 ดวง และโคมไฟสัมฤทธิ์แขวนอีก 1,000 ดวง รวมเป็นโคมไฟทั้งหมดประมาณ 3,000 ดวง โคมไฟบางอันยังมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อีกด้วย เช่น โคมไฟยูซึกิที่อุทิศโดยฟูจิวาระ โนะ ทาดามิจิ บุคคลสำคัญทางการเมืองในสมัยเฮอันซึ่งกล่าวกันว่าเป็นโคมไฟหินที่เก่าแก่เป็นอันดับสองของประเทศ และโคมไฟรูริ ซึ่งกล่าวกันว่าได้รับบริจาคโดยฟูจิวาระ โนะ โยริมิจิ ตั้งแต่เมื่อประมาณ 800 ปีที่แล้ว โคมไฟนี้ได้รับการอุทิศให้กับขุนนาง ซามูไร และประชาชนทั่วไป
ส่วนพิธีกรรมชินโตที่มีความเกี่ยวข้องกับโคมไฟที่นี่เรียกว่า “มันโตโระ” โคมไฟจะถูกจุดไฟขึ้นเพียงปีละสองครั้งในช่วงเทศกาลโคมไฟช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์และในช่วงกลางเดือนสิงหาคมของทุกปี
ศาลเจ้าขนาดเล็กทั้ง 15 แห่งรอบๆ พื้นที่
นอกจากนั้นมีศาลเจ้าขนาดเล็กอีกหลายแห่งในป่ารอบๆ ศาลเจ้าคะซุงะไทฉะ โดยศาลเจ้าขนาดเล็กทั้ง 15 แห่งตั้งอยู่ริมเส้นทางผ่านกลุ่มศาลเจ้าหลัก และอุทิศให้กับเทพเจ้านำโชคทั้ง 15 องค์ด้วยกัน นักท่องเที่ยวมักจะหยุดที่แต่ละจุดเพื่อสวดมนต์ขอพรได้โดย 1 ใน 3 บรรดาศาลเจ้าเหล่านั้น ได้แก่ ศาลเจ้าหมายเลข 1 ศาลเจ้าวากะมิยะ ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมสำคัญที่ขึ้นชื่อในเรื่องเทศกาลเต้นรำ เป็นสถานที่ในการจัดงานเทศกาลที่เหมาะกับการชมศิลปะการแสดงแบบดั้งเดิม และยังเป็นศาลเจ้าที่ช่วยในเรื่องส่งเสริมสติปัญญาอีกด้วย
ส่วนศาลเจ้าหมายเลข 6 ศาลเจ้านาตากะและศาลเจ้าคัตสึรางิ มีเทพเจ้าแห่งการเติมเต็มความปรารถนา (คําอธิษฐานเดียว) ให้เป็นจริง และศาลเจ้าหมายเลขที่ 15 ศาลเจ้าเมโอโตะไดโกคุชะ ซึ่งมีเทพเจ้าแห่งความสามัคคีในชีวิตสมรส ความสัมพันธ์อันดี และช่วยนำความโชคดีมาให้
พบเห็นกวางได้ทุกแห่งหนในศาลเจ้า
ตามตำนานในสมัยนาราเทพเจ้าขี่กวางขาวมาที่นี่ ดังนั้นกวางจึงได้รับการปฏิบัติด้วยความระมัดระวังในฐานะสหายของเทพเจ้า และผู้ส่งสารของเทพเจ้าชินโตที่สถิตในศาลเจ้าและภูเขาโดยรอบนั่นเอง สำหรับเส้นทางเดินไปยังศาลเจ้าคะซุงะไทชะจะผ่านสวนสาธารณะนาราที่มีกวางอาศัยอยู่ราวๆ 1,300 ตัว ผู้คนจากทั่วโลกที่สนใจกวางในนารามักจะมาเยือนที่นี่
พิพิธภัณฑ์ Kasuga Taisha
อาคารสมัยใหม่ใกล้กับศาลเจ้าหลัก เป็นบ้านสมบัติแห่งนี้มีสิ่งประดิษฐ์ที่สวยงาม เช่น กล่องแล็กเกอร์มากิเอะที่ฝังด้วยทองคํา ดาบหายาก ชุดเกราะซามูไร และงานศิลปะ ซึ่งภายในอาคารเป็นห้องโถงสมบัติที่มีโบราณวัตถุประมาณ 3,000 ชิ้น รวมถึงสมบัติของชาติและทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สําคัญ 520 ชิ้น ต้องเสียค่าเข้าชมพิเศษ 500 เยน
สวนพฤกษศาสตร์ Kasuga Taisha Shinen Manyo
สวนพฤกษศาสตร์ที่มีขนาดประมาณ 3 เฮกตาร์ (9,000 สึโบะ) มีการจัดแสดงพืชประมาณ 300 ชนิดที่บรรยายไว้ใน Manyoshu เป็นกวีนิพนธ์ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งมีอายุย้อนไปถึงสมัยนารา พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นต้นวิสทีเรียที่เติบโตขึ้นทั่วบริเวณวัดมาเป็นเวลานาน และดอกวิสทีเรียก็มีความเชื่อโยงกับตระกูลฟูจิวาระ ทำให้ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของดอกวิสทีเรียซึ่งจะบานสะพรั่งแต่งแต้มสีสันให้ศาลเจ้าแห่งนี้ ช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมเป็นประจำทุกปี โดยทุกวันนี้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ผ่อนคลายในการรื่นรมย์ชมดอกไม้ของเหล่านักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศ
คาเฟ่ Kasuga Ninai Jyaya
ในศาลเจ้ามีพื้นที่ของคาเฟ่ให้นั่งรื่นรมย์ชมทัศนียภาพอันงดงามของธรรมชาติด้วยนะ โดยเมนูที่ถูกนำมาเสิร์ฟนั้นราวกับว่าจะได้ทําความสะอาดตัวเองผ่านการรับประทานอาหารที่ปรุงด้วยไฟสะอาดก่อนเข้าศาสนสถาน ดังนั้นหากดูแบบลงรายละเอียดจะพบกับสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นที่สวยงามของโครงสร้าง และเมนูอาหารสุดพิเศษที่มีมาตั้งแต่เปิดให้บริการ โดยเมนูแนะนำก็คือเมนูข้าวต้มที่มีส่วนผสมของน้ำซุปดาชิและสาหร่ายคอมบุจากฮอกไกโด รวมทั้งมิโซะขาวในท้องถิ่นนี้ รวมถึงผักที่มีมากมายในแต่ละฤดูกาล นอกจากนั้นก็มีเมนูขนมหวาน น้ำชา และเมนูอื่นๆ ไว้บริการด้วย
ศาลเจ้าคะซุงะ (Kasuga Taisha)
ที่อยู่ | 160 Kasuganocho, Nara, 630-8212 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Yamatoji Line ลง สถานี nara นั่งรถบัสอีกประมาณ 15 นาที (Kasuga Taisha Honden) |
เวลาทำการ | เดือนเมษายน – กันยายน 6.00 – 18.00 น., เดือนสิงหาคม – มีนาคม 6.30 – 17.00 น. |
ราคา | ค่าเข้าชมศาลเจ้าหลัก 500 เยน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง |
Website | Kasuga Taisha |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
ในบริเวณรอบๆ ศาลเจ้าสามารถเดินเท้าไปยังสวนสาธารณะที่เป็นหัวใจของจังหวัดนาราได้เพียงไม่กี่นาที สามารถสัมผัสวัฒนธรรมความเป็นเมืองนารา เมืองหลวงเก่าได้อย่างใกล้ชิด แล้วจะพบได้ว่านารา เป็นอีกจังหวัดที่มีเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าหลงใหลมากมาย เป็นอีกจังหวัดที่เหมาะกับการไปเยือน
ศาลาอุคิมิโดแห่งสวนสาธารณะนารา (Ukimido)
ศาลาอุคิมิโด คือศาลาหกเหลี่ยมที่มีหลังคามุงจากไม้สนไซเปรสตั้งอยู่กลางสระน้ำซากิอิเกะภายในสวนสาธารณะนารา เป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนของชาวเมืองและนักท่องเที่ยว นอกจากจะมาเพื่อชมทิวทัศน์อันงดงามของสวนกันแบบ 360 องศาแล้ว ยังสามารถทำความรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในเมืองนาราที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้อีกด้วย ไฮไลท์ของที่นี่คือภาพของศาลาที่มีรูปทรงเรขาคณิตสะท้อนกับผิวน้ำในสระออกมาเป็นทัศนียภาพที่สวยงามเกินบรรยาย
ศาลาอุคิมิโดแห่งสวนสาธารณะนารา (Ukimido)
ที่อยู่ | Takabatakecho, Nara, 630-8301 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Kintetsu Nara เดิน 5 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Ukimido |
วัดโทไดจิ นิกัตสึโดะ (Todai-ji Nigatsu-dō Temple)
วัดโทไดจิ เป็นวัดที่ห้ามพลาดเลยก็ว่าได้เมื่อคุณมีโอกาสมาเยือนที่จังหวัดนารา ในความหมายของชื่อวัดนั้นแปลตรงตัวว่า “มหาวิหารตะวันออก” โดยที่นี่เป็นวัดเก่าแก่ มีประวัติยาวนาน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเช่นกัน โดยหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่สําคัญคือวัดโทไดจิ นิกัตสึโดะ เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระใหญ่อยู่บนเนินของภูเขาวากะคุสะ เป็นสถานที่ในการจัดพิธีกรรมสำคัญต่างๆ มาตั้งแต่สมัยโบราณกาล โดยเฉพาะพิธีกรรมชูนิเอะจะจัดขึ้นในเดือนที่สองของปฏิทินจันทรคติ และที่นี่ก็เป็นสมบัติของชาติที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบันอีกด้วย
วัดโทไดจิ นิกัตสึโดะ (Todai-ji Nigatsu-do Temple)
ที่อยู่ | 406-1 Zoshicho, Nara, 630-8211 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Kintetsu Nara เดิน 22 นาที |
เวลาทำการ | 24 ชั่วโมง |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Todai-ji Nigatsu-dō Templehttp://www.todaiji.or.jp/information/nigatsudo/ |
วัดฮันยาจิ (Hannyaji Temple)
ตํานานเล่าว่าอาคารวัดถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิโชมุในปี 735 นอกจากประตูโรมอนซึ่งเป็นสมบัติแห่งชาติที่ส่งต่อรูปแบบสถาปัตยกรรมมาจากยุคคามาคุระแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของเจดีย์ 13 ชั้นที่สร้างขึ้นในยุคเดียวกันด้วย ตัวเจดีย์อันมีเอกลักษณ์โดดเด่นตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางบริเวณวัด และวัดแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงในด้านดอกไม้ต่างๆ ตั้งแต่ดอกคอสมอสและไฮเดรนเยียในช่วงฤดูร้อน ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่นี่ก็เป็นสถานที่ชมดอกไม้เปลี่ยนสียอดนิยมด้วยเช่นกัน
วัดฮันยาจิ (Hannyaji Temple)
ที่อยู่ | 221, Hannyajicho, Nara-shi, Nara 630-8102 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสมาลงที่ป้ายรถบัส Hannyaji จากนั้นเดินต่ออีก 5 นาที |
เวลาทำการ | 9.00 – 17.00 น. |
ราคา | ค่าเข้าชมศาลเจ้าหลัก 500 เยน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง |
Website | Hannyaji Temple |
สรุป
ศาลเจ้าคะซุงะไทฉะตั้งอยู่ในสวนสาธารณะนาราอันน่าหลงใหล เป็นตัวอย่างที่น่าทึ่งของสถาปัตยกรรมชินโตโบราณของญี่ปุ่นและเป็นหนึ่งในสถานที่ทางจิตวิญญาณที่สําคัญที่สุดในภูมิภาค อีกทั้งยังเป็นสถานที่สักการะและเป็นผู้พิทักษ์เมืองนารามานานหลายศตวรรษ และสิ่งที่ทําให้ที่นี่มีเสน่ห์อย่างแท้จริงคือโคมไฟนับพันที่ประดับประดาอาคารและทางเดิน โคมไฟทองสัมฤทธิ์และหินเหล่านี้บริจาคโดยผู้บูชาและจุดไฟในช่วงเทศกาลโคมไฟในเดือนกุมภาพันธ์และสิงหาคม เพื่อสร้างบรรยากาศมหัศจรรย์คอยส่องสว่างให้แก่ป่าโบราณรอบศาลเจ้าให้ดูลึกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธา