บทความ PR

เดินทางท่องเที่ยวชมดอกไม้ในแถบเมืองโอซาก้า! สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในเมืองนารา มิเอะ โอซาก้า และเกียวโต

04/02/2025 (อัพเดทเมื่อ 28/03/2025)
ในประเทศญี่ปุ่น จะมีดอกไม้ผลิบานอยู่ในทุกฤดูกาล หลายๆ คนถึงแม้จะมีดอกไม้ที่ชอบ แต่ก็ไม่รู้ว่าดอกไม้จะบานเมื่อไหร่และสามารถไปดูได้ที่ไหนบ้าง
ครั้งนี้เราเลยมาแนะนำสถานที่ และช่วงเวลาที่ดอกไม้ต่างๆ เริ่มผลิบาน ตั้งแต่ฤดูไม้ผลิไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วง ในแถบเมืองโอซาก้า
เมื่อคุณได้อ่านบทความนี้แล้ว คุณจะรู้ได้ทันทีว่าต้องไปท่องเที่ยวที่ไหนและเมื่อไหร่ เราอยากให้คุณอ่านบทความนี้ให้จบและใช้เป็นไอเดียในการวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวของคุณกันดูนะคะ
Meiji Amino Collagen LP R1
Contents Index
  1. 1 บัตรโดยสารรถไฟสุดคุ้ม
  2. 2 ดอกบ๊วย ( กุมภาพันธ์ – มีนาคม )
    1. 2.1 ศาลเจ้า Jonangu Shrine ( เกียวโต )
    2. 2.2 ศาลเจ้า Yuki Shrine (มิเอะ)
    3. 2.3 Suzuka Forest Garden (มิเอะ)
    4. 2.4 Nabana no Sato (มิเอะ)
    5. 2.5 Nabana no Sato (มิเอะ)
  3. 3 ชิบะซากุระ Shiba-sakura (เมษายน – พฤษภาคม)
    1. 3.1 Hana no Sato Takidani Iris Garden (นารา)
  4. 4 ดอกวิสทีเรีย (ปลายเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคม)
    1. 4.1 วัด Fujii-dera (โอซาก้า)
    2. 4.2 สวนพฤกษศาสตร์ Kasuga Taisha Manyo Botanical Garden (นารา)
  5. 5 ดอกอาซาเลีย (กลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม)
    1. 5.1 Katsuragi-kogen (นารา)
  6. 6 ดอกโบตั๋น (เดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม)
    1. 6.1 วัด Hasedera Temple (นารา)
  7. 7 ดอกโรโดเดนดรอน (Rhododendron) กลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม
    1. 7.1 วัด Okadera Temple (นารา)
  8. 8 ดอกไฮเดรนเยีย ( เดือนมิถุนายน – เดือนกรกฎาคม)
    1. 8.1 วัด Hasedera Temple (นารา)
    2. 8.2 Kazahaya no Sato (มิเอะ)
  9. 9 ดอกลาเวนเดอร์ ปลายเดือนมิถุนายน – เดือนกรกฎาคม
    1. 9.1 Menard Aoyama Resort (มิเอะ)
  10. 10 ดอกดาเลีย เดือนมิถุนายน – เดือนกรกฎาคม
    1. 10.1 สวนสาธารณะ Umami-kyuryo Park (นารา)
  11. 11 ดอกทานตะวัน (ปลายเดือนกรกฎาคม – กลางเดือนสิงหาคม)
    1. 11.1 สวนสาธารณะ Umami-kyuryo Park (นารา)
  12. 12 ดอกคอสมอส (ปลายเดือนกันยายน – ต้นเดือนพฤศจิกายน)
    1. 12.1 16. ซากปราสาทฟูจิวาระ (นารา)
    2. 12.2 Nabana no Sato (มิเอะ)
  13. 13 ดอกกุหลาบ (ฤดูใบไม่ร่วง) ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน
    1. 13.1 สวนดอกกุหลาบ Jingu Rose Garden (มิเอะ)
    2. 13.2 Red Hill Forest of Hisa (มิเอะ)
  14. 14 ดอกหญ้าสึสึกิ (กลางเดือนกันยายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน)
    1. 14.1 20. Soni Kougen (นารา)
  15. 15 สรุป

แผนที่แนะนำจุดชมดอกไม้ตามเส้นทางรถไฟคินเท็ตสึ

ดูพิกัดแผนที่จุดชมดอกไม้และช่วงเวลาที่เหมาะจะไปชมได้จาก List แผนที่จาก Google My Map นี้เลยค่ะ : https://www.google.com/maps/d/edit?mid=1zGKCz3rrLrgiGIHsMK8cWgBKexTzqcs&usp=sharing

บัตรโดยสารรถไฟสุดคุ้ม

รถไฟ Kintetsu Line มีบัตรโดยสารรถไฟชั้นเยี่ยม มาใช้บัตรเหล่านี้ให้คุ้มและสนุกกับการท่องเที่ยวคันไซ!

คลิกลิงก์แบนเนอร์ด้านล่างเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม !

ดอกบ๊วย ( กุมภาพันธ์ – มีนาคม )

ช่วงเวลาที่ดอกบ๊วยจะบานนั้น จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละปี แต่ในภูมิภาคคันไซนั้น จะบานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนมีนาคม ต่อไปเป็นสถานที่ชมดอกบ๊วยที่แนะนำค่ะ

 ศาลเจ้า Jonangu Shrine ( เกียวโต )

ศาลเจ้าโจนันกุ (Jonangu Shirne) เป็นจุดชมดอกบ๊วยชิดาเระ (Shidare Ume) ที่สวยงามและได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดของเกียวโต

ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงปลายเดือนมีนาคม มีการจัดงานเทศกาล ดอกบ๊วยชิดาเระและดอกคามิเลีย ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกบ๊วยกำลังบานเต็มที่

ดอกบ๊วยชิดาเระกว่า 150 ต้นที่เบ่งบานพร้อมกันนั้น ทำให้นักท่องเที่ยวต้องตกตะลึงในความสวย งามของดอกไม้ นอกจากนี้ยังมีบรรยากาศที่ตัดกันระหว่างดอกคามิเลียที่กำลังร่วงหล่นและดอกบ๊วยที่กำลังบานเต็มที่ เป็นสเน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย และในช่วงเวลาไม่กี่วัน ที่ดอกบ๊วยกำลังจะร่วงโรย คุณยังสามารถชมความสวยงามของพรมดอกไม้ที่เกิดจากดอกไม้ร่วงหล่นปกคลุมพื้นดินได้อีกด้วย

ศาลเจ้า Jonangu Shrine ( เกียวโต )

ที่อยู่7 Nakajimatobarikyucho, Fushimi, Kyoto
เวลาเข้าชม09.00 – 16.30 น. ( ปิดรับ เวลา 16.00 น.)
ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ ( เด็กชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นขึ้นไป) 1000 เยน
เด็กชั้นประถมศึกษา 600 เยน
วิธีเดินทางเดิน 15 นาทีจากทางออกหมายเลข 6  สถานีรถไฟ Kintetsu Takeda Station
Official websiteศาลเจ้า Jonangu Shrine ( เกียวโต )
อื่นๆเทศกาล ดอกบ๊วยชิดาเระและดอกคามิเลีย
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ – 22 มีนาคม ค.ศ.2025

ดูแผนที่ ศาลเจ้า Jonangu Shrine ( เกียวโต )

ศาลเจ้า Yuki Shrine (มิเอะ)

ศาลเจ้ายูกิ (Yuki Shrine) ในเมืองสึ จังหวัดมิเอะ มีต้นบ๊วยชิดาเระอุเมะมากถึง 300 ต้น และต้นบ๊วยอื่น ๆ อีกประมาณ 80 ต้น รวมมากกว่า 10 สายพันธุ์ ปลูกไว้ทั่วบริเวณ

โดยปกติแล้ว ดอกบ๊วยจะเริ่มบานเต็มที่ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงกลางเดือนมีนาคม และช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการชมดอกบ๊วยชิดาเระอุมะคือ ช่วงกลางเดือนมีนาคม ที่ดอกบ๊วยจะบานสะพรั่งไปทั้งสวน

ในช่วงที่ดอกบ๊วยบานเต็มที่ มักจะมีนกเมจิโระหรือนกแว่นตาขาว บินมาอยู่ที่บริเวณสวนดอกบ๊วยแห่งนี้ สร้างภาพความสวยงามของธรรมชาติที่ผสมผสานได้อย่างลงตัว

ศาลเจ้า Yuki Shrine (มิเอะ)

ที่อยู่2341 Fujikata, Tsu, Mie  514-0815
ช่วงเวลากำหนดการ กลางเดือนกุมภาพันธ์
เวลาเข้าชมเวลา 09.00 – 16.00 น. ( ให้เข้าชมรอบสุดท้ายก่อนเวลาสวนปิด 30 นาที)
※เวลาสวนปิดคือ เวลา 17.00 น. ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและจำนวนคนเข้าชม
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 800 เยน
 เด็กประถม – มัธยมต้น  400 เยน
วิธีเดินทางนั่งรถบัส Sanko Bus สายมุ่งหน้าไป Yonezu, Tenpaku หรือ Sun valley
จากสถานี Tsu ของ Kintetsu Line แล้วลงรถที่ Yuki Jinja-mae  ใช้เวลา 14 นาที 
Websiteศาลเจ้า Yuki Shrine (มิเอะ) (Mie Prefecture Tourism Federation)

ดูแผนที่ ศาลเจ้า Yuki Shrine (มิเอะ)

Suzuka Forest Garden (มิเอะ)

สวนซูซูกะโนะโมริ (Suzuka Forest Garden) ในเมืองซูซูกะ จังหวัดมิเอะ เป็นสถานที่ที่คุณสามารถชมดอกบ๊วยชิดาเระอุเมะ ซึ่งถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น

สวนแห่งนี้มีต้นบ๊วยประมาณ 200 ต้น รวมมากกว่า 30 สายพันธุ์ โดยเฉพาะ ชิดาเระอุเมะที่มีอายุมากกว่า 100 ปี สูงตระหง่านอยู่ใกล้ทางเข้าสวน เป็นจุดที่ดึงดูดสายตาของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น จึงทำให้ดอกบ๊วยจึงบานช้ากว่าที่อื่นเล็กน้อย 

นอกจากนี้ ในช่วงที่ดอกบ๊วยบานสะพรั่ง ยังมีการจัดแสดงประดับไฟในเวลากลางคืน ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับความงดงามและบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกที่แตกต่างจากช่วงเวลากลางวันอีกด้วย

Suzuka Forest Garden (มิเอะ)

ที่อยู่151-2 Yamamotocho, Suzuka, Mie 519-0315
ช่วงเวลาเปิดสวนกำหนดการ วันเสาร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์ – ปลายเดือน มีนาคม ค.ศ.2025
เวลาเปิดสวน 09.00 – 16.00 น.
ในช่วงที่มีการประดับไฟกลางคืน จะขยายเวลาไปจนถึง 20.30 น.
เวลาสุดท้ายในการเข้าชมคือ 30 นาทีก่อนเวลาปิดทำการ
ค่าเข้าชมปกติ 700 – 1,800 เยน
เด็กประถม ครึ่งราคา
เด็กเล็กที่ยังไม่ได้เข้าเรียน ฟรี
*ค่าเข้าชมจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับช่วงเวลาการบานของดอกไม้
วิธีเดินทางเดินทางโดยแท็กซี่ 40 นาทีจาก สถานีรถไฟ Kintetsu-Yokkaichi Station
ในช่วงเวลาสวนเปิด จะมีรถรับ-ส่งตามเวลาจากสถานีรถไฟ Kintetsu-Yokkaichi Station
Official websiteSuzuka Forest Garden (มิเอะ)

ดูแผนที่ Suzuka Forest Garden (มิเอะ)

Nabana no Sato (มิเอะ)

สวนดอกไม้นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato)  มีต้นบ๊วยแดงและบ๊วยขาวอยู่ราว 150 ต้น และมีต้นบ๊วยชิดาเระอุเมะ อีกมากกว่า 330 ต้น โดยส่วนใหญ่แล้วต้นบ๊วยชิดาเระอุมะจะมีอายุราว 40 – 50 ปี แต่ก็มีต้นไม้เก่าแก่ที่มีอายุมากถึง 140 ปี อยู่ภายในสวนดอกไม้แห่งนี้ นอกจากจะมีบรรยากาศที่สวยงามแล้ว ยังมีกลิ่นหอมชวนหลงใหลของดอกบ๊วยฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งสวน และที่สวนแห่งนี้ก็จัดงานประดับไฟให้ได้ชมความงดงามกันในเวลากลางคืนอีกด้วย

Nabana no Sato (มิเอะ)

Nabana no Sato (มิเอะ)

ที่อยู่270 Urushibata Nagashimacho Komae, Kuwana, Mie
วิธีเดินทางช่วงเวลาประมาณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ –  20 มีนาคม
เวลาทำการ10.00 – 22.00 น.
ปิดให้เข้าชมสวน ก่อนเวลาปิดทำการ 30 นาที
ค่าเข้าชม2,500 เยน ( รวมคูปองมูลค่า 1,000 เยน)
เด็กต่ำกว่าประถมศึกษา เข้าชมฟรี
วิธีเดินทางนั่งรถบัส 10 นาที จากสถานีรถไฟ Kintetsu-Nagashima Station
Official websiteNabana no Sato (มิเอะ)

ดูแผนที่ Nabana no Sato (มิเอะ)

ชิบะซากุระ  Shiba-sakura (เมษายน – พฤษภาคม)

ชิบะซากุระ เป็นดอกไม้ที่แผ่กว้างออกไปเหมือนผืนแผ่นดิน และมีดอกลักษณะคล้ายกับดอกซากุระ ช่วงเวลาดอกไม้บานจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่ อยู่ในช่วงต้นเดือนเมษายนไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม

Hana no Sato Takidani Iris Garden (นารา)

สวนดอกไม้ ฮานะ โนะ ซาโตะ Takidani Iris Garden ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านบนภูเขาที่เงียบสงบทางภาคตะวันออกของจังหวัดนารา  เป็นจุดชมดอกชิบะซากุระที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง
ในสวนแห่งนี้มีดอกชิบะซากุระทั้งสีม่วง สีชมพู และสีขาวปลูกอยู่เต็มพื้นที่ เมื่อถึงฤดูที่ดอกไม้บานเต็มที่ ดอกไม้จะบานสะพรั่งเต็มพื้นที่ราวกับเป็นพรมดอกไม้ที่สวยงาม

Hana no Sato Takidani Iris Garden (นารา)

ที่อยู่348  Muroutakidani, Uda, Nara  633-0313
ช่วงเวลาดอกไม้บานปลายเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม
เวลา09.00 – 16.00 น.
ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 1,000 เยน
เด็ก (ชั้นประถมศึกษาขึ้นไป) 500 เยน
วิธีเดินทางลงรถไฟสาย Kintetsu Osaka ที่สถานี Sanbonmatsu Station  
และ ขึ้นรถบัสบริเวณหน้าสถานี  นั่งรถบัสสายมุ่งหน้าไป Takidani Hana shoubu-en ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
Official WebsiteHana no Sato Takidani Iris Garden (นารา)

ดูแผนที่ Hana no Sato Takidani Iris Garden (นารา)

ดอกวิสทีเรีย (ปลายเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคม)

ดอกวิสทีเรียหรือดอกฟูจิ เป็นดอกไม้พื้นเมืองของประเทศญี่ปุ่น  ช่วงเวลาชมดอกวิสทีเรียจะอยู่ในช่วงปลายเดือนเมษายนไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ดอกสีชมพู สีม่วง สีขาว และสีเหลือง จะค่อยๆเบ่งบานตามกันไป สร้างเป็นทัศนียภาพที่สวยงามคุ้มค่าแก่การไปเยี่ยมชม

วัด Fujii-dera (โอซาก้า)

วัดฟุจิอิ (Fujii-dera) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงจากพระพุทธรูปพันมือ “Honzon Senjyu Kannon ” ซึ่งเป็นสมบัติประจำชาติที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นสถานที่ชมดอกวิสทีเรียที่มีชื่อเสียงอีกด้วย
ในทุกๆ ปีช่วงกลางเดือนเมษายน จะมีการจัดงานเทศกาลดอกวิสทีเรีย (Wisteria Festival)
ในช่วงเทศกาลนี้ จะใช้ประตูทางทิศใต้(นันไดมง) เป็นประตูหลัก และเมื่อเดินผ่านประตูเข้ามาก็จะพบกับม่านดอกวิสทีเรียที่ห้อยสวยงามอยู่ตรงหน้า มีทั้งดอกสีขาวและสีม่วง ที่กำลังบานสะพรั่ง
นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลยังมีการจัดแสดงประดับไฟในเวลากลางคืน หากมีโอกาสตรงกับช่วงเวลานี้และล่ะก็ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ

Fujii-dera (โอซาก้า)

ที่อยู่1-16-21 Fujii-dera, Osaka 583-0024
ช่วงเทศกาลดอกฟูจิ
(Wisteria Festival)
ช่วงตั้งแต่ วันที่ 19 เมษายน เป็นต้นไป
เวลาเข้าชม08.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม300 เยน
วิธีเดินทางเดิน 3 นาที จากสถานีรถไฟ Fujii-dera Station 
สาย Kintetsu Minami-Osaka
InstagramFujii-dera (โอซาก้า)

ดูแผนที่ Fujii-dera (โอซาก้า)

iframe src=”https://www.google.com/maps/embed?pb=!1m18!1m12!1m3!1d3285.343884222803!2d135.5940288762049!3d34.570164272966366!2m3!1f0!2f0!3f0!3m2!1i1024!2i768!4f13.1!3m3!1m2!1s0x6000d874635657fd%3A0x6b1062824c812634!2z44CSNTgzLTAwMjQg5aSn6Ziq5bqc6Jek5LqV5a-65biC6Jek5LqV5a-677yR5LiB55uu77yR77yW4oiS77yS77yR!5e0!3m2!1sja!2sjp!4v1733322258631!5m2!1sja!2sjp” width=”600″ height=”450″ style=”border:0;” allowfullscreen=”” loading=”lazy” referrerpolicy=”no-referrer-when-downgrade”>

สวนพฤกษศาสตร์ Kasuga Taisha Manyo Botanical Garden (นารา)

สวนพฤกษศาสตร์มันโยแห่งศาลเจ้าคาสุกะ (Kasuga Taisha Manyo Botanical Garden) อยู่ในเมืองนารา มีการปลูกต้นวิสทีเรียกว่า 20 สายพันธุ์ มากกว่า 200 ต้น
มีทั้งสายพันธุ์หายากหลากหลายสีสัน ทั้งสีขาว สีชมพู และสีอื่น ๆ ให้ได้เพลิดเพลินไปกับความงดงามที่หลากหลาย

ความพิเศษของสวนแห่งนี้คือ การจัดวางต้นวิสทีเรียไม่ได้เป็นซุ้มแบบทั่วๆไป ทำให้สามารถชมดอกไม้ได้ในระดับสายตาโดยไม่ต้องเงยหน้ามอง
บางสายพันธุ์มีช่อดอกลงมายาวเกือบถึงพื้น ทำให้สามารถถ่ายรูปกับม่านดอกวิสทีเรียที่ห้อยอยู่ได้อีกด้วย

สวนพฤกษศาสตร์ Kasuga Taisha Manyo Botanical Garden (นารา)

ที่อยู่160 Kasuganocho, Nara 630-8212
ช่วงเวลาช่วงกลางเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม
เวลาทำการ09.00 – 16.00 น. (เข้าสวนได้ถึงเวลา 16.00 น.)
ราคาผู้ใหญ่ 500 เยน
 เด็ก 200 เยน
วิธีเดินทางจากสถานีรถไฟ Kintetsu Nara Station นั่งรถบัสสายที่มุ่งหน้าไป 
Kasuga Taisha Honden ลงรถที่ป้าย  Kasuga Taisha Honden
เช่นเดียวกัน จากนั้นเดินไปตามถนน Omotesando ไปทางทิศตะวันตก
อีกประมาณ 3 นาที
Websiteสวนพฤกษศาสตร์ Kasuga Taisha Manyo Botanical Garden (นารา)

ดูแผนที่ สวนพฤกษศาสตร์ Kasuga Taisha Manyo Botanical Garden (นารา)

ดอกอาซาเลีย (กลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม)

ดอกอาซาเลียในแต่ละพื้นที่จะมีความแตกต่างกัน  เช่น ดอกสีขาวชมพูและสีม่วง จะบานในช่วง กลางเดือนเมษายน ไปจนถึงเดือนกลางพฤษภาคม

ต่อไปเราจะขอแนะนำสถานที่ที่มีดอกอาซาเลียบานสะพรั่งเต็มภูเขา เหมือนเป็นพรมที่เกิดจากดอกไม้กันค่ะ

Katsuragi-kogen (นารา)

ที่ราบสูงคัตสึระกิ (Katsuragi Kogen) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของภูเขาคองโก (Mount Kongo) สามารถมาชมดอกอาซาเลียหรือดอกซึซึจิ ได้ตั้งแต่ช่วงต้นถึงกลางเดือนพฤษภาคม

เมื่อขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไปยังยอดเขา จะได้พบกับวิวพาโนรามาแบบ 360 องศา
ที่ที่ราบสูงคัตสึระกินี้จะมีดอกสายพันธุ์ยามะซึซึจิ (Yamatsutsuji) เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีดอกซึซึจิสายพันธุ์อื่นๆ อีกหลากหลายสายพันธุ์ เบ่งบานในที่บริเวณที่ราบสูงแห่งนี้

ดอกไม้สีแดงและสีชมพูเข้มที่บานสะพรั่งไปทั่วทั้งภูเขาเป็นภาพที่สวยสดและงดงาม
เราขอแนะนำให้ลองชมทัศนียภาพที่สวยงามแห่งนี้จากมุมสูงกันดูนะคะ

Katsuragi-kogen (นารา)

ที่อยู่639-2312 Kushira, Gose City
ช่วงเวลาดอกไม้บานช่วงประมาณต้นเดือน-กลางเดือนพฤษภาคม
เวลาทำการของกระเช้าลอยฟ้า9:10 – 17:00 น.
ค่าขึ้นกระเช้าลอยฟ้าผู้ใหญ่ 1,500 เยน (ไป-กลับ)
เด็ก 750 เยน (ไป-กลับ)
วิธีเดินทางจากสถานีรถไฟ Kintetsu-Gose station นั่งรถบัสสายมุ่งหน้าไป Katsuragi Ropeway ลงที่ป้ายรถบัสชื่อ Tozan-guchi แล้วนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขา

ดูแผนที่ Katsuragi-kogen (นารา)

ดอกโบตั๋น (เดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม)

ดอกโบตั๋นมีลักษณะเด่นคือ เป็นดอกไม้ขนาดใหญ่ ดูหรูหราสวยงาม ดอกจะบานในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม มีหลากหลายสี เช่น สีขาว สีชมพู และสีแดง

วัด Hasedera Temple (นารา)

เมื่อพูดถึงวัดฮาเซเดระ ในจังหวัดนาราแล้วละก็ จะต้องพูดถึงดอกโบตั๋น ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก  ต้นโบตั๋นของวัดฮาเซเดระแห่งนี้ ได้รับสืบทอดมาจากต้นไม้ของพระมเหสีมะโทฟุจิน จากประเทศจีน ซึ่งสืบทอดกันมามากกว่า 1000 ปี ที่วัดแห่งนี้มีต้นโบตั๋นมากกว่า 150 สายพันธุ์ รวมมากกว่า 7000 ต้น
ทัศนียภาพทิวทัศน์ของดอกโบตั๋นหลากสีบานสะพรั่งไปทั่วบริเวณวัดเป็นเกิดเป็นภาพที่สวยงาม

วัด Hasedera Temple (นารา)

ที่อยู่731-1 Hase, Sakurai, Nara 633-0112
ช่วงเวลาดอกไม้บานช่วงกลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม
เวลาเข้าชม07.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ (นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป) 500 เยน
เด็กชั้นประถมศึกษา 250 เยน
วิธีเดินทางเดิน 15 นาที จากสถานีรถไฟ Hasedera Station บนสาย Kintetsu-Osaka Line
Official websiteวัด Hasedera Temple (นารา)

ดูแผนที่ วัด Hasedera Temple (นารา)

ดอกโรโดเดนดรอน (Rhododendron) กลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม

ดอกโดโรเดนดรอนนี้ มีลักษณะเด่นอยู่ที่ มีดอกช่อใหญ่  ดอกจะบานในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม มีหลากหลายสีสัน เช่น สีขาว และสีแดง


วัด Okadera Temple (นารา)

ภายในวัดโอกะเดระแห่งนี้ มีต้นดอกโรโดเดนดรอนอยู่มากกว่า 3,000 ต้น ดอกไม้จะบานในช่วงเดือนเมษายนไปจนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี ให้สีชมพูสวยสดประดับอยู่ทั่วบริเวณของวัด โดยเฉพาะตรงบริเวณ ถนน Shakunage ที่อยู่ด้านใน มีต้นดอกโรโดเดนดรอนที่ประดับอยู่บนเดินเขาทั้งสองข้างทาง นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินไปสักการะวัดตามเส้นทางที่ถูกโอบล้อมไปด้วยดอกโรโดเดนดรอนที่บานสะพรั่งได้อย่างเพลิดเพลิน

วัด Okadera Temple (นารา)

ที่อยู่806 Oka, Asukamura, Takaichi, Nara 634-0111
ช่วงเวลาดอกไม้บานช่วงกลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม
เวลาเข้าชม08.30 – 17.00 น.
ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ (ระดับมหาวิทยาลัยขึ้นไป) 400 เยน
เด็กชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 300 เยน
เด็กชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 200 เยน
วิธีเดินทางนั่งรถบัส Asuka Tour Bus จากสถานีรถไฟ Kashiharajingu-Mae Station
หรือ Asuka Station ลงรถที่ Okatera-mae แล้วเดินต่อไปอีก 10 นาที
Official websiteวัด Okadera Temple (นารา)

ดูแผนที่ วัด Okadera Temple (นารา)

ดอกไฮเดรนเยีย ( เดือนมิถุนายน – เดือนกรกฎาคม)

ดอกไฮเดรนเยีย หรือ ดอกอาจิไซ ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก มีต้นกำเนิดมาจากพันธ์พื้นเมืองของญี่ปุ่น คือ กาคุอาจิไซ และได้ผ่านการปรับปรุงสายพันธุ์ให้หลากหลายมากขึ้น ดอกไฮเดรนเยียมีมากมายหลากหลายสายพันธุ์และมีสีสันที่สวยงาม

ต่อไปเราลองมาดูสถานที่ชมดอกไฮเดรนเยียแนะนำใกล้เมืองโอซาก้ากันค่ะ

วัด Hasedera Temple (นารา)

ที่วัดฮาเซเดระ แห่งนี้นอกจากดอกโบตั๋นแล้วยังมีชื่อเสียงในเรื่องดอกไฮเดรนเยียอีกด้วย

ในวัดแห่งนี้มีต้นดอกไฮเดรนเยียอยู่มากกว่า 3,000 ต้น และจะบานพร้อมๆ กันในช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกรกฎาคม ในระหว่างทางเดินไปฮงโดหรืออุโบสถหลักของวัด จะมีดอกไฮเดรนเยียหลากหลายสีสันประดับไว้เต็มสองข้างทาง

วัด Hasedera Temple (นารา)

ที่อยู่633-0112 731-1 Hatsuse, Sakurai City, Nara Prefecture
ช่วงเวลาดอกไม้บานกลางเดือนมิถุนายน – กลางเดือนกรกฎาคม
เวลาเข้าชม9:00-18:00 น
ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ (นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป)500 เยน
เด็กชั้นประถมศึกษา 250 เยน
วิธีเดินทางเดิน 15 นาที จากสถานีรถไฟ Hasedera Station
บนสาย Kintetsu-Osaka Line
Websiteวัด Hasedera Temple (นารา)

ดูแผนที่ วัด Hasedera Temple (นารา)

Kazahaya no Sato (มิเอะ)

สวนดอกไม้ คาซาฮายะ โนะ ซาโตะ (Kazahaya no Sato) ในเมืองสึ จังหวัดมิเอะ ปลูกดอกไฮเดรนเยียจำนวนมากถึง 77,700 ต้น รวมทั้งหมด 45 สายพันธุ์ บนพื้นที่เนินเขา 33,000 ตารางเมตร

จากจุดชมวิวในสวนสามารถมองเห็นพื้นที่ได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของสวนทั้งหมด เป็นภาพที่สวยงามมากจนอาจจะทำให้คุณต้องร้องอุทานออกมาเลยทีเดียว

ความสวยงามของการจัดวางต้นไม้โดยใช้ประโยชน์จากธรรมชาติเข้ามาผสมผสาน จนได้รับการยกย่องว่าเป็น สวนดอกไฮเดรนเยียที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

นอกจากนี้ ยังมีดอกไฮเดรนเยียสายพันธุ์หายากที่หาชมไม่ได้จากที่อื่นอีกด้วย

Kazahaya no Sato (มิเอะ)

ที่อยู่Chome-21 Takanawa, Minato City, Tokyo 108-0074
ช่วงเวลาดอกไม้บานต้นเดือนมิถุนายน – กลางเดือนกรกฎาคม
เวลาเข้าชม08.00 – 18.30 น.
ค่าเข้าชมนักศึกษามหาวิทยาลัยขึ้นไป 800 เยน
วิธีการเดินทางมีรถ Shuttle bus รับ-ส่ง จากสถานีรถไฟ Kintetsu Hisai Station
Official website
(ภาษาไทย)
Kazahaya no Sato (มิเอะ)

ดูแผนที่ Kazahaya no Sato (มิเอะ)

ดอกลาเวนเดอร์ ปลายเดือนมิถุนายน – เดือนกรกฎาคม

โดยปกติดอกลาเวนเดอร์จะเริ่มบานในช่วงปลายเดือนมิถุนายน และจะบานเต็มที่ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมไปจนถึงปลายเดือน

ลาเวนเดอร์ ถูกขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งสมุนไพร Queen of Herbs เนื่องจากมีกลิ่นหอมชวนหลงใหล และเป็นดอกไม้ที่มีลักษณะที่บอบบาง น่าทะนุถนอม

 Menard Aoyama Resort (มิเอะ)

สวนสมุนไพรบนเนินเขา Menard Aoyama Resort ในจังหวัดมิเอะ

ภายในสวนสมุนไพรแห่งนี้ มีต้นลาเวนเดอร์ปลูกอยู่ภายในสวนหลายหมื่นต้น ดอกจะเริ่มบานในช่วงกลางเดือนมิถุนายนไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม เมื่อดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่งแล้วจะกลายเป็นพรมดอกไม้ธรรมชาติขนาดใหญ่สีม่วงอ่อนดูสวยงาม

ด้วยกลิ่นหอมอบอวลชวนหลงใหล ให้บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเก็บดอกลาเวนเดอร์ สามารถทำเป็นดอกไม้แห้งเพื่อนำกลับไปเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย

Menard Aoyama Resort (มิเอะ)

ที่อยู่2356  Kiryu, Iga, Mie 518-0295
ช่วงเวลาดอกไม้บานกลางเดือนมิถุนายน – ต้นเดือนกรกฎาคม
เวลาเข้าชม09.00 – 17.00 น. ( ปิดให้เข้าชมเวลา 16.00 น.)
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่  1,100 เยน
อายุ 65 ปี ขึ้นไป 900 เยน
วิธีเดินทางมีรถบัสรับ-ส่ง แบบจองที่นั่งล่วงหน้า จากสถานีรถไฟ Iga-Kanbe Stations บนสาย Kintetsu Osaka Line
Official websiteMenard Aoyama Resort (มิเอะ)

ดูแผนที่ Menard Aoyama Resort (มิเอะ)

ดอกดาเลีย เดือนมิถุนายน – เดือนกรกฎาคม

ดอกดาเลียเป็นดอกไม้ที่มีความหลากหลาย  ตั้งแต่สายพันธุ์ที่มีดอกขนาดใหญ่ ไปจนถึงสายพันธุ์ดอกเล็ก หรือแบบดอกชั้นเดียว

ช่วงที่ดอกดาเลียบานสะพรั่งที่สุดจะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงกรกฎาคม

สวนสาธารณะ Umami-kyuryo Park (นารา)

สวนสาธารณะอุมามิ คิวเรียว (Umami-Kyuryo Park)  ยังขึ้นชื่อเรื่องดอกดาเลียเช่นกัน

ภายในสวนมีดอกดาเลียถึง 350 สายพันธุ์ มากกว่า 1,000 ต้น มีความหลากหลายทั้งในด้านสีสันและสายพันธุ์

เพียงแค่เดินชมดอกไม้แต่ละชนิดที่ปลูกไว้ก็สร้างความเพลิดเพลินและความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน
นอกจากนี้ ดอกไม้ก็ยังสูงพอดีกับระดับใบหน้า ทำให้สามารถถ่ายรูปคู่กับดอกไม้ได้อย่างง่ายดาย

สวนสาธารณะ Umami-kyuryo Park (นารา)

ที่อยู่2202 Samita, Kawaimachi, Kitakatsuragi, Nara
ช่วงเวลาดอกไม้บานปลายเดือนกรกฎาคม – กลางเดือนสิงหาคม
เวลาเข้าชม09.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชมเข้าชมฟรี
วิธีเดินทางเดิน 2 นาทีไปยังประตูทางเข้าด้านทิศเหนือ จากสถานีรถไฟ
Instagramสวนสาธารณะ Umami-kyuryo Park (นารา)

ดูแผนที่ สวนสาธารณะ Umami-kyuryo Park (นารา)

 ดอกทานตะวัน (ปลายเดือนกรกฎาคม – กลางเดือนสิงหาคม)

ดอกทานตะวัน ถูกตัดแต่งสายพันธุ์ออกเป็นหลากหลายสายพันธุ์ เช่น กลีบซ้อน หรือทำให้ดอกมีสีส้ม หรือมีสีแดง

คุณจะสามารถชมดอกทานตะวันดอกทานตะวันสายพันธุ์หายากเหล่านี้  จากสถานที่ที่เราจะแนะนำต่อไปนี้ค่ะ

สวนสาธารณะ Umami-kyuryo Park (นารา)

จากที่แนะนำไปข้างต้น สวนสาธารณะอุมามิ คิวเรียว (Umami-Kyuryo Park) ในจังหวัดนารา  มีทุ่งดอกทานตะวันให้ได้ชมมากกว่า 25 สายพันธุ์ รวมกว่า 150,000 ต้น ในระหว่างช่วงปลายเดือนกรกฎาคมไปจนถึงกลางเดือนสิงหาคม

ในพื้นที่ทางทิศใต้ มีทุ่งดอกทานตะวันสายพันธุ์ Sunfinity  ซึ่งเป็นจุดชมดอกทานตะวันแนะนำที่คุณไม่ควรพลาด

ดอกทานตะวันมีทั้งดอกที่สูงและดอกที่อยู่ต่ำ ช่วยให้ถ่ายรูปคู่กับดอกไม้ได้ง่ายและดูสวยงาม จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก 

นอกจากนี้ ยังมีดอกทานตะวันสีแดง สีขาว และสายพันธุ์แบบกลีบซ้อนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปินชื่อดังอย่าง แวน โก๊ะและ โมเนต์ ให้ได้ชมอีกด้วย

สวนสาธารณะ Umami-kyuryo Park (นารา)

ที่อยู่2202 Samita, Kawaimachi, Kitakatsuragi, Nara
ช่วงเวลาดอกไม้บานปลายเดือนกรกฎาคม – กลางเดือนสิงหาคม
เวลาเข้าชม09.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชมเข้าชมฟรี
วิธีการเดินทางเดิน 2 นาทีไปยังประตูทางเข้าด้านทิศเหนือ จากสถานีรถไฟ Ikebe Station บนสาย Kintetsu Tawaramoto Line
Instagramสวนสาธารณะ Umami-kyuryo Park (นารา)

ดูแผนที่ สวนสาธารณะ Umami-kyuryo Park (นารา)

ดอกคอสมอส (ปลายเดือนกันยายน – ต้นเดือนพฤศจิกายน)

ดอกคอสมอสในประเทศญี่ปุ่น เป็นสิ่งหนึ่งที่สือถึงฤดูใบไม้ร่วง
เป็นดอกไม้ที่มีหลากหลายสีสัน ตั้งแต่ สีชมพู สีขาว สีแดง สีส้ม และสีเหลือง เป็นต้น

16. ซากปราสาทฟูจิวาระ (นารา)

บนพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร พร้อมทุ่งดอกคอสมอสที่มีมากกว่า 3 ล้านดอก จากทั้งหมด 6 สายพันธุ์เป็นวิวทิวทัศน์และภาพที่สวยงามน่าประทับใจ

หากมีโอกาสลองมาสัมผัสบรรยากาศทุ่งดอกคอสมอสที่กว้างใหญ่แห่งนี้กันดูนะคะ

นอกจากนี้ ยังมีดอกคอสมอสสายพันธุ์ที่มีรูปร่างแปลกตา ให้คุณได้ชมกันอย่างจุใจ

การถ่ายภาพคู่กับดอกไม้พร้อมฉากหลังเป็นพระอาทิตย์ตกดิน เป็นเพิ่มบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสเน่ห์ให้กับภาพถ่ายของคุณอีกด้วยค่ะ

ากปราสาทฟูจิวาระ (นารา)

ที่อยู่Daigocho, Kashihara, Nara 634-0000
ช่วงเวลาดอกไม้บานต้นเดือน – ปลายเดือนตุลาคม
วิธีเดินทางนั่งรถบัสจากสถานีรถไฟ Kintetsu Yamato-Yagi Station
ลงรถที่ป้าย Kashihara Fujiwarakyo Shiryoushitsu-mae แล้วเดินต่อไปอีก 5 นาที

ดูแผนที่ ซากปราสาทฟูจิวาระ (นารา)

Nabana no Sato (มิเอะ)

สวนดอกไม้นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato)  นอกจากจะเป็นสถานที่ชมดอกบ๊วยแล้ว ยังเป็นสถานที่แนะนำสำหรับการมาชมดอกคอสมอสด้วยค่ะ

ดอกคอสมอสของที่นี่ เป็นสายพันธุ์ที่มีดอกขนาดใหญ่ คัดเลือกมาเป็นพิเศษจากหลายร้อยสายพันธุ์ให้ได้สายพันธุ์ที่มีดอกขนาดใหญ่และสวยงาม

บนพื้นที่ขนาดใหญ่ 43,000 ตารางเมตร ของทุ่งดอกคอสมอส เป็นทัศนียภาพที่สวยงามตระการตา

นอกจากนี้แล้วในช่วงกลางคืน ยังมีการประดับไฟ ช่วยเพิ่มมนต์สเน่ห์และความโรแมนติกในยามค่ำคืนอีกด้วย

Nabana no Sato (มิเอะ)

ที่อยู่270 Urushibata Nagashimacho Komae, Kuwana, Mie
ช่วงเวลาดอกไม้บานปลายเดือนกันยายน – ต้นเดือนพฤศจิกายน
เวลาเข้าชม10.00 – 22.00 น.
ปิดให้เข้าชมสวน ก่อนเวลาปิดทำการ 30 นาที
ค่าเข้าชม2,500 เยน ( รวมคูปองมูลค่า 1,000 เยน)
เด็กต่ำกว่าประถมศึกษา เข้าชมฟรี
วิธีเดินทางนั่งรถบัส 10 นาที จากสถานีรถไฟ Kintetsu-Nagashima Station
*เฉพาะช่วงที่มีการประดับไฟเท่านั้น (ปลายเดือนตุลาคม-พฤษภาคม)
Official websiteNabana no Sato (มิเอะ)

ดูแผนที่ Nabana no Sato (มิเอะ)

ดอกกุหลาบ (ฤดูใบไม่ร่วง)  ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน

แม้แต่ในฤดูใบไม้ร่วงก็สามารถหาชมดอกไม้ที่เบ่งบานได้ตลอดทั้งปีอย่างดอกกุหลาบได้

แม้ว่าในฤดูใบไม้ร่วงนั้น ดอกกุหลาบจะมีขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกัลป์ฤดูอื่นๆ แต่ยังคงความสวยงามอยู่ไม่ต่างกัน

สวนดอกกุหลาบ Jingu Rose Garden (มิเอะ)

สวนดอกกุหลาบจิงกู (Jingu Rose Garden) ตั้งอยู่ที่เมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะ มีเนื้อที่ขนาด 1,000 ตารางเมตร มีดอกกุหลาบกว่า 450 ต้น รวมมากกว่า 150 สายพันธุ์  

ภายในสวนแห่งนี้มีดอกกุหลาบที่ถูกตั้งชื่อตามบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกอยู่มากมาย และภายในสวนคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับสีสันอันหลากหลายและกลิ่นหอมหวานของดอกกุหลาบหลากหลายชนิด

การได้มาชมดอกกุหลาบในฤดูใบไม้ร่วง จะต้องเป็นประสบการณ์แสนพิเศษและน่าประทับใจมากแน่นอนเลยค่ะ

สวนดอกกุหลาบ Jingu Rose Garden (มิเอะ)

ที่อยู่152 Ujinakanokiricho, Ise, Mie 516-0025
ช่วงเวลาดอกไม้บานปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน
เวลาอาจคลาดเคลื่อนไปในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
เวลาเข้าชม09.00 – 16.00 น.
ค่าเข้าชมเข้าชมฟรี
วิธีเดินทางจากป้ายรถหน้าสถานีรถไฟ Kintetsu Iseshi Station หรือ Ujiyamada Statiom นั่งรถบัสสาย Naiku-mae ลงรถที่ป้าย Jingu Kaikan-mae แล้วเดินต่อไปอีก 5 นาที
Websiteสวนดอกกุหลาบ Jingu Rose Garden (มิเอะ)

ดูแผนที่ สวนดอกกุหลาบ Jingu Rose Garden (มิเอะ)

Red Hill Forest of Hisa (มิเอะ)

ที่ เรดฮิลล์ ฟอเรสต์ ฮิสะ (Red Hill Forest of Hisa) แห่งนี้มีสวนกุหลาบขนาดใหญ่บนพื้นที่ประมาณ 2,500 ตารางเมตร โดยมีดอกกุหลาบกว่า 1,500 ต้น รวมมากกว่า 400 สายพันธุ์ 

ภายในสวนสามารถชมดอกกุหลาบได้หลากหลายสายพันธุ์ ตั้งแต่กุหลาบที่ได้รับความนิยมในอดีต ไปจนถึงสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังมีการจัดพื้นที่ตามรูปแบบธีมต่าง ๆ เช่น กุหลาบแบรนด์ดังจากประเทศอังกฤษ และกุหลาบที่มีกลิ่นหอมโดดเด่น ให้มีบรรยากาศที่หลากหลาย 

ดอกกุหลาบในฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังเบ่งบานพร้อมส่งกลิ่นหอมอบอวล เป็นบรรยากาศที่สวยงามอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาด

Red Hill Forest of Hisa (มิเอะ)

ที่อยู่2877 Takanoocho, Tsu, Mie 514-2221
ช่วงเวลาดอกไม้บานปลายเดือนตุลาคม – กลางเดือนพฤศจิกายน
วันหยุดทำการทุกวันพฤหัสบดี
เวลาเข้าชม09.30 – 16.00 น.
เวลาเข้าชมสวนรอบสุดท้าย ก่อนเวลาปิดทำการ 30 นาที
ค่าเข้าชมผู้ใหญ่  500 เยน ( กรกฎาคมถึงกันยายน, วันที่ 16 พฤศจิกายน – มกราคม )
800 เยน ( กุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 16 ถึง 30 มิถุนายน ตุลาคมถึง 15 พฤศจิกายน )
เด็กชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น  250 เยน( แสดงบัตรนักเรียน )
เด็กต่ำกว่าชั้นประถมศึกษา เข้าชมฟรี
วิธีเดินทางจากสถานีรถไฟ Kintetsu Tsu station นั่งรถบัสสาย Toyogaoka
ลงรถที่ F Kita yama แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที
Officail websiteRed Hill Forest of Hisa (มิเอะ)

ดูแผนที่ Red Hill Forest of Hisa (มิเอะ)

ดอกหญ้าสึสึกิ (กลางเดือนกันยายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน)

ดอกหญ้าสึสึกิ เป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น

ดอกเป็นรวงสีเงินสสวยงาม เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่น เช่น เทศกาลชมพระจันทร์

20. Soni Kougen (นารา)

ทุ่งหญ้าสึสึกิ ที่ Soni kougen ตั้งอยู่ในจังหวัดนารา เป็นทุ่งหญ้าสึสึกิที่กว้างใหญ่ ขนาด 40 เฮกตาร์

ดอกหญ้าสึสึกิจะเริ่มออกรวงตั้งแต่กลางเดือนกันยายมเป็นต้นไป จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน

ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน แสงอาทิตย์ในตอนกลางวันทำให้ดอกหญ้าเปล่งประกายเป็นสีเงิน และแสงอาทิตย์ตกในตอนเย็นจะเปลี่ยนทุ่งหญ้าเป็นสีทองอร่าม

บรรยากาศที่สวยงามและน่าประทับใจนี้ ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก

Soni Kougen (นารา)

ที่อยู่Taroji Sonimiura, Uda, Mie 633-1202
ช่วงเวลาดอกไม้บานกลางเดือนกันยายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน
วิธีเดินทางจากสถานีรถไฟ Kintetsu Nabari Station นั่งรถบัส Mie Kotsu สาย Yamagasu-Nishi ลงรถที่ Taroji แล้วเดินต่อไปอีก 5 นาที
Official WebsiteSoni Kougen (นารา)

ดูแผนที่ Soni Kougen (นารา)

สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ  หลังจากที่เราได้แนะนำดอกไม้ไปทั้งหมดแล้ว เจอดอกไม้ที่อยากไปชมบ้างรึยัง?

ที่ประเทศญี่ปุ่นเราสามารถไปชมและเพลิดเพลินกับดอกไม้ได้ทุกฤดูกาล ตลอดทั้งปี หากมีโอกาสได้ไปประเทศญี่ปุ่นอย่าลืมลองไปสัมผัสความสวยงามของดอกไม้ ในฤดูกาลนั้นๆ กันดูนะคะ

Contents Index
  1. 1 บัตรโดยสารรถไฟสุดคุ้ม
  2. 2 ดอกบ๊วย ( กุมภาพันธ์ – มีนาคม )
    1. 2.1 ศาลเจ้า Jonangu Shrine ( เกียวโต )
    2. 2.2 ศาลเจ้า Yuki Shrine (มิเอะ)
    3. 2.3 Suzuka Forest Garden (มิเอะ)
    4. 2.4 Nabana no Sato (มิเอะ)
    5. 2.5 Nabana no Sato (มิเอะ)
  3. 3 ชิบะซากุระ Shiba-sakura (เมษายน – พฤษภาคม)
    1. 3.1 Hana no Sato Takidani Iris Garden (นารา)
  4. 4 ดอกวิสทีเรีย (ปลายเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคม)
    1. 4.1 วัด Fujii-dera (โอซาก้า)
    2. 4.2 สวนพฤกษศาสตร์ Kasuga Taisha Manyo Botanical Garden (นารา)
  5. 5 ดอกอาซาเลีย (กลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม)
    1. 5.1 Katsuragi-kogen (นารา)
  6. 6 ดอกโบตั๋น (เดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม)
    1. 6.1 วัด Hasedera Temple (นารา)
  7. 7 ดอกโรโดเดนดรอน (Rhododendron) กลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม
    1. 7.1 วัด Okadera Temple (นารา)
  8. 8 ดอกไฮเดรนเยีย ( เดือนมิถุนายน – เดือนกรกฎาคม)
    1. 8.1 วัด Hasedera Temple (นารา)
    2. 8.2 Kazahaya no Sato (มิเอะ)
  9. 9 ดอกลาเวนเดอร์ ปลายเดือนมิถุนายน – เดือนกรกฎาคม
    1. 9.1 Menard Aoyama Resort (มิเอะ)
  10. 10 ดอกดาเลีย เดือนมิถุนายน – เดือนกรกฎาคม
    1. 10.1 สวนสาธารณะ Umami-kyuryo Park (นารา)
  11. 11 ดอกทานตะวัน (ปลายเดือนกรกฎาคม – กลางเดือนสิงหาคม)
    1. 11.1 สวนสาธารณะ Umami-kyuryo Park (นารา)
  12. 12 ดอกคอสมอส (ปลายเดือนกันยายน – ต้นเดือนพฤศจิกายน)
    1. 12.1 16. ซากปราสาทฟูจิวาระ (นารา)
    2. 12.2 Nabana no Sato (มิเอะ)
  13. 13 ดอกกุหลาบ (ฤดูใบไม่ร่วง) ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน
    1. 13.1 สวนดอกกุหลาบ Jingu Rose Garden (มิเอะ)
    2. 13.2 Red Hill Forest of Hisa (มิเอะ)
  14. 14 ดอกหญ้าสึสึกิ (กลางเดือนกันยายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน)
    1. 14.1 20. Soni Kougen (นารา)
  15. 15 สรุป
Kintetsu Line LP R3

โหวต

| Polls
โหวต | Polls
  • คุณเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นปีละกี่ครั้ง?

    View Results

    Loading ... Loading ...

สถานที่เที่ยว

| Feature
CCJ Hotel Search

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515

จองทริปของคุณ

| Book your trip
With:
City:

Check-in:

Night :

x