รู้จักคุมาโมโตะกันก่อน
Cr: Chill Chill Japan
คุมาโมโตะ (Kumamoto) ตั้งอยู่บนเกาะคิวชูฝั่งตะวันออก เป็นหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของออนเซ็น ปราสาทที่ยิ่งใหญ่ติดอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่นอย่าง ‘ปราสาทคุมาโมโตะ’ และความงดงามของธรรมชาติ พร้อมทั้งยังได้ชื่อว่าเป็น ‘เมืองแห่งน้ำ’ และเป็นเมืองที่มี ‘น้ำรสชาติอร่อยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น’ เนื่องจากที่นี่มีแหล่งน้ำพุธรรมชาติที่กำเนิดจากแหล่งใต้บาดาลเป็นจำนวนมาก
จุดเด่นอีกอย่างของคุมาโมโตะก็คือ ‘มาสคอตประจำจังหวัด’ อย่างเจ้า คุมะมง (Kumamon) หมีสีดำหน้าตาทะเล้นที่เป็นเสมือนตัวแทนของจังหวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศญี่ปุ่น แถมยังมีสินค้าถูกผลิตออกมาในธีมของเจ้าหมีคุมะมงมากมายเสียจนนับไม่ถ้วนไม่ว่าจะ ขนม ของเล่น เสื้อผ้า หรือแม้แต่เหล้าก็ตาม แต่หน้าตาของเจ้าคุมะมงก็น่ารักไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะ ซึ่งถ้าเราเดินทางมาเที่ยวที่คุมาโมโตะเนี่ยก็มีโอกาสจะได้เจอคุมะมงตัวจริงด้วยนะ
หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่คุมาโมโตะ
Cr: Chill Chill Japan
รู้จักคุมาโมโตะกันพอสมควรแล้ว เราคิดว่าน่าจะมีหลายคนทีน่าจะรู้ข่าวแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปีของคุมาโมโตะ อันเป็นเหตุการณ์แสนเศร้าที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น โดยแผ่นดินไหวครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมาที่จังหวัดคุมาโมโตะส่งผลให้เกิดความเสียหายขึ้นเป็นบริเวณกว้าง ทั้งบ้านเรือนและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทคุมาโมโตะ
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
แต่จากแผ่นดินไหวครั้งนั้นมาจนถึงวันนี้ทางคุมาโมโตะได้ทำการฟื้นฟูบ้านเมืองด้วยวิธีต่าง ๆ จนบ้านเมืองกลับสู่สภาพปกติและพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอีกครั้ง แม้ว่าบางสถานที่อาจจะยังซ่อมแซมกลับมาไม่สมบูรณ์ 100% แต่สถานที่ท่องเที่ยวของที่นี่ยังคงงดงามและน่าสนใจไม่น้อยไปกว่าเดิม
ซึ่งทาง Chill chill Japan เองก็ได้รับเกียรติจากการท่องเที่ยวจังหวัดคุมาโมโตะให้เดินทางไปร่วมงาน Kumamoto Movie & Opera Concert Charity งานการกุศลที่จัดเมื่อวันที่ 8-10 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีจุดประสงค์เพื่อสมทบทุนช่วยฟื้นฟูปราสาทคุมาโมโตะให้กลับมาสวยงามและยิ่งใหญ่ดังเดิม
เราจึงได้เดินทางท่องเที่ยวไปในคุมาโมโตะและได้เห็นบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่ถึงแม้ว่าบางที่จะยังซ่อมแซมไม่เสร็จแต่เราก็รู้สึกว่าความสวยงามนั้นยังคงอยู่จริง ๆ อย่างปราสาทคุมาโมโตะที่ยังปิดซ่อมอยู่ ถึงเราจะไม่มีโอกาสเข้าไปแต่เพียงแค่เห็นทิวทัศน์ภายนอกและรอบ ๆ บริเวณปราสาทก็รู้สึกถึงความสวยงามและพลังอันยิ่งใหญ่ของปราสาทแห่งนี้แล้ว
การไปเที่ยวคุมาโมโตะช่วงนี้จึงไม่เป็นปัญหาและสามารถสนุกไปสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองได้ แต่อาจจะมีบางที่ที่ได้รับผลกระทบและไม่สามารถเข้าชมใกล้ ๆ ได้เท่านั้นเอง รู้อย่างนี้แล้วก็อยากให้นักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างเรา ๆ ที่ยังไม่ได้มาสัมผัสความสวยงามของคุมาโมโตะมาเที่ยวที่นี่ดูกันนะ
รู้จักวิธีเดินทางจากฟุกุโอกะไปคุมาโมโตะกันก่อน
การจะเดินทางไปยังคุมาโมโตะได้นั้น เมื่อเครื่องบินจอดลงที่สนามบิน Fukuoka เราจะต้องเดินทางต่อไปยังสถานีรถไฟ Hakata เพื่อรถไฟไปยังคุมาโมโตะที่เป็นจุดหมายนั่นเอง
วิธีการเดินทางไปยังสถานีรถไฟ Hakata ที่ง่ายที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีสัมภาระติดตัวมากมายคือการนั่งรถแท็กซี่โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 14 นาที ราคาประมาณ 1,200 เยน แต่เนื่องด้วยวิธีอาจไม่ประหยัดค่าใช้จ่ายหากวันที่เราเดินทางกันจราจรเกิดติดขัด ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะกับการเดินทางมากันเป็นกลุ่ม มีสัมภาระมาก และต้องอำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุ
แต่เดี๋ยวก่อน ! เรายังมีอีกหนึ่งวิธีที่อยากจะแนะนำเป็นการนั่งรถไฟ Fukuoka City subway สาย Kuko Line จากสนามบิน (สถานี Fukuoka-Airport) ตรงไปยังสถานี Hakata เลย ในราคาเพียง 260 เยนเท่านั้นและยังใช้เวลาเพียงแค่ 5 นาที แต่วิธีนี้จะต้องหอบหิ้วสัมภาระกันด้วยตัวเองนะจ๊ะ ถ้าใครมีสัมภาระไม่มากก็สบายหน่อยขอแนะนำวิธีนี้เลย
เช็คตารางเวลารถไฟและอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Fukuoka City subway
Cr: Chill Chill Japan
เมื่อเรามาถึงสถานี Hakata แล้วขั้นตอนต่อไปคือการไปขึ้นรถชินคันเซนตรงไปยังคุมาโมโตะ โดยชินคันเซนที่เราเลือกนั่งเขามีชื่อว่า Shinkansen Sakura ซึ่งชินคันเซนจะมีรอบรถชัดเจนและใช้เวลาในการเดินทางราวหนึ่งชั่วโมง
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
สำหรับใครที่มี JR Northern Kyushu Area Pass หรือ All Kyushu Area Pass สามารถใช้ขึ้น Shinkansen Sakura ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ถ้าใครไม่มีค่าขึ้นรถไฟชินคันเซ็นของผู้ใหญ่อยู่ที่ 5,130 เยน ภายในของชินคันเซนขบวนนี้นั้นมีที่นั่งกว้างขวาง สามารถปรับระดับเก้าอี้สำหรับงีบพักผ่อนได้ ที่สำคัญมีห้องน้ำไว้สำหรับทำธุะส่วนตัวด้วยแหละ เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าเราจะต้องนั่งอยู่ในชบวนรถนานเป็นชั่วโมงแต่ก็สะดวกสบายหายห่วง
Kumamoto Station : สถานีคุมาโมโตะสุดน่ารัก
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
เมื่อมาถึงสถานี Kumamoto เราก็จะได้เห็นเจ้าหมีสีดำ คุมะมง มาสคอร์ตประจำจังหวัดโชว์ตัวโดดเด่นอยู่ภายในสถานี เป็นเหมือนจุดถ่ายรูปที่เมื่อเรามาถึงคุมาโมโตะแล้วก็ต้องถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันสักหน่อย บอกเลยว่าทั่วทั้งบริเวณสถานีมีเจ้าคุมะมงซ่อนตัวอยู่เต็มไปหมด และยังมีของฝากสไตล์คุมะมงมากมายให้เลือกซื้อตอนขากลับด้วยนะ
วิธีการเดินทางภายในคุมาโมโตะ
Cr: Chill Chill Japan
การเดินทางภายในคุมาโมโตะนั้นสามารถเดินทางได้ด้วยรถราง (Kumamoto City Tram Guide) ซึ่งจะให้บริการพาเราไปยังจุดหมายโดยรอบเมือง ซึ่งรถรางหรือ Tram ของคุมาโมโตะนั้นถือว่าเป็นรูปแบบการเดินทางหนึ่งที่ค่อนข้างสะดวกสบาย โดยจะมีให้บริการ 2 สาย คือ A และ B ไปยังที่ต่าง ๆ ซึ่งหากต้องการเดินทางจากสถานีรถไฟ JR Kumamoto แห่งนี้เข้าไปใจกลางเมืองก็สามารถนั่งรถรางที่สถานี Kumamoto (สาย A) ไปได้
ราคา ในการนั่งรถรางนั้นคิดเป็นเที่ยว เด็ก (อายุ 1-6 ปี) เที่ยวละ 90 เยน และผู้ใหญ่เที่ยวละ 170 เยน สามารถใช้บัตร IC Card ชำระเงินแทนได้ด้วย รู้วิธีการเดินทางในเมืองนี้กันแล้ว เราขอพาทุกคนเดินทางไปยังปราสาทคุมาโมโตะกันเลยดีกว่า !
ชม Kumamoto Castle : ปราสาทคู่บ้านคู่เมือง
Cr: Chill Chill Japan
ปราสาทคุมาโมโตะหรือ Kumamoto Castle เป็นหนึ่งในสุดยอดสามอันดับปราสาทที่สวยงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น เริ่มก่อสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1601 และใช้เวลาในการสร้างทั้งหมด 7 ปี มีขนาดใหญ่โตและงดงามมาก โดยบริเวณรอบปราสาทจะมีต้นซากุระปลูกเอาไว้มากถึง 800 ต้น บริเวณนี้จึงเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่สวยที่สุด และแน่นอนว่าปราสาทแห่งนี้ก็คือสถานที่ที่รวมดวงใจของชาวคุมาโมโตะทั้งเมืองเอาไว้ด้วยเช่นกัน
Cr: Chill Chill Japan
แต่เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ปราสาทคุมาโมโตะบางส่วนเสียหายและขณะนี้ก็ยังอยู่ในระหว่างซ่อมแซม ดังนั้นการมาปราสาทคุมาโมโตะในช่วงนี้จึงไม่สามารถเข้าชมภายในได้ แม้จะน่าเสียดายแต่การชมปราสาทจากบริเวณรอบนอกก็เห็นความสวยงามและความยิ่งใหญ่ของปราสาทได้ดีไม่แพ้กันเลย
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
และถึงแม้ว่าจะเข้าไปชมภายในปราสาทไม่ได้ แต่บริเวณรอบ ๆ ปราสาทก็ยังมีพื้นที่ที่น่าสนใจให้เราได้ไปเดินเล่นกันอย่าง ศูนย์ช้อปปิ้งบรรยากาศเมืองเก่าอย่าง Sakura no baba josaien ที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของปราสาท โดยพื้นที่บริเวณจะเป็นแหล่งรวมร้านอาหารและร้านค้าที่มีขายทั้งอาหารและขนมน่าอร่อย รวมไปถึงของที่ระลึกสไตล์เจ้าคุมะมง
Cr: Chill Chill Japan
นอกจากย่านช้อปปิ้งบรรยากาศเมืองเก่าแล้วก็ยังมีสวนสาธารณะสวย ๆ ที่ชาวคุมาโมโตะไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่นิยมมาเดินเล่นและทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อพักผ่อนหย่อนใจกันด้วย
Cr: Chill Chill Japan
จากบริเวณสวนแห่งนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของปราสาทคุมาโมโตะได้ด้วย และที่นี่ยังเป็นสถานที่จัดงาน Kumamoto Movie & Opera Concert Charity ที่ Chill chill japan มีโอกาสได้ไปร่วมงานนั่นเอง
Cr: Chill Chill Japan
งานนี้เริ่มจัดตั้งแต่วันที่ 9-10 ตุลาคมที่ผ่านมา กิจกรรมภายในงานจะมีการฉายภาพยนตร์และคอนเสิร์ตโอเปร่าตั้งแต่ยามเย็นจนถึงช่วงกลางคืน ชาวคุมาโมตะให้ความสนใจกับงานนี้กันไม่น้อยเลยทีเดียว
Cr: Chill Chill Japan
ในวันที่ 8 ตุลาคมงานเริ่มจัดตั้งแต่เวลา 15.30-20.30 น. ช่วงแรกเป็นคอนเสิร์ตโอเปร่าที่นำบทเพลงมาขับร้องได้อย่างไพเราะ จากนั้นก็เป็นช่วงสนทนากับ Toshio Suzuki ผู้กำกับภาพยนตร์จากค่าย Studio Chibli จากนั้นปิดท้ายด้วยฉายภาพยนตร์เรื่อง Spirited Away ของทางค่ายด้วยนั่นเอง
ส่วนวันที่ 10 ตุลาคมจะเป็นการฉายภาพยนตร์เรื่อง “Hand in the Glove” หนังร่วมทุนสร้าง ไทย-ญี่ปุ่น ผลงานกำกับของ ยูทาสึเกะ อินาบะ (Yusuke Inaba) ผู้กำกับหนุ่มไฟแรงชาวญี่ปุ่น พร้อมทีมนักแสดงรุ่นใหม่มืออาชีพ อย่าง ชานนท์ ริกุลสุรกาน (ภาพยนตร์รักแห่งสยาม, August Band) เซลีน่า วีสมันน์ (นักแสดงมากความสามารถ) เอมิโกะ อิซาวะ (นักแสดงสาวชาวญี่ปุ่น), ทาคาโตะ คิตาโมโตะและแขกรับเชิญสุดพิเศษ!! Kumamon มาสค้อตสุดน่ารักประจำคุมาโมโตะ
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
แต่ก่อนจะเริ่มฉายภาพยนตร์ ก็มีการสัมภาษณ์ผู้กำกับเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้และสัมภาษณ์นักแสดงเกี่ยวกับความรู้สึกที่มีต่อเคุมาโมโตะสักหน่อย
Cr: Chill Chill Japan
จากนั้นก็เริ่มฉายภาพยนตร์ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้สถานที่ถ่ายทำในคุมาโมโตะ ทั้งทิวทัศน์สวย ๆ และจุดท่องเที่ยวน่าสนใจของนี้ ที่ยิ่งดูแล้วก็ยิ่งรักและชอบคุมาโมโตะ ถือเป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอความสวยงามของคุมาโมโตะไว้ได้อย่างน่าประทับใจ และแอบได้ฟีลดูหนังกลางแปลงที่ไทย แต่ไปดูไกลถึงญี่ปุ่นเชียวนะ
สำหรับใครที่ต้องการติดตามข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์ Hand in the Glove กันต่อได้ที่ Hand in the Gloveนะจ๊ะ
Cr: Chill Chill Japan
นอกจากงานค่ำคืนแห่งการฉายภาพยนตร์และคอนเสิร์ตโอเปร่าเพื่อสมทบทุนซ่อมแซมปราสาทคุมาโมโตะแล้ว เมื่อแสงสว่างบนท้องฟ้าเริ่มหายไปภายในสวนและบริเวณต่าง ๆ ของคุมาโมโตะยังมีการจัดงานเทศกาลประดับไฟในลำไม้ไผ่แกะสลักที่ชื่อว่างาน ‘Mizukari’
ซึ่งงานนี้จะจัดปีละครั้งเป็นเวลา 2 วันในช่วงเดือนตุลาคม และเริ่มเปิดไฟตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป พอถึงเวลากลางคืนเราจึงได้เห็นความสวยงามของแสงไฟเหล่านี้สว่างไสวในคุมาโมโตะ
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
นอกจากการประดับไฟในลำไม้ไผ่แล้วยังมีการทำโคมสามเหลี่ยมขนาดเล็กตั้งวางเรียงรายที่พื้น โดยภายนอกโคมชาวเมืองจะวาดรูปหรือเขียนคำอวยพรน่ารัก ๆ เอาไว้ ภายในจะจุดเทียนตั้งไว้ ให้โคมสว่างไสวไปทั่วบริเวณ
จุดประสงค์หลักของการจัดงานนี้นั้นเพื่อสร้างความครึกครื้นให้แก่ชาวคุมาโมโตะ รวมไปถึงเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ชาวเมืองจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นไปด้วย ซึ่งในคุมาโมโตะนั้นมักจะมีงานเทศกาลที่น่าสนใจ สวยงามและสนุกสนานจัดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ ทำให้ที่นี่มีเสน่ห์และน่าสนใจ และไม่เงียบเหงาไม่ว่าเราจะเดินทางไปเที่ยวครั้งใดก็ตาม
Kumamoto Castle
ที่อยู่ | 1-1 Honmaru, Chūō-ku, Kumamoto-shi, Kumamoto-ken 860-0002, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถราง (Kumamoto City Tram Guide) สาย A หรือ B ก็ได้ ไปลงที่สถานี Kumamotojo-Shiyakusho-Mae แล้วเดินต่อไปยังปราสาทประมาณ 7 นาที |
เวลาทำการ | เดือนมีนาคมถึงพฤศจิกายน 8.30-18.00 น. (เข้าชมได้ถึง 17.30 น.) เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ 8.30-17.00 น. (เข้าชมได้ถึง 16.30 น.) *อาจเปิดทำการในช่วงเวลากลางคืนหากมีงานเทศกาล ปิดทำการช่วงวันหยุดปีใหม่ |
ราคา | ผู้ใหญ่ (16 ปีขึ้นไป) 500 เยน เด็ก (ต่ำกว่า 16 ปี) 200 เยน |
โทรศัพท์ | 075-204-5543 (+81-75-204-5543) |
Website | Kumamoto Castle |
ข้อสรุป
การตามรอยคุมะมง เที่ยวคุมาโมโตะ ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวในคุมาโมโตะยังมีอีกมากมายหลายแห่งน่าสนใจและอยากให้ทุกคนได้ไปชมกัน แต่จะเป็นที่ไหนบ้างติดตามอ่านต่อกันได้ที่บทความภาคจบของการไปเที่ยวบ้านเกิดของคุมะมงที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลยจ้า
เยือนถิ่นคุมะมงเที่ยว คุมาโมโตะ ตอนที่ 2 ดื่มด่ำธรรมชาติ ทัวร์หรรษา บุกหาหมีเกรียน
ตามรอยคุมะมงเจ้าหมีดำกันแบบต่อเนื่อง คราวนี้เราจะไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่อยู่รอบจังหวัดคุมาโมโตะ แต่ละที่ตามรอยไปเที่ยวกันได้ไม่ยาก