เที่ยวคิวชูครั้งแรก: 7 เมืองต้องไป เที่ยวช้าๆ แบบ Slow Travel

ใครที่กำลังมองหาญี่ปุ่นในมุมใหม่ที่ไม่เร่งรีบ คิวชูคือจุดหมายที่เหมาะที่สุดสำหรับการเริ่มต้น ด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ ออนเซ็น อาหารท้องถิ่น และเมืองเล็กๆ ที่อบอุ่น คุณจะได้สัมผัสการเดินทางแบบ Slow Travel ที่ให้เวลากับตัวเองและแต่ละสถานที่อย่างแท้จริง บทความนี้จะแนะนำ 7 เมืองน่าเที่ยวในคิวชู ที่มือใหม่ก็สามารถไปได้ง่าย และเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่จะทำให้คุณหลงรักญี่ปุ่นใต้แบบไม่รู้ตัว

ทำไม “คิวชู” ถึงเหมาะกับสาย Slow Travel?

คิวชูเป็นเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันเงียบสงบ เมืองเล็กๆ มีเสน่ห์ และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ยังคงความดั้งเดิม เหมาะสำหรับการเดินทางแบบ Slow Travel ที่ให้เวลาได้ซึมซับความงามในจังหวะชีวิตที่เนิบช้าและลึกซึ้ง

การเดินทางสะดวกด้วย JR Kyushu Pass, รถเช่า หรือรถไฟท้องถิ่น

🚄 JR Kyushu Pass

• เหมาะกับ: นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางระหว่างเมืองในคิวชูอย่างรวดเร็ว ประหยัด และอยากเที่ยวหลายเมืองในไม่กี่วัน
• ข้อดี: ขึ้นรถไฟ JR ได้ไม่จำกัด รวมทั้งรถด่วนและบางขบวนชินคันเซ็น / มีหลายแบบให้เลือก (เช่น Northern Kyushu, All Kyushu) / คุ้มค่าถ้าเดินทางหลายเมือง
• ข้อเสีย: ใช้ได้เฉพาะเส้น JR / ต้องวางแผนตารางรถไฟล่วงหน้า

🚗 รถเช่า

• เหมาะกับ: คนที่อยากอิสระ ไปจุดท่องเที่ยวไกล ๆ หรือหมู่บ้านออนเซ็น
• ข้อดี: ยืดหยุ่นสูง / เข้าถึงที่เที่ยวชนบทหรือภูเขาได้ง่าย / เหมาะกับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว
• ข้อเสีย: ต้องมีใบขับขี่สากล / มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม (น้ำมัน-ทางด่วน-ที่จอด) / ขับเส้นทางภูเขาอาจยากสำหรับมือใหม่

🚉 รถไฟท้องถิ่น

• เหมาะกับ: คนที่เน้นเที่ยวชิล ๆ ในเมืองเดียวหรือพื้นที่ใกล้เคียง
• ข้อดี: ราคาประหยัด / บางสายวิวสวย เช่น Hisatsu Orange / ไม่ต้องจองล่วงหน้า
• ข้อเสีย: ขบวนมีน้อย โดยเฉพาะนอกเมือง / ใช้เวลาเดินทางนาน

🌋 เปิดโลกใหม่ที่ “คิวชู” – เหมาะมากสำหรับนักเดินทางขาประจำญี่ปุ่น

หากคุณเคยไปโตเกียว–โอซาก้ามาแล้ว คิวชูคืออีกมุมของญี่ปุ่นที่ควรไปเปิดโลกใหม่ ด้วยธรรมชาติหลากหลาย ออนเซ็นขึ้นชื่อ และวัฒนธรรมท้องถิ่นไม่แมส การเดินทางสะดวกด้วย JR Kyushu Pass สำหรับคนชอบย้ายเมือง หรือรถเช่าสำหรับคนอยากลุยจุดลับ รถไฟท้องถิ่นก็เป็นทางเลือกสโลว์ไลฟ์ คิวชูให้ประสบการณ์ญี่ปุ่นแท้ๆ ที่แตกต่างจากเมืองใหญ่

🎯 เหมาะกับใคร?

• คนที่เคยเที่ยว “เส้นทางยอดนิยม” อย่าง โตเกียว, โอซาก้า, เกียวโต มาแล้ว
  
• อยากสัมผัส ธรรมชาติ, ออนเซ็น, วิถีชีวิตท้องถิ่น และความไม่แมส
  
• ชอบเที่ยวแบบเนิบช้า หรือ “เจออะไรใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำใคร”

🏞 จุดเด่นของคิวชู

• ธรรมชาติหลากหลาย: ภูเขาไฟ, ทะเล, ป่า และน้ำตก
  
• เมืองออนเซ็นชื่อดัง: เบปปุ (Beppu), ยูฟุอิน (Yufuin), คิริชิมะ
  
• วัฒนธรรมเฉพาะตัว: เช่น ความเป็นตะวันตกของ “นางาซากิ”, อาหารท้องถิ่นรสจัดจ้าน
  
• คนท้องถิ่นอบอุ่น และยังไม่ชินกับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากเท่าเมืองใหญ่

ถ้าคุณเบื่อเส้นทางเดิมๆ แล้วอยากลองญี่ปุ่นอีกมุม คิวชูคือคำตอบที่ลงตัวที่สุด!

เมืองแนะนำ (พร้อมไฮไลต์ในแต่ละเมือง)

เที่ยวคิวชูต้องไม่พลาด 7 เมืองไฮไลต์ ฟุกุโอกะ (Fukuoka) เมืองเริ่มต้นสุดคึกคัก อาหารอร่อย ยูฟุอิน  (Yufuin)  เมืองออนเซ็นกลางหุบเขาแสนโรแมนติก เบปปุ (Beppu)  แหล่งออนเซ็นเดือดชื่อดัง นางาซากิ (Nagasaki) เมืองประวัติศาสตร์ผสานวัฒนธรรมตะวันตก คุมาโมโตะ (Kumamoto) กับปราสาทใหญ่และธรรมชาติรอบเมือง มิยาซากิ (Miyazaki) ชายฝั่งสวยพร้อมพลังธรรมชาติ คาโกชิมะ (Kagoshima) เมืองภูเขาไฟซากุระจิมะสุดอลังการ เที่ยวครบได้ทั้งวัฒนธรรม ออนเซ็น และธรรมชาติในทริปเดียว!

ฟุกุโอกะ (Fukuoka) – ประตูสู่คิวชู

ฟุกุโอกะคือประตูสู่คิวชู เมืองใหญ่ที่ผสมผสานความทันสมัยกับวัฒนธรรมพื้นถิ่นได้อย่างลงตัว ไฮไลต์คือย่านฮากาตะ อาหารขึ้นชื่ออย่างราเมนฮากาตะและยากิโทริร้านริมทาง (ยาไต) ริมแม่น้ำ เดินเล่นชิลๆ ที่โอฮอร์ริพาร์ค หรือชมวิวเมืองจากฟุกุโอกะทาวเวอร์ ที่นี่เหมาะทั้งพักเริ่มต้นหรือปิดท้ายทริปคิวชู

ฟุกุโอกะ (Fukuoka) เมืองใหญ่แต่เป็นมิตร เดินเล่นสบาย

ฟุกุโอกะเป็นเมืองใหญ่ที่เป็นมิตร เดินทางง่ายและบรรยากาศไม่เร่งรีบ เหมาะสำหรับเดินเล่นชิลๆ ทั้งย่านเทนจินและริมแม่น้ำนากาสุ ลิ้มรสราเมนฮากาตะต้นตำรับ และลองอาหารริมทางจากแผงยาไตยามค่ำคืน แวะพักผ่อนที่สวนโอฮอร์ริหรือชมวิวจากฟุกุโอกะทาวเวอร์ ฟุกุโอกะจึงเป็นจุดเริ่มต้นหรือพักใจที่ลงตัวของทริปคิวชู

เช็กอินฟุกุโอกะแบบโปร! เดินสบาย ได้ฟีลครบ

วันเบาๆ ที่ครบทั้งวัฒนธรรม ของกิน และมุมพักใจ เริ่มวันด้วยการไหว้พระที่ศาลเจ้าดาไซฟุ ขอพรเรื่องการเรียนและความสำเร็จ ท่ามกลางสวนญี่ปุ่นอันร่มรื่น จากนั้นไปจิบกาแฟชิลล์ๆ ที่คาเฟ่น่านั่งริมแม่น้ำในเมือง ก่อนปิดท้ายยามค่ำด้วยการลุยตลาดกลางคืนยะไต ชิมราเม็งต้นตำรับและอาหารท้องถิ่นหลากหลายจานอร่อยในบรรยากาศแสนอบอุ่น

🍢 ตลาดกลางคืนยะไต (Yatai Street Food Stalls)

บรรยากาศคึกคักยามค่ำ แผงลอยริมแม่น้ำนากาสุเสิร์ฟราเมน, ยากิโทริ, และของกินท้องถิ่นแบบบ้านๆ ได้ลองพูดคุยกับคนญี่ปุ่นและเพื่อนใหม่ต่างชาติ สัมผัสฟุกุโอกะแบบคนท้องถิ่นอย่างแท้จริง

⛩ ศาลเจ้าดาไซฟุ (Dazaifu Tenmangu)

ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่คนญี่ปุ่นนิยมมาขอพรเรื่องการเรียน รายล้อมด้วยสวนสวย บ่อน้ำ และสะพานแดงอันเป็นเอกลักษณ์ ใกล้พิพิธภัณฑ์แห่งชาติคิวชู เดินทางง่ายจากตัวเมืองด้วยรถไฟเพียง 30 นาที

☕ คาเฟ่น่านั่งริมแม่น้ำ (Riverside Cafés)

ฟุกุโอกะมีคาเฟ่เก๋ๆ ริมแม่น้ำ เช่น แถวๆ ย่านฮารุโยชิหรือเทนจิน บรรยากาศสงบ วิวสวย เหมาะนั่งจิบกาแฟ ชิมขนม หรือพักเท้าแบบเนิบช้า เติมพลังให้วันเที่ยวแบบไม่เร่งรีบ

ฟุกุโอกะครั้งแรกก็หลงรัก! เมืองเบาๆ แต่ครบทั้งกิน เที่ยว คาเฟ่

ฟุกุโอกะเหมาะมากสำหรับมือใหม่เที่ยวคิวชู เมืองใหญ่แต่เดินง่าย บรรยากาศเป็นมิตร ไฮไลต์คือตลาดกลางคืนยะไตที่รวมของกินท้องถิ่นสุดเด็ด คาเฟ่ริมแม่น้ำให้นั่งชิลดูวิวสบายๆ และศาลเจ้าดาไซฟุสำหรับขอพรและเดินเล่น ฟุกุโอกะคือจุดเริ่มต้นที่ครบทั้งกิน เที่ยว และพักผ่อนในเมืองเดียว

ยูฟุอิน (Yufuin) – เมืองเล็กกลางหุบเขา

ยูฟุอินเป็นเมืองเล็กน่ารักกลางหุบเขา ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศเงียบสงบและธรรมชาติสวยงาม เดินเล่นตามถนนสายหลักที่มีร้านค้าคาเฟ่และแกลเลอรี่อาร์ตมากมาย ไฮไลต์คือแช่ออนเซ็นกลางแจ้งท่ามกลางวิวภูเขา และชมทะเลสาบคิรินที่เงียบสงบ เหมาะกับคนที่อยากพักผ่อนแบบชิลๆ ท่ามกลางธรรมชาติและศิลปะท้องถิ่น

พักใจให้เต็มที่! เที่ยวเมืองออนเซ็นบรรยากาศชนบทในคิวชู

เมืองออนเซ็นในคิวชูมักตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและบรรยากาศชนบทที่เงียบสงบ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายแท้จริง นักท่องเที่ยวสามารถแช่น้ำแร่ธรรมชาติได้ทั้งแบบส่วนตัวและรวมกับชุมชนท้องถิ่น ช่วงเช้าเดินชมวิวภูเขาหรือทุ่งนารอบเมือง พร้อมลิ้มรสอาหารท้องถิ่นสดใหม่ เมืองเหล่านี้เหมาะกับคนที่ต้องการพักใจและสัมผัสวิถีชีวิตแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม

ช้อป 🛍️ ชิม 🍰 ชิลล์ ☕ ที่ Yufuin Floral Village 🌸 จุดเช็กอินเมืองออนเซ็นสุดคิวท์ 🏞️

Yufuin Floral Village คือถนนสายช้อปปิ้งเล็กๆ ในเมืองยูฟุอิน ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและคาเฟ่น่ารักท่ามกลางสวนดอกไม้และบรรยากาศเหมือนเมืองในเทพนิยาย นักท่องเที่ยวสามารถหาของฝากแฮนด์เมด ชิมขนมหวาน และถ่ายรูปกับมุมสวยๆ ได้ตลอดทาง เหมาะกับคนรักศิลปะและชิลล์เดินเล่นพักผ่อนในบรรยากาศเงียบสงบของชนบทญี่ปุ่น

หลงรักธรรมชาติ หนีเมืองกรุงไปเติมใจให้กันที่ Yufuin สำหรับคนมีใจและมีเลนส์

พาใจไปพักกลางธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด พร้อมกิจกรรมเบาๆ อย่างเดินป่า นั่งชิงช้า ริมน้ำ หรือจิบกาแฟในคาเฟ่วิวหลักล้าน จุดถ่ายรูปเพียบ เหมาะสำหรับสายกล้อง คู่รัก หรือคนที่อยากหนีความวุ่นวาย ช่วงเวลาโรแมนติกท่ามกลางความเงียบสงบของป่าและภูเขา เติมพลังใจให้กันและกันในบรรยากาศสุดชิลล์

เบปปุ (Beppu) – เมืองแห่งบ่อนรกและออนเซ็น

เบปปุ เมืองออนเซ็นชื่อดังของญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อเรื่อง “บ่อนรก” (Jigoku) หลากสีสันสุดแปลกตา ทั้งสีแดงเดือด สีฟ้าใส และบ่อโคลนเดือด เหมาะกับสายชอบธรรมชาติและความแปลกใหม่ ไม่ควรพลาดการแช่ออนเซ็นกลางหุบเขา หรือแช่ทรายร้อนริมทะเล จุดถ่ายรูปเพียบ ทั้งมุมสวยและวิวไอน้ำฟุ้งๆ สุดโรแมนติกสำหรับคู่รัก

สัมผัสไอน้ำร้อนจากใต้พิภพ กับเสน่ห์สุดยูนีคของเบปปุ

เบปปุ เมืองออนเซ็นชื่อดังบนเกาะคิวชู ที่มี “บ่อนรก” (Jigoku) สีสวยไม่เหมือนใคร ทั้งบ่อนรกสีฟ้าใสเหมือนคราม และบ่อสีแดงดั่งเลือดเดือด ดื่มด่ำธรรมชาติสุดแปลกตา ก่อนปิดท้ายด้วยการแช่ออนเซ็นทรายร้อนริมทะเลสุดผ่อนคลาย เหมาะกับสายถ่ายรูป คู่รัก และคนที่อยากเปิดประสบการณ์ออนเซ็นแบบไม่เหมือนใคร

♨️เบปปุ เมืองมหัศจรรย์แห่งออนเซ็น 8 สไตล์

จุดหมายของคนรักการแช่ กับออนเซ็นไม่ซ้ำใคร เบปปุขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็นหลากหลายแบบ ทั้งออนเซ็นน้ำแร่ธรรมดา ออนเซ็นโคลน ออนเซ็นไอน้ำ ไปจนถึงออนเซ็นทรายร้อนริมทะเล ที่นี่มีกว่า 2,000 บ่อให้เลือกผ่อนคลาย พร้อมชม “บ่อนรก” สีสันตระการตาไม่เหมือนใคร เหมาะกับคนอยากเปิดประสบการณ์แช่ออนเซ็นทุกรูปแบบในเมืองเดียว

นางาซากิ (Nagasaki) – กลิ่นอายตะวันตก ผสมตะวันออกในเมืองเดียว

นางาซากิ เมืองท่าที่เคยเป็นประตูสู่โลกตะวันตก เต็มไปด้วยกลิ่นอายหลากวัฒนธรรม ทั้งญี่ปุ่น จีน และยุโรป ชมโบสถ์คริสต์ โกดังอิฐแดง ย่านไชน่าทาวน์ หรือขึ้นเขาอินาสะชมวิวกลางคืนสุดตระการตา เหมาะสำหรับคนรักประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และบรรยากาศย้อนยุคไม่เหมือนใคร

ย้อนรอยประวัติศาสตร์กลางเมืองงามสองวัฒนธรรม

จากสะพานหินโบราณถึงเรื่องจริงที่โลกไม่ลืม นางาซากิเต็มไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เริ่มจากสะพานเมงาเนะสุดคลาสสิกที่สะท้อนภาพเหมือนแว่นตา ชมพิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูเพื่อเรียนรู้บทเรียนจากอดีต และเดินเล่นในย่านดัตช์ทาวน์ที่ผสานกลิ่นอายยุโรปอย่างลงตัว เมืองนี้เหมาะสำหรับคนชอบเดินช้าๆ ซึมซับความงามและความหมายในทุกก้าว

🌉 สะพานเมงาเนะ (Megane Bridge)

สะพานหินโบราณที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่เหนือลำคลองกลางเมือง รูปทรงโค้งและเงาสะท้อนในน้ำทำให้ดูคล้าย “แว่นตา” จึงได้ชื่อว่า “เมงาเนะ” จุดถ่ายรูปยอดนิยมที่เต็มไปด้วยบรรยากาศคลาสสิก

☢️ พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ (Nagasaki Atomic Bomb Museum)

จัดแสดงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเมื่อปี 1945 พร้อมวัตถุจริงและภาพถ่ายสะเทือนใจ เพื่อเตือนใจถึงผลของสงครามและเรียกร้องสันติภาพทั่วโลก เป็นสถานที่ทรงพลังที่ควรค่าแก่การมาเยือนสักครั้ง

🏘️ ย่านดัตช์ทาวน์ (Dutch Slope / Dejima)

พื้นที่ที่สะท้อนอิทธิพลตะวันตกจากยุคเปิดประเทศของญี่ปุ่น เดินชมบ้านเรือนสไตล์ยุโรป โบสถ์เก่า และร้านค้าบรรยากาศย้อนยุค เหมาะสำหรับสายชอบถ่ายรูปและซึมซับกลิ่นอายวัฒนธรรมผสมผสาน

สัมผัสแสงดาวเหนือเมือง: ชมวิวกลางคืนจากเขาอินาสะ

เคเบิลคาร์สุดโรแมนติก สู่หนึ่งในวิวกลางคืนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าสู่ยอดเขาอินาสะ (Mount Inasa) เพื่อชมทัศนียภาพยามค่ำคืนของเมืองนางาซากิที่เปล่งประกายดั่งอัญมณีจากมุมสูง วิวนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งใน “3 วิวกลางคืนที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น” เหมาะกับคู่รักและสายโรแมนติก ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดในวันที่ฟ้าเปิด

นางาซากิ: เดินช้าๆ ในเมืองประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่า

บันทึกอดีต ความหลากหลาย และบทเรียนจากโลกที่ไม่ควรลืม นางาซากิเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่ผสานวัฒนธรรมญี่ปุ่น จีน และตะวันตกไว้อย่างลงตัว เที่ยวสะพานเมงาเนะ โบสถ์เก่า และย่านดัตช์ทาวน์สุดคลาสสิก ก่อนเข้าชมพิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณู เพื่อเรียนรู้เหตุการณ์สำคัญของโลก เหมาะกับผู้ที่อยากสัมผัสเรื่องราวลึกซึ้งผ่านสถานที่จริง

🏯คุมาโมโตะ: เมืองปราสาทกลางขุนเขา กับบรรยากาศเรียบง่ายที่ชวนหลงรัก

สงบ เรียบง่าย และงดงามในทุกมุมของประวัติศาสตร์ คุมาโมโตะเป็นเมืองเงียบสงบที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ของอดีต ไฮไลต์คือ “ปราสาทคุมาโมโตะ” หนึ่งในปราสาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น รายล้อมด้วยสวนสวยและเส้นทางเดินผ่อนคลาย เหมาะกับสายวัฒนธรรม คนรักความเรียบง่าย และผู้ที่อยากพักใจท่ามกลางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ในเมืองเล็กที่อบอุ่น

🌿เดินชมปราสาท เก็บใจในสวนญี่ปุ่น

วัฒนธรรมงามๆ กับธรรมชาติละมุนใจ เริ่มต้นที่ “ปราสาทคุมาโมโตะ” อันยิ่งใหญ่ หนึ่งในสมบัติประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นที่ยังคงความสง่างามแม้ผ่านเหตุแผ่นดินไหว จากนั้นแวะชม “สวนซุยเซ็นจิ” สวนญี่ปุ่นสไตล์ดั้งเดิมที่จัดแต่งอย่างปราณีต มีสระน้ำใสและวิวภูเขาจำลอง เหมาะกับคนรักความเรียบง่าย สงบ และมีใจให้วัฒนธรรมญี่ปุ่น

🏯 ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle)

หนึ่งในปราสาทที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งที่สุดของญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยกำแพงหินสูงและสถาปัตยกรรมซามูไรยุคศตวรรษที่ 17 หลังฟื้นฟูจากแผ่นดินไหว ปราสาทแห่งนี้ยังคงเปล่งประกายความสง่างามและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอย่างแท้จริง

🌿 สวนซุยเซ็นจิ (Suizenji Jojuen Garden)

สวนญี่ปุ่นสไตล์โบราณที่จัดแต่งอย่างประณีต มีสระน้ำใสใหญ่กลางสวนและภูเขาไฟฟูจิจำลองในมุมสงบ เหมาะสำหรับเดินเล่น พักผ่อน จิบชาในโรงน้ำชา และชมธรรมชาติในบรรยากาศที่เงียบเรียบแต่งดงาม

🍵จิบชาในวันเก่า: คาเฟ่ในบ้านญี่ปุ่นโบราณที่อบอุ่นทุกมุม

ย้อนเวลาเบาๆ ในบ้านไม้ กับกลิ่นกาแฟหอมละมุน คาเฟ่ในบ้านญี่ปุ่นดั้งเดิมคือเสน่ห์เฉพาะตัวที่หายาก ไม่ว่าจะเป็นพื้นเสื่อทาทามิ บานเลื่อนไม้ หรือสวนเล็กๆ หลังบ้าน ทุกอย่างชวนให้นั่งนานและรู้สึกผ่อนคลายเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเรียบง่าย มีเสน่ห์ และต้องการพักใจในบรรยากาศเงียบสงบแบบญี่ปุ่นแท้ๆ

เที่ยวเบาใจในมุมสงบ: ญี่ปุ่นในจังหวะช้าๆ สำหรับทุกวัย

ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องวุ่น แค่ใช้เวลาดีๆ ร่วมกัน เหมาะสำหรับคนที่อยากหลีกหนีจากเมืองใหญ่และความเร่งรีบ เที่ยวเมืองเล็กๆ ที่มีทั้งธรรมชาติ วัดเก่า สวนสวย และคาเฟ่เงียบๆ เดินสบาย ถ่ายรูปได้ทุกมุม เหมาะกับทั้งครอบครัวหรือผู้สูงอายุ ไม่ต้องรีบแต่เต็มไปด้วยความสุขเรียบง่ายในทุกจังหวะของวัน

🌊 มิยาซากิ: เมืองริมทะเลที่มีลมทะเลและจังหวะชีวิตเบาๆ

พักใจที่ชายฝั่งใต้ คิวชูในเวอร์ชันผ่อนคลาย มิยาซากิเป็นเมืองชายทะเลที่เงียบสงบและอากาศดีตลอดปี เหมาะกับคนที่อยากพักชิลล์ ท่ามกลางธรรมชาติแบบไม่เร่งรีบ มีทั้งชายหาดสวย จุดชมวิวมหาสมุทร แหล่งเซิร์ฟยอดนิยม และศาลเจ้าริมผา เหมาะกับสายธรรมชาติ คู่รัก หรือครอบครัวที่อยากหลีกหนีความวุ่นวาย

🐚มิยาซากิละมุนลมทะเล: ศาลเจ้าริมหินคลื่น อาหารทะเลสดริมฝั่ง

พักใจให้คลื่นลูบเบาๆ แล้วค่อยๆ ตักความสุขเข้าปาก เดินเล่นบนเกาะอาโอชิมะ เพื่อสักการะศาลเจ้าอาโอชิมะ ท่ามกลางหิน “ล้างกระดานปีศาจ” อันเป็นเอกลักษณ์ ก่อนขับเลียบชายฝั่งนิชินัน (Nichinan) ที่มีวิวทะเลสีฟ้าและหน้าผางดงาม ปิดท้ายด้วยมื้ออร่อยจากอาหารทะเลสดๆ ในร้านท้องถิ่นบรรยากาศอบอุ่นริมฝั่ง

⛩️ ศาลเจ้าอาโอชิมะ (Aoshima Shrine)

ตั้งอยู่บนเกาะเล็กกลางทะเล เชื่อมถึงด้วยสะพานเดินเท้า ศาลเจ้าสีแดงสดตั้งอยู่ท่ามกลางแนวหินธรรมชาติที่เรียกว่า “ล้างกระดานปีศาจ” (Oni no Sentakuita) เป็นจุดขอพรยอดนิยมด้านความรักและการเดินทางปลอดภัย

🌊 ชายฝั่งนิชินัน (Nichinan Coast)

เส้นทางเลียบทะเลทางใต้ของมิยาซากิที่เต็มไปด้วยจุดชมวิว ทั้งหน้าผา โขดหิน และวิวคลื่นกระทบฝั่งที่สวยงาม เหมาะสำหรับขับรถเที่ยวแบบชิลล์ๆ หรือแวะถ่ายรูปในมุมธรรมชาติสวยไม่ซ้ำใคร

🐟 อาหารทะเลสด

มิยาซากิขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดใหม่จากทั้งฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกและอ่าว มีให้เลือกทั้งซาชิมิ ปลาย่าง และข้าวหน้าปลาดิบในร้านท้องถิ่นที่อบอุ่นและราคาย่อมเยา เหมาะกับสายกินที่อยากชิมรสชาติทะเลแท้ๆ

🌴มิยาซากิ: หาดฟ้า ใจเบา ธรรมชาติที่ปลายเกาะคิวชู

หนีเมือง มานอนฟังคลื่น แล้วปล่อยให้ลมทะเลเยียวยาใจ มิยาซากิคือจุดหมายที่ลงตัวสำหรับคนรักธรรมชาติและทะเล เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน มีทั้งชายหาดสวย น้ำทะเลสีฟ้าแนวปะการัง และเส้นทางเลียบฝั่งให้ขับรถชมวิวสบายๆ เหมาะกับทั้งสายชิล สายถ่ายรูป หรือคนที่แค่อยากพักใจจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่

🌋คาโกชิมะ : เมืองปลายใต้กับเงาภูเขาไฟซากุระจิมะ

ธรรมชาติทรงพลัง วัฒนธรรมเข้มข้น และวิวที่ไม่มีวันซ้ำ คาโกชิมะเป็นเมืองชายทะเลที่มีภูเขาไฟซากุระจิมะตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าแบบใกล้ชิดไม่เหมือนใคร สามารถล่องเรือข้ามไปชมภูเขาไฟได้ หรือแช่ออนเซ็นพร้อมวิวปุยควันจากปล่องภูเขา เพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นและสวนสไตล์ญี่ปุ่น เหมาะสำหรับสายธรรมชาติและคนชอบบรรยากาศเงียบสงบแต่ทรงพลัง

🚢♨️ซากุระจิมะกลางสายหมอก: ล่องเรือ–แช่ออนเซ็น รับพลังจากธรรมชาติ

เมื่อภูเขาไฟไม่ใช่ความน่ากลัว แต่เป็นวิวที่ตราตรึงใจ คาโกชิมะมอบประสบการณ์ใกล้ชิดธรรมชาติสุดพิเศษ ด้วยการล่องเรือชมวิวภูเขาไฟซากุระจิมะจากกลางอ่าวคาโกชิมะ มองเห็นปล่องควันที่ยังคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา ปิดท้ายด้วยการแช่ออนเซ็นริมทะเล ฟังเสียงคลื่นพร้อมวิวภูเขาไฟตรงหน้า เป็นความสงบที่แฝงพลังอย่างแท้จริง

🚢 ล่องเรือชมวิวภูเขาไฟซากุระจิมะ

นั่งเรือเฟอร์รี่หรือล่องเรือชมวิวในอ่าวคาโกชิมะ เพื่อชมภูเขาไฟซากุระจิมะแบบใกล้ชิดจากทะเล มองเห็นปล่องควันและภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา วิวระหว่างทางสวยงามทั้งกลางวันและยามเย็น เหมาะกับสายถ่ายรูปและคนรักธรรมชาติ

♨️ แช่ออนเซ็นริมทะเล

สัมผัสประสบการณ์แช่ออนเซ็นพร้อมชมวิวทะเลและภูเขาไฟอยู่ตรงหน้า หลายเรียวกังในคาโกชิมะมีบ่อออนเซ็นกลางแจ้งที่มองเห็นซากุระจิมะชัดเจน เป็นความผ่อนคลายที่ลงตัวระหว่างธรรมชาติร้อนจากใต้ดินกับลมทะเลเย็นสบาย

🍲คุโรบูตะ: หมูดำแห่งคาโกชิมะ ที่ละลายในปากทุกคำ

เนื้อนุ่ม มันแทรกพอดี รสชาติที่นักชิมห้ามพลาด หมูดำคุโรบูตะของคาโกชิมะขึ้นชื่อเรื่องเนื้อนุ่มหวานและไขมันละเอียดละลายในปาก เป็นสายพันธุ์พิเศษที่เลี้ยงในท้องถิ่น นิยมเสิร์ฟแบบชาบูชาบู ทงคัตสึ หรือหม้อไฟคุโรบูตะสไตล์ญี่ปุ่น มื้อเดียวอาจไม่พอสำหรับความอร่อยระดับตำนานนี้!

🌋🌿คาโกชิมะ: ธรรมชาติร้อนแรง กับภูเขาไฟที่ยังหายใจ

เที่ยวให้ตื่นตา สูดกลิ่นดินร้อน แล้วปล่อยใจในจังหวะธรรมชาติ คาโกชิมะเหมาะกับสายรักธรรมชาติที่อยากสัมผัสอะไรแปลกใหม่ นี่คือเมืองที่มีภูเขาไฟซากุระจิมะคุกรุ่นอยู่ทุกวัน แต่ก็ยังเต็มไปด้วยชีวิต ผู้คน และธรรมชาติรอบด้าน ทั้งเส้นทางเดินชมลาวา สวนสวยริมทะเล และออนเซ็นจากพลังใต้พิภพ เป็นปลายทางที่ให้ทั้งความสงบและความตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน

🚞🧳คิวชูช้า ๆ แต่ชัดเจน: เดินทางแบบไม่รีบ เพื่อเก็บทุกความรู้สึกระหว่างทาง

เพราะการเดินทางช้า…คืออีกวิธีหนึ่งของการเที่ยวให้ลึก เที่ยวคิวชูแบบไม่เร่งรีบเริ่มจากการใช้รถไฟท้องถิ่นหรือ JR Kyushu แบบพาสที่ครอบคลุมหลายเมืองหลัก เช่น ฟุกุโอกะ เบปปุ ยูฟุอิน คุมาโมโตะ และคาโกชิมะ ควรเลือกพักแต่ละเมืองอย่างน้อย 1–2 คืน เพื่อมีเวลาเดินเล่นเข้าซอย ลองคาเฟ่ ดูพระอาทิตย์ตกริมทะเล หรือแช่ออนเซ็นยามเช้า เหมาะกับคนที่อยากได้ “การเดินทาง” มากกว่าแค่ “การเช็กอิน”

🚄 เที่ยวคิวชูอย่างคุ้มค่า ด้วย JR Kyushu Pass

เลือกจำนวนวันให้เหมาะ แล้วปล่อยให้รางรถไฟพาไปเจอเรื่องดีๆ JR Kyushu Pass คือบัตรโดยสารรถไฟสุดคุ้มสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวทั่วคิวชูอย่างอิสระ มีให้เลือกทั้งแบบ 3, 5 หรือ 7 วัน ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษ (รวมถึง Yufuin no Mori และ Sonic) ได้ไม่จำกัดในช่วงเวลาที่เลือก เหมาะกับการเดินทางช้าๆ จากเมืองหนึ่งสู่อีกเมือง เช่น ฟุกุโอกะ – เบปปุ – คุมาโมโตะ – คาโกชิมะ แบบไม่ต้องซื้อตั๋วแยกให้ยุ่งยาก

🎫 JR Kyushu Rail Pass – เลือกแบบไหนคุ้มสุด?

All Kyushu Pass (เที่ยวได้ทั่วเกาะ)

• 3 วัน ~ 17,000 เยน
• 5 วัน ~ 18,500 เยน
• 7 วัน ~ 20,000 เยน
  👉 เหมาะกับคนที่อยากเก็บหลายเมือง เช่น ฟุกุโอกะ → เบปปุ → คุมาโมโตะ → คาโกชิมะ → นางาซากิ

Northern Kyushu Pass (คิวชูเหนือ)

• 3 วัน ~ 11,000 เยน
• 5 วัน ~ 13,000 เยน
  👉 ครอบคลุม ฟุกุโอกะ, นางาซากิ, เบปปุ, ยูฟุอิน, คุมาโมโตะ
  👉 ไม่รวมคาโกชิมะ

Southern Kyushu Pass (คิวชูใต้)

• 3 วัน ~ 10,000 เยน
  👉 ครอบคลุม คาโกชิมะ, มิยาซากิ, คุมาโมโตะ
  👉 เหมาะกับคนบินลงคาโกชิมะโดยตรง

🚅 JR Kyushu Rail Pass ใช้ขึ้นรถอะไรได้บ้าง?

✅ ใช้ได้

• รถไฟ JR ทุกประเภทในพื้นที่พาสครอบคลุม
• รถไฟด่วนพิเศษ (Limited Express)
• รถไฟท่องเที่ยวชื่อดัง เช่น Yufuin no Mori (ฟุกุโอกะ ↔ ยูฟุอิน), Sonic (ฟุกุโอกะ ↔ เบปปุ), A-Train, Ibusuki no Tamatebako, Kamome (บางขบวนต้องจองที่นั่ง)

🚫 ใช้ไม่ได้

• Sanyo Shinkansen (ฝั่งฮอนชู เช่น ฮิโรชิมะ ↔ โอซาก้า)
• รถไฟเอกชนที่ไม่ใช่ JR (เช่น Nishitetsu)

📌 ข้อควรรู้

• ซื้อได้เฉพาะ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ถือพาสปอร์ตพร้อมตรา Temporary Visitor
• ควร จองล่วงหน้าผ่านออนไลน์ หรือซื้อจากตัวแทนที่ได้รับอนุญาต
• เมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่น สามารถนำพาสปอร์ตไปรับบัตรจริงที่สถานี JR

🚞นั่งรถไฟช้าไปให้สุดใจ: เส้นทางสวย..ระหว่างฟุกุโอกะถึงยูฟุอิน

เมื่อการเดินทางคือประสบการณ์ ไม่ใช่แค่ปลายทาง รถไฟท้องถิ่นสายพิเศษอย่าง Yufuin no Mori คือหนึ่งในวิธีเที่ยวคิวชูที่ทั้งช้าและงดงาม ตัวรถไฟตกแต่งด้วยไม้และกระจกบานใหญ่ ให้คุณชมวิวภูเขา ป่าไม้ และหมู่บ้านเล็ก ๆ ระหว่างทางจากฟุกุโอกะสู่ยูฟุอินแบบละเมียดละไม เหมาะกับคนที่อยากให้ทุกนาทีของการเดินทาง “มีความหมาย” มากกว่าความเร็ว

🚞 Yufuin no Mori – รถไฟสายโรแมนติกสู่ยูฟุอิน

🗺️ เส้นทาง

• Hakata (ฟุกุโอกะ) → Yufuin → Oita (บางขบวน)
• ใช้เวลา ~2 ชั่วโมง 10 นาที
• วิ่งวันละ 1–2 ขบวน 👉 ควรจองล่วงหน้า

🌲 ไฮไลต์

• ขบวนสีเขียวคลาสสิก ตกแต่งไม้ บรรยากาศอบอุ่น
• หน้าต่างใหญ่ ชมวิวภูเขา ป่า ลำธาร
• มีเลาจน์ขายของที่ระลึก เครื่องดื่ม ขนมท้องถิ่น
• ที่นั่งกว้าง มีทั้งแบบเดี่ยว คู่ และโต๊ะกลาง

💴 ค่าโดยสาร

• ไม่มี JR Pass → ~5,500 เยน (รวมค่าจองที่นั่ง)
• มี JR Kyushu Pass → ขึ้นฟรี + จองที่นั่งได้

📌 ข้อควรรู้

• ต้องจองที่นั่งล่วงหน้า (เป็นรถไฟระบุที่นั่งทั้งหมด)
• วิ่งเฉพาะบางวัน โดยเฉพาะวันหยุด/ฤดูท่องเที่ยว
• ไม่มีตู้ขายอาหารจริงจัง → ควรซื้อของกินก่อนขึ้น

🚗🌿เช่ารถขับเที่ยวคิวชู: อิสระเต็มที่ในเมืองชนบทและธรรมชาติ

เปิดประตูสู่เส้นทางที่ไม่มีในแผนที่ทัวร์ การเช่ารถขับเที่ยวในคิวชูช่วยให้คุณเข้าถึงสถานที่ซ่อนเร้นในชนบทที่รถไฟไม่ถึง เช่น หมู่บ้านเล็กๆ ทุ่งดอกไม้ ภูเขาและชายฝั่งที่งดงาม การมีรถยนต์ส่วนตัวเพิ่มความยืดหยุ่น สามารถแวะพักตามใจ ชิมอาหารท้องถิ่น หรือลัดเลาะเส้นทางที่สวยงามมากขึ้นโดยไม่ต้องรีบเร่ง เหมาะกับคนรักธรรมชาติและต้องการประสบการณ์ท้องถิ่นแบบแท้จริง

🚘 รายละเอียดสำคัญในการเช่ารถขับในคิวชู

• ใบขับขี่ระหว่างประเทศ (IDP): จำเป็นต้องมีใบขับขี่สากลที่ถูกต้องตามกฎหมายญี่ปุ่น (สามารถขอได้ที่ประเทศต้นทางก่อนเดินทาง)
  
• การเช่ารถ: มีบริษัทให้บริการหลายแห่งในสนามบินใหญ่ เช่น ฟุกุโอกะ คาโกชิมะ หรือสถานีรถไฟหลัก
  
• ระบบนำทาง (GPS): รถเช่าส่วนใหญ่มี GPS ภาษาอังกฤษ และแอปนำทางบนมือถือช่วยได้มาก
  
• กฎจราจร: ขับรถชิดซ้ายในญี่ปุ่น ระวังป้ายจราจรและความเร็วจำกัดในแต่ละพื้นที่
  
• ที่จอดรถ: ควรเตรียมเงินสดสำหรับค่าจอดตามเมืองเล็กและสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่ง

🚶‍♂️สรุปเที่ยวคิวชูไม่เร่งรีบ: 7 เมืองชิลล์ๆ สำหรับสายสโลว์ไลฟ์

ช้าๆ แต่ลึกซึ้ง กับเสน่ห์เกาะใต้แห่งญี่ปุ่น คิวชูคือเกาะที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ สำหรับมือใหม่ แนะนำเริ่มต้นจาก 7 เมืองยอดนิยม ได้แก่ ฟุกุโอกะ เมืองใหญ่ทันสมัยและสะดวก เบปปุ เมืองออนเซ็นชื่อดัง นางาซากิ เมืองประวัติศาสตร์หลากวัฒนธรรม คุมาโมโตะ ปราสาทสวยและสวนงาม ยูฟุอิน หมู่บ้านออนเซ็นสุดชิล มิยาซากิ เมืองริมทะเลสบายๆ และคาโกชิมะ เมืองภูเขาไฟซากุระจิมะ การเดินทางแนะนำใช้ JR Kyushu Pass และเช่ารถขับเพื่อความอิสระ ทริปนี้เน้นความสงบ ชิลล์ และชื่นชมธรรมชาติอย่างแท้จริง