Contents Index
เรามักจะย้ำอยู่เสมอว่าการเตรียมตัวเป็นสิ่งที่ดี การวางแผนการเดินทางมาล่วงหน้าจะทำให้ประหยัดเวลา และลดเปอร์เซ็นต์การหลงทางได้ค่อนข้างมาก แต่ก็เข้าใจว่าพอไปถึงหน้างานมันก็มีงงกันบ้างอยู่ดี และเพื่อให้การเดินทางง่ายขึ้น แนะนำให้ทำแผนการเดินทางเอาไว้เลย
ถามว่าต้องแพลนยังไงถึงจะรู้ว่าเดินทางจากสถานีไหนไปที่สถานีไหนบ้าง วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการใช้ Application ช่วย พวก Application เกี่ยวกับการเดินทางโดยรถไฟญี่ปุ่นนั้นมีอยู่เยอะมาก อย่าง Hyperdia, Travel เป็นต้น แอปเหล่านี้จะช่วยให้คุณรู้ว่า ต้องขึ้นรถไฟสายอะไร ไปลงที่ไหน ต่อรถ เปลี่ยนขบวน ชานชาลาที่จะต้องขึ้น รวมถึงราคาค่าโดยสารด้วย
ในบทความนี้เราได้รวบรวมคำถามที่นักท่องเที่ยวสงสัยกันมากที่สุดเกี่ยวกับการขึ้นรถไฟที่ญี่ปุ่น พร้อมกับคำตอบที่จะทำให้คุณโล่งใจว่า เฮ้ยยย ! ขึ้นรถไฟมันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น (รึเปล่า ?) มาดูกันว่า Q&A เหล่านี้จะช่วยคลายความสงสัยของคุณได้หรือไม่
เมื่อเรารู้แล้วว่าเราต้องใช้รถไฟสายอะไร หลังจากนี้ก็ไม่ยากเลย แค่ดูที่แผนที่ เค้าจะมีบอกว่ารถไฟสายนี้สีอะไร จากนั้นเราก็ลองไล่สายตาไปตามสีนั้นเพื่อหาสถานีที่เราจะลง ตรวจสอบดูว่าถูกสายหรือเปล่า แต่ถ้ารู้แค่ชื่อสถานี ไม่รู้ว่าต้องขึ้นสายอะไร ลองเช็คใน Application ดูก็ได้
โดยปกติแผนที่รถไฟที่หน้าตู้จำหน่ายตั๋วจะมีตัวเลขราคาบอกตามสถานีอยู่แล้ว เพียงแค่คุณเงยหน้าขึ้นไปมองหาสถานีตัวเองให้เจอเท่านั้น หรือไม่ก็ใช้ IC CARD แตะเข้าไปในสถานี ตัวเลขก็จะโชว์ที่หน้าจอที่เราแตะตรงทางเข้าเลยว่ามีเงินคงเหลือเท่าไหร่ อ้อ Hyperdia ก็สามารถเช็คราคาในแต่ละเส้นทางที่เราจะไปได้เหมือนกันนะ
เมื่อถึงสถานีที่จะเปลี่ยนสาย มักจะมีเสียงประกาศว่าสถานีนี้จะเชื่อมต่อกับรถไฟสายอะไรบ้าง พอเรารู้ชื่อสายที่ต้องการจะไปต่อแล้ว ก็ให้อ่านที่ป้ายในสถานี อาจจะอยู่ที่ผนัง ป้ายด้านบน หรือบนพื้นแล้วเดินตามลูกศรไปตามเส้นทางนั้น ยิ่งถ้ามีสีให้เราจดจำได้ยิ่งง่ายเลย แค่เดินตามสีไป ระหว่างทางก็มองตามป้าย บางสถานีอาจจะต้องขึ้นหรือลงไปอีกชั้น
ใครก็เคยเป็น ลงไปถึงสถานีแล้วแต่งงว่าต้องไปทางซ้ายหรือขวา ให้เงยหน้ามองดูป้ายด้านบนว่าฝั่งนี้ไปทางไหน ซึ่งมักจะบอกเป็นชื่อสถานีสุดสาย หรือสถานีใหญ่ๆที่ผ่าน เช่น For ….. (มีภาษาอังกฤษ) แต่หากว่าดูแล้วก็ยังไม่รู้ ให้เช็คในแอปไปเลยว่าต้องไปที่ชานชาลาไหน หรือเดินไปดูที่ป้ายแผนที่ตรงทางเข้ารถไฟก็ได้ว่าป้ายถัดไป มีชื่อสถานีที่เราจะไปหรือเปล่า
เวลาจะดูว่ารถขบวนไหนเร็วหรือช้า ให้ดูที่ป้ายเป็นหลัก โดยถ้าจะขึ้นรถไฟ Express อาจจะต้องดูให้ดีว่ารถไฟที่จะขึ้นนั้นจะจอดสถานีที่เราจะไปหรือไม่ อาจจะเช็คจากป้ายที่อยู่ด้านบนชานชาลา หรือจอที่ติดอยู่ที่รถไฟตอนที่ขบวนนั้นมาถึง
สามารถเช็คเวลารถออกจากตู้ที่ซื้อตั๋ว ว่ามีรอบเวลาไหนบ้าง หรือถ้าไม่มีรอบให้เลือกตอนซื้อ ให้ดูตามป้ายหรือจอในสถานี และชานชาลาที่เราจะขึ้นรถไฟ เราจะทราบได้ว่ารถไฟขบวนไหน จะออกจากสถานีเวลาใด แต่ถ้าอยากกำหนดเวลาเดินทางล่วงหน้าก็ให้เช็คจาก Application ดูก่อน (และยังสามารถรู้เวลาที่รถไฟไปถึงแบบคร่าวๆได้ด้วย) เมื่อรู้เวลาแล้วก็แค่ไปให้ถูกชานชาลา จำชื่อขบวนรถไฟที่เราจะขึ้นไว้ ดูจอด้านบนชานชาลาว่าเวลาตรงกัน เป็นอันถูกต้อง
บางครั้งเราอาจจะซื้อตั๋วมาผิดราคา เพราะความเข้าใจผิด หรือบางทีอาจจะไม่รู้ตัว เอาตั๋วไปสอดออกไม่ได้ เครื่องคายกลับมา ไม่ต้องตกใจ ให้เดินไปที่เคาน์เตอร์ของสถานที่รถไฟที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ แล้วแจ้งว่าขึ้นรถไฟมาจากสถานีอะไร จะไปลงที่ไหน เดี๋ยวเจ้าหน้าที่เค้าจะเอาตั๋วไปเช็ค แล้วจัดการข้อมูลในบัตร อาจจะมีการจ่ายเงินค่าตั๋วเพิ่มนิดหน่อย ไม่ต้องกลัวเค้าจะจับเรานะ
สำหรับใครที่พกบัตรแทนเงินสด หรือ IC CARD เพื่อใช้จ่ายค่ารถไฟ (หรือรถโดยสารอื่นๆ) ปกติเมื่อแตะบัตรเข้าไปในสถานี บนจอจะโชว์ตัวเลขยอดเงินคงเหลือในบัตร แต่ถ้าหากคุณไม่รู้ว่าจำนวนเงินที่เหลือในบัตรนี้จะพอสำหรับการเดินทางหรือไม่ ก็ให้เติมที่ตู้เติมบัตรในสถานีรถไฟ หรือถ้าไม่ได้สังเกตเงินที่เหลือ แต่ไปแตะออกไม่ได้ ก็แค่เดินกลับเข้ามาหาตู้เติมเงินในสถานี เติมง่ายๆ ที่ตู้มีภาษาอังกฤษ บางตู้รองรับภาษาไทยด้วย หรือจะเดินไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อจ่ายส่วนต่างก็ได้ (สำหรับโตเกียว ถ้าเงินในบัตรไม่พอ อาจจะไม่สามารถเข้าตั้งแต่แรก แนะนำให้เติมเงินใส่บัตรก่อนติ๊ดเข้านะ)
รถไฟสาย JR ย่อมาจาก Japan Railways กลุ่มบริษัทรถไฟญี่ปุ่นนั้นมีอยู่หลายสาขาขึ้นอยู่กับตำแหน่ง เช่น Japan Railways East (JR East) ซึ่งจะครอบคลุมบริเวณโทโฮคุและคันโต, JR West ที่ครอบคลุมบริเวณคันไซและ JR Kyushu ที่ครอบคลุมบริเวณคิวชู เป็นต้น
ส่วนรถไฟใต้ดินในโตเกียว แบ่งออกเป็นสองบริษัท คือ Tokyo Metro และ Toei Subway นอกจากนี้ยังมีสายรถไฟอื่นๆ อีกขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการเช่น รถไฟสาย Odakyu
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเส้นทางที่คุณไปจะมีรถไฟสายไหนผ่านบ้าง บางสถานีก็มีรถไฟหลายสายผ่าน โดยเฉพาะพวกสถานีใหญ่ๆ สามารถเลือกใช้บริการได้ตามใจเลย
คำถามยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยว อย่างที่บอกว่าคุณต้องรู้จุดหมายปลายทางของตัวเองก่อน จัดแพลนสถานที่เที่ยวของคุณ จากนั้นให้หาข้อมูลพาสของแต่ละสถานที่ว่าเหมาะกับอันไหนมากที่สุด อาจจะเข้าไปดูในเว็บไซต์ หรืออ่านรีวิว เช่น ถ้าคุณจัดแพลนเที่ยวแล้วสถานที่ที่ไปส่วนใหญ่ใช้เส้น JR คุณอาจจะซื้อ JR Rail Pass หรือ Tokyo Wide Pass แต่ถ้าคุณจะเน้นไปแถบกินซ่า อาซากุซะ นากะเมกุโระ ที่ส่วนใหญ่เดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน คุณอาจจะซื้อตั๋วแบบ Subway Pass แทน
ไม่มีพาสที่ดีที่สุด มีแค่พาสที่คุ้มที่สุด เพราะพาสรถไฟที่ญี่ปุ่นนั้นเยอะมาก แต่ถ้ายังไม่ชัวร์ว่าคุ้มจริงมั้ย ให้เข้าไปที่เคาน์เตอร์ของสถานีรถไฟเพื่อสอบถาม เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำที่ดีที่สุดให้คุณเอง
รถไฟบางประเภทอย่าง Shinkansen สามารถนำอาหารขึ้นไปทานได้ (บนขบวนก็มีขายเช่นกัน) แต่ถ้าเป็นรถไฟใต้ดินอย่าง Subway ล่ะก็ ไม่ได้เด็ดขาด !!! เพราะเป็นกฎระเบียบของเค้า แม้แต่เครื่องดื่มก็ยังไม่ได้เลย อ้อ ! แล้วก็เรื่องที่คนน่าจะทราบกันดีก็คือห้ามคุยโทรศัพท์บนรถไฟทุกประเภท เพราะเป็นการเสียมารยาทมากๆเลยล่ะ
อันดับแรกให้นึกดูดีๆว่ารถไฟที่คุณขึ้นล่าสุด มีข้อมูลอะไรบ้าง เช่น ประเภทรถไฟ เวลาที่ขึ้น เวลาที่ออก ขึ้นจากสถานีไหน ลงจากสถานีไหน (กรณีออกจากสถานีแล้วเพิ่งนึกขึ้นได้) จากนั้นให้ไปแจ้งของหายกับเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ของสถานี พยายามให้ข้อมูลให้ได้มากที่สุด บอกรายละเอียดของสิ่งของที่ลืม ตำแหน่งที่คิดว่าน่าจะลืมไว้ แล้วให้ข้อมูลการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่ ส่วนใหญ่มักจะได้รับคืน เพราะคนญี่ปุ่นที่เก็บได้มักจะเอาไปแจ้งอยู่แล้ว
ได้คำตอบกันมามากพอแล้ว อาจจะคลายความสงสัยกันไปได้บ้าง หากว่ามีคำถามอะไรเพิ่มเติมสามารถถามมาได้ทาง Facebook ของ Chill Chill Japan ได้เลย แล้วเราจะมาไขคำตอบให้ทุกคนเองนะ 🙂
Blogger : Morning Kids
นัก(ฝึก)เขียนที่ใช้ชีวิตที่เกียวโต 2 ปี ปัจจุบันตัวอยู่ออฟฟิศจิตอยู่ดาวพุธ เลี้ยงชิวาว่าหน้าประหลาด นับถือศาสนาหม่าล่า และรักการกินส้มตำปูม้าเจ๊ไก่
70 Posts
เที่ยวญี่ปุ่น 2022 เปิดเงื่อนไข วิธีการขอวีซ่า ไกด์ไลน์เที่ยวจัดเต็ม
เปิดข้อมูลการ เที่ยวญี่ปุ่น 2022 / 2565 เปิดทุกเกณฑ์การท่องเที่ยวแบบจัดเต็ม กา...
วิธีเดินทางสุดประหยัดจากโตเกียว เที่ยวฟูจิ ที่คาวากูจิโกะ
ทริป เที่ยวฟูจิ คราวนี้ไม่มีหลง เพราะเรารวบรวมวิธีการเดินทางจากกรุงโตเกียวไปยั...
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ด ความน่าสนใจ ที่ต้องไปเยือน
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ดน่าเที่ยว ที่มีความโดดเด่นน่าสนใจ ท...
ไป โตเกียวพักย่านไหนดี แนะนำ 15 ย่าน เลือกพักตามสไตล์ที่ใช่
ตอบคำถามให้หายสงสัย ไปโตเกียว พักย่านไหนดี ! แนะนำ 15 ย่านในโตเกียวที่คู่ควรแก...
รวม แอพ รถไฟ ญี่ปุ่น เช็คได้ทั่วประเทศ ใช้สะดวก ไม่มีหลง
รวม แอพ รถไฟ ญี่ปุ่น สุดสะดวก จัดให้แบบเต็มๆ ทุกแอเรีย หาสาย เช็คเวลากันแบบชิล...
บัตร Osaka E-Pass ให้คุณไปท่องเที่ยวได้มากกว่า 20 สถานที่แบบฟรีๆ ใช้ระบบแสกน QR-CODE ไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋ว
14/03/2023 | Japan
จุดชมซากุระได้ตั้งแต่เมษายนถึงพฤษภาคม 16 พิกัดชมซากุระในโทชิงิและมินามิโทโฮคุที่ไม่ควรพลาด
23/02/2023 | Tohoku
สุดยอดสถานที่เที่ยววิวสวยแห่งโทชิงิ-มินามิโทโฮคุ 16 แห่ง! ทิวทัศน์สวยงามตระการตาจากธรรมชาติที่หาดูได้จากที่นี่ที่เดียว
23/02/2023 | Japan
เหล้าบ๊วยญี่ปุ่น 7 อันดับ รสเยี่ยม ที่ต้องห้ามพลาด
23/02/2017 | Japan
แต่งตัวไปญี่ปุ่นเดือนเมษายน เที่ยวสบาย ในฤดูใบไม้ผลิ
05/04/2017 | Japan
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-5285-8088
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
03-5789-2449
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
06-6262-9226-7
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
092-686-8775
เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุ๊กกี้ของเราผ่านทาง นโยบายความเป็นส่วนตัว