Sano Premium Outlets จุดเช็คอินแห่งใหม่ที่คนทุกวัยต้องมา

12/06/2019 (อัพเดทเมื่อ 15/07/2024)
ทริปชิลๆวันนี้เราเอาใจสายช้อปปิ้งกันนะจ๊ะ และก็ไม่ได้ไกลจากโตเกียวมากเลย นั่งรถบัสโดยตรงจากสถานีโตเกียวไปแค่ 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว นั่นคือ Sano Premium Outlets ที่อยู่ จ. โทจิกินี่เอง

ที่ Sano Premium Outlets นอกจากความบันเทิงเริงใจในการจับจ่ายสินค้าดี ราคาย่อมเยาแล้ว ใกล้ๆเอาท์เลทยังมีสวนดอกไม้ชื่อดัง Ashikaga flower Park มีราเมงเจ้าอร่อยและตบท้ายด้วยสตรอว์เบอร์รี่ที่ให้เราเก็บทานได้สดๆจากต้นเลย และ Sano Premium Outlets นี้ยังเป็น Outlets ในเครือเดียวกับ Outlets ที่ Gotemba ด้วยนะ

ไม่เสียเวลาละนะ เราเดินตรงไปที่สถานีโตเกียวกันก่อนเลย ป้ายขึ้นรถบัสก็อยู่ฝั่ง Yaesu หมายเลข 6 ตามภาพเลยจ้า

Sano Premium Outlet

ขั้นตอนการซื้อตั๋วรถบัสก็ไม่ยาก ใกล้ๆกันจะมีห้องขายตั๋ว เดินเข้าไปเลย จะเลือกซื้อตั๋วกับเจ้าหน้าที่หรือกดซื้อเองที่ตู้ก็ไม่ได้ยากนะ ลองทำดูได้

Sano Premium Outlets

Sano Premium Outlet

กดเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษก่อน

Sano Premium Outlet

ทำตามขั้นตอนต่อไป เลือกซื้อตั๋วของวันนี้

Sano Premium Outlet

กดเลือกปลายทาง แน่นอนว่าต้องเลือกที่มีคำว่า Sano

Sano Premium Outlet

ทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ จนถึงการยืนยันที่นั่ง ราคา แล้วกด OK

Sano Premium Outlet

จ่ายเงินแล้ว ตั๋วก็จะถูกปรินท์ออกมาแบบนี้

Sano Premium Outlet

ถือตั๋วใบนี้ขึ้นรถได้เลย ใครที่ไม่มีเวลาซื้อตั๋วก่อน สามารถไปจ่ายเงินที่คนขับรถตอนขึ้นรถได้เลยนะ สะดวกสบายมากๆ

Sano Premium Outlet

ตารางเวลา (จริงๆรถบัสนี้มีรอบที่ออกจากสถานีชินจูกุด้วยนะ มีหลายเวลาด้วย) Tokyo station Yaesu South exit to Sano Premium Outlets รอบเช้าเท่านั้น 8.40 / 10.40 / 11.40

Tokyo station Yaesu South exit to Sano Shintoshi Bus Terminal (สถานีรถบัสที่อยู่ใกล้เอาท์เลท) บ่าย 12.40/14.40/16.40/17.40/18.40/19.10/19.50/20.10/20.40/21.40/22.40

ภายในรถบัส ทุกที่นั่งมีปลั๊กด้วยนะ ใครจะชาร์จแบตมือถือก็ทำได้เลย ตอนจะลงก็แค่รอป้ายไฟด้านหน้าแจ้งเตือน ก็เตรียมตัวเลย ส่วนใครที่สะดวกเดินทางมารอบดึก ตั้งแต่รอบ20.10/20.40/21.40และ22.40 เมื่อมาถึงจุดลงรถที่ Sano Shintoshi Bus terminal ซึ่งเป็นจุดจอดสุดท้ายและอยู่ใกล้ Sano Premium Outlets ที่เดินไปแค่ 3 นาที เราแนะนำให้มาพักผ่อนหย่อนใจ แช่บ่อน้ำอุ่นๆ และชมวิวเมืองซาโนะยามค่ำคืนที่โรงแรมวิวสวย Kandeo Hotels โดยเดินจากจุดลงรถบัสมาแค่ 8 นาทีเท่านั้นเอง แล้วเช้าอีกวัน เราค่อยมาตะลุยช้อปปิ้งที่ Sano Premium Outlets ให้เต็มที่สุดๆทั้งวันไปเลย .. เยี่ยม

Sano Premium Outlet

พอราว 1 ชั่วโมงครึ่ง รถบัสก็นำเรามาถึงด้านหน้าของ Sano Premuim Outlets จอดกันใกล้ๆแบบนี้เลย (รถบัสบางรอบจะไปจอดที่ Sano Shintoshi Bus Terminal เลย แต่ไม่ต้องกังวลเพราะตรงนี้ห่างจาก Sano Premium Outlets โดยเดินแค่ 3 นาทีเท่านั้นเอง)

Sano Premium Outlet

เรามาถึงก่อนร้านเปิดนิดหน่อย ก็เดินสำรวจกันไปก่อน ที่นี่ต่างจากที่อื่นๆคือมีพื้นที่เยอะพอสมควร ร้านค้าแต่ละแบรนด์ก็เลยกว้างขวางตามไปด้วย จำนวนร้านค้าด้านในมีถึง 170 ร้านเลยนะ มีทั้งเสื้อผ้า ของใช้ ชุดกีฬา เครื่องสำอาง และร้านอาหาร

Sano Premium Outlet

มุมนี้คือสัญลักษณ์แห่ง Sano Premium Outlets เหมาะในการถ่ายรูปเล่นมาก ฮ่าๆ บรรยากาศราวสวนในยุโรป

Sano Premium Outlet

Sano Premium Outlet

โซนนี้คือทางเดินสำหรับดิชั้นจริงๆ

Sano Premium Outlet

GAP ที่สาขานี้ใหญ่มาก ไม่เข้าไม่ได้เลยค่ะ สินค้าเพียบ

Sano Premium Outlet

ก่อนที่จะเริ่มมหกรรมช้อปปิ้งกระจุยกระจาย เราควรจะแวะไปที่จุดประชาสัมพันธ์เพื่อรับคูปองส่วนลดพิเศษก่อนนะ มีส่วนลดตั้งแต่ 5-10 % โดยยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ดู ก็จะได้คูปองแบบนี้มา โดยมีรายละเอียดส่วนลดแต่ละร้านด้านในแผ่นพับคูปอง วิธีใช้คือ เมื่อซื้อของเสร็จตอนจะจ่ายเงินก็ยื่นใบคูปองนี้ให้ร้านค้าดูด้วย เท่านี้เองจ้า แล้วคูปองที่รับมานี้ยังนำไปขอรับเครื่องดื่มฟรีที่ภายใน Sano Premium Outlets ได้ด้วยนะ *ช่วงเทศกาลชมดอกฟูจิ หรือ วิสทีเรีย จะมีรถบัสวิ่งระหว่าง Ashikaga Flower Park – Sano Premium Outlets สะดวกสุดๆ

Sano Premium Outlet

ระหว่างเดินอยู่ด้านในเอาท์เลท เราก็อาจจะโชคดีได้เจอตัวคาแรกเตอร์ เจ้า sanomaru ขวัญใจของคนที่นี่ด้วยนะคะ น่ารักมาก เก็กท่าแต่ละท่า แหมๆ หมั่นไส้และเอ็นดูจริงๆ เจ้าซาโนะมารุเป็นคาแรกเตอร์ของเมืองซาโนะ เป็นสุนัขที่เป็นซามูไร ฮ่าๆๆ ใส่ชุด hakamaแบบกระโปรง ลากรองเท้าแตะ มีถ้วยราเมงคว่ำบนหัว และมีอาวุธที่ร้ายกาจทำด้วยมันฝรั่งชุบเกล็ดขนมปังทอดเสียบไม้ *เมนูนี้เป็นอาหารพื้นเมืองของที่นี่ โอ๊ย อะไรของเค้านะ ฮ่าๆๆ

Sano Premium Outlet

โถวๆๆ มีความนั่งดูฝาท่อรูปตัวเอง 555 เจ้าซาโนะมารุนี่เป็นเด็กชายนะคะ แต่ทำตัวคิขุอาโนเนะเหลือเกิน

Sano Premium Outlet

เดี๋ยวเราปลีกตัวไปสำรวจร้านแรกก่อน เอาใจคุณแม่บ้านที่รักงานบ้าน ด้วยถ้วยและแก้วที่ดีไซน์แบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่นของร้าน Tachikichi เป็นสินค้าคุณภาพดี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาจากเมืองเกียวโตเลยนะ ดูลายก็คงรู้แล้วนะคะว่านี่คือของฝากจากแจแปน ไฮ่

Sano Premium Outlet

มีถ้วยแล้วก็ต้องมีแก้วน้ำ จับคู่ลายสวยงาม

Sano Premium Outlet

ต่อไปเป็นมุมของเด็กๆละนะ เลโก้สุดฮิตมีลายใหม่ๆเพียบ เพิ่งสังเกตว่าร้านที่นี่ใหญ่จริงๆ มีมุมให้เด็กๆนั่งหยิบเลโก้เล่นหลายมุมเลย

Sano Premium Outlet

เลโก้ปราสาทดิสนีย์ สวยงามราวเนรมิต

Sano Premium Outlet

หันไปเจอพวงกุญแจ ฮ่าๆ มาได้ยังไงเนี่ย

Sano Premium Outlet

นอกจากของเล่นเลโก้แล้ว ตอนเราเดินไปร้าน Mikihouse เรายังพบว่าที่นี่คือคลังแสงแห่ง Mikihouse ด้วยนะ มีรองเท้าแทบจะทุกรุ่นเลยมั้ง เปลี่ยนใจมีลูกน้อยตอนนี้ทันไหมเนี่ย

Sano Premium Outlet

น่าร้ากกก

Sano Premium Outlet

มาร้านแซ่บๆ เอาใจวัยรุ่นบ้าง ต้องร้าน Beams เลยจ้า มีทั้งเสื้อผ้า รองเท้ารุ่นเก๋ๆ กระเป๋าและเครื่องประดับ

Sano Premium Outlet

พอเข้ามาด้านในร้าน นั่นไงเจอแล้ว มุ่งตรงไปทันที ฮิๆ รองเท้าสวยจัง

Sano Premium Outlet

Sano Premium Outlet

กระเป๋าเค้าก็เท่นะ หนุ่มๆชอบเลยล่ะ

Sano Premium Outlet

มุมเสื้อผ้าผู้หญิง มีลายเปรี้ยวๆ เริ่ดๆเพียบ ซื้อเสร็จก็เปลี่ยนใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ สวยไฉไลกว่าเดิมเลย

Sano Premium Outlet

แต่งตัวสวยหล่อแล้ว ก็ต้องหาเครื่องประดับข้อมือ แวบเข้าร้านนาฬิกากัน

Sano Premium Outlet

อัพเดทนาฬิกากันหน่อยว่ามีรุ่นไหนน่าซื้อบ้างนะ ระบบ Eco-Drive ลิขสิทธิ์ของนาฬิกาซิติเซ็นคือ การกักเก็บแสงไม่ว่าจะเป็นแสงจากดวงอาทิตย์หรือแสงไฟแล้วแปรเปลี่ยนเป็นพลังงาน และเก็บกักพลังงานนั้นไว้ใช้ได้ประมาณ 6-8 เดือน (แล้วแต่รุ่น) เหมาะสำหรับคนที่ใช้เป็นประจำ ถ้านาฬิการับแสงเป็นประจำก็จะใช้งานได้ต่อไปยาวนานเรื่อยๆ

Sano Premium Outlet

รุ่นนี้ก็สวยนะ ดูเหมาะกับการลุยๆดี

Sano Premium Outlet

ส่วนสาวๆคะ เราแวบมาดูเครื่องสำอางรอกันหน่อยดีไหม ร้าน The Cosmetics Company Store มีสิ่งดีๆรอเราอยู่ค่ะ ฮ่าๆ ขอเหมาทั้งแผงเลยนะ

Sano Premium Outlet

ลิปสติกมีแทบทุกสี กวาดให้เกลี้ยงทาครบ 7 วัน 7 สีเลย

Sano Premium Outlet

ถ้าหน้ายังไม่ผ่อง ก็ประโคมกันเข้าไป เงินสดหมด ก็หยิบเครดิตการ์ดรูดจ้า

Sano Premium Outlet

ได้นาฬิกา เครื่องสำอางแล้ว กรี๊ด ขาดกระเป๋าและแว่นตาดำ เดินเข้าร้าน Folli Follie เลย ร้านนี้มีแต่ของน่ารักๆ สีไหนดีนะ เลือกไม่ถูก

Sano Premium Outlet

กระเป๋าสตางค์ใบยาวก็ดีงาม

Sano Premium Outlet

หรือจะเอาใบสะพายข้างดีน้า ออกงานได้ด้วย เที่ยวได้ด้วย

Sano Premium Outlet

เอาอย่างนี้ เหมาหมดเลยละกัน สวยๆทั้งนั้น ฮา แอบกระซิบว่ามุมสินค้าที่เค้าลดราคานั้น ขอบอกว่าลดกระหน่ำมาก ลดครึ่งราคาเลยก็มี วั้ย จนอดใจไม่ไหว ซื้อมา 1 ใบเลยจ้า เพราะคุ้มจริงๆ ของดีและราคาถูกไม่ควรปล่อยผ่านนะจ๊ะ ดีต่อใจ ฮ่าๆ

Sano Premium Outlet

พอได้ของครบแล้ว เราก็เปลี่ยนแนวไปร้านกีฬากันบ้าง เผื่อจะมีชุดออกกำลังกายเก๋ๆกลับบ้าน เรามาต่อกันที่ ร้าน Under Armour ใหญ่โตคหบดีมาก เดินซื้อของในร้านนี้ต้องนัดกันดีๆนะ ไม่งั้นมีหลง ฮ่าๆ

Sano Premium Outlet

เสื้อผ้าเยอะมาก ถูกใจนักกีฬาและคนชอบแบรนด์นี้แน่นอน

Sano Premium Outlet

Sano Premium Outlet

ได้เสื้อผ้าแล้ว ก็ต้องมาดูรองเท้ากัน ความต้องการของเราไม่มีคำว่าเพียงพอ เลี้ยวเข้ามาที่ร้าน Adidas กันดีกว่า แน่นอนว่าร้านนี้ต้องได้อะไรอีกเพียบ แค่เจอเสื้อตัวแรกก็ร้องว้าว !

Sano Premium Outlet

มุมอื่นๆก็เพียบนะ ค่อยๆเลือกไปจ้า

Sano Premium Outlet

Sano Premium Outlet

ในส่วนของรองเท้านั้น ละลานตาไปหมด หยิบจับรุ่นไหนขึ้นมาก็ถูกใจทุกคู่

Sano Premium Outlet

หรือรุ่นนี้ดีน้า

Sano Premium Outlet

สีดำก็ใส่เข้าได้กับหลายชุด

Sano Premium Outlet

รุ่นใส่สบายก็ต้องยกให้รุ่นนี้ล่ะ

Sano Premium Outlet

ใครชอบแบบลายๆ จัดไปค่ะ

Sano Premium Outlet

ของเด็กๆก็มีด้วย ลายน่าร้ากกก

Sano Premium Outlet

ที่เอาท์เลทนี้ยังมีรองเท้าแบรนด์อื่นๆอีกมากมายนะ เช่น ไนกี้ พูม่า นิวบาลานซ์ ทั้งรุ่นรองเท้าและดีไซน์ของแต่ละแบรนด์นอกจากจะมีความหลากหลายทันสมัยแล้วราคาก็ไม่แพงด้วย เดินเข้าแต่ละร้านเลือกกันจนเพลินเลย

Sano Premium Outlets ยังมีมุมสำหรับนั่งทานอาหารด้วย ด้านในมีร้านอาหารเยอะเชียว เติมพลังกันสักหน่อย

Sano Premium Outlet

มีทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารเกาหลี และในนี้ก็ยังมีตู้เอทีเอ็มสำหรับกดเงินสดด้วยนะ เพื่อเป็นการเติมเต็มให้เรื่องช้อปปิ้งนั้นง่ายขึ้น ฮา

Sano Premium Outlet

Sano Premium Outlets

ที่อยู่2058 Konomachi, Sano City, Tochigi Prefecture 327-0822
วิธีเดินทางนั่งบัสจากสถานี Shunjuku ไปลงที่ Sano new city จากนั้นเดินต่อประมาณ 3 นาที
เวลาทำการ10.00 – 20.00 น. (วันหยุด ปีละ 1 ครั้ง คือวันพฤหัสบดีที่ 3 ของเดือนกุมภาพันธ์)
โทรศัพท์0283-20-5800
Website Sano Premium Outlets

ดูแผนที่ Sano Premium Outlets

PASTE GOOGLE MAP CODE HERE

Ashikaga Flower Park

นอกจากเราจะได้ช้อปปิ้งอย่างจุใจแล้ว ใกล้ๆ Sano premium Outlets ยังมีสวนดอกไม้ชื่อดังอย่าง สวนดอกไม้อะชิคากะ ( Ashikaga Flower Park) และการเดินทางระหว่างสองสถานที่นี้ก็ง่ายมากโดยเราจะนั่งแท็กซี่ตรงป้ายขึ้นแท็กซี่ทางด้านหน้าของเอาท์เลทเลย เราสามารถแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตรงจุดประชาสัมพันธ์ด้านในเรียกรถให้ได้เลยค่ะ ใช้เวลาในการเดินทาง 20 นาที ค่ารถแท็กซี่ประมาณ 4000 เยนนิดๆ แต่ว่าค่าแท็กซี่อาจจะราคาสูงไปสักนิด ช่วงเทศกาลดอกฟูจิหรือวิสทีเรีย หรือราวปลายเดือนเมษายน – ต้นพฤษภาคม จะมีรถบัสวิ่งระหว่าง Sano Premium Outlets – Ashikaga Flower Park ค่าโดยสารครั้งละ 500 เยน และใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที

การเดินทางโดยรถไฟ (ใช้ JR Pass ได้) จากสถานี JR Oyama – สถานีJR Sano ด้วยสายรถไฟ Ryomo ( Ryomo Line ) ใช้เวลา 30 นาที การเดินทางด้วย Loop Bus จากสถานีJR Sano – Sano Premium Outlets ใช้เวลา 20 นาที ค่าโดยสาร ผู้ใหญ่คนละ 210 เยน

  • ตารางเวลารถบัสวันธรรมดา >>> ดูที่นี่

  • ตารางเวลารถบัสวันเสาร์ >>> ดูที่นี่

  • ตารางเวลารถบัสวันอาทิตย์และวันหยุด >>> ดูที่นี่

  • Sano Premium Outlet

    แล้วเราก็มาถึงสวนดอกไม้แสนสวย ค่าเข้าชมนั้นมีการปรับขึ้นลงตามการบานของดอกไม้ด้วยนะ ดีจังเลย แต่ก็มีดอกไม้ให้ชมแทบตลอดปี ยกเว้นช่วงหน้าหนาว ที่จะมีการประดับไฟอลังการเข้ามาแทน

    Sano Premium Outlet

    ช่วงปลายเดือนเมษายน จะเป็นเทศกาลชมดอกฟูจิ หรือ วิสทีเรีย มีความสวยงามมากและส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วบริเวณสวน

    Sano Premium Outlet

    Sano Premium Outlet

    ตามทางเดินมีเก้าอี้ให้หยุดนั่งพักผ่อนตลอดเส้นทาง

    Sano Premium Outlet

    นอกจากดอกวิสทีเรียแล้วก็ยังมีดอกไม้อื่นๆให้ชมด้วยนะ

    Sano Premium Outlet

    Sano Premium Outlet

    อุโมงค์ดอกวิสทีเรียสีขาว ถ้าบานเต็มที่จะสวยงามมากเลย

    Sano Premium Outlet

    ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ ต้นฟูจิหรือวิสทีเรียขนาดใหญ่ ที่มีอายุถึง 150 ปีเชียวนะ พื้นที่กว้างกว่า 1000 ตารางเมตร ต้นนี้ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโลกเลย

    Sano Premium Outlet

    มาแล้วก็ไม่ควรพลาดชิมซอฟท์ครีมของที่นี่ พอชิมไปคำแรก หืมมม กลิ่นดอกวิสทีเรียละมุนอยู่ในปากเลยค่ะ หอมสุดๆ

    Sano Premium Outlet

    ของฝากขึ้นชื่อของที่นี่ ก็เป็นขนมห่อสวยๆแบบนี้เลยจ้า มีให้เลือกเยอะแยะ

    Sano Premium Outlet

    Ashikaga Flower Park

    ที่อยู่607 Hasama Town,Ashikaga City,Tochigi Prefecture,329-4216
    วิธีเดินทางจากสถานี JR Oyama – สถานี JR Sano ด้วยสายรถไฟ Ryomo ( Ryomo Line ) ใช้เวลา 30 นาที การเดินทางด้วย Loop Bus จากสถานีJR Sano – Sano Premium Outlets ใช้เวลา 20 นาที ค่าโดยสาร ผู้ใหญ่คนละ 210 เยน
    เวลาทำการ9.00 – 18.00 น.( ขึ้นอยู่กับฤดูกาล )/ หยุดวันพุธและวันพฤหัสบดีในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกุมภาพันธ์และวันที่ 31 ธันวาคม
    ราคาเปลี่ยนแปลงตามการบานของดอกไม้ ระหว่าง 300 เยน – 1800 เยน กรุณาตรวจสอบจากเวบไซต์
    Website Ashikaga Flower Park

    ดูแผนที่ Ashikaga Flower Park

    Aguri town (アグリタウン)

    เรายังมีที่สนุกๆให้ได้ไปสัมผัสกันอีก คราวนี้เราจะพาไปเก็บสตรอว์เบอร์รี่ที่สวน Aguri town (アグリタウン)จะนั่งแท็กซี่ไปต่อก็ได้หรือใครที่เช่ารถขับก็สะดวกดีนะ เพราะถนนเมืองนี้ขับง่ายมาก

    สวน Aguri town เป็นสวนผลไม้เกือบตลอดทั้งปี มีผลไม้ให้เก็บตามนี้

  • สตรอว์เบอร์รี่ เดือนธันวาคม – ต้นพฤษภาคม
  • บลูเบอร์รี่ เดือนมิถุนายน – ปลายสิงหาคม
  • ลูกท้อ กลางเดือนกรกฎาคม – ปลายสิงหาคม
  • ก่อนอื่นเราต้องมาลงชื่อจองคิวก่อน ตรงจุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่รับจองและแนะนำ เส้นทางของสถานที่เก็บสตรอว์เบอร์รี่ ซึ่งจะอยู่ใกล้ๆกันกับที่นี่

    Sano Premium Outlet

    Sano Premium Outlet

    แล้วเราก็เดินทางไปโรงเรือนที่ปลูกสตรอว์เบอร์รี่ที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก ที่สวนนี้มีปลูกสองพันธุ์คือ Tochiotome และ skyberry ราคาค่าเข้าเก็บก็แตกต่างกันด้วย มีราคาดังนี้

  • ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม – 7 เมษายน พันธุ์ Tochiotome ราคาคนละ ระหว่าง 1550 – 1750 เยน พันธุ์ skyberry ราคาระหว่าง 2200 – 2500 เยน
  • ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน – 6 พฤษภาคม พันธุ์ Tochiotome ราคาคนละ 1150 เยน พันธุ์ Skyberry ราคา 1750 เยน
  • ( หมายเหตุ ราคาและตารางของแต่ละปีอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบก่อนไป ราคาที่แจ้งในนี้มาจากข้อมูลในเดือนพฤษภาคม ปี2019)

    เมื่อเราไปถึงสวน จะได้รับแก้วกระดาษคนละใบ ไว้ใส่ขั้วของสตรอว์เบอร์รี่ เดี๋ยวเค้าจะสอนวิธีเด็ดทานด้วย การทานของที่นี่คือ เค้าจะยกโรงเรือนให้เราเดินทางทั้งหมดเลย แต่จำกัดเวลาให้คนละประมาณ 30 นาที

    Sano Premium Outlet

    น่าทานไหมคะ นี่คือพันธุ์ Tochiotome

    Sano Premium Outlet

    วิธีการเด็ดคือใช้แค่นิ้วมือกระตุกขั้วเบาๆ เดี๋ยวลูกก็หลุดออกมาจากก้านแล้วค่ะ

    Sano Premium Outlet

    ด้านหน้าร้าน ยังมีสตรอว์เบอร์รี่สดบรรจุใส่แพ็คสำหรับซื้อแล้วถือกลับบ้านด้วยนะ

    Sano Premium Outlet

    Aguri town

    ที่อยู่802-4 Ueshita-cho, Sano City, Tochigi Prefecture 327-0835
    วิธีเดินทางด้วยรถยนต์ ลงทางด่วนที่ Tohoku ExpresswaySano – Fujioka Interchange มารูทถนน 50 / ด้วยรถไฟ จากสถานี Sano นั่งแท็กซี่มา 10 นาที หรือ สถานี Tobu Sano นั่งแท็กซี่มาอีก 5 นาที
    เวลาทำการ9.30 – 17.00 น.
    โทรศัพท์การจองเก็บสตรอว์เบอร์รี่ ควรโทรจองล่วงหน้า ที่เบอร์ 0283-20-5215
    Website Aguri town

    ดูแผนที่ Aguri town

    Sano Yatsuya (佐野やつや)

    ยัง ยังไม่จบนะคะ ทริปช้อปแหลก กินแหลกของเรายังมีร้านราเมงสุดดังของเมืองนี้มาแนะนำด้วยนะ ชื่อร้าน Sano Yatsuya (佐野やつや)ร้านนี้ตั้งอยู่ริมถนน ตัวร้านเป็นสีส้มมองเห็นง่ายเลย

    Sano Premium Outlet

    ด้านในตกแต่งอย่างน่านั่งมาก มีทั้งแบบนั่งเบาะที่พื้นและแบบเก้าอี้

    Sano Premium Outlet

    เมนูอาจจะดูยากหน่อยเพราะเขียนแต่ภาษาญี่ปุ่น เมนูที่นิยมสั่งกันคือ

  • ซาโนะราเมง 600 เยน
  • ชาชูเมน 880 เยน
  • นินนิขุราเมง คือแบบใส่กระเทียม 700 เยน
  • แต่ทั้งนี้ อร่อยทุกชามเลยค่ะ เพราะเค้าปรุงรสชาติมาได้พอดีจริงๆ

    เมนูในภาพนี้สั่งเป็นแบบเซ็ทนะ เรียกว่า ชาฮั่งเซ็ท Cha-han-set ราคา 1000 เยน

    Sano Premium Outlet

    ชามนี้คือ ชาชูเมน หมูชิ้นใหญ่มาก นุ่มที่สุด ราคา 880 เยน

    Sano Premium Outlet

    ดูความเหนียวนุ่มของเส้น และลักษณะเส้นของราเมงเมืองนี้มีรูปร่างคล้ายก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กของเราเลย ชอบมาก

    Sano Premium Outlet

    เมนูพิเศษไก่ทอด คาราอาเกะ ลักษณะสีเข้ม คือมาจากสีของซอสที่หมัก กรอบนอกนุ่มใน เป็นเมนูแนะนำเลยจ้า

    Sano Premium Outlet

    เอาล่ะ และแล้วเราก็ได้ทานราเมงเมืองซาโนะชื่อดังสมใจแล้ว จะได้เวลากลับโตเกียวกันละ เราก็นั่งแท็กซี่จากร้านไปที่ Sano Premium Outlets เลย ใช้เวลาแค่ 15นาทีก็ถึงแล้ว แล้วจากนั้น ถ้าเราจะกลับโตเกียว เราก็เดินต่อไปที่ Sano Shintoshi Bus terminal ที่ใกล้กันมาก ก็สะดวกสุดๆ

    Sano yatsuya

    ที่อยู่465-1 Horiimachi, Sano City, Tochigi Prefecture 327-0843
    วิธีเดินทางนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Horigome เดินต่อ 16 นาที
    เวลาทำการ11:30- 15:00 น. และ 17:30 -20:00 น. (หยุดวันจันทร์ )
    โทรศัพท์0283-24-2755
    Website Sano yatsuya

    ดูแผนที่ Sano yatsuya

    Sano Shintoshi Bus terminal

    สำหรับใครที่จะเดินทางกลับด้วยรถบัสราคา 1500 เยนจากแถว Sano Premium Outlets ไปลงที่สถานีโตเกียวหรือสถานีชินจูกุ ก็ง่ายแสนง่าย เพรา ะจุด ขึ้น รถบัส ที่ Sano Shintoshi Bus terminal นั้นสามารถเดินจากเอาท์เลทได้เลย ข้ามสี่แยกไฟแดงด้านหน้าตรงนี้

    Sano Premium Outlet

    เดินตรงไปเรื่อยๆ เลยตึกลานจอดรถในภาพนี้ไปก็เจอทางเข้าด้านขวา ให้เลี้ยวขวาเข้าไปเลย จะเจอออฟฟิศขายตั๋วอยู่ และมีป้ายรอรถบัส จุดขึ้นรถบัสนี้เรียกว่า Sano Shintoshi Bus Terminal

    Sano Premium Outlet

    ด้านในที่ขายตั๋ว จะมีเจ้าหน้าที่ประจำ 1 ท่าน และมีตู้ขายตั๋ว

    Sano Premium Outlet

    แต่วันนี้เราเลือกซื้อตั๋วกับเจ้าหน้าที่ แจ้งว่าจะไปลง Tokyo station เค้าก็ออกตั๋วราคา 1500 เยนมาให้แบบนี้ พร้อมแจ้งเวลาที่รถออก (ใครจะเดินทางกลับสนามบินนาริตะหรือฮาเนดะก็มีรถบัสจากที่นี่ด้วยนะ )

    Sano Premium Outlet

    ป้ายรถบัสหมายเลข 2 รถมาจอดแล้ว ขึ้นรถได้เลย

    Sano Premium Outlet

    ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็มาถึงสถานีโตเกียวด้านทางออก Nihonbashi exit ก็ติดกับด้าน Yaesu เลยจ้า เดินเข้ามาก็คือในสถานีโตเกียวแล้ว ง่ายมากๆ

    Sano Premium Outlet

    ตารางเวลา จริงๆรถบัสนี้มีรอบที่แวะจอดสถานีชินจูกุด้วยนะ และมีหลายเวลาด้วย) Sano Shintoshi Bus Terminal to Tokyo Station รอบเช้าตั้งแต่ 5.25/6.25/7.25/8.15/9.35/9.55/10.55 / รอบบ่าย 12.25/14.25/15.25/16.25/17.25/18.25/19.25

    เช็คเส้นทางและตารางเวลาอื่นๆ >>> คลิกที่นี่

    สรุป

    วันนี้เราใช้เวลา 1 วันเต็มๆในการช้อปปิ้ง ถ่ายรูป กิน เที่ยวจนคุ้มค่าที่สุด การเดินทางจากสถานีโตเกียวหรือสถานีชินจูกุไป Sano premium outlets ด้วยรถบัสนั้นก็สุดแสนจะสะดวกและง่าย สถานที่ใหญ่โตมีร้านค้ามากมายให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวได้เดินซื้อของกันอย่างเพลิดเพลิน เป็นการใช้เวลา 1 วันที่คุ้มค่าที่สุด แฮปปี้ทุกคนจ้า

    Rikichan

    Blogger : Rikichan

    สาวผู้รักการถ่ายภาพฟูจิ ชอบภูเขา ใบไม้เปลี่ยนสี แม่น้ำ ท้องทะเล ชานเมือง มีความสุขกับการได้เดินทางไปทุกๆที่กับกล้องคู่ใจ และมีคติประจำใจว่า ไปให้สุดแล้วหยุดที่ร้านขนมอร่อย

    47 Posts

    CCJ Hotel Search

    สถานที่เที่ยว

    | Feature

    กรณีฉุกเฉิน

    | Emergency
    • Police

      110

    • Ambulance

      119

    • AMDA International Medical Information Center

      03-6233-9266

    • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

      090-4435-7812

    • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

      090-1895-0987

    • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

      090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515