คูปองส่วนลดที่น่าสนใจ
5%
15%
15%

ศาลเจ้าชิราฮิเกะ เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,900 ปี และเรียกได้ว่าเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดชิกะ เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในยุคจักรพรรดิเคโกะ (Keikō) เพื่ออุทิศแด่เทพ ซารุฮิโกะโนะโอกามิ (Saruhiko-no-Okami) เทพแห่งการนำทาง การปกป้อง และความยืนยาว
คำว่า “Shirahige” ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “หนวดเคราขาว” ซึ่งสื่อถึงความชราและอายุยืน ดังนั้นศาลเจ้านี้จึงเป็นที่นิยมของผู้ที่ต้องการขอพรให้มีสุขภาพแข็งแรงและมีชีวิตที่ยืนยาว

เสาโทริอิสีแดงขนาดใหญ่เป็นสัญลักษณ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ในรุปแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่มักพบในศาลเจ้าชินโต โดยเสาโทริอิขนาดใหญ่อันนี้ตั้งอยู่กลางน้ำเปรียบเสมือนทางผ่านสู่โลกของเทพเจ้า โดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็น แสงพระอาทิตย์ที่สะท้อนลงบนผืนน้ำทะเลสาบบิวะทำให้เกิดภาพที่สวยงามราวกับฉากในภาพยนตร์

เสาโทริอิสีแดงที่เราเห็นกันในภาพจากชายฝั่งนี้ มีความสูงประมาณ 10 เมตร และกว้าง 7 เมตร โดยฐานของเสาตั้งอยู่ในน้ำโดยไม่มีสะพานเชื่อมถึง ซึ่งเป็นจุดเด่นชวนให้มาถ่ายรูป และถ่ายได้หลายมุมด้วยนะ

อาคารหลักของศาลเจ้าเป็นจุดศูนย์กลางของพลังศักดิ์สิทธิ์ โดยใช้สถาปัตยกรรมดั้งเดิมของศาลเจ้าชินโตที่เรียบง่ายแต่สง่างาม สร้างขึ้นตามรูปแบบ Kasuga-zukuri ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของศาลเจ้าญี่ปุ่น โครงสร้างเป็นไม้ทั้งหมด ทาสีด้วยสีเอิร์ธโทน ดูกลมกลืนกับธรรมชาติ

ภายในอาคารหลักของศาลเจ้าจะมีห้องบูชา (Haiden, 拝殿) และ ห้องประดิษฐานเทพเจ้า (Honden, 本殿) และภายในมีศาลเจ้าเล็ก ๆ ที่ประดิษฐานเทพต่าง ๆ รวมถึง เทพซารุฮิโกะโนะโอกามิ (Saruhiko-no-Okami)

เทพซารุฮิโกะโนะโอกามิถือเป็นเทพที่ช่วยปกป้องผู้เดินทางและนำทางไปสู่ความสำเร็จ จึงเป็นที่เคารพของผู้ที่ต้องการขอพรในเรื่องสุขภาพ อายุยืนและขอให้ประสบความสำเร็จในชีวิต
วิธีการไหว้ตามแบบชาวญี่ปุ่น
1. โยนเหรียญ 5 เยน ลงในกล่องบริจาค (ถือว่าเป็นเหรียญนำโชค)
2. โค้งคำนับ 2 ครั้ง
3. ปรบมือ 2 ครั้ง เพื่อเรียกความสนใจจากเทพเจ้า
4. อธิษฐานเงียบ ๆ และโค้งคำนับอีกครั้ง
นอกจากไหว้ขอพรแล้ว นักท่องเที่ยวอย่างเราก็ต้องเช่าเครื่องราง “Omamori” จากศาลเจ้ากลับไปเป็นที่ระลึกเพื่อเสริมดวง เรามีแนะนำ 3 อัน คือ เครื่องรางอายุยืน (Chōju Omamori, 長寿御守) เครื่องรางสุขภาพดี (Kenkō Omamori, 健康御守) และ เครื่องรางแห่งความสำเร็จ (Shōbai Hanjo Omamori, 商売繁盛御守)

การสักการะเสาโทริอิจากฝั่งเชื่อว่าจะช่วยให้พรที่ขอสัมฤทธิ์ผล ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถเดินไปถึงเสาโทริอิกลางน้ำได้ (เพราะไม่มีทางเชื่อม) แต่เราสามารถทำการสักการะจากริมฝั่ง เพื่อขอพรให้โชคดีและประสบความสำเร็จได้นะ ถ้าเพื่อน ๆ ไปถึงแล้วก็อย่าลืมอธิษฐานกันละ !

ด้วยทำเลที่ตั้งริมทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa) ที่นี่จึงเป็น จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น โดยเพื่อน ๆ สามารถมาถ่ายรูปโดยมีฉากหลังเป็นพระอาทิตย์ที่อยู่ตรงกลางเสาโทริอิแห่งนี้ได้ โดยเราแนะนำในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตก เพราะแสงที่สะท้อนบนผืนน้ำทำให้เกิดภาพที่งดงาม
สำหรับฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน จะค่อนข้างเหมาะแก่การถ่ายรูป
– เวลาถ่ายสำหรับพระอาทิตย์ขึ้น 06:00 – 07:00 น. แสงแรกของวันสะท้อนบนเสาโทริอิทำให้เกิดสีทองอ่อน ๆ
– เวลาถ่ายสำหรับพระอาทิตย์ตกดิน 17:30 – 18:30 น.: พระอาทิตย์ตกดินหลังเสาโทริอิ สร้างเงาสะท้อนในน้ำที่สวยงาม

ต้องขอบอกว่าที่ศาสเจ้าแห่งนี้มีกิจกรรมและเทศกาลให้เราร่วมรับชมค่อนข้างเยอะ อาจด้วยอีกเหตุผลคือ ตัวศาลเจ้าตั้งอยู่ภายในเมืองอีกด้วย เราขอสรุปที่น่าสนใจมากสักนิด
– 1 มกราคม – เทศกาลปีใหม่ (New Year’s Festival – Hatsumode, 初詣)
– 15 มกราคม – เทศกาลฉลองการเข้าสู่วัยผู้ใหญ่
– 3 กุมภาพันธ์ – เทศกาลเซ็ตสึบุน (Setsubun, 節分祭) ปัดเป่าความโชคร้ายต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ
– 2-3 พฤษภาคม – เทศกาลประจำปี (Yoimiya Festival & Regular Festival) ถือเป็นงานเทศกาลหลักที่มีขบวนแห่ “Mikoshi” (ศาลเจ้าขนาดเล็ก) ไปรอบ ๆ ศาลเจ้า
– 23 พฤศจิกายน – เทศกาล Niiname-sai (新嘗祭) พิธีขอบคุณเทพเจ้าสำหรับผลผลิตประจำปี
– 31 ธันวาคม – พิธีชำระล้างบาปส่งท้ายปีเก่า

นอกจากนี้แล้วในช่วงฤดูร้อนก็ยังมีเทศกาลดอกไม้ไฟที่จัดขึ้นช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นสิงหาคม โดยเราจะได้ชมการแสดงดอกไม้ไฟสุดตระการตาเหนือทะเลสาบบิวะ พร้อมเสาโทริอิกลางน้ำเป็นฉากหลังอีกด้วยนะ
ศาลเจ้าชิราฮิเกะ (Shirahige Shrine)
| ที่อยู่ | 215 Ukawa, Takashima, Shiga 520-1122 |
| วิธีเดินทาง | จากสถานีเกียวโตขึ้นรถไฟสาย JR Kosei Line มายังสถานีโอมิทาคาชิมะ (Omi-Takashima Station) จากนั้นขึ้นรถประจำทางไปยังศาลเจ้า |
| เวลาทำการ | เปิดทุกวัน |
| ราคา | เข้าชมฟรี |
| Website | ศาลเจ้าชิราฮิเกะ (Shirahige Shrine) |
วิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดเราขอแนะนำให้ใช้รถไฟจากสถานีเกียวโต (Kyoto Station) ขึ้นรถไฟสาย JR Kosei Line ไปยังสถานีโอมิทาคาชิมะ (Omi-Takashima Station) ใช้เวลาประมาณ 50 นาที จากนั้นเดินทางต่อด้วยการเดินเท้าหรือรถบัสไปยังศาลเจ้า (หากเดินจะมีระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร)

ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในจังหวัดชิกะ โดดเด่นด้วยความงดงามตามธรรมชาติและกิจกรรมหลากหลาย เช่น ล่องเรือ ตกปลา และชมวิวเสาโทริอิกลางน้ำของ ศาลเจ้าชิราฮิเกะ (Shirahige Shrine) โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สะท้อนแสงลงบนผืนน้ำอย่างงดงาม
Lake Biwa (ทะเลสาบบิวะ)
| ที่อยู่ | 215 Ukawa, Takashima, Shiga 520-1122 |
| วิธีเดินทาง | อยู่ติดกับศาลเจ้า Shirahige Shrine |
| เวลาทำการ | เปิดทุกวัน |
| ราคา | เข้าชมฟรี |
| Website |

วัดพุทธเก่าแก่บน ภูเขาฮิเอ ที่มีอายุกว่า 1,200 ปี และเป็นศูนย์กลางของนิกายเทนได (Tendai) ในญี่ปุ่น มีอาคารสำคัญอย่าง Konpon Chūdō ซึ่งภายในมีเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่าจุดมาตั้งแต่ก่อตั้งวัด โดยเราสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศเงียบสงบและวิวมุมสูงของเมืองเกียวโตและทะเลสาบบิวะได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Hieizan Enryakuji Temple (วัดเอ็นเรียคุจิ)
| ที่อยู่ | 4220 Sakamotohonmachi, Otsu, Shiga 520-0116 |
| วิธีเดินทาง | จากสถานีโอมิทาคาชิมะ (Omi-Takashima Station) ขึ้นรถไฟ JR Kosei Line ไปยังสถานีเกียวโต (Kyoto Station) จากนั้นขึ้นรถบัสจากสถานีเกียวโตไปยังภูเขาฮิเอ (Mount Hiei) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หรือขับรถ 40 นาที |
| เวลาทำการ | เปิดทุกวัน 9.00-16.00 น. |
| ราคา | บุคคลทั่วไป 1,000 เยน สำหรับเด็ก 600 เยน |
| Website | Hieizan Enryakuji Temple (วัดเอ็นเรียคุจิ) |

หนึ่งในถนนสุดโรแมนติกที่ทอดยาวกว่า 2.4 กิโลเมตร สองข้างทางเรียงรายไปด้วยต้นเมตาเซโควเอียกว่า 500 ต้น ที่เปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล ตั้งแต่สีเขียวชอุ่มในฤดูร้อน สีทองแดงในฤดูใบไม้ร่วง ไปจนถึงสีขาวโพลนเมื่อถูกปกคลุมด้วยหิมะในฤดูหนาว ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมตลอดทั้งปี
Metasequoia Namiki (ถนนต้นสนเมตาเซโควเอีย)
| ที่อยู่ | Makinocho Makino, Takashima, Shiga 520-1835 |
| วิธีเดินทาง | จากสถานีโอมิทาคาชิมะ (Omi-Takashima Station) ขึ้นรถไฟ JR Kosei Line ไปยังสถานีมาคิโนะ (Makino Station) จากนั้นขึ้นรถบัสหรือแท็กซี่ไปยังถนนต้นสนเมตาเซโควเอีย หรือขับรถประมาณ 30 นาที |
| เวลาทำการ | เปิดทุกวัน |
| ราคา | เข้าชมฟรี |
| Website |
ศาลเจ้าชิราฮิเกะ สำหรับเราแล้วนอกจากจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเก่าแก่เต็มไปด้วยมนต์ขลังและบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับทั้งสายขอพรอย่างเราแล้ว ภายในตัวศาลเจ้าหรือบริเวณรอบข้างเองยังเหมาะกับสายถ่ายภาพธรรมชาติด้วยเหมือนกัน อีกทั้งสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงก็ชวนให้เราต่อยอดรับชมความงามของธรรมชาติญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดีเลยละ !

Blogger : Yuri
ผมเป็นคนที่ถ่ายรูปไม่เก่ง แต่ว่าชอบเที่ยวมาก ๆ (ซะอย่างนั้น) เพราะการท่องเที่ยวสำหรับผม คือการที่ได้เรียนรู้ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด บางที่ก็ไปเที่ยวซ้ำ ๆ แต่กลับได้ประสบการณ์ที่ไม่จำเจ สำหรับผมแล้ว "ญี่ปุ่น" เป็นหนึ่งในประเทศที่ผมไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย มากกว่านั้น ผมมีความตั้งใจว่าจะออกไปเห็นโลกให้กว้างมากที่สุด แล้วนำสาระความรู้มาแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน ในช่วงที่(ผม)ยังมีแรงเต็มที่ครับ !
74 Posts

Kintetsu Department Store Uehommachi ห้างติดสถานีรถไฟใจกลางโอซาก้า กับส่วนลดสุดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว
ห้าง Kintetsu Department Store, Uehommachi Kintetsu Department Store Ueh...

เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ด ความน่าสนใจ ที่ต้องไปเยือน
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ดน่าเที่ยว ที่มีความโดดเด่นน่าสนใจ ท...

นั่งชินคันเซ็นคุ้มๆ จากโตเกียวไปโอซาก้า เดินทางง่ายแค่ใช้ JR PASS
เที่ยวให้ทั่วโตเกียวแล้วไปต่อโอซาก้า เพราะเรามีแผนการเดินทางสุดคุ้มจากโตเกียวไ...

รีวิวเที่ยวโอซาก้า เที่ยวชมเมืองกับ OSAKA SKY VISTA และ “Tempozan Harbor Village” ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต Kaiyukan
“Osaka Sky Vista” บัสแบบไร้หลังคาที่จะพาเรานั่งชมแหล่งท่องเที่ยวรอบเมืองโอซาก้...

รีวิว “Eslead Hotel Osaka Shinsaibashi” ที่พักสไตล์เหมือนพักที่บ้านใกล้แหล่งท่องเที่ยวใจกลางโอซาก้า
สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างสำหรับคนที่วางแผนจะมาเที่ยวญี่ปุ่นก็คือที่พัก ครั้งนี้เร...
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-6233-9266
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
090-4435-7812
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
090-1895-0987
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515