บุกเบิกเส้นทางสามดาว ตอน ฮิดะ ทาคายามะ…ตลาดเช้ายามสาย กลิ่นอายยุคเอโดะ และชิราคาวาโกะจำลอง

ทริปบุกเบิกเส้นทางใหม่ Mitsuboshi kaidou หรือ Three star route วันที่ 2 ขยับจากมัตสึโมโตะมาต่อกันที่ ทาคายามะ กับสถานที่ท่องเที่ยวสามดาวที่การันตีแล้วว่าดีไม่มีผิดหวังเช่นเคย วางแผนเที่ยวและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ >>ที่นี่

ปกติมาทาคายามะตอนมกราคมมักจะเจอกับหิมะขาวโพลนไปหมด แต่ปีนี้นับเป็นปรากฏการณ์ประหลาดที่หิมะน้อยมากๆ ถือเป็นภาพบรรยากาศหายากไปอีกแบบ

ไม่อวยอะไรมาก เกริ่นไว้สั้นๆ แค่ “ไม่ว่าอย่างไร ฮิดะ ทาคายามะ คือหนึ่งในเมืองในดวงใจที่อยากกลับมาอีกครั้ง”

ไถลลงเนินรับอากาศหนาว กับ snowsled ที่ลานสกี Hirayu onsen

ปีนี้หิมะน้อย แต่ใช่ว่าไม่มี ลานสกียังคงเปิดให้บริการตามปกติอยู่นะ ใครเดินสโนว์ชูที่มัตสึโมโตะแล้วยังติดลม อยากเล่นหิมะต่ออีก มาต่อที่ ลานสกี Hirayu onsen ที่อยู่ระหว่างทางกันได้ มาถึงปุ๊บก็เจอคนเล่นสกีกันคึกคักเต็มลาน

ส่วนคนเล่นไม่เป็นอย่างเรา…เบือนหน้าไปทางซ้าย จะพบเนินเล็กๆ อยู่ ใช่แล้ว นี่แหละที่ที่เหมาะสมกับเรา แต่ไม่ว่าจะเล่นอะไรก็ต้องไปเช่าชุดกับอุปกรณ์ก่อน ซึ่งก็เช่าที่ Hirayu ski center ที่อยู่ข้างๆ ได้เลย

และนี่ก็คืออุปกรณ์คู่ใจในคราวนี้ ถาดพลาสติก—เอ๊ย เลื่อนหิมะ หรือ snowsled นี่เอง

คือว่า…ถึงจะบอกว่าเป็นเนินเตี้ยๆ แต่ที่มันเตี้ยเพราะเอาไปเทียบกับเนินสกีด้านหลังน่ะ เอาจริงๆ เนินนี้ก็สูงใช้ได้เหมือนกัน เราต้องนั่งบนเลื่อนหิมะตรงยอดเนิน แล้วใช้ขากระตึ๊บๆ ให้ไถลฟิ้วลงเนินไป ตอนนั่งแล้วเห็นเนินทอดยาวลงไปด้านล่าง พร้อมกับสัมผัสลื่นๆ ของหิมะที่กลายเป็นน้ำแข็งก็เสียวเหมือนกัน

เห็นเด็กตัวเล็กๆ พุ่งลงเนินกันอย่างสนุกสนานเลยชักอายเด็ก มาแย่งที่เด็กเล่นทั้งทีต้องเอาให้สุด ลงไปเล้ย

ลงเร็วกว่าที่คิด เนินมีสามระดับ ถ้าไม่ทรงตัวดีๆ มีสิทธิ์ถาดพลิกจอดสนิทตั้งแต่เนินแรกเป็นที่เฮฮาของคนที่มองอยู่ ถ้าทรงตัวดีๆ จะลงไปจอดปลายเนินแบบหวาดเสียวเล็กน้อย เพราะอีกนิดหนึ่งก็ถีบรถที่จอดอยู่แล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้น ความเร็วผันตาม…น้ำหนัก นะจ๊ะ

มีครั้งแรกแล้ว ครั้งที่สองสามสี่ก็ตามมา ด้านหลังเขาโชว์ลีลาเล่นสกีกันอย่างเท่ๆ ส่วนเรามาวิ่งขึ้นลงเนินเล่นเลื่อนหิมะ ฮะๆ เหมือนได้ย้อนวัยเด็กไปเล่นในดรีมเวิร์ลดี รอบตัวมีแต่เด็กตัวเล็กๆ มาเล่นกับคุณพ่อคุณแม่ เห็นแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้

ขาลงน่ะไถลลง แต่ขาขึ้นต้องปีนขึ้นมาเอง จะขึ้นจะลงต้องดูคนให้ดีๆ เนินนี้เด็กเล่นเยอะ ไม่ระวังอาจบาดเจ็บกันได้

Hirayu onsen ski area

เดินเล่นรับแดดอ่อนๆ ที่ตลาดเช้ามิยากาวะ

เป็นคนชอบเที่ยวอะไรโลคอลแบบนี้มาก เลยตื่นแต่เช้าเข้าตัวเมืองฮิดะทาคายามะเพื่อมาที่นี่ ตลาดเช้ามิยากาวะ

บรรยากาศยามเช้ากับอากาศหนาวๆ กรุ่นไออุ่นจากอาหารร้อนๆ และผู้คนที่ออกมาเดินเล่นกัน เป็นการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่สดใสมาก

ไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยว แต่ชาวบ้านท้องถิ่นก็มาจับจ่ายซื้อของจากตลาดนี้ด้วยเช่นกัน ของที่ขายส่วนมากจึงเป็นผักผลไม้ตามฤดูกาลและสินค้าทำมือ ที่สำคัญคือราคาถูก

บริเวณด้านหน้าตลาดเลยจะมีร้านเนื้อย่างที่เรียกลูกค้าต่างชาติสุดๆ คุณป้าจะถามว่ามาจากที่ไหนแล้วหยิบป้ายภาษานั้นออกมา บอกเลยว่ามีเกือบทุกชาติแล้ว แน่นอนว่าภาษาไทยก็มีเช่นกัน ซึ่งป้ายเหล่านี้เขียนโดยลูกค้าที่มาซื้อกินนั่นเอง (มีป้ายที่เขียนว่าอร่อยที่สุดในโลกเป็นภาษาไทยด้วยนะ)

เดินๆ ไปก็สะดุดตากับความน่ารักของลูกเจี๊ยบกลมปุ๊กนี้ เดินเข้าไปซื้ออย่างว่องไวแบบแทบไม่ต้องคิด สบตาแป๋วแหววของลูกเจี๊ยบก่อนกินด้วยความเสียดาย แต่พอชิมเข้าไปเท่านั้นแหละ มันอร่อยมากทุกคน!! ถึงอากาศหนาวแป้งก็ไม่แข็ง ไส้ถั่วกวนหวานละมุนไม่แสบลิ้น มีกลิ่นหอมเหมือนคัสตาร์ดบางๆ สรุปว่า ไปซื้อ!!

แล้วก็อีกตัวจากร้านเดียวกัน พอเห็นเราซื้อโมจิลูกเจี๊ยบแบบไม่ลังเล เจ้าของร้านก็ผ่าไดฟุกุสตรอเบอร์รี่ให้ชิมด้วย เรื่องเลยจบที่การซื้อไดฟุกุอีกกล่อง สตรอเบอร์รี่ข้างในฉ่ำมาก เข้ากับถั่วกวนหวานๆ และแป้งนุ่มๆ แนะนำมากจริงๆ สองตัวนี้ ไม่ได้สปอนเซอร์แต่อย่างใด บอกต่อด้วยการซื้อกินเองล้วนๆ

นอกจากนี้เมืองฮิดะทาคายามะเป็นฉากจากอนิเมะเรื่อง Hyouka ซึ่งเก็บรายละเอียดเมืองมาได้เหมือนมากๆ มาเดินตามรอยกันได้เป๊ะๆ ตลาดเช้าแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในฉากในเรื่องด้วยนะ

Miyagawa morning market

แม่น้ำข้างตลาดจะมีสะพานเป็นระยะๆ สะพานแดงนี้เองคือจุดถ่ายรูปอีกจุดที่ห้ามพลาด โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ ต้นซากุระสองข้างทางจะบานสะพรั่งเป็นสีขาวอมชมพูสดใสสองฝั่งแม่น้ำเลย

อีกอย่างที่ชอบในเมืองนี้คือความประยุกต์ทุกอย่างให้เป็นสไตล์ญี่ปุ่น ดูเซเว่นเขาซะก่อน ไม่ธรรมดา

มัตสึคิโยะก็โดนกับเขาด้วย

จุดเช็คอินห้ามพลาดตลอดกาล ย่านเมืองเก่าซันมาจิ

พูดถึงทาคายามะ คงไม่มีใครไม่รู้จักที่นี่ ตรอกเมืองเก่าอันโด่งดัง คามิซันโนะมาจิแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าขายเฟื่องฟูในสมัยเอโดะ บ้านเรือนสร้างด้วยไม้ซึ่งรักษาเอาไว้ต้องแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ไม่มีการสร้างใหม่

ตลอดสองฝั่งถนนคือร้านค้าล้วนๆ มีทั้งของกิน สาเก ของที่ระลึก รวมไปถึงของดีประจำทาคายามะมากมาย ผู้คนคึกคักมาก คนไทยก็เยอะมากเช่นกัน (ในรูปคือขออนุญาตเขาถ่ายแล้วนะ)

ใครมาตอนหนาวๆ แนะนำดังโงะหรือซาลาเปาร้อนๆ

เอกลักษณ์ของที่นี่คือบ้านไม้เรียงยาวสองฝั่งทาง มีภูเขาเป็นฉากหลัง บรรยากาศอบอุ่นแบบย้อนยุคทำให้เดินได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อ

Sanmachi Suji

ลิ้มรส ราเมง ทาคายามะ Yayoi soba

หิมะไม่ตกก็จริง แต่ตอนนี้อุณหภูมิคือ -2 องศา กินลมชมวิวไปได้สักพักก็เริ่มสั่น เลยขอเข้ามาพึ่งพิงความอบอุ่นทั้งร่างกายและกระเพาะที่ร้านนี้ ชื่อร้านเป็นโซบะ แต่ขายราเมง งงไหม งงนิดหน่อยเหมือนกัน แต่เอาเป็นว่าอร่อยมาก มีสองสาขาอยู่ใกล้ๆ กันนะ ถ้าร้านไหนเต็มเดินไปอีกสาขาได้

Yayoi soba สาขาหลัก

คาเฟ่น่ารักบรรยากาศโรแมนติก Bagpipe

หลังอาหารก็ต้องต่อด้วยของหวาน คาเฟ่ Bagpipe นี้ยังคงอยู่ในคอนเซ็ปต์ย้อนยุค แต่เป็นย้อนยุคสไตล์ยุโรปนะ บรรยากาศแฟนตาซีมากมาย

ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ถ้าโชคร้ายคุณจะเจอกับคนเต็มร้าน เพราะร้านนี้เป็นอีกหนึ่งฉากในเรื่อง Hyouka ที่เรียกได้ว่าใครชอบเรื่องนี้ไม่มาไม่ได้ โดยฉากที่ว่าคือที่นั่งด้านในสุดของร้านนี่เลย ในร้านมีสมุดให้แฟนๆ เขียนข้อความด้วย อย่าทำเป็นเล่นไป มีคนมาเขียนเป็นสิบเล่มแล้ว

เมนูแนะนำ เวียนนาโกโก้ ครีมสดหวานมันกับโกโก้ร้อนรสเข้ม ยิ่งมาดื่มตอนหนาวๆ อุ่นไปทั้งกายและใจ

Bagpipe

ชมการแสดงศิลปะพื้นเมืองแบบใกล้ชิดที่ Dekonaru-za

ที่นี่คือหนึ่งในสถานที่น่าเที่ยวที่คนยังไม่ค่อยรู้จัก Dekonaru-za คือโรงละครที่มีการแสดงพื้นบ้านดีๆ ให้ชมแบบใกล้ชิด ผสานศิลปะการแสดงอันหลากหลายทั้งกลอง ขลุ่ยและการเล่าเรื่องราว

โดยการแสดงจะเล่าถึงตำนาน เริ่มจากพูดถึงหมู่บ้านที่สงบสุข วันหนึ่งก็มีปีศาจเข้ามารุกรานจนวีรบุรุษต้องออกมาปราบ ปิดท้ายด้วยการฉลองชัยชนะ ได้หลากอารมณ์มาก เปิดด้วยการร่ายรำอ่อนช้อย ตามด้วยการแสดงกลองจังหวะคึกคัก เสียงขลุ่ยหวานๆ ปิดท้ายด้วยดนตรีฟีลคอนเสิร์ตปาร์ตี้ยิปปี้สนุกมาก

ผิดไหมถ้าจะขอเอ็นดูน้องสิงโต ระหว่างการอาละวาดทำลายหมู่บ้าน น้องจะพุ่งลงจะเวทีมาแฮ่ใส่คนดู เราไม่ได้โดนเอง แต่สะดุ้งแรงกว่าคนที่โดนอีก

มีช่วงให้ผู้ชมร่วมสนุกด้วย เขาจะแจกพัดให้คนดูลองฝึกท่าต่างๆ ของศิลปะการรำด้วยพัด หรือตอนปาร์ตี้ตอนท้ายก็ให้ปรบมือประกอบจังหวะ เป็นที่สนุกสนาน อ้อ ตลอดการแสดง เขาอนุญาตให้ถ่ายภาพและวิดีโอ โพสลงโซเชียลกันได้ตามสบาย

ดูจบแล้วไปลองตีกลองกับใส่ชุดกันได้ด้วยนะ

นอกจากนี้ยังมีร้านขายของและร้านอาหารบริการพร้อม ที่ตกใจคือมีร้านอาหารไทยอยู่ข้างในเลย! ชื่อร้านอีสาน เจ้าของร้านเป็นคนไทย รสชาติแบบไทยสไตล์ญี่ปุ่นเพื่อให้คนญี่ปุ่นกินแล้วไม่พ่นไฟปากพองกัน ไปลองกันได้

Dekonaru-za

ผ่อนคลายกับหมู่บ้านจำลองแบบชิราคาวาโกะ Hida folk village

มาถึง ทาคายามะ ใครๆ ก็เลยไปชิราคาวาโกะกันต่อ สักกี่คนที่จะรู้ว่าอยู่นี่ก็มีหมู่บ้านแบบชิราคาวาโกะให้ดูเหมือนกันนะ Hida no sato แห่งนี้คือหมู่บ้านจำลองที่ย้ายมาจากทั่วภูมิภาคฮิดะ

บรรยากาศสงบสุขมาก เหมือนตัดขาดจากโลกภายนอก ขณะที่ชิราคาวาโกะคนแน่นจนแทบเบียด ที่นี่ก็โล่งจนเหมือนทั้งหมู่บ้านเป็นของเราคนเดียว ถ้าหิมะตกจะยิ่งได้บรรยากาศ แต่คราวนี้ทั้งหมู่บ้านยังเป็นสีฤดูใบไม้ร่วงส้มไปทั้งเขา

เข้ามาดูด้านในได้ด้วย ด้านในมีนิทรรศการเกี่ยวกับวิถีชีวิตและภูมิปัญญาของคนสมัยก่อน รวมถึงสภาพความเป็นอยู่สมัยนั้น โลคอลได้ใจ

Hida folk village

ทำตุ๊กตาเครื่องรางท้องถิ่นที่ Crafts Experience Center

เดินจากหมู่บ้านด้านบนมาหน่อยหนึ่งจะพบกับ Hida Takayama Crafts Experience Center เราจะมาทำตุ๊กตาประจำทาคายามะกัน! ตุ๊กตาสีแดงไม่มีหน้านี้คือ Sarubobo เป็นภาษาท้องถิ่นแปลว่าลูกลิง เขาว่าที่น้องไม่มีหน้าเพราะจะให้สะท้อนความรู้สึกของเจ้าของ เวลาเศร้าก็จะเป็นหน้าเศร้า เวลามีความสุขก็จะเห็นเป็นหน้ายิ้ม

เอาเป็นว่าตุ๊กตานี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของ ทาคายามะ เลยก็ว่าได้ มาทั้งที มาทำตุ๊กตาซารุโบโบะกลับไปเป็นของที่ระลึกดีกว่า

เริ่มจากเลือกสีที่ต้องการ แต่ละสีก็จะมีคำอวยพรต่างกันออกไป สีแดงคือครอบครัว สีเหลืองคือการเงิน สีชมพูคือความรัก สีเขียวคือสุขภาพ สีฟ้าคือการเรียน เราเลือกสีแดงเพราะอยากได้สีคลาสสิค

พอแกะถุงออกมา น้องจะหลุดออกจากกันเป็นชิ้นๆ ไม่ต้องตกใจ เราต้องเย็บส่วนต่างๆ ประกอบเข้าด้วยกัน แต่ใครเย็บไม่เก่งไม่ต้องห่วง เพราะคุณครูจะคอยบอกทีละขั้นว่าต้องเย็บเข้าตรงไหนออกตรงไหน

พอทำออกมาสำเร็จคือภูมิใจ ลูกของฉานนน

นอกจากตุ๊กตาซารุโบโบะ ที่นี่ยังมีงานฝีมือให้ได้สนุกกันอีกหลายอย่าง ทั้งฟุคุอิซางิหรือซารุโบโบะเวอร์ชั่นกระต่าย (น่ารักมุ้งมิ้งมาก!!) สโนว์โดม กล้องคาไลโดสโคป ปิ้งเซมเบ้ และอีกมากมาย

Hida Takayama Crafts Experience Center

Takayama ouan พักสะดวกใกล้สถานี

โรงแรมดีใกล้สถานี ไม่ต้องแบกกระเป๋าหนักก็ถึงโรงแรมไวทันใจ เพิ่มความพิเศษด้วยออนเซ็นที่อยู่สูงถึงชั้น 13! ให้คุณได้แช่น้ำร้อนไปชมวิวมุมสูงของฮิดะทาคายามะยามค่ำคืน

แนะนำให้สั่งเนื้อในมื้อเย็น เพราะ เนื้อ! อร่อย! มาก!! สมกับเป็นของขึ้นชื่อฮิดะทาคายามะ มาแล้วไม่กินไม่ได้จริงๆ

Takayama ouan

ในเมื่ออยู่ใกล้เมืองเก่าขนาดนี้ ออกไปเก็บภาพยามค่ำคืนสักหน่อย ตอนกลางวันคนค่อนข้างเยอะ แต่พอมืดแล้วกลายเป็นบรรยากาศสงบเงียบ สวยไปอีกแบบ

ข้อสรุป

ฮิดะ ทาคายามะ เป็นเมืองเล็กๆ ที่เปี่ยมไปด้วยสเน่ห์น่ารักเฉพาะตัว แม้จะเป็นเมืองที่คนนิยมมาพักในฐานะเมืองใกล้ชิราคาวาโกะ แต่เมืองนี้ก็เป็นในจุดหมายของหลายๆ คนที่ตั้งใจมาเที่ยวที่นี่โดยเฉพาะ ก่อนไปหรือหลังจากกลับมาจากชิราคาวาโกะ มาสัมผัสกลิ่นอายของญี่ปุ่นโบราณท่ามกลางขุนเขาที่นี่ ให้ทริปเยือนทาคายามะของคุณสมบูรณ์ยิ่งขึ้นกันเถอะ