มารู้จัก “Two Stars 4047” กันสักนิด
Two Stars 4047 เป็นหนึ่งใน “Joyful Train” ของ JR Kyushu รถไฟท่องเที่ยวที่ไม่ได้มีแค่การเดินทาง แต่ตั้งใจสร้างประสบการณ์แบบครบวงจร ทั้งบรรยากาศ วิว อาหาร และงานดีไซน์ที่สะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่น รถไฟขบวนนี้ถูกดัดแปลงมาจากตระกูล KiHa 40/47 รุ่นเก่า แล้วรีโนเวตใหม่หมดจดให้กลายเป็นรถไฟท่องเที่ยวสุดหรูที่ยังอบอุ่น
ที่มาของชื่อ Two Stars 4047 มาจากไหนกันนะ ?
Two Stars 4047 คือหนึ่งในรถไฟซีรีส์ “D&S” (Design & Story) ของ JR Kyushu โดยความหมายของชื่อ
– Two Stars คือดวงดาว 2 ดวง หมายถึง เมืองซากะและนางาซากิที่รถไฟขบวนนี้วิ่งผ่าน
– 4047 จับแยกออกมา 2 รหัส คือ 40 และ 47 หมายถึงรถดีเซลราง KiHa 40 และ KiHa 47 ที่มารวมร่างกลายเป็นรถไฟขบวนนี้ นั่นเอง
แนวคิด Joyful Train ของ JR Kyushu
JR Kyushu มีชื่อเสียงเรื่อง Joyful Train ที่แต่ละขบวนจะมีคอนเซ็ปต์ไม่ซ้ำ เช่น Seven Stars in Kyushu หรือ Aso Boy! สำหรับ Two Stars 4047 ก็ออกแบบมาเพื่อให้ผู้โดยสารได้สัมผัสความงามของทะเลคิวชูตะวันตก พร้อมกับศิลปหัตถกรรมอย่างเครื่องปั้นอาริตะที่ประดับตกแต่งบนตัวรถ
เส้นทางและวิวสุดเด่น
เสน่ห์ที่โดดเด่นที่สุดของ Two Stars 4047 คือการได้ชมวิวทะเลที่แตกต่างกันถึงสองแห่งในการเดินทางเที่ยวไปและกลับภายในวันเดียว
เที่ยวเช้า (AM): Takeo-Onsen → Nagasaki (ผ่านเส้นทางสาย Nagasaki Line)
จุดพักที่น่าสนใจ
สถานี Hizen-Hama (肥前浜駅)
ที่นี่คือสวรรค์ของคนรักสาเก! บนชานชาลาจะมี “HAMA BAR” บาร์สาเกที่ให้คุณได้ลิ้มลองสาเกขึ้นชื่อของเมืองคาชิมะ (Kashima) ซึ่งเป็นแหล่งผลิตสาเกที่สำคัญ รวมถึงแบรนด์ดังอย่าง “นาเบะชิมะ” (Nabeshima) สามารถเลือกชิมเป็นเซ็ตเล็กๆ ได้
ทะเลอาริอาเกะ (Ariake Sea)
เป็นทะเลที่มีความแตกต่างของระดับน้ำขึ้นลงมากที่สุดในญี่ปุ่น อยู่ที่เมืองนางาซากิแห่งนี้นี่เอง คุณจะได้ชมทัศนียภาพของหาดโคลนกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา วิถีชีวิตการทำประมงพื้นบ้าน และอาจได้เห็นนกน้ำนานาชนิด
ท่าเรือนางาซากิ (Port of Nagasaki)
ท่าเรือนางาซากิเป็นท่าเรือสำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น มีลักษณะเป็นอ่าวลึกที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสามด้าน ทำให้เป็นท่าเรือธรรมชาติที่ยอดเยี่ยม ในอดีตช่วงที่ญี่ปุ่นปิดประเทศ (ศตวรรษที่ 17-19) ท่าเรือแห่งนี้คือประตูเพียงแห่งเดียวที่เปิดรับการค้าและวัฒนธรรมจากโลกตะวันตก โดยเฉพาะกับเนเธอร์แลนด์และจีน
เที่ยวบ่าย (PM): Nagasaki → Takeo-Onsen (ผ่านเส้นทางสาย Omura Line)
อ่าวโอมุระ (Omura Bay)
มีทิวทัศน์เงียบสงบสวยงามราวกับทะเลสาบขนาดใหญ่ รถไฟจะวิ่งเลียบชายฝั่งอย่างใกล้ชิด ทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังลอยอยู่บนผืนน้ำ พร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่งดงาม (ขึ้นอยู่กับฤดูกาล)
Chiwata Station
นี่คือ “สถานีรถไฟที่ใกล้ทะเลที่สุด” แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ชานชาลาสถานีตั้งอยู่ติดกับอ่าวโอมุระแบบไม่มีอะไรกั้น เป็นจุดถ่ายรูปมหาชนที่งดงามอย่างยิ่ง ผู้โดยสารทุกคนจะลงจากรถไฟมาเพื่อเก็บภาพตัวสถานีไม้เก่าแก่คู่กับวิวทะเล
ที่สถานีนี้ เราสามารถเดินลงไปชมของที่ระลึกพื้นบ้าน ของว่าง หรือเครื่องดื่มท้องถิ่น สร้างบรรยากาศที่เป็นกันเอง แล้วถ้าเรามาในช่วงเย็นที่เห็นวิวพระอาทิตย์ตก (ขึ้นอยู่กับฤดูกาล) สถานีแห่งนี้จะกลายเป็นจุดชมวิวที่โรแมนติกและสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของการเดินทางเลยละ !
เมืองอาริตะ (Arita)
หลังจากผ่านสถานี Haiki รถไฟจะเบนออกจากแนวชายฝั่ง เข้าสู่พื้นที่ภูเขาและชนบทอีกครั้ง ผ่านเมืองอาริตะ (Arita) แหล่งเครื่องปั้นดินเผาชื่อดัง ก่อนจะสิ้นสุดการเดินทางที่สถานี Takeo-Onsen
ดีไซน์และโบกี้ของรถไฟ Two Stars 4047
ภายนอก ตัวรถโดดเด่นด้วยสีขาวมุกตัดกับสีทองอร่าม ให้ความรู้สึกหรูหราและพิเศษ ประดับด้วยลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องปั้นอาริตะ (Arita ware) ซึ่งเป็นงานฝีมือขึ้นชื่อของจังหวัดซากะ
ในขณะที่ภายในถูกรีโนเวตใหม่ทั้งหมดจากขบวน KiHa 40/47 เดิม ตกแต่งด้วยไม้สีอ่อนให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อการชมวิวโดยเฉพาะ
การจองตั๋วและการเดินทาง
ตารางเดินรถ
วันให้บริการ: โดยหลักจะให้บริการในวัน ศุกร์, เสาร์, อาทิตย์, จันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ควรตรวจสอบตารางเดินรถล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของ JR Kyushu อีกครั้ง)
เที่ยวเช้า: ออกจาก Takeo-Onsen เวลาประมาณ 10:22 น. ถึง Nagasaki เวลาประมาณ 13:15 น.
เที่ยวบ่าย: ออกจาก Nagasaki เวลาประมาณ 14:53 น. ถึง Takeo-Onsen เวลาประมาณ 17:45 น.
วิธีจองที่นั่ง
Two Stars 4047 เป็นรถไฟที่ต้องจองที่นั่งล่วงหน้าทั้งหมด (All reserved seats)
– จองออนไลน์: สะดวกที่สุดผ่าน JR Kyushu Rail Pass Online Booking หรือเว็บไซต์ทางการของ JR Kyushu สามารถจองล่วงหน้าได้ 1 เดือนก่อนวันเดินทาง (เวลา 10:00 น. ตามเวลาญี่ปุ่น)
– จองที่ Ticket Office (Midori no Madoguchi): สามารถจองได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วของ JR ในประเทศญี่ปุ่น
– สั่ง Bento และเครื่องดื่มล่วงหน้า: สามารถสั่งซื้อเบนโตะและสาเกท้องถิ่นสุดพิเศษได้พร้อมกับการจองตั๋ว หรือจองแยกต่างหาก อย่างน้อย 3 วันก่อนวันเดินทาง
ประเภทบัตรโดยสาร & ค่าใช้จ่าย
JR Pass ที่ครอบคลุม:
– All Kyushu Area Rail Pass
– Northern Kyushu Area Rail Pass
– JR Japan Rail Pass (All Japan)
ท่านที่ถือพาสเหล่านี้สามารถใช้บริการได้โดยไม่เสียค่าโดยสาร แต่ต้องทำการจองที่นั่ง (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับค่าจอง)
หากว่าเพื่อน ๆ ไม่มีตั๋ว JR Pass ก็จะต้องซื้อตั๋วราคาเต็ม + ค่าจองที่นั่ง
– เที่ยวเช้า (Takeo-Onsen → Nagasaki): รวมประมาณ: 4,960 เยน
– เที่ยวบ่าย (Nagasaki → Takeo-Onsen): รวมประมาณ: 5,250 เยน
รีวิวประสบการณ์บนขบวน Two Stars 4047
ประเภทที่นั่งและเลย์เอาต์
Sofa Seat (Car 1,3)
โบกี้ที่ 1 จะมีที่นั่งแบบโซฟา (Sofa Seat) และเคาน์เตอร์บาร์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชมวิวแบบสบายๆ
Booth Seat
โซนนี้จะมีที่นั่งทั้งแบบหันหน้าเข้าหากัน (Booth Seat) สำหรับ 2-4 คน และที่นั่งปรับเอนได้ (Reclining Seat) โดยจะอยู่ที่โบกี้ 3
อาหารและเครื่องดื่ม
Bento พิเศษเส้นทางเช้า
“Saga Gyusuki Bento” เบนโตะเนื้อวัวซากะระดับพรีเมียมในรสชาติสุกี้ยากี้
Bento พิเศษเส้นทางบ่าย
“Nagasaki WAKARAN Bento” เบนโตะที่ผสมผสานวัฒนธรรมอาหารของนางาซากิทั้งญี่ปุ่น จีน และตะวันตก
สาเกและคราฟต์เบียร์ท้องถิ่น
มีบริการสาเกขึ้นชื่อจากซากะและนางาซากิ รวมถึงคราฟต์เบียร์ท้องถิ่น และน้ำผลไม้
ขนมและของหวาน
Nagasaki Soufflé ซูเฟล่ชีสเค้กญี่ปุ่นเสิร์ฟร้อน ๆ ที่เบา ฟู อร่อยเหาะ
มีชาเขียวพิเศษให้เลือกทานด้วยนะ
ไอศกรีมซอร์เบทสุดพิเศษแค่เฉพาะขบวนรถไฟนี้เท่านั้น กินตอนร้อน ๆ คือฟินมาก
สิ่งอำนวยความสะดวก
Lounge 40 และจุดชมวิวพาโนรามา
“Lounge 40” เป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับผู้โดยสารทุกคน อยู่ในโบกี้ที่ 2 มีเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าที่ระลึก ของว่างและเครื่องดื่ม พร้อมที่นั่งชมวิวแบบพาโนรามาที่หันหน้าออกสู่หน้าต่างบานใหญ่ เป็นจุดไฮไลต์ของขบวน
ส่วนในเรื่องของความสะดวกสบายพื้นฐาน เช่น ห้องน้ำ / ห้องเปลี่ยนผ้าเด็กก็มีให้ สำหรับสายถ่ายรูปแบตหมดก็ไม่ต้องห่วง มี Wi-Fi พร้อมกับปลั๊กไฟใต้ที่นั่งให้ครบหายห่วงได้
เคล็ดไม่ลับการเลือกที่นั่ง ให้คุ้มค่ากับการนั่งเที่ยวแน่นอนการเลือกหมายเลขที่นั่งฝั่งวิวทะเล
เพื่อประสบการณ์การชมวิวที่ดีที่สุด การเลือกที่นั่งฝั่งที่ติดทะเลเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งจะแตกต่างกันในเที่ยวเช้าและบ่าย:
☀️ เที่ยวเช้า (AM: Takeo-Onsen → Nagasaki) ชมวิวทะเลอาริอาเกะ ให้เลือก ที่นั่งฝั่ง A เช่น 1A, 2A, 3A… ที่นั่งแถว A จะอยู่ฝั่งซ้ายของขบวนรถ (เมื่อหันหน้าไปทางทิศที่รถวิ่ง) ซึ่งจะเป็นฝั่งที่เห็นวิวทะเลอาริอาเกะได้เต็มตา
🌙 เที่ยวบ่าย (PM: Nagasaki → Takeo-Onsen) ชมวิวอ่าวโอมุระ ให้เลือก ที่นั่งฝั่ง D เช่น 1D, 2D, 3D… ที่นั่งแถว D จะอยู่ฝั่งซ้ายของขบวนรถในเที่ยวกลับ ซึ่งจะกลายเป็นฝั่งที่ติดกับอ่าวโอมุระ
Two Stars 4047
ที่อยู่ | เป็นรถไฟนำเที่ยว วิ่งให้บริการระหว่าง สถานี Takeo-Onsen (จังหวัดซากะ) และ สถานี Nagasaki (จังหวัดนางาซากิ) |
วิธีเดินทาง | เดินทางสู่สถานีต้นทาง (Takeo-Onsen) โดยนั่งรถไฟ Shinkansen หรือ Limited Express จากสถานี Hakata (Fukuoka) |
เวลาทำการ | ตามตารางเวลาที่กำหนด |
ราคา | ซื้อตั๋วโดยสารแบบเต็มราคาหรือใช้ตั๋ว JR Pass |
Website | Two Stars 4047 |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
1. นางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown )
นางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) ถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ่้นชื่อของเมือง Nagasaki ชนิดที่ต้องบอกว่าห้ามพลาดโดยเด็ดขาดหากได้มาที่นี่ ภายในนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) นั้นประกอบไปด้วยร้านค้ามากมาย และที่ขาดไม่ได้คืออาหารท้องถิ่นที่ได้รับอิทธิพลจากประเทศจีนนั่นก็คือจัมปง ( Chanpon ) และ ซาระอุด้ง ( Sara Udon ) และทางเข้าของนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) ก็มีประตูสไตล์จีนสีแดง ที่ตั้งอยู่หน้าทางเข้าทั้ง 4 ด้าน ซึ่งวัสดุที่ใช้สร้างนั้นได้นำเข้าจากประเทศจีน โดยประตูทางทิศตะวันออก เหนือ และใต้ สูง 9 เมตร กว้าง 9 เมตร ส่วนทิศตะวันตกสูง 9 เมตร กว้า 4 เมตร โดยประตูทั้ง 4ทิศสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1986
Nagasaki Shinchi Chinatown
ที่อยู่ | 10-13 Shinchimachi, Nagasaki, 850-0842 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถรางสาย 1 หรือ 5 (บางแหล่งเรียกสายไปยังทิศ Tsukimachi หรือสาย Sofuku-ji) จาก Nagasaki Station มาลงที่ป้าย Shinchi Chinatown (Shinchi-Chukagai) ใช้เวลาประมาณ 7–8 นาที |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Nagasaki Shinchi Chinatown |
2. สวนโกลเวอร์ Glover Garden
ที่นี่เดิมทีเป็นที่อยู่อาศัยของพ่อค้าชาวสก็อตแลนด์นามว่า Thomas Glover ซึ่งภายในสวนแห่งนี้จะประกอบไปด้วยบ้านไม้เก่าแก่ซึ่งก็ถือว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่ และนักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าไปชมในบ้านได้อีกด้วย นอกจากบ้านเก่าแก่แล้ว ที่นี่ก็ยังมีร้านกาแฟไว้บริการนักท่องเที่ยว หรือร้านค้าให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้ออีกด้วย
สวนโกลเวอร์ Glover Garden
ที่อยู่ | 8-1 Minamiyamatemachi, Nagasaki, 850-0931 |
วิธีเดินทาง | เดิน 20 นาทีจากนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) หรือนั่งรถรางจากสถานี Nagasaki มา ลงป้าย Ouratenshudo แล้วเดินอีก 7 นาที |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 08.00 น. – 18.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 620 เยน เด็กมัธยมปลาย 310 เยน เด็กประถม – มัธยมต้น 180 เยน |
Website | สวนโกลเวอร์ Glover Garden |
3. Nagasaki Kofukuji Temple (วัดโคฟุกุจิ – วัดจีนเก่าแก่)
วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1620 โดยพระชาวจีนซึ่งมีจุดประสงค์คือให้พ่อค้าชาวจีนมาขอพรให้เดินทางปลอดภัย โดยวัดนี้มีความแตกต่างจากวัดอื่นของญี่ปุ่นคือ มีสถาปัตยกรรมแบบจีน โดยตัววัดนั้นประกอบไปด้วยอาคารต่างๆ โดยห้องโถงหลักก็เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนพร้อมกับมีโคมไฟแก้วขนาดใหญ่แขวนอยู่บนหลังคาของห้องด้วย และที่สำคัญคือวัดนี้มีป้ายอธิบายส่วนต่างๆของวัดเป็นภาษาอังกฤษอีกด้วย
Nagasaki Kofukuji Temple (วัดโคฟุกุจิ – วัดจีนเก่าแก่)
ที่อยู่ | 850-0872 Nagasaki, Teramachi, 4 – 32 |
วิธีเดินทาง | เดิน 10 นาทีจากนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) หรือ นั่งรถรางหมายเลข 3 มาลงป้าย Kokaido – Mae แล้วเดินอีก 8 นาที |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 09.00 น. – 17.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็กมัธยม 200 เยน เด็กประถม 100 เยน |
Website | Nagasaki Kofukuji Temple (วัดโคฟุกุจิ – วัดจีนเก่าแก่) |
สรุป
Two Stars 4047 คือประสบการณ์การเดินทางด้วยรถไฟที่ไม่ใช่แค่การเดินทางธรรมดา แต่เป็นโปรแกรมท่องเที่ยวไปในตัว เชื่อมต่อเมืองออนเซ็นอย่าง ทาเคโอะ (Takeo) เข้ากับเมืองประวัติศาสตร์อย่าง นางาซากิ (Nagasaki) โดยตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยทิวทัศน์งดงามและกิจกรรมบนรถไฟที่น่าประทับใจ แถมในจุดพักแต่ละจุดเองก็ยังมีสถานที่เที่ยว หรือร้านค้า ขนม ของฝากพื้นบ้านให้เรารับชมกันแบบสนุก ๆ อีกมากมาย