โอกินาว่า คือประตูทางตอนใต้ ที่เราสามารถเข้าสู่ญี่ปุ่นได้จากทางนี้ เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำทะเลใส เกาะสวย นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมอันเป็นที่รู้จัก ก็คือ ริวกิว หรือ Ryukyu หลายๆ คนอาจสงสัยว่าแล้วคนที่นี่เค้าพูดภาษาอะไรกัน ที่นี่ใช้ภาษาญี่ปุ่นอยู่เพียงแต่สำเนียงอาจจะเพี้ยนไปบ้างเหมือนกับทางภาคใต้ของบ้านเรานั่นเอง นอกจากนี้ค่าเงินก็ยังใช้เงินเยนเช่นกัน แต่ความพิเศษของที่นี่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอากาศหนาวมากๆ เพราะสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยในช่วงที่อากาศหนาวนั้นก็ยังอยู่ที่ประมาณ 10 องศาเท่านั้นเอง
วิธีการเดินทาง
วิธีการเดินทางใน โอกินาว่า นั้น ก็จะแบ่งออกเป็น 6 วิธีด้วยกัน ดังนี้
รถไฟโมโนเรล
Yui Rai รถไฟโมโนเรลสายแรก และสายเดียวของโอกินาว่า โดยเชื่อต่อระหว่างสนามบินนะฮะ กับ 19 สถานี เข้าด้วยกัน โดยต้นสายก็คือ Naha Airport และปลายสายคือ Tedako-Uranishi ใช้เวลาเดินทางตั้งแต่ต้นสายจนสุดสาย 40 นาที โดยสามารถใช้เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้เช่น ถนนโคกูไซโดริ ใจกลางเมืองนาฮะ ปราสาทชูริโจ
ราคาค่าตั๋วเดินทาง
ประเภทตั๋ว | ผู้ใหญ่ | เด็ก | ระยะเวลาใช้งาน |
---|---|---|---|
QR 1-day ticket | 800 เยน | 400 เยน | 24 ชั่วโมงนับจากการซื้อตั๋ว |
QR 2-say ticket | 1,400 เยน | 700 เยน | 48 ชั่วโมงนับการซื้อตั๋ว |
นอกจากนี้เรายังสามารถซื้อ 1 Day-Pass หรือ 2 Day-Pass
วิธีการซื้ออ่านที่นี่ Click
หรือเราจะใช้บัตร OKICA (prepaid IC card) ในการเดินทางก็ได้เช่นกัน
รถเช่า
ในส่วนของการเดินทางอีกแบบที่คนนิยมกันเพราะทำให้เข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ง่ายขึ้น อยากไปไหนยังไงก็ได้ คือการเช่ารถขับ แต่คุณสมบัติของคนที่จะเช่ารถขับได้ก็คือต้องมีใบขับขี่สากล ส่วนร้านเช่ารถก็มีมากมายหลายแบบ
จักรยานเช่า หรือมอเตอร์ไซต์เช่า
การเช่าจักรยานหรือมอเตอร์ไซต์ที่นี่ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการไปเที่ยวไหนไกลมาก เที่ยวแค่ในตัวเมืองของโอกินาว่า ข้อดีของการเช่ามอเตอร์ไซต์หรือจักรยานคือเราสามารถหลีกเลี่ยงสภาพจราจรที่แออัดได้ นอกจากนั้นสำหรับใครที่ขับรถไม่เป็นก็สามารถใช้จักรยานได้นั่นเอง
อ่านเพิ่มเติมที่นี่ Click
แท็กซี่
สำหรับแท๊กซี่นี่เรียกได้ว่ามีทุกที่จริงๆ เพียงแต่ต้องกระเป๋าหนักหน่อยถึงจะขึ้นได้ โดยหลักการคิดค่าโดยสารมีดังนี้
Application แนะนำสำหรับใช้แท๊กซี่
รถบัส
Airport Limousine Bus
จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 8 สาย ดังนี้
ดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่
Route Map Airport Limusine Bus
โดยการเดินทางด้วยลีมูนซีนบัสเนี่ย เราามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยังจุดต่างๆ ในโอกินาว่าได้อย่างสะดวกสบาย
ราคาเช็คที่นี่ Clickสามารถจองตั๋วรถได้ที่นี่ Click
Yanbaru Express Bus
Yanbaru Express Bus
การเดินทางในโอกินาว่า
เป็นรถบัสที่วิ่งระหว่าง Naha airport – Churaumi aquarium – Unten portโดยสามารถใช้โดยสารไปและกลับได้เลย
Naha Airport / Chatan Route Bus
เป็นอีกสายที่น่าสนใจมาก สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวหมู่บ้านอเมริกา ต้องไปสายนี้เลย
โดยสามารถเช็ค Route และ ราคา ได้ที่นี่ Click
Okinawa Airport Shuttle Bus
รถบัสด่วนวิ่งรอบโอกินาว่า โดยมีรอบรถวิ่งมากถึงวันละ 26 เที่ยว โดยบัสนี้จะวิ่งตั้งแต่สนามบินไปจนถึงตอนกลางของโอกินาว่า ซึ่งจะจอดสถานที่ท่องเที่ยวหลักถึง 8 ที่ด้วยกัน แต่รถบัสนี้จะไม่จอดในตัวเมืองนะฮะจนถึงหน้าสวนสาธารณะคิเนนโกเอ็นมาเอะ
รถบัสนี้จะจอดทั้งหมด 8 สถานที่ท่องเที่ยวด้วยกันคือ
รถบัสนี้มีแบบพาสด้วย โดยแบ่งออกเป็นแบบ 3 วัน 3,900 เยน และ 5 วัน 4,900 เยน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและสถานที่ซื้อพาส Clickรถบัสประจำทาง
สามารถชำระได้ด้วยเงินสดหรือชำระผ่านบัตร IC Card “OKICA” เท่านั้น โดยบัสจะแบ่งสายดังนี้
สายรถ: 20, 120, (จาก Nago Bus Terminal) 65, 66, 70
สายรถ: 20, 28, 29, 43, 120
สถานที่หลัก: AEON MALL Okinawa Rycom
สายรถ: 21, 25, 23, 27, 31, 77, 80, 90, 92, 110, 223, 227
สายรถ: 1, 7, 8, 9, 13, 14, 17, 25, 46, 97
สถานที่หลัก: Okinawa Outlet Mall ASHIBINAA
สายรถ: 55, 56, 88, 98
สถานที่หลัก: เซฟาอูตากี
สายรถ: 38
สถานที่หลัก: โอกินาว่าเวิลด์
สายรถ: 54, 83
สถานที่หลัก: สวนอนุสรณ์สถานเพื่อสันติภาพ
สายรถ: 34, 89, (จาก Itoman Bus Terminal) 82, 107, 108
Okinawa Pass
นากจากนี้ยังมี Okinawa Pass ที่เราสามารถซื้อและเลือกใช้ได้ตามความต้องการ โดยพาสจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก และ 4 แบบย่อยคือ พาสสำหรับรถบัสอย่างเดียวและ พาสสำหรับรถบัส + Yui Rail โดยทั้งสองประเภทนั้นจะมีแบบ 1 DAY PASS และ 3 DAY PASS
ส่วนรูทสำหรับการใช้พาสดูได้ดังนี้
ดาวน์โหลดไฟล์ Okinawa Pass ขนาดใหญ่
Route Map Okinawa Pass
เรือด่วนเฟอร์รี่
สำหรับใครที่ต้องการหลีกดลี่ยงการจราจร หรือต้องการไปทางตอนเหนือของโอกินาว่าที่ไม่ค่อยมีรถบัสเราแนะนำให้นั่งเรือด่วยเฟอร์รี่ เพราะใช้เวลาเพียง 75 นาที กจากใจกลางนาฮะ ก็จะถึงทางตอนเหนือของโอกนาว่า ที่เมืองโมโตบุแล้ว
ส่วนราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด เพราะหากเราเลือกแบบไปรอบเดียวราคาจะอยู่ที่ 3000 เยน และหากเราเลือกแบบไป-กลับจะอยู๋ที่ 5400 เยน
รายละเอียดเพิ่มเติม Clickฤดูกาลท่องเที่ยว โอกินาว่า
ฤดูกาลท่องเที่ยวในโอกินาว่า จะมีฤดูที่แตกต่างจะเกาหลักของญี่ปุ่นเหมือนกัน เนื่องจากเป็นเกาะที่อยู่ทางใต้สุดของญี่ปุ่นแล้วนั่นเอง จึงทำให้ที่นี่มีอุณหภูมิที่ค่อนข้างอุ่นกว่าที่อื่น แต่ก็ยังคงมี 4 ฤดูเช่นเดิม
ฤดูใบไม้ผลิ
ฤดูนี้จะเริ่มตั้งแต่ มีนาคม จนถึง พฤษภาคม อากาศจะค่อนข้างสบาย เฉลี่ยนอยู่ที่ 19-25 องศา และถึงแม้ว่าเราจะเรียกฤดูนี้ว่าฤดูใบไม้ผลิแต่ในช่วงเวลานี้ไม่ได้มีดอกซากุระแต่อย่างใด เพราะซากุระจะบานในช่วงฤดูหนาวไปแล้วนั้นเอง
การแต่งกายในช่วงฤดูนี้ก็ให้เน้นเป็นการแต่งด้วยเสื้อแขนยาวขายาว หรือชุดสบายๆ ในช่วงพฤษภาคม
ฤดูร้อน
ฤดูร้อนนั้นเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงสิงหาคม โดยอุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ 23-33 องศา ในช่วงนี้อากาศจะร้อนมากเป็นพิเศษ แต่ในช่วงเดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนสิงหาคม จะมีพายุไต้ฝุ่นทำให้เกิดฝนตกและพายุได้จึงควรวางแผนให้ดีก่อนการเดินทาง
การแต่งกายช่วงเดือนนี้แนะนำว่าให้เน้นแต่งตัวด้วยชุดเบาๆ สบาย เพราะอากาศที่นี่จะร้อนอบอ้าวเป็นอย่างมาก
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
เริ่มตั้งแต่ กันยายนไปจนถึงพฤศจิกายน อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 16-32 องศา ในช่วงนี้อากาศจะเริ่มเปลี่ยนค่อยๆ เย็นลงและมีสภาพอากาศที่ค่อนข้างแจ่มใส ในช่วงนี้เราสามารถเลือกมาชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ช่วงเดือนตุลาคม
การแต่งกายในช่วงนี้เน้นเป็นเสื้อแขนยาว แต่ยังคงความเบาสบายอยู่ใคร แต่หากใครเป็นคนขี้หนาวแนะนำให้พกเสื้อคลุมไหมพรมมาสักตัวก็จะพอดี
ฤดูหนาว
เริ่มตั้งแต่ธันวาคมไปจนถึงกุมภาพันธ์ อุณณหภูมิเฉลี่ยนอยู่ที่ 9-26 องศา เป็นช่วงที่มีอากาศเย็นกว่าปกติ แต่ไม่มีหิมะอย่างแน่นอน หากใครคาดหวังว่าจะได้เจอหิมะที่โอกินาว่าคงต้องเปลี่ยนเข็ฒทิศอย่างไว แต่อากาศในช่วงนี้จะเย็นๆ
การแต่งกายช่วงนี้เน้นให้ใสแขนยาวขายาวจะดีที่สุด ถึงแม้จะเป็นเกาะแต่ช่วงนี้อากาศลดลงค่อยข้างต่ำเลยทีเดียว อาจจะไม่สบายได้
ก่อนเดินทางไปเที่ยวโอกินาว่าอย่าลืมเช็คสภาพอากาศก่อนนะ จะได้เตรียมเที่ยวพร้อมเสื้อผ้าที่ต้องใส่ถูกClick
10 ที่เที่ยว โอกินาว่า ห้ามพลาด!!
มาต่อกันที่สถานที่ท่องเที่ยว ในวันนี้เรานำมาแนะนำถึง 10 ที่ด้วยกัน หากไปที่โอกินาว่าแล้วห้ามพลาด ไม่งั้นเหมือนไปไม่ถึง
ปราสาทชูริ
ปราสาทซูริ ครั้งนึงปราสาทแห่งนี้เคยเป็นมรดกโลกที่ใครๆ ต่างก็หลงไหล ถือเป็นอีกหนึ่งปราสามเก่าแก่ ที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมเยือนสักครั้ง แต่เมื่อปี 62 ได้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่เผาปราสาทซุริจนวอดไปทั้งหลัง แต่ขึ้นชื่อว่าญี่ปุ่น ปัจจุบันได้เปิดให้เข้าชมบางส่วนแล้ว ถ้าหากไปก็จะได้พบกับปราสาทสีแดงสดเด่นเป็นสง่า ปัจจุบันยังคงเป็นมรดกโลกอยู่ สามารถไปชมกันได้นะ
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่แห่งโอกินาว่า ที่ซึ่งมีตู้ปลาขนาดยักษ์ พร้อมฉลามวาฬ และ ปลากระเบนแมนตามหาสมุทร ให้ได้ชม ทะเลคุโรชิโอะ คือ แท็งก์น้ำที่มีขนาดยาว 35 เมตร กว้าง 27 เมตร ลึก 10 เมตร มีความจุน้ำกว่า 7,500 ลูกบาศก์เมตร โดยติดตั้งยาวตั้งแต่ชั้น 1F ทะลุขึ้นไปถึงชั้น 2F ของพิพิธภัณฑ์โดยที่นี่จะเป็นที่อยู่ของฉลามวาฬ หากมาที่นี่ก็จะได้ชมระบบนิเวศน์ความเป็นอยู่ของฉลามวาฬ นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์นี้ยังอยู่ติดทะเลอีกด้วย สามารถชมวิวทะเลแบบสวยๆ สัมผัสทรายได้เลย
Southeast-botanical
อลังการไลท์อัพแห่งโอกินาว่า งานแสดงไฟขนาดใหญ่โดยในแต่ละปีจะมีธีมแตกต่างกันออกไป การจัดแสดงไฟนั้นจะถูกจัดออกมาในรูปแบบสวนดอกไม้ประดับไฟ ซึ่งจะถูกจัดในช่วงเดือน 10 จนถึง เดือน 5 ของทุกปี แต่หากเราต้องการชมพืชพรรณไม้ เขียวขจีต่างๆ สามารถมาในช่วงกลางวันได้เช่นกัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมClick
Cape Chinen Park
หน้าผาที่เห็นวิวทะเลมุมกว้าง รับลมเย็นๆ ชมวิวทะเล โรแมนติกสุดๆ โดยบริเวณหน้าผานี้สามารถเดินตามทางเดินเพื่อชมวิวได้เลย จากมุมนี้เราจะเห็นน้ำทะเลสีฟ้าใส สวยงามมากๆ หากชอบการชมวิวชิลๆ ในวันสบายๆ ต้องมาที่นี่เลย นอกจากนี้ที่นี่ยังคนน้อย ทำให้บรรยากาศค่อนข้างสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างมาก
Okinawa Prefectural Museum & Art Museum
Cr: FB Okinawa Prefectural Museum & Art Museum
พิพิธภัณฑ์จังหวัดโอกินาว่า หากคุณเป็นคนที่สนใจด้านประวัติศาสตร์ หรือวัฒนธรรมอยู่ล่ะก็ แวะมาที่นี่เลย โดยที่พิพิธภัณฑ์นี้เปรียบเสมือสถานที่บอกความเป็นมาของโอกินาว่า นอกจากนี้ยังมีงานศิลปะมาจัดแสดงที่นี่ในรูปแบบต่างๆ อีกด้วย รวมถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมาของที่นี่นั่นเอง
Cape Manzamo
Zakimi Castle Ruins
อีกหนึ่งสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ซากปราสาทซากามิ โดยจากปราสาทนี้เราสามารถมองเห็นวิวของท่าเรือนาฮะได้ด้วย บริเวณนี้ยังคงคงสร้างของซากปราสาทไว้อย่างดี อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในมรดกโลกของอาณาจักรริวกิวอีกด้วย โดยไม่ไกลจากซากปราสาทนี้มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะเล็กๆ อยู่ด้วย
American Village
และที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ อเมริกัน วิลเลจ โดยในสมัยก่อนนั้นที่โอกินาว่าเป็นที่ตั้งของฐานทัพสหรัฐอเมริกา จึงทำให้มีชาวต่างชาติอยู่ที่นี่มากมาย ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาช้อปปิ้ง หรือ พักผ่อนริมหาด เนื่องจากเป็นสถานที่ที่มีร้านค้าอยู่มากมาย ไม่ว่าจะซื้อของฝาก หรือหาอาหารอร่อยๆ แล้วไปเดินชิลอาบแดดริมหาดก็ได้เช่นกัน
Naminoue Shrine
ศาลเจ้าริมผาติดทะเล ศาลเจ้านี้มีความน่าสนใจอย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าเป็นศาลเจ้าที่อยู่ริมผา คือศาลเจ้านี้ตั้งอยู่บริเวณภูเขาลูกเล็กๆ ที่ยื่นออกไปในทะเล แต่เป็นหน้าผา เป็นอีกหนึ่งอันซีนที่ควรไปดูให้เห็นกับตา นอกจากนี้ยังสามารถขอพรให้สมหวัง สำเร็จ เดินทางปลอดภัย และอื่นๆ อีกด้วยนะ เป็นศาลเจ้าที่ชาวประมงมักมาขอพรก่อนออกเรือ
Kosetsu-ichiba
ตลาด Kosetsu Ichiba ตลาดที่รวมของกินไว้หลากหลายมากมาย เป็นที่นิยมในหมู่คนท้องถิ่นอย่างมาก แต่ตอนนี้ตลาดนี้ได้ย้ายไปขายในที่ทำการชั่วคร่าวจนถึงปี 2022 สำหรับใครที่ต้องการทานผลไม้ อาหารท้องถิ่น หรืออาหารทะเลสดๆ ควรมาที่นี่เลย
โดยพื้นที่ที่ย้ายไปก็ไม่ได้ไกลจากกันมากเลย สามารถเดินไปได้