เที่ยว Uji 1 วัน สัมผัสเสน่ห์เมืองชาเขียวแห่ง Kyoto

Cr: Wei-Te Wong

เมืองอุจิ เป็นเมืองเล็กๆในจังหวัดเกียวโตที่คุณสามารถเดินทางจากสถานีเกียวโตไปได้โดย JR Nara Line Local ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเท่านั้น คุณก็ถึงที่หมายได้อย่างสบาย ๆ มาพบกับสเน่ห์ที่คุณจะไม่มีวันหลงลืม ความสงบเงียบที่ทำให้เมืองนี้ดูน่ารักและมีเสน่ห์มากขึ้น วัดเบียวโดอินที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก วัดมิมุรุโทจิที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามถึง 4 ฤดู ถนนชาเขียวที่จะทำให้คุณหลงใหลไปกับความอร่อยของชาและเมนูที่คุณต้องการ ไปเที่ยว 1 วันที่แสนจะคุ้มค่ากับเมืองอุจิกันเลย

นอกจากเมืองอูจิ (Uji) ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งชาเขียวที่น่าหลงไหลแล้ว เมืองต่างๆ ในจังหวัด เกียวโต (Kyoto) ก็มีเสน่ห์ทางวัฒนธรรมมากมายให้ทุกคนมาค้นหา และอยากแนะนำทุกคนให้เข้ามาเยี่ยมชมกัน

Byodoin Temple : วัดเบียวโดอิน

Cr: Chris Gladis

สถานที่แรก ที่ใครมาเมืองอุจิต้องมาเยี่ยมชมสักครั้งคือ ความสวยงามของวัดเบียวโดอิน วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1052 ถ้าคุณลองหยิบเหรียญ 10 เยนขึ้นมาดูแล้วละก็ จะพบวันแห่งนี้ปรากฎอยู่บนเหรียญทันที วัดทางศาสนาพุทธที่มีโครงสร้างอันสง่างาม

จนเป็นที่รู้จักกันในนาม หอคอยนกฟินิกซ์ (Hoo-do) ทางเดินยาวออกมาจากตัววัดทั้งสองข้างคล้ายปีกนก ตั้งอยู่บนสวนกลางน้ำ ทำให้เงาของวัดสะท้อนลงกลับพื้นน้ำดูราวกับนกกำลังกางปีกโบยบินไปบนท้องฟ้า

ด้านในวัดมีรูปปั้นพระอมิตาภพุทธะหันหน้ารับแสงอาทิตย์ยยามเช้า ความเก่าแก่และงดงามนี้ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก คิดแล้วก็อยากไปสัมผัสกับตาตัวเองแล้วใช่ไหมคะ แค่บนเหรียญ 10 เยน ยังสวยขนาดนี้ วัดจริงจะสวยงามขนาดไหน

Byodoin Temple

ถนนชาเขียว

Cr: othree

Cr: othree

สายเขียวโยกมือขึ้น สถานที่ไม่ใกล้ไม่ไกล เพียงเดินออกจากวัดเบียวโดอินไม่ถึง 5 นาที เราก็จะมาเจอถนนที่ล้อมรอบไปด้วยร้านค้า ทั้งสองข้างทางมีร้านขายสินค้าที่ทำจากชาเขียวมากมายจนคุณไม่รู้จะแวะร้านไหนเลยทีเดียว

Cr: othree

Cr: y.ganden

ถนนแห่งนี้คือถนนที่เหมาะแก่การแวะพักและดื่มด่ำกับเมนูชาเขียวต่าง ๆ ให้คุณได้ลองเมนูใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอาหารแบบไหนก็จะประกอบไปด้วยชาเขียวทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นราเมน ซูชิ และห้ามพลาดกับไอศกรีมให้ชื่นช่ำหัวใจ ซอฟท์ครีมนุ่ม ๆ ละมุนลิ้นพร้อมกลิ่นชาเขียวที่คุณจะหลงไหลไม่รู้ลืม

ถนนชาเขียว

Ujikami Shrine : ศาลเจ้าอุจิคามิ

Cr: bethom33

อีกหนึ่งมรดกโลกที่เมืองอุจิ ศาลเจ้าอุจิคามิ (Ujikami Shrine) สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1060 เป็นศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ด้วยโครงสร้างด้านในเป็นศาลเจ้า 3 ศาลเรียงต่อกัน โดยเชื่อมต่อกันด้วยหลังคาเดียวเป็นหาสถาปัตยกรรมที่หาชมได้ยากมาก อีกนึ่งเสน่ห์ที่คุณต้องไปสัมผัสด้วยตัวเอง และสักการะเทพเจ้าพร้อมขอพร

Ujikami Shrine

Uji river : แม่น้ำอุจิ

เนื่องจากเมืองอุจิตั้งอยู่ริมแม่น้ำอุจิที่ไหลมาจากทะเลสาบบิวะ แม่น้ำอุจิจึงเป็นอีกนึ่งเสน่ห์จากธรรมชาติที่สวยงามของเมืองนี้ ไม่ว่าจะสายน้ำไหลผ่านมานานกว่า 1,000 ปี สะพานไม้ที่ถูกออกแบบจากสถาปนิก ตั้งแต่ปี ค.ศ.1996 ช่างสวยงามเข้ากันดี

โดยสะพานนี้สร้างขึ้นด้วยการผสมผสานสถาปัตยกรรมโบราณในส่วนงานไม้และสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่ใช้เหล็กและปูนเป็นฐานรากสร้างความแข็งแรง ทอดยาวเชื่อมไปยังสะพานไม้แดงยาวข้ามแม่น้ำให้คุณรับลม รับบรรยายกาศแสนสบายนี้ไว้ในใจไปอีกนาน

หรือใครคิดว่าแค่ยืนมองวิวสวย ๆ อยู่บนสะพานคงไม่พอ บริเวณแม่น้ำอุจิแห่งนี้ก็มีเรือที่ล่องแม่น้ำ ให้คุณชมความสวยงามของธรรมชาติบนเรือรอบเมืองโบราณอีกด้วย โดยเฉพาะเดือนเมษายนที่ซากุระบานสะพรั่งทั้งสองข้างทาง อย่าพลาดบรรยายกาศแสนโรแมนติกแบบนี้นะคะ

Uji river

Koshoji temple : วัดโคโชจิ

วัดโคโชจิ (Koshoji temple) เป็นวัดพุทธนิกายเซนแห่งแรกในญี่ปุ่น ใครสายบุญก็อย่าลืมแวะมานมัสการ และนอกจากนี้ก็ยังเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องใบไม้เปลี่ยนสี มาทำให้รูปสวยๆ ของคุณเต็มไปด้วยสีส้มสีแดงที่แสนจะอบอุ่น

Koshoji temple

Mimuroto Temple : วัดมิมุโรโตะ

Cr: Yousuke

Cr: Izu navi

มาถึงสถานที่อันสวยงามแห่งสุดท้าย วัดมิมุโรโตะ (Mimuroto Temple) ที่คนญี่ปุ่นรู้จักในชื่อ วัดแห่งดอกไม้ (Flower Temple) ที่ไม่ว่าคุณจะมาเมื่อไรก็สวยงามอยู่ตลอด วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นประมาณ 1,200 ปีผ่านมา วัดกว้างขว้าง ทางเดินที่เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้ที่เบ่งบานและผลิใบผันเปลี่ยนไปทั้ง 4 ฤดู ยิ่งดอกไฮเดรนเยียสีฟ้าครามให้คุณชมความงาม สูดดมกลิ่นธรรมชาติให้เต็มปอด

Mimuroto Temple

Cr: Takashi Nishimura

นอกจากนี้ที่เมืองอุจิยังมีเทศกาลต่างๆ ที่น่าลองไปชมสักครั้ง อย่างเทศกาลดอกไม้ไฟอุจิกะวะ วันที่ 10 เดือนสิงหาคม เทศกาลอะกะตะ วันที่ 5 เดือนมิถุนายน เทศกาลชาอุจิ ช่วงต้นเดือนตุลาคม เป็นต้น ให้คุณรักเมืองอุจิมากขึ้น และ นึกถึงชาเขียวอย่าลืมเมืองอุจินะคะ

ข้อสรุป

เมืองอุจิมีเสน่ห์ความเรียบง่ายที่คุณจะต้องหลงรัก เพียงหาเวลาว่างสักวัน มาเที่ยวที่นี่คุณก็จะรู้สึกถึงคำว่าพักผ่อนหย่อนใจจริง ๆ แล้ว สำหรับคอชาเขียวขอแนะนำที่นี่เป็นอย่างยิ่ง ห้ามพลาดเต็มขาดเลยนะคะ ขอให้มีความสุขกับเมืองแสนน่ารักแห่งนี้ค่ะ

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

15 ที่เที่ยว เกียวโต ที่จะชวนมาสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณและสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่

15 ที่เที่ยว เกียวโต (Kyoto) มนต์เสน่ห์แห่งญี่ปุ่น ที่ไม่ควรพลาดการเช็คอิน !

จังหวัดเกียวโต ตั้งอยู่ที่ภูมิภาคคันไซ ที่ทุกคนอาจรู้กันดีว่าในอดีตนั้นเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนักท่องเที่ยวจะมาเที่ยวที่เกียวโตเป็นจำนวนมาก เนื่องจากว่าใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่สวยมากๆ อีกทั้งยังมีวัดเก่าแก่ และสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่สวยงามให้เราได้เที่ยวชมอีกด้วย