ไปรู้จักกับเส้นทาง เดินป่า และ ปีนเขา ญี่ปุ่นกัน!

28/05/2024
สำหรับสายธรรมชาติแล้ว หนึ่งกิจกรรมไม่ควรพลาดเมื่อมาญี่ปุ่นคือการเดินป่า หรือปีนเขาที่ญี่ปุ่น ซึ่งที่ญี่ปุ่นนั้น เราสามารถเดินพร้อมชื่นชมดื่มด่ำไปกับธรรมชาติตลอด 4 ฤดูกาล

・ฤดูร้อน จะได้พบกับต้นไม้ที่เขียวขจีตลอดเส้นทางเดิน บางเส้นทางมีสายน้ำไหลเอื่อย ๆ ช่วยให้อากาศเย็นระหว่างที่เดินผ่าน
・ฤดูใบไม้ร่วง จะได้พบกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติตลอดเส้นทาง สีแดงอมส้มของใบไม้เปลี่ยนสีจะสวยสดทั่วป่า อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อน ไม่หนาวจนเกินไป
・ฤดูหนาว จะได้พบกับความงามของผืนป่า และหุบเขาที่ปกคลุมด้วยสีขาวของหิมะ แม้ว่าหลายเส้นทางจะปิดเพื่อป้องกันอันตราย แต่บางเส้นทางก็ยังเปิดให้เดินเล่นในช่วงที่หิมะไม่ตกหนัก
・ฤดูใบไม้ผลิ จะได้พบกับดอกซากุระ และพรรณไม้ตามฤดูกาลที่กำลังบานสะพรั่ง ซึ่งเราจะได้ชมซากุระอย่างใกล้ชิด

Level 1 (ระดับง่าย)

ระดับนี้เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือบุคคลทั่วไปที่สนใจการเดินป่า เป็นการเดินบนพื้นเรียบ มีระดับความชันขึ้น หรือลงบ้างเล็กน้อย มือใหม่สามารถไปได้สบายๆ ใช้เวลาแค่วันเดียวก็เที่ยวได้ สามารถใส่รองเท้าผ้าใบเดินได้ ให้ความรู้สึกเป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติ

คามิโคจิ (Kamikochi)

ปีนเขา ญี่ปุ่น

เป็นพื้นที่ทางตอนเหนือของ Japan Als และส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติชุบุ ซังกาคุ(Chubu Sangaku National Park) มีทัศนียภาพสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ทอดตัวเป็นที่ราบสูงยาวไปตามแม่น้ำ Azusa-gawa  มีเส้นทางเดินป่าชมธรรมชาติหลากหลายเส้นทาง เป็นพื้นที่ที่ยังไม่ได้มีการพัฒนามากนักและห้ามใช้รถส่วนตัวในการเข้าถึง ที่นี่เปิดให้เข้าชมเฉพาะช่วงกลางเดือนเมษายนถึงเดือนกันยายนเท่านั้น

ปีนเขา ญี่ปุ่น

ความสูงจากระดับน้ำทะเล  1,500เมตร
เส้นทางแนะนำ เส้นทางสะพานคัปปะบาชิ (Kappa Bridge) -บึงเมียวจิน (Myojin Pond)
ระยะทาง ระยะเวลาที่ใช้ 2.5-3 กิโลเมตร / 3ชั่วโมง
ช่วงเวลาแนะนำ เดือนตุลาคม – พฤศจิกายน

อ่านบทความเกี่ยวกับ Kamikochi เพิ่มเติมได้ที่นี่

ภูเขาทาคาโอะ (Mount Takao)

ปีนเขา ญี่ปุ่น

เป็นจุดเดินเขายอดนิยมที่มีชื่อเสียงเหมาะสำหรับมือใหม่ ด้วยเส้นทางการเดินที่ง่าย วิวสวย ถ้าวันที่ฟ้าเปิดก็จะมีวิวฟูจิเป็นของแถม ทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีเส้นทางการเดินถึง 6เส้นด้วยกัน ซึ่งทั้งหมดยังจัดอยู่ในระดับการเดินทางที่ง่าย สามารถใช้เวลาภายในหนึ่งวันก็เดินได้ มีชื่อเสียงเป็นพิเศษในช่วงฟดูใบไม้เปลี่ยนสี

ปีนเขา ญี่ปุ่น

สูงจากระดับน้ำทะเล  599 เมตร
ระยะทาง ระยะเวลาที่ใช้ 3-5กิโลเมตร / 1-2ชั่วโมง
ช่วงเวลาแนะนำ เดือน พฤศจิกายน

อ่านบทความเกี่ยวกับ ภูเขาทาคาโอะ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เขามิตาเกะ (Mitake) 

ปีนเขา ญี่ปุ่น

มีชื่อเสียงด้านธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ซึ่งมีทั้งน้ำตกและสวนหินปกคลุมด้วยมอสเขียว ภูเขามิทะเกะเป็นหนึ่งในสองเส้นทางเดินป่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดใน โตเกียว เคียงคู่กับภูเขาทาคาโอะ เป็นภาพของสายน้ำใสตามธรรมชาติไหลผ่านโขดหินที่ปกคลุมไปด้วยมอสส์ถือเป็นทัศนยภาพอันงดงามที่สุดอย่างหนึ่งของญี่ปุ่น

สูงจากระดับน้ำทะเล 929 เมตร
ระยะทาง ระยะเวลาที่ใช้ 6-8 กิโลเมตร / 3-4 ชั่วโมง
ช่วงเวลาแนะนำ ช่วงกลาง-ปลายพฤศจิกายน

ลุ่มเซนโจงาฮาระ (Senjougahara Marshland)

ปีนเขา ญี่ปุ่น

ที่ลุ่มเซนโจงาฮาระ(Senjogahara Marshland) ตั้งอยู่เมืองนิกโก้(Nikko) มีพื้นที่ครอบคลุมระหว่างทะเลสาบชูเซนจิ(Lake Chuzenji) และยูโมโตะออนเซน ที่มีระดับความสูง 1,400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล โดยเป็นรูทสำหรับคนที่ชอบเดินป่ารูทง่ายๆ ซึ่งถือเป็นเส้นทางที่สวยในทุกฤดูแต่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงในเดือนตุลาคมใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองไปทั้่วทั้งทุ่ง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสายธรรมชาติที่สวยจนอยากให้ลองไปสัมผัสกันดูสักครั้ง

สูงจากระดับน้ำทะเล  1,400เมตร
ระยะทาง ระยะเวลาที่ใช้ 2-5กิโลเมตร / 2-4ชั่วโมง
ช่วงเวลาแนะนำ เดือนตุลาคม – พฤศจิกายน

เส้นทางแสวงบุญ Kumano Kodo (Nakahechi)

ปีนเขา ญี่ปุ่น

นากาเฮจิได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีและเดินค่อนข้างสะดวก โดยทอดผ่านเนินเขาที่มีภูมิประเทศเป็นป่าและหมู่บ้านต่างๆ เป็นครั้งคราว เส้นทางระหว่างทากิจิริโอจิ (ด้านนอกใจกลางทะนะเบะ) และฮองกุอยู่ห่างออกไปประมาณ 30 กิโลเมตร และสามารถทำได้ด้วยการเดินเท้าสองวันอย่างสะดวกสบายโดยแวะพักค้างคืนที่จิคัตสึยะ โอจิ ซึ่งมีมินชูกุไม่กี่แห่ง เส้นทางสิ้นสุดด้วยการลงสู่ฮองกุไทฉะ ซึ่งมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของประตูโทริอิขนาดใหญ่ของศาลเจ้า

คุมาโนะโคโดะประกอบด้วยหลายเส้นทางซึ่งแต่ละเส้นทางจะมอบประสบการณ์ที่แตกต่างกัน เส้นทางนาคาเฮจิซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่พวกเขาเริ่มต้นจากเมืองทานาเบะบนชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรคิอิและเดินทางผ่านพื้นที่ภูเขาเพื่อไปยังศาลเจ้าใหญ่แห่งคุมาโนะ เส้นทางโคเฮจิเชื่อมต่อโคยะซังและคุมาโนะซันซังและเป็นเส้นทางที่ท้าทายกว่าซึ่งต้องใช้การเดินป่าหลายวันบนภูมิประเทศที่เป็นภูเขา เส้นทางอิเซจิบนชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรให้ทิวทัศน์ชายฝั่งที่สวยงามและผ่านไร่ชาที่สวยงาม

สูงจากระดับน้ำทะเล  เมตร
ระยะทาง ระยะเวลาที่ใช้ กิโลเมตร / ชั่วโมง
ช่วงเวลาแนะนำ เดือน

Level 2 (ระดับกลาง)

ระดับนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เคยเดินป่าปีนเขามาบ้างแล้ว จะเป็นการเดินบนพื้นที่ขรุขระใช้พละกำลังบ้างและก็เริ่มมีทางชันเพิ่มมากขึ้น ใช้เวลาหนึ่งถึงสองวัน

ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji)

close up mount fuji from lake kawaguchi side, Mt Fuji view from the lake

โดยการเดินขึ้นไปยังยอดเขาจะใช้เวลาประมาณ 5-7 ชั่วโมง ภูเขามีเส้นทางหลักสี่เส้นทาง ได้แก่ โยชิดะ ซุบาชิริ โกเท็มบะ และฟูจิโนะมิยะ ซึ่งแต่ละเส้นทางให้ทัศนียภาพและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

สูงจากระดับน้ำทะเล  3,776เมตร
ระยะทาง เส้นทางแนะนำคือ เส้นทาง Yoshida ระยะเวลาที่ใช้ 15กิโลเมตร / 9-11 ชั่วโมง
ช่วงเวลาแนะนำ เดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนกันยายน

อ่านบทความเกี่ยวกับ การปีนภูเขาฟูจิ เพิ่มเติมได้ที่นี่

อุทยานแห่งชาติโอเซะ (Oze National Park) 

ครอบคลุม 4 จังหวัด ได้แก่ กุนมะ ฟุกุชิมะ นีงาตะ และโทชิงิ เป็นหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น’ภูมิทัศน์ธรรมชาติที่หวงแหนมากที่สุด มีหลายเส้นทางให้เลือกแต่ส่วนใหญ่เป็นจะเป็นระยะทางไกลที่ต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน และเปิดให้เดินทางเฉพาะช่วงต้นเดือนพฤษภาคมถึงเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น

สูงจากระดับน้ำทะเล  เมตร
ระยะทาง ระยะเวลาที่ใช้ กิโลเมตร / ชั่วโมง
ช่วงเวลาแนะนำ เดือน

ภูเขา Yakedake

ภูเขายาเกะดาเกะตั้งอยู่บนสันเขาของเทือกฮิดะ ซึ่งคาบเกี่ยวกับจังหวัดนากาโนะและกิฟุ มียอดสูงสุดที่ความสูง 2,455 เมตร ที่สำคัญที่สุดคือภูเขาแห่งนี้ยังเป็นภูเขาไฟที่ยังมีชีวิต แม้จะเป็นเพียงยอดภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือของญี่ปุ่นก็ตาม สำหรับเส้นทางภูเขา Yakedake เป็นการเดินป่าที่ง่ายอย่างน่าประหลาด โดยเส้นทางนี้ทอดยาวระหว่าง Kamikochi และ Nakanoyu และสามารถใช้เวลาเดินเสร็จได้ในหนึ่งวัน นอกจากนี้ยังเป็น1 ใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น (100 Famous Japanese Mountains)

สูงจากระดับน้ำทะเล  921มตร
ระยะทาง ระยะเวลาที่ใช้ 8.8กิโลเมตร / 6-7 ชั่วโมง
ช่วงเวลาแนะนำ เดือน

คาราซาว่าเซิร์ก (Karasawa Cirque)

อาจจะไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายของคนทั่วไป แต่สำหรับผู้ที่ชอบเดินป่าแล้ว คาราซาว่าเซิร์กต้องอยู่ใน bucket list ของหลายๆคนแน่นอน นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นเบสสำหรับปีนเขาไปยอดต่างๆของเทือกเขาโฮทากะ (Hotaka) ด้วย สำหรับช่วงพีคของใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่จะอยู่ช่วงราวๆปลายเดือนกันยายนจนถึงต้นเดือนตุลาคม

ที่นี่มีทั้งหมด 3 เส้นทาง

สูงจากระดับน้ำทะเล  2,300มตร
ระยะทาง ระยะเวลาที่ใช้ 30กิโลเมตร / 11 ชั่วโมง (2 วัน 1 คืน)
ช่วงเวลาแนะนำ ปลายเดือนกันยายนจนถึงต้นเดือนตุลาคม

Level 3 (ระดับยาก)

ระดับนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์มาพอสมควร เพราะเป็นการเดินบนพื้นดิน หรือทางหินที่ขรุขระ ใช้เวลา และพละกำลังในการเดินขึ้นทางชันมาก มีความอันตรายของพื้นที่ๆไป ต้องใช้รองเท้าสำหรับเทรคกิ้ง (Trekking) หรือแจ๊คเกตสำหรับใส่เดินป่า และทักษะการเอาตัวรอด 

เส้นทางเดินเขากัซซัง (Mount Gassan)

เป็นหนึ่งใน “100 ภูเขาที่มีชื่อเสียง” ของญี่ปุ่นและเป็นภูเขาที่โดดเด่นของภูมิภาค Tohoku ตลอดฤดูร้อนเราจะพบต้นหญ้าภูเขาสูงอย่าง Kobakeisou และ Nikkokizuge ที่มีสีเขียวออกดอกสีเหลืองสดสวยงามทั่วทั้งภูเขาในเดือนกรกฏาคมถึงสิงหาคม แต่เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง, ต้นหญ้า Mine-Kaede และ Nanakamado จะเปลี่ยนสีเป็นสีแดงสวยงาม บวกกับสีของใบไม้ร่วงจากพืชอื่นๆ ทำให้ภูเขานี้เปลี่ยนเป็นสีแดงไปทั่ว

สูงจากระดับน้ำทะเล  1,984 เมตร
ระยะทาง ระยะเวลาที่ใช้ กิโลเมตร / ชั่วโมง
ช่วงเวลาแนะนำ เดือนตุลาคม – พฤศจิกายน

ภูเขา Yarigatake (เส้นทาง Kamikochi Yarisawa)

มีเส้นทางหลายเส้นทางที่มุ่งหน้าไปสู่ภูเขา Yarigatkae แต่คอร์สเส้นทาง Kamikochi Yarisawa เป็นหนึ่งในคอร์สที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะถือว่ามีความ “ยาก” เนื่องจากมีลักษณะเป็นแม่น้ำและมีทางขึ้นสูงชัน มีบ้านพักเป็นครั้งคราวและพื้นที่ตั้งแคมป์ขนาดเล็ก ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งสามารถชมได้ระหว่างกลางเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม

สูงจากระดับน้ำทะเล  เมตร
ระยะทาง ระยะเวลาที่ใช้ 39กิโลเมตร / 3-4 วัน
ช่วงเวลาแนะนำ กลางเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม

เช็คลิสต์อุปกรณ์เดินป่า ปีนเขาญี่ปุ่น มีอะไรบ้าง

สำหรับการจัดกระเป๋าเดินป่า ควรเน้นที่จำเป็น เบาสบาย และใช้งานจริงเท่านั้น รวมถึงอุปกรณ์ที่พกไปจะต้องเหมาะกับสภาพเส้นทางการเดิน และสภาพอากาศในช่วงเวลานั้น ๆ
1. รองเท้าเดินป่า รองเท้าไฮกิ้ง รองเท้าเทรคกิ้ง จะต้องรับน้ำหนักได้ดี และรองรับการกระแทกได้ด้วย
2. เสื้อผ้าที่ถ่ายเทอากาศได้ดี และเหมาะกับสภาพอากาศในช่วงเวลานั้น ๆ
3. ถุงมือ หากไปที่ที่จะต้องมีการปีนผาหิน หรือปีนเชือก
4. ไฟฉาย โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้ร่วง พระอาทิตย์จะตกเร็ว
5. ชุดปฐมพยาบาลพื้นฐาน ที่มียาดม, ยาใส่แผล, ยาคลายกล้ามเนื้อ, ยาแก้ปวดที่ครอบคลุมป่วยไข้
6. กระติกน้ำ หรืออาหารแห้งเล็ก ๆ ไว้เติมพลังงานระหว่างการเดินทาง
7. อื่น ๆ เช่น ถุงขยะ ทิชชู่เปียก แผ่นแปะกันหนาว เป็นต้น

ข้อควรรู้สำหรับการเตรียมตัวเดินป่า ปีนเขาญี่ปุ่น

1.สำรวจร่างกายตัวเองว่ามีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายระหว่างเดินป่าหรือไม่
2.ศึกษา และหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสถานที่ที่จะไป เช่น สภาพเส้นทาง จุดเที่ยว จุดชมวิว หรือระยะเวลาการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเดิน
3.เช็คสภาพอากาศว่าช่วงที่ไปตรงกับฤดูอะไร มีฝน หรือลมหนาวหรือไม่ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม
4.ศึกษากฎ กติกา ข้อห้ามของสถานที่ที่เราจะไป

สถานที่เที่ยว

| Feature

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515