เมืองเซนได เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคโทโฮคุ และ จังหวัดมิยางิ โดยจะอยู่ห่างจากโตเกียวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 370 กิโลเมตร เมืองเซนไดที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1600 โดย ดะเตะ มะสะมุเนะ โดยเมืองเซนไดมีชื่อเรียกอีกชื่อนึงว่า “City Of Trees” หรือแปลเป็นไทยได้ว่า “เมืองแห่งต้นไม้”
สามารถนั่งเครื่องบินภายในประเทศมาลงยังเมืองเซนไดได้ ซึ่งวันที่ 27 ตุลาคม 2019 นี้ การบินไทยได้เปิดเส้นทาง สุวรรณภูมิ – เซนได สัปดาห์ละ 3 วัน ดังนั้นหลังวันที่ 27 ตุลาคม 2019 ก็จะสามารถบินตรงจากประเทศไทยมายังเซนไดได้เลย
สามารถนั่งรถไฟชินคันเซนมาจากโตเกียวได้เลย ใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมง30นาที – 2ชั่วโมง (แล้วแต่ขบวนรถไฟ)
ขับจากโตเกียวจะใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร)
วิธีการเที่ยวเมืองเซนไดที่สะดวกที่สุดก็คือการนั่งรถเมล์ Loople Sendai ซึ่งเป็นรถเมล์ที่ขับวนรอบเมืองเซนไดผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ โดยจะมีตั๋วเหมา 1 วันสำหรับนั่งรถเมล์ Loople bus ได้ไม่จำกัดเที่ยวใน 1 วัน เรียกว่า One-day Loople Sendai Pass
วิธีการใช้ One-day Loople Sendai Pass นั้น ให้โชว์ให้คนขับดูตอนก่อนลงจากรถ นอกจากจะใช้ขึ้นรถ Loople Sendai แล้ว บัตรนี้ยังสามารถใช้เป็นส่วนลดสำหรับเข้าสถานที่อีกด้วย
ตารางเวลารถ Loople Sendai สามารถดูได้จาก ที่นี่
หน้าตาของรถLoople Sendai
ป้ายรถเมล์ของ Loople Sendai จะเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร รับรองว่าไม่ขึ้นผิดป้ายแน่นอน
หลังจากที่ได้รู้จักรถ Loople Sendai กันแล้ว คราวผมจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเที่ยวได้ใน1วันของเซนได
สถานที่แรกที่ผมจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักนั่นคือ บันซุยโซโด บันซุยโซโด ในอดีตนั้นเป็นที่พำนักของ บันซุย โดอิ นักประพันธ์ชื่อดัง ในบั้นปลายชีวิต ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตในปี ค.ศ.1951
ด้านหน้าของ Bansuisodo ยังคงความเป็นบ้านสไตล์โบราณไว้ได้อย่างดี
ด้านในจะจัดเป็นบ้านแบบสมัยโบราณเช่นกัน
ที่นี่ยังมีสิ่งของเครื่องใช้, เตียงนอน , รูปถ่ายของท่าน และ ผลงานต่างๆผลงานที่โดงดังที่สุดของท่านคือ “Kojo no Tsuki” ข้างในสามารถถ่ายรูปได้
ด้านหลังของบันซุยโซโดยังเคยมีพื้นที่ซึ่งเคยเป็นจุดที่ตั้งของ Sendai Unesco House Site ด้วย
แผนที่การเดินทางมายัง Bansuisodo จากป้ายรถเมล์ที่ลง (ลูกศรสีแดง) ส่วน Bansuisodo จะอยู่ตรงหมาย 1 ในแผนที่
ที่อยู่ | 1-2-2 Omachi, Aoba , Sendai, Miyagi 980-0804 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถ Loople sendai มาลงป้ายที่ 3 Bansuisodo แล้วเดินข้ามถนนไปก็จะเจอเลย |
เวลาทำการ | หยุดทุกวันจันทร์ ยกเว้นถ้าวันจันทร์เป็นวันหยุดแห่งชาติจะไปหยุดวันอังคารแทน เปิดตั้งแต่ 9.00 – 17.00 |
ที่นี่ถูกสร้างเมื่อปีค.ศ.1637 ซึ่งเป็นเวลาหลังท่านดะเตะ มะสะมุเนะ เสียชีวิต1ปี นอกจากจะใช้ฝังศพดะเตะ มะสะมุเนะแล้ว ที่นี่ยังใช้ฝังศพตระกูลดะเตะ คนอื่นๆ อีกเช่น ดะเตะ ทสึนะมุเนะ (จุดนั้นจะเรียกว่า Zennoden) , ดะเตะ ทะดะมุเนะ (จุดนั้นเรียกว่า Kansenden) ที่ซุยโฮเด็น เคยเสียหายจากไฟไหม้สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนที่จะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆให้เข้าชมได้อีกด้วย(ห้ามถ่ายรูป) ที่นี่จะใช้บัตร Loople Sendai เป็นส่วนลดได้
ทางเดินระหว่างป้ายรถเมล์ Loople Sendai มายัง Zuihoden จะค่อนข้างร่มรื่นมาก สองข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นสน
ที่นี่จะมีไม้เท้าให้ยืมใช้ แต่ต้องนำมาคืนที่เดิมด้วย
ที่นี่จะเรียกว่า Kansenden สร้างไว้เพื่อฝังศพของ ดะเตะ ทะดะมุเนะ
ที่อยู่ | 23-2 Otamayashita, Aoba , Sendai, Miyagi 980-0814 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถเมล์ Loople Sendai มาลงป้ายที่ 4 Zuihoden |
เวลาทำการ | 09:00-16:50 (กุมภาพัน-พฤศจิกายน) เข้าชมรอบสุดท้าย 16.30 09:00-16:20 (ธันวาคม-มกราคม) เข้าชมรอบสุดท้าย 16.00 ปิดทำการวันที่ 31ธันวาคม และ 1 มกราคม |
ราคา | ผู้ใหญ่ 550 เยน ยื่นพร้อมบัตร Loople Sendai ได้ส่วนลด100เยน เด็กมัธยมปลาย 400 เยน เด็กมัธยมต้น และ ประถม 200 เยน สำหรับเด็กๆ ถ้ายื่นพร้อมกับบัตร Loople Sendai จะได้ส่วนลด 50 เยน |
โทรศัพท์ | 075-204-5543 (+81-75-204-5543) |
Website | Zuihoden Mausoleum |
ปราสาทอาโอบะถูกสร้างในสมัยเอโดะเป็นที่พำนักของตระกูลดะเตะ โดยมีอีกชื่อนึงว่า ปราสาทเซนได ปราสาทแห่งนี้ถูกทำลายลงในปี 1945 หลังจากที่สหรัฐอเมริกาทิ้งได้ทิ้งระเบิดถล่มเมืองเซนไดอย่างหนัก ปัจจุบันจึงเหลือแต่ซากที่ยังคงร่องรอยความยิ่งใหญ่ไว้ โดยเฉพาะส่วนฐานของปราสาท และที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์ปราสาทอาโอบะอีกด้วย *บัตร Loople sendai สามารถใช้เป็นส่วนลดสำหรับเข้าพิพิธภัณฑ์ได้ จุดนี้เคยเป็นที่ตั้งของปราสาทอาโอบะ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ปราสาทแห่งนี้ในอดีตนั้นจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน
รูปปั้นของท่านดะเตะ มะสะมุเนะ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูปกัน โดยท่านจะหันหน้ามองไปยังเมืองเซนได
ที่นี่ยังมีจุดที่ซึ่งมองวิวเมืองเซนไดได้สวยงามที่สุด แต่วันที่ผมไปนั้นฝนตก ทำให้มองได้ไม่ชัด เพราะมีหมอกลง
ที่อยู่ | 1 Kawauchi, Aoba Ward, Sendai, Miyagi 980-0862 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถ Loople Sendai ลงป้ายที่ 6 |
เวลาทำการ | บริเวณรอบปราสาทเปิด 24 ชั่วโมง พิพิธภัณฑ์ 1เมษายน – 3 พฤศจิกายน เปิดตั้งแต่ 9.00-17.00 และ 4 พฤศจิกายน – 31 มีนาคม เปิดตั้งแต่ 9.00 – 16.00 เข้าได้จนถึง 30 นาทีสุดท้ายก่อนถึงเวลาปิด |
ราคา | บริเวณปราสาทฟรี พิพิธภัณฑ์ ผู้ใหญ่และนักศึกษามหาวิทยาลัย 700 เยน นักเรียนมัธยม 400 เยน นักเรียนประถม 300 เยน *สำหรับผู้ใหญ่ นักศึกษามหาวิทยาลัย และ นักเรียนมัธยม ถ้าใช้บัตรloople sendai จะได้ส่วนลด200เยน สำหรับนักเรียนประถม จะได้ส่วนลด100เยน |
ศาลเจ้าโอซากิ ฮะจิมันกู สร้างโดยดะเตะ มะสะมุเนะ โดนท่านได้จ้างคนงานจาก เกียวโต และ จากภาคกลางของญี่ปุ่น โดยเริ่มสร้างเมื่อปี 1604 และเสร็จในปี 1607 ศาลเจ้าที่มีคำว่า Hachimangu จะหมายความว่าศาลเจ้าถูกสร้างมาเพื่อเคารพเทพเจ้า ปัจจุบันศาลเจ้าแห่งนี้ถูกจัดให้เป็นสมบัติของชาติ สามารถเอาบัตร Loople sendai ไปแลกโปสการ์ดได้ที่ ceremony hall
เมื่อลงจากรถเมล์แล้ว ก็จะพบกับทางขึ้นไปยังศาลเจ้า ถือว่าเรียกเหงื่อได้พอสมควร
เมื่อเดินขึ้นบันไดมาจนถึงด้านบนก็จะเจอทางเดินไปศาลเจ้าซึ่ง 2 ข้างทางก็เต็มไปด้วยต้นไม้ ยิ่งฝนตกยิ่งสดชื่น
เดินมาซักพักก็จะพบกับจุดสำหรับชำระล้างก่อนเข้าศาลเจ้า
ตรงนี้เรียกว่า Haiden ซึ่งเป็นจุดที่คนนิยมมาสักการะ และ ขอพร
ที่อยู่ | 4-6-1 Hachiman, Aoba , Sendai, Miyagi 980-0871 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถLoople Sendai มาลงป้ายที่ 12 Osaki Hachimangu รถจะจอดที่หน้าเสาโทริอิเลย |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน 24ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | Osaki Hachimangu Shrine |
เกาะกลางขนาดใหญ่ที่ถูกจัดเป็นสวนสาธารณะให้ผู้คนมาพักผ่อนหย่อนใจ รายรอบไปด้วยต้น zelkova เท่านั้นยังไม่พอยังมีงานประติมากรรมชั้นยอดของศิลปะต่างๆ มาให้ดูเกือบทั้งเส้น ซึ่งถนนเส้นนี้จะเป็นการการันตีว่า ทำไมเซนไดถึงมีฉายาว่า เมืองแห่งต้นไม้ (ในรูปเป็นผลงานของEmilio Greco ศิลปินชาวอิตาเลี่ยน)
ที่อยู่ | 3-9-10 Ichibancho, Aoba, Sendai, Miyagi 980-0811 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถLoople Sendai มาลงป้ายที่ 15 Jozenji-dori Ave |
ถนนช็อปปิ้งที่มีความยาว 750 เมตร 2 ข้างทางที่เต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ อาทิ ABC Mart , ร้าน 100 เยน , ร้าน 3Coins , ร้าน Book Off , Adidas ถ้าเดินช็อปปิ้งแล้วเกิดหิวขึ้นมา ก็ยังร้านอาหารอีกมากมายให้คุณได้ลิ้มลองเช่น Mcdonald, ร้านซูชิ, ร้านราเมง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีห้างต่างๆ อีกมากมาย
แผนที่ของถนนคนเดิน Clis Road ถ้าเดินไปสุดทางจะพบกับถนนช็อปปิ้งอีกแห่งคือ Ichibancho ซึ่งยาว 500 เมตร ให้คุณได้เดินช็อปปิ้งต่ออีกด้วย
ที่อยู่ | 2-5-7 Central, Aoba , Sendai, Miyagi 980-0021 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถLoople sendai มาลงป้าย15 Jozenji-dori Ave หรือเดินจากสถานีเซนได ประมาณ 5 นาที |
เวลาทำการ | ร้านค้าส่วนใหญ่จะเปิดประมาณ 10.00 – 21.00 |
อาหารขึ้นชื่อของเมืองเซนไดนั่นก็คือ ลิ้นวัวย่าง หรือเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า กิวตัน (Gyutan)วันนี้ผมจะมาแนะนำร้านอาหารอร่อยๆ ในเรื่องลิ้นวัวย่าง นั่นคือร้าน Date No Gyutan Honpo
เมนูลิ้นวัวย่างเสริฟพร้อมกับข้าวร้อน และ น้ำซุป ลิ้นวัวเป็นลิ้นวัวที่ย่างบนเตาถ่าน เนื้อนุ่ม เวลาเคี้ยวจะรู้สึกกรุบๆ ในปาก พร้อมกับกลิ่นถ่านย่างทำให้ตัวลิ้นวัวนั้นมีความหอมขึ้นไปอีก ที่นี่นอกจากจะมีลิ้นวัวแล้วยังมีเมนูอื่นๆ สำหรับผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อวัวเช่น เมนูไก่ย่างเป็นต้น ดังนั้นแล้วผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อก็สามารถมารับประทานอาหารที่ร้านนี้ได้
ที่อยู่ | 4-10-11 Central, Aoba , Sendai, Miyagi 980-0021 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานีเซนไดประมาณ10นาทีร้านจะอยู่ข้างๆ โรงแรมเซนได วอชิงตัน โฮเทล |
เวลาทำการ | เปิดทุกวันตั้งแต่ 11.00 – 22.00 |
ราคา | มีตั้งแต่500เยน จนถึง 3000 เยน ขึ้นอยู่กับเมนูที่สั่ง |
Blogger : Kitslaughter666
ผมชื่อ กิด เป็นคนที่สนใจประเทศญี่ปุ่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และชอบทานราเมง กับ ปลาปักเป้า เป็นชีวิตจิตใจ รักการถ่ายเซลฟี่กับกวางที่เกาะมิยาจิม่า ชอบภูมิภาคชูโกกุ ชอบเที่ยวสถานที่Unseenของญี่ปุ่น
33 Posts
รวม แอพ รถไฟ ญี่ปุ่น เช็คได้ทั่วประเทศ ใช้สะดวก ไม่มีหลง
รวม แอพ รถไฟ ญี่ปุ่น สุดสะดวก จัดให้แบบเต็มๆ ทุกแอเรีย หาสาย เช็คเวลากันแบบชิล...
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ด ความน่าสนใจ ที่ต้องไปเยือน
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ดน่าเที่ยว ที่มีความโดดเด่นน่าสนใจ ท...
จากนาริตะไปโตเกียว รวมวิธีเดินทางสุดสะดวก เข้าเมืองชิลๆ
รวมมิตรวิธีการเดินทาง จากนาริตะไปโตเกียว ที่รู้ไว้ก่อนออกเดินทางแล้วรับรองไม่ม...
โอคาวาโซ – Ookawaso ไอสึวาคามัตสึ ตามรอยดาบพิฆาตอสูร! โรงแรมหรูสไตล์ญี่ปุ่น
โรงแรมโอคาวาโซ (Okawaso : 大川荘) โรงแรมหรูในฝันที่ใครๆก็คิดว่าจะต้องมาพักสักครั้...
10 ที่เที่ยวฟูจิ เปิดพิกัดที่เที่ยวแบบใหม่ ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
Kitaguchi-hongu Fuji Sengen Shrine ศาลเจ้าที่อุดมไปด้วยพลังงานของขุนเขา คิตะกุ...
บัตร Osaka E-Pass ให้คุณไปท่องเที่ยวได้มากกว่า 20 สถานที่แบบฟรีๆ ใช้ระบบแสกน QR-CODE ไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋ว
14/03/2023 | Japan
จุดชมซากุระได้ตั้งแต่เมษายนถึงพฤษภาคม 16 พิกัดชมซากุระในโทชิงิและมินามิโทโฮคุที่ไม่ควรพลาด
23/02/2023 | Tohoku
เหล้าบ๊วยญี่ปุ่น 7 อันดับ รสเยี่ยม ที่ต้องห้ามพลาด
23/02/2017 | Japan
แต่งตัวไปญี่ปุ่นเดือนเมษายน เที่ยวสบาย ในฤดูใบไม้ผลิ
05/04/2017 | Japan
สุดยอดสถานที่เที่ยววิวสวยแห่งโทชิงิ-มินามิโทโฮคุ 16 แห่ง! ทิวทัศน์สวยงามตระการตาจากธรรมชาติที่หาดูได้จากที่นี่ที่เดียว
23/02/2023 | Japan
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-5285-8088
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
03-5789-2449
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
06-6262-9226-7
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
092-686-8775
เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุ๊กกี้ของเราผ่านทาง นโยบายความเป็นส่วนตัว