4 ฤดูกาลท่องเที่ยว ชูโกกุ ทำความรู้จักสภาพอากาศ และสิ่งที่น่าสนใจในแต่ละฤดู

ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku) ตั้งอยู่ทางส่วนปลายขอบฝั่งตะวันตกของเกาะฮอนชู ทิศเหนืออยู่ติดทะเลญี่ปุ่น และเป็นภูมิภาคที่สามารถเดินทางเข้าถึงได้ทั้งจากจังหวัดฟุกุโอกะบนเกาะคิวชู และจังหวัดโอซาก้าในภูมิภาคคันไซ
ได้อีกด้วย ชูโกกุแบ่งพื้นที่เป็น 2 โซน คือ พื้นที่ทางฝั่งทะเลญี่ปุ่นเรียกว่า ซันอิน เป็นฝั่งที่มีความเป็นชนบท ธรรมชาติ ชายฝั่งทะเลสวยงาม ประกอบด้วยจังหวัดทตโตริ ชิมาเนะ และตอนเหนือของยามากุจิ สภาพอากาศค่อนข้างเย็น ในฤดูร้อนจะมีแสงแดดจ้าและท้องฟ้าสดใส

ส่วนอีกด้านหนึ่งซึ่งอยู่ด้านล่างเรียกว่า ซันโย คือทางฝั่งทะเลเซโตะ บรรยากาศมีความเป็นเมืองที่มีความเจริญและอยู่เลียบสายชินคันเซ็น โดดเด่นด้านสถานที่ทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประกอบไปด้วยจังหวัดโอคายามะ ฮิโรชิมะ และทางตอนใต้ของยามากุจิ สภาพอากาศในภาพรวมคือ อุ่นสบายตลอดปี ปริมาณน้ำฝนก็ไม่มาก หิมะตกน้อยมาก และมักจะมีแสงแดดจ้าเป็นส่วนใหญ่

ฤดูใบไม้ผลิ

เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ยโดยประมาณ 14-25 องศาเซลเซียส ฤดูใบไม้ผลิ เต็มไปด้วยดอกซากุระ ดอกทิวลิปนับร้อยพัน ที่แข่งกันออกดอกผลิบานอวดความสวยงามให้นักท่องเที่ยวได้เห็น และยังมีเทศกาลอาหารประจำฤดูใบไม้ผลิให้ได้ลิ้มลองกันอีกด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำฤดูใบไม้ผลิ

สวนเซระโคซัง ฟุเรอาอิโนะซาโตะ (Sera Kozan Fureai no Sato)

ในฤดูนี้สถานที่สำหรับชมดอกซากุระที่อยากแนะนำเลย คือ สวนเซระโคซัง ฟุเรอาอิโนะซาโตะ (Sera Kozan Fureai no Sato) ได้ชื่อว่าถนนที่สวยที่สุดเรียงรายไปด้วยซากุระพันธุ์ที่หายาก อย่าง ชิดาเระซากุระ (ซากุระย้อย) ที่มีมากถึง 250 ต้นเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีซากุระอีกหลากหลายชนิดให้ได้ชื่นชมความสวยงามตลอดเส้นทางในสวนเลย

ผลไม้ประจำฤดูใบไม้ผลิ

ในส่วนของผลไม้ประจำฤดู คือ สตรอเบอร์รี่ ที่ชูโกกุมีสวนผลไม้เพื่อการท่องเที่ยวฮิราตะ (Hirata Farm) ตั้งอยู่ที่จังหวัดฮิโรชิมะ ที่นี่เป็นสวนผลไม้เพื่อการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่สามารถให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับการเก็บเกี่ยวผลไม้ได้ตลอดทั้งปี ในฤดูใบไม้ผลิก็มีผลสตรอเบอร์รี่ให้ได้ไปเก็บทานกันได้อย่างสนุกสนานเลย

ฤดูใบไม้ผลิของที่ชูโกกุเป็นฤดูที่อากาศกำลังดี เหมาะแก่การมาเที่ยวเพื่อชื่นชมความสวยงามของดอกซากุระ ที่จะทำให้ทั้งพื้นที่กลายเป็นสีขาวและชมพู แถมยังมีสวนผลไม้ให้ได้เก็บทานกันได้อย่างไม่อั้นอีกด้วย

ฤดูร้อน

ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม อุณหภูมิเฉลี่ยโดยประมาณ 26-31 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนของที่นี่จะมีทั้งเทศกาลมิฮะระ ยัสสะ (Mihara Yassa Festival) หนึ่งในเทศกาลเต้นระบำฤดูร้อนอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และเทศกาลดอกไม้ไฟกลางน้ำแห่งเกาะมิยะจิมะ (Miyajima Water Fireworks) ถือได้ว่าเป็นความพิเศษของฤดูนี้เลย

สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำฤดูร้อน

เกาะมิยาจิมะ (Miyajima)

เกาะมิยาจิมะ (Miyajima) เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมประจำฤดูร้อนเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าอิซึกุชิมะ มีประตูโทริอิสีแดงตั้งอย่างสง่างามอยู่กลางน้ำ และยังได้รับมรดกโลกขององค์การยูเนสโกอีกด้วย และในฤดูร้อนของทุกปีในเดือนสิงหาคม จะมีการจัดเทศกาลดอกไม้ไฟ เทศกาลนี้ดึงดูดผู้เข้าชมมากกว่า 300,000 คนทุกปี และถือเป็นหนึ่งในดอกไม้ไฟที่งดงามที่สุดในประเทศ

ผลไม้ประจำฤดูร้อน

ผลไม้ประจำฤดูร้อของที่นี่ต้องยกให้ บลูเบอร์รี่ เพราะที่นี่มีสวนบลูเบอร์รี่ที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเก็บได้ อย่างที่ “โอกายาม่า ฟาร์เมอร์ส มาร์เก็ต นอร์ธ วิลเลจ (Okayama Farmers Market North Village)” เป็นสวนการเกษตรที่ตั้งอยู่ภายในจังหวัดโอคายามะ ภายในสวนจะมีทั้งสวนผลไม้ สนามปีนป่าย และสวนสัตว์ ในฤดูร้อนจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมเก็บบลูเบอร์รี่กันอย่างจุใจกันเลยทีเดียว

ฤดูร้อน อากาศจะสูงขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับร้อนจัด ยังสามารถไปเที่ยวชมได้เหมือนเดิม ที่พิเศษเลยคือถ้าไปเที่ยวชูโกกุในฤดูร้อน จะต้องไปดูดอกไม้ไฟให้ได้ เพราะถือว่าเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว

ฤดูใบไม้ร่วง

ฤดูนี้จะเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 12-23 องศาเซลเซียส ฤดูนี้ทำให้เกือบทุกพื้นที่เต็มไปด้วยสีสันสดใส เพราะมีการเปลี่ยนสีของใบไม้ เป็นสีแดง ส้ม เหลือง ทำให้เป็นการดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวที่นี่ได้อย่างดี

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำฤดูใบไม้ร่วง

หุบเขาซันดังเคียว (Sandankyo Gorge)

หุบเขาซันดังเคียว (Sandankyo Gorge) เป็นหุบเขาขนาดใหญ่ในจังหวัดฮิโรชิมะ มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเรื่องความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีเหมาะแก่การเยี่ยมชมเป็นอย่างมาก สามารถนั่งเรือชมความสวยงามได้ สิ่งที่มีเสน่ห์ดึงดูดที่สุดของหุบเขาแห่งนี้ก็คือทิวทัศน์ที่มีความงดงามราวภาพวาด นอกจากนี้ที่นี่ยังเต็มไปด้วยวิวสวยๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก แม่น้ำ หรือหินน้อยใหญ่ภายในบริเวณหุบเขา

ผลไม้ประจำฤดูใบไม้ร่วง

ผลไม้ประจำฤดูนี้ที่ขึ้นชื่อในภูมิภาคชูโกกุก็คือ องุ่น นั่นเอง โดยที่นี่มีสวนผลไม้คุโบะ (Kubo Farm) ตั้งอยู่ทางเหนือของเขตโอคายามะ จังหวัดโอคายามะ ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมไปจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเก็บองุ่นหลากหลายชนิดได้ที่นี่ เช่น ราชินีองุ่นมัสแคทพันธุ์ “มัสแคท ออฟ อเล็กซานเดรีย (Muscat of Alexandria)”, “พิโอเน่ (Pione)” และ “เบอร์รี่เอ (Berry A)” นอกจากนี้ยังเก็บผลไม้อื่นๆ ได้ตามฤดูกาลไม่ว่าจะเป็น ข้าวโพด เกาลัด ส้มยูซุ หรือลูกพลับ เป็นต้น ถ้าใครอยากจะมาลองเก็บผลไม้อื่นๆ ก็ลองมาเที่ยวนอกเหนือจากฤดูใบไม้ร่วงได้นะ

ในฤดูใบไม้ร่วง สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คงจะเป็นสถานที่ชมใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี ที่ชูโกกุก็มีสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีหลากหลายที่ ถ้าใครไม่รู้จะไปที่ไหนดีก็ลองดูจากที่เรายกตัวอย่างมาพูดถึงก็ได้นะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

ฤดูหนาว

ฤดูนี้จะเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 0-10 องศาเซลเซียส ฤดูนี้นอกจากจะมีหิมะแล้ว ยังมีอาหารทะเลแสนอร่อยให้นักท่องเที่ยวได้ลองไปชิม อย่าง ปูมัตสึบะ ที่เป็นของขึ้นชื่อจังหวัดทตโตริเลยก็ว่าได้ ปูชนิดนี้จะนิยมทานกันในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม ปูมัตสึบะมีขนาดใหญ่ซึ่งส่วนใหญ่จะมีกระดองยาว 11 เซนติเมตรขึ้นไป และหนักมากกว่า 500 กรัม ด้วยความที่ตัวใหญ่ทำให้เป็นปูที่มีเนื้อแน่นสุดๆ และรสชาติก็หวานมากๆ

สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำฤดูหนาว

พิพิธภัณฑ์ปู ทตโตริ เคโระ (Tottori Karo Crab Aquarium)

พูดถึงปูไปแล้วเลยอยากขอแหวกกองหิมะพาทุกคนไปรู้จักกับพิพิธภัณฑ์ปู ทตโตริ เคโระ ( Tottori Karo Crab Aquarium) จังหวัดทตโตริ ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดเล็กที่เน้นปูเป็นหลัก โดยมีการจัดแสดงปูกว่า 20 สายพันธุ์ที่หายากในทตโตริ เช่น ปูสึวาอิ ปูเบนิสึวาอิ ปูมัตสึบะ เป็นต้น และที่นี่ยังมีปลาและหอยสายพันธุ์ต่างๆ ที่จับได้จากพื้นที่ใกล้เคียงจัดแสดงอยู่ด้วย นอกจากนี้ ยังมีตลาดขายปลาคาโรอิชิ ตลาด Seafood shop and Restaurant Hamashita ที่สามารถไปหาซื้อปูมัตสึบะทานได้อีกด้วย

ผลไม้ประจำฤดูหนาว

มาทางสายผลไม้ อย่าง ส้มฮินาเสะ (hinasemikan) เป็นผลไม้ประจำฤดูที่ได้รับความนิยมเนื่องจากได้รับการเพาะปลูกแบบออร์แกนิก การดูแลอย่างเอาใจใส่ทำให้ส้มมีรสชาติที่หอมหวาน ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในจังหวัดโอคายามะ

ฤดูหนาวของชูโกกุไม่ได้มีดีแค่หิมะ แต่มีอาหารทะเลที่แสนอร่อยรอให้ทุกคนไปลิ้มลอง รวมถึงส้มสายพันธุ์ประจำจังหวัด อย่าง ส้มฮินาเสะ ที่ใครไปถึงที่จังหวัดโอคายามะแล้วไม่ได้ลองทาน ถือว่าพลาดมากเลย

ข้อสรุป

ภูมิภาคชิโกกุเป็นอีกหนึ่งภูมิภาคที่น่ามาเที่ยวมากๆ เลยใช่ไหม เพราะแต่ละฤดูกาลก็มีความแตกต่างกันออกไป ทั้งซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ การชมดอกไม้ไฟในฤดูร้อน ชมความงดงามของใบไม้ที่เปลี่ยนสีกลายเป็นสีสันสดใสในฤดูใบไม้ร่วง และสุดท้ายฤดูหนาวก็มีอาหารทะเลแสนอร่อยรออยู่ นับว่าเป็นอีกภูมิภาคหนึ่งที่มีของครบมากเลยล่ะ