ภูเขาอะโสะมีความสูง 1,592 เมตร เป็นพื้นที่ภูเขาไฟที่ซับซ้อนซึ่งประกอบด้วยวงแหวนรอบนอกที่ล้อมรอบยอดเขาและหลุมอุกกาบาตหลายแห่ง เชื่อกันว่าภูเขาอะโสะเกิดจากการปะทุสี่ครั้ง ซึ่งครั้งใหญ่ที่สุดและล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 90,000 ปีก่อน ยอดเขาหลักทั้ง 5 ของภูเขาอะโสะโผล่ขึ้นมาจากปล่องภูเขาไฟที่ก่อตัวขึ้นเมื่อพื้นดินพังทลายลงเพื่อเติมเต็มพื้นที่ใต้ดินขนาดใหญ่ที่เกิดจากหินหนืดที่พ่นออกมา
ภูเขาไฟอะโสะแห่งนี้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมความงดงามของภูเขาไฟได้อย่างใกล้ชิด ด้วยความที่ภูเขาไฟอะโสะแห่งนี้เป็นภูเขาไฟที่ยังคลุกกรุ่นอยู่ จึงสามารถประทุได้ตลอดเวลา ทำให้พื้นที่บางจุดจะปิดให้บริการเพื่อป้องกันอันตรายสำหรับนักท่องเที่ยว
มาทำความรู้จักภูเขาอะโสะกันก่อน
ภูเขาอะโสะตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติอะโสะ-คุจู เป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ทอดยาวจากเหนือจรดใต้เป็นระยะทาง 24 กิโลเมตรและ 18 กิโลเมตรจากตะวันออกไปตะวันตก และเส้นรอบวง 100 กิโลเมตร เห็นอย่างนี้ภูเขาอะโสะไม่ได้เป็นภูเขาลูกเดียวแต่ประกอบไปด้วยยอดเขา 5 ยอดด้วยกันโดยมีชื่อเรียกรวมกันว่าอะโสะโกะกากุ โดยยอดเขาแต่ละยอดล้วนมีความน่าสนใจ และเป็นเส้นทางทำกิจกรรมผจญภัยที่ได้รับความนิยมอีกด้วย
จุดที่น่าสนใจอีกเรื่องของที่นี่คือกระเช้าลอยฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของภูเขาอะโสะ ช่วยให้ผู้เข้าชมสามารถเข้าถึงขอบของภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นได้ แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันถูกยกเลิกการใช้งานไปแล้ว สืบเนื่องจากก๊าซพิษที่ไหลออกมาจากปล่องภูเขาไฟ นักท่องเที่ยวจะได้กลิ่นกํามะถันและเห็นแอ่งน้้ำสีฟ้าพ่นก๊าซภูเขาไฟอย่างใกล้ชิด และหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่คุมาโมโต้ปี 2016 ส่งผลให้ตัวสถานี สายเคเบิลและเชือกได้รับความเสียหายจากเถ้าภูเขาไฟส่งผลให้การเข้าถึงปล่องภูเขาไฟถูกยกเลิกไปในที่สุด
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากก๊าซพิษจากภูเขาไฟ หรือในวันที่สภาพอากาศเลวร้าย รวมทั้งความเสี่ยงจากการระเบิดของภูเขาไฟที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้น ควรตรวจสอบสภาพของภูเขาก่อนเดินทางไปที่นั่น แม้ว่าบริเวณรอบ ๆ ยอดเขาจะเปิดโล่ง แต่ก๊าซก็อาจปะทุได้ และผู้ที่มีปัญหาทางเดินหายใจควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ปากปล่องภูเขาไฟอย่างเด็ดขาด
นอกจากไฮไลท์จะเป็นการไปยังจุดชมวิวปากปล่องภูเขาไฟที่เข้าถึงได้ง่ายแล้ว (ด้วยรถรับส่งที่วิ่งให้บริการแทนกระเช้าไฟฟ้า) ยังมีเส้นทางเดินป่าที่นำไปสู่ยอดเขาต่างๆ ของภูเขาไฟอะโสะอีกด้วย เส้นทางที่คุ้มค่าที่สุดอาจนำคุณจากที่จอดรถใกล้ปากปล่องภูเขาไฟไปยังยอดเขานากาดาเกะของภูเขาไฟอะโสะ ซึ่งสูงตระหง่านเหนือปากปล่องภูเขาไฟประมาณ 350 เมตร และสามารถชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของภูมิประเทศภูเขาไฟได้
ที่มาที่ไปของภูเขาไฟอะโสะ
เชื่อกันว่าภูเขาอะโสะในปัจจุบันเกิดจากการปะทุครั้งใหญ่จำนวน 4 ครั้งในอดีต (ประมาณ 270,000 ปีก่อน, 140,000 ปีก่อน, 120,000 ปีก่อน และประมาณ 90,000 ปีก่อน)โดยเล่าย้อนกลับไปเมื่อการปะทุครั้งล่าสุดเมื่อประมาณ 90,000 ปีที่แล้วนั้นมีการปะทุขนาดใหญ่เป็นพิเศษ จนเกิดการไหลของไพโรคลาสติกจากการปะทุครั้งนั้นได้เดินทางข้ามทะเลไปไกลถึงจังหวัดยามากุจิ การสะสมของเถ้าภูเขาไฟลึกกว่า 10 เซนติเมตรยังคงหลงเหลืออยู่ การระเบิดของภูเขาไฟครั้งนี้ได้พ่นแมกมาใต้ดินจํานวนมหาศาลขึ้นสู่พื้นผิว จึงเป็นเหตุผลที่ปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ในอะโสะเกิดขึ้น และมียอดเขาทั้งห้าที่ประกอบกันเป็นภูเขาอะโสะเรียงรายอยู่ใจกลางปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่แห่งนี้
ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว
ปัจจุบันมีสายการบินจากประเทศไทยบินตรงไปยังจังหวัดฟุกุโอกะ แล้วสามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นต่อไปยังจังหวัดคุมาโมโต้ได้แสนสะดวก แต่วิธีที่ได้รับความนิยมที่สุดในการทำความรู้จักภูเขาอะโสะและพื้นที่โดยรอบคือการเดินทางด้วยรถยนต์ หรือถ้าใครไม่สะดวกก็มีรถบัสสาธารณะที่มีเส้นทางเดินรถที่ค่อนข้างมีความจำกัด และสถานีรถไฟที่อาจไม่ได้อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวต้องนั่งรถแท็กซี่ต่ออีกหรือเดินได้ถ้าอยู่ไม่ไกลนัก
การมาที่ภูเขาไฟอะโสะด้วยรถไฟชินคันเซ็น ให้ลงที่สถานีคุมาโมโต้ แล้วเช่ารถขับ หรือเดินทางต่อด้วยขบวนรถไฟท้องถิ่นสายหลักโฮฮิ (Hohi Line) ราวๆ 1 ชั่วโมง 10 นาที ซึ่งใช้เวลา 90 นาที จากนั้นนั่งรถบัสท้องถิ่นต่ออีก ราวๆ 2 ชั่วโมง สามารถแวะเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวตลอดเส้นทางได้ โดยมีปลายทางคือภูเขาอะโสะ รถประจำทางวิ่งไป-กลับวันละ 9 เที่ยว ขาไป 9.55-15.30 น. ขากลับ 11.25 – 17.03 น
ภูเขาอะโสะ เปิดบริการตามช่วงเวลาดังนี้
20 มีนาคม – 31 ตุลาคม / 8.30 น.- 17.30 น. / ปิดเวลา 18.00 น.
พฤศจิกายน – 30 พฤศจิกายน / 8.30 น. – 17.00 น. / ปิดเวลา 17.30 น.
ธันวาคม – 19 มีนาคม / 9.00 น. – 16.30 น. / ปิด 17.00 น.
ไฮไลท์ของภูเขาอะโสะ
เห็นอย่างนี้แล้วจะพบได้ว่าจุดท่องเที่ยวทางธรรมชาติมีทั้งหมด 13 จุด ในอุทยานแห่งชาติอะโสะ-คุจุ ครอบคลุมทั้งภูเขา เส้นทางเดินเขา บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ ลำธาร ทุ่งหญ้า ฯลฯ รวมทั้งเส้นทางชมธรรมชาติ และความมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยา ภายในเมืองอะโสะนั้นมีความน่าสนใจทั้งหมด 6 จุด สามารถแวะไปชมกันได้
วิวทิวทัศน์และจุดชมวิวที่ห้ามพลาด
เนื่องจากภูเขาอะโสะรายล้อมด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์จึงเหมาะกับการมาชมทัศนียภาพที่่สบายตาสบายใจ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวภูเขา และภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่อย่างใกล้ชิด
ยอดเขาหลักทั้ง 5 ของภูเขาอะโสะ
อย่างที่เคยบอกไปว่าภูเขาอะโสะประกอบด้วยภูเขา 5 ยอด นั่นคือ มี Nakadake, Takadake, Eboshidake, Kishimadake และ Nekodake โดยเฉพาะภูเขานากะซึ่งมีทะเลสาบสีเขียวขุ่นปกคลุมไปด้วยควันเป็นยอดเขาที่ยังคุกรุ่นอยู่มากที่สุดและเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวหลักในภูมิภาคนี้ หลังจากแผ่นดินไหวที่คุมาโมโต้ในปีค.ศ. 2016 การเข้าถึงภูเขานากะถูกจำกัดชั่วคราว แต่ปัจจุบันเส้นทางการท่องเที่ยวเปิดให้บริการอีกครั้งแล้ว ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้เห็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่อย่างใกล้ชิด และนอกจากนั้นว่ากันว่าเมื่อมองจากระยะไกล ยอดเขาทั้ง 5 แห่งนี้มีลักษณะเหมือนพระพุทธเจ้านอนตะแคงและมองขึ้นสู่สวรรค์ จากจุดที่สามารถมองเห็นยอดเขาทั้ง 5 นั้นจึงมักถูกเรียกว่า “พระพุทธไสยาสน์แห่งอะโสะ” อีกด้วยค่ะ
ปล่องภูเขาไฟอาโสะนากะดาเกะ
ที่ใจกลางปล่องภูเขาไฟภูเขานากะดาเกะยังคงมีความเคลื่อนไหวอยู่ เป็นภาพของก๊าซภูเขาไฟและกำมะถันเป็นสีเขียวมรกตสวยงาม พวยพุ่งออกมา โดยปล่องภูเขาไฟนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 600 เมตร ลึก 130 เมตร และเส้นรอบวง 4 กม.นักท่องเที่ยวสามารถเห็นทิวทัศน์อันงดงามและแปลกตาของภูเขาไฟลูกนี้ได้อย่างใกล้ชิด แต่เมื่อระดับการระเบิดของภูเขาไฟมีอัตราการเกิดสูง อาจไม่สามารถเข้าใกล้ปล่องภูเขาไฟได้ ดังนั้นหากต้องการไปชมใกล้ๆ แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดจากเว็บไซต์ทางการของภูเขาไฟอะโสะก่อนเดินทางล่วงหน้า
คุซาเซนริกาฮามะ (Kusasenri)
ไม่ไกลจากปากปล่องภูเขาไฟนากะดาเกะ เป็นที่ตั้งของคุซาเซนริกาฮามะ เป็นชื่อของที่ราบกว้างใหญ่ซึ่งมีทิวทัศน์อันงดงามของยอดเขานากะดาเกะที่ปกคลุมด้วยหญ้า มีภูมิทัศน์ที่สวยงามแตกต่างกันไปตามฤดูกาล นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทิวทัศน์ได้อย่างง่ายดาย และมีม้าให้ขี่ม้าเล่นด้วย ที่นี่สามารถขี่ม้าได้ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนธันวาคมโดยส่วนหนึ่งของที่ราบแห่งนี้มีสระน้ำขนาดใหญ่ทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพชวนให้สะดุดสายตา แนะนำให้มาชม ซึ่งความสวยงามของที่นี่ทำให้นักเขียน นักแต่งเพลงหลายคนได้เขียนเพลงเกี่ยวกับความงามของคุซาเซนรีในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเอาไว้มากมาย
โคเมซึกะ (Komezuka)
เป็นภูเขาไฟรูปกรวยขนาดเล็กที่มีรูปร่างสวยงามบนเนินเขาทางตอนเหนือของภูเขานากะดาเกะ มีเส้นทางเดินเขาที่สวยงามในบริเวณโดยรอบ มีความสูงประมาณ 50 เมตร ภาพของทุ่งหญ้าสีเขียวที่ปกคลุมพื้นที่โดยรอบและพื้นผิวของภูเขาทำให้ที่นี่โดดเด่นสะดุดตา แนะนำให้มาชมโดยเฉพาะช่วง ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน เสน่ห์ของรูปทรงภูเขาแห่งนี้จะทำให้คุณยิ่งเพลิดเพลิน กับการมาเยือนภูเขาอะโสะอีกหลายเท่าตัว
ไดคันโบ (Daikanbo)
จุดชมวิวไดคันโบตั้งอยู่บริเวณวงด้านนอกของภูเขาไฟอะโสะ เป็นจุดชมวิวที่ไม่อยากให้พลาดอย่างเด็ดขาด เพราะที่จุดนี้คุณสามารถชมวิวได้แบบพาโนรามา 360 องศา พร้อมทิวทัศน์มุมกว้างที่น่าทึ่งของภูเขาไฟอะโสะทั้ง 5 ยอดได้ แล้วจุดชมวิวนี้ในแต่ละฤดูกาลก็มีความงดงามที่แตกต่างกัน คุณจะพบกับภาพทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มในฤดูร้อน และทุ่งหญ้าสีเหลืองทองในฤดูหนาว เป็นทัศนียภาพที่สวยงามถึงขนาดเป็นจุดทำกิจกรรมพาราไกลด์ดิ้งที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ไหนๆ ก็มาถึงที่นี่แล้ว แวะชิมซอฟท์ครีมรสนมในคาเฟ่ใกล้จุดชมวิวที่ขึ้นชื่อในเรื่องความอร่อยของภูเขาอะโสะให้ได้นะ
พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟ (Aso volcano museum)
พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟอะโสะให้ข้อมูลเชิงลึกอันยอดเยี่ยมเกี่ยวกับภูเขาไฟทั่วประเทศญี่ปุ่น มีทั้งภาพถ่ายและสามารถศึกษาข้อมูลประวัติศาสตร์ได้ ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวทางภูมิศาสตร์ ตั้งอยู่ที่คุซาเซนริ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มาพร้อมวิวปล่องภูเขาไฟนากะดาเกะที่มักจะมีควันพวยพุ่งออกมา ผู้เยี่ยมชมยังสามารถรับชมสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านกล้องวิดีโอถ่ายทอดสดที่จะพาคุณดำดิ่งลงไปในปล่องภูเขาไฟได้ลึกสุดๆ อีกด้วย บนชั้นส3 ของพิพิธภัณฑ์ คุณสามารถรับชมภาพยนตร์หัวข้อต่างๆ เช่น สำรวจความลับของการปะทุและชีวิตและวัฒนธรรมของผู้เขาในอะโสะได้อีกด้วยนะ
เส้นทางวิ่งเทรลและกิจกรรมกลางแจ้ง
สำหรับใครที่กําลังมองหาเส้นทางทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะการวิ่งเทรล และเดินป่าในอะโสะอยู่ ขอให้พุ่งตรงมาที่นี่ได้เลย เพราะมเพรียบพร้อมตอบโจทย์ในทุกกิจกรรมไล่ตั้งแต่การเดินป่า ปั่นจักรยาน วิ่งเทรล หรือสํารวจกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ เนื่องจากที่นี่มีเสน้ทางเดินเทรลแนะนำถึง 14 เส้นทางในพื้นที่อะโสะ เป็นสถานที่ที่คุณจะสามารถเพลิดเพลินไปกับเส้นทางในการทำกิจจกรรมที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังสามารถทำการสํารวจเส้นทางที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์หรือผจญภัยผ่านพื้นที่ธรรมชาติรอบๆ ภูเขาอะโสะได้ และเหมาะอย่างยิ่งสําหรับนักปีนเขาและผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งในทุกระดับทักษะ
เส้นทางวิ่งเทรลยอดนิยม
Aso Five Peaks Trail
ยอดเขาทั้ง 5 ของภูเขาอะโสะประกอบด้วย ภูเขาทากะดาเกะ (1,592 ม.) ภูเขานากะดาเกะ (1,506 ม.) ภูเขาเนโกะดาเกะ (1,433 ม.) ภูเขาเอโบชิดาเกะ (1,337 ม.) และภูเขาคิชิมะดาเกะ (1,326 ม.) ภูเขาแต่ละลูกล้วนมีลักษณะเฉพาะตัว โดยภูเขาทากะดาเกะเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในบรรดาทั้ง 5 ยอดเขานี้ ทำให้เป็นเส้นทางทำกิจกรรมวิ่งเทรลและการเดินป่าที่สุดแสนท้าทายแต่คุ้มค่า
ภูเขานาะดาเกะเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และมักมองเห็นควันพวยพุ่งออกมาจากยอดเขา ภูเขาเนโกะดาเกะมีชื่อเสียงในเรื่องสันเขาที่ขรุขระ จากภูเขาสองลูกที่เล็กกว่านั้น ภูเขาเอโบชิดาเกะมีลักษณะเด่นคือทุ่งหญ้าคุซาเซนริกาฮามะที่กว้างใหญ่ซึ่งตั้งอยู่บนสันเขา และที่ภูเขาคิชิมะดาเกะ นักเดินป่าสามารถเดินเล่นรอบปากปล่องภูเขาไฟได้ เรียกได้ว่าการมาทำกิจกรรมวิ่งเทรลและเดินป่าที่ Aso Five Peaks คือรวมความแตกต่างของภูเขาอะโสะแห่งนี้ได้อย่างครบถ้วนเลย
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ Aso Five Peaks Trail
Minami Aso Caldera Trail
ถือเป็นอีกเส้นทางเดินเทรลใกล้ปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ สำหรับ Minami Aso Caldera Trail ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในเดือนมกราคมปี 2021 เพื่อเป็นแสงสว่างแห่งความหวังให้กับกิจกรรมกีฬาที่ซบเซาและเศรษฐกิจท้องถิ่นของหมู่บ้านมินามิอะโสะ โดยมีการจัดขึ้นใน 4 ประเภท ได้แก่ 50 กม. 30 กม. 18 กม. และ 2 กม.! แนะนำให้มาลองวิ่งผ่านมินามิอะโสะ ที่สวยงามในฤดูร้อนดู
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ Minami Aso Caldera Trail
Aso Volcano Trail (Ultra Trail)
เป็นเส้นทางวิ่งเทรลในพื้นที่ที่ครอบคลุมเมืองอะโสะ เมืองทาคาโมริ และหมู่บ้านมินามิอะโสะ เป็นระยะทางทั้งหมด 115 กม.เป็นเส้นทางที่ผู้จัดตั้งใจจะฟื้นฟูภูมิภาคด้วยการเผยแพร่เสน่ห์ของภูมิภาคอะโสะ ซึ่งเป็นภูมิทัศน์ที่ยอดเยี่ยมที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นอุทยานธรณีโลกและมรดกโลกทางการเกษตร รวมทั้งวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศผ่านการวิ่งเทรล และทุกภาคส่วนก็ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการบํารุงรักษาทุ่งหญ้าที่คนในพื้นที่หวงแหนนี้ร่วมกันผ่านการจัดงานนี้นั่นเอง
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ Aso Volcano Trail
การเตรียมตัวสำหรับนักวิ่งเทรลที่ภูเขาอะโสะ
สำหรับนักวิ่งเทรลทั่วไปแล้ว นอกจากต้องเตรียมสุขภาพร่างกายให้พร้อม นอนหลับให้เพียงพอ อุปกรณ์สำคัญๆ ที่ต้องเตรียมให้ดีเช่นกันนั่นคือ รองเท้าสำหรับวิ่งเทรล ที่ต้องให้ความสำคัญในเรื่องของคุณสมบัติพิเศษกว่ารองเท้าวิ่งทั่วไป ต่อไปคือชุดที่สวมใส่ในกาวิ่งก็สำคัญไม่แพ้รองเท้าเช่นกัน เพราะต้องเป็งเป็นชุดที่สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี มีน้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่น และสิ่งสำคัญต่อไปคืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ระหว่างวิ่งด้วยเช่นหมวก ขวดน้ำ กระเป๋า แว่นตา สำหรับพกพาก็สมควรเลือกสรรด้วยความใส่ใจเป็นอย่างดีเสมอ
กิจกรรมพิเศษและสถานที่น่าสนใจรอบภูเขาอะโสะ
ขี่ม้าและสำรวจธรรมชาติที่คุซาเซนริ
ทุ่งหน้าที่สวยงามแห่งนี้ของภูเขาอะโสะ เหมาะเหลือเกินที่จะทำกิจกรรมที่ชมทัศนียภาพในมุมกว้าง ประกอบกับพื้นที่ในบริเวณนี้เหมาะแก่การทำปศุสัตว์ จึงมีเหล่าเกษตรกรเลี้นงม้าและวัวจำนวนไม่น้อยในพื้นที่ นอกจากจะได้เห็นพวกมันอาศัยอยู่ท่ามกลางวิวทิวทัศน์อันสวยงามแล้ว ก็ช่วยให้ภูเขาแห่งนี้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะช่วงเดือนมีนาคมถึงธันวาคม จะมีบริการให้ขี้ม้าสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อชมธรรมชาติโดยรอบบริเวณนี้ได้อีกด้วย
อาบน้ำแร่ที่ออนเซ็นชื่อดังในคุมาโมโต้
มาถึงจังหวัดคุมาโมโต้ทั้งที ที่นี่ยังมีชื่อเสียงในเรื่องบ่อน้ำพุร้อนอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้รับการยกย่องในเรื่องปริมาณน้ำที่ไหลมากมายและคุณภาพน้ำที่ยอดเยี่ยม แนะนำออนเซ็นที่อยู่ไม่ไกลให้ไปสัมผัสนั่นคือที่คุโรคาวะออนเซ็น ที่นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับการแช่น้ำพุร้อนกลางแจ้ง อันผ่อนคลายในหมู่บ้านท่าม กลางเสน่ห์แบบดั้งเดิม จะเลือกห้องอาบน้ำส่วนตัว ห้องอาบน้ำสาธารณะ ห้องอาบน้ำรวมชายหญิง หรือแม้แต่เพียงแช่เท้า ที่หมู่บ้านนี้ก็มีไว้รองรับนักท่องเที่ยวได้ทุกรูปแบบ เป็นออนเซ็นแนะนำเพราะรายล้อมด้วยธรรมชาติอันเงียบสงบ เดินทางจากภูเขาอะโสะโดยรถยนต์เพียง 1 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น
สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นและอาหารขึ้นชื่อของภูมิภาค
จังหวัดคุมาโมโต้รายล้อมด้วยภูเขาและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เนื้อวากิวพันธุ์อากะที่เลี้ยงท่ามกลางธรรมชาติอันกว้างใหญ่ของภูเขาอะโสะ ส่วนใหญ่เป็นเนื้อแดง ที่มีส่วนไขมันกำลังพอดี จึงเป็นเนื้อที่ทั้งอร่อย สัมผัสนุ่มและดีต่อสุขภาพ แถมยังรสชาติและกลิ่นหอมแบบเนื้อวากิว อันเป็นเอกลักษณ์ ชาวคุมาโมโต้นิยมนำมาทำเป็นเมนูข้าวหน้า หรือยากินิกุก็อร่อย เรียกได้เลยว่าเป็นเมนูที่สายเนื้อห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทาง
เนื่องจากภูเขาอะโสะนั้นเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวและนักวิ่งเทรลในคิวชูจำนวนมาก จึงควรศึกษาข้อมูลก่อเดินทางไว้ล่วงหน้าจะช่วยให้ทริปทำกิจกรรมและท่องเที่ยวทริปนี้ของคุณประทับใจยิ่งขึ้นอีกแน่นอน
สภาพอากาศและการเตรียมตัวก่อนไปภูเขาอะโสะ
เนื่องจากการปะทุของภูเขาไฟสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ผู้ที่สนใจจะเดินทาง หรือทำกิจกรรม รอบๆ พื้นที่ของภูเขาอะโสะควรจะต้องอยู่ในพื้นที่จำกัดและพยายามศึกษาข้อมูลจากเว็บไซต์ทางการของสถานที่ก่อนเดินทาง
ข้อควรระวังในการเดินทาง
การปฏิบัตตัวเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ อาทิ โรคหลอดลมอักเสบ โรคหอบหืด หรือกำลังตั้งครรภ์ และเป็นโรคหัวใจ จะต้องปฏิบัติตามข้อห้ามอย่างเคร่งครัดเพราะก๊าซจากภูเขาไฟอาจทำให้เสี่ยงอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
หากพบความปกติของก๊าซระหว่างการทำกิจกรรมที่ภูเขาอะโสะ
ก่อนเริ่มเดินป่า โปรดตรวจสอบสภาพอากาศและทิศทางลมเพื่อพิจารณาว่าก๊าซภูเขาไฟจะพัดไปที่ใด รวมทั้งโปรดใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในวันที่สงบและมีแดดจัด เนื่องจากการขาดลมทําให้ก๊าซภูเขาไฟกระจายไปได้ยาก ซึ่งนําไปสู่ความเข้มข้นที่สูงขึ้น และหากคุณได้กลิ่นก๊าซ โปรดปิดจมูกและปากด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ หากคุณเริ่มรู้สึกไม่สบาย ให้รีบออกจากพื้นที่ทันที สืบเนื่องจากก๊าซภูเขาไฟมีความหนาแน่นสูงกว่าอากาศ จึงมักจะรวมตัวกันในพื้นที่ลุ่มต่ำ ควรหลีกเลี่ยงหุบเขา และพื้นที่ที่สูงขึ้นระหว่างการเดินป่าอีกด้วย
แอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ที่เป็นประโยชน์
เว็บไซต์เส้นทางวิ่งเทรลที่ดีดีที่สุดของภูเขาอะโสะ
ภูเขาอาโสะ (Mount Aso)
ที่อยู่ | Takamori, Aso District, Kumamoto 869-1601 |
วิธีเดินทาง | รถบัสประจำทางจะออกจากสถานี JR Aso ทุกๆ 1-2 ชั่วโมงไปยังสถานี Asosanjo ราคา 730 เยนต่อเที่ยว ที่อยู่ใกล้กับปล่องภูเขาไฟนากาดาเกะ |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Mount Aso |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
นอกจากภูเขาอะโสะจะเที่ยวสนุกเหมาะสำหรับสายแอดแวนเจอร์แล้ว ยังมีอีกหลายสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำที่จะยิ่งทำให้การมาเยือนภูมิภาคคิวชูครบทุกรสชาติ ทั้งชอบประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และเที่ยวออนเซ็นที่ดีต่อสุขภาพด้วย
ปราสาทคุมาโมโต้ (Kumamoto Castle)
สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัด โดยปราสาทคุมาโมโต้ถือเป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรมปราสาทญี่ปุ่นสไตล์ปราสาทบนเนินเขาได้รับการออกแบบให้ตัวหอคอยมีโครงสร้างขนาดใหญ่และตั้งบนจุดยุทธศาสตร์ที่แท้จริง อาคารรอบๆ ตัวปราสาทมีโครงสร้างเป็นอาคารไม้ยังคงมีหลงเหลือบางอาคารจนถึงทุกวันนี้ กล่าวกันว่าปราสาทคุมาโมโต้นั้นเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่นร่วมกับปราสาทฮิเมจิและปราสาทมัตซึโมโต้ และในขณะเดียวกันปราสาทแห่งนี้ยังถูกจัดอันดับให้เป็นอีกปราสาทในญี่ปุ่นที่อยากกลับไปเยี่ยมชมอีกครั้งหนึ่งของ TripAdvisor ในปีค.ศ.2013 อีกด้วย
ปราสาทคุมาโมโต้ (Kumamoto Castle)
ที่อยู่ | Takamori, Aso District, Kumamoto 869-1601 |
วิธีเดินทาง | รถบัสประจำทางจะออกจากสถานี JR Aso ทุกๆ 1-2 ชั่วโมงไปยังสถานี Asosanjo ราคา 730 เยนต่อเที่ยว ที่อยู่ใกล้กับปล่องภูเขาไฟนากาดาเกะ |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 500 เยน |
Website | Kumamoto Castle |
ช่องเขาทาคาจิโฮะ (Takachiho Gorge)
มาถึงคิวชูแล้วไปต่อกันที่จังหวัดมิยาซากิ เพื่อเดินทางไปยังจุดชมวิวสุดอลังการที่เป็นภาพหุบเขาลึกลับที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟแห่งนี้โดยที่ช่องเขาทาคาจิโฮะ นั้นล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามมาก เป็นภาพของหน้าผาที่มีความสูงกว่า 100 เมตร มีความยาวกว่า 7 กิโลเมตร มีน้ำตกมานาอิเป็นไฮไลท์ของการมาเก็บภาพสุดแสนประทับใจ จนได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 น้ำตกที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย การมีประสบการณ์การพายเรือชมลำธารและน้ำตกอย่างใกล้ชิด พร้อมเดินชมอยู่บริเวณจุดชมวิวด้านบนที่มีทางเดินเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตรก็เป็นทัศนียภาพที่ไม่อยากให้พลาดเลย
ช่องเขาทาคาจิโฮะ (Takachiho Gorge)
ที่อยู่ | Mukoyama, Takachiho, Nishiusuki District, Miyazaki 882-1103 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัส Limited Express (คัน Aso/ Takachiho) ไปลงทีป้าย Takachiho ใช้เวลา 3 ชั่วโมง |
เวลาทำการ | 8.00 – 17.00 น. |
ราคา | เข้าชมฟรี ส่วนค่าเช่าเรือ เช่าได้ 30 นาที 4,100 – 5,100 เยน (ราคาจะแตกต่างออกไปตามแต่ละวัน) |
Website | Takachiho Gorge |
เมืองเบปปุ (Beppu)
เมืองเบปปุนั้นเป็นเมืองแห่งออนเซ็นที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งในคิวชู ตั้งอยู่ใจกลางของจังหวัดโออิตะ และถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ภาคภูมิใจของประเทศญี่ปุ่น จุดเด่นของที่นี่คือออนเซ็น 8 แห่ง ที่มีชื่อเรียกรวมว่า เบปปุฮัทโตะ ที่แปลว่าน้ำร้อนแปดบ่อแห่งเบปปุ ศูนย์กลางของเบปปุฮัทโตะซึ่งก็คือเบปปุออนเซ็นนั้นยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวอย่างทาเคกาวาระออนเซ็น ซึ่งเป็นออนเซ็นสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมสมัยเมจิ การไปเยือนในเมืองออนเซ็นทั้งที แช่น้ำพุร้อนเพื่อผ่อนคลายและรักษาสุขภาพไปในตัวได้
เมืองเบปปุ (Beppu)
ที่อยู่ | 12-13 Ekimaecho, Beppu, Oita 874-0935 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟจากสถานี Hakata มายังสถานี Beppu ใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมง |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Beppu |
สรุป
ภูเขาไฟอะโสะซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคุมาโมโต้ เป็นที่ตั้งของปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ และเป็นปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาอันกว้างใหญ่และอุดมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม มีน้ำพุร้อนคุณภาพสูงดีต่อสุขภาพ เพียบพร้อมด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลายซึ่งเหมือนเป็นเสน่ห์ให้กับพื้นที่แห่งนี้ การผสมผสานอย่างลงตัว จนที่นี่ยังถูกกำหนดให้เป็นอุทยานธรณีโลกของยูเนสโกอีกด้วย