สนุกซัมเมอร์ ณ โอกาซากิ ! เมืองเดียวเที่ยวปริ่มใจ (ตอนแรก)

Cr: มาเรีย ณ ไกลบ้าน

เมืองโอกาซากิ (Okazaki City) เป็นเมืองในจังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ห่างจากสนามบิน Chubu Centair เพียง 45 นาทีเท่านั่นโดยการนั่งรถไฟมาลงสถานี Higashi Okazaki สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม บอกเล่าถึงชีวิตความเป็นมาของชาวเมืองโอกาซากิ และยังเป็นต้นกำเนิดของตระกูลโชกุนโทกุกาวะ อิเอยาซุ ผู้ปกครองประเทศญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ

การเดินทางครั้งนี้อยู่ในช่วงฤดูร้อน ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน ซึ่งหญิงใช้รถในการเดินทางวันที่ 1 และ 2 ส่วนวันที่ 3 เดินเท้าเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งที่เมืองโอกาซากิมีบริการให้เช่ารถโดยบริษัท Toyota Rent a Car ตั้งอยู่หน้าสถานี Higashi Okazaki สะดวกมากใช่มั๊ยละค่ะ งั้นอย่ารอช้าเลย ไปดูกันดีกว่าว่าเมืองนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง

สถานีแรกของเราคือ Otogawa yana (男川やな) จับปอปลาอายุรสเลิศ

Cr: มาเรีย ณ ไกลบ้าน

ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าร้อน ดังนั้นวิธีทำให้คลายร้อนของคนที่นี่คือ การจับปลาอายุไปเล่นน้ำไปพรางให้เย็นชื่นใจ การจับปลาอายุก็ไม่ได้ยากเลย แค่เราไปยืนดักรอและเตรียมท่าจับให้พร้อมแค่นั่นเราก็จะได้ปลาไปทำอาหารทานแล้ว

Cr: DARIN | ダーリン

ดูจากพี่มาเรียของเราเป็นตัวอย่างท่าทางปลามันจะดิ้นแรงเนอะพี่จ๋า

Cr: DARIN | ダーリン

พอเราจับปลาเสร็จ ทางร้านจะมีบริการนำปลาไปทำเป็นอาหารให้เราด้วยนะ มีทั้งปลาอายุชุบเกล็ดขนมทอดกรอบและเนื้อข้างในนั้นหวานอร่อยด้วยความสดของปลา คือตั้งแต่เคยกินปลาทอดกรอบมาที่นี่อร่อยสุดอะขอบอก

ต่อด้วยปลาอายุเผาที่พอสุกแล้วจะออกเป็นเหลืองกลิ่นหอม และตามมาด้วยปลาอายุซาชิมิที่สามารถกินได้ที่นี่ที่เดียวเท่านั่น เนื้อมันจะกรอบๆ อร่อย ๆ อยากบอกเพื่อนๆ ว่าพออาหารตั้งอยู่บนโต๊ะแล้ว มันน่าอร่อยจนทนถ่ายรูปไม่ไหว อื้อหือ…กินเลยดีกว่า!

หลังจากที่เรารับประทานปลาอายุอาหารมื้อแรกสุดแสนจะอร่อยแล้ว เราจะไปกินผลไม้ตบท้ายกันต่อที่ฟาร์มองุ่นค่ะ

Otogawa yana

Yamaza Budogari （ヤマサぶどう狩り）: ลิ้มรสองุ่นสุดฟินกินไม่อั้น

Cr: DARIN | ダーリン

ฟาร์มองุ่นแห่งนี้เป็นฟาร์มที่มีบรรยากาศน่ารักและร่มรื่น เมื่อเราเข้าไปอยู่ด้านล่างของต้นองุ่น จะให้ความรู้สึกว่ามีต้นองุ่นปกคลุมบนหัวเราเต็มไปหมดเลย ที่พิเศษคือฟาร์มแห่งนี้เปิดให้เราเก็บองุ่นจากต้นได้แบบไม่อั้น และมีพันธุ์องุ่นให้เลือกกินอย่างหลากหลาย

Cr: DARIN | ダーリン

ฟาร์มนี้คนนิยมมาทั้งปิคนิก สังสรรค์เฮอาและมาแบบครอบครัวพาลูกมาเล่นกัน เขามีให้ทำบาร์บีคิวด้วยนะแต่ต้องโทรจองก่อน เพราะฉะนั้นฟาร์มนี้จึงเหมาะสำหรับคนทุกวัยเลยจ้ะ พี่มาเรียบอกว่าที่แบบนี้คนไทยชอบแน่นอนรับประกัน

Cr: มาเรีย ณ ไกลบ้าน

ก่อนเราจะเก็บองุ่นได้นั้นคุณลุงจะจัดอุปกรณ์พิเศษให้กับเราคือตะกร้าและกรรไกร ขั้นตอนการเก็บคือเราใช้มือช้อนที่พวงองุ่นแล้วใช้กรรไกรตัดที่ขั้ว ลอกกระดาษครอบออกทิ้งลงในถังขยะ หลังจากนั้นเอาใส่ตะกร้าแล้วนำไปล้าง เมื่อล้างเสร็จเพื่อนๆ จะนั่งกินหรือเดินกินก็ได้ตามสบายเลย

Cr: มาเรีย ณ ไกลบ้าน

ตอนกินหญิงเห็นคนญี่ปุ่นเขาเคี้ยวแล้วก็คายเปลือกองุ่นทิ้งกันเพียบ เลยไปถามด้วยความสงสัยว่าทำแบบนี้อร่อยเหรอ เขาก็บอกลองสิ พอทำตามดูบ้างเท่านั้นแหละมันอร่อยคนละแบบเลยอะ คือมันหวานๆ กรอบนุ่มแบบรสสัมผัสขององุ่นและมีความชุ่มฉ่ำของน้ำโดยที่ไม่มีรสฝาดของเปลือกเลย

Cr: DARIN | ダーリン

แน่นอนว่าสำหรับพวกเรา นี่เป็นอีกสถานที่หนึ่งซึ่งเราได้ถ่ายรูปสวยๆ ลงโซเชียลให้เพื่อนๆ ได้อิจฉาไปตามๆ กัน หลังจากอร่อยกันหน่ำใจแถมถ่ายรูปสวยๆ แล้ว ถ้างั้นเราไปต่อกันที่สถานีที่สอง สถานที่ให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ด้วยการเที่ยวศาลเจ้ากันโล้ด

Yamaza Budogari

Iga Hachi Mangu (伊賀八幡宮) ศาลเจ้าแห่งชัยชนะ

Cr: 4travel.jp

ศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความงามของทั้งทิวทัศน์และสถาปัตยกรรม ในตอนเช้าสระบัวขนาดใหญ่จะเต็มไปด้วยดอกบัวบานสะพรั่ง ให้ความสดชื่นและสบายใจต้อนรับเช้าวันใหม่ ด้านสถาปัตยกรรมของศาลเจ้านั่นสวยงามและเก่าแก่จนถือเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น

Cr: DARIN | ダーリン

ประวัติความเป็นมาศาลเจ้านี้มีความเกี่ยวข้องกับท่านโชกุนอิเอยาสุ เมื่อท่านโชกุนจะต้องออกเดินทางไปรบ ท่านจะมาขอพรเพื่อให้ได้ชัยชนะ ณ ศาลเจ้าแห่งนี้เสมอ ศาลเจ้านี้จึงเปรียบเสมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกป้องคุ้มครองตระกูลของท่านโชกุนนั่นเอง

Iga Hachi Mangu

Okazaki New Grand Hotel（岡崎ニューグランドホテル）: พักผ่อนสบาย

Cr: DARIN | ダーリン

หลังจากเราเดินทางอย่างเมามันส์ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทั้งจับปลา เก็บองุ่น เที่ยววัดชมดอกบัว เราก็ต้องกลับไปพักกันหน่อย เดี๋ยวร่างจะพัง สถานที่พักผ่อนหญิงขอแนะนำคือ โรงแรม Okazaki New Grand Hotle เป็นโรงแรมสามดาว ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

Cr: DARIN | ダーリン

พิกัดของโรงแรมยังตั้งอยู่ใจกลางเมือง เวลาเดินทางไปเที่ยวไหนก็สะดวก และจากความสูงของตัวตึกทำให้เรามองเห็นวิวปราสาท แม่น้ำและรอบเมืองโอกาซากิ ถือเป็นจุดชมวิวที่ดีมากเลยทีเดียว

Cr: DARIN | ダーリン

หลังจากพักผ่อนกันสักพักแล้ว ท้องก็เริ่มเรียกร้องความชอบธรรม ถึงเวลาต้องหาอะไรทานกัน ระหว่างทางไปร้านอาหารก็ชมวิวไปด้วย วิวของเมืองโอกาซากิยามเย็นนั้นสวย ร่มรื่น และดูสะอาดสะอ้านดีเหมือนกันนะ

Okazaki New Grand Hotel

Sakana Yaoya （さかな八百弥）: อร่อยครบทั่วมหาสมุทร

Cr: DARIN | ダーリン

Cr: DARIN | ダーリン

อาหารเย็นวันนี้เรามาฝากท้องกับร้าน Sakana Yaoya กันจ้า ดูจากภาพก็รู้ว่าพี่มาเรียของเราหิวขนาดไหน เดินเข้าไปก่อนแล้ว ไม่รอน้องเลยเด้อพี่

Cr: DARIN | ダーリン

Cr: DARIN | ダーリン

ร้านนี้จุดเด่นคือการรวมอาหารทะเลสดและอร่อยจากทั่วประเทศ จะทานข้าวเป็นหลักหรือนั่งชิลล์ดื่มเหล้าไปคุยไปก็ได้ อีกทั้งอาหารร้านนี้ยังเหมาะเป็นกับแกล้มคู่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เป็นอย่างดี

Cr: DARIN | ダーリン

หญิงจะขอแนะนำเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่าง อิคะยากิ (イカ焼き) เป็นเมนูที่นำปลาหมึกไปย่างจนได้กลิ่นหอม พอกัดเข้าไปก็กรอบอร่อยรู้สึกถึงความสด โอ้ยคือต้องลอง!

เมนูที่สองคือ ยาโอยะซาลัดดะ ( 八百弥サラダ ) เป็นสลัดที่พี่มาเรียขอแนะนำและบอกว่าถ้าคนไทยมากินต้องติดใจแน่นอน น้ำสลัดอะไรไม่รู้ทำไมอร่อยขนาดนี้ พี่มาเรียก็จัดเรียบเลยจ้า

เมนูที่สาม ฮิมิอุด้ง( 氷見うどん) เป็นเมนูอุด้งเส้นเหนียวนุ่ม อร่อยมาก เสิร์ฟพร้อมกับขิงบด ต้นหอมญี่ปุ่นซอย และน้ำซุปเย็นออกรสเค็มๆ หน่อยๆ และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่สามเมนูนี้เท่านั่นที่อร่อยเพราะยังมีเมนูอีกมากมาย อร่อยไม่แพ้กันเลย ต้องมาลอง

Sakana Yaoya

MEGA Donkihoote Okazakiten ( MEGAドン・キホーテ岡崎店）: ช้อปแหลกที่ดองกี้

Cr: DARIN | ダーリン

หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ ทริปของวันนี้เรายังไม่จบแค่นี้แน่นอนจ้า เพราะเราจะไปช้อปปิ้งกันต่อ…สถานที่ยอดฮิตของคนไทย นั่นก็คือดองกี้ แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ มีทั้งเสื้อผ้า ตุ๊กตา เกม ตู้กาชาปอง ขนม อาหาร เครื่องดื่มทุกชนิดและสินค้ามากมายรวมอยู่ในแห่งเดียว มากกว่านั้นตึกดองกี้ยังเปิดถึงตีสามจ้านายจ๋า ยามค่ำคืนถ้าใครยังไม่ง่วงแรงยังเยอะอยู่ ก็ขับรถออกมาเดินเล่น ช้อปปิ้งไปเพลินๆ ได้

ช้อปเสร็จเราก็ควรกลับไปพักผ่อนเพื่อชาร์ตแบตกันสำหรับเที่ยววันพรุ่งนี จบแล้ว 1 วันมาราธอน พรุ่งนี้เราจะไปไหน ติดตามกันได้ตอนนี้เลย ไม่ต้องรอให้เสียอารมณ์ (อิอิ)

MEGA Donkihoote Okazakiten

Blueberries farm Okazaki （ブルーベリーファームおかざき）: เที่ยวเล่นฟาร์มบลูเบอรี่

Cr: DARIN | ダーリン

วันนี้เป็นวันที่สองของเรา ตื่นมาทานอาหารเช้าจัดเต็มสไตล์บุฟเฟต์ของโรงแรม มีทั้งอาหารญี่ปุ่นและอาหารอิตาเลียน ขณะทานก็ชมปราสาท แม่น้ำ นกโบยบิน จากห้องอาหารของโรงแรม เป็นอะไรที่ชีวิตดี๊ดี ฟินจริงๆ ทานเสร็จเราก็ออกเดินทางต่อ ไปยังสถานที่แรกในวันนี้คือบลูเบอรี่ฟาร์มโอกาซากิ

Cr: DARIN | ダーリン

ตอนนั่งรถเข้าไปในตัวฟาร์มหญิงตื่นเต้นมาก ยิ่งพอเห็นการจัดแต่งของฟาร์มและบรรยากาศน่ารักๆ ก็ทำให้ตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ ภายในฟาร์มจะมีร้านค้าสำหรับนั่งชิลล์ๆ พัดลมเย็นๆ และของตกแต่งน่ารัก สิ่งสำคัญในการมาครั้งนี้คือ เรามาเก็บบลูเบอรี่กินกันแบบไม่อั้นจ้า

Cr: DARIN | ダーリン

ก่อนเราจะได้เด็ดผลบลูเบอรี่จากต้นเข้าปากได้ เราต้องฟังคุณลุงเจ้าของฟาร์มอธิบายว่าเด็ดจากตรงไหนถึงจะอร่อย แล้วก็ให้เราเลือกหยิบตะกร้า หลังจากนั่นก็ถึงเวลาลุย! เคล็ดลับคือยิ่งลูกสีเข็มๆ จะยิ่งหวานอร่อย และต้นที่มีป้ายเขียนว่า　”プレミアム (premium)” ยิ่งต้องวิ่งไปจองเด็ดก่อนเลย

Cr: DARIN | ダーリン+มาเรีย ณ ไกลบ้าน

หลังจากเก็บลูกบลูเบอรี่ทานจากต้นแล้ว คงมีเมื่อยกันบ้าง เราก็มานั่งพักให้หายร้อนและทานขนมหวานอร่อยๆ ทำมาจากบลูเบอรี่ให้ชื่นใจ มีทั้งน้ำแข็งใสราดน้ำหวานบลูเบอรี่ ไอศกรีมรสบลูเบอรี่ เค้กบลูเบอรี่ แพนเค้ก และอื่นๆ อีกมากมาย

แน่นอนว่าฟาร์มนี้เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยนะจ๊ะ ผู้ใหญ่ก็ดี เด็กๆ ก็ได้แฮปปี้วิ่งเล่นกันสนุกสนาน สำหรับวันเสาร์อาทิตย์สามารถกินแบบไม่อั้นได้เพียงสองชั่วโมงเท่านั่น แต่ถ้าเป็นวันธรรมดาสามารถอยู่ได้ทั้งวันเลยน้า

Blueberries farm Okazaki

Okutonojinya (奥殿陣屋) : พักผ่อนที่สวนสไตล์ญี่ปุ่น

Cr: มาเรีย ณ ไกลบ้าน

จากนั้นเราก็จะมาต่อกันที่สวนดอกไม้สไตล์ญี่ปุ่น ที่นี่เป็นสวนดอกไม้ซึ่งแต่ละฤดูจะมีพันธุ์ดอกไม้ต่างกันให้ชมและถ่ายรูปสวยๆ ในฤดูร้อนเราแนะนำให้มาในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ดอกไม้จะสวยและบานเต็มสวน ชมดอกไม้แล้วก็ต้องชมคนด้วย คนที่นี้ต้อนรับดีมาก น่ารัก สดใส เขาเห็นเราพูดภาษาต่างจากเขา เขาก็เรียกเซไฮเลยจ้า

Cr: มาเรีย ณ ไกลบ้าน

เมื่อเราเดินชมความงาม สัมผัสกลิ่นหอมของดอกไม้มาเรื่อยๆ ภายในสวนดอกไม้แห่งนี้ก็มีกระท่อมน้อยจัดแสดงกระบอกพลุสำหรับจุดดอกไม้ไฟอายุเป็นร้อยๆ ปี ที่ทำจากเหล็กขนาดใหญ่ และยังมีประวัติความเป็นมาของพลุหรือดอกไม้ไฟ ซึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจมีอยู่ว่า ท่านโชกุนโทคุงาว่า อิเอะยาสุ เป็นบุคคลที่ได้ชมการแสดงดอกไม้ไฟเป็นครั้งแรกและเป็นผู้เริ่มต้นของประวัติศาสตร์ดอกไม้ไฟในญี่ปุ่น

Cr: มาเรีย ณ ไกลบ้าน

ตรงข้ามกระท่อมมีสวนสไตล์ญี่ปุ่นพร้อมร้านชาเขียวให้สามารถเข้าไปพักผ่อน นั่งสบายๆและที่พิเศษคือมีเช็ตขนมญี่ปุ่นเสิร์ฟพร้อมกับชาเขียวรสขมหน่อยๆ ตัดกับขนมหวานได้เป็นอย่างดีให้ได้ทานระหว่างนั่งพักผ่อน ชาเขียวนั้นจะสั่งร้อนหรือเย็นก็ได้ ซึ่งในอากาศร้อนๆ แน่นอนว่าพอได้กินชาเขียวเย็นๆ ก็ชื่นใจมาทันที

Cr: DARIN | ダーリン+มาเรีย ณ ไกลบ้าน

Cr: มาเรีย ณ ไกลบ้าน

หลังจากสั่งขนมเสร็จเราก็มานั่งทานในห้องแอร์เย็นๆ ชมสวนญี่ปุ่นผ่านทางห้องกระจกของตัวร้าน ได้อารมณ์เป็นท่านหญิงท่านชายแห่งยุคเอโดะมาก ถ้าใครอยากซื้อของฝาก ทางร้านก็มีบริการสินค้าหลากหลายชนิดเป็นผลิตภัณฑ์ประจำเมืองโอกาซากิให้ซื้อกัน มากกว่านั้นยังมีให้อาหารปลาคาร์ฟภายในสวนนี้ด้วย เป็นสวนสวยเหมาะแก่การมาพักผ่อนมากๆ

Okutonojinya

ร้าน Shigenoya (重の家) : อาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมต้องร้านนี้

Cr: DARIN | ダーリン

และแล้วก็มาถึงเวลาของข้าวเที่ยงวันนี้กันแล้วจ้า หญิงขอแนะนำร้านอาหาร Shigenoya เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมของเมืองโอกาซากิได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีจุดเด่นคือในตัวร้านจัดแต่งได้อย่างสวยงามในสไตล์ญี่ปุ่นบอกเล่าถึงธรรมชาติและความสบายได้เป็นอย่างดี คล้ายบ้านของคนญี่ปุ่นดั่งเดิมแต่มีความหรูหราอลังการ ทำให้เราคิดว่าค่าอาหารต้องแพงมากแน่ ๆ

Cr: DARIN | ダーリン

แต่ทว่า…เมื่อมานั่งที่โต๊ะ ดูเมนู ราคา ปริมาณ และศิลปะความงามในการจัดแต่งจานอาหารที่ถูกจัดเสิร์ฟนั้น พี่มาเรียขอคอนเฟิร์มเลยว่า ร้านนี้ถือว่าถูกมากกว่าที่คิดแบบว่างงไปตามๆ กัน แต่อย่าเพิ่งเชื่อหญิงกับพี่มาเรียเต็มร้อย เพราะอยากให้มาลองพิสูจน์กันเองก่อนนะ

ส่วนอาหารที่สั่งมาครั้งนี้ สั่งมาสามชุดจ้า ถ้ามาร้านนี้แนะนำว่าต้องสั่งชุดขึ้นชื่อของทางร้านคือ Shigenoya Gozen (重の家御膳 ) ราคา 2,160 เยน และอีกสองเมนูคือ Ayami Gozen (あやみ御膳) ราคา 1,620 เยน และ Toban Suteki Gozen (陶板ステーキ御膳) ราคา 2,160 เยนเมนู แน่นอนว่าทั้งสามชุดจัดมาเต็มที่และอร่อยอย่าบอกใคร (ว้ายเผลอบอกไปแล้วอะ 555)

Shigenoya

Matsui Japanese style candle Atelier (松井本和蝋燭工房) : ประสบการณ์ใหม่กับเทียนไขญี่ปุ่น

Cr: DARIN | ダーリン

หลังจากเราทานข้าวเที่ยงกันเสร็จแล้ว เราก็จะมาทำกิจกรรมฝึกสมองทดลองปัญญากันต่อ แอบเว่อร์ไปนิด (อิอิ) นั่นก็คือเราจะมาระบายแต่งเติมลวดลายบนเทียนญี่ปุ่น และเรียนรู้วิธีทำเทียนไขอันมีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานกันจ้า ร้านที่เราจะพาไปทำเทียนไขญี่ปุ่นกันนั้นมีชื่อว่า Japanese style candle Atelier ซึ่งเป็นร้านขายเทียนญี่ปุ่นโบราณมาตั้งแต่อดีตนานกว่า 110 ปี

Cr: DARIN | ダーリン

ความพิเศษก็คือร้านนี้ยังคงรักษาความดั้งเดิมของการทำเทียน โดยทุกขั้นตอนจะทำด้วยมือ จึงต้องใช้เวลาและความปราณีตมาก และในส่วนของขั้นตอนสุดท้ายนั้นจะเป็นการทำเทียนให้มีลวดลายสวยงาม โดยลายของเทียวในร้านจะเป็นฝีมือของลูกสาวของเจ้าของร้านแต่เพียงผู้เดียว ราคาจึงถือว่าแพงพอสมควร

Cr: DARIN | ダーリン

แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการ์ที่ดีเช่นเดียวกัน เพราะเราสามารถสร้างลวดลายบนเทียนในแบบของเราให้มีเพียงหนึ่งชิ้นในโลกแล้วนำเอากลับไปนอนกอดประทับใจได้ที่บ้าน

Matsui Japanese style candle Atelier

Rokosho shrine (六所神社) : ศาลเจ้าแห่งความปลอดภัย

Cr: DARIN | ダーリン

หลังจากทำกิจกรรมระบายสีเทียนไขกันมาเแล้ว หญิงก็อยากจะพาเพื่อนๆ มาศาลเจ้าไหว้เทพเจ้าแห่งความปลอดภัยกันสักหน่อย ศาลเจ้านี้มีเรื่องราวความเชื่อเก่าแก่ว่า ถ้าใครอยากมีลูกหรืออยากให้ลูกคลอดออกมาอย่างปลอดภัยก็ให้มาขอพร ณ ศาลเจ้าแห่งนี้

Cr: DARIN | ダーリン

วิธีการขอพรคือให้ลูบไปที่ตัวแม่สุนัขและลูกสุนัข ตามประวัติศาลเจ้านี้ก็มีความเกี่ยวข้องกับท่านโชกุนผู้ปกครองเมืองอย่างโทกุกาวะ อิเอยาซุ เช่นเคย

Cr: DARIN | ダーリン

ในเมืองโอกาซากิ ศาลเจ้าแห่งนี้ถือว่ามีชื่อเสียงเป็นระดับต้นๆ และเป็นศาลเจ้าที่สวยงามมาก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี ค.ศ. 1935

ตอนนี้บางส่วนของศาลเจ้ากำลังอยู่ในช่วงปรับปรุง แต่อีกไม่นานก็จะเปิดให้เข้าชมและสักการะได้ในเดือนธันวาคม 2017 นี้

Rokosho Shrine

ข้อสรุป

ในการท่องเที่ยวครั้งนี้หญิงก็ได้พาเพื่อนๆไปสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในเมืองโอกาซากิแล้ว เพื่อนๆเริ่มจะสนใจและอยากมาเมืองนี้แล้วใช่ไหมละค่า วันนี้หญิงขอค้างไว้เพียงเท่านี้ก่อน แล้วจะมาต่อกันในตอนต่อไป ว่าจะมีสถานที่เที่ยวในโอกาซากิที่น่าสนใจแห่งไหนอีก ถ้างั้นหญิงขอฝากเมืองโอกาซากิเมืองเล็กๆ ที่น่าค้นหาไว้กับเพื่อนๆด้วยนะ และอย่าลืมติดตามอ่านต่อกันในตอนหน้านะคะ