บุกเบิกเส้นทางสามดาว ตอน เที่ยว มัตสึโมโตะ…ปราสาทโบราณ ย่านเมืองเก่า และหิมะโปรยปราย

เมื่อพูดว่าจะมาเที่ยวจูบุ หลายๆ คนอาจยังนึกไม่ออกว่าจะไปไหนดี มีที่ไหนให้เที่ยวบ้าง ของดีที่ไม่ควรพลาดคืออะไร วันนี้เราจะมาบุกเบิกเส้นทางใหม่ กับ Mitsuboshi kaidou หรือ Three star route เส้นทางสายวัฒนธรรม ที่การันตีแล้วว่าดีไม่มีผิดหวัง

รู้จัก Mitsuboshi kaidou

Mitsuboshi kaidou หรือ Three star route (บางทีก็เรียก Three star road) คือเส้นทางที่รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้ 3 ดาวจาก Michelin Green Guide ซึ่ง 3 ดาวนี้คือระดับสูงสุดของการแนะนำแล้วว่าไม่ควรพลาด โดยเส้นทางจะครอบคลุม 5 พื้นที่ ได้แก่ มัตสึโมโตะ ทาคายามะ ชิราคาวาโกะ โกคายามะ และคานาซาวะ

เส้นทางนี้มีทั้งปราสาทมัตสึโมโตะ ย่านเมืองเก่าทาคายามะ หมู่บ้านพนมมือชิราคาวาโกะและโกคายามะ สวนเคนโรคุ พร้อมด้วยกิจกรรมท้องถิ่นอีกมากมาย แต่ละที่ล้วนเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ควรไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต

วางแผนเที่ยวและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ >>ที่นี่

ซึ่งทริปในครั้งนี้เราเริ่มจาก เที่ยว มัตสึโมโตะ ไล่ไปทาคายามะ ชิราคาวาโกะ โกคายามะ และปิดท้ายที่คานาซาวะ บอกก่อนเลยว่าประทับใจมาก เป็นทริปสายวัฒนธรรมที่ผ่อนคลายเยียวยาหัวใจที่สุดทริปหนึ่งเลย♡ อารัมภบทมาพอแล้ว ออกเดินทางกันเลยดีกว่า!

จากนาโกย่าสู่มัตสึโมโตะ

ตั้งต้นกันที่สนามบิน การเดินทาง เที่ยว มัตสึโมโตะ และจูบุที่สะดวกและใกล้ที่สุดคือสนามบิน Chubu Centrair จากนั้นก็นั่ง Meitetsu Airport Limited Express μ-SKY ไปลง JR Nagoya station ใช้เวลาประมาณ 40 นาที

จากนั้นนั่งต่อไปมัตสึโมโตะอีก 2 ชั่วโมงด้วยรถไฟด่วน Wide View Shinano

มีเวลาบนรถไฟแบบนี้ควรทำยังไง กินสิคะ! พูดถึงข้าวบนรถไฟก็ต้องเอคิเบน ในภาพคือข้าวกล่องมิโซะคัตสึอันเป็นของขึ้นชื่อของนาโกย่า ซอสมิโสะหวานๆ เค็มๆ อร่อยดี

สัมผัสวัฒนธรรมและอากาศหนาว ปราสาทมัตสึโมโตะ

ปราสาทมัตสึโมโตะ อยู่คู่กับจังหวัดนี้มายาวนานมากกว่า 400 ปี ซึ่งปราสาทแห่งนี้สามารถรักษาสภาพดั้งเดิมโดยไม่มีการสร้างใหม่เลยตลอดระยะเวลายาวนานนี้ จึงได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 5 ปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติญี่ปุ่น

ที่นี่ยังเป็นปราสาทเพียงหลังเดียวที่มีป้อมปราการและหอคอยเล็กหลงเหลือจากยุคเซ็นโกคุและสมัยเอโดะ ยุคเซ็นโกคุคือสมัยแห่งสงครามกลางเมือง ปราสาทแห่งนี้จึงสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการ มีฟังก์ชันหลายๆ อย่างในการรบ

ตอนที่มาถึงยังเช้าอยู่ ดวงอาทิตย์ขึ้นสูงแล้วอุณหภูมิยังเบาะๆ อยู่ที่ -3 องศา ไอน้ำที่เห็นไม่ใช่ออนเซ็นแต่อย่างใด มันคือไอเย็น! ไม่รู้หงส์ยังว่ายสวยๆ อยู่ได้ยังไง คนบนบกนี่คือเขย่าถุงร้อนกันเอาเป็นเอาตายแล้ว

ซื้อตั๋วแล้วก็เข้าสู่ปราสาทกันเลย บริเวณลานหน้าประตูนี้คือสมรภูมิรบในอดีต ถ้าสังเกตตรงกำแพงด้านบนจะมีช่องรูปสามเหลี่ยมและสี่เหลี่ยมอยู่ มันคือช่องสำหรับซุ่มยิงปืนและธนู เป็นปราการต้านไม่ให้ข้าศึกเข้าใกล้ได้

เดินเข้ามาด้านในก็เจอเจ้าหญิงกับท่านเจ้าของปราสาท ขอเขาถ่ายรูปได้ตามสบายเลย ถ้าคุยด้วย เขาจะตอบมาเป็นภาษาโบราณล่ะ หนาวแค่ไหนก็ไม่หลุดจากบทบาทเลย

หน้าทางเข้าเราได้พบกับซามูไรที่มาขวาง เจ้าเข้าไปไม่ได้! เปล่าหรอก มาต้อนรับพร้อมโพสท่าให้ถ่ายต่างหาก

ได้เวลาเข้าปราสาท ไฮไลท์อยู่ที่ เขาให้ถอดรองเท้าเข้าจ้า ยังไม่พอ ที่นี่ไม่มีการติดฮีตเตอร์เพื่อเป็นการรักษาไม้ จำได้ไหมว่าอุณหภูมิตอนนี้เท่าไหร่ -3 น่ะสิ!! เมื่อก่อนยังมีรองเท้าแตะให้ใส่นะ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว อื้อหือ เพิ่งเข้าใจคำว่าเย็นจนเจ็บเท้าก็วันนี้

เมื่อเข้าไปจะพบกับโถงทางเดินที่จัดแสดงของต่างๆ เกี่ยวกับซามูไรในสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นปืนแบบต่างๆ ชุดเกราะ และวิธีทำกระสุน

ปราสาทแห่งนี้ดูจากข้างนอกจะเหมือนมี 5 ชั้น แต่ความจริงแล้วมี 6 ชั้น เพราะชั้น 3 นั้นเป็น “ห้องลับ” มืดๆ ไม่มีหน้าต่าง เหตุผลก็คือชั้นนี้เอาไว้ประชุมกลยุทธ์และซ่อนตัวจากข้าศึก มองจากภายนอกจะไม่รู้ว่ามีชั้นนี้อยู่

พอปีนขึ้นมาถึงชั้นบนสุดก็จะพบกับห้องโล่ง บนเพดานมีหิ้งบูชาเทพเจ้าอยู่ มองออกไปข้างนอกจะเห็นวิวมุมสูงของเมืองที่มีขุนเขาเป็นฉากหลัง และที่สำคัญ มีแดดส่องเจ้าข้าเอ๊ย! เดินมาจนเท้าชา เอาเท้ามาอังแดดตรงนี้ช่วยได้ เฮ้อ อุ่น

เก็บภาพบรรยากาศอีกสักหน่อยก่อนออก ปกติปราสาทมักจะให้ความรู้สึกสวยสง่า แต่เราว่าปราสาทนี้เท่มากเลยนะ

Matsumoto castle

ที่อยู่	4-1 Marunouchi, Matsumoto, Nagano 390-0873
วิธีเดินทาง	เดิน 18 นาทีจาก Matsumoto Station
เวลาทำการ	8.30 – 5.00 น. (เข้าก่อน 4.30 น.)
ราคา	ผู้ใหญ่ 700 เยน เด็ก 300 เยน (เข้าได้ทั้งปราสาทมัตสึโมโตะและ Matsumoto City Museum)
Websitek	matsumoto-castle

ย้อนเวลาสู่วัยเรียนยุคเมจิที่ โรงเรียนไคจิเก่า

หลายคนอาจจะเอ๊ะ มาโรงเรียนทำไม โรงเรียนไคจิเก่า หรือ Former Kaichi school แห่งนี้เป็นโรงเรียนแบบโมเดิร์นแห่งแรกในญี่ปุ่นที่สร้างหลังเปิดประเทศในยุคเมจิ จะเห็นเลยว่าอาคารเป็นแบบตะวันตกจ๋ามากๆ และโรงเรียนนี้ก็เป็นสมบัติแห่งชาติเช่นกัน

แต่ความตลกอยู่ที่เมื่อซูมเข้าไปจะเห็นว่าหน้าของคิวปิดที่สร้างเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของฝรั่งนั้นหน้าญี่ปุ่นมาก ย้อนแย้งในตัวเองเบาๆ

ความหัวมังกุท้ายมังกรยังไม่หมด มังกรม้วนหัวม้วนหางนี้คือ Sankarado นับเป็นเครื่องประดับชิ้นไฮไลท์ที่เห็นได้ทั่วไปในอาคาร

ความพิเศษคือโรงเรียนแห่งนี้เกิดจากการระดมทุนบริจาคเงินถึง 70% จากชาวบ้าน ฝ้าเพดานทำจากกระดาษ เสามาจากวัดที่ถูกทิ้งร้าง ผนังทำจากดินเหนียวและไม้ไผ่ เรียกได้ว่าประหยัดทุกเม็ดเพื่ออนาคตของบุตรหลานจริงๆ ฟังแล้วน้ำตาจะไหล

ในอาคารจะมีห้องเรียนที่จำลองสภาพตอนใช้เรียนจริงเลย โต๊ะมีรอยขูดรอยสลักด้วยนะ พอเปิดฝาโต๊ะตัวหน้าสุดก็เจอกับกระดานชนวนที่ใช้เรียนในสมัยก่อนด้วย น่าร้าก มีการจัดแสดงแบบเรียนและเอกสารสำคัญต่างๆ รวมถึงเกมเล็กๆ น้อยๆ ให้เล่นประปราย เดินเพลินมากๆ คนที่เรียนญี่ปุ่นมาจะอินเป็นพิเศษ

เชิญพบกับประตูปริศนา ประตูลอยๆ ที่ไม่มีทางเดินเชื่อม แถมพอเปิดออกไปยังไม่เจออะไรอีกด้วย…บรรยากาศบรึ๋ยลอยมาเบาๆ คาดว่าคงเกิดจากระหว่างการซ่อมแซม

โรงเรียนนี้ปิดและเปิดให้เข้าชมในฐานะพิพิธภัณฑ์ในปี 1965 ส่วนโรงเรียนไคจิที่ยังมีการเรียนการสอนในปัจจุบันตั้งอยู่ด้านหน้าเยื้องไปหน่อยเดียว

Former Kaichi School

ที่อยู่	2-4-12 Kaichi, Matsumoto, Nagano 390-0876
วิธีเดินทาง	ขึ้นบัส Town sneaker (North corse) จาก Matsumoto station มาลงที่ป้าย Kyu-Kaichigakko จากนั้นเดินต่อ 1 นาที / เดิน 23 นาทีจาก Matsumoto station
เวลาทำการ	9.00 น. – 17.00 น. (เข้าก่อน 16.30 น.)
วันหยุด	วันจันทร์ที่ 3 ของสัปดาห์ตั้งแต่มีนาคมถึงพฤศจิกายน / ทุกวันจันทร์ในเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ (หากเป็นวันหยุดจะเปิด และหยุดวันถัดไปแทน) / 29 ธันวาคม – 3 มกราคม
ราคา	ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก 200 เยน
website	visitmatsumoto

ถนนสายตุ๊กตา Takasago Street

มาเดินในตัวเมืองมัตสึโมโตะกันบ้าง Takasago Street เป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านตุ๊กตาเต็มสองข้างทาง นี่คือช่วงก่อนวันเด็กผู้หญิง แต่ละร้านจึงจัดแสดงตุ๊กตาฮินะเต็มไปหมด

ตุ๊กตาแต่ละตัวทำด้วยมืออย่างปรานีตบรรจง ลงลึกถึงรายละเอียดอย่างกิโมโนแต่ละชั้น ระหว่างเดินดูอยู่ก็เห็นคุณพ่อคุณแม่อุ้มลูกสาวบ้าง คุณตาคุณยายบ้างเข้าร้านไปเลือกตุ๊กตากันหลายคน เห็นแล้วก็ได้แต่อมยิ้มกับวัฒนธรรมเขา พอพ้นวันเด็กผู้หญิงไป ทุกร้านก็จะเปลี่ยนเป็นสำหรับวันเด็กผู้ชายแทน

เดินไปอีกหน่อยเจอร้านขนม Kaiundou ความจริงร้านนี้เป็นร้านขนมญี่ปุ่น แต่เราไปสะดุดตากับน้องนกที่หยอดเหรียญแล้วน้องจะทำไอติมให้เรากิน มีรสแปลกๆ อย่างถั่วแดงเกลือ ชานมคาราเมล พิสตาชิโอด้วย แต่เลือกไม่ได้นะ รสจะกำหนดไว้ตามวันที่แล้ว คือเห็นไอติมแล้วรู้เลยว่าไปวันที่เท่าไหร่ อย่างเราไปวันที่ 11 เลยได้เป็นรสช็อกโกแลตมา ใครสนใจตามไปดูขนมกันได้ >>ที่นี่

Takasago Doori

ที่อยู่	2-5-1, Chuo, Matsumoto, Nagano 390-0811
วิธีเดินทาง	เดิน 13 นาทีจาก Matsumoto Station

เทศกาลขนมหวานแห่งถนน Honmachi

เดินๆ อยู่ก็พบกับฝูงชนคึกคัก ปรากฏว่าวันที่ไปบังเอิญเป็นวันจัดงานเทศกาลขนมหวานหรือ Ame ichi (飴市) พอดี ชาวบ้านท้องถิ่นออกมาขายขนมญี่ปุ่นโบราณกันอย่างสนุกสนาน ส่วนมากจะเป็นจำพวกลูกอมและน้ำผึ้งน้ำตาล มีให้ชิมด้วย แหะๆ อร่อย งานนี้จะจัดทุกวันเสาร์อาทิตย์ที่สองของเดือนมกราคม

กินลมชมเมืองเก่ากับถนนสุดคลาสสิค Nawate Street&Nakamachi Street

พูดถึงย่านเมืองเก่าประจำมัตสึโมโตะก็ต้องถนน 2 สายนี้เลย สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านรวงแบบโลคอล ไม่ว่าจะของกิน ของใช้น่ารักๆ เสื้อผ้า และงานฝีมือจุกจิก

ถนน Nakamachi จะมีกำแพงสีขาวดำอยู่ตลอดทางเป็นเอกลักษณ์ ของกินเยอะมากมาย แถมให้ชิมแบบไม่หวงเลย อร่อยทั้งนั้น ละลายทรัพย์มากๆ

Nakamachi Doori

ที่อยู่	3-2-14 Chuo, Matsumoto, Nagano 390-0811
วิธีเดินทาง	เดิน 15 นาทีจาก Matsumoto Station

เดินข้ามสะพานไปจะเจอกับถนน Nawate หรืออีกชื่อคือ “ถนนกบ” ที่มามาจากแม่น้ำตรงนี้เคยสกปรกจนกบอยู่ไม่ได้ จึงมีการทำความสะอาดฟื้นฟูจนตอนนี้กลับมาใสอีกครั้ง ต้องยอมเขาจริงๆ ประเทศนี้ โดยในภาษาญี่ปุ่นคำว่า “กบ” พ้องเสียงกับคำว่า “กลับ” จึงมีศาลเจ้าพร้อมรูปปั้นกบคอยปกปักษ์ให้ผู้คนกลับบ้านกันโดยสวัสดิภาพ

มีศาลเจ้า Yohashira ให้มาไหว้ขอพรกันด้วย

Nawate Doori

ที่อยู่	3-3-1, Ote, Matsumoto, Nagano 390-0874
วิธีเดินทาง	เดิน 13 นาทีจาก Matsumoto station

Matsumoto Hotel Kagetsu โรงแรมดีในตัวเมืองมัตสึโมโตะ

สำหรับใครที่จะพักบริเวณตัวเมืองมัตสึโมโตะ ขอแนะนำโรงแรมนี้เลย ส่วนตัวคือชอบเตียงมาก นุ่มมาก คลายความเมื่อยล้าจากการเดินทางได้ดีสุดๆ แถมชุดนอนก็น่ารักด้วยล่ะ (´∇｀)

ที่สำคัญคืออยู่ห่างจากปราสาทมัตสึโมโตะและถนนทั้งสองนี้ไปไม่ไกลชนิดเดินได้สบาย หลังเช็คอินแล้วเดินไปชมปราสาทมัตสึโมโตะยามค่ำคืนได้ สวยจับใจ

Matsumoto Hotel Kagetsu

ที่อยู่	4-8-9 Ote, Matsumoto, Nagano 390-0874
วิธีเดินทาง	เดิน 9 นาทีจาก Matsumoto Station
เวลาทำการ	เช็คอิน 15:00 น. / เช็คเอาท์ 11:00 น.
Website	matsumotohotel-kagetsu

มื้อเย็นสไตล์อิซากายะ Ippo

เดินจากโรงแรม Kagetsu ไปเพียงประมาณ 5 นาทีก็จะเจอร้าน Ippo ร้านนี้คืออิซากายะยอดนิยมประจำท้องถิ่น เคยออกทีวีมาแล้ว ป๊อปมากชนิดถ้ามาเสาร์อาทิตย์อาจจะต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีกันเลยทีเดียว

เมนูห้ามพลาดคือไก่คาราอาเกะด้านบน ชื่อ Sanzoku yaki ซึ่งแปลได้ว่าเมนูทอดของโจรป่า คือด้วยปริมาณที่เยอะมากทำให้กินแล้วมีแรงไปปล้นคนอื่นได้ เอ้า เขาอธิบายมาอย่างนี้จริงๆ อีกเมนูแนะนำคือซาชิมิเนื้อม้าเลยจ้ะ ไม่ใช่ทุกร้านจะมีให้กินนา

Ippo

ที่อยู่	4-10-17 Ote, Matsumoto, Nagano 390-0874
วิธีเดินทาง	เดิน 17 นาทีจาก Matsumoto Station
เวลาทำการ	11.30 น. – 13.30 น./ 17.30 น. – 22.00 น. (หยุดวันอาทิตย์)
Website	matsumoto-ippo

ตะลุยป่าฤดูหนาวแห่งโนริคุระด้วย Snow shoe

เมืองนี้ไม่ได้มีดีแค่ย่านเมืองเก่าและวัฒนธรรมเก่าแก่เท่านั้น รู้หรือไม่ว่านั่งรถจากสถานีมัตสึโมโตะไปประมาณชั่วโมงเดียวก็เล่นหิมะได้! ปีนี้หิมะตกช้าเลยไม่เห็นหิมะในตัวเมือง อย่ากระนั้นเลย ไปสัมผัสหิมะที่โนริคุระกันหน่อยดีกว่า

ไม่ว่าจะเล่นสกี สโนว์บอร์ด สโนว์ชู อะไรก็แล้วแต่ต้องเช่าชุด เรามาที่ Kaneyoshi ก่อน เป็นร้านเล็กๆ ต้องลงบันไดแคบๆ ไปห้องด้านล่างเพื่อเปลี่ยนชุด มาถึงก็กรอกใบว่ามาวันที่เท่าไหร่ ใส่ชื่อ แล้วก็ติ๊กว่าจะเช่าอะไรบ้าง พร้อมเขียนไซส์รองเท้าและความสูง

คราวนี้เราเล่นแค่สโนว์ชูเลยเช่าแค่ชุดกับถุงมือ กรอกใบเรียบร้อยแล้วก็ไปเลือกไซส์ที่พอดีกับตัว เลือกได้แล้วก็เปลี่ยนชุดโลด

Kaneyoshi

ที่อยู่	Suzuran, Azumi, Matsumoto, Nagano 390-1520
เวลาทำการ	8.00 น. – 17.00 น.
ราคา	ชุดอย่างเดียว 2700 เยน

ได้ชุดแล้วก็ย้ายไปที่ Norikura Tourist Center ต่อเพื่อพบกับไกด์นำทางและเปลี่ยนรองเท้า สัมภาระฝากไว้ที่นี่ได้

แต่นแต๊น สโนว์ชูหน้าตาเป็นแบบนี้จ้า ต้องเปลี่ยนรองเท้าเป็นของเขาโดยเฉพาะ จากนั้นก็ยัดให้ลงล็อกของร่องสโนว์ชู แล้วรัดสายให้แน่นก็เรียบร้อย ฟังดูไม่ยาก แต่เราใส่ไม่ได้ ฮะๆ ต้องให้ไกด์ช่วยถอดช่วยใส่ตลอดเลย

ลงพื้นที่จริงกันเล้ย อินทูดิอันโน้นนนนน พร้อมไม้ค้ำคู่ชีวิต เอาไว้ปักหิมะเพื่อทรงตัวไม่ให้กลิ้งตกข้างทางไป มีสายคล้องไม่ต้องกลัวหลุดมือ เดินปกติได้เลย เพียงแต่สโนว์ชูมันจะห้อยๆ จากเท้า ขอแค่ไม่เดินลงส้นหรือเดินถอยหลังก็เดินได้ปกติ

มีคอร์สเดินให้เลือกหลายรูท ใครมีแรงแค่ไหนก็เดินกันไป ปีนี้หิมะถือว่าน้อยเลยเดินไม่ยากเท่าไหร่ เดินๆ ไปละอองหิมะก็ตกโปรยปราย ไม่หนักจนหน้าชา แต่ก็สร้างโศกนาฏกรรมให้กับคนใส่แว่นได้เช่นกัน หิมะไม่หนักแต่หนาวมาก ถ่ายรูปออกมาแก้มแดงปลั่งปลั่งเลยทีเดียว

ระหว่างทางก็ชื่นชมธรรมชาติกันไป มีต้น Shirakaba สีขาวขึ้นตามข้างทาง หากสังเกตหิมะจะเห็นรอยเท้าสัตว์ประปราย ทั้งกระต่าย กระรอก จิ้งจอก สารพัด ที่พีคสุดคือมีระฆังไว้เคาะไล่หมีด้วย บอกน้องว่าขอผ่านทาง อย่าออกมาง่ำกันนะ

ยิ่งเดินเส้นทางก็ยิ่งหวาดเสียวเสี่ยงตายขึ้นเรื่อยๆ ต้องปีนขึ้นลงทางชันและบันได บอกเลยว่าเหงื่อออกจ้า เหงื่อออกกลางหิมะแบบนี้แหละ

ถึงแล้วจุดหมายของเรา น้ำตกที่กลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว สายน้ำที่ไหลโถมลงสู่พื้นกลายเป็นน้ำแข็งแบบนี้เลย ดูทรงพลังมากๆ มีคนปีนผาอยู่ข้างน้ำตกด้วย ใครอยากลองก็หาข้อมูลกันได้ แต่เราขอยืนดูความอลังการอยู่ไกลๆ ก็พอแล้ว

ชื่นชมความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติชุ่มปอดแล้วก็ลงเขากันแบบอิ่มใจ กระซิบว่าให้เตรียมขนมหรือน้ำอุ่นๆ มาด้วย ขากลับจะมีที่นั่งพัก จัดปาร์ตี้เล็กๆ กลางหิมะได้เลย ชานมหรือกาแฟร้อนๆ หลังเดินฝ่าหิมะคือที่สุด

Little peaks

ที่อยู่	4306-7 Azumi, Matsumoto, Nagano 390-1513
วิธีเดินทาง	นั่ง Alpico bus จาก Shinshimashima Station ประมาณ 1 ชั่วโมงไปลง Norikura Kougen
เวลาทำการ	8.00 น. – 17.00 น.
ราคา	ค่าเช่าสโนว์ชูพร้อมรองเท้า ครึ่งวัน 1000 เยน
Website	littlepeaks

เติมพลังมื้อใหญ่ที่ Abbey road

เดินสโนว์ชูมาครึ่งวัน เหนื่อยจนจะงาบหัวคนได้แล้ว ไม่ใกล้ไม่ไกลจากลานสกีโนริคุระมีร้านอาหาร Abbey road อยู่ ร้านนี้ดังมากเลยนะ เคยออกทีวีมาแล้วด้วย เพราะปริมาณอาหารที่ให้มาคือเยอะมาก เยอะแบบแบ่งกันสองคนยังจุก ปกติข้าวแกงกะหรี่จะเป็นข้าวสวยธรรมดา แต่ร้านนี้มีข้าวผัดแกงกะหรี่ด้วย อร่อยเข้มข้นมาก ต้องมาลอง

เห็นชะตาเพื่อนเลยสั่งแบบประมาณกระเพาะตัวเอง โอยาโกะด้งชามนี้ ขนาดไซส์เล็กยังแทบไม่หมด ลืมไปเลยว่าเคยหิว

Abbey road

ที่อยู่	4029-9 Azumi, Matsumoto, Nagano
วิธีเดินทาง	นั่ง Alpico bus ไปลงป้าย Sengokudaira
เวลาทำการ	พฤ-อ 9:00 น. – 8:30 น.

มีเวลาเท่าไหร่ก็เที่ยวไม่หมด นอกจากที่แนะนำมานี้ มัตสึโมโตะยังมีอย่างอื่นให้เที่ยวชมอีกมากจริงๆ ใครต้องการข้อมูลสำหรับวางแผนทริปดูเพิ่มเติมได้ >>ที่นี่

ข้อสรุป

เที่ยว มัตสึโมโตะ เมืองน่ารักที่มีอะไรมากกว่าที่คิด ชมความงามของสมบัติแห่งชาติอย่างปราสาทมัตสึโมโตะ ย้อนดูโรงเรียนสมัยเมจิที่โรงเรียนไคจิเก่า เดินเล่นย่านเมืองเก่ากับถนนสายคลาสสิค และสัมผัสประสบการณ์ใหม่อย่างการเดินบนหิมะที่ภูเขาโนริคุระ ครบทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และอาหารอร่อย…แล้วคุณจะหลงรักเมืองนี้