เมืองโยโกสุกะ
การมาเที่ยวเมืองโยโกสุกะ สามารถมาได้ด้วย รถไฟสาย Enoden อันโรแมนติก ลงที่คามาคุระ จากนั้นนั่งรถไฟสายโยโกสุกะ ก็มาถึงแล้ว
Verny Park
เวอร์นี่ พาร์ค (Verny Park) เป็นสวนสาธารณะที่ผสมผสานสวนสไตล์ฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังมีแปลงดอกไม้สไตล์ฝรั่งเศส น้ำพุ และศาลาแบบตะวันตก และดอกกุหลาบประมาณ 1,300 ต้นช่วยเพิ่มสีสันในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง สร้างเสร็จในปลายปี พ.ศ. 2
เราสามารถเห็นท่าเรือ และดูเรือใหญ่ที่จอดอยู่ จากสวนสาธารณะ เราจะเห็นฐานทัพเรือสหรัฐฯทางด้านขวาและกองบัญชาการกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลแห่งประเทศญี่ปุ่นทาง
มีทางเดินเลียบชายฝั่งที่เราสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นรับลมทะเล นั่งพักผ่อนและมาสนุกกับกิจกรรมที่เมืองจัดตลอดทั้งปี
Verny Park
ที่อยู่ | 1-1 Shioiricho, Yokosuka City, Kanagawa Prefecture 238-0042 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Yokosuka รถไฟสาย JR Yokosuka เดินต่อราว 3 นาที |
Website | Verny Park |
Yokosuka Museum of Art
ที่เมืองโยโกสุกะ ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงอีกแห่ง ชื่อ Yokosuka Museum of Art ที่เปิดตัวในปี ค.ศ. 2007 นี้เอง
ที่นี่ล้อมรอบสามด้านด้วยต้นไม้เขียวขจีของสวนสาธารณะ Kannonzaki ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมเห็นอ่าวโตเกียว
ภายในอาคารสร้างพื้นที่เปิดโล่งเพื่อให้เราสัมผัสถึงธรรมชาติรอบข้างได้เสมอแม้จะอยู่ภายในอาคารก็ตาม
ในห้องนิทรรศการพิเศษที่ชั้น 1 มีการจัดนิทรรศการพิเศษมากมายในธีมต่างๆ เช่น ศิลปะในต่างประเทศ และศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัยของญี่ปุ่น ครั้งนี้เราร่วมชม”นิทรรศการ Sukajan” ที่มีเสื้อเท่ๆ ประมาณ 140 ตัว อันมีค่าตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 1940 ถึง 1960 รวมอยู่ในที่เดียว
Sukajan เป็นสไตล์เสื้อแจ็คเกจที่มีเอกลักษณ์คือการปักแบบสองด้าน สวมใส่ได้สองสี ผสมวัฒนธรรมตะวันตก และที่สำคัญมีต้นกำเนิดมาจากเมืองโยโกสุกะนี่เอง โดยมีโซนที่มีร้านค้าขายเสื้อนี้ด้วยนะ
Sukajan เดิมเรียกว่า “แจ็คเก็ตที่ระลึก” ถือกำเนิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เสื้อแจ็คเก็ตที่ระลึกที่มีการปักรูปนกอินทรี เสือ มังกร ฯลฯ ที่มีไอเดียมาจากเครื่องแต่งกายของญี่ปุ่นอันสวยงาม ถูกนำไปขายเป็นของที่ระลึกของการเข้าพักของกองทัพสหรัฐฯ และวางขายรอบๆ ฐานทัพสหรัฐฯ ในญี่ปุ่นในอดีต
ซึ่งปัจจุบัน Sukajan ได้กลายเป็นสินค้าแฟชั่นไม่เพียงแต่ในญี่ปุ่นเท่านั้นแต่ยังแพร่หลายไปทั่วโลกอีกด้วย
Yokosuka Museum of Art
ที่อยู่ | 4-1 Kamoi, Yokosuka City, Kanagawa Prefecture |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Maborikaigan บนสาย Keikyu ขึ้นรถบัส Keikyu และลงที่ป้าย Kannonzaki Keikyu Hotel / Yokosuka Bijutsukanmae เดิน 2 นาที |
เวลาทำการ | จันทร์-อาทิตย์: 10:00-18:00 น. ปิด: วันจันทร์ที่ 1 ของทุกเดือน (เปิดหากวันจันทร์เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์) วันที่ 29 ธันวาคม ถึง 3 มกราคม *สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการปิดชั่วคราว โปรดดูที่เว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ |
ราคา | ค่าเข้า ・นิทรรศการถาวร ผู้ใหญ่ 380 เยน, นักเรียนมัธยมปลายและมหาวิทยาลัย, ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 280 เยน, นักเรียนมัธยมต้นลงไปฟรี ・นิทรรศการพิเศษ ขึ้นอยู่กับนิทรรศการ (นักเรียนมัธยมต้นลงไปฟรี) |
Website | Yokosuka Museum of Art |
Mikasa park
สวนมิคาสะได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะในเมือง 100 อันดับแรกของญี่ปุ่นและสวนสาธารณะประวัติศาสตร์ 100 อันดับแรกของญี่ปุ่น โดยมีธีมคือ “น้ำ แสง และเสียง” ตั้งอยู่ในเมืองโยโกสุกะ มีรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของเฮอิฮาชิโระ โตโก ผู้บัญชาการกองเรือผสม
ลูกกระสุนปืนใหญ่ของเรือประจัญบานยังจัดแสดงอยู่ใกล้ๆ และมีการสร้างอนุสาวรีย์หินเพื่อระลึกถึงกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในหลักสูตรการท่องเที่ยว สามารถซื้อตั๋วขึ้นไปชมเรือได้
เรือประจัญบาน “มิคาสะ” ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอนุสรณ์ที่ท่าเรือ เป็นสัญลักษณ์ของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่นในตอนที่มันถูกเก็บรักษาไว้ ตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น
ใกล้กันจะมีจุดขึ้นเรือนำเที่ยวไปยังเกาะซารุ (Saru shima) ซารุชิมะเป็นเกาะธรรมชาติที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ ที่นี่เราสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ เช่น บาร์บีคิว ตกปลา และสำรวจแหล่งโบราณคดีหลัก นั่งเรือประมาณ 10 นาที
Mikasa Park
ที่อยู่ | 82 Inaokamachi, Yokosuka City, Kanagawa Prefecture 238-0003 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Yokosuka Chuo สาย Keikyu เดิน 15 นาที 三笠公園 |
เวลาทำการ | เปิด 8:00–21:00 น. (เม.ย.-ต.ค.), 9:00–20:00 น. (พ.ย.-มี.ค.) |
Website | Mikasa Park |
เมืองมิอูระ
Urari Marche Fish Market
เมืองมิอูระ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากๆ นั่นคือ ตลาดปลา โดยเดินทางได้จากสถานีรถไฟท้องถิ่น
ลงที่สถานี เดินไปขึ้นรถบัสหมายเลข 2 เพื่อไปลงที่ตลาดเลย (ลงที่ Misakiko) * รถบัสใช้บัตร IC Card ได้
รถบัสใช้เวลาไม่นานก็มาจอดที่ป้าย Miura Port (นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะลงตรงนี้ แต่ก็อย่าลืมกดปุ่มก่อนลงด้วยนะ) จากนั้นเดินไปตรงด้านหน้านี้เลย
เราจะมากันตรงที่เรียกว่า Urari Marche Fish Market ซึ่งเป็นตลาดอาหารทะเลที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง และมีเรือนำเที่ยวน่ารักๆ
Urari Marche เป็นสถานที่ที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์ขายตรงอาหารทะเลที่เน้นขายปลาทูน่าเป็นหลัก มีร้านค้าที่ขายปลาทูน่าหลายร้าน ปลาท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทะเล เครื่องเคียง ผัก ฯลฯ และมุม Miura Brand Hall ดำเนินการโดยหอการค้าและอุตสาหกรรม
ภายในนี้จำหน่ายอาหารทะเลสดๆ ที่สามารถซื้อแล้วทานเลยก็ได้ หรือจะเอากลับบ้านก็มีบริการแพ็คใส่น้ำแข็ง
หรือแบบอาหารเที่ยงพร้อมทานก็มี ที่นี่ยังมีร้านที่ปิ้งย่างหอยต่างๆ รวมถึงโซนบาร์บีคิวที่ให้เช่าพื้นที่โต๊ะและอุปกรณ์ย่าง โดยซื้ออาหารทะเลสดจากที่นี่ไปนั่งทำเป็นอาหารได้เลย
สำหรับคนที่ชอบทำกิจกรรม เราขอแนะนำการเช่าจักรยานปั่นบนเกาะ Jogashima ดูสักครั้ง โดยเข้าไปติดต่อที่ด้านในได้เลย
สำหรับค่าบริการ รถจักรยานไฟฟ้า 3 ชั่วโมง/900 เยน หรือ 1 วัน/1,600 เยน กรณีต่อเวลา ทุกๆ 1 ชั่วโมง/300 เยน บริการหมวกกันน็อคฟรี แล้วรับแผนที่เส้นทางได้เลย
Jogashima
การนำจักรยานข้ามฟากด้วยเรือข้ามฟากก็เป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมเช่นกัน โดยไปพร้อมกับเราเลย เสียค่าข้ามฟากเพิ่มคนละ 500 เยน โดยเราข้ามจากตลาดปลาไปยังเกาะโจกะชิมะ(Jogashima)
ระหว่างการนั่งเรือข้ามฟากที่ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีนี้ แต่วิวระหว่างทางน่าประทับใจมากๆ เพราะเราเห็นภูเขาไฟฟูจิด้วย !
เมื่อมาถึงอีกฝั่งก็เริ่มต้นการปั่นจักรยานไฟฟ้า ขอบอกว่าการใช้จักรยานไฟฟ้ารุ่นนี้ช่วยผ่อนแรงได้มากจริงๆ ปั่นขึ้นเนินเขาได้สบายสุดๆ โดยปรับที่เกียร์ของจักรยาน
จุดแรกที่แนะนำในแผนที่คือ โซนริมทะเลนี่แหล่ะ จอดจักรยาน แล้วเดินเข้าไปชมวิว สำหรับเราที่นี่ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง
คาบสมุทรมิอูระ จริงๆเป็นจุดยอดนิยมสำหรับนักตกปลา แต่สำหรับช่างภาพแล้วที่นี่ก็ถือเป็นมุมถ่ายรูปที่สวยมากๆ
เราจะเห็นทัศนียภาพที่แปลกตามากมาย มีทั้งแอ่งน้ำและหินทรงแปลกๆที่แสดงถึงกาลเวลาที่ผ่านมาอย่างยาวนานมาก
จากนั้นเราก็ปั่นไปตามเส้นทางกันต่อ ซึ่งทุกคนสามารถไปในหลายเส้นทางได้ตามใจชอบ กฏการปั่นคือสวมหมวกกันน็อคและขี่เลนซ้าย
ตอนนี้เราแวะมาที่สวนสาธารณะโจกะชิมะ (Jogashima Park) อยู่ฝั่งตรงข้ามสะพาน Jogashima Ohashi
มีทัศนียภาพอันงดงามที่มองเห็นทะเลและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่รวมถึงชายฝั่งทางธรรมชาติอันมีค่าซึ่งมีพืชชายฝั่งและนกป่าอาศัยอยู่
ในพื้นที่ปิกนิกในสวนสาธารณะมีประภาคาร Awasaki ซึ่งสร้างขึ้นใหม่ในเดือนมีนาคม 2020 นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาทุกปีเพื่อชื่นชมดอกแดฟโฟดิลที่บานสะพรั่งตั้งแต่กลางเดือนมกราคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์
ที่นี่มีเส้นทางเดินเขายาวประมาณ 1.2 กิโลเมตร เดินง่าย เส้นทางเดินเขาแบ่งออกเป็นเส้นทางหาดหิน/หาดทรายเลียบชายฝั่ง และบนเนินเขา จากมุมนี้มองเห็นพระอาทิตย์ตกดินสวยงามมาก
ขากลับเราเลือกปั่นข้ามมาทางสะพานโจกะชิมะ(Jogashima Ohashi) เป็นสะพานข้ามทะเล ที่เชื่อม Jogashima และคาบสมุทร Miura สร้างเสร็จในปี 1960 เป็นสะพานที่สง่างามซึ่งมีรูปแบบคานเหล็ก ความยาว: 575 ม. ความกว้าง: 11.4 ม. ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล: 21 ม. (ช่วงน้ำขึ้น)
Kuroba tei
หลังจากที่คืนจักรยานเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาอาหารค่ำกัน เราเลือกมาทานที่ร้าน คุโรบาเทย์ สาขาหลัก( Kurobatei) Kurobatei ก่อตั้งขึ้นในปี 1971 โดยคุณ Yoshio Yamada และเจ้าของคนปัจจุบัน หรือที่รู้จักในชื่อ “Oyaji” ที่ตัดสินใจเป็นเชฟในขณะที่ยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย ฝึกฝนทักษะการเป็นเชฟในหลากหลายประเภท ตั้งแต่อาหารจีนไปจนถึงอาหารฝรั่งเศส
ตามธีมของร้านคือ “การแสวงหาความเป็นไปได้ของปลาทูน่า” มีเมนูอาหารที่ทำจากปลาทูน่ามากกว่า 200 ชนิดที่ใช้ทุกส่วนของปลาทูน่า เรื่องราวของเขาแพร่กระจายไปทั่วโลก และเขาได้รับการยกย่องอย่างสูงจากเมนูปลาทูน่าของเขาในออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา จีน และไทย
เมนูของร้านเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่สามารถให้พนักงานช่วยอธิบายได้ ยอมรับจริงๆว่า ที่นี่มีเมนูของปลาทูน่าที่หลากหลายจริงๆ ถือเป็นร้านที่เอาใจคนที่ชอบปลาทูน่าจริงๆ ส่วนคนทานดิบไม่ได้ แนะนำเลือกแบบเทมปุระหรือแบบต้มก็มีให้เลือกทาน
เมนูปลาทูน่าแบบยกถาดใหญ่นี้ ชื่อว่า Misakiko Mori คือเมนูที่สุดของร้านเลยก็ว่าได้ เหมาะสำหรับทาน 4-5 คน ในราคาประมาณ 16000 เยน ที่ขอบอกว่า ยอมจ่ายไปเถอะเพราะมันดีมาก อร่อยมาก ได้กินทุกส่วนของปลาทูน่าเลย *เมนูนี้ต้องสั่งจองล่วงหน้า
ช่วงเช้ามีกิจกรรมโชว์แล่หัวปลาทูน่าให้ชมที่ด้านหน้าของร้านด้วยนะ ความมุ่งมั่นของ Kurobatei คือการจัดหาความสดและอาหารทะเลตามฤดูกาล ซาชิมิ ย่างเกลือ เทมปุระ และอาหารต้ม ล้วนแล้วแต่นำมาปรุงด้วยรสชาติเอร็ดอร่อย ให้เราได้เพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองท่ามิซากิ
หากจะลองทานเมนูอื่นๆก็มีเช่นกัน โดยเริ่มตั้งแต่ราคาประมาณจานละ 1000 เยนขึ้นไป แนะนำว่า ร้านนี้เหมาะสำหรับใครที่ชอบปลาทูน่า หรือปลามากุโระ จริงๆเท่านั้นน
Kuroba Tei
ที่อยู่ | 1-9-11 Misaki, Miura City, Kanagawa Prefecture |
---|---|
วิธีเดินทาง | ลงที่สถานี Keikyu Misakiguchi แล้วขึ้นรถบัสที่มุ่งหน้าไปยัง Jogashima หรือ Toriya ลงที่ป้ายรถบัส Hinode เดิน 1 นาที ขากลับก็ขึ้นป้ายรถบัส Hinode เพื่อกลับสถานีเดิม |
เวลาทำการ | 11:00~20:00 ( Last order 19.00 น.) |
โทรจอง | 046-882-5637 |
Website | Kuroba Tei |