เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพฤดูทั้ง 4 ในญี่ปุ่น ซากุระ ธรรมชาติ ใบไม้เปลี่ยนและหิมะกับรถไฟสายโรแมนติก Sagano Torokko แห่งเกียวโต

1. รถไฟสายโรแมนติก Sagano Torokko คืออะไร?

รถไฟสายโรแมนติก Sagano Torokko เป็นสถานที่ท่องเที่ยวลับที่ได้รับความนิยม ซึ่งจะได้ดื่มด่ำไปกับวิวทิวทัศน์ทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่สวยงามผ่านรถไฟสายตะวันตกเฉียงเหนือเมืองเกียวโต

รถไฟจะวิ่งผ่านหุบเขาของซากาโนะ จะได้รับชมทิวทัศน์สวยทั้ง 4 ฤดูและได้ใช้เวลาผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ปลดปล่อยจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน

ตู้ที่ 5 ของรถไฟสายนี้เรียกว่า “The rich” เป็นตู้รถไฟที่จะได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพดานของตู้รถไฟปกคลุมด้วยกระจกใสและไม่มีหน้าต่างกั้น จึงจะได้สัมผัสธรรมชาติแท้ๆ แต่ในวันฝนตกอาจเปียกฝนได้ แนะนำให้เตรียมเสื้อกันฝนไว้ด้วยนะคะ (ใช้ร่มไม่ได้)

2. ฤดูใบไม้ผลิ รถไฟสายโรแมนติก Sagano Torokko กับซากุระ

เมื่อพูดถึงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น ทุกคนคงจะนึกถึงซากุระเป็นอย่างแรกใช่ไหมคะ ต้นซากุระสีชมพูอ่อนเริ่มร่วงโรย ทางเดินปกคลุมด้วยกลีบซากุระและภูเขาถูกแต่งแต้มสวยงามถือเป็นทัศนียภาพสัญลักษณ์ประจำฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นเลยทีเดียว และรถไฟสายโรแมนติกนี้วิ่งลอดผ่านอุโมงค์ซากุระนั้น เป็นภาพที่จะทำให้ทุกคนที่เห็นตราตรึงหัวใจอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนที่เป็นฤดูซากุระบานยังเป็นฤดูกาลพิเศษของญี่ปุ่นอีกด้วย เป็นช่วงที่เปลี่ยนปีการศึกษาใหม่และเป็นฤดูเริ่มเป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน ต้นซากุระจึงให้ความรู้สึกเหมือนเป็น “จุดเริ่มต้น” และ “จุดจบ” ของคนญี่ปุ่น เมื่อได้นั่งรถไฟสายนี้พลางนึกถึงมุมมองคนญี่ปุ่นที่มีต่อซากุระก็อาจได้สัมผัสความรู้สึกที่แปลกใหม่ที่ต่างไปจากเดิม

3. ฤดูร้อน รถไฟสายโรแมนติก Sagano Torokko กับธรรมชาติ

หน้าร้อนของญี่ปุ่นเรียกว่าเป็นฤดูกาลแห่งชีวิตและวิญญาณ ต้นไม้ป่าไม้เขียวขจี ข้าวปกคลุมนาข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักของคนญี่ปุ่น ในฤดูร้อนเราจะได้เพลิดเพลินกับความอุดมสมบูรณ์ธรรมชาติหลากหลายแห่งในญี่ปุ่น

รถไฟสายนี้ก็เช่นกัน เราจะได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษวิ่งผ่านความสวยงามของต้นไม้ป่าไม้ส่องประกายด้วยแสงอาทิตย์ที่จะตราตรึงไปตลอดชีวิต

หน้าร้อนที่ญี่ปุ่นจะร้อนมาก แต่ถ้าได้สัมผัสประสบการณ์นั่งตากลมสบายๆบนรถไฟก็พิเศษสุดๆไปเลย และในหน้าร้อนของเกียวโตยังมีเทศกาลที่ผู้คนจากทั่วญี่ปุ่นจะมารวมตัวกันที่ “เทศกาลกิอง (Gion Matsuri)” และ “เทศกาลไดมอนจิ (Gozan no okuribi)” มาลองเที่ยวเทศกาลสัมผัสวัฒนธรรมประเพณีญี่ปุ่นไปพร้อมกับเที่ยวรถไฟดื่มด่ำธรรมชาติดูไหมคะ

4. ฤดูใบไม้ร่วง รถไฟสายโรแมนติก Sagano Torokko กับใบไม้เปลี่ยนสี

Cr: https://www.sagano-kanko.co.jp/gallery.php

Cr: https://www.sagano-kanko.co.jp/gallery.php

ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นอีกฤดูทางธรรมชาติที่สวยงามของญี่ปุ่นที่คนญี่ปุ่นคุ้นเคยพอๆกับซากุระ หน้าหนาวญี่ปุ่นจะหนาวเหน็บ ต้นไม้ตามภูเขาและต้นไม้ใบหญ้าเหี่ยวเฉาและพากันจำศีล ก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึง “ใบไม้เปลี่ยนสี” เป็นช่วงที่ใบไม้จะถูกย้อมเป็นสีแดงสดราวกับว่าชีวิตพวกมันถูกแผดเผา

ภูเขาป่าไม้แต่งแต้งด้วยสีแดงและสีเหลืองงดงามจนเหลือเชื่อว่าจะเป็นทัศนียภาพที่ได้เห็นในชีวิตทั่วไป ได้ถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสีจากในรถไฟสายโรแมนติกนี้ก็ดีไม่ใช่น้อย แต่สิ่งที่อยากให้ทุกคนได้ลองทำคือการถ่ายรูป “รถไฟ Sagano Torokko ขณะวิ่งท่ามกลางหมู่ใบไม้เปลี่ยนสี” รถไฟสายนี้ตกแต่งด้วยสีแดง เหลืองและดำวิ่งผ่านหุบเขาใบไม้เปลี่ยนสีเป็นภาพสุดพิเศษราวกับฉากหนึ่งในหนังเลย ใครที่ถ่ายภาพนี้ได้ต้องภูมิใจแน่นอน

5. ฤดูหนาว รถไฟสายโรแมนติก Sagano Torokko กับหิมะ

Cr: https://www.sagano-kanko.co.jp/gallery.php

Cr: https://www.sagano-kanko.co.jp/gallery.php

ฤดูหนาว หิมะตกปกคลุมไปด้วยสีขาวโพลนทั่วพื้นที่ รถไฟวิ่งเข้าสู่โลกหิมะขาว แค่ได้จินตนาการก็คงทำให้ภาพสุดวิเศษนั้นได้ปรากฎแก่สายตาแล้ว

หิมะยังดูดกลืนเสียงต่างๆ ทำให้รู้สึกถึงความเงียบงันเป็นพิเศษในวันหิมะตก หากได้สัมผัสประสบการณ์นั่งรถไฟสายโรแมนติกนี้วิ่งฉึกฉักผ่านหุบเขาเงียบแห่งโลกหิมะตกสีขาวโพลนก็คงเป็นสิ่งล้ำค่าในชีวิตของคุณแน่นอน

6. ตั๋วรถไฟ

ค่าตั๋วผู้ใหญ่ราคา 880 เยน ตั๋วเด็กราคา 440 เยน ราคาเดียวทุกสาย
กรณีจองตั๋วเป็นกลุ่มมากกว่า 15 คนขึ้นไปให้จองผ่านบริษัทท่องเที่ยว
ค่าตั๋วกรณีจองเป็นกลุ่มจะคุ้มกว่าในราคาผู้ใหญ่ 800 เยนและราคาเด็ก 400 เยน

วิธีจองตั๋ว

สามารถจองตั๋วล่วงหน้า
ได้ที่เว็บไซต์ JR West（https://www.westjr.co.jp/global/th/）
หรือ Klook (https://www.klook.com/en-US/activity/17066-sagano-romantic-train-ticket-kyoto/)
กรณีจองตั๋วจากเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว สามารถไปรับตั๋วได้ที่ “JR Ticket Counter” (Midori no Madoguchi) ที่สถานีของ JR West
การจองทำได้ง่ายๆ เพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ JR West กรอกข้อมูลวันเดินทางและจำนวนที่นั่งและค่าตั๋วก็เรียบร้อย หรือจะซื้อตั๋วที่หน้าสถานีก็ได้เช่นกัน แต่คนอาจจะเยอะ แนะนำให้จองล่วงหน้าจะดีกว่า

กรณีซื้อตั๋วหน้าสถานีสามารถซื้อได้ที่สถานีดังนี้
สถานีเกียวโต(Kyoto)
สถานีคาเมโอกะ(Kameoka)
สถานีนิโจ(Nijo)
สถานีซากะอาราชิยามะ(Saga arashiyama)
สถานีอินาริ(Inari)
สถานีชินโอซาก้า(Shin osaka)
สถานีโอซาก้า(Osaka)
สถานีสึรุฮาชิ (Tsuruhashi)
สถานีเคียวบาชิ(Kyobashi)
สถานีชินอิมามิยะ(Shin imamiya)
สถานี JR นัมบะ(Namba)
สถานีเทนโนจิ(Tennoji)
สถานีนาระ(Nara)
สถานี Kansai airport
และสถานีซันโนมิยะ(Sannomiya)

แต่กรณีที่จะซื้อตั๋วในวันเดินทางเลยจำเป็นต้องซื้อที่สถานีของรถไฟ Sagano Torokko ซึ่งตั๋วเดินทางสำหรับ 1 วันนี้จะจำหน่ายตามคิว มาก่อนได้ก่อน เพราะฉะนั้นคนที่วางแผนว่าอยากนั่งรถไฟแนะนำให้จองตั๋วผ่านเว็บ J-WEST

8. ที่นั่งว่าง

สำหรับที่นั่งว่างสามารถเช็คได้จากเว็บไซต์ https://www.sagano-kanko.co.jp/en/kuseki.php

9. การเดินทาง

รถไฟ Sagano Torokko เดินทางได้สะดวกมาก
เดินจากสถานี JR Sagano Arashiyama เพียง 5 นาที จะถึง “สถานี Torokko Sagano” ที่เป็นสถานีต้นสาย วิ่งตรงจากสถานีเกียวโตที่เป็นสถานี Main station ของเกียวโต ประมาณ 17 นาทีไปที่ สถานี JR Sagano Arashiyama หรือเดินจากสถานี JR Umahori ประมาณ 10 นาทีไปที่ “สถานี Torokko Kameoka” ซึ่งเป็นสถานีสุดสาย

ใกล้ๆสถานี Torokko Sagano กับสถานี Torokko Kameoka จะมีที่จอดรถแบบเสียค่าจอดอยู่ จะเดินทางโดยรถยนต์ก็สะดวกดีค่ะ

10. สรุป

รถไฟ Sagano Torokko เป็นรถไฟสายโรแมนติกที่จะทำให้เราได้ดื่มด่ำกับฤดูกาลทั้ง 4 ในเกียวโต ไม่ว่าจะมาเที่ยวช่วงไหนก็สามารถเพลิดเพลินได้ตลอดแน่นอนในรูปแบบที่หลากหลายตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว

นอกจากนี้ Sagano ยังอยู่ใกล้ “Arashiyama” สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในเกียวโตอีกด้วย และที่ Arashiyama ก็มี ป่าไผ่ และ สะพาน Togetsu สถานที่ท่องเที่ยวที่จะได้สัมผัส “Wabisabi” แนวคิดญี่ปุ่นเรื่องความไม่จีรังยั่งยืนและความเรียบง่ายแบบตามธรรมชาติ จึงจะได้ประสบการณ์นี้ร่วมไปกับรถไฟ Sagano ด้วย

ใครที่ต้องการค่อยๆใช้เวลาสัมผัสความเคลื่อนไหวของธรมชาติจนหลงลืมความวุ่นวายในชีวิตประจำวันช่วงระยะเวลาสั้นๆ แนะนำให้มานั่งรถไฟสายโรแมนติก Sagano torokko ที่เกียวโตนี้กันเถอะค่ะ!

บทความที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเกียวโต

เที่ยวเกียวโต ย้อนเวลาสู่สมัยเอโดะ สัมผัสวิถีชีวิตเมืองหลวงเก่า

อ่านบทความทั้งหมดได้ที่นี่