America Mura ศูนย์กลางวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นในโอซาก้า
อเมริกามูระ หรือเรียกย่อๆ กันว่า “อาเมมูระ” เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นในโอซาก้า และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อก้าวนำหน้ากระแสนิยม เช่นเดียวกับย่านฮาราจูกุในโตเกียว ทำให้บางคนถึงกับเรียกที่นี่ว่า “ฮาราจุกุแห่งทิศตะวันตก”
โดยย่านอาเมมูระนี้ตั้งอยู่ทางเหนือของโดทงโบริ ไม่ไกลจากสถานีชินไซบาชิโดยครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ถนนนากาโฮริยาวไปจนถึงบริเวณย่านโดทงโบริ ด้วยความมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและแตกต่างจากในย่านอื่น ทำให้มีสื่อมวลชนต่างๆ รวมทั้งเหล่านักท่องเที่ยวผู้หลงใหลแฟชั่นต่างพากันแนะนำอาเมมูระออกไปสู่ชาวโลก ทำให้ที่นี่เป็นที่รู้จักในวงกว้างโดยเฉพาะในด้านเทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ และแหล่งท่องเที่ยวสไตล์อเมริกันของวัยรุ่นในโอซาก้าตามไปด้วย
และที่ถนนแห่งนี้ยังเป็นถนนที่มีความสนุกสนานและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะนอกจากจะได้เห็นสินค้าที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันในแต่ละร้านแล้วเท่านั้น แต่ยังมีอาคารรูปทรงแปลกตาและงานศิลปะให้ชมอย่างเพลิดเพลินตลอดย่านนี้เห็นอย่างนี้มาที่นี่ในเวลากลางวันก็ว่าสนุกแล้ว เวลากลางคืนก็เต็มไปด้วยสถานบันเทิงที่มีชีวิตชีวา และคึกคัก ทั้งวัยรุ่น คนทำงาน นักท่องเที่ยวต่างมารวมตัวกันในย่านนี้ เพื่อใช้เวลาผ่อนคลายอันน่าจดจำร่วมกัน
ทำไมต้องชื่อ “อเมริกามูระ” ?
ก่อนที่บริเวณนี้จะถูกเรียกว่า “อเมริกามูระ” อย่างในทุกวันนี้ ในอดีตพื้นที่นิชิ-ชินไซบาชิเดิมชื่อว่า “สุมิยะมาจิ” มาก่อนซึ่งแปลว่า “เมืองร้านขายถ่าน” เพราะมีการค้าขายส่งถ่านและร้านค้าแปรรูปไม้อยู่มากมาย จวบจนปีค.ศ. 1960 ไม่ไกลจากบริเวณนี้ก็มีถนนช้อปปิ้งชินไซบาชิตั้งอยู่ทางตะวันออกของถนนสายหลักของโอซาก้า เป็นย่านที่ค่อนข้างมีความพลุกพล่านเพราะมีห้างสรรพสินค้าชื่อดังมากมาย เช่น โซโก และไดมารุตั้งอยู่
ส่วนย่านนิชิ-ชินไซบาชิเป็นย่านที่ห่างไกลจากความพลุกพล่านทางการค้า โดยมีเพียงโกดังร้านค้า ลานจอดรถ สำนักงาน และที่อยู่อาศัย ต่อมาในปีค.ศ. 1969 นักออกแบบตกแต่งภายในชื่อ Mariko Higiri ได้เปิดร้านกาแฟซึ่งได้รับความนิยเป็นอย่างมาก และกลายเป็นศูนย์กลางของเหล่าครีเอทีฟ ที่มาแลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์กันในช่วงเวลานั้น ส่งผลให้บรรยากาศของเมืองเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ขณะนั้นก็มีนักออกแบบกราฟิก และดีไซเนอร์เสื้อผ้าได้ร่วมมือกันพัฒนาให้ที่นี่กลายเป็นย่านที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมใหม่ๆ
โดยมีการจำหน่ายแผ่นเสียงมือสอง กางเกงยีนส์ เสื้อยืด เสื้อผ้ามือสอง กระดานโต้คลื่น รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ที่ยังหายากและมีราคาแพงในช่วงเวลานั้น โดยใช้โกดังว่าง รวมทั้งที่จอดรถวางจำหน่ายสินค้าในรูปแบบของตลาดนัด ซึ่งได้กลายเป็นต้นกำเนิดของอเมริกามูระในปัจจุบันนั่นเอง
จวบจนเวลาผ่านไปที่นี่จึงเต็มไปด้วยร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่น โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกามีตั้งแต่กางเกงยีนส์ เสื้อผ้า กระเป๋า แผ่นเสียง และพัฒนาการนำเข้าสินค้าอื่นๆ อย่างเช่น เครื่องประดับ เครื่องดนตรี ทำให้ดึงดูดผู้คนให้เดินทางมายังพื้นที่นี้ ซึ่งในเวลาต่อมาก็เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ ร้านแผ่นเสียง พื้นที่แสดงงานศิลปะ สถานที่จัดกิจกรรม และถูกเรียกว่า “ย่านอเมริกามูระ” อย่างเป็นทางการและเป็นครั้งแรกในปีค.ศ. 1980
พิกัดต้องแวะเมื่อมาเยือนย่านอเมริกามูระ
พื้นที่ทางประวัติศาสตร์ จุดถ่ายรูป และร้านที่อยากแนะนำเมื่อมีโอกาสไปเยือนย่านอาเมมูระมีดังต่อไปนี้
สวนสาธารณะซังคาคุโคเอ็น (Sankaku Koen)
สวนทรงสามเหลี่ยม เป็นแหล่งรวมตัวสำหรับทำกิจกรรมของวัยรุ่นทั้งนักสเก็ตบอร์ด เหล่าแฟชั่นนิสต้า การแสดงดนตรี การเต้นโคเวอร์ และนักแสดงตลกหน้าใหม่ รวมทั้งเป็นจุดแลนด์มาร์คในการจัดกิจกรรมงานเทศกาลต่างๆ เกี่ยวกับวัยรุ่นในโอซาก้า
ภาพวาดสันติภาพบนโลก (Peace on Earth)
พื้นที่โดยรอบของย่านอาเมมูระนั้นสามารถพบกับผลงานศิลปะสวยๆ ทั้งภาพวาด และสถาปัตยกรรมมากมาย โดยเฉพาะจิตรกรรมบนฝาผนังขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า “สันติภาพบนโลก” ที่วาดโดยศิลปินชาวโอซาก้าที่ชื่อว่า Seitaro Kuroda ในปีค.ศ.1983 เป็นจุดแลนด์มาร์คที่ใครไปอาเมมูระต้องแวะบันทึกภาพเก็บไว้
ศาลเจ้ามิตซึ ฮาจิมันกุ (Mitsu Hachiman gu Shrine)
เป็นศาลเจ้าชินโตที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านอาเมมูระ โดยชื่อ “มิตสึ” นั้นหมายถึง “ท่าเรือ” ซึ่งบ่งบอกว่าทะเลเข้ามาถึงที่นี่ในอดีตกาล ปัจจุบันกลายเป็นเทพเจ้าผู้พิทักษ์ของพื้นที่มินามิในโอซาก้าแห่งนี้
ร้านโคการิว (Kougaryu Takoyaki)
บริเวณรอบสวนสาธารณะซังคาคุโคเอ็น มีร้านขายทาโกะยากิอยู่ด้วยกันหลายร้าน โดยเฉพาะร้านโคการิวที่ไม่ว่าจะมาเมื่อไหร่ก็มีผู้คนมาต่อแถวยาวอยู่เสมอ นอกจากจะเป็นร้านที่ได้รับรางวัล Michelin Guide 3 ปีติดต่อกันแล้ว ยังขึ้นชื่อว่ามีรูปแบบที่หลากหลาย มีรสสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน ราคาย่อมเยา และมีหลายสาขาในประเทศญี่ปุ่น
ถนนมิโดสุจิ (Midosuji Avenue)
เป็นถนนสายหลักใจกลางเมืองโอซาก้า เปิดใช้ตั้งแต่ค.ศ.1937 ถนนแห่งนี้เป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ใบแปะก๊วยเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสะพรั่ง เป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก ถนนสายนี้เชื่อมระหว่างย่านอุเมดะ กับย่านนัมบะ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมือง ระยะทางของถนนมีระยะทาง 4 กิโลเมตร สองข้างทางเรียงรายไปด้วยต้นแปะก๊วยราว 940 ต้น สายไฟหรือสายโทรศัพท์ถูกเก็บลงใต้ดินทั้งหมด มีการจำกัดความสูงของอาคารตลอดระยะทางของถนนสายนี้ เพื่อการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนและคงความสวยงามของถนนสายนี้เอาไว้ไปแสนนาน
สืบเนื่องจากที่สามารถเดินเท้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญโดยรอบอย่างย่านชินไซบาชิ และย่านอาเมมูระได้จึงส่งผลให้ถนนสายนี้มีความคึกคักตลอดทั้งปี นอกจากนั้นยังมีประติมากรรมของศิลปินตามจุดต่างๆ ให้ชม ซึ่งช่วยดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี สำหรับช่วงเวลาแนะนำคือฤดูใบไม้ร่วงปลายเดือนพฤศจิกายน และช่วงประดับไฟในฤดูหนาวกลางเดือนธันวาคมของทุกปี
พิกัด อเมริกันมูระ (American Mura)
ที่อยู่ | 1 Higashishinsaibashi, Chuo-ku, Osaka |
วิธีเดินทาง | รถไฟ Osaka Metro สาย Midosuji จาก “สถานี Shinsaibashi” เดิน 3 นาที |
เวลาทำการ | ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้า |
ราคา | ฟรี |
Website | American Mura |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
ไปเที่ยวย่านแฟชั่นวัยรุ่นของโอซาก้ากันสาแก่ใจแล้ว หากมีเวลาเหลือไปเที่ยวย่านใกล้เคียงกันต่อเลยค่ะ
Den Den Town
เดนเดน ทาว์น โอซาก้า มีอีกชื่อหนึ่งว่า Nipponbashi Denden Town เป็นอีกย่านท่องเที่ยวยอดนิยมของโอซาก้า มีชื่อเสียงมายาวนานในเรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเกี่ยวกับอนิเมะต่างๆ มีคนถึงกับขนานนามที่นี่ว่า “อากิฮาบาระแห่งโอซาก้า” เลยทีเดียว ปัจจุบันบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของร้านค้าและคาเฟ่มากมาย จำหน่ายสินค้าตั้งแต่โมเดล ฟิกเกอร์ มังงะ กาชาปอง เกม การ์ดสะสม อนิเมะ ฯลฯ เรียกว่าใครเป็นสายอนิเมะและมังงะที่นี่เป็นสถานที่ปักหมุดของคุณแน่ๆ
พิกัด เดนเดน ทาว์น โอซาก้า (Den Den Town)
ที่อยู่ | Nipponbashi, Naniwa Ward, Osaka, 556-0005 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Nipponbashi เดินมาทางทิศใต้ประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงย่านนิปปอนบาชิ |
เวลาทำการ | 11.00 – 19.00 น. |
ราคา | ฟรี |
Website | Den Den Town |
Dotonbori
ย่านโดทงโบริ เป็นพิกัดสำคัญเลยสำหรับคนที่อยากทำความรู้จักกับโอซาก้า เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ทั้ง ป้ายกูลิโกะแมนอันโด่งดัง และป้ายร้านอาหาร รวมทั้งป้ายนีออนขนาดใหญ่ที่โดดเด่นและทำให้ย่านนี้คึกคักและมีชีวิตชีวา นอกจากนั้นบริเวณโดยรอบยังเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ร้านอาหารขึ้นชื่อในท้องถิ่น โรงละครโบราณ พิพิธภัณฑ์ ศาลเจ้า อีกทั้งยังมีกิจกรรมล่องเรือในคลองโดทงโบริด้วย เรียกว่ามาเที่ยวโอซาก้าแล้ว ต้องแวะมาสัมผัสชีวิตยามค่ำคืนที่น่าตื่นตาตื่นใจของย่านนี้ให้ได้นะ
พิกัด ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)
ที่อยู่ | 1 Dotonbori, Chuo Ward, Osaka, 542-0071 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Namba ใช้ทางออก Exit 14 เดินประมาณ 3 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | Dotonbori |
Hozenji Temple
วัดโฮเซนจิเป็นวัดขนาดกะทัดรัดซ่อนตัวอยู่ในตรอกโฮเซ็นจิ โยโคโจ (Hozenji Yokocho) ที่อยู่ใจกลางย่านการค้าแสนคึกคัก แต่บริเวณโดยรอบวัดกลับเงียบสงบและการเป็นเสน่ห์ของย่านนี้ ถึงแม้ในอดีตทั้งวัดและตรอกจะถูกทําลายจากการโจมตีทางอากาศของสงคราม แต่หลังจากสงครามก็ได้รับการฟื้นฟูให้เป็นสถานที่ที่มีชีวิตชีวา เมื่อเดินเข้าไปในพื้นที่ของวัดจะพบพระพุทธรูปที่ถูกปกคลุมไปด้วยตะไคร้น้ำสีเขียว เป็นภาพที่แปลกตาแต่สัมผัสได้ถึงความสงบสุข
พิกัด วัดโฮเซนจิ (Hozenji Temple)
ที่อยู่ | 1-2-16 Namba, Chuo-ku, Osaka-shi, Osaka |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Namba ใช้ทางออก Exit 14 เดินประมาณ 5 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | Hozenji Temple |
สรุป
อาเมมูระตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านท่องเที่ยวสำคัญของโอซาก้า และมักจะคึกคักเป็นอย่างมากในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งผู้คนจะมาที่นี่เพื่อเลือกซื้อสินค้าแฟชั่น และอัพเดทเทรนด์ต่างๆ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของคาเฟ่ที่มีสไตล์โดดเด่น ช่วงเย็นมักมีการแสดงดนตรีสดท่ามกลางบรรยากาศเป็นกันเอง สำหรับคนที่ชื่นชอบเมืองท่องเที่ยวที่มีชีวิตชีวา อาเมมูระอาจจะตอบโจทย์เป้าหมายในการเดินทางท่องเที่ยวของคุณก็เป็นได้