คูปองส่วนลดที่น่าสนใจ
15%
10%
5%
ภูเขาไฟอาโสะ (Mt. Aso) เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีแอ่งภูเขาไฟ (Caldera) ขนาดมหึมา ซึ่งเกิดจากการระเบิดครั้งใหญ่เมื่อหลายแสนปีก่อน แอ่งนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 25 กิโลเมตร และเป็นหนึ่งในแอ่งภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สำหรับที่มาของชื่อจุดชมวิวบนยอดเขาแห่งนี้ “ไดคันโบ” เดิมทีมีชื่อว่า “โคะโระคะวะดาเกะ” (Korokawadake) แต่ในปี ค.ศ. 1922 นักเขียนชื่อดังของญี่ปุ่น โทคุโทมิ โซโฮ (Tokutomi Soho) ได้มาเยือนที่นี่และประทับใจกับความงดงามของทิวทัศน์ เขาจึงตั้งชื่อใหม่ให้ว่า “ไดคันโบ” (Daikanbo) ซึ่งมีความหมายว่า “จุดชมวิวอันยิ่งใหญ่”
นอกจากประวัติศาสตร์ภูเขาไฟแล้ว บริเวณรอบๆ อาโสะยังเป็นพื้นที่สำคัญทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น มีศาลเจ้าอาโสะ (Aso Shrine) ซึ่งมีอายุกว่า 2,000 ปี และเป็นศูนย์กลางของการบูชาภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของภูมิภาคนี้อีกด้วย
แทบจะทุกที่มีความเขียวขจีของผืนหญ้าให้เราถ่ายรูปกันได้สวย ๆ
จุดชมวิว 360 องศา มองเห็น Aso Gogaku (ภูเขาไฟทั้งห้าของอะโซ) ได้อย่างชัดเจน เมื่อมองจากมุมสูง ภูเขาเหล่านี้เรียงตัวกันจนดูคล้ายกับ “พระพุทธเจ้าปางไสยาสน์” ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่มีเอกลักษณ์ที่สุดในโลก
ถ้ามาในช่วงฤดูร้อน ท้องฟ้าก็จะสว่างตัดกับสีเขียวของทุ่งหญ้าได้อย่างสวยงาม
แต่ถ้ามาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือในจังหวะที่อากาศเริ่มเปลี่ยนจากร้อนไปเย็น เราก็จะได้เจอกับหมอกสีขาวสุดสวยงาม
คุซะเซ็นริกะฮามะ (Kusasenrigahama, 草千里ヶ浜) เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่โดดเด่นที่สุดของภูเขาไฟอาโสะ (Mt. Aso) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขานากาดาเกะ (Nakadake) ภายในอุทยานแห่งชาติอาโสะ-คุจู (Aso-Kuju National Park) พื้นที่นี้มีลักษณะเป็น ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ขนาดกว่า 1,000 ไร่ ที่มีบึงน้ำอยู่ตรงกลาง และมีฉากหลังเป็นภูเขาไฟอาโสะที่คุกรุ่น
รอบๆ คุซะเซ็นริกะฮามะมีเส้นทางเดินป่าหลายเส้นที่ให้คุณได้สัมผัสกับทิวทัศน์ของภูเขาไฟและธรรมชาติ เส้นทางเดินไปยัง ภูเขานากาดาเกะ (Nakadake) ซึ่งเป็นปากปล่องภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น โดยฤดูที่เหมาะที่สุดกับการเดินป่าจะเป็นช่วง ใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) และใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน)
มีเส้นทางขี่จักรยานรอบหุบเขาอาโสะและทุ่งหญ้า (Aso Panorama Line) หากขับรถผ่านถนน Milk Road คุณจะได้เห็นทุ่งหญ้าสุดลูกหูลูกตาพร้อมกับฉากหลังของภูเขาไฟ โดยในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน เป็นช่วงที่ทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มเหมาะกับการปั่นจักรยานมากที่สุด
เพื่อน ๆ ท่านไหนที่เป็นสายเดินเทรล ก็ต้องห้ามพลาดมาชมพระอาทิตย์ตก โดยสามารถชมในบริเวณบริเวณไดคันโบและคุซะเซ็นริกะฮามะได้เลย
ดอกไม้ป่าต่างๆ เบ่งบาน สร้างสีสันให้กับภูมิทัศน์ อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าโปร่ง เหมาะสำหรับการชมวิวไกลๆ
ทุ่งหญ้าสีเขียวเข้มเต็มพื้นที่ ดูตัดกับท้องฟ้าสีคราม อากาศอุ่นขึ้น แต่ยังมีสายลมเย็นจากภูเขาทำให้รู้สึกสดชื่น ช่วงนี้จะมีเมฆลอยต่ำ ทำให้เกิดวิวที่แปลกตา
ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีแดง ส้ม และเหลืองทั่วทั้งหุบเขา ทะเลหมอกในช่วงเช้าเริ่มหนาแน่นมากขึ้น แต่ว่าสภาพอากาศโดยรวมยังคงเที่ยวสนุกอยู่
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ทะเลหมอกที่เกิดจากความแตกต่างของอุณหภูมิในช่วงเช้าจะปกคลุมทั่วทั้งหุบเขา ทำให้ผู้มาเยือนสามารถเห็นวิวที่ราวกับอยู่เหนือทะเลแห่งเมฆ
Daikanbo
ที่อยู่ | Yamada, Aso, Kumamoto 869-2313 |
วิธีเดินทาง | เดินทางโดยรถยนต์โดยใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมง จากเมืองอะโซ |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Daikanbo |
เราขอแบ่งเป็น 2 วิธีการเดินทาง
1.การเดินทางโดยรถยนต์: ใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมง จากเมืองอะโซ ผ่านเส้นทาง Aso Panorama Line และ Milk Road และเมื่อมาถึงลานจอดรถของไดคันโบ ต้องเดินขึ้นเนินเขาประมาณ 5-10 นาที เพื่อไปยังจุดชมวิวหลัก
2.การเดินทางโดยรถบัส: มีรถบัสจากสถานี Kumamoto Airport ไปลงสถานี Aso Station โดยใช้เวลา 1.30 ชม. จากนั้น โดยใช้รถบัสสายที่ 7 (ดูตารางให้ดีนะเพราะอาจมีจำนวนจำกัด) ไปยังสถานี Daikanbo Iriguchi โดยใช้เวลา 34 นาที
Mount Aso (ภูเขาไฟอะโซ)
ภูเขาไฟอะโซ (Mount Aso) ตั้งอยู่ในจังหวัดคุมาโมโตะ บนเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น เป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นและมีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีแอ่งภูเขาไฟ (caldera) ที่กว้างใหญ่และปากปล่องภูเขาไฟที่ยังคงมีการปะทุอยู่ และเป็นภูเขาที่เป็นจุดมุ่งหมายของการมาเที่ยวยอดเขาไดคันโบในโพสนี้ด้วย
ที่อยู่ | Takawara, Aso City, Kumamoto Prefecture |
วิธีเดินทาง | จากสถานีคุมาโมโตะ (Kumamoto Station) นั่งรถไฟสาย Hohi ไปยังสถานีอะโซ (Aso Station) ใช้เวลาประมาณ 90 นาที จากนั้นต่อรถบัสไปยังสถานีปลายทางที่ภูเขาไฟอะโซ |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน ขึ้นอยู่กับสภาพภูเขาไฟและสภาพอากาศ ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดก่อนการเดินทาง |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Mount Aso (ภูเขาไฟอะโซ) |
คุซะเซ็นริกะฮามะ (Kusasenrigahama) เป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ภายในแอ่งภูเขาไฟอะโซ มีบึงน้ำอยู่ตรงกลางและล้อมรอบด้วยภูเขา เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการขี่ม้าและชมทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเราสามารถสัมผัสประสบการณ์ขี่ม้าชมทุ่งหญ้าในบริเวณนี้ได้อีกด้วยนะ
Kusasenrigahama
ที่อยู่ | 〒869-1505 Kumamoto, Aso, 草千里ヶ浜 |
วิธีเดินทาง | จากสถานีอะโซ (Aso Station) นั่งรถบัสสาย Aso Crater Line ไปยังป้าย Kusasenri ใช้เวลาประมาณ 30 นาที |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Kusasenrigahama |
ศาลเจ้าอะโซ (阿蘇神社, Aso Shrine) ตั้งอยู่ในเมืองอาโสะ จังหวัดคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งใน ศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยมีประวัติยาวนานกว่า 2,000 ปี และเป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าอะโซกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าผู้ปกป้องพื้นที่อาโสะ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นบรรพบุรุษของตระกูลอะโซ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาพื้นที่รอบภูเขาไฟอะโซมาตั้งแต่อดีต
Aso Shrine
ที่อยู่ | 3083-1 Ichinomiyamachi Miyaji, Aso, Kumamoto 869-2612 |
วิธีเดินทาง | จากสถานีอะโซ (Aso Station) นั่งรถไฟสาย JR Hohi ไปยังสถานี Miyaji ใช้เวลาประมาณ 5 นาที จากนั้นเดินต่อประมาณ 15 นาทีถึงศาลเจ้า |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Aso Shrine |
อย่างที่ทุกท่านได้ภาพทิวทัศน์ที่งดงามราวกับภาพวาดแล้ว จุดชมวิวบนยอดเขาไดคันโบ (Daikanbo) ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่มีเสน่ห์ไม่แพ้ที่ใดในญี่ปุ่นอีกด้วยนะ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการดื่มด่ำกับธรรมชาติ และนักท่องเที่ยวสายลุยสายเดินเทรลให้ได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟอาโสะที่ไม่แพ้กับการเดินเทรลรอบบริเวณภูเขาไฟฟูจิอย่างแน่นอน
Blogger : Yuri
ผมเป็นคนที่ถ่ายรูปไม่เก่ง แต่ว่าชอบเที่ยวมาก ๆ (ซะอย่างนั้น) เพราะการท่องเที่ยวสำหรับผม คือการที่ได้เรียนรู้ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด บางที่ก็ไปเที่ยวซ้ำ ๆ แต่กลับได้ประสบการณ์ที่ไม่จำเจ สำหรับผมแล้ว "ญี่ปุ่น" เป็นหนึ่งในประเทศที่ผมไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย มากกว่านั้น ผมมีความตั้งใจว่าจะออกไปเห็นโลกให้กว้างมากที่สุด แล้วนำสาระความรู้มาแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน ในช่วงที่(ผม)ยังมีแรงเต็มที่ครับ !
74 Posts
รีวิวที่พักฟุกุโอกะ Cross Life Hakata Yanagibashi และ Cross Life Hakata Tenjin
รีวิว Cross Life Hakata Yanagibashi Hotel และ Cross Life Hakata Tenjin มีสิ่งอ...
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ด ความน่าสนใจ ที่ต้องไปเยือน
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ดน่าเที่ยว ที่มีความโดดเด่นน่าสนใจ ท...
ไปคิวชูทั้งที ต้องไม่พลาด SUNQ Pass! พาเที่ยวทั่วเกาะ คุ้ม ครบ จบในใบเดียว
SUNQ Pass คือบัตรโดยสารสุดคุ้มที่ให้คุณขึ้นรถบัสได้ไม่จำกัด ทั้งรถบัสด่วนและรถ...
อยากเที่ยวคิวชูให้คุ้ม ต้องรู้จัก! SUNQ Pass กับ 4 ข้อดีที่คุณไม่ควรพลาด
ไปคิวชูทั้งที เที่ยวยังไงให้คุ้มที่สุด? คำตอบคือ... SUNQ Pass! บัตรเดียวขึ้นรถ...
สนุกกับการเที่ยวรอบเมืองฟุกุโอกะให้เต็มที่ ด้วยบัตรโดยสาร “Fukuoka City 1-Day Pass” ที่ทั้งคุ้มและสะดวก!
บัตร Fukuoka City 1-Day Pass ช่วยให้คุณสามารถนั่งรถบัสของ Nishitetsu ภายในเมือ...
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-6233-9266
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
090-4435-7812
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
090-1895-0987
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515