Daio Wasabi Farm ฟาร์มวาซาบิไดโอ ฟาร์มวาซาบิที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

25/11/2024
เวลาพูดถึงเรื่อง “วาซาบิ” เชื่อว่าหลายคนมักจะนึกถึงวัตถุดิบสีเขียวอ่อน นิยมรับประทานคู่กับซูชิ หรือซาชิมิ แต่จริงๆ แล้ววาซาบิสามารถนำมาเป็นส่วนผสมและวัตถุดิบในเมนูอาหารรวมทั้งของหวานได้อีกมากมาย และที่เมืองอะซูมิโนะ จังหวัดนากาโน่แห่งนี้ เป็นแหล่งปลูกวาซาบิเก่าแก่ในประเทศญี่ปุ่นที่ส่งต่อภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่นมานานกว่า 100 ปีแล้ว และมีฟาร์มวาซาบิมากกว่า 100 แห่ง ในจังหวัดนี้

สำหรับฟาร์มวาซาบิไดโอที่เราจะพาไปทำความรู้จักคราวนี้ เป็นฟาร์มวาซาบิเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุด เป็นแหล่งการเรียนรู้เกี่ยววาซาบิที่น่าสนใจมากๆ อีกแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ความน่าสนใจของฟาร์มแห่งนี้คือปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของจังหวัดโดยฟาร์มแห่งนี้มีขนาดใหญ่ ประกอบด้วยต้นวาซาบิ และลําธารเล็กๆ รายล้อมพร้อมการดูแลอย่างพิถีพิถัน 


โดยเฉพาะน้ำใสสะอาดที่เกิดจากหิมะที่ละลายจากภูเขาเจแปนแอลป์ตอนเหนือมายังฟาร์มต้นวาซาบิในฟาร์มแห่งนี้ ส่งผลให้เหล่าต้นวาซาบิเติบโตได้ดีเป็นพิเศษ ซึ่งระหว่างเดินชมแปลงปลูกวาซาบิ จะได้เห็นการดูแลเอาใจใส่อย่างดีในเรื่องการเพาะปลูกของเหล่าเกษตรกรของฟาร์มไปพร้อมกันด้วย

ฟาร์มได้รับการพัฒนาที่น่าสนใจสําหรับนักท่องเที่ยวด้วยเส้นทางเดินระหว่างทุ่งนา ภายในฟาร์มมีศาลเจ้าไดโอะ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานวิญญาณของวีรบุรุษท้องถิ่นโบราณ ฮาจิเม็ง ไดโอะ ซึ่งฟาร์มแห่งนี้ได้รับการตั้งชื่อและถือว่าเป็นผู้พิทักษ์ฟาร์ม ใกล้กับศาลเจ้ายังมีถ้ำเล็กๆ ที่เกี่ยวข้อง กับตํานานของวีรบุรุษในท้องถิ่นท่านนี้อีกด้วย


ที่มาที่ไปของฟาร์มวาซาบิไดโอ

ฟาร์มเพาะวาซาบิไดโอก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ.1915  โดยคุณ Shigeo Iida ผู้ที่ต้องการปลูกวาซาบิที่มีความสมบูรณ์แบบขึ้นมาในญี่ปุ่น ได้ออกเดินทางมาที่เมืองนี้แล้วพบว่าน้ำใสสะอาดที่ไหลจากหิมะที่ละลายบนภูเขาเจแปนแอลป์มีอุณหภูมิของน้ำระหว่าง 10-15 องศา มีความสะอาดบริสุทธิ์ เมื่อผสมเข้ากับอากาศที่หนาวเย็นในแถบนี้ ประกอบกับแร่ธาตุในผืนดินอันสมบูรณ์ ล้วนเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้สามารถปลูกต้นวาซาบิคุณภาพดีขึ้นมาได้ 

ไฮไลท์ของ Daio Wasabi Farm

นอกจากจะเป็นฟาร์มที่มีทัศนียภาพที่งดงามและมีประวัติความเป็นมายาวนานแล้ว จุดท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ก็มีมากมายไม่แพ้กัน โดยเริ่มตั้งแต่

กังหันน้ำเก่าแก่สัญลักษณ์ที่สำคัญของฟาร์ม

กังหันน้ำทั้ง 3 แห่งที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำทาเดกาวะภายในฟาร์มนั้น เป็นอีกสถานที่ที่อยู่กับวิวทิวทัศน์ของฟาร์มแห่งนี้มาเป็นระยะเวลาแสนนาน และวิวนี้เองมักถูกนํามาใช้เชิญชวนให้มาเยือนที่นี่ผ่านโปสเตอร์หรือหนังสือนําเที่ยว รวมทั้งในช่องทางประชาสัมพันธ์ทั่วไป ความเชื่องช้าของรอบหมุนของกังหันทำให้ภาพทิวทัศน์ธรรมชาติที่นี่มีเสน่ห์ยิ่งขึ้น จนที่นี่เคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องดังเรื่อง “Dreams” ซึ่งกำกับโดยผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง Akira Kurosawa สามารถชมวิวที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของฟาร์มจากจุดท่องเที่ยวนี้ อีกทั้งยังมีคนพูดถึงว่านี่คือสัญลักษณ์ที่สำคัญของฟาร์มเลยก็ว่าได้ 

ฟาร์มวาซาบิขนาดใหญ่

ฟาร์มวาซาบิขนาด 15  เฮกตาร์ (45,000 สึโบะ) ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นฟาร์มวาซาบิที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ล้อมรอบด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของเทือกเขาแอลป์ทางตอนเหนือ ทำให้มีน้ำแร่บริสุทธิ์กว่า 120,000 ตันที่ไหลตามธรรมชาติอยู่ในพื้นที่ของฟาร์มทุกวัน ส่งผลให้ทางฟาร์มสามารถปลูกวาซาบิได้ 150 ตันต่อปี  ส่งขายไปทั่วประเทศญี่ปุ่นและส่งออกต่างประเทศอีกด้วย 

ทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม

อย่างที่ทราบกันดีว่าเมืองอะซูมิโนะ จังหวัดนากาโน่ถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์ทางตอนเหนือจึงไม่ต้องแปลกใจว่าเมื่อมองทัศนียภาพมุมกว้างจะพบกับภาพของภูมิทัศน์ที่งดงามและมีภูเขาเรียงรายอยู่ปลายขอบฟ้า เป็นภาพที่น่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่ง ยังไม่พอช่วงฤดูใบไม้ผลิต้นซากุระที่ทอดยาวอยู่ภายในฟาร์มวาซาบิแห่งนี้ โดยมีเทือกเขาแอลป์ที่ยอดเขายังมีหิมะปกคลุมเป็นฉากหลังนั้นสวยเกินคำบรรยายและหาภาพวิวแบบพาโนรามาแบบนี้ไม่ได้จากที่ไหนแน่ๆ 

สิ่งที่น่าสนใจและกิจกรรมใน Daio Wasabi Farm

นอกจากทุ่งวาซาบิที่สวยงามแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับการทำกิจกรรมเกี่ยวกับวาซาบิมากมาย รวมทั้งการลิ้มรสวาซาบิแสนอร่อยได้ที่ร้านอาหาร คาเฟ่ และแวะช้อปปิ้งที่ร้านขายของที่ระลึก นอกจากนั้นยังสามารถเรียนรู้การปลูกวาซาบิจากที่นี่ได้เช่นกัน

การเดินชมฟาร์ม

จะเห็นได้ว่านอกจากจะเป็นฟาร์มเกษตรเต็มรูปแบบแล้ว ที่นี่ยังเป็นฟาร์มเชิงท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองด้วย โดยส่วนใหญ่เหล่านักท่องที่ยวจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการเดินเล่นรอบฟาร์ม ตามจุดต่างๆ มีป้ายเป็นภาษาอังกฤษ ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถอ่านเกี่ยวกับการเพาะปลูกวาซาบิในฟาร์มแห่งนี้ได้แบบสบายๆ  

 

ล่องเรือในแม่น้ำ

การล่องเรือชมกระแสน้ำอันเยือกเย็นและธรรมชาติรอบๆ ฟาร์มในแม่น้ำทาเดกาวะใสสะอาดและมีกังหันน้ำ 3 แห่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ทำให้มีทัศนียภาพที่สวยงาม ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการล่องเรือชมดอกวาซาบิคือตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน เหล่านักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับการสำรวจและพักผ่อนท่ามกลางทิวทัศน์อันสวยงามของฟาร์มวาซาบิแห่งนี้ เรียกว่าจะได้สัมผัสธรรมชาติสุดอันซีนภายในเวลาประมาณ 20 นาที

ร้านอาหารและคาเฟ่วาซาบิ

ภายในฟาร์มมีร้านอาหารอยู่  3 ร้าน เริ่มจากร้านอาหารโอเอซิส (Restaurant Oasis) อาหารปิ้งย่างและผักตามฤดูกาลที่คัดสรรมาอย่างดี รับประทานคู่กับซอสวาซาบิสูตรพิเศษของเชฟด้วย  อีกร้านชื่อว่ายูซุยเมชิกามะไดโออัน (Yusui Meshigama Dioan) มีการเสิร์ฟข้าวที่หุงด้วยน้ำแร่ และในส่วนของไดโอะคาเฟ่ (Daio’s Cafe) แนะนำให้ลองมาดื่มกาแฟสกัดเย็นที่ชงด้วยน้ำแร่บริสุทธิ์เช่นกัน โดยทั้ง 3 ร้านสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวฟาร์มวาซาบิกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาได้จากที่นี่

ซื้อของฝากจากวาซาบิ

มาถึงฟาร์มวาซาบิทั้งที อย่าพลาดแวะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับวาซาบิที่มีความหลากหลาย  เช่น วาซาบิสด วาซาบิดอง แครกเกอร์รสวาซาบิ แกงกะหรี่วาซาบิ ไส้กรอกวาซาบิ ครอกเก้วาซาบิ  น้ำสลัดวาซาบิ เบียร์วาซาบิ น้ำดื่มวาซาบิ เบียร์วาซาบิ ซอฟท์ครีมวาซาบิ และช็อกโกแลตวาซาบิ นักท่องเที่ยวสามารถลองชิมสินค้าหลักของที่นี่ได้เช่นวาซาบิโซบะ และวาซาบิเท็มปุระ แม้จะมีรสชาติค่อนข้างแปลกจากเมนูที่เคยกิน แต่ก็อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ

การเรียนรู้การปลูกวาซาบิ

สำหรับใครที่สนใจวิธีการปลูก นอกจากจะเข้าไปชมได้ในพิพิธภัณฑ์วาซาบิทางด้านขวาของทางเข้าหลักของฟาร์ม หรือภาพขนาดใหญ่บนผนังด้านนอกร้าน เพื่อดูว่าสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างไรเมื่อ 100 ปีที่แล้วจวบจนเหล่าเกษตรกรได้มุ่งมั่นเพาะปลูกเปลี่ยนจากดินแดนที่เต็มไปด้วยดินโคลนให้เป็นอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ตลอดการเดินชมฟาร์มจะได้เรียนรู้ถึงภูมิปัญญาของเหล่าเกษตรกรวาซาบิในท้องถิ่นนี้ ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนตุลาคมทุ่งวาซาบิสีเขียวจะถูกปกคลุมด้วยอุปกรณ์บังแดดสีดําเพื่อปกป้องเหล่าวาซาบิจากแสงแดด แต่ผู็เข้าชมฟาร์มก็ยังสามารถชมกระบวนการการปลูกวาซาบิได้อย่างใกล้ชิด

 

 

ฟาร์มวาซาบิไดโอ (Daio Wasabi Farm)

ที่อยู่15-7, Saiwaicho, Kawagoe-shi, Saitama, 350-8601
วิธีเดินทางลงที่สถานีโฮตากะ (30 นาทีจากสถานีมัตสึโมโต้) จากนั้นต่อรถแท็กซี่อีก 10 นาที หากปั่นรถจักรยานจะใช้เวลา 15 นาที สามารถเช่าได้ที่หน้าสถานีโฮตากะ ในราคา 200 เยน / 1 ชม. 
เวลาทำการ8.45.–17.30 น.(เมษายน – ตุลาคม) , 9.00–16.30 น. (พฤศจิกายน – มีนาคม)
ราคาฟรี
WebsiteDaio Wasabi Farm

ดูแผนที่ Daio Wasabi Farm

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

ไปถึงจังหวัดที่ขึ้นชื่อว่ามีวิวภูเขาสวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นแล้ว หากไม่ไปเที่ยวทำความรู้จักจ.นากาโน่กันต่อเสียใจแย่เลย ดังนั้นทริปนี้เรามาชวนไปชมปราสาทไฮไลท์สำคัญของจังหวัด จุดชมงานศิลปะสุดแสนประทับใจ และวิวเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นที่ไม่แนะนำไม่ได้เลยจริงๆ 

ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle)

หากใครถามถึงปราสาทที่มีความอลังการสมบูรณ์ สามารถเดินเข้าไปชมความงดงาม และเรียนรู้ข้อมูลประวัติศาสตร์ของเมืองได้จากภายใน และแค่มองจากภายนอกก็จะทำให้รู้สึกน่าทึ่ง ตั้งแต่ผนังและกระเบื้องหลังคาสีดำสนิทตัดกับภาพสะพานข้ามคูเมืองสีแดงสด ซึ่งเป็นเสน่ห์และเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมของปราสาทแห่งนี้ ส่วนด้านในปราสาทยังคงอนุรักษ์คุณค่าทางประวัติศาสตร์เอาไว้ทุกอณู จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติล้ำค่าประจำชาติของญี่ปุ่นด้วย ยิ่งในวันที่ท้องฟ้าสดใสเผยให้เห็นถึงฉากหลังของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นที่เห็นอยู่ไกลๆ ด้วย ปราสาทแห่งนี้จะยิ่งสร้างความทรงจำที่สุดประทับใจให้กับคุณ

ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle)

ที่อยู่4-1 Marunouchi, Matsumoto, Nagano 390-0873 
วิธีเดินทางเดิน 10 นาทีจาก Kita-Matsumoto Station หรือ ขึ้นบัส Town sneaker (North corse) จาก Matsumoto station มาลงที่ป้าย ปราสาทมัตสึโมโต้ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ค่าโดยสาร 200 เยน
เวลาทำการ8.30 –16.30 น. 
ราคาผู้ใหญ่ 700 เยน / เด็ก 300 เยน
WebsiteMatsumoto Castle

ดูแผนที่ Matsumoto Castle

อะซูมิโนะ อาร์ท ไลน์ (Azumino Art Line)

CR: http://rokuzan.jp/

เพื่อนๆ หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าเมืองอะซูมิโนะนั้น เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเกือบ 20 แห่ง จึงถือเป็นสถานที่พิเศษของเหล่าศิลปินทั่วทุกมุมโลก และเป็นที่รู้จักกันในนามของเมืองแห่งศิลปะ โดยกลุ่มของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “อะซูมิโนะ อาร์ท ไลน์” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พิพิธภัณฑ์ศิลปะโรคุซันซึ่งมีชื่อเสียงมากเป็นพิเศษ ที่ไม่อยากให้พลาดนอกจากนั้นยังมีสวนสวยและอาคารที่งดงามให้ชม ในบริเวณใกล้เคียงยังมีศาลเจ้าเก่าแก่รวมทั้งงานศิลปะอื่นๆ ที่คนที่หลงใหลงานศิลปะต้องอยากมาชื่นชมใกล้ๆ ด้วยสายตาตัวเองอย่างแน่นอน ซึ่งพิพิธภัณฑ์ที่เข้าร่วมในโครงการนี้ กระจายอยู่ทั่วเมืองอะซูมิโน และแผ่ขยายไปถึงเชิงเขาแอลป์ตอนเหนือของญี่ปุ่น

พิพิธภัณฑ์ศิลปะโรคุซัน (Rokuzan Art Museum)

ที่อยู่5095-1 Hotaka, Azumino, Nagano 399-8303 
วิธีเดินทางเดิน 7 นาทีจากสถานี Hotaka สาย JR Oito
เวลาทำการ9.00 – 17.10 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 30 นาทีก่อนปิด) (มีนาคม – ตุลาคม) 9.00 – 16.10 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 30 นาทีก่อนปิด) (พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์)
ราคา900 เยน
WebsiteRokuzan Art Museum

ดูแผนที่ Rokuzan Art Museum

เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japanese Alps)

เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักกันในนาม “หลังคาของประเทศญี่ปุ่น” ที่จะมอบประสบการณ์กลางแจ้งที่ดีที่สุดในประเทศ คุณจะตื่นตาตื่นใจไปกับความงามของคามิโคจิในอุทยานแห่งชาติชูบุซังกาคุซึ่งเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย มีกิจกรรมฤดูหนาวมากมายให้เพลิดเพลิน ตั้งแต่การเล่นสกี  สโนว์บอร์ด ไปจนถึงการเดินลุยหิมะ นอกจากนั้นในแถบพื้นที่นี้ยังกระจัดกระจายไปด้วยน้ำพุร้อนธรรมชาติ โรงแรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และบ้านพักสบาย ๆ แนะนำให้เงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่น่าตื่นตาตื่นใจและใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามในช่วงฤดูกาลของมัน

เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japanese Alps)

ที่อยู่12883-1 Chikuniotsu, Otari, Kitaazumi District, Nagano 399-9422  
วิธีเดินทางขึ้นรถไฟสายมัตสึโมโตะ เด็นเท็ตสึ คามิโคจิ จากสถานีมัตสึโมโตะไปยังชิน-ชิมาชิมะ (30 นาที) จากนั้นต่อรถบัสไปยังคามิโคจิ (60 นาที) นอกจากนี้ยังมีรถบัสสายตรงไปยังคามิโคจิวันละ 1 เที่ยวจากสถานีขนส่งมัตสึโมโตะ (90 นาที)
เวลาทำการเปิดทุกวัน 05.00 – 19.00 น.  เปิดให้ท่องเที่ยวช่วงกลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น
ราคาฟรี
WebsiteJapanese Alps

ดูแผนที่ Japanese Alps

สรุป

Daio Wasabi Farm ถือเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอะซูมิโนะ จังหวัดนากาโน่ พื้นที่ผลิตวาซาบิเก่าแก่และยังเป็นสถานที่ที่เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวซึ่งคุณสามารถทําความคุ้นเคยกับวาซาบิได้อย่างง่ายดาย ไม่มีค่าเข้าชมและค่าจอดรถฟรี นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมน่าสนุกมากมายให้ทำ มีร้านอาหารและคาเฟ่ให้เลือกพักผ่อน สามารถเพลิดเพลินกับเด็กๆ และครอบครัวได้ ถือเป็นอีกสถานที่ที่ผู้ปกครองและเด็ก ๆ จะได้มีช่วงเวลาที่ดี และได้รู้จักกับวาซาบิวัตถุดิบสำคัญสำหรับคนญี่ปุ่นเต็มอิ่มอย่างแน่นอน!

Pennapa Uttamang

Blogger : Pennapa Uttamang

อดีตบรรณาธิการผู้รับใช้ถ้อยคำมาตลอดหลายสิบปี ปัจจุบันก็ยังคงทำงานเขียน วาดภาพประกอบ เลี้ยงแมว และทำสตูดิโอออกแบบเล็กๆ เกี่ยวกับโบรชัวร์ญี่ปุ่น เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นจะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนผ่านเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่สร้างแรงบันดาลใจให้เรามากมายเช่นกัน

50 Posts

CCJ Hotel Search

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515