คูปองส่วนลดที่น่าสนใจ
5%
17%
10%

ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วไม่ได้แวะ Don Quijote (หรือที่คนไทยเรียกสั้น ๆ ว่า “ดองกี้”) เหมือนยังมาไม่ถึง! 🛍️ ที่นี่คือสวรรค์ของนักช้อปตัวจริง รวมของทุกอย่างตั้งแต่ขนม เครื่องสำอาง ของใช้ในบ้าน ไปจนถึงของแปลกสุดฮาในแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ เปิดให้ช้อปกันยาว ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าคุณจะมากับเพื่อน คู่รัก หรือครอบครัว รับรองได้ของติดไม้ติดมือกลับแน่นอน 🎌✨
ถ้าใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น หนึ่งในสถานที่ที่มักถูกบรรจุไว้ในลิสต์ “ต้องไป” ของนักท่องเที่ยวก็คือ ดองกี้โฮเต้ (Don Quijote) หรือที่คนไทยเรียกสั้น ๆ ว่า “ดองกี้” ดองกี้ (Don Quijote) คือร้านดิสเคานท์สโตร์ชื่อดังของญี่ปุ่นที่มีทุกอย่างตั้งแต่ขนม เครื่องสำอาง ของฝาก ไปจนถึงของใช้แปลกตาในราคาประหยัด 🛍️ บรรยากาศร้านคึกคัก เพลง “Don Don Don Donki” สุดติดหูดังตลอดเวลา ทำให้การเดินช้อปสนุกเหมือนผจญภัยในเขาวงกต 🎶 ไฮไลท์คือเปิดตลอด 24 ชั่วโมง เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่อยากช้อปดึก ๆ ไม่มีเวลาก็แวะได้เสมอ 🌙ของฝากยอดฮิต เช่น คิทแคทรสลิมิเต็ด เครื่องสำอาง Hada Labo หรือพวงกุญแจน่ารัก ๆ ถูกใจทั้งเพื่อนและครอบครัว 🍫💄เรียกได้ว่า “มาเที่ยวญี่ปุ่นถ้าไม่แวะดองกี้ เหมือนมาไม่ถึง” เพราะครบ จบ สนุก ในที่เดียวจริง ๆ✨

Don Quijote (ดองกี้) มีจุดเริ่มต้นในช่วงต้น ทศวรรษ 1980 เมื่อ ทาคาโอะ ยาสุดะ (Takao Yasuda) เปิดร้านค้าปลีกขนาดเล็กชื่อ Dorobo Ichiba ซึ่งเป็นต้นแบบของร้านดิสเคานท์ในอนาคต ต่อมาในปี 1989 เขาเปิดสาขาแรกภายใต้ชื่อ “Don Quijote” ที่เมืองฟุจู (โตเกียว) และขยายอย่างรวดเร็วกลายเป็นหนึ่งในเชนดิสเคานท์สโตร์ที่เติบโตเร็วที่สุดของญี่ปุ่น
ปัจจุบันดองกี้มีมากกว่า 600 สาขาทั่วประเทศ และขยายไปต่างประเทศ เช่น ไทย สิงคโปร์ และ ฮาวาย จุดเด่นคือคอนเซ็ปต์ “ของครบจนงง ถูกสะท้านโลก” รวมสินค้าหลากหลายหมวด ทั้งของกิน เครื่องสำอาง ของใช้ ของฝาก และของแปลกในราคาคุ้มค่า 💴
หลายสาขาเปิด 24 ชั่วโมง ทำให้ Don Quijote กลายเป็น “สวรรค์ของนักช้อป” ที่ทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต้องแวะอย่างน้อยหนึ่งครั้งในทริปญี่ปุ่น
💡 คอนเซ็ปต์ร้าน “ถูกสะท้านโลก ของครบจนงง”
Donki คือร้านรวมทุกหมวดในที่เดียว ตั้งแต่ของกิน ขนม เครื่องสำอาง เสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน ไปจนถึงของแปลกในแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ
ราคาถูกเพราะซื้อโดยตรงจากผู้ผลิต และมีโปรโมชั่นหมุนเวียนตลอด บรรยากาศในร้านจะเต็มไปด้วยเสียงเพลง “ดองดงกิ ดองกิ โฮเต้~” ที่เป็นเอกลักษณ์
🎁 กลุ่มสินค้ายอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทย
🌙 เหตุผลที่ควรแวะ Donki ในทริปญี่ปุ่น
🔗 ลิงก์อ้างอิงเพจทางการ/หน้ารวมสาขา (อัปเดต ณ ปัจจุบัน)
MEGA Donki เป็นสาขาขนาดใหญ่ที่สุด มีพื้นที่กว้าง จัดโซนสินค้าชัดเจน ครบทั้งของกินสด ของใช้ และของฝาก 🛒 Don Quijote สาขาทั่วไป ขนาดเล็ก–กลาง ของแน่นคึกคัก เหมาะกับการช้อปของฝาก ขนม และบิวตี้โปรดักต์ 🎁ส่วน Donki 24 ชั่วโมง เน้นความสะดวก เปิดทั้งวันทั้งคืน เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มีเวลาจำกัดหรือชอบช้อปดึก 🌙

🏬 ประเภทสาขา Don Quijote ที่ควรรู้ก่อนช้อป
MEGA Donki
สาขาขนาดใหญ่ที่รวมทุกหมวดสินค้าในที่เดียว — ของกินสด เสื้อผ้า เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า ของเล่น ไปจนถึงโซนอาหารพร้อมทานและมุมร้านอาหาร เหมาะกับคนที่อยากใช้เวลาเดินหลายชั่วโมงหรือมาช้อปทั้งครอบครัว พื้นที่กว้าง สินค้าครบ แต่ผู้คนค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่
Don Quijote สาขาทั่วไป
ขนาดเล็กลงแต่เข้าถึงง่าย มักอยู่ใกล้สถานีรถไฟหรือย่านท่องเที่ยว เน้นหมวดฮิตอย่างของฝาก เครื่องสำอาง ขนม และของใช้ในบ้านเดินสะดวก ใช้เวลาไม่นาน เหมาะกับการแวะก่อนกลับที่พัก
🛍️ บริการและหมวดที่มักต่างกัน
⏰ เวลาเปิด–ปิด และบริการ Tax-Free
สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ทางการของ Donki แต่ละสาขา 👉 : Don Quijote
จะมีข้อมูลเวลาเปิด–ปิด, แผนที่, และสัญลักษณ์ Tax-Free กำกับชัดเจน
สาขา Don Quijote ที่เปิด 24 ชั่วโมง
แม้หลายสาขาของ Donki จะขึ้นชื่อเรื่องเปิดดึกหรือ 24 ชั่วโมง แต่ ไม่ใช่ทุกสาขา ที่เปิดทั้งวันทั้งคืน นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดในหน้าเว็บทางการก่อนเสมอ เพื่อไม่พลาดการวางแผนช้อปปิ้ง
สาขายอดนิยมของ Don Quijote ได้แก่ Shibuya, Shinjuku, Akihabara และ Ueno เพราะเดินทางง่าย อยู่ใกล้ย่านท่องเที่ยวหลัก 🏙️ หากมีเวลามากและอยากช้อปครบทุกหมวด แนะนำ MEGA Donki แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศคึกคัก ของฝากแน่น ๆ เลือก สาขาทั่วไป 🛍️ เพื่อคุ้มเวลา ควรตรวจสอบล่วงหน้าว่าสาขานั้น เปิดดึกหรือ 24 ชั่วโมง และมี Tax-Free หรือไม่จากเว็บทางการ ✨
วิธีคิดเลือกสาขา Donki ให้เหมาะกับทริป
เลือกง่าย ๆ ด้วย 3 เกณฑ์หลัก:
1️⃣ เมือง/ย่านที่พัก – เลือกสาขาใกล้โรงแรมหรือเส้นทางเที่ยว เพื่อลดเวลาเดินทางอ้อม
2️⃣ เวลาในมือ – ถ้ามีเวลาจำกัด เลือกสาขาขนาดกลางหรือใกล้รถไฟ / ถ้าอยากเดินเพลินให้ไป MEGA Donki
3️⃣ หมวดสินค้าที่ต้องการ – เน้นบิวตี้ ขนม หรือของใช้ในบ้าน ก็เลือกตามจุดเด่นของแต่ละสาขา
💻 วิธีอ่านหน้ารวมสาขาทางการ
เข้าเว็บ Donki Store List
จะเห็นข้อมูลเรียงตามลำดับดังนี้:
📊 ตารางเช็กลิสต์เลือกสาขา Donki
| ประเภทสาขา | ขนาดร้าน | หมวดสินค้าเด่น | เวลาเปิด–ปิด | ความหนาแน่นโดยประมาณ |
|---|---|---|---|---|
| MEGA Donki | ใหญ่มาก | ของกินสด, ของใช้, ของฝาก, บิวตี้, เสื้อผ้า | หลายแห่งเปิด 24 ชม. | หนาแน่นช่วงเย็น–ค่ำ |
| สาขาทั่วไป (Standard) | กลาง | ขนม, บิวตี้, ของใช้พกพา | 10.00–23.00 น. (โดยเฉลี่ย) | ปานกลาง |
| Tourist Zone Branch | กลาง–เล็ก | ของฝาก, เครื่องสำอาง, ขนมยอดฮิต | มักเปิดถึงเที่ยงคืน | แน่นมากช่วงหัวค่ำ |
| Suburban Branch | ใหญ่ | ของใช้ในบ้าน, เครื่องครัว, อาหารสด | ปิดเร็วกว่า (ราว 21.00–22.00 น.) | คนโล่ง เดินสบาย |
ตัวอย่างสถานการณ์เลือกสาขา
ดองกี้ (Don Quijote) คือแหล่งรวมของฝากและสินค้าขายดีในญี่ปุ่นที่ห้ามพลาด 🛍️หมวดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยว ได้แก่ ขนมญี่ปุ่นลิมิเต็ด (คิทแคท, พ็อกกี้), เครื่องสำอาง–สกินแคร์ คุณภาพดีราคาประหยัด, รวมถึง เหล้าสาเก–อุเมะชู และแกดเจ็ตของใช้แปลก ๆ 🎁นอกจากนี้ยังมี ของเล่น เสื้อแฟนซี และของฝากน่ารัก ๆ ที่เลือกได้ครบจบในที่เดียว เหมาะทั้งซื้อฝากเพื่อนและช้อปใช้เอง ✨
นอกจากของฝากและขนม ดองกี้ยังมีโซน ยาและเวชภัณฑ์ทั่วไป (OTC) ที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อกลับไป เช่น ยาแก้หวัด, ยาแก้แพ้, ยาแก้ปวด, พลาสเตอร์, และวิตามินต่าง ๆ 💊สินค้าส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและแพ็กเกจน่ารัก ใช้ง่ายและเหมาะเป็นของฝากสำหรับครอบครัว 👨👩👧👦นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบฉลากหรือสอบถามพนักงานเพื่อเลือกให้ตรงกับความต้องการ และสามารถใช้บริการ Tax-Free ได้ในสาขาที่รองรับ 🛍️
ร้านขายยาในญี่ปุ่นมีสินค้าหลากหลายและคุณภาพดีมาก แต่ก่อนซื้อกลับไทย ควรรู้ว่า “OTC” (Over The Counter) คือ ยาที่ซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ — ใช้ได้เองแต่ต้องรู้ขอบเขตความแรงและวิธีใช้ให้ถูกต้อง 👇
🩺 หมวดยอดนิยมของนักท่องเที่ยว:
• ยาแก้หวัด / คัดจมูก เช่น Pabron, Eve Quick
• ยาแก้ปวดเมื่อย / ปวดประจำเดือน เช่น Salonpas, Kowa Q&P, Eve A
• พลาสเตอร์ร้อน–เย็น บรรเทาอาการเมื่อย เช่น Hisamitsu, Roihi-Tsuboko
• ยาหยอดตา เช่น Rohto, Sante FX (เหมาะกับคนใช้คอม / เดินทางบ่อย)
• ยาท้องอืด กรดไหลย้อน เช่น Ohta’s Isan, Kowa Cabagin
⚠️ ข้อควรระวังเบื้องต้น:
• อ่านฉลากก่อนใช้ (แม้เป็นภาษาญี่ปุ่น — ใช้แอปแปลช่วยได้)
• ตรวจ “ปริมาณตัวยา” เพราะยาญี่ปุ่นบางตัวแรงกว่าที่ขายในไทย
• ห้ามใช้ร่วมยาซ้ำกลุ่ม เช่น ยาแก้หวัดกับยาแก้แพ้ (อาจง่วงหรือมีผลต่อหัวใจ)
• ห้ามใช้เกินขนาด หรือบ่อยเกินฉลากระบุ
🗣️ วิธีถามเภสัชกรหน้าร้าน:
ใช้ประโยคง่าย ๆ หรือเปิดมือถือช่วยแปล เช่น
📄 เก็บใบเสร็จและซองสินค้าไว้:
สำหรับยาที่มีตัวยาควบคุมหรือซื้อหลายชิ้น ควรเก็บเอกสารแนบไว้ผ่านด่านศุลกากรขาเข้าไทย
💡 ทิป: ยาญี่ปุ่นมักมีหลายสูตรในชื่อเดียวกัน (เช่น Eve Quick / Eve A / Eve Fine) — ก่อนซื้อควรถ่ายรูปกล่องเก็บไว้และสอบถามเภสัชกรว่า “รุ่นไหนเหมาะกับอาการตอนนี้” เพื่อให้ได้ยาที่ถูกและปลอดภัยที่สุดค่ะ ✅
นักท่องเที่ยวที่ไปดองกี้สามารถเลือกสกินแคร์ให้คุ้มตามสภาพผิวได้ เช่น ผิวแพ้ง่าย เหมาะกับ Hada Labo สูตรอ่อนโยน, ผิวมัน ใช้โทนเนอร์ควบคุมความมันของ Rohto, ส่วน ผิวแห้ง เลือกโลชั่นเข้มข้นของ Sekkisei หรือครีมชุ่มชื้น Shiseido 🧴 เคล็ดลับคือ เทียบราคา/ปริมาณต่อหน่วย (ml/g) เพื่อหาความคุ้มจริง และควร เช็กล็อตผลิต/วันหมดอายุ ที่ข้างกล่องก่อนซื้อทุกครั้ง ✅
สกินแคร์ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องความอ่อนโยนและคุ้มค่า แต่จะเลือกยังไงให้เหมาะกับสภาพผิวและใช้งานได้คุ้มสุด มาดูสรุปง่าย ๆ ก่อนช้อปกัน 👇
เลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิว
| สภาพผิว | แนะนำผลิตภัณฑ์ | จุดสังเกตเวลาเลือก |
|---|---|---|
| ผิวแพ้ง่าย | Curel, Hada Labo Gokujyun Sensitive, Muji Skincare | เลือกสูตร Fragrance-free / Alcohol-free, มีส่วนผสมเซราไมด์หรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์อ่อนโยน |
| ผิวมัน / เป็นสิวง่าย | Senka, Mentholatum Acnes, Hada Labo Oil Control | เน้นสูตร Oil-free, ซึมไว ไม่เหนอะ ลดสิวและความมันส่วนเกิน |
| ผิวแห้ง / ขาดน้ำ | Hada Labo Gokujyun (Moist), Nameraka Honpo, DHC Olive | มองหาสูตร Moisture / Rich / Deep Hydration และมีไฮยาลูรอนิค |
🧾 เช็กล็อต & วันหมดอายุ:
ตรวจใต้ขวดหรือก้นกล่อง — มักพิมพ์ว่า EXP (วันหมดอายุ) หรือ LOT (รหัสล็อต)
เคล็ดลับ: ถ้าซื้อหลายชิ้น ควรถ่ายรูปเลขล็อตเก็บไว้ เผื่อเทียบรอบหน้าและเช็กอายุสินค้าได้ง่าย
💰 เทียบราคาต่อหน่วย (มล./กรัม):
ใช้สูตร 👉 ราคา ÷ ปริมาณ เพื่อดูความคุ้ม
เช่น โลชั่น 500 เยน / 100 มล. = 5 เยนต่อมล.
ส่วนขวดใหญ่ 850 เยน / 200 มล. = 4.25 เยนต่อมล. — คุ้มกว่า!
✈️ ของเหลวขึ้นเครื่อง:
หากจะถือขึ้นเครื่องบิน ต้องไม่เกิน 100 มล. ต่อชิ้น และรวมใน ถุงใสปิดสนิทขนาดไม่เกิน 1 ลิตร
สำหรับขวดใหญ่ แนะนำใส่กระเป๋าโหลดแทน
ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วอยากสอยเมกอัปกลับบ้าน ต้องรู้ก่อนว่าเฉดสีและฟินิชของเครื่องสำอางญี่ปุ่นมักออกไปทาง “โทนสว่าง–ธรรมชาติ” ดังนั้นเลือกให้เข้ากับผิวจริงของเราจะได้ไม่หมองเมื่อกลับมาใช้ในไทย ☀️
เครื่องสำอางยอดฮิตที่ดองกี้ขายดี ได้แก่ Canmake (บลัชออน–ลิปสติกโทนหวาน), Kiss Me Heroine Make (มาสคาร่าและอายไลเนอร์กันน้ำติดทน), Majolica Majorca และ Integrate ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพคุ้มราคา 💄 จุดเด่นคือเป็นแบรนด์ drugstore ญี่ปุ่นที่หาซื้อง่าย ราคาประหยัด เหมาะทั้งสำหรับใช้เองและซื้อฝากเพื่อนนักช้อปความงาม
หมวดเมกอัปยอดนิยมที่ควรเช็ก
รองพื้น / แป้ง / บลัชออน / อายไลเนอร์ / ลิปสติก — เป็นหมวดที่รีวิวแน่นและหาซื้อง่ายใน Donki, Matsumoto Kiyoshi, Loft
| ประเภท | แบรนด์แนะนำ | เคล็ดลับเลือกให้เหมาะกับผิวคนไทย |
|---|---|---|
| รองพื้น / บีบีครีม | Shiseido, Canmake, Cezanne | เลือกเฉด โทนเหลือง (Yellow undertone) เพื่อให้กลืนกับผิวจริง ไม่เทา |
| แป้ง / แป้งผสมรองพื้น | Kate, Majolica Majorca, Media | เน้น ฟินิชแมตต์หรือกึ่งแมตต์ คุมมันดี เหมาะกับอากาศร้อนชื้น |
| บรัชออน / ไฮไลต์ | Canmake, Integrate, Excel | โทน พีช–ชมพูอบอุ่น ช่วยให้ผิวดูสดใสสุขภาพดี |
| อายไลเนอร์ / มาสคาร่า | Kiss Me Heroine, Dolly Wink | เลือกสูตร กันน้ำ / กันเหงื่อ (Waterproof) เพื่อความติดทน |
| ลิปสติก / ทินต์ | Opera, Rom&nd, Visee | โทน ชมพูตุ่น–ส้มอมน้ำตาล เข้ากับผิวเอเชียทุกเฉด |
🌤️ โทนสีที่เข้ากับผิวคนไทย:
เลือกเฉด โทนเหลือง (Yellow Undertone) หรือ Neutral Beige จะเข้ากับผิวเอเชียมากกว่าเฉดชมพูที่มักซีดในแสงแดดไทย
ส่วนฟินิชที่เหมาะกับอากาศร้อนชื้นคือ Semi-Matte หรือ Satin Finish ช่วยคุมมันแต่ยังดูเป็นผิวธรรมชาติ
✋ วิธีทดสอบเฉดสี:
ทาลองที่บริเวณ แนวกราม แทนหลังมือ เพราะสีผิวบริเวณนี้ใกล้เคียงกับใบหน้าจริง
และควรดูสีภายใต้ แสงธรรมชาติ ไม่ใช่แสงไฟร้าน เพราะอาจเพี้ยน
⏳ เช็กคุณภาพก่อนซื้อ:
ตรวจ ล็อตผลิต / วันหมดอายุ, ตรวจให้แน่ใจว่า ฝาปิดแน่น, ไม่มีรอยเปิดหรือคราบเลอะจากเทสเตอร์
หลีกเลี่ยงสินค้าที่วางในชั้นโล่งนานหรือไม่มีซีลป้องกัน
💡 ทิป: แนะนำแบรนด์ญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องเฉดเข้ากับผิวคนไทย เช่น Canmake, Cezanne, Kiss Me, Integrate, Maquillage, Ettusais — คุณภาพดี ราคาไม่แรง และพกง่ายสุด ๆ ✨
ขนมและของฝากยอดนิยมจากดองกี้ที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาด ได้แก่ คิทแคทรสลิมิเต็ด (ชาเขียว, วาซาบิ, สตรอว์เบอร์รี), พ็อกกี้และช็อกโกแลตญี่ปุ่น 🍫 รวมถึง มันฝรั่งแผ่น, ขนมโมจิ, ชีสเค้กขนาดเล็ก ที่เหมาะซื้อกลับเป็นของฝาก 🎁 จุดเด่นคือมีแพ็กเกจพิเศษและราคาคุ้มค่า เลือกได้ครบทั้งของหวาน–ของคาวในที่เดียว 🛍️


ใครมาญี่ปุ่นแล้วไม่ซื้อขนมกลับไทย ถือว่าพลาด! แต่จะเลือกยังไงให้ทั้งอร่อย พกสะดวก และไม่เสียรูประหว่างเดินทาง มาดูทริคง่าย ๆ กัน 👇
🍫 ขนมยอดนิยม พกง่าย–เก็บได้นาน:
คุกกี้–เวเฟอร์ (Tokyo Banana, Shiroi Koibito), ช็อกโกแลต (KitKat ลิมิเต็ดรสชาเขียว/ซากุระ), มันฝรั่งทอด, ลูกอมรสญี่ปุ่น, ชา–กาแฟสำเร็จรูป
⏳ อายุสินค้า & การเก็บรักษา:
ส่วนใหญ่เก็บได้ 3–12 เดือน แต่ควรหลีกเลี่ยงอุณหภูมิสูง และอย่าวางใกล้ของเหลวหรือของร้อน
🎁 เทคนิคแพ็กกลับไทย:
• ใช้เสื้อผ้านุ่มรองกล่องขนมในกระเป๋า
• ใส่ถุงกันกระแทกหรือห่อด้วยบับเบิล
• แยกขนมจากของเหลวหรือของหนัก เช่น แชมพู/โลชั่น เพื่อป้องกันบี้แตก
⚖️ คำนวณน้ำหนัก & จำนวนต่อแพ็ก:
ดูขนาดกล่องและน้ำหนักโดยประมาณ (เช่น 150–300 กรัมต่อกล่อง) เพื่อตีงบและจัดน้ำหนักกระเป๋าไม่ให้เกิน
ดองกี้นอกจากขนมและของฝากแล้ว ยังมีโซน แก็ดเจ็ตเล็ก ๆ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อ เช่น เครื่องทำไข่ม้วน, หม้อไฟฟ้าขนาดพกพา, กาต้มน้ำ, เครื่องนวดพกพา และพัดลมจิ๋ว 🛠️ จุดเด่นคือราคาคุ้มกว่าห้างใหญ่และมีดีไซน์กะทัดรัด เหมาะซื้อกลับมาใช้ในชีวิตประจำวันหรือเป็นของฝากใช้งานได้จริง ✨

🔌 หมวดแก็ดเจ็ตเดินทางยอดนิยม ของใช้เดินทางยอดฮิตที่คุ้มและเบา
| หมวด | ตัวอย่าง | เหมาะสำหรับ |
|---|---|---|
| ปลั๊กพ่วง / หัวแปลงปลั๊ก | Elecom, Muji, Panasonic | ใช้เสียบชาร์จมือถือ–กล้อง หลายช่องพร้อมกัน (ปลั๊กญี่ปุ่นแบบ A/B) |
| ที่โกนหนวดไฟฟ้า / เครื่องหนีบผม | Panasonic, Tescom, Izumi | น้ำหนักเบา พกง่าย เหมาะกับนักเดินทาง |
| อุปกรณ์จัดกระเป๋า | ถุงสูญญากาศ, สายรัดกระเป๋า, เครื่องชั่งน้ำหนักพกพา | ช่วยประหยัดพื้นที่และควบคุมน้ำหนัก |
| พาวเวอร์แบงก์ / สายชาร์จ | Anker, Elecom | ควรเช็กขนาดแบตไม่เกิน 20,000 mAh เมื่อถือขึ้นเครื่อง |
⚠️ ระบบไฟญี่ปุ่น:
ใช้แรงดัน 100 โวลต์ ปลั๊กแบบ A หรือ B (ขาแบน 2 ขา)
ก่อนซื้อ ตรวจแรงดันอุปกรณ์ (Input Voltage) ว่ารองรับ 100–240V หรือไม่ ถ้าไม่รองรับจะใช้ในไทยไม่ได้ ต้องมีหม้อแปลงไฟ
📘 ตรวจภาษาและการรับประกัน:
บางรุ่นมีเฉพาะคู่มือภาษาญี่ปุ่น หรือรับประกันเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น (Japan Domestic Warranty) — ถ้าอยากมั่นใจให้เลือกรุ่น “Global Version”
🧳 ขนาด & น้ำหนัก:
เลือกรุ่นพกพา น้ำหนักเบา ใส่กระเป๋าเดินทางสะดวก และอย่าลืมเช็ก ข้อจำกัดแบตเตอรี่ลิเธียม (Lithium Battery) — อุปกรณ์พกพาที่มีแบตในตัว เช่น เครื่องโกนหนวดหรือเครื่องนวด จะต้องถือขึ้นเครื่องเท่านั้น ห้ามโหลดใต้เครื่อง
💡 ทิป: ถ้าเจอของไฟฟ้าญี่ปุ่นที่อยากซื้อกลับไทย ให้ถ่ายรูป “สเปกแรงดัน (Input)” ที่ข้างกล่องไว้ก่อนจ่าย — จะช่วยให้รู้ทันทีว่าใช้ได้หรือไม่เมื่อกลับถึงบ้านค่ะ 🔋✨
บางสินค้าญี่ปุ่นจะมีแบบ “ลิมิเต็ดเฉพาะสาขา” หรือ “เฉพาะช่วงเวลา” เช่น กลิ่นพิเศษ ขนาดพิเศษ หรือแพ็กเกจเฉพาะเมือง ถ้าเจอแล้วชอบอย่ารอ เพราะหมดแล้วหมดเลย!
🗾 ตัวอย่างของลิมิเต็ด:
เช่น โฟมล้างหน้ากลิ่นซากุระเฉพาะโตเกียว, คิทแคทรสชาเขียวเกียวโต, หรือลิปแพ็กเกจลายฤดูใบไม้ร่วงวางขายช่วงสั้น ๆ เท่านั้น
🛍️ วิธีเช็กสต็อก:
ถามพนักงานว่า “在庫ありますか?” (Zaiko arimasu ka? = มีสินค้าไหม?)
หรือเช็กจากแอป/เว็บไซต์ของร้าน เช่น Donki, Loft, Matsumoto Kiyoshi ว่าสาขาไหนยังมีของอยู่
🔄 ถ้าของหมด:
หาตัวแทนใกล้เคียงโดยเทียบจาก
• ส่วนผสมหลัก (เช่น สูตรเดียวกันแต่คนละกลิ่น)
• ขนาดและราคา (ใกล้เคียงกันที่สุด)
• แบรนด์ในเครือเดียวกัน (มักมีประสิทธิภาพใกล้เคียง)
📸 กันพลาด:
ถ่ายรูป ชื่อสินค้า / บาร์โค้ด / ป้ายภาษาญี่ปุ่น เก็บไว้ในมือถือ จะช่วยให้พนักงานช่วยหาหรือเช็กสินค้าทดแทนได้เร็วขึ้น
💡 ทิป: ถ้าเจอของลิมิเต็ดที่อยากได้จริง ๆ ให้ซื้อทันที — เพราะโอกาสกลับมาเจออีกครั้งแทบจะเป็นศูนย์ในญี่ปุ่นค่ะ! ✨
โซนบิวตี้ของดองกี้คือสวรรค์นักช้อปที่ห้ามพลาด 🛍️ แบรนด์ยอดฮิตได้แก่ Hada Labo, Shiseido, SK-II, Canmake, Kiss Me Heroine Make ซึ่งมีครบตั้งแต่สกินแคร์บำรุงผิว โลชั่น มาส์กหน้า ไปจนถึงเมกอัปอย่างบลัช ลิป และอายไลเนอร์กันน้ำ 💄 จุดเด่นคือราคาคุ้มกว่าห้าง และมีแพ็กเกจลิมิเต็ดหรือเซตประหยัด เหมาะทั้งซื้อใช้เองและซื้อเป็นของฝาก
ดองกี้มีครบทั้ง สกินแคร์และเมกอัป ตั้งแต่โลชั่น มาส์กบำรุงผิวของ Hada Labo, Shiseido, SK-II ไปจนถึงเมกอัปยอดฮิตอย่าง Canmake, Kiss Me Heroine Make, Majolica Majorca 💄 จุดเด่นคือราคาย่อมเยา มีแพ็กเกจลิมิเต็ดหรือเซตประหยัด เหมาะกับทั้งการซื้อใช้เองและเป็นของฝากสำหรับสายบิวตี้

จัดเต็มทั้งสกินแคร์และเมกอัปที่คนญี่ปุ่น–นักท่องเที่ยวไทยการันตีว่าคุ้มจริง ใช้งานได้ทุกสภาพอากาศและเหมาะกับผิวเอเชีย
1. Hada Labo Gokujyun Lotion
โลชั่นเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้นแบบไม่เหนียว เหมาะกับผิวแพ้ง่าย–ผิวแห้ง
⭐ รีวิวขายดีต่อเนื่องหลายปีในญี่ปุ่น
💰 ราคา ~¥800–1,000 / 170 ml
2. Shiseido Senka Perfect Whip
โฟมล้างหน้าฟองหนานุ่ม ล้างสะอาดไม่แห้งตึง เหมาะกับผิวผสม–มัน
⭐ เรตติ้งสูงในเว็บรีวิวญี่ปุ่น @cosme
💰 ราคา ~¥400–500 / 120 g
3. Sekkisei Lotion
โลชั่นกึ่งมาส์ก ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดหมองคล้ำ
⭐ สูตรเย็นสบาย เหมาะกับผิวที่โดนแดด
💰 ราคา ~¥1,500 / 200 ml
4. Kiss Me Heroine Make Mascara
มาสคาร่าระดับตำนาน ติดทน กันน้ำ กันเหงื่อสุด ๆ
⭐ เหมาะกับอากาศร้อนชื้นและวันเที่ยว outdoor
💰 ราคา ~¥1,000 / 6 g
5. Canmake Cream Cheek
บรัชออนเนื้อครีม เกลี่ยง่าย สีพีช–ชมพูที่เข้ากับผิวคนไทย
⭐ ให้ลุคสดใสกล้องจับแล้วผิวดูโกลว์
💰 ราคา ~¥600 / 2.5 g
6. Canmake Marshmallow Finish Powder
แป้งคุมมันเนื้อเบา ฟินิชธรรมชาติ ผิวดูเนียนละมุนเหมือนมาร์ชเมลโลว์
⭐ เหมาะกับผิวมัน–ผิวผสม
💰 ราคา ~¥1,000 / 10 g
7. Majolica Majorca Eyeshadow
อายแชโดว์โทนอบอุ่น–นู้ด ใช้ง่ายทุกวัน
⭐ แพ็กเกจน่ารัก เป็นของฝากยอดฮิต
💰 ราคา ~¥800–1,200
8. DHC Lip Cream
ลิปบำรุงปากยอดนิยม ไม่เหนียว เหมาะกับอากาศหนาวหรือคนปากแห้งง่าย
⭐ รีวิวดีจากนักเดินทางทั่วเอเชีย
💰 ราคา ~¥600–700 / 1.5 g
9. LuLuLun Face Mask (แพ็กใหญ่)
มาส์กอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ใช้ได้ทุกวัน ทุกสภาพผิว
⭐ คะแนนสูงในเว็บรีวิวท่องเที่ยว
💰 ราคา ~¥1,500 / 36 แผ่น
10. SK-II Facial Treatment Essence (ขนาดพกพา)
ตำนานเอสเซนส์ “Pitera” บำรุงผิวให้ใสเนียน
⭐ เหมาะกับคนที่อยากลองไอเท็มไฮเอนด์ในไซซ์เดินทาง
💰 ราคา ~¥5,000 / 75 ml

ก่อนหยิบสินค้าลงตะกร้า โดยเฉพาะพวกสกินแคร์ อาหาร หรือยา ควรตรวจ “รหัสล็อต” และ “วันหมดอายุ” ทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าได้ของใหม่จริง 👇

🏷️ ตำแหน่งที่มักพิมพ์รหัสล็อต/วันหมดอายุ:
ด้านล่างกล่อง / ใต้ขวด / ข้างหลอด หรือบนสติ๊กเกอร์ท้ายสินค้า
ตัวเลขอาจอยู่ในรูปแบบ เช่น
• EXP 2026.05 / 26.05.30 (วันหมดอายุ)
• LOT A305 / 3K12 (รหัสล็อตการผลิต)
🧾 วิธีถอดรหัสล็อต (แบบย่อ):
ตัวเลขตัวแรกมักบอก “ปี” และตัวถัดไปเป็น “เดือน” หรือ “สัปดาห์ที่ผลิต” เช่น
• A305 = ปี 2023 เดือน 05 (ล็อตพฤษภาคม 2023)
แต่ละแบรนด์อาจต่างกัน ควรดูจากเว็บไซต์ทางการของแบรนด์นั้น ๆ
🆕 หลักการเลือกสินค้าล็อตใหม่:
เลือกสินค้าที่วันหมดอายุไกลที่สุด หรือเลขล็อตขึ้นต้นใหม่กว่า (เช่น A→B→C ตามลำดับการผลิต)
หากเห็นสินค้าหลายล็อตปะปนบนชั้น ให้หยิบจากแถวหลังซึ่งมักเป็นของใหม่กว่า
📦 เทคนิคตรวจแพ็กเกจ:
ตรวจให้แน่ใจว่าซีลปิดแน่น ฝาไม่หลวม ไม่มีรอยบุบ คราบ หรือสติ๊กเกอร์ถูกลอกออก
💡 ทิป: ถ้าซื้อหลายชิ้นไว้ฝากหรือใช้ยาว ควรถ่ายรูปล็อตและวันหมดอายุเก็บไว้ในมือถือด้วย เผื่อเทียบรอบหน้าและตรวจคุณภาพได้ง่ายค่ะ ✅
เวลาช้อปในญี่ปุ่น ของหลายอย่างอาจดูราคาต่างกันเล็กน้อย แต่ขนาดไม่เท่ากัน ถ้าอยากซื้อให้ “คุ้มจริง” ต้องดู ราคาต่อหน่วย ไม่ใช่แค่ราคาป้ายค่ะ
📏 สูตรคำนวณราคาต่อหน่วย:
👉 ราคา ÷ ปริมาณ (มิลลิลิตร / กรัม) = ราคาต่อ 1 หน่วย
ตัวอย่าง: โลชั่น 500 เยน / 100 มล. → หน่วยละ 5 เยน,
ส่วนขวดใหญ่ 850 เยน / 200 มล. → หน่วยละ 4.25 เยน (คุ้มกว่า!)
🧴 แพ็กเล็ก vs แพ็กใหญ่:
ถ้าซื้อกลับไทย ควรดู “อายุการใช้งานจริง” ด้วย — ของใช้หมดอายุไว เช่น ครีมหรืออาหาร ควรเลือกไซซ์เล็กกว่าเพื่อไม่ให้เหลือทิ้ง
🎟️ ดูโปรฯ คู่กับ Tax-Free / คูปอง:
บางครั้งของชิ้นเล็กแต่มีส่วนลดคูปองจะคุ้มกว่าแพ็กใหญ่ อย่าลืมคำนวณราคาสุดท้ายหลังหักส่วนลด
🧳 ทิปกันพลาด:
ถ้ามีแผนเดินทางหลายเมืองหรือมีน้ำหนักจำกัด แนะนำเลือก ไซซ์พกพา (Travel Size) ประหยัดที่และไม่เกินน้ำหนักโหลดกระเป๋า
💬 สรุปสั้น ๆ: ดูให้ครบทั้ง “ราคา–ขนาด–อายุการใช้–โปรโมชั่น” แล้วค่อยตัดสินใจ ช้อปครั้งหน้าไม่ต้องเดา ซื้อได้คุ้มทุกเยนแน่นอนค่ะ ✅
นักท่องเที่ยวมือใหม่ควรรู้ว่า ระบบ Tax-Free ของดองกี้ช่วยประหยัดภาษี 10% เมื่อซื้อครบตามขั้นต่ำและแสดงพาสปอร์ต ✈️ ส่วน บัตร majica คือบัตรสมาชิกอิเล็กทรอนิกส์ ใช้สะสมแต้ม เติมเงินเพื่อรับส่วนลดพิเศษและสิทธิ์โปรโมชัน 🛍️ ทำให้การช้อปคุ้มค่ายิ่งขึ้นทุกครั้งที่ไปดองกี้

🛍️ อยากได้สิทธิ์ Tax-Free คืนภาษีจากสินค้าที่ซื้อในญี่ปุ่น ต้องเข้าใจเงื่อนไขให้ครบ และทำขั้นตอนให้ถูกตั้งแต่จุดขาย จะได้ไม่พลาดตอนออกจากประเทศ
💴 ยอดขั้นต่ำ:
• สินค้าทั่วไป (เสื้อผ้า ของฝาก ของใช้) — ยอดรวม ตั้งแต่ ¥5,000 ขึ้นไป/ร้าน/วัน
• สินค้าสิ้นเปลือง (อาหาร เครื่องสำอาง ยา ฯลฯ) — ยอดรวม ¥5,000–¥500,000 ต่อวัน และต้องอยู่ในถุงซีลห้ามเปิดใช้ในประเทศ
🗓️ ทำได้เฉพาะ “ซื้อที่ร้านนั้นในวันเดียวกัน”
ถ้าซื้อข้ามวันหรือหลายสาขาจะไม่นับรวมกัน ต้องขอคืนภาษีร้านต่อร้าน
🧾 ขั้นตอนที่เคาน์เตอร์ (Step-by-Step):
1️⃣ เตรียม พาสปอร์ตตัวจริง (สำเนาใช้ไม่ได้)
2️⃣ ยื่น ใบเสร็จจากร้าน และแจ้งว่าต้องการทำ Tax-Free
3️⃣ พนักงานจะพิมพ์เอกสารแนบพาสปอร์ต หรือแปะใบ Tax-Free ให้
4️⃣ สินค้ากลุ่มสิ้นเปลืองจะถูกใส่ ถุงซีลใส — ห้ามเปิดใช้จนกว่าจะออกนอกประเทศ
⚠️ คำเตือน: หากถุงซีลขาด หรือสินค้าถูกใช้ก่อนเดินทางออกจากญี่ปุ่น จะ ถูกตัดสิทธิ์คืนภาษีทันที
รายละเอียดเพิ่มเติมข้อมูล Tax-Free >> Don Quijote Tax-Free
💡 ทิป: ทำ Tax-Free ทันทีหลังช้อปจบแต่ละร้าน อย่ารอรวบทีเดียว เพราะบางร้านจะไม่สามารถทำย้อนหลังได้
อยากให้ขั้นตอน Tax-Free ผ่านไว ไม่ต้องวุ่นวายตอนถึงหน้าเคาน์เตอร์ ลองเช็กลิสต์นี้ให้ครบก่อนเข้าคิวเลย!
🧳 เอกสารที่ต้องใช้ & ทิปเตรียมตัวก่อนเข้าคิว Tax-Free
💡 ทิป: จัดเอกสารตั้งแต่ก่อนเข้าคิว แยกแต่ละร้านให้ชัด จะช่วยลดเวลาตรวจและทำให้ขั้นตอนเร็วขึ้นมาก!

💳 Majica คืออะไร: บัตรสะสมแต้มของ Don Quijote ใช้ได้ทั้งแบบบัตรจริงและในแอป majica app
เติมเงินได้: เติมผ่านเคาน์เตอร์หรือเครื่อง Kiosk ในร้าน ใช้จ่ายแทนเงินสดและสะสมแต้มได้
คูปองส่วนลด: ใช้ก่อนคิดเงินเสมอ — แสดงคูปองบนมือถือก่อนให้พนักงานสแกน
Download คูปองส่วนลด >> Discount Coupon

🧾 ลำดับการใช้สิทธิ์ที่ถูกต้อง:
1️⃣ แสดง คูปองส่วนลด
2️⃣ ทำ Tax-Free
3️⃣ สแกนบัตร Majica เพื่อสะสมแต้ม
⚠️ ข้อควรรู้:
• คูปองบางใบใช้เฉพาะหมวดสินค้า (เช่น เครื่องสำอาง หรืออาหาร)
• ต้องมียอดขั้นต่ำตามเงื่อนไข เช่น ¥5,000 ขึ้นไป
💡 ทิป: แนะนำให้โหลด majica app ไว้ในมือถือ จะดูแต้ม คูปอง และบาร์โค้ดได้ในที่เดียว สะดวกสุด ๆ เวลาแสดงที่แคชเชียร์!
ไม่ว่าจะเป็นสายช้อปตอนเย็นหรือสาย Night Owl ที่อยากเดินเพลินยันเที่ยงคืน การรู้เวลาเปิด–ปิดของแต่ละสาขาคือกุญแจสำคัญ!
เพราะบางสาขาเปิด 24 ชม. พร้อมดีลเด็ดรออยู่ตอนคนซา ช้อปให้สุดได้แบบไม่ต้องรีบกลับ!

💡 ทิป: ถ้าอยากช้อปชิลไม่ต้องแย่งของ แนะนำไปช่วง “หลัง 22.00 น.” หรือ “เช้าตรู่วันธรรมดา” — ร้านโล่ง เดินสบาย ได้ลองของแบบไม่ต้องรอคิว!
💡 ทิป: ก่อนออกจากร้าน ลองรวมบิลและเช็กสินค้าที่ต้องทำ Tax-Free ให้ครบ จะช่วยประหยัดเวลาและลดความผิดพลาดได้มาก!
🌙 ช้อปตอนดึกอาจดูสบาย คนไม่เยอะ แต่ก็มีหลายจุดที่ต้องระวังทั้งเรื่องเวลาเคาน์เตอร์ Tax-Free และการเดินทางกลับที่พัก
ก่อนจะคว้าถุงใหญ่กลับโรงแรม ลองเช็กทริคเหล่านี้ไว้ให้พร้อม ช้อปดึกได้อย่างปลอดภัย และไม่พลาดสิทธิ์ดี ๆ!

💡 ทิป: ถ้าเจอสินค้าดูต่างจากชิ้นอื่นในร้านหรือบรรจุภัณฑ์ไม่เรียบร้อย อย่ารีบจ่าย — ขอพนักงานเช็กให้ก่อนเพื่อความมั่นใจว่า “ของแท้แน่นอน”!
| สถานการณ์ | ภาษาอังกฤษ | ภาษาญี่ปุ่น |
|---|---|---|
| ฉันมีอาการแพ้ | I have an allergy. | アレルギーがあります。(Arerugī ga arimasu.) |
| สำหรับผิวแพ้ง่ายไหม | For sensitive skin? | 敏感肌用ですか?(Binkan hada-yō desu ka?) |
| ฉันกำลังตั้งครรภ์ | I am pregnant. | 妊娠しています。(Ninshin shiteimasu.) |
| ฉันกำลังกินยานี้อยู่ | I’m taking this medicine. | この薬を飲んでいます。(Kono kusuri o nondeimasu.) |
| เด็กใช้ได้ไหม | Can children use this? | 子どもでも使えますか?(Kodomo demo tsukaemasu ka?) |
| ขออ่านฉลากยาได้ไหม | May I see the instruction leaflet? | 説明書を見せてもらえますか?(Setsumeisho o misete moraemasu ka?) |
| ฉันปวดหัว | I have a headache. | 頭が痛いです。(Atama ga itai desu.) |
| ฉันปวดท้อง | I have a stomachache. | お腹が痛いです。(Onaka ga itai desu.) |
| ฉันเป็นหวัด | I have a cold. | 風邪をひいています。(Kaze o hiiteimasu.) |
| ฉันมีไข้ | I have a fever. | 熱があります。(Netsu ga arimasu.) |
💡 ทิป: ถ้าไม่มั่นใจชื่อยา ให้เปิดรูปยาที่เคยใช้ในมือถือ แล้วพูดว่า
Do you have the same one as this? / これと同じものはありますか? (Kore to onaji mono wa arimasu ka?)
เภสัชกรจะเข้าใจทันทีและช่วยเลือกให้ตรงรุ่น ปลอดภัยกว่าและลดโอกาสซื้อผิดแน่นอนค่ะ ✅
ก่อนเก็บของลงกระเป๋า อย่าลืมเช็กให้ชัวร์ว่าสิ่งที่ซื้อมานำกลับไทยได้จริงหรือไม่! เพราะบางอย่างอาจเข้าข่ายของต้องห้ามหรือมีข้อจำกัดทางศุลกากร — รู้ไว้ก่อนบิน จะได้ไม่ต้องลุ้นตอนถึงสนามบิน ✈️
✈️ ก่อนกลับไทย อย่าลืมตรวจของติดตัวให้ถูกกฎ เพื่อไม่ให้โดนเรียกตรวจที่ด่านศุลกากร
🍷 แอลกอฮอล์: นำเข้าได้ไม่เกิน 1 ลิตรต่อคน รวมทุกชนิด (ไวน์ วิสกี้ เหล้า ฯลฯ)
🚬 บุหรี่: ไม่เกิน 200 มวน หรือ ซิการ์ 250 กรัม หรือ ยาสูบ 250 กรัม — ห้ามแยกถือรวมกันในกลุ่ม เพราะเจ้าหน้าที่จะนับตาม “จำนวนคน”
💊 ยาใช้ส่วนตัว: นำเข้าได้ในปริมาณ พอใช้ไม่เกิน 30 วัน และควรเก็บใน บรรจุภัณฑ์เดิม ที่มีฉลากชื่อยาและชื่อผู้ใช้
หากเป็นยาควบคุมพิเศษ เช่น ยานอนหลับ ยาแก้ปวดแรง ยาที่มีส่วนผสมของกัญชา (CBD/THC) ต้องมี ใบรับรองแพทย์หรือใบสั่งแพทย์ภาษาอังกฤษ แนบมาด้วย
⚠️ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง:
• ของปลอม / ละเมิดลิขสิทธิ์
• อาหารสด เนื้อสัตว์ ผลไม้ พืช หรือเมล็ดพันธุ์
• ยา/ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเสพติดหรือฮอร์โมนต้องห้าม
💡 ทิป: เก็บใบเสร็จสินค้าไว้เสมอ เผื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบราคา และอย่าลืมตรวจเว็บไซต์ กรมศุลกากรไทย (Thai Customs Department) ก่อนเดินทางกลับ เพื่ออัปเดตกฎล่าสุดให้ชัวร์ค่ะ ✅
✈️ ก่อนจัดกระเป๋าเดินทาง อย่าลืมเช็กข้อกำหนดสำคัญเรื่อง “ของเหลว” และ “แบตเตอรี่” เพราะเป็นจุดที่สายการบินเข้มงวดที่สุด!
💧 ของเหลวในกระเป๋าถือ (Carry-on):
แต่ละขวดต้องไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และต้องรวมทั้งหมดไว้ใน ถุงใสปิดสนิทขนาดไม่เกิน 1 ลิตร (เช่น ครีม โลชั่น เจล สเปรย์)
💡 ทิป: ใช้ถุงซิปใสแยกไว้ หยิบง่ายตอนผ่านเครื่องสแกน
🧳 ของเหลวในกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง (Checked baggage):
ใส่ในขวดที่ปิดแน่น ซีลป้องกันการรั่ว และ ห่อกันกระแทก เช่น พลาสติกกันกระแทกหรือถุงกันน้ำ เผื่อแรงกระแทกระหว่างขนส่ง
🔋 แบตเตอรี่ลิเธียม (Lithium Battery):
ห้ามโหลดใต้เครื่อง ต้อง ถือขึ้นเครื่องเท่านั้น
ตรวจค่ากำลังไฟไม่เกิน 100 Wh หรือ 20,000 mAh ต่อก้อน (ส่วนใหญ่ใช้ได้กับ Power Bank ทั่วไป)
หากเกินกำหนด ต้องได้รับอนุญาตจากสายการบินก่อน
📦 ของเปราะบางหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์:
ควรติดป้าย Fragile และวางไว้ตรงกลางกระเป๋า เพื่อกันกระแทก
💡 ทิป: จัดของเหลวแยกไว้ตั้งแต่ที่พัก และเก็บแบตเตอรี่ในช่องที่หยิบง่าย ตรวจให้ชัวร์ก่อนเช็กอิน จะได้ไม่ต้องเปิดกระเป๋ายกของตอนตรวจเครื่องค่ะ ✅
🛍️ หลังช้อปแบบ Tax-Free แล้ว อย่าเพิ่งสบายใจจนเผลอทิ้งเอกสารหรือแกะถุง! เพราะเจ้าหน้าที่สนามบินอาจขอตรวจเพื่อยืนยันสิทธิ์คืนภาษีได้

📄 ใบเสร็จและหลักฐานการทำ Tax-Free: เก็บทุกใบให้ครบ รวมถึงใบสรุปที่ร้านออกให้ (บางร้านแนบ QR หรือบาร์โค้ดบนเอกสาร)
🔖 ถุงซีล Tax-Free: ห้ามแกะหรือเปิดใช้สินค้าก่อนเดินทางออกนอกประเทศ — ถ้าซีลขาดจะถูกตัดสิทธิ์คืนภาษีทันที
📂 วิธีเก็บเอกสาร: แยกไว้ในแฟ้มใสหรือซองเอกสารเดียว หยิบง่ายตอนตรวจ และควรถ่ายรูปสำรองเก็บในมือถือเผื่อหาย
🛫 คำถามที่เจ้าหน้าที่อาจสอบถาม:
• ซื้อสินค้านี้จากที่ไหน / เมื่อไหร่
• ใช้สินค้านี้แล้วหรือยัง
• มีใบเสร็จและถุงซีลครบไหม
💡 ทิป: ก่อนถึงเคาน์เตอร์คืนภาษี ให้ตรวจความเรียบร้อยอีกครั้ง — ถุงต้องปิดสนิท ใบเสร็จครบทุกใบ แล้วคุณจะผ่านด่านได้อย่างราบรื่นและได้รับเงินคืนเต็มสิทธิ์ค่ะ ✅

ดองกี้ หรือ Don Quijote คือสวรรค์นักช้อปในญี่ปุ่นที่เปิดดึกและบางสาขา 24 ชั่วโมง 🛍️ จุดเด่นคือสินค้ามีให้เลือกมหาศาล ทั้งขนม เครื่องสำอาง สกินแคร์ ของใช้ในบ้าน แก็ดเจ็ต ไปจนถึงของแปลกที่หาที่อื่นไม่ได้ สาขาใหญ่แบบ MEGA Donki เดินสบายครบทุกหมวด ส่วนสาขาทั่วไปของแน่นคึกคัก เน้นของฝากและบิวตี้ 💄 นักท่องเที่ยวไทยนิยมเพราะราคาคุ้ม พร้อมบริการ Tax-Free ที่ช่วยประหยัดภาษี 10% ✨ อย่าลืมเตรียมพาสปอร์ตและเผื่อเวลาทำเรื่องปลอดภาษี รวมถึงแพลนเวลาเดินทางกลับ หากตั้งใจช้อปดึก 🌙 ดองกี้จึงเป็นทั้งที่ช้อปและแลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนญี่ปุ่น

Blogger : บัวลินน์
สวัสดีค่ะ หนึ่งนะคะ ☺️ เป็นคนที่หลงรักประเทศญี่ปุ่นสุดหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม อาหารที่แสนอร่อย หรือผู้คนที่อบอุ่นและเป็นมิตร ทุกครั้งที่ได้ไปท่องเที่ยวและสัมผัสยิ่งทำให้ตกหลุมรักญี่ปุ่นมากขึ้น ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความของหนึ่งนะคะ หวังว่าจะได้แบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ให้ทุกคนได้เพลิดเพลินไปด้วยกันค่ะ!
20 Posts

จากนาริตะไปโตเกียว รวมวิธีเดินทางสุดสะดวก เข้าเมืองชิลๆ
รวมมิตรวิธีการเดินทาง จากนาริตะไปโตเกียว ที่รู้ไว้ก่อนออกเดินทางแล้วรับรองไม่ม...

เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ด ความน่าสนใจ ที่ต้องไปเยือน
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ดน่าเที่ยว ที่มีความโดดเด่นน่าสนใจ ท...

เที่ยวญี่ปุ่น 2022 เปิดเงื่อนไข วิธีการขอวีซ่า ไกด์ไลน์เที่ยวจัดเต็ม
เปิดข้อมูลการ เที่ยวญี่ปุ่น 2022 / 2565 เปิดทุกเกณฑ์การท่องเที่ยวแบบจัดเต็ม กา...

ไป โตเกียวพักย่านไหนดี แนะนำ 15 ย่าน เลือกพักตามสไตล์ที่ใช่
ตอบคำถามให้หายสงสัย ไปโตเกียว พักย่านไหนดี ! แนะนำ 15 ย่านในโตเกียวที่คู่ควรแก...

เช็คก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น! “GO” แอปเรียกแท็กซี่อันดับ 1 ที่จะทำให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมวัฒนธรรมการใช้แท็กซี่อันมีเอกลักษณ์ เพราะวิธีใช้งานแบบง่าย ๆ ไม่ต้องกังวล!
เที่ยวญี่ปุ่น เดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วย "GO App" แอปเรียกแท็กซี่อันดับหนึ่งข...
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-6233-9266
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
090-4435-7812
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
090-1895-0987
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515