ตารางการเดินทาง
แนะนำไฮไลท์เด็ด
ทัวร์ญี่ปุ่นพรีเมี่ยม 7 วัน 4 คืน อัปเกรดทริป 4-5 ดาว กินหรู เที่ยวสบาย ช้อปแน่น!
ทัวร์เริมต้นตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 โดยออกเดินทางด้วย สายการบินไทยแอร์เวย์ ชั้นประหยัด การเดินทางไปนั้น ขาไปเดินทางด้วยเที่ยวบินที่ TG682 ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 และจะเดินทางถึงในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 จากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ – ท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะ และจะเดินทางกลับในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 จากท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะ และจะเดินทางถึงประเทศไทยในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบินไทย ด้วยเที่ยวบินที่ TG661
Day 1 6 พฤศจิกายน 2565
การเดินทางของทัวร์นี้นั้นเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 หลังจากที่ลงเครื่องที่สนามบินฮาเนดะแล้วเราก็จะเดินทางทางทุ่งหน้าสู่จังหวัดไซตามะเป็นที่แรกเพื่อเยี่ยมชมเมืองคาวาโกเอะ
Kawagoe
เมืองคาวาโกะเอะนั้น ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะ ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองลิตเติ้ลเอโดะ ด้วยการตกแต่งสถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรื่องที่ยังคงรูปแบบของสมัยเอโดะไว้ได้เป็นอย่างดี ทำให้ที่เมืองคาวาโกเอะนี้มีที่เที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย ทั้งเมืองโบราณหมู่บ้านสีดำ, วัดคิตะอิน, ถนนขนมหวานญี่ปุ่นโบราณ เป็นต้น
วัดคิตะอิน
วัดเก่าแก่แห่งเมืองคาวาโกเอะของนิกายเทนได วัดแห่นี้ถูกสร้างมาตั้งแต่ ค.ศ. 830 ภายในวัดมีรูปปั้นโบราณวางเรียงราย แสดงสีหน้าท่าทางหลากหลายแตกต่างกัน โดยรูปปั้น “โกะเฮียะคุระคัง” เหล่านี้มีมากกว่า 5,00 องค์ ภายในวัดมีบรรยากาศที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นต้นแบบของวัดอาซากุสะในโตเกียวอีกด้วย
หมู่บ้านโบราณสีดำ (ในคาวาโกะเอะ)
หมู่บ้านสีดำแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาในอาณาเขตปราสาทคาวาโกเอะในยุคสมัยเอโดะ โดยการสร้างอาคารบ้านเรือนนั้นเป็นแบบ “คุระซึคุริ” ซึ่งเป็นการสร้างบ้านจากไม้ และได้รับการดูแลอนุรักษ์เป็นอย่างดี โดยอาคารบ้านเรือนเหล่านี้ถูกนำมาเปิดเป็นร้านค้าต่างๆ เพื่อขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ทำให้เราสามารถเดินเที่ยวเพื่ออซื้อของฝาก และชื่นชมบรรยากาศที่สวยงามของที่นี่ หรือจะถ่ายรูปย่านเมืองเก่าไว้เป็นที่ระลึกก็ได้อีกด้วย
ถนนขนมหวานญี่ปุ่นโบราณ
สถานที่ถัดก็ไม่ไกลจากหมู่บ้านสีดำมากนัก เรามาต่อกันที่ ย่านยาคิยะโยะโคะโจ หรือชื่อที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันเป็นอย่างดีในชื่อ ตรอกขนมหวาน โดยถนนสายนี้นั้นจะเรียงรายไปด้วยร้านขายขนมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกอม คุกกี้ เค้ก ขนมแป้งทอด ให้เราได้ชิมและเลือกซื้อกลับบ้านกันได้อย่างอิสระ
เดินทางเข้าสู่ คารุอิซาว่า
จบวันแรก เราก็จะเดินทางกันต่อไปที่เมืองคารุอิซาว่าเพื่อพักค้างแรมกันที่เมืองนี้ โดยที่คารุอิซาว่านี้ ตั้งอยู่บริเวณภูเขาไฟอาซามะ ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงถึง 2,560 เมตร ภูเขาไฟแห่งนี้ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ ซึ่งเหมือนกับภูเขาไฟอะโสะที่อยู่บนเกาะคิวชู และรัฐบาลได้สั่งห้ามปีนเขาลูกนี้นับตั้งแต่เกิดการระเบิดเมื่อหลายปี ก่อน…
โดยเราจะทานมื้อค่ำและพักค้างแรมกันที่ KARUIZAWA PRINCE HOTEL หรือโรงแรมที่ระดับเทียบเท่า หลังจากรับประทานอาหารแล้วท่านสามารถพักแช่ออนเซ็นได้ตามอัธยาศัยซึ่งการแช่ออนเซ็นของที่นี่เป็นแช่น้ำแร่จากธรรมชาติและยังคงรักษาวัฒนธรรมมาจนถึงปัจจุบัน
Day 2 7 พฤศจิกายน 2565
คารุอิซาว่า
เช้าวันที่ 2 เรายังคงอยู่กันเมือง คารุอิซาว่าเพื่อเที่ยวบริเวณรอบๆ ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์สวยงามไม่แพ้ที่อื่นเลย จะมีอะไรบ้างในวันนี้ลองไปดูกัน
สวนโคโมโระไคโคเอ็น
เช้าวันนี้เราจะเดินมาที่ สวนไคโคเอ็น แห่งปราสาทโคโมโระ ในจังหวัดนากาโนะ เพื่อชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี โดยสวนแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณซากกำแพงของปราสาทซึ่งอดีตเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทโคโมโระ แต่ปัจจุบันเหลือเพียงซากประตูและกำแพงเท่านั้น โดยที่นี่นเราสามารถชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีไปพร้อมกับภูเขาอาซามะ และแม่น้ำชิกุมะ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้ที่นี่ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 100 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีท่ีสวยที่ในญี่ปุ่นอีกด้วย
หมู่บ้านโบราณ Unno juku
หลังจากชมความสวยงามของธรรมชาติกันเสร็จแล้วเราก็เดินทางมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านโบราณ Unno juku ตั้งอยู่ในเมืองโทมิ เขตนากาโนะตะวันออกในอดีตที่นี่เป็นเมืองที่คึกคักของ Hokkoku Kaido โดยถนนที่ตัดผ่านเมืองนี้นั้นถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยเอโดะ ถึงคานาซาว่า สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1625 ที่เชื่อมต่อนากะเซ็นโด และถนนโฮกูริกุ ที่ยังคงสภาพอาคารฮาตาโกยะ อาคารหลังคามุงจากในสมัยเอโดะได้เป็นอย่างดี
ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็น “1 ใน 100 ถนนที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น” และ “เขตอนุรักษ์อาคารเก่าแก่ที่สำคัญ” ถนนที่อุนโนะจุกุ มีความยาวประมาณ 650 เมตร และมีฝาลประทานไหลผ่านกลางหมู่บ้านซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า “แม่น้ำโอโมเตะซันโดะ” โดยที่หมู่บ้านนี้มีพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ และยังเป็นบ้านเกิดของซานาดะนักรบเซ็นโกคุที่มีชื่อเสียง ทำให้ได้รับความนิยมจากเหล่านักท่องเที่ยวอย่างล้นหลาม เพราะทั้งประวัติศาสตรที่ยาวนาน และวิวทิวทัศน์ที่งดงามนั่นเอง
ฮาร์เวสต์ นากาอิ ฟาร์ม
หลังจากรับประทานมื้อเที่ยงกันแล้ว เรามาเที่ยวกันต่อที่ ฮาร์เวสต์ นากาอิ ฟาร์ม ที่นี่ก่อตั้งโดย นากาอิ ผู้ผลิตข้าว ผักผลไม้ และผลิตภัณฑ์จากนม ไม่ว่าจะโยเกิร์ต แยม โมจิ และซอส ผลิตภัณฑ์จากที่นี่ก็เป็นที่ชื่นชอบของคนท้องถิ่นเป็นอย่างมาก เมนูยอดนิยมที่ต้องมาลองให้ได้ของที่นี่ก็คือ ไอศครีมเจลาโต้ ที่จะผลิตขึ้นสดใหม่ทุกวันตอนเช้าจากนมวัวทำเอง นอกจากรสช็อกโกแลต และชาเขียวแล้ว ที่นี่ยังมีรสชาติแปลกใหม่ให้ได้ชิมกัน ไม่ว่าจะเป็นรสข้าว หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวโพด มะเขือเทศ และองุ่นเคียวโฮ นอกจากนี้ยังสามารถซื้อน้ำองุ่นเคียวโฮแท้100%ได้จากที่นี่อีกด้วย
คารุอิซาว่าช้อปปิ้งพลาซ่า
หลังจากเที่ยวฟาร์มกันมาเสร็จแล้ว ช่วงเย็นเราก็ไปช้อปปิ้งกันที่คารุอิซาว่าช้อปปิ้งพลาซ่า แหล่งช้อปปิ้งสุดหรูเอ้าท์เล็ตช้อปปิ้งมอลล์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นแหล่งรวมร้านแบรนด์เนมชื่อดังมากมาย อาทิ Coach, Burberry, Paul Smith, Tod’s, Alexander McQueen, Lanvin, Gucci, Kate Spade, Tory Burch, Swarovski, Michael Kors, Bvlgari ตลอกจนถึงสินค้ากีฬาต่างๆ เช่น Nike และ Adidas รวมแล้วกว่า 240 ร้าน และมีถึง 104 ร้านที่เป็นร้านค้าปลอดภาษี
หลังจากช้อปปิ้งเสร็จเราจะเดินทางกลับที่พัก KARUIZAWA PRINCE HOTEL หรือโรงแรมที่ระดับเทียบเท่า เพื่อรับประทานอาหารเย็น และพักผ่อนแช่ออนเซ็นตามอัธยาศัย
Day 3 8 พฤศจิกายน 2565
Nagatoro (แม่น้ำอาราคาวะ)
วันที่ 3 เราเดินทางมาที่แม่น้ำอาราคาวะ เพื่อล่องเรือชมความงามของธรรมชาติที่แม่น้ำอาราคาวะ สองข้างทางของแม่น้ำนี้เราสามารถชมดอกไม้ป่า และใบไม้เปลี่ยนสีได้ (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละปี) สายน้ำใส ผืนป่าชุ่มชื้น อากาศที่บริสุทธิ์ และเสียงนกที่ร้อง ให้เราได้ผ่อนคลายไปกับธรรมชาติ และเพลิดเพลินกับความสวยงามตลอดเส้นทาง
คินบุเอะโชยุปาร์ค
หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงเส้น เราจะเดินทางมาต่อที่คินบุเอะโชยุปาร์ค ที่เมืองคาวาจิมะ จังหวัดไซตามะ ดำเนินการโดย Fueki Shoyu เพื่อชมขั้นตอนการทำโชยุ โรงหมักซอสถั่วเหลืองที่มีประวัติมาอย่างยาวนานกว่า 230 ปี ที่นี่เราจะมีโอกาสได้เรียนรู้กระบวนการผลิตโชยุแบบดั้งเดิมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกสัตถุดิบอย่างใส่ใจ นอกจากนี้ยังได้ชมถังไม้ใส่โชยุขนาดใหญ่ที่มีอายุกว่า 150 ปี และนอกจากนี้เรายังสามารถชิม สึยุ ซึ่งเป็นโชยุของแบรนด์นี้ และซื้อของฝากได้ที่้งยังมีร้านขายซอสคินบุเอะโชยุซึ่งตั้งอยู่ในที่เดียวกันนี้ได้อีกด้วย
มหานครโตเกียว
หลังจากนั้นเราจะเดินทางกลับเข้าสู่เมืองหลวงโตเกียวเพื่อรับประทานอาหารเย็นบริการท่านด้วยบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างมื้อพิเศษ (อัพเกรด) ทานและดื่มไม่อั้นแนะนำโดยรายการทีวีแชมป์ เปี้ยน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัวอย่างดี เนื้อหมูคัดพิเศษ ชุดอาหารทะเลสด กุ้งตัวใหญ่ หมึกสด ปลาปักเป้า หอยเชลล์พิเศษ ผักสด สลัดผัก ซุป และไอศครีม
เมื่อทานอาหารเย็นเสร็จแล้วก็จะเดินทางเข้าสู่ที่พักTOKYO KEIO PLAZA HOTEL หรือโรงแรมระดับเทียบเท่า
Day 4 9 พฤศจิกายน 2565
ตลาดปลาซึกิจิ
วันที่ 4 เราเดินทางไปสู่ตลาดปลาเก่าแก่ขนาดใหญ่ใจกลางเมืองหลวง ตลาดปลาซึกิจิ ตลาดปลานี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือโซนตลาดปลาขายปลีกและร้านอาหาร ซึ่งส่วนนี้เราจะสามารถหาอาหารทะเลสดๆ ทานได้เลย และส่วนที่ 2 คือส่วนของตลาดประมูลปลา ซึ่งเป็นส่วนที่ร้านค้าส่งจะมาเจรจาธุรกิจกัน และด้วยความที่ตลาดแห่งนี้มีสินค้าเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลสด ไปจนถึงผลไม้ ทำให้ได้รับความนิยมจากเหล่านักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
เมืองชิบามาตะ
เมืองเก่ายุคโชวะ ตั้งอยู่ติดกับจังหวัดชิบะ เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นย่านเก่าสุดชิค สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเที่ยวสไตล์เมืองเก่าเป็นอย่างมาก
วัดชิบามาตะไทฉะคุเท็น
วันเก่าแก่ 400 ปี ตั้งอยู่ในคาสึชิคากุ เป็นส่วนหนึ่งของนิกายนิชิเร็ง อาคารส่วนใหญ่ของวัดนี้ถูกสร้างขึ้นหลังสมัยเมจิ มีการตกแต่งที่หรูหราสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หอไทฉะคุโด เป็นงานแกะสลักที่มีชื่อเสียงอย่างมาก โดยภาพแกะสลักมาจาก สุตราดอกบัว
ถนนไทฉะคุเท็นซันโด
หลังจากเที่ยววัดเก่าชิบามาตะไทฉะคุเท็นเสร็จแล้ว เราก็จะมาเดินเที่ยวย่านเมืองเก่าบนถนนไทฉะคุเท็นซันโด ที่นี่จะมีร้านค้า ร้านอาหารตั้งอยู่เรียงรายมากมาย ให้เราได้ชมวิถีการดำรงชีวิตของชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง เมื่อมาที่นี่แล้ว นอกจากการเดินเที่ยวชมสถานที่ หรือจะช้อปปิ้ง แต่ที่พลาดไม่ได้เลยคือการได้เอร็ดอร่อยกับขนมญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่มีชื่อว่า “วะงะชิ” ชื่อดังของชิบามาตะ และปลาไหลอุนางิ ของร้านอาหารเก่าแก่ที่เน้นขายปลาน้ำจืดโดยเฉพาะ
มื้อเที่ยงเราสามารถพักผ่อนตามอัธยาศัย โดยสามารถรับเงินคืนจากไกด์ได้ 3,000 เยน และเลือกรับประทานร้านอาหารที่ต้องการได้เลย
ย่านชินจูกุ
หลังจากนั้นเราจะเดินทางมายังย่านการค้าขนาดใหญ่ ชินจูกุ โดยที่นี่เราสามารถเพลิดเพลินกับการจับจ่ายซื้อสินค้าต่างๆ กับร้านชื่อดัง หรือจะเดินเที่ยวห้าง แลนด์มาร์ก หรือสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้อย่างเต็มที่ หากต้องการซื้อกล้อง รองเท้า เสื้อผ้า กระเป๋า รับรองเลยว่าที่นี่จะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน
มื้อเย็น เราจะไปรับประทานอาหารพิเศษสุด!! เมนูอัพเกรดชุดไคเซกิปูร้านดัง เสิร์ฟท่านด้วย ออเดิร์ฟขาปูดองน้ำส้ม ขาปูทอด ไข่ตุ๋นปู กราแตงปู ข้าวอบขาปู เครื่องเคียง ซุป และของหวาน
เมื่อทานอาหารเย็นเสร็จแล้วก็จะเดินทางเข้าสู่ที่พักTOKYO KEIO PLAZA HOTEL หรือโรงแรมระดับเทียบเท่า
Day 5 10 พฤศจิกายน 2565
สวนสนุกเซบุเอ็น
สวนสนุกแห่งนี้เปิดมาตั้งแต่ ค.ศ. 1950 และได้ปิดปรับปรุงในช่วงครบรอบ 70 ปีที่ผ่านมา และได้เปิดทำการใหม่อีกครั้งในวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 และการกลับมาครั้งนี้ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เพราะที่สวนสนุกแห่งได้เนรมิตถนนคนเดินในยุคโชวะขึ้นมาใหม่ เรียกว่า Sunset Hill Shopping Street และได้ปรับปรุงเครื่องเล่นสไตล์เรโทรให้เราได้ย้อนวัยไปเป็นเด็กอีกครั้ง อีกทั้งยังมีตัวละครชื่ออย่างก๊อดซิล่า ที่นี่อีกด้วย ยังมีจุดถ่ายรูปและความสนุกสนานต่างๆ มากมายให้เราได้สนุกสนานกัน ยังสามารถสนุกไปกับการจับจ่ายใช้สอยสไตล์ย้อนยุค
นอกจากถนนคนเดินย้อนยุคสไตล์โชวะแล้วเรายังสามารถเจอกับตัวละครชื่อดังในยุคโชวะอีกมากมายอีกด้วย เช่น เจ้าหนูอะตอม หรือ ก๊อดซิล่า ตามเครื่องเล่นต่างๆ ทำให้เราสามารถสนุกไปกับเครื่องเล่นมากมายเลย
ชิบุย่าสครัมเบิลสแควร์ – SHIBUYA SKY
ตึกชิบูย่าสครัมเบิลสแควร์ หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ Shibuya Sky เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กเปิดใหม่ที่เปิดมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2019 ทำให้ยังมีนักท่องเที่ยวหลายคนที่ยังไม่เคยไปที่นี่ ตึกชิบูย่าสครัมเบิลสแควร์นั้นนับได้ว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในย่านชิบูย่า มีความสูงถึง 230 เมตร และด้านบนสุดของตึกนี้เป็นจุดชมวิว ที่เรียกกันว่า Shibuya Sky นั่นเอง และนอกจากจุดชมวิวนี้แล้ว ที่นี่ยังมีร้านค้าต่างๆ ให้ช้อปปิ้งมากมายกว่า 213 ร้าน ช้อปปิ้งย่านชิบูย่า
หลังจากชมวิวกันเสร็จแล้ว เราก็ไปเดินช้อปปิ้งกันต่อที่ย่านฮาราจุกุ ย่านช้อปปิ้งชื่อดัง แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของวัยรุ่น เมื่อมาที่นี่เราสามารถซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นตามเทรนด์ญี่ปุ่น หรือจะช้อปปิ้งนำเทรนด์ก็มีเช่นกัน และยังสามารถเห็นวัยรุ่นญี่ปุ่นแต่งตัวแนวคอสเพลย์ หรืออื่นๆในช่วงวันอาทิตย์อีกด้วย
โอไดบะ
ช้อปปิ้งกันเสร็จแล้วเราก็เดินทางกันมาต่อที่เกาะโอไดบะ เกาะในโตเกียว โดยเกาะแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยฝีมือมนุษย์ โดยที่เกาะแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวและไฮไลท์ต่างๆ ที่น่าสนใจมากมายเลย
RAINBOW BRIDGE – ODAIBA LIBERTY
เมื่อมาถึงที่เกาะนี้เราก็มุ่งหน้าไปยังจุดชมวิวสะพานสายรุ้ง หรือ Rainbow Bridge ความพิเศษของที่นี่คือ เราสามารถชมวิวสะพานสายรุ้งไปพร้อมกับอนุเสาวรีย์เสรีภาพจำลอง เป็นไฮไลท์เด็ดที่ต้องมาถ่ายภาพให้ได้
DiverCity Tokyo Plaza
เมื่อชมวิวกันเสร็จแล้วก่อนจบทริปเราก็มุ่งหน้าไปช้อปปิ้งของฝากกันก่อนกลับไทยที่ ไดเวอร์ซิตี้ แหล่งช้อปปิ้งบนเกาะโอไดบะ และแวะทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัยที่นี่กันได้เลย หากใครที่ต้องการซื้อ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ต้องจัดก่อนกลับที่นี่เลย
เมื่อช้อปปิ้งกันเสร็จแล้ว เราก็ตรงกลับไปที่สนามบินนานาชาติฮาเนดะ ในช่วง 20.00 น. เพื่อเดินทางกลับประเทศ
ราคา
อัตรานี้รวม
อัตรานี้ไม่รวม
หมายเหตุ
โบรชัวร์
สามารถ Download ได้ที่นี่ (2.5MB)