คู่มือการเดินทางจาก Kansai International Airport (KIX) เข้าสู่โอซาก้าเมืองหลักของภูมิภาคคันไซ

08/09/2025
แนวทางการเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซ (Kansai International Airport - KIX)เข้าสู่เมืองหลักอย่างโอซาก้า ไม่ซับซ้อนนัก โดยตัวของสนามบินตั้งอยู่บนเกาะเทียมในอ่าวโอซาก้า ห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 40–50 กม. สามารถเดินทางด้วยวิธีต่างๆ เช่น รถไฟ รถบัส แท็กซี่ และการเช่ารถ ได้แสนสะดวกสบาย ถือเป็นอีกจังหวัดที่มีการคมคมสะดวก เหมาะกับนักเดินทางทุกประเภท
Contents Index
  1. 1 การเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) สู่เมืองโอซาก้า
    1. 1.1 ช่วงเวลาแนะนำ
  2. 2 วิธีเดินทางหลักจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) สู่เมืองโอซาก้า
  3. 3 JR Haruka Express
  4. 4 รถไฟด่วนพิเศษ Nankai Rapi:t α / β
  5. 5 รถไฟ JR Kansai-Airport Rapid
  6. 6 รถบัสลิมูซีน (Airport Limousine Bus)
  7. 7 รถเช่า (Rent-a-Car)
  8. 8 แท็กซี่เหมาคัน
  9. 9 บัตรโดยสารและพาสเดินทางสุดคุ้มจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) สู่เมืองโอซาก้า
    1. 9.1 ICOCA & Haruka
    2. 9.2 Kansai Thru Pass
    3. 9.3 JR West Kansai Area Pass
    4. 9.4 Nankai × Osaka Metro “Kanku Chikatoku Ticket”
    5. 9.5 การจองผ่าน Klook / KKday / Japan Experience
    6. 9.6 การจองผ่าน JR-West Online + E5489
    7. 9.7 การซื้อออนไลน์ Nankai E‑Ticket Site
    8. 9.8 การซื้อผ่าน Lawson/FamiMart (Loppi/Fami-Port)
  10. 10 วิธีสแกน QR และขึ้นขบวนจริง
  11. 11 ไฟลต์ดึก, ตี 1, ตี 2 ทำไงดี?
  12. 12 ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับสนามบินนานาชาติคันไซ Terminal 1
  13. 13 จากโอซาก้าแล้วไปเที่ยวต่อเมืองอื่นๆ ในภูมิภาคคันไซ
    1. 13.1 เกียวโต
    2. 13.2 โกเบ
    3. 13.3 นารา
    4. 13.4 วากะยามะ
    5. 13.5 ฮิเมจิ
  14. 14 เคล็ดลับสัมภาระ & Connectivity สนามบินนานาชาติคันไซ
    1. 14.1 บริการจัดส่งสัมภาระ (Luggage Delivery / Takkyubin)
    2. 14.2 Connectivity: Wi-Fi / eSIM / Pocket Wi-Fi
  15. 15 สรุป

เนื่องจากโอซาก้าเป็นเมืองใหญ่ และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกก็คิดตรงกันว่าการโดยสารรถไฟเป็นทางเลือกที่รวดเร็วและง่ายที่สุด สำหรับการเดินทางระหว่างสนามบินนานาชาติคันไซและใจกลางเมืองโอซาก้า ประกอบกับที่มีบริการรถไฟให้เลือกมากมาย นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกการเดินทางอื่นๆ ที่เอาไว้เป็นทางเลือกด้วย เช่น บริการรถลีมูซีนบัส รถเช่าขับเอง หรือรถแท็กซี่ ซึ่งอาจเหมาะสมกับการเดินทางในทริปในคันไซครั้งต่อไปของคุณก็เป็นได้

การเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) สู่เมืองโอซาก้า

จากสนามบินนานาชาติคันไซสู่เมืองโอซาก้า วิธีเดินทางยอดนิยมคือ รถไฟด่วน JR Haruka Express ซึ่งเชื่อมต่อสนามบินกับสถานีสำคัญอย่าง Tennoji, Shin-Osaka และ Kyoto โดยใช้เวลาประมาณ 30–50 นาที สะดวก รวดเร็ว และมีพื้นที่สำหรับกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ อีกทางเลือกที่ได้รับความนิยมคือ รถไฟ Nankai Airport Express ไปยังสถานี Namba  ใจกลางโอซาก้า ใช้เวลาราว 45 นาที เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่พักย่านช้อปปิ้ง ทั้งสองแบบสามารถใช้บัตร IC (เช่น ICOCA) หรือซื้อตั๋วล่วงหน้าออนไลน์ได้ ช่วยลดเวลาต่อคิวในวันเดินทางได้อีกด้วย

วิธีเดินทางปลายทางหลักใน Osakaเวลาเดินทางราคาโดยประมาณจุดเด่น
JR Haruka ExpressTennoji / Shin-Osaka30–50 นาที1,200–2,800 เยน หรือ 300–700 บาท
(โดยประมาณ)
มีความรวดเร็ว จองที่นั่งได้ และใช้ JR Pass ได้
Nankai Airport Express / RapitNamba40–50 นาที930–1,450 เยน
หรือ 205–320 บาท (โดยประมาณ)
มีที่เก็บกระเป๋า, สะดวกสำหรับสัมภาระที่มีขนาดใหญ่
Airport Limousine BusNamba / Umeda / Shin-Osaka
50–70 นาที
1,600 เยน
หรือ 220 บาท
(โดยประมาณ)
มีที่เก็บกระเป๋า, สะดวกสำหรับสัมภาระที่มีขนาดใหญ่
รถแท็กซี่ / Private Transferจุดหมายใดก็ได้ประมาณ 45–70 นาที18,000–25,000 เยน หรือ 3,958 – 5,500  บาท
(โดยประมาณ)
เหมาะสำหรับกลุ่มใหญ่ มีผู้สูงอายุเดินทางด้วย
รถเช่า (Self-Drive)สามารถเดินทางได้ไม่จำกัดเที่ยวประมาณ 50 นาทีประมาณ 50 นาที
แล้วแต่ระยะทางและเวลา
เหมาะกับเที่ยวแบบยืดหยุ่นได้

ช่วงเวลาแนะนำ

  • ช่วงเช้า (ก่อน 8.00 น.) ไฟลต์ขาเข้าเริ่มมีน้อย คนยังไม่แน่น รถไฟและรถบัส ยังไม่ถึงชั่วโมงเร่งด่วนในเมือง
  • ช่วงบ่าย (13.00–16.00 น.) พ้นช่วงเที่ยง คนท้องถิ่นยังไม่เลิกงาน นักท่องเที่ยวยังไม่แห่เดินทางเข้าเมืองพร้อมกัน

เวลาที่ควรหลีกเลี่ยง: 08.00–10.00 น.ในชั่วโมงเร่งด่วน คนญี่ปุ่นใช้รถไฟเข้าเมืองเพื่อไปทำงาน17.00–20.00 น.: ช่วงเย็นเป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่เลิกงาน นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเมืองพร้อมกัน โดยเฉพาะวันศุกร์–อาทิตย์ และวันหยุดของคนญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นมักจะเดินทางกันจำนวนมาก ดังนั้นหากเน้นคนน้อย สัมภาระไม่รบกวนผู้โดยสารท่านอื่น แนะนำให้เดินทางช่วงก่อน 8 โมงเช้า หรือบ่าย 1–4 โมงเย็นจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด

วิธีเดินทางหลักจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) สู่เมืองโอซาก้า

จากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) มีหลายวิธีเดินทางเข้าสู่ เมืองโอซาก้า (Osaka city) โดยขึ้นอยู่กับงบ เวลา และความสะดวกที่ต้องการ ผมสรุปเส้นทางหลักๆ หลายวิธีด้วยกัน

การเดินทางจาก สนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) เข้าสู่ตัวเมืองโอซาก้า (เช่น Tennoji, Shin-Osaka, Osaka Station) ด้วย JR Haruka Express เป็นตัวเลือกยอดนิยมทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและต่างชาติ โดยเฉพาะผู้ที่ถือบัตร IC หรือ JR Pass

JR Haruka Express

คือรถไฟด่วนพิเศษที่วิ่งระหว่างสนามบินนานาชาติคันไซ ไปยังจังหวัดเกียวโตและจังหวัดนาราโดยมีจุดจอดหลักในเมืองโอซาก้า ได้แก่ Tennoji Shin-Osaka และสถานี Osaka   

JR Haruka Express คืออะไร

คือรถไฟด่วนพิเศษที่วิ่งระหว่างสนามบินนานาชาติคันไซ ไปยังจังหวัดเกียวโตและจังหวัดนาราโดยมีจุดจอดหลักในเมืองโอซาก้า ได้แก่ Tennoji Shin-Osaka และสถานี Osaka 

ข้อดีของ JR Haruka Express

ข้อดีรายละเอียด
เร็วถ้าโรงแรมอยู่ใน Namba ต้องต่อรถไฟต่อจาก Tennoji
สะดวกขึ้นได้จากชานชาลาในตัวอาคารสนามบิน ไม่ต้องออกไปไกล
ตรงเวลาตรงเวลาตามแบบฉบับรถไฟญี่ปุ่น
ที่นั่งสะดวกสบายมีทั้งที่นั่งจอง (Reserved) และไม่จอง (Non-Reserved)
กระเป๋าใหญ่ขึ้นได้มีพื้นที่วางกระเป๋าขนาดใหญ่ในขบวน
ใช้ร่วมกับ JR Pass ได้ประหยัดถ้ามี Kansai Area Pass, JR West Pass ฯลฯ
มีตั๋วราคาประหยัดเช่น Haruka discount ticket (ICOCA & HARUKA หรือ Kansai Area Pass)


ข้อเสียของ JR Haruka Express

ข้อเสียรายละเอียด
จอดไม่ทุกที่ถ้าโรงแรมอยู่ใน Namba ต้องต่อรถไฟต่อจาก Tennoji
ราคาสูงกว่ารถไฟธรรมดาถ้าไม่มีพาสหรือตั๋วลดราคา ราคาปกติอาจสูง
บางประเภทต้องจองล่วงหน้าออนไลน์เช่น ตั๋วแบบ West QR
ไม่ใช่ขบวนสุดท้ายถ้ามาถึงดึกมาก ต้องใช้แท็กซี่หรือ Nankai แทน

ระยะเวลาและค่าโดยสาร

เส้นทางเวลาที่ใช้ราคาปกติ
KIX → Tennojiประมาณ 30 นาทีประมาณ 1,200 เยน
KIX → Shin-Osakaประมาณ 50 นาทีประมาณ 2,330 เยน
KIX → Osaka Stationประมาณ 55 นาทีประมาณ 2,380 เยน

ช่องทางซื้อตั๋ว JR Haruka Express แบบราคาประหยัด (West QR / Online)

JR West Online Reservation (e5489) รองรับภาษาอังกฤษ ใช้บัตรเครดิตต่างประเทศได้ และ JR West Haruka Discount Ticket (West QR) เป็น QR Code ที่สามารถซื้อล่วงหน้าแบบออนไลน์ และสแกนเข้าเกตได้เลย  ลิงก์นี้ JR West Haruka Discount QR

West QR Ticket คืออะไร? เป็นตั๋วรถไฟราคาประหยัด ที่สามารถใช้ QR Code เข้าเกตโดยไม่ต้องไปรับตั๋วจริง ต้องซื้อออนไลน์ล่วงหน้า ใช้ได้เฉพาะผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติ (แสดงพาสปอร์ตที่สถานี) และไม่มีที่นั่งจอง ต้องใช้ Non-Reserved seat เท่านั้น แต่หากต้องการที่นั่งจอง ต้องซื้อต่างหากที่ตู้/เคาน์เตอร์ JR เท่านั้น

เทคนิคในการใช้ JR Haruka Express อย่างคุ้มค่า

เทคนิคในการใช้ JR Haruka Expressรายละเอียด
ซื้อตั๋ว West QR ผ่านเว็บ JR Westประหยัดกว่าตั๋วปกติหลายร้อยเยน
ถ้าเดินทางหลายวันในคันไซ แนะนำให่ใช้ Kansai Area Passขึ้นได้จากชานชาลาในตัวอาคารสนามบิน ไม่ต้องออกไปไกล
หลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วน (7.00–9.00 น. และ 17.00–19.00 น.)
เพื่อความสบายในการหาที่นั่ง
ใช้ แอป NAVITIME หรือ Google Mapsตรวจสอบเวลารถไฟ และชานชาลาล่วงหน้า
ถ้ามีกระเป๋าใหญ่ เลือกขบวนที่มี Luggage SpaceHaruka มีชั้นวางกระเป๋าที่ปลอดภัย

รถไฟด่วนพิเศษ Nankai Rapi:t α / β

การเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซ  (KIX) เข้าสู่ตัวเมืองโอซาก้า โดยเฉพาะย่าน Namba นั้น หากเดินทางด้วยรถไฟด่วน Nankai Rapi:t α / β ก็เป็นตัวเลือกยอดนิยมอีกเส้นทางหนึ่ง โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าพักตามโรงแรม หรือสนใจท่องเที่ยวในย่าน Namba, Dotonbori และ Shinsaibashi

Nankai Rapi:t β / α คืออะไร
คือรถไฟด่วนพิเศษ (Limited Express) ของ Nankai Electric Railway ที่ให้บริการระหว่างสนามบินนานาชาติคันไซไปยังสถานี Namba ที่ตั้งอยู่ใจกลางโอซาก้า ตัวรถมีดีไซน์โค้งมนแบบแคปซูลอวกาศ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่วนที่นั่งสามารถจองล่วงหน้าได้ทุกที่นั่ง

Nankai Rapi:t α / β  ต่างกันอย่างไร?

รายการRapi:t αRapi:t β
จุดเด่นจอดน้อยสถานี – ถึงเร็วกว่าจอดหลายสถานีระหว่างทา
เวลาเดินทางประมาณ 34 นาทีประมาณ 39 นาที
จำนวนรอบให้บริการ ช่วงเช้า–เย็นให้บริการตลอดวัน
สถานีที่จอดKIX, Izumisano, Shin-Imamiya, Nambaจอดเพิ่มเช่น Tengachaya

เวลารถไฟ
ทุก 30 นาที – 1 ชั่วโมง (ช่วงเร่งด่วนมีถี่ขึ้น)  เวลาให้บริการตั้งแต่ 6.00 – 23.00 น. ตรวจสอบตารางเวลาล่าสุดได้ที่นี่ https://www.howto-osaka.com

ค่าโดยสาร

ประเภทตั๋วผู้ใหญ่เด็ก
ตั๋วปกติ Rapi:tประมาณ 1,450 เยนประมาณ 730 เยน

ช่องทางจองตั๋วออนไลน์ (มี QR ใช้เข้าได้เลย)

  • Nankai Official (Howto-Osaka.com) เป็นช่องทางที่จองง่าย สามารถรับ QR Code ใช้เข้าเครื่องสแกนผ่านประตูได้ทันที สามารถเลือกเวลารถไฟและที่นั่งได้ล่วงหน้าและมีภาษาอังกฤษ  https://www.howto-osaka.com/en/ticket/ticket/
  • Klook / KKday มักมีส่วนลดพิเศษ (ตั๋วถูกกว่าหน้าสถานี) ซื้อล่วงหน้า แล้วรับเวาเชอร์ เพื่อไปแลกรับ QR ได้ที่เครื่องอัตโนมัติหรือตู้ เป็นวิธีการจองตั๋วแนะนำสำหรับคนที่ต้องการตั๋วราคาดีๆ
     

เทคนิคการซื้อตั๋วแบบ West Japan QR Pass
หากซื้อบัตรผ่าน Klook / KKday แล้วเป็นเวอร์ชัน QR Code แบบใหม่ (ใช้กับตู้ Nankai ได้เลย) เข้าเครื่องสแกน QR ได้ ไม่ต้องต่อคิวที่เคาน์เตอร์ สามารถจองที่นั่ง Rapi:t ได้ทันที (แนะนำจองล่วงหน้าโดยเฉพาะช่วงบ่าย–เย็น)

ข้อดีของ Nankai Rapi:t
มีความรวดเร็ว (โดยเฉพาะ Rapi:t α ใช้เวลาเพียง 34 นาที) ถึง Namba โดยตรง เป็นวิธีการเดินทางที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่พักและเที่ยวโซนทางทิศใต้ของเมืองโอซาก้า สามารถรองรับกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้ มีช่องทางจองออนไลน์แบบ QR ใช้เข้าได้ทันที ที่นั่งจองล่วงหน้าได้ สบายใจไม่ต้องกังวลเรื่องที่นั่ง เป็นขบวนที่เน้นความเร็ว และคนไม่เยอะ แนะนำให้ เลือก Super Seat ในตู้ 5‑6 หลีกเลี่ยงที่นั่งใกล้ประตูและตรงกลางขบวนจะได้โบกี้ที่ค่อนข้างเงียบสงบเลยแหละ


ข้อเสียของ Nankai Rapi:t
ไม่ครอบคลุม Osaka Wide Area เท่า JR (หากพักใกล้ Shin-Osaka หรือ Umeda อาจไม่สะดวก) ต้องเช็คเวลารถ (บางช่วงรอรถนาน) ไม่มีรวมใน JR Pass (ต่างจาก JR Haruka Express) ที่นั่งจองล่วงหน้าเท่านั้น เป็นวิธีการเดินทางที่ไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบวางแผน

รถไฟ JR Kansai-Airport Rapid

การเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) เข้าสู่ตัวเมืองโอซาก้า ด้วยรถไฟ JR Kansai-Airport Rapid เป็นตัวเลือกสำหรับนักเดินทางสายประหยัดที่สุดของ JR เหมาะสำหรับคนที่ไม่รีบร้อนมาก และมีจุดประสงค์ในการเดินทางที่ต้องการเชื่อมต่อกับ JR Loop Line เพื่อไปยังย่านต่างๆ ของโอซาก้า เช่น สถานี Osaka (Umeda), Namba (ต้องเปลี่ยนสาย), Tennoji เป็นต้น

JR Kansai-Airport Rapid คืออะไร
คือรถไฟของ JR West ที่วิ่งระหว่างสนามบินนานาชาติคันไซเข้าสู่ใจกลางเมืองโอซาก้า โดยไม่ต้องเปลี่ยนสายรถไฟ  เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าเดินทางมากกว่ารถไฟด่วนพิเศษ (Jr Haruka Express หรือ Nankai Rapi:t)

รายละเอียดหลักของ JR Kansai-Airport Rapid
เป็นขบวนรถไฟที่วิ่งระหว่างสนามบินนานาชาติคันไซไปยัง Kyobashi และ Tennoji ใช้เวลาเดินทางประมาณ 65 นาที ราคาประมาณ 1,210 เยน (ผู้ใหญ่) อาจจะวิ่งช้ากว่า Nankai Rapi:t และ Haruka เพราะจอดหลายสถานีไม่มีค่าตั๋วด่วนพิเศษ มีค่าใช้จ่ายแค่ค่าโดยสารปกติ ใช้บัตร IC (ICOCA, Suica ฯลฯ) ได้ มีจุดเด่นอยู่ที่ราคาถูกกว่ารถไฟด่วน Jr Haruka Express หรือ Nankai Rapi:t เดินทางเข้าสถานี Osaka  โดยตรง (สะดวกถ้าพักแถว Umeda) รถออกทุก 20–30 นาที

เวลาเดินทาง: หากเริ่มจาก KIX ไป Tennoji ใช้เวลาประมาณ 50 นาที และ KIX → Osaka Station ใช้เวลาประมาณ  65 นาที ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,210 เยน (ไม่มีที่นั่งจอง, นั่งตามที่ว่าง) รถออกทุก 20–30 นาที ใช้เวลาเดินทางนานกว่า Jr Haruka Express หรือ Nankai Rapi:t ประมาณ 30 นาที

เคล็ดลับในการเลือกนั่งแต่ละโบกี้
ขบวน JR Kansai-Airport Rapid จะมี 8 โบกี้ โดยโบกี้สำหรับผู้โดยสารจากสนามบินคือ โบกี้ 1–4 และโบกี้ 5–8 เป็นของรถสายท้องถิ่นที่จะถูกแยกออกกลางทาง ที่สถานี Hineno ถ้านั่งผิดโบกี้จะไปอีกเส้นทางให้ขึ้นโบกี้ 1–4 เพื่อไป Osaka ได้แน่นอน

รถบัสลิมูซีน (Airport Limousine Bus)

การเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) เข้าสู่ตัวเมืองโอซาก้าด้วย Airport Limousine Bus เป็นทางเลือกที่สะดวกสบายอีกวิธีหนึ่ง เหมาะสำหรับคนที่มีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หรือเดินทางเป็นครอบครัว ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นบันไดหรือเปลี่ยนรถไฟหลายครั้ง

Airport Limousine Bus คืออะไร
คือรถบัสรับ-ส่งผู้โดยสารวิ่งระหว่างสนามบินนานาชาติคันไซ เข้าสู่ใจกลางเมืองโอซาก้า โดยรถบัสลิมูซีนนี้จะให้บริการไปยังจุดท่องเที่ยวหลัก เช่นสถานี Osaka Station (Umeda), Namba (OCAT), Shin-Osaka และโรงแรมใหญ่ๆ ในตัวเมือง

จุดเด่นของ Airport Limousine Bus
ที่นั่งสบาย มีที่นั่งแบบจองตั๋ว ระยะห่างกว้างที่เก็บกระเป๋าใหญ่ ไม่ต้องแบกขึ้นรถให้รุงรัง จุดจอดระบุชัดเจนส่วนใหญ่จะมีพิกัดอยู่ใจกลางเมือง  เช่น Osaka Station (Umeda), Namba, Shin-Osaka เหมาะสำหรับครอบครัวหรือผู้สูงอายุและไม่ต้องขึ้นต่อรถหลายขบวนให้สับสน

รายละเอียดเส้นทางและเวลา
เส้นทางหลักยอดนิยมสนามบินนานาชาติคันไซ : ไปสถานี Osaka (Umeda) ใช้ระยะเวลาประมาณ 50–60 นาที ไปสถานี Namba (OCAT) ใช้ระยะเวลาประมาณ 50 นาที หรือไปสถานี Shin-Osaka ใช้ระยะเวลาประมาณ 70 นาที ความถี่ของรถมีทุก 20–30 นาที ราคาประมาณ 1,600 เยน (ผู้ใหญ่) และเด็กครึ่งราคา

วิธีซื้อตั๋ว
มีบริการที่เคาน์เตอร์ Limousine Bus ใน Arrival Hall ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ (รับเงินสด / IC Card เช่น ICOCA) และบางเส้นทางจองออนไลน์ได้ (เว็บไซต์หรือแอป)

จุดขึ้นรถที่สนามบิน

  • Terminal 1: ชั้น 1 (Arrival Floor) มีป้ายรถบัสอยู่ชัดเจน
  • Terminal 2: ป้ายรถบัสหน้าทางออกอาคาร

เทคนิคในการเลือกนั่ง Airport Limousine Bus
ถ้ากระเป๋าใหญ่กว่า 28 นิ้ว แนะนำรถบัสมากกว่ารถไฟ ส่วนช่วงดึก (หลัง 22:00) ยังมีบางเส้นทางให้บริการ แต่ความถี่น้อยลง และบางเส้นทางมี จองออนไลน์พร้อม QR Code เพื่อไม่ต้องรอต่อคิว แต่ก็มีข้อควรระวังเล็กน้อยเพราะอาจเจอรถติดได้ โดยเฉพาะหากเจออุบัติเหตุ ช่วงเย็นเวลาเลิกงาน หรือวันหยุดยาวของชาวญี่ปุ่นพอดี ต้องเผื่อเวลาเพิ่มถ้าต่อเที่ยวบินหรือมีกำหนดเวลาชัดเจน และความเร็วไม่เท่ารถไฟด่วนพิเศษ (Jr Haruka Express หรือ Nankai Rapi:t)นอกจากนั้นถ้ากระเป๋าใหญ่กว่า 28 นิ้ว แนะนำรถบัสมากกว่ารถไฟ หากเดินทางช่วงดึก (หลัง 22.00น.) ยังมีบางเส้นทางให้บริการ แต่ความถี่น้อยลง ต้องเช็คตารางให้ดีๆ แและบางเส้นทางมี จองออนไลน์พร้อม QR Code เพื่อไม่ต้องรอต่อคิวซื้อที่ตู้หน้าอีกด้วย

รถเช่า (Rent-a-Car)

การเช่ารถจากสนามบินนานาชาติคันไซ เข้าสู่ใจกลางเมืองโอซาก้า นั้นเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักเดินทางที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัวและการขับรถท่องเที่ยวด้วยตัวเอง แต่การเช่ารถขับเองก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย รวมทั้งเงื่อนไขเฉพาะที่ควรทราบก่อนตัดสินใจดังนี้

การเช่ารถขับเองจากสนามบินนานาชาติคันไซไปเที่ยวในโอซาก้าสำหรับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว 3–5 คน พร้อมสัมภาระ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพียงแต่ต้องพิจารณาความคุ้มค่าให้มากขึ้นสักหน่อย เนื่องจากถ้าเน้นเที่ยวในตัวเมืองโอซาก้า อาจจะต้องพิจารณาเรื่องการจราจร ที่จอดรถ รวมทั้งค่าจอดรถไปพร้อมกันด้วย แต่การเช่ารถขับเที่ยวเองจะเหมาะมากถ้าคุณมีแผนเที่ยวหลายเมืองรอบโอซาก้า เช่น นารา, โกเบ, วากะยามะ, เกียวโต หรือการเที่ยวชมธรรมชาติที่เข้าถึงยากหากเดินทางด้วยรถไฟ

เส้นทางขับจากสนามบินนานาชาติคันไซไปเที่ยวในโอซาก้า
มีระยะทางประมาณ 50 กม. ใช้เวลาประมาณ 50–70 นาที (ขึ้นกับจราจร) โดยใช้เส้นทางหลัก Hanshin Expressway ต้องจ่ายค่าทางด่วน ราวๆ 1,800 เยน

การเช่ารถขับนั้นมีค่าใช้จ่ายโดยประมาณดังนี้

รายการราคา
ค่าเช่ารถ (Compact Car)6,000–10,000 เยน/วัน
ค่าน้ำมัน1,000–1,500 เยน
ค่าทางด่วน (ETC)1,500–2,000 เยน
1,500–2,000 เยนค่าที่จอดรถ1,500–3,000 เยน/วัน ในเมืองใหญ่
ค่าประกันภัย1,000–2,000 เยน/วัน

หมายเหตุ : ถ้าอยู่ในโอซาก้า 2–3 วัน ส่วนใหญ่ไม่คุ้ม เมื่อเทียบกับรถไฟ เพราะค่าจอดแพง (500–800 เยน/ชม., 2,000 เยน/วันโดยประมาณ)

ข้อดีข้อเสีย
สะดวกถ้าเดินทางกับครอบครัว + กระเป๋าเยอะที่จอดรถในโอซาก้าแพงและหายาก
ไปหลายจุดนอกเมือง เช่น Kobe, Nara, Wakayama ระหว่างทางการจราจรหนาแน่น (โดยเฉพาะรอบ Umeda, Namba)
ไม่ต้องลากกระเป๋าในรถไฟต้องมี International Driving Permit (IDP)
ทางด่วนมีหลายจุดซับซ้อน  ควรใช้ GPS หรือแอปนำทาง (Google Maps, NAVITIME)


บริษัทให้เช่ารถแนะนำที่สนามบินนานาชาติคันไซ มีดังนี้

  • Toyota Rent a Car
  • Nippon Rent a Car
  • Times Car Rental
  • ORIX Rent-A-Car
  • Nissan Rent a Car

 โดยจุดรับรถอยู่ Terminal 1, ชั้น 1 (Arrival Hall) แล้วนั่ง Shuttle bus ไปที่จุดรับรถ
ส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่ 07.00–22.00 น.

เอกสารที่ต้องใช้สำหรับเช่ารถและขับรถมีดังนี้

  • บัตรเครดิต สำหรับมัดจำ
  • หนังสือเดินทาง
  • ใบขับขี่สากล (IDP) ตามอนุสัญญาเจนีวา 1949

แท็กซี่เหมาคัน

การใช้แท็กซี่เหมาคันจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) เข้าสู่ใจกลางเมืองโอซาก้าเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสูงสุด โดยเฉพาะถ้ามีกระเป๋าเยอะหรือเดินทางเป็นกลุ่ม แต่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่ารถไฟมาก

เวลาและระยะทาง

  • ระยะทาง: ประมาณ 50 กม.
  • เวลาเดินทาง: 50–70 นาที (ขึ้นอยู่กับจราจร โดยเฉพาะเส้นทางเข้าสู่ Umeda/Namba)

ค่าโดยสาร (เหมาคัน)

ประเภทราคาโดยประมาณ
แท็กซี่ปกติ (4 ที่นั่ง)16,000–20,000 เยน
Jumbo Taxi (6–9 ที่นั่ง)20,000–28,000 เยน
รถหรู (Alphard, HiAce VIP)25,000–35,000 เยน
ค่าทางด่วน (รวมในแพ็กเกจ)ส่วนใหญ่รวมแล้ว

หมายเหตุ : ราคานี้เป็นแบบเหมาคัน ไม่คิดตามมิเตอร์ เหมาะสำหรับ 3–6 คนจะเริ่มคุ้มค่ากว่ารถไฟ

ข้อดีข้อเสีย
ไม่ต้องเปลี่ยนสายรถไฟหรือขนกระเป๋าหลายครั้งแพงมากถ้าเดินทางแค่ 1–2 คน
เดินทางตรงถึงโรงแรมรถติดช่วงเร่งด่วน
สะดวกมากสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มใหญ่
ต้องจองล่วงหน้า โดยเฉพาะถ้าต้องการรถใหญ่

บริษัทรถแท็กซี่ผู้ให้บริการยอดนิยม มีดังนี้

  • MK Taxi (เอ็มเคแท็กซี่)
  • Nihon Kotsu
  • Kansai Airport Private Transfer (บริการออนไลน์ เช่น Klook, KKday)

หมายเหตุ : สามารถจองออนไลน์ และชำระล่วงหน้า (รวมคนขับพร้อมป้ายรอที่ Arrival Hall)
ถ้าเรียกแท็กซี่หน้างาน ค่ามิเตอร์อาจสูงกว่าเหมาจองมาก่อนเดินทาง

บัตรโดยสารและพาสเดินทางสุดคุ้มจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) สู่เมืองโอซาก้า

หากคุณกำลังมองหาบัตรโดยสารหรือพาสเดินทางที่คุ้มค่าสำหรับการเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) สู่เมืองโอซาก้า นี่คือทางเลือกยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวใช้กันมีแนะนำดังต่อไปนี้

ICOCA & Haruka

ICOCA & Haruka Combo Ticket คืออะไร?
เป็นข้อเสนอแบบพิเศษจาก JR West สำหรับผู้ถือวีซ่า Temporary Visitor (นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้า-ออกระยะสั้น) เท่านั้น โดยบัตรนี้ประกอบด้วย
1.ตั๋ว Haruka Express แบบลดราคา (ไป–กลับ หรือ เที่ยวเดียว) จากสนามบินคันไซ (KIX) ไปยัง Tennoji หรือ Shin‑Osaka (หรือ Kyoto)และ
2.บัตร ICOCA มูลค่า 2,000 เยน โดยมี  1,500 เยน เป็นเครดิตใช้งาน และ 500 เยนเป็นมัดจำที่ได้เงินคืนได้ภายหลัง

วิธีแลก ICOCA และ เงื่อนไขการใช้ Haruka แบบ non‑reserved seat สำหรับผู้ถือบัตร ICOCA & Haruka Combo  

วิธีแลกบัตร ICOCA (Exchange ICOCA)

  • หากคุณซื้อ ICOCA & Haruka ผ่าน JR-WEST ONLINE TRAIN RESERVATION หรือซื้อ E‑TICKET จากตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ เมื่อเดินทางมาถึง สนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) ให้ไปที่เครื่องจำหน่ายตั๋วหรือเคาน์เตอร์ JR Ticket Office เพื่อ แลก E‑TICKET เป็นบัตรกระดาษ Haruka พร้อมบัตร ICOCA
  • ต้องแสดง พาสปอร์ต และหากเป็นการแลกล่วงหน้าทางออนไลน์ ต้องใช้รหัสจอง, หมายเลขประจำตัว (PIN 4 หลัก), บัตรเครดิตที่ใช้จ่าย และพาสปอร์ต ตอนรับตั๋ว  
  • สำหรับเส้นทาง KIX ไปยังสถานี Osaka, Shin‑Osaka, Kyoto, Tennoji ฯลฯ แนะนำใช้ เครื่องแลกรถไฟเฉพาะ (dedicated ticket machine) ที่สถานี KIX เพื่อความสะดวก  
  • บัตร ICOCA มีเงินมัดจำ 500 เยน รวมกับเครดิตใช้งาน 1,500 เยน  

เงื่อนไขการใช้ Haruka แบบ Non‑Reserved Seat

  • เมื่อซื้อ ICOCA & Haruka Combo จะได้ Haruka ตั๋วแบบ non‑reserved seat เท่านั้น (คือแบบนั่งไม่ระบุที่นั่ง) 
  • คุณสามารถขึ้น Haruka ทุกขบวนในช่วงเวลาที่ระบุในใบตั๋ว โดยไม่จำเป็นต้องระบุเวลาเดินทางที่แน่นอนก่อน (ข้อจำกัดคือเดินทางภายในวันเดียวกัน)  
    “If you select ‘Non‑reserved seat’, you can board any train of Limited Express Haruka during the day regardless of the time you specify.” 
  • หากต้องการจองที่นั่งแบบ reserved seat เพิ่มเติม สามารถทำได้ภายหลังที่ ตู้จำหน่ายตั๋ว JR หรือเคาน์เตอร์ JR station หลังจากแลกตั๋วแล้ว  
  • หากขบวนที่คุณต้องการขึ้น reserved car เต็ม คุณสามารถใช้ non‑reserved car ด้วยตั๋วที่มีได้ (แต่ไม่สามารถใช้ reserved seat ในขบวนอื่นได้)

ประโยชน์ของ ICOCA  ความสะดวกสูง ใช้งานง่ายไม่ต้องซื้อตั๋วซ้ำทุกครั้ง เพียงแตะบัตรเพื่อขึ้น-ลงรถไฟ รถเมล์ หรือรถไฟใต้ดินในภูมิภาคคันไซ จะคำนวนค่าบริการให้โดยอัตโนมัติ  สามารถใช้จ่ายในร้านค้าต่างๆ เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านขายยา ฯลฯ ที่รองรับ e-money ได้โดยตรง (McDonald’s, CoCo Ichibanya, Matsumoto Kiyoshi ฯลฯ) รองรับทุกสาย JR West, รถไฟเอกชน (Hankyu, Hanshin, Kintetsu, Nankai, Keihan), รถไฟใต้ดิน และรถบัสในพื้นที่ เช่น Kyoto, Kobe, Osaka ฯลฯ

ประโยชน์ของตั๋ว Haruka แบบ non‑reserved seat ความยืดหยุ่นสูงใช้ได้กับขบวน Haruka ทุกเที่ยวในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องกำหนดเวลาที่จะเดินทางก่อนล่วงหน้า มาเมื่อไหร่ก็ขึ้นได้ (within the same day) ง่ายต่อการเดินทางไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาเดินทางล่วงหน้า เพียงแสดงตั๋ว Haruka และขึ้นขบวนได้เลย (เฉพาะ non‑reserved car) ซึ่งสายนี้มีให้เลือกหลายขบวนตลอดวัน

Kansai Thru Pass

รายละเอียดเกี่ยวกับ Kansai Thru Pass พร้อมโครงสร้างการใช้งาน และส่วนลดในแลนด์มาร์กท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ในภูมิภาคคันไซ 

โครงสร้างพาส (2‑day / 3‑day Kansai Thru Pass)
มี 2 แบบ: แบบ 2 วัน ราคา: ผู้ใหญ่ ประมาณ 4,300‑4,400 เยน / เด็ก ประมาณ 2,150‑2,200 เยน
และแบบ 3 วัน ราคา: ผู้ใหญ่ ประมาณ 5,300‑5,500 เยน / เด็ก ประมาณ 2,650‑2,750 เยน
– ใช้งานได้ภายในช่วงอายุพาส (นานถึง 14 เดือนจากวันซื้อ) และเลือกใช้วันไม่จำเป็นต้องต่อเนื่องกันก็ได้
– พาสนี้สำหรับชาวต่างชาติที่ถือวีซ่าพำนักระยะสั้น และต้องแสดงพาสปอร์ตตอนซื้อหรือแลกตั๋วจริง

เส้นทางที่ครอบคลุม
– ครอบคลุมทั้งบริการของรถไฟเอกชน (Hankyu, Hanshin, Keihan, Kintetsu, Nankai ฯลฯ), รถไฟใต้ดิน (Osaka/Kyoto/Kobe), รถราง, โมโนเรล และรถบัสท้องถิ่นจากบริษัทที่ร่วมรายการ (ไม่รวม JR และ Shinkansen)
– รถบัสในเมืองต่างๆ (เช่น Kyoto, Osaka, Nara ให้ขอบเขตจำกัดตามพาส) ครอบคลุมหลายบริษัท
– หากต้องนั่งรถด่วนพิเศษ (Limited Express) เช่น Nankai Rapi:t หรือ Kintetsu Limited Express ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเสริมเพิ่มเอง
– นอกจากนี้ผู้ใช้พาสมักได้รับคู่มือแผนที่เส้นทางบุ๊กเลตหรือสมุดคูปองส่วนลดต่างๆ

ส่วนลดสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในโอซาก้า และใช้เป็นส่วนลดต่างๆ

  • พาสนี้มาพร้อม คูปองส่วนลดหรือสิทธิพิเศษกว่า 260–350 แห่ง เช่น ร้านอาหาร, พิพิธภัณฑ์, ออนเซ็น, วัด/ศาลเจ้า, สวนสนุก ฯลฯ
  • ตัวอย่างสิทธิพิเศษ:
  • ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle Tower): จาก  600 เยนเหลือ 540 เยน
  • ล่องเรือ Lake Biwa: ลด 15%
  • ออนเซ็น Wakayama Kada Kaigetsu: ผู้ใหญ่ 50% เหลือ 600 เยน, เด็ก 700 เยน  350 เยน
  • ต้องใช้คูปองในวันที่พาสถูกใช้งาน (วันใดวันหนึ่ง)
  • สามารถเชื่อมบัตรกับแอพ Kansai Thru Pass เพื่อดูเส้นทาง, แผนที่, คูปอง และข้อมูลเพิ่มเติมระหว่างเดินทางได้ด้วย

 เหมาะกับใคร และเมื่อใดควรเลือกใช้

หากเที่ยวเมืองภายในภูมิภาคคันไซ อย่างโอซาก้า, เกียวโต, โกเบ, นารา, วากะยามะ, ชิกะ และโคยะซัง (เคเบิล/รถบัสร่วม) บนเส้นทางที่ไม่ใช่ JR เรียกได้ว่าเป็นพาสที่คุ้มค่ามาก 

  • ผู้ที่เดินทางไปเที่ยววันละหลายเมือง หรือใช้บริการโครงข่ายรถบัสหลายบริษัท ถือว่าได้ความคุ้มมากขึ้น 
  • แต่ถ้าเน้นเส้นทาง JR (เช่น ไป Himeji, Kyoto โดย Shinkansen หรือ JR Rapid) หรือเที่ยวเพียงภายในเมืองเดียว เช่น Osaka ระบบ JR อาจเหมาะกว่าด้วย JR Kansai Area Pass

JR West Kansai Area Pass

บัตรโดยสารสุดคุ้มสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ถือวีซ่า Temporary Visitor  และผู้ที่วางแผนเที่ยว โอซาก้า, เกียวโต, นารา, โกเบ, ฮิเมจิ ภายในไม่กี่วัน

ใช้เดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) สู่เมืองโอซาก้า ยังไง?

  • ใช้กับรถไฟ JR Kansai-Airport Express “Haruka” (แบบไม่จองที่นั่ง) ได้เลย
  • จาก สนามบินคันไซ ไปยังสถานี Tennoji / Osaka / Shin-Osaka โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
  • ใช้กับรถไฟ JR ธรรมดาทั่วภูมิภาคคันไซได้ไม่จำกัด
จำนวนวันราคาโดยประมาณ
1 วัน2,800 เยน
2 วัน4,800 เยน
3 วัน5,800 เยน
4 วัน7,000 เยน

JR West Kansai Area Passใช้ได้กับรถอะไรบ้าง?
สามารถใช้กับรถไฟ JR West (Local, Rapid, Special Rapid) รถ JR Haruka (แบบไม่จองที่นั่ง) และรถไฟในเส้นทางคันไซ เช่น โอซาก้า เกียวโต นารา โกเบ วากะยามะ แต่ไม่สามารถใช้กับรถไฟชินคันเซ็น รถด่วนที่ต้องจองที่นั่ง (เว้น Haruka แบบไม่จอง) และรถไฟเอกชน เช่น Nankai, Hankyu (เว้นแต่มีบัตรเสริมร่วม)

จุดรับบัตร / แลกบัตร JR West Kansai Area Pass
ถ้าซื้อออนไลน์ รับเป็น QR code แล้วนำไปแลกบัตรจริงได้ที่ Kansai Airport Station และ Osaka Station, Shin-Osaka Station, Kyoto Station ฯลฯ

JR West Kansai Area Pass เหมาะกับใคร?
เหมาะกับคนที่เดินทางเข้าเมืองจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) สู่เมืองโอซาก้า และสำหรับคนที่วางแผนเที่ยวหลายเมืองในคันไซภายใน 1–4 วัน และคนที่อยากประหยัดค่ารถ JR และใช้บัตรแบบที่มีเงื่อนไขไม่ซับซ้อนนัก


Nankai × Osaka Metro “Kanku Chikatoku Ticket”

อีกหนึ่งตัวเลือกสุดประหยัดและสะดวกมากๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) เข้าเมืองโอซาก้า และใช้รถไฟใต้ดิน Osaka Metro แบบไม่จำกัดเที่ยวในวันเดียวกัน เป็นบัตรโดยสารที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้าโอซาก้าด้วย Nankai Line จากสนามบินต้องการใช้ รถไฟใต้ดิน Osaka Metro และรถ New Tram แบบไม่จำกัดเที่ยวภายในวันเดียวกัน


รูปแบบการเดินทาง
เส้นทางเข้าเมืองจากสนามบินนานาชาติคันไซ มายังสถานีหลักในโอซาก้า เช่น Namba ด้วย Nankai Airport Line (เลือกแบบ Local หรือ Rapid) เมื่อถึงโอซาก้า ให้ใช้ Osaka Metro เดินทางต่อได้ทั้งวันแบบไม่จำกัดเที่ยว าคาเพียง 1,000 เยนเท่านั้น เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีมักขึ้นฟรี  ใช้ได้ภายในวันเดียวกันเท่านั้น (นับตั้งแต่เริ่มใช้รถไฟ Nankai) 

ขั้นตอนการซื้อตั๋ว Kanku Chikatoku Ticket ผ่านตู้จำหน่ายอัตโนมัติที่สนามบินคันไซ (KIX) พร้อมเงื่อนไขในการคืนตั๋วมีดังนี้

ขั้นตอนการซื้อตั๋วผ่านตู้อัตโนมัติที่นามบินนานาชาติคันไซ

  1. มองหาตู้จำหน่ายตั๋วของ Nankai อยู่ใกล้กับทางเข้าสถานี Nankai (ชั้น 2F อาคาร Aeroplaza)
  2. เลือกภาษา (English / 日本語 / 中文 / ภาษาไทย อาจมีในบางตู้)เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
  3. เลือกตั๋ว “Kanku Chikatoku Ticket” ในหน้ารายการตั๋วพิเศษหรือ “Discount Tickets”
  4. เลือกจำนวนผู้โดยสาร กดจำนวนคนที่จะเดินทาง
  5. ชำระเงิน จ่ายด้วยเงินสด (เหรียญหรือธนบัตรเยน) หรือบางตู้รองรับบัตรเครดิต แต่ ไม่ทุกตู้
  6. รับตั๋ว + ใบบันทึกข้อมูลการใช้ Metro (มักแนบมา) เก็บตั๋วไว้ใช้กับ Nankai และนำส่วนที่เกี่ยวกับ Osaka Metro ไปสอดที่ช่องตรวจตั๋วใต้ดิน (ใช้ได้วันเดียว)

เงื่อนไขการคืนตั๋ว Nankai × Osaka Metro “Kanku Chikatoku Ticket
ในกรณีที่ยังไม่ใช้ตั๋ว : สามารถขอคืนเงินได้ โดยต้องคืนตั๋วที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วของ Nankai Railway ภายในสถานีมีค่าธรรมเนียมการคืนประมาณ 210 เยน/ใบ ต้องคืนก่อนวันหมดอายุ 
ในกรณีที่ใช้ตั๋วไปบางส่วนแล้ว : ไม่สามารถขอคืนเงินได้ ยกตัวอย่างเช่น ใช้ Nankai แล้วแต่ยังไม่ได้ใช้ Metro จึงขอคืนไม่ได้
หมายเหตุ : ตั๋วมักมีอายุประมาณ 1–2 สัปดาห์หลังจากซื้อ หากยังไม่ใช้

ต่อ Wi-Fi / eSIM พร้อมจองพาส จากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) สู่เมืองโอซาก้า ”(H3)
หากคุณกำลังวางแผนเดินทางจาก สนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) เข้าเมืองโอซาก้า และอยากจัดการทุกอย่าง “ตั้งแต่ก้าวแรกที่ลงเครื่อง” เช่น การต่อ Wi-Fi / ติดตั้ง eSIM แล้วจองพาสเดินทางราคาประหยัด พร้อมกับการเดินทางเข้าเมืองทันที

แพ็กเกจยอดนิยม “Wi-Fi / eSIM + พาสเดินทางเข้าโอซาก้า”

1. จองล่วงหน้าแบบรวมทุกอย่าง (ผ่านแอปหรือเว็บไซต์ เช่น Klook, KKday)

รายการรายละเอียด
Wi-Fi Pocketรับเครื่องที่สนามบินนานาชาติคันไซ มีทั้งแบบ 4G / 5G ใช้งานได้ทั้งกลุ่ม
eSIM ญี่ปุ่นซื้อเป็น QR code ส่งทางอีเมล ใช้งานทันทีหลังลงเครื่อง

จุดรับ Wi-Fi / แลกพาสที่สนามบินนานาชาติคันไซ

  • Terminal 1 ชั้น 1 และ 2 (ใกล้ Arrival Gate)
  • JR West Ticket Office
  • Nankai Ticket Office
  • จุดรับ Wi-Fi ของ Klook, Ninja WiFi, Global WiFi ฯลฯ
  • เอกสารที่ต้องใช้ 
  • พาสปอร์ต (สำหรับแลกพาส)
  • QR code หรือหมายเลขจอง (Wi-Fi / eSIM)

การจองผ่าน Klook / KKday / Japan Experience

1. Klook
ตัวเลือกยอดนิยม: JR Haruka Airport Express Ticketจองออนไลน์ล่วงหน้าใช้ QR code สแกนเข้าเกทได้เลย ไม่มีตั๋วกระดาษ  สามารถยกเลิกได้เต็มจำนวน หากยังไม่ถูกใช้และอยู่ในช่วงเวลาคืนเงินได้ และอีกตัวเลือกคือ Limousine Bus จากสนามบินนานาชาติคันไซ ไปยังตัวเมืองโอซาก้าหรือย่านนัมบะ โดยสามารถจองก่อนแล้วค่อยไปแลกตั๋วที่สนามบิน ซึ่งมีบริการสะดวกสบายพร้อมที่เก็บกระเป๋า 

วิธีใช้ QR Code:

  1. จองผ่านแอป Klook
  2. จะได้รับ Voucher พร้อม QR code ทางแอปพลิเคชั่น
  3. สแกนที่เครื่อง Haruka e-ticket หรือที่ประตูเข้า (สำหรับ Haruka) หรือแลกเป็นตั๋วกระดาษที่จุดแลก (สำหรับรถบัส)
  4. ใช้เดินทางได้ทันที

2. KKday
ตัวอย่างพาสที่สามารถจองผ่าน KKday ได้อย่าง KANSAI RAILWAY PASS (แบบ 2 วัน หรือ 3 วัน)  ใช้เดินทางไม่จำกัดในแถบคันไซ (แต่ไม่รวม JR Pass)  รับ e‑voucher แล้วนำไปแลกพาสจริงที่จุดแลกในญี่ปุ่น โดยมีส่วนลดที่น่าสนใจ เช่นการใช้โค้ด APP5OFF บนแอป KKday เพื่อรับส่วนลด 5% (ขึ้นกับโปรโมชั่นช่วงนั้น)


3. Japan Experience
สามารถเลือกใช้แพลตฟอร์ม Japan Experience สำหรับการวางแผนล่วงหน้า เช่นจอง JR Pass ต่างๆ ได้  

การจองผ่าน JR-West Online + E5489

ระบบที่ให้ผู้โดยสารสามารถจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ของ JR-West ได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะขบวนที่ต้องจองที่นั่ง เช่น Shinkansen หรือ Limited Express (เช่น Haruka, Thunderbird, Kuroshio ฯลฯ)

ขั้นตอนจองตั๋วออนไลน์ (JR-West + E5489)   

วิธีการนี้สามารถใช้สำหรับการซื้อตั๋วปกติ กับพาสบางประเภท เช่น ICOCA & Haruka 

  1. เข้าเว็บไซต์
    JR-West Online Train Reservation (ภาษาอังกฤษ)
    (https://www.westjr.co.jp/travel-information/en/tickets-passes)
  2. เลือก “Train Reservation” > “Make a New Reservation”
  3. สมัครสมาชิก (ครั้งแรกเท่านั้น)
    กรอกอีเมล / ตั้งรหัสผ่าน / ข้อมูลพาสปอร์ต หลังจากนั้น ระบบจะให้ยืนยันตัวตนทางอีเมล
  4. เลือกเที่ยวรถไฟ
  • กำหนดต้นทาง: Kansai Airport
  • ปลายทาง: Tennoji / Osaka / Shin-Osaka
  • เลือกประเภท: Limited Express “Haruka”
  • เลือกวันเวลาเดินทาง / ขบวนรถ / ที่นั่ง (Reserved/Non-reserved)
  1. เลือกประเภทตั๋ว
    – ตั๋วธรรมดา
    – หรือแบบมีพ่วง ICOCA & Haruka (ลดราคา)
  1. ชำระเงินด้วยบัตรเครดิต (Visa/Master/JCB)
        – ได้รับ QR Code หรือ Reservation Number
  2. วิธีรับตั๋วจริงเมื่อถึงญี่ปุ่น
        –   รับจาก ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ (Ticket Machine) หรือ
  • รับที่ JR Ticket Office (Midori no Madoguchi) โดยใช้ QR / หมายเลขจอง + พาสปอร์ต + บัตรเครดิตที่ใช้จอง

เงื่อนไขการเปลี่ยนเที่ยวการเดินทาง มีดังนี้

  • เปลี่ยนขบวน/เวลา ได้ 1 ครั้ง ฟรี ก่อนวันเดินทาง
  • เปลี่ยนผ่านเว็บไซต์ E5489 ได้โดยตรง
  • หลังจากออกตั๋วแล้ว ต้องเปลี่ยนที่สถานีเท่านั้น

การซื้อออนไลน์ Nankai E‑Ticket Site

การซื้อตั๋วล่วงหน้าออนไลน์สำหรับรถไฟ Nankai Rapi:t จากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) ไปยังสถานีนัมบะ (Namba) สามารถทำได้ผ่านเว็บไซต์ Nankai E-Ticket โดยไม่ต้องสมัครสมาชิก เพียงเลือกเส้นทางและวันเวลาเดินทาง จากนั้นเลือกประเภทตั๋ว (Rapi:t α หรือ β / Reserved seat) กรอกชื่อผู้โดยสาร ชำระเงินด้วยบัตรเครดิต แล้วจะได้รับ QR Code ทางอีเมล ซึ่งสามารถนำไปสแกนที่เครื่องจำหน่ายตั๋วในสนามบินหรือยื่นที่เจ้าหน้าที่ Nankai ได้โดยตรงในวันเดินทาง ทั้งนี้สามารถจองล่วงหน้าได้สูงสุด 1 เดือน และเปลี่ยนเที่ยวได้ 1 ครั้งก่อนวันเดินทางผ่านลิงก์ในอีเมลยืนยัน

ส่วนขั้นตอนการสร้าง Wallet (เก็บ QR Code บนมือถือ)

  1. หลังจองตั๋วเสร็จ (ผ่าน Nankai / JR-West ฯลฯ) แล้วคุณจะได้รับ QR Code ทางอีเมล
  2. เปิดอีเมลบนมือถือ แล้วกดดาวน์โหลดหรือเซฟรูป QR หรือใช้ปุ่ม “Add to Apple Wallet” / “Google Wallet” (หากมี)หากไม่มี ให้แคปหน้าจอหรือเซฟ QR ไว้ในแอป Photo / Gallery
  3. เก็บ QR ไว้ในที่เข้าถึงง่าย เช่น Album ชื่อ “Train Ticket” หรือบันทึกไว้ใน แอป Notes / Files / Wallet app

ส่วนวิธีใช้ QR Code สแกนเข้า Gate (QR Gate)

  1. เปิด QR Code ที่ได้รับ บนมือถือให้พร้อม ควรเพิ่มความสว่างหน้าจอ
  2. เดินไปที่ช่องทางเข้าอัตโนมัติ (มีคำว่า “QR専用改札口” หรือ “QR Gate”) มักอยู่ฝั่งซ้าย/ขวาสุดของชานชาลา
  3. สแกน QR ที่เครื่องอ่าน (อยู่ที่ประตูกั้น)รอสัญญาณไฟเขียวแล้วเดินผ่านเข้าไป
  4. ไม่ต้องใช้ตั๋วกระดาษหรือสัมผัสอะไรเพิ่มเติม

การซื้อผ่าน Lawson/FamiMart (Loppi/Fami-Port)

การซื้อตั๋วล่วงหน้าแบบออนไลน์เพื่อรับที่ร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่น เช่น Lawson (Loppi) หรือ FamilyMart (FamiPort) เหมาะกับนักเดินทางที่ต้องการชำระเงินล่วงหน้าหรือสะดวกรับตั๋วเมื่อมาถึงญี่ปุ่น โดยสามารถจองผ่านเว็บไซต์พาร์ทเนอร์ เช่น Klook หรือ KKday เลือกตั๋วที่ต้องการ เช่น Nankai Rapi:t หรือ JR Haruka พร้อมกรอกข้อมูลและชำระเงิน หลังจองเสร็จจะได้รับหมายเลขจอง (Reservation Number) และรหัสยืนยัน (Phone Number / QR Code) เพื่อนำไปป้อนที่เครื่อง Loppi (Lawson) หรือ FamiPort (FamilyMart) เพื่อพิมพ์ใบรับตั๋ว แล้วนำใบเสร็จไปชำระหรือแลกรับตั๋วตัวจริงที่แคชเชียร์ ทั้งนี้ ควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันก่อนเดินทาง และพิมพ์ภายในเวลาที่กำหนดตามอีเมลยืนยัน

สรุปขั้นตอน ซื้อตั๋วล่วงหน้า & ออนไลน์
ซื้อผ่าน Lawson / FamilyMart (Loppi / FamiPort)  สำหรับเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) ไปยังสถานีหลักในโอซาก้า  เช่น Namba, Tennoji, Shin-Osaka (ผ่านตั๋ว Rapi:t หรือ Haruka)

วิธีซื้อตั๋วผ่าน Loppi / FamiPort

1. ตรวจสอบรหัส L-Code (Lコード)

  • ตัวอย่างรหัส L-Code ของ Nankai Rapi:t เช่น L-Code: 50026 (รหัสอาจเปลี่ยนตามโปรโมชั่นหรือช่วงเวลา ควรเช็กจากเว็บไซต์หรือแหล่งที่เชื่อถือได้)

2. ใช้เครื่อง Loppi (Lawson) หรือ FamiPort (FamilyMart)

  • เลือกภาษาญี่ปุ่นหรืออังกฤษ (บางเครื่องมีภาษาอังกฤษ)
  • เลือกเมนู “Ticket” หรือ “Various Tickets”
  • เลือก “L-Code Search” หรือ “Lコードで探す”
  • ป้อน L-Code เช่น 50026 → ยืนยัน

3. เลือกเที่ยวรถ / วันที่ / จำนวนที่นั่ง

  • เลือกวันที่เดินทาง
  • เลือกเวลา หรือเที่ยวรถ (Rapi:t α / β)
  • เลือกจำนวนผู้โดยสาร

 4. รับใบเสร็จ แล้วไปชำระเงิน

  • เครื่องจะพิมพ์ใบเสร็จออกมา
  • นำใบนี้ไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์ Lawson หรือ FamilyMart ภายใน 30 นาที
  • เมื่อชำระแล้ว จะได้รับตั๋วกระดาษจริง สำหรับใช้เดินทางต่อไป

หมายเหตุ:

  • ต้องชำระเงินภายในเวลาที่กำหนด (ปกติ 30 นาทีหลังจากออกใบเสร็จ)
  • ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกตั๋วได้หลังจากชำระเงินแล้ว
  • ถ้าเป็นโปรโมชั่นพิเศษ บางตั๋วจะเปิดให้จองเฉพาะในช่วงเวลา เช่น “Rapi:t Tokuwari Ticket” → ควรเช็กรายละเอียดจากเว็บไซต์ Nankai หรือเว็บไซต์จำหน่ายตั๋วก่อนล่วงหน้า

วิธีสแกน QR และขึ้นขบวนจริง

สำหรับ“ประตูตั๋วอัตโนมัติ (Automatic Ticket Gate)” และ วิธีสแกน QR Code สำหรับระบบ JR West (West QR) และ Nankai (E-ticket QR) เพื่อเข้าออกสถานี โดยไม่ต้องใช้ตั๋วกระดาษนั้น ก็เป็นอีกวิธีที่ควรรู้ไว้เช่นกัน

ประตูตั๋วอัตโนมัติ (Automatic Ticket Gate) คืออะไร? อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ว่าเป็นประตูเข้า/ออกสถานีรถไฟที่เปิด-ปิดอัตโนมัติ ผู้โดยสารต้องใช้ “ตั๋วกระดาษ” หรือ “QR Code” หรือ “IC Card (เช่น ICOCA)” ในการผ่านเข้า/ออกสถานี


วิธีใช้ QR Code สำหรับผ่านประตูอัตโนมัติ
A. กรณี JR West – West QR ใช้กับตั๋วจากระบบ JR-West Online Reservation + E5489 และตั๋วพาสแบบจองออนไลน์ เช่น Kansai Area Pass, Haruka Express แบบใช้ QR
ขั้นตอนมีดังนี้ 

  1. เปิดอีเมล หรือแอปที่มี QR Code (West QR)
  2. เดินไปยังประตูที่มีเครื่องอ่าน QR (สังเกตว่าจะมีช่องสแกน QR แยกต่างหากจากช่อง IC Card)
  3. สแกน QR Code ลงบนเครื่องสแกนสีดำ/เงิน ที่อยู่ข้างหน้าประตู
  4. ประตูจะเปิดโดยอัตโนมัติ สามารถเดินผ่านได้เลย
  5. ทำแบบเดียวกันเวลาออกจากสถานี (บางพาสใช้เฉพาะตอนเข้า ขึ้นกับประเภท)

หมายเหตุ:

  • QR 1 อัน ใช้ได้ 1 คน (ต้องแยกสแกนทีละคน)
  • ถ้าใช้พาสหลายวัน แนะนำให้เก็บ QR ไว้ใช้งานตลอด

B. กรณี Nankai – e-Ticket QR (เช่น Rapi:t)  ใช้กับ ตั๋ว Rapi:t แบบ E-Ticket (จองผ่านเว็บไซต์ Nankai e-ticket)
ขั้นตอนมีดังนี้ 

  1. หลังจองสำเร็จ จะได้รับ QR Code ทางอีเมลหรือเปิดจากเว็บไซต์
  2. เดินไปยังช่องเฉพาะสำหรับ QR Code (สังเกตว่าเขียนว่า “専用改札 QR Gate”)
  3. สแกน QR Code บนเครื่องอ่านด้านบนช่องทางเข้า
  4. ประตูเปิด แล้วเข้าไปนั่งที่นั่งตามที่จองไว้ได้เลย

หมายเหตุ:

  • ถ้ามีสัมภาระเยอะ แนะนำใช้ช่องสำหรับคนใช้รถเข็นหรือกระเป๋าใหญ่ (กว้างกว่า)
  • QR ใช้ได้ทั้งเข้าและออกสถานีในทริปเดียว

ไฟลต์ดึก, ตี 1, ตี 2 ทำไงดี?

หากคุณเดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) ในช่วงไฟลต์ดึก เช่น เที่ยงคืน, ตี 1, ตี 2 และต้องการเข้าสู่ตัวเมืองโอซาก้า (เช่น Namba, Umeda, Tennoji ฯลฯ) จะมีข้อจำกัดพอสมควร เนื่องจากรถไฟและรถบัสส่วนใหญ่หยุดให้บริการช่วงหลังเที่ยงคืน แต่ยังมีตัวเลือกอื่นที่ใช้ได้ดังนี้ 

1. รอรถไฟรอบเช้า (ราคาประหยัดสุด) เป็นวิธีที่แนะนำให้รอรถไฟเที่ยวแรกของ Nankai / JR เริ่มประมาณ 05.15–05.45 น. วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่รีบเข้าเมือง และยินดีรอที่สนามบิน เนื่องจากสนามบินนานาชาติคันไซเปิด 24 ชม. มีโซนให้นั่งรอ-พักผ่อน ทั้งในรูปแบบโซฟาใน Arrival Hall เก้าอี้นอนตรง Aeroplaza (ชั้น 2) รวมทั้งมีร้าน Lawson 24 ชม. มี Wi-Fi ฟรี และตู้กดน้ำไว้บริการ ส่วนค่าใช้จ่ายรถไฟรอบเช้า Nankai Airport Express ไปยังสถานี  Namba ราคา 980 เยน และ JR Kansai Airport Rapid ไปยังสถานี Osaka หรือ Umeda ราคา 1,210 เยน

2.รถแท็กซี่ (เร็วแต่ราคาแพง) เป็นวิธีที่มีให้บริการตลอดคืน ไม่มีหยุด โดยระยะทางจากสนามบินนานาชาติคันไซไปยังตัวเมือง Osaka (เช่น Namba) ประมาณ 50 กม.ค่าโดยสารประมาณ 17,000–25,000 เยน/คัน (ขึ้นกับระยะทาง + ค่าทางด่วน) นั่งได้ 3–4 คน / เหมาะกับกลุ่มที่แชร์กัน โดยจุดขึ้นแท็กซี่ อยู่ที่บริเวณชั้น 1F (Arrival) ตรงข้างนอกอาคารผู้โดยสาร

3. แท็กซี่เหมาจ่ายหรือรถพร้อมคนขับ  เป็นอีกวิธีสำหรับการเดินทางเข้าเมืองจากสนามบินที่ต้องการบริการแท็กซี่เหมาราคาคงที่จากสนามบิน ไปยังโรงแรม โดยสามารถจองออนไลน์ล่วงหน้า เช่น ผ่าน Klook, KKday, หรือเว็บแท็กซี่ท้องถิ่นได้ มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ราวๆ 8,000–12,000 เยน (ขึ้นกับบริษัทและจุดหมาย) รถจะมารอรับคุณที่จุดนัดหมายแบบไม่ต้องต่อคิว

4. นอนพักที่สนามบิน / โรงแรมในสนามบิน หากไม่อยากรีบเข้าเมืองตอนดึก การมีประสบการณ์นอนที่สนามบินนานาชาติคันไซก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ แล้วค่อยเดินทางเข้าตัวเมืองตอนเช้า โดยมีโรงแรมให้พิจารณาดังนี้

โรงแรมทำเลราคาโดยประมาณ
Hotel Nikko Kansai Airportติดกับ Terminal 1 (เชื่อมทางเดิน)10,000–15,000 เยน/คืน
First Cabin Kansai AirportAeroplaza (แคปซูลโฮเทล)6,000–8,000 เยน/คืน
โรงแรมใกล้สนามบิน + Shuttle Busเช่น Toyoko Innมีบริการรับส่ง

ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับสนามบินนานาชาติคันไซ Terminal 1

สนามบินนานาชาติคันไซ ( KIX) เทอร์มินัล 1 มีบริการล็อกเกอร์ฝากสัมภาระ อยู่หลายจุด สะดวกสำหรับผู้ที่ มาถึงเช้าหรือไฟลต์ดึกและอยากฝากของก่อนเข้าเมือง และในกรณีที่รอเที่ยวบินสำหรับบินต่อ

จุดบริการล็อกเกอร์ใน เทอร์มินัล 1 (Terminal 1) มีดังนี้ 
ตำแหน่งหลักที่มีล็อกเกอร์
1.ชั้น 1F  โถงผู้โดยสารขาเข้า (Arrival Hall) อยู่ใกล้กับทางออกของศุลกากร มีล็อกเกอร์หลายขนาด ตั้งแต่ไซซ์เล็กจนถึงไซซ์ใหญ่ (ใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้)
2. ชั้น 2F – โซน Check-in Hall ใกล้ร้านค้า บริเวณทางเดินเชื่อมไป Aeroplaza และ Hotel Nikko ใช้ได้แม้ยังไม่เข้าเกต
3. ที่ Aeroplaza (อาคารเชื่อมต่อระหว่าง T1 และโรงแรม + สถานีรถไฟ) เป็นจุดที่เปิด 24 ชม.
และเป็นจุดที่คนนิยมใช้งานจำนวนมาก เพราะตั้งอยู่ใกล้สถานี Nankai และ JR ด้วย


ขนาด & ราคาล็อกเกอร์ (โดยประมาณ)

ขนาดขนาดกระเป๋าโดยประมาณราคา ต่อ 24 ชม
เล็ก (S)เป้สะพาย / กระเป๋าโน้ตบุ๊ก300–400 เยน
กลาง (M)กระเป๋าเดินทางไซซ์กลา500–600  เยน
ใหญ่ (L)กระเป๋าเดินทาง 26–32 นิ้ว700–1,000  เยน


หมายเหตุ :
จ่ายได้หลายรูปแบบ ทั้งเงินสด (เหรียญ) และบางตู้รองรับ IC Card (เช่น ICOCA, Suica)
ระยะเวลาสูงสุด สามารถฝากได้สูงสุดประมาณ 3 วัน (บางเครื่อง 72 ชม.)
ถ้าล็อกเกอร์เต็ม มีบริการ เคาน์เตอร์ฝากสัมภาระแบบคนดูแล (Baggage Storage Counter) ที่ 1F ใกล้ทางออก  เปิดประมาณ 6.30 – 22.30 น. (เช็คเวลาอีกครั้งหน้างาน)
มีของมีค่าหรือกระเป๋าใบใหญ่  แนะนำฝากกับเคาน์เตอร์มากกว่าล็อกเกอร์

จากโอซาก้าแล้วไปเที่ยวต่อเมืองอื่นๆ ในภูมิภาคคันไซ

ไปกันต่อ ไหนๆ ก็เก็บข้อมูลการเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซมาอย่างละเอียดแล้ว ถ้าสนใจท่องเที่ยวจังหวัดอื่นๆ ในภูมิภาคคันไซกันต่อ เราขอสรุปไว้ให้อ่านสั้นๆ กันสักหน่อย

เกียวโต  

สนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) อยู่ห่างจากเมืองเกียวโตประมาณ 75–100 กิโลเมตร และเป็นเส้นทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าเมืองเก่าเกียวโตทันทีหลังลงเครื่อง เนื่องจากเดินทางสะดวกด้วยรถไฟด่วน JR Haruka ที่วิ่งตรงจากสนามบินถึงเกียวโตภายในประมาณ 75 นาที หรือรถบัสตรงที่ใช้เวลาราว 90–100 นาที จึงเป็นตัวเลือกยอดฮิตในการเริ่มต้นทริปญี่ปุ่น โดยไม่ต้องแวะโอซาก้าก่อนก็ได้

สรุปวิธีเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซไปยังเกียวโตมีดังนี้

วิธีเวลาเดินทางราคาจุดเด่น
1. JR Haruka Express + พาสประมาณ 75 นาที2,850 เยน และ 1,600 เยน ถ้ามีบัตร ICOCA & Harukaเร็ว + สะดวก + มีที่นั่งจอง
2. JR Express (ไม่จองที่นั่ง)ประมาณ 95–105 นาที1,880  เยนราคาถูกกว่า Haruka
3. Airport Limousine Busประมาณ 90–100 นาที2,600  เยนขึ้นง่าย ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นลง
4. แท็กซี่/รถรับส่งส่วนตัวประมาณ 90 นาที25,000 เยนขึ้นไปสะดวกสุด แต่แพง
5. เดินทางแวะโอซาก้าก่อนขึ้นกับแผนถูกได้มากถ้าใช้พาส JR Westเหมาะสำหรับคนที่อยากแวะหลายที่

โกเบ

สนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) อยู่ห่างจากเมืองโกเบ ประมาณ 65–75 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับจุดหมายปลายทางในโกเบ เช่น Sannomiya, Kobe Station หรือ Rokko Island ซึ่งใช้เวลาเดินทางราว 1–1.5 ชั่วโมง จึงถือว่าไม่ไกลและเดินทางสะดวกมาก ทั้งโดยรถไฟ รถบัส หรือแม้แต่เรือ Bay Shuttle

เมืองโกเบเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นเอง โดยเฉพาะผู้ที่ชอบบรรยากาศชายทะเล, สถาปัตยกรรมตะวันตก, เนื้อโกเบ และย่าน Arima Onsen จึงมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่ เดินทางเข้าเมืองโกเบโดยตรงจากสนามบินนานาชาติคันไซโดยไม่ต้องแวะโอซาก้าก่อนก็ได้

สรุปวิธีเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซไปยังโกเบมีดังนี้

วิธีเวลาเดินทางราคาโดยประมาณจุดเด่น
1. JR Haruka + JR Lineประมาณ 65–75 นาที2,300 เยนเร็ว + ใช้พาส JR ได้
2. JR Rapid Service (ต่อขบวน)ประมาณ 80–90 นาที1,710 เยนราคาประหยัดที่สุด
3. Nankai + Hanshin Railwayประมาณ 80 นาที1,300 เยนใช้ IC Card ได้ / ไป Sannomiya
4. Limousine Busประมาณ 65–80 นาที2,000 เยนไม่ต้องลากกระเป๋า / วิ่งตรง
5. เรือ Bay Shuttleประมาณ 30 นาที
(เฉพาะไป Port Island)
500–1,880 เยนวิวสวย / เชื่อมกับสนามบิน Itami
6. แท็กซี่ / รถเหมาประมาณ 60–70 นาที20,000 เยนขึ้นไปสะดวกสุดแต่แพง

นารา

สนามบินนานาชาติคันไซ ( KIX) ไปยังจังหวัดนารามีระยะทางประมาณ 70–80 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยเฉลี่ย 1.5–2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับวิธีเดินทาง เช่น รถไฟด่วน JR / Kintetsu หรือรถบัส จึงถือว่า ไม่ไกลมาก แต่ต้องมีการต่อรถหรือเปลี่ยนสายอย่างน้อย 1 ครั้ง แม้ว่าจังหวัดนาราจะไม่ได้เป็นจุดหมาย “หลัก” ในการเข้าพักของนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่ากับโอซาก้าหรือเกียวโต แต่ นาราเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับ One-day trip โดยเฉพาะจากโอซาก้าและเกียวโต เพราะมีชื่อเสียงด้านวัดโบราณ (เช่น วัดโทไดจิ), กวางนารา, และบรรยากาศเมืองเก่า อย่างไรก็ตาม ยังมีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่เลือก เดินทางจากสนามบินคันไซเข้าสู่นาราโดยตรง โดยเฉพาะคนที่อยากพักในบรรยากาศเงียบสงบตั้งแต่คืนแรก หรือมีแผนเที่ยวในคันไซโดยเริ่มจากจังหวัดนาราแห่งนี้

วิธีเดินทางแนะนำ
1. เส้นทางรถไฟ JR (Japan Railways)
จากสนามบินนานาชาติคันไซไปยังสถานี Tennoji ต่อ JR Yamatoji Line จากสถานี Tennoji ไปยังสถานี Nara ใช้ ระยะเวลาเดินทางประมาณ 90–100 นาที ค่าโดยสาร อยู่ที่ราวๆ 1,660 เยน มีข้อดี ตรงที่สามารถใช้ JR Pass หรือ Kansai Area Pass ได้ เพียงแต่อย่าลืมว่าต้องเปลี่ยนขบวนที่สถานี Tennoji ด้วยนะ
2. เส้นทางรถไฟ Kintetsu Railwayจากสนามบินนานาชาติคันไซนั่ง Nankai Airport Expressไปยังสถานี Namba  แล้วขึ้น Kintetsu Limited Express หรือ Rapid Express ไปลงที่สถานี Kintetsu Nara ใช้ระยะเวลา ประมาณ 90–100 นาที ค่าโดยสารอยู่ที่ราวๆ 1,370 เยน (แบบ Express) และประมาณ 1,650 เยน (Limited Express) แบบต้องจองที่นั่ง มีข้อดี
ตรงที่สถานี Kintetsu Nara นั้นอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว (เช่น วัดโทไดจิ, นาราพาร์ค) มากกว่า JR Nara เป็นอีกวิธีเดินทางที่สะดวกมากหากพักแถว Namba และสามารถใช้

วากะยามะ

อีกจังหวัดน่าเที่ยวในภูมิภาคคันไซ เป็นที่นิยมในบางกลุ่มโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนแบบสงบ ชอบธรรมชาติ ออนเซ็น และอาหารทะเล จุดยอดนิยมในวากะยามะ เช่น Wakayama Marina City ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดปลา Kuroshio, ออนเซ็น, Porto Europa) ศาลเจ้า Kumano, วัด Koyasan   และชายหาดสวยๆ ในเมือง Shirahama  แม้ว่าจะไม่ได้เป็นจุดหมายหลักแบบโอซาก้าหรือเกียวโต แต่วากะยามะมีเสน่ห์เฉพาะตัว และบางคนเลือกเดินทางตรงจากสนามบินคันไซเพื่อเริ่มต้นทริปในโซนธรรมชาติ หรือพักผ่อนคืนแรกแบบเงียบสงบ

การเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซ ( KIX) ไปยังจังหวัดวากะยามะ รวมถึงพื้นที่ Wakayama Marina City นั้นสามารถทำได้ไม่ยาก โดยมีเส้นทางรถไฟและต่อด้วยรถบัสดังนี้

สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟนั้นเป็นวิธีในการเดินทางไปยังจังหวัดวากะยามะที่รวดเร็วและสะดวกที่สุด โดยจากสนามบินนานาชาติคันไซขึ้น JR Kansai Airport Line ไปลงที่สถานี Hineno  จากสถานี Hineno หา JR Hanwa Line เพื่อไปลงยังสถานี Wakayama ได้เลย ใช้เวลาเดินทางรวมราวๆ 45–55 นาที ค่าโดยสาร ประมาณ 890 เยน  สามารถใช้ JR Pass หรือ Kansai Area Pass ได้และจากสถานี Wakayama สามารถเดินทางต่อโดยรถบัสสายตรงจาก Wakayama Station (East Exit)  ไปยัง Wakayama Marina City ได้แสนสะดวกใช้เวลาประมาณ 40–45 นาที ค่าโดยสารอยู่ที่ราวๆ 520 เยน รถบัสออกบริการทุก 30–60 นาที (แล้วแต่ช่วงเวลา)

ฮิเมจิ


จากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) ไปยัง เมืองฮิเมจินั้นมีระยะทางประมาณ 110–130 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 1.5–2.5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับวิธีเดินทางที่เลือก เช่น รถไฟด่วน JR, รถไฟธรรมดา, หรือรถบัส จึงถือว่า ค่อนข้างไกลแต่เดินทางได้สะดวก โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ใช้พาสของ JR ฮิเมจิเป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะเพราะมีแลนด์มาร์กระดับโลกอย่าง ปราสาทฮิเมจิเป็นปราสาทไม้ดั้งเดิมที่สมบูรณ์ที่สุดในญี่ปุ่น ทำให้ฮิเมจิเป็นจุดหมายยอดนิยมทั้งของคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลายคนจึงเดินทางจากสนามบินคันไซตรงไปฮิเมจิ หรือแวะระหว่างทางหากไปเที่ยวโซนตะวันตก เช่น โอกายาม่า หรือฮิโรชิม่าต่อ ฮิเมจิเป็นจุดหมายที่สามารถไปเช้าเย็นกลับจากโอซาก้าได้สบายๆ เหมาะสำหรับวันเที่ยว 1 วัน โดยเฉพาะเพื่อไปชมปราสาทฮิเมจิที่เป็นมรดกโลกด้วย 

วิธีเดินทางจาก โอซาก้า ไปยังปราสาทฮิเมจิ  
แนะนำเดินทางด้วย


1.JR  ใช้เวลาน้อยที่สุด นั่งชินคันเซ็นจากสถานีต้นทาง Shin-Osaka และปลายทางที่ Himeji ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ราคาเที่ยวเดียวประมาณ 3,800 เยน (ไม่รวมจองที่นั่ง) ใช้ได้กับ JR Pass / Kansai-Hiroshima Pass / JR Kansai Wide Passเหมาะกับคนที่มี JR Pass อยู่แล้ว หรือยอมจ่ายเพื่อประหยัดเวลาออกจากโอซาก้า เช้า 8.00 น. ถึงฮิเมจิ ประมาณ 9.30 น. เที่ยวปราสาท เดินเล่นย่าน Omotesando กินของอร่อยกลับโอซาก้า รอบ 16.00–17.00 น.

2. JR Special Rapid แบบประหยัด เริ่มเดินทางจากสถานีต้นทาง Osaka หรือ Shin-Osaka หรือ Tennoji ปลายทางที่ Himeji ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ราคาเที่ยวเดียวอยู่ ที่1,520 เยน เนื่องจากไม่ใช่ชินคันเซ็น แต่เป็นรถไฟด่วนที่เร็วและวิ่งตรงเหมาะกับคนไม่มีพาส และต้องการประหยัดค่าเดินทาง

เคล็ดลับสัมภาระ & Connectivity สนามบินนานาชาติคันไซ

จากสนามบินนานาชาติคันไซไปในเมืองโอซาก้า มีบริการจัดส่งกระเป๋าด้วย หากจองรถไฟ Nankai / JR แบบมี QR Code อยู่แล้ว คุณสามารถเดินทางตัวเปล่า และเชื่อมต่อเน็ตได้ทันทีอีกด้วย บางคนเลือกวิธีส่งกระเป๋าไปที่โรงแรมตอนเช้า แล้วเที่ยวอย่างอิสระระหว่างวันโดยไม่ต้องเช็คอินทันทีก็สามารถทำได้

บริการจัดส่งสัมภาระ (Luggage Delivery / Takkyubin)

เป็นอีกวิธีที่ไม่ต้องหิ้วกระเป๋าใหญ่ขึ้นรถไฟหรือบัส โดยคุณสามารถทำได้ดังนี้


1. ส่งกระเป๋าจากสนามบินไปที่โรงแรมในโอซาก้า

  • เคาน์เตอร์ตั้งอยู่ที่ Terminal 1 (Arrival Hall) เช่น JAL ABC หรือ Yamato Transport (Kuroneko)
  • ใช้เวลาภายในวันเดียว (หากส่งก่อน 11.00 น.) หรือ วันถัดไป
  • ราคาอยู่ที่ประมาณ 2,000–3,000 เยน/ใบ (ขึ้นกับขนาดและปลายทาง)
  • แนะนำสำหรับใครที่ถึงไฟลต์เช้าแล้วอยากเที่ยวต่อทันทีโดยไม่ต้องลากกระเป๋า


2. บริการฝากกระเป๋าระยะสั้นที่สนามบิน

  • มีล็อกเกอร์อัตโนมัติ (ขนาดเล็ก–ใหญ่) และเคาน์เตอร์รับฝาก
  • ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น 300–800 เยน/วัน

Connectivity: Wi-Fi / eSIM / Pocket Wi-Fi

คุณสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทันทีเมื่อเดินทางมาถึง

1.eSIM / SIM Card / Pocket Wi-Fi

  • จองล่วงหน้า ผ่าน Klook, KKday หรือเว็บไซต์บริษัทโดยตรง
  • รับได้ที่สนามบินนานาชาติคันไซบริเวณ Arrival Hall
  • ราคาคร่าวๆ มีดังนี้
    • eSIM รายวัน (Unlimited Data): เริ่มต้นที่ประมาณ 300 เยน/วัน
    • Pocket Wi-Fi: ประมาณ 500–800 เยน/วัน (แชร์ได้หลายคน)

2.Free Wi-Fi สนามบิน

  • SSID: FreeWiFi@KIX
  • ความเร็วปานกลาง เหมาะสำหรับใช้เบื้องต้นก่อนเปิดใช้อุปกรณ์ส่วนตัว

สรุป

เชื่อว่าบทความนี้จะเป็นคู่มือการเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซ ไปในเมืองโอซาก้าแบบครอบคลุมทุกด้าน เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเก็บข้อมูลการเดินทางจากสนามบินเข้าไปยังตัวเมือง หรือต้องการท่องเที่ยวในภูมิภาคคันไซแบบครบทุกรสชาติ แถมยังเดินทางสะดวกที่สุด ประหยัดเงินและเวลาด้วย เราได้ทำการรวบรวมเอาไว้เพื่อให้ทริปในคันไซครั้งต่อไปต้องเป็นทริปที่น่าจดจำไปอีกแสนนานอย่างแน่นอนเลยค่ะ

Contents Index
  1. 1 การเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) สู่เมืองโอซาก้า
    1. 1.1 ช่วงเวลาแนะนำ
  2. 2 วิธีเดินทางหลักจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) สู่เมืองโอซาก้า
  3. 3 JR Haruka Express
  4. 4 รถไฟด่วนพิเศษ Nankai Rapi:t α / β
  5. 5 รถไฟ JR Kansai-Airport Rapid
  6. 6 รถบัสลิมูซีน (Airport Limousine Bus)
  7. 7 รถเช่า (Rent-a-Car)
  8. 8 แท็กซี่เหมาคัน
  9. 9 บัตรโดยสารและพาสเดินทางสุดคุ้มจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) สู่เมืองโอซาก้า
    1. 9.1 ICOCA & Haruka
    2. 9.2 Kansai Thru Pass
    3. 9.3 JR West Kansai Area Pass
    4. 9.4 Nankai × Osaka Metro “Kanku Chikatoku Ticket”
    5. 9.5 การจองผ่าน Klook / KKday / Japan Experience
    6. 9.6 การจองผ่าน JR-West Online + E5489
    7. 9.7 การซื้อออนไลน์ Nankai E‑Ticket Site
    8. 9.8 การซื้อผ่าน Lawson/FamiMart (Loppi/Fami-Port)
  10. 10 วิธีสแกน QR และขึ้นขบวนจริง
  11. 11 ไฟลต์ดึก, ตี 1, ตี 2 ทำไงดี?
  12. 12 ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับสนามบินนานาชาติคันไซ Terminal 1
  13. 13 จากโอซาก้าแล้วไปเที่ยวต่อเมืองอื่นๆ ในภูมิภาคคันไซ
    1. 13.1 เกียวโต
    2. 13.2 โกเบ
    3. 13.3 นารา
    4. 13.4 วากะยามะ
    5. 13.5 ฮิเมจิ
  14. 14 เคล็ดลับสัมภาระ & Connectivity สนามบินนานาชาติคันไซ
    1. 14.1 บริการจัดส่งสัมภาระ (Luggage Delivery / Takkyubin)
    2. 14.2 Connectivity: Wi-Fi / eSIM / Pocket Wi-Fi
  15. 15 สรุป
Kintetsu Line LP R3
Pennapa Uttamang

Blogger : Pennapa Uttamang

อดีตบรรณาธิการผู้รับใช้ถ้อยคำมาตลอดหลายสิบปี ปัจจุบันก็ยังคงทำงานเขียน วาดภาพประกอบ เลี้ยงแมว และทำสตูดิโอออกแบบเล็กๆ เกี่ยวกับโบรชัวร์ญี่ปุ่น เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นจะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนผ่านเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่สร้างแรงบันดาลใจให้เรามากมายเช่นกัน

85 Posts

โหวต

| Polls
โหวต | Polls
  • เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น คุณมี “เมนูในดวงใจ” ที่ตั้งใจจะไปกินให้ได้ไหม?

    View Results

    Loading ... Loading ...

สถานที่เที่ยว

| Feature
CCJ Hotel Search

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515

จองทริปของคุณ

| Book your trip
With:
City:

Check-in:

Night :

x