บัตร Osaka E-Pass ให้คุณไปท่องเที่ยวได้มากกว่า 20 สถานที่แบบฟรีๆ ใช้ระบบแสกน QR-CODE ไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋ว

Osaka E-PASS คืออะไร

Osaka E-Pass คือ บัตรแบบ QR-Code ที่ใช้เข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้มากกว่า 20 ที่ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

เราสามารถเลือกรวม Osaka E-Pass นี้ กับตั๋วโดยสารหรือตั๋วอื่นๆ มาใช้ร่วมกันได้ ทำให้คุณสามารถไปเที่ยวรอบๆ เมืองโอซาก้าได้อย่างอิสระโดยใช้ตั๋วเพียงไม่กี่ใบ หรือจะใช้คู่กับ IC-card ที่มีอยู่แล้วตระเวนเที่ยวรอบๆ ที่พักก็ได้เช่นกัน เป็นบัตรที่คุณสามารถใช้งานมันได้อย่างสะดวกสะบาย

ยกตัวอย่างเช่น ในบริเวณพื้นที่อ่าวโอซาก้า ก็สามารถใช้ได้ทั้งเข้าชมเรือซานต้ามาเรีย ล่องเรือ Capt.Line หรือจะไปสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ หากคุณซื้อบัตรเข้าชมแบบธรรมดา คงต้องใช้เงินประมาณ 3,100 เยน แต่เราสามารถใช้บัตรนี้เข้าได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ ทั้งสิ้น

นอกจากนี้แล้ว หากไปท่องเที่ยวทางตอนเหนือ ก็สามารถเข้าชมสวนลอยฟ้า Kuchu Teien Observatory , พิพิธภัณฑ์ Koji Kinutani Tenku Art Museum หรือจะไปเที่ยวเล่นที่ชิงช้าสวรรค์ HEP FIVE ก็ได้เช่นกัน บัตรนี้จะทำให้คุณไม่ต้องไปต่อคิวยาว และไม่ต้องมาคอยนั่งคิดคำนวณค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้ง สรุปแล้วบัตร Osaka E-Pass คือบัตรที่จะทำให้คุณใช้เพียงโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว ไปเที่ยวได้ทุกที่ได้อย่างสะดวกสบาย แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

จุดเด่นของ Osaka E-Pass

มีแบ่งขายแบบ 1วัน ราคา 2,000 เยน และแบบ 2วัน ราคา 2,500 เยน แต่สามารถใช้งานได้อย่างสุดคุ้ม ซึ่งอาจมีมูลค่ามากถึง 3,000 – 4,000 เยน แล้วแต่การใช้งาน

Osaka E-Pass ที่สามารถใช้งานได้สะดวกสบายมากที่สุดเป็นบัตร Osaka 1-Day Pass Enjoy Eco Card. Osaka 1-Day Pass Enjoy Eco Card สามารถใช้งานได้กับรถไฟใต้ดิน และ Osaka City Bus ได้ไม่จำกัด ทำให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้มากยิ่งขึ้น

ถ้าหากต้องการจะไปเมืองเกียวโตหรือโกเบ ก็ควรใช้เป็นบัตร Hanshin หรือ Hankyu Tourist Pass พอเอาบัตรเหล่านี้มารวมกันแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจรอบๆ โอซาก้า ก็สามารถไปเยี่ยมชมได้เช่นกัน

Osaka Amazing Pass เป็นบัตรอีกประเภทหนึ่ง มีความแตกต่างกัน ซึ่งเราจะมาอธิบายความแตกต่างให้ฟังกันค่ะ

Osaka E-Pass เป็นบัตรแบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถซื้อได้จากทางอินเตอร์เน็ต สามารถผ่านเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพียงแค่แสดง QR-Code แต่ทางด้านบัตร Osaka amazing pass หาซื้อได้ที่โรงแรมต่างๆ ในโอซาก้า เป็นบัตรแบบการ์ดพกพา

บัตร Osaka E-Pass ไม่เพียงแต่ครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเท่านั้น ยังรวมไปถึงสถานที่เชิงลึกที่รู้จักเฉพาะกลุ่ม และได้รับคะแนนนิยมสูงจากนักท่องเที่ยวทุกวัย

วิธีการซื้อและการใช้ Osaka E-Pass

สามารถซื้อได้จาก Klook สามารถซื้อได้จาก Klook โดย บัตรแบบ 1 วันราคา 2,000 เยน และแบบ 2 วัน ราคา 2,500 เยน ถ้าต้องการท่องเที่ยวในโอซาก้าให้ได้เต็มที่ล่ะก็ เราขอแนะนำเป็นบัตรแบบ 2 วันค่ะ

Osaka E-Pass

ซื้อผ่าน Klook ในราคาสุดคุ้ม ถูกกว่าซื้อเองที่ญี่ปุ่น!

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ ที่ใช้บัตร Osaka E-Pass ผ่านเช้าชมได้แบบฟรีๆ

1．Umeda sky Building สวนลอยฟ้า Kuchu Teien Observatory

ตึก Umeda sky Building มีความสูงถึง 173 เมตร เป็นตึกที่เป็นสัญลักษณ์ของโอซาก้า ภายในอาคารมีหอชมเมืองโอซาก้าที่ชื่อว่า Kuchu Teien Observatory เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งเช่นกัน จากตึก Umeda sky Building แห่งนี้สามารถมองเห็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของโอซาก้าได้ทั้งหมด เช่น ตึก Abeno Harukus, ปราสาทโอซาก้า, สวนสัตว์ Tennoji, รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

ที่สวนลอยฟ้า Kuchu Teien แห่งนี้ยังถูกประดับตกแต่งด้วยต้นไม้ ดอกไม้ตามแต่ละฤดูกาล จนเป็นสถานที่ที่คุณสามารถมาพักผ่อน หย่อนใจได้ ในตอนกลางคืน คุณจะได้เห็นเมืองโอซาก้าที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับชวนหลงใหล เป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการพาใครสักคนมาออกเดต

นอกจากนี้แล้ว Kuchu Teien Observatory แห่งนี้ยังมีทั้งคาเฟ่และร้านค้าพร้อมคอยให้บริการนักท่องเที่ยว คุณสามารถมาชมทิวทัศน์เมืองโอซาก้า ทานอาหารแสนอร่อยและเลือกซื้อของฝากได้ทั้งหมดจากที่นี่ แม้แต่คนท้องถิ่นต่างก็มาที่ท่องเที่ยวพักผ่อนที่ Umeda sky Building จนพูดได้ว่าตึกแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของเมืองโอซาก้า

Umeda sky Building

2．Tsutenkaku tower

Tsutenkaku เป็นหอคอยสูง 103 เมตร ในตอนกลางคืนมีการประดับไฟ ดูสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดโอซาก้า

เมื่อถามคนญี่ปุ่นว่า ถ้าพูดถึงโอซาก้าจะนึกถึงอะไร? หลายๆ คนจะนึกถึงหอคอย Tsutenkaku จนหอคอยแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งหนึ่งของโอซาก้า นอกจากนี้ รอบๆ หอคอย Tsutenkaku มีย่านคนเดินที่เรียกกันว่า ชินเซไก (Shinsekai) มีคุชิคัตสึและทาโกะยากิ เป็นอาหารชื่อดังของโอซาก้า เมื่อพูดถึงโอซาก้า ย่านชินเซไกนับเป็นศูนย์รวมอาหารชื่อดังอย่างคุชิคัตสึและทาโกะยากิ เป็นหนึ่งในจานเด็ดที่คุณจะต้องลอง

หอคอย Tsutenkaku เป็นที่รักของทั้งนักท่องเที่ยวและเป็นที่รักชาวเมืองมากไม่แพ้กัน จนได้กลายหอคอยสัญลักษณ์แห่งเมืองโอซาก้า

Tsutenkaku tower

3．เรือใบซานต้ามาเรีย (Santa Maria)

เรือใบซานต้ามาเรีย เป็นเรือสำหรับท่องเที่ยวที่เล่นอยู่ในอ่าวโอซาก้า ด้วยลักษณะภายนอกที่สวยงามและดูทรงพลัง มีการประดับไฟตกแต่งรอบตัวเรือ เป็นที่รู้จักและดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาได้อย่างมากมาย

ภายในตัวเรือมีร้านอาหารและร้านค้าอยู่อย่างครบครัน ให้คุณสามารถเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่มแสนอร่อย การล่องเรือซานต้ามาเรียนั้น คุณสามารถชมสถานที่ที่มีชื่อเสียงของโอซาก้าระหว่างการล่องเรือ ได้จากภายในตัวเรือ และยังเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ตอนกลางคืนแสนโรแมนติกได้อีกด้วย

พาคนรักมาออกเดต พาครอบครัวมาท่องเที่ยว หรือมาเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมได้อีกเลย

เรือใบซานต้ามาเรีย (Santa Maria)

4．ชิงช้าสวรรค์ HEP FIVE

ชิงช้าสวรรค์ HEP FIVE อยู่ที่ศูนย์การค้า HEP FIVE ในเขต Kita เมืองโอซาก้า มีความสูงถึง 106 เมตร และยังตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นวิวได้ทั่วทั้งโอซาก้า จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง ภายในชิงช้าสวรรค์มีการประดับตกแต่งด้วยแสงไฟ พร้อมกับการคลอด้วยเสียงเพลง ประกอบกับทิวทัศน์ที่สวยงามยามค่ำคืน จนเกิดเป็นประสบการณ์อันยอดเยี่ยมรอให้คุณได้มาสัมผัส

นอกจากนี้แล้วที่ชิงช้าสวรรค์แห่งนี้ ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาจัดกิจกรรมสุดแสนพิเศษ อย่างเช่น งานแต่งงาน การขอแต่งงาน หรือแม้แต่การมาจัดปาร์ตี้สนุกสนาน

ทำเลที่ตั้งที่สสามารถเดินจากสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของโอซาก้าอย่างสถานี Osaka station และสถานี Umeda station ได้เพียงไม่กี่นาที หากมีเวลาว่าง หรือหลังจากเดินเหนื่อยๆ เราอยากเชิญชวนให้ลองหยุดแวะพัก นั่งชิงช้าสวรรค์ชมเมืองโอซาก้า และลองใช้เวลาสุดแสนวิเศษไปกับสถานที่แห่งนี้

ชิงช้าสวรรค์ HEP FIVE

5．Osaka Museum of Housing and Living

Osaka Museum of Housing and Living เป็นพิพิธภัณฑ์จำลองวิถีการใช้ชีวิตและวัฒนธรรม ตั้งแต่สมัยยุดเอโดะจนถึงปัจจุบัน ตั้งอยู่ที่เขต Tennoji เมืองโอซาก้า

ภายในพิพิธภัณฑ์ มีการจำลองบ้านแบบต่างๆ ในหลากหลายยุคสมัย เช่น บ้านเมืองของโอซาก้าในยุคเอโดะ บ้านแบบตะวันตกในยุคเมจิ เราสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรมและการเปลี่ยนแปลงของวิถีการใช้ชีวิตได้จากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ นอกจากนี้แล้วยังสามารถเช่าเสื้อผ้าแบบดั้งเดิมของโอซาก้ามาลองใส่กันได้อีกด้วย (ปัจจุบัน เดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2023 ปิดให้บริการ)จะได้รูปถ่ายใส่ชุดกิโมโนของญี่ปุ่นสวยๆ ไปอวดครอบครัวและเพื่อนๆ กันอย่างแน่นอน

Osaka Museum of Housing and Living แห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญที่จะได้เรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมของโอซาก้า เราขอแนะนำพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น้อยคนนักจะรู้จัก ให้กับคนที่รักในการศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์

Osaka Museum of Housing and Living

6．Nakanoshima River Cruise

Nakanoshima River Cruise เป็นเรือที่ล่องอยู่ในแม่น้ำ Dojima และ Tosabori ที่ไหลอยู่กลางโอซาก้า จากภายในตัวเรือมองออกไป เราจะได้เพลินเพลินไปกับสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ และทิวทัศน์ของตึกอาคารสมัยใหม่ตลอดริมฝั่งแม่น้ำ มีทั้งศาลากลางจังหวัด Osaka city hall, หอประชุม Nakanoshima Public Hall และพิพิธภัณฑ์ Osaka City Museum of Fine Art

ภายในเรืออนุญาตให้พาอาหารและเครื่องดื่มจากภายนอกเข้ามาได้ ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายและสนุกไปกับค่ำคืนที่แสนวิเศษ และในฤดูใบไม้ผลิ จะเป็นการล่องเรือชมดอกซากุระที่บานอยู่เต็มสองฝั่งของแม่น้ำ เพราะฉะนั้นแล้วคุณสามารถมาล่องเรือพร้อมกับชมบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป หรือแม้กระทั่งเลือกช่วงเวลาที่คุณชอบได้ตลอดทั้งปี ปล่อยตัวไปกับกระแสน้ำ เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติ, ชื่นชมบรรยากาศของเมืองและสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์

Nakanoshima River Cruise

7．ล่องเรือปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle Gozabune)

Osaka Castle Gizabune เป็นการล่องเรือชมทัศนียภาพริมน้ำและปราสาทโอซาก้า โดยมีจุดเริ่มต้นจากท่าเรือที่อยู่บริเวณพระราชวังเก่า Ninomaru ล่องไปตามแม่น้ำรอบๆ ปราสาท

ปราสาทโอซาก้าเป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น แม้แต่เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ก็มีความโดดเด่น ทำให้ปราสาทโอซาก้าเป็นหนึ่งในปราสาทที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมมากที่สุดแห่งหนึ่ง เมื่อมาเยี่ยมชมที่หอคอยและบริเวณกำแพงรอบๆ ปราสาท คุณสัมผัสได้ถึงความรู้สึกและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ บนเรือ มีที่นั่งหลากหลายประเภท ทั้งแบบเสื่อทาทามิ, ที่นั่งเก้าอี้ และที่นั่งแบบโต๊ะ ให้เลือกใช้ได้ตามแต่ละโอกาส

ลองมาเที่ยวชมธรรมชาติ ไปพร้อมๆกับสัมผัสเรื่องราวของประวัติศาสตร์อย่างใกล้ชิด ที่ปราสาทโอซาก้ากันนะ

Nakanoshima River Cruise

8．วัดชิเทนโนจิ ( Chushingaran, Honbo Garden)

วัดชิเทนโนจิ (shitennoji temple) ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.593 มีประวัติยาวนานถึง 1430 ปี ภายในวัดชิเทนโนจิ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือ Chushingaran ที่เป็นสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างบริเวณศูนย์กลางของวัดและ สวน Honbo Garden

Chushingaran ตั้งอยู่บนเส้นตรงที่เรียงเป็นแนวเดียวกันของประตูทางทิศใต้ Minami-daimon, ประตูกลาง Chumon, เจดีย์, วิหาร Kondo และ วิหาร Koudo วิหาร kondo เป็นที่ตั้งของพระพุทธรูป Kuse Kanzeon Bosatsu ทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ วิหารแห่งนี้จึงเป็นสถานที่สำคัญและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์

สวน Honbo Garden เป็นสวนแบบญี่ปุ่นที่อยู่ในวัดชิเทนโนจิ มีบ่อน้ำ กำแพงหินและสวนมอส เป็นสถานที่ที่ส่งกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นออกมาได้อย่างงดงาม

ทุกวันที่ 21 ของเดือน มี Shitennoji Flea Market ตลาดนัดและร้านอาหารแบบสตรีทฟู้ด ภาพของผู้คน ไม่เพียงแค่นักท่องเที่ยว แต่คนในท้องถิ่นเองต่างก็ออกมาหาซื้อของและเที่ยวเล่นที่ตลาดแห่งนี้ ราวกับว่าเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของสถานที่แห่งนี้ไปแล้ว

ผู้ที่ต้องการสัมผัสประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 1,400 ปี หรืออยากมาเยี่ยมชมสถานที่สำคัญของพระพุทธศาสนาของประเทศญี่ปุ่น วัดชิเทนโนจิ เป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่จะพลาดไปไม่ได้

วัดชิเทนโนจิ ( Chushingaran, Honbo Garden)

9．Tower Slider (Tsutenkaku tower)

Slider Tower เป็นเครื่องเล่นแบบสไลเดอร์ความสูง 60 เมตร สไลเดอร์ไหลลงมาแบบเกลียว ใช้เวลาเพียง 10 วินาทีจากความสูง 60 เมตร ด้วยความเร็วของสไลเดอร์นี้จะต้องทำให้คุณตื่นเต้นจนต้องร้องออกมาอย่างแน่นอน

ประสบการณ์ชมของหอคอย Tsutenkaku Tower ในขณะที่ไหลลงสไลเดอร์มาด้วยความเร็วสูงนั้นเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่อื่นอย่างแน่นอน สไลเดอร์ถูกออกแบบมาอย่างดีพร้อมกับระบบความปลอดภัย คุณจึงเล่นสนุกได้โดยไม่ต้องกังวล เมื่อได้แวะเข้ามาที่หอคอย Tsutenkaku Tower แล้วก็ลองมาสนุกกับประสบการณ์ชมวิวเมืองโอซาก้าบนสไลเดอร์กันนะ

Tower Slider (Tsutenkaku tower)

10．สถานที่อื่นๆ

หากต้องการดูสถานที่ท่องเที่ยวของโอซาก้าเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่

Discover OSAKA – โอ้โห โอซาก้า

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่