บัตรโดยสารรถไฟสุดคุ้ม
รถไฟ Kintetsu Line มีบัตรโดยสารรถไฟสุดคุ้มมาแนะนำมาใช้บัตรนี้ให้คุ้มและสนุกกับการท่องเที่ยวคันไซ
คลิกลิงก์แบนเนอร์ด้านล่างเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย !
จุดชมดอกซากุระในนารา
ก่อนอื่น เราจะพาคุณไปชม สถานที่ชมซากุระที่ดีที่สุดในจังหวัดนารา ที่ไม่ควรพลาด
ภูเขาโยชิโนะ (Yoshinoyama)
ภูเขาโยชิโนะ เป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น ที่นี่เต็มไปด้วยต้นซากุระสายพันธุ์ ชิโระยามาซากุระ (Shiro Yamazakura) มากถึง 30,000 ต้น!
ดอกซากุระที่โยชิโนะจะบานไล่ระดับจากที่ต่ำขึ้นไปที่สูง โดยแบ่งเป็น สี่โซน ได้แก่ Shimo-senbon (ซากุระพันต้นด้านล่าง), Naka-senbon (ตอนกลาง), Kami-senbon (ตอนบน), และ Oku-senbon (ด้านในสุด) ซึ่งแต่ละโซนจะบานในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถชมซากุระได้ยาวนานกว่าปกติ
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ภูเขาทั้งลูกจะถูกย้อมเป็นสีชมพูของซากุระ จนได้รับฉายาว่า “Hitome-senbon” ซึ่งหมายถึง “มองครั้งเดียวก็เห็นซากุระนับพันต้น” เป็นภาพที่งดงามจนต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง
ซากุระพันต้นแห่งภูเขาโยชิโนะ Yoshinoyama Senbon-zakura
ภูเขาโยชิโนะหลังฝนตก
Yoshinoyama Senbon-zakura
ที่อยู่ | Yoshinoyama, Yoshino machi, Yoshino, Nara |
วิธีเดินทาง | รถไฟต่อรถบัส : ลงรถที่สถานีรถไฟ Kintetsu Yoshino Station จากหน้าสถานีรถไฟ ขึ้น Yoshinoyama Ropeway ที่สถานี Senbon-guchi Station ไปลงที่ สถานี Yoshinoyama Station (Shimo Senbon) จาก Yoshinoyama Station เดินประมาณ 5 นาที ไปยังป้ายรถบัส และขึ้น รถบัสYoshino Omine Cable Bus สาย Oku Senbon-guchi ลงที่ป้ายปลายทาง วิธีเดินเท้า : เดิน 20 นาที จากสถานีรถไฟ ※ ทางเดินมีความลาดชันและมีระยะทางไกล ควรมีร่างกายที่แข็งแรง และสวมใส่ใส่รองเท้าที่สามารถเดินได้ง่าย |
ข้อควรระวัง | ในช่วงเทศกาลชมซากุระ จะมี รถบัสพิเศษของ Nara Kotsu ให้บริการจาก สถานีคินเท็ตสึโยชิโนะ (Kintetsu Yoshino Station) ไปยัง จุดจอดรถบัสนาคาเซ็มบง (Naka-senbon) บริเวณหน้าโรงแรมชิคุรินอิน (Chikurin-in Mae) นอกจากนี้ ภายในเขตภูเขาโยชิโนะเองยังมี รถบัสให้บริการจากจุดจอด “Chikurin-in Mae” ไปจนถึง “Oku-senbon” เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว |
⏰ หมายเหตุ: | ตารางเดินรถและเส้นทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและวันในสัปดาห์ แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ทางการของ Yoshino Ohmine Cable Car ก่อนเดินทาง เพื่อให้สามารถวางแผน การเดินทางได้อย่างราบรื่น! →https://yokb315.co.jp/ โดยเฉพาะบริเวณ Oku-senbon ซึ่งอยู่ในพื้นที่สูงและเส้นทางค่อนข้างชัน แนะนำให้ใช้บริการรถบัส เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทาง |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – ปลายเดือนเมษายน |
ค่าเข้าชม | ผู้ใหญ่ 500 เยน |
Website | Yoshinoyama Senbon-zakura |
วัดสึโบซากะเดระ (Tsubosaka-dera)
วัดสึโบซากะเดระเป็นวัดพุทธเก่าแก่บนภูเขาในจังหวัดนารา ซึ่งในช่วงฤดูซากุระ ดอกซากุระจะบานปกคลุมไปทั่วบริเวณวัด ทั้งเจดีย์ โถงวิหาร และพระพุทธรูปหินขนาดใหญ่ สร้างบรรยากาศที่งดงามราวกับฉากในภาพวาด
จุดเด่นที่สุดคือ “ซากุระไดบุทสึ” (桜大仏 – Sakura Daibutsu) หรือภาพของ พระศากยมุนีขนาดใหญ่ ท่ามกลางซากุระที่ผลิบาน เป็นภาพที่อลังการและเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์
นอกจากนี้ ในช่วงค่ำ มีการจัดไลท์อัพ (Light-up) ซากุระ ทำให้บรรยากาศแตกต่างจากเวลากลางวันอย่างสิ้นเชิง ซากุระที่เรืองแสงใต้แสงไฟยามค่ำคืน สร้างความรู้สึกโรแมนติกและน่าหลงใหล จนทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระที่ไม่ควรพลาด
Tsubosaka-dera
ที่อยู่ | 3 Tsubosaka, Takatori, Takaichi, Nara |
วิธีเดินทาง | ลงรถไฟที่สถานี Tsubosakayama Station สาย Kintetsu Yoshino Line นั่งรถบัส Nara Kotsu สายมุ่งหน้าไป Tsubosaka der mae และลงที่ป้ายสุดท้าย (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) เนื่องจากรอบรถบัสมีน้อย กรุณาตรวจสอบตารางเวลารถล่วงหน้า ตารางเวลารถบัส : https://navi.narakotsu.co.jp/pdf/gene19/01656_030_ja.pdf นั่งแท็กซี่ 10 นาที จากสถานีรถไฟ Tsubosakayama Station เดิน 4 กม. ใช้เวลาประมาณ (60-70 นาที) จากสถานี |
ช่วงเวลาทำการ | ต้นเดือน – กลางเดือนเมษายน |
เวลาเข้าชม | 08.30 – 17.00 น. |
ค่าเข้าชม | ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็ก (ชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น) 100 เยน |
Website | Tsubosaka-dera |
สวนสาธารณะนารา (Nara Park)
สวนสาธารณะนารา เป็นหนึ่งในสถานที่ชมซากุระที่มีเสน่ห์ที่สุดในจังหวัดนารา โดยมี ต้นซากุระมากกว่า 1,700 ต้น ที่บานสะพรั่งตลอดช่วงปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ซากุระที่นี่มีหลากหลายสายพันธุ์ ทำให้สามารถชมความงามของดอกไม้เหล่านี้ได้เป็นเวลานานกว่าปกติ
จุดเด่นที่ทำให้ที่นี่ไม่เหมือนที่ไหนก็คือ ภาพของซากุระที่บานสะพรั่งควบคู่ไปกับฝูงกวางที่อาศัยอยู่ในสวน เป็นทิวทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของนารา ซึ่งดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและช่างภาพให้มาเยือนทุกปี หากคุณต้องการสัมผัสบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติและน่ารักแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่นี่คือจุดหมายที่ห้ามพลาด!
สวนสาธารณะนารา
ที่อยู่ | Kasugano-cho, Nara |
วิธีเดินทาง | เดิน 8 นาที จากสถานีรถไฟ Kintetsu Nara Station เดิน 20 จากสถานีรถไฟ JR Nara Station หรือถขึ้น รถบัส Nara Kotsu (สาย City Loop (Outer Route) จาก ป้ายหมายเลข 2 ที่ทางออกฝั่งตะวันออกของสถานี ลงที่ป้าย Kencho-mae ใช้เวลาประมาณ 7 นาที |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนพฤษภาคม |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ค่าเข้าชม | ฟรี |
Website | สวนสาธารณะนารา |
ซากพระราชวังฟูจิวาระ (Fujiwara Palace Ruins)
ที่ซากพระราชวังฟูจิวาระ คุณจะได้พบกับภาพที่งดงามของ ดอกซากุระและดอกนาโนะฮานะ (菜の花 – ดอกเรพซีดสีเหลืองสด) กว่า 2.5 ล้านต้น ที่เบ่งบานพร้อมกัน ท่ามกลางพื้นที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
ไฮไลท์ของที่นี่คือคอนทราสต์ระหว่างสีชมพูของซากุระกับสีเหลืองของดอกนาโนะฮานะ ซึ่งสร้างทิวทัศน์ที่สวยงามราวกับภาพวาด ไม่แปลกใจเลยว่าที่นี่กลายเป็น จุดหมายยอดนิยมของเหล่าช่างภาพ ที่ต้องการเก็บภาพธรรมชาติอันงดงาม
หากคุณกำลังมองหาจุดชมซากุระที่แตกต่างจากที่อื่น และต้องการสัมผัสบรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ซากพระราชวังฟูจิวาระคือจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด!
ซากปราสาทฟูจิวาระ
ที่อยู่ | 178-1 Nawatecho, Kashihara, Nara |
วิธีเดินทาง | เดินทางโดยรถไฟ -เดิน 30 นาที จาก สถานีรถไฟสาย JR Manyo-Mahoroba Line สถานี Unebi Station -เดิน 30 นาที จากสถานีรถไฟสาย Kintetsu-Osaka Line สถานี Miminashi Station -เดิน 30 นาที จากสถานีรถไฟ สาย Kintetsu-Kashihara Line สถานี Unebigoryo-Mae Station เดินทางโดยรถบัส จากสถานีรถไฟสาย Kintetsu-Osaka Line สถานี Yamatoyagi Station ขึ้นรถบัส Kashihara City Community Bus สายที่มุ่งหน้าไปยัง พิพิธภัณฑ์แมลง Kashihara City Insectarium ลงรถที่ป้าย Kashiharashi Fujiwarakyoshiryoshitsu mae (ใช้เวลาประมาณ 19 นาที) และเดินต่อไปอีก 2 นาที |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน |
เวลาสวนเปิดทำการ | 24 ชั่วโมง |
ค่าเข้าชม | ฟรี |
Website | ซากปราสาทฟูจิวาระ |
วัดชิกิซัง โชโกซนชิจิ (Shigisan Chogosonshi-ji)
วัดชิกิซัง โชโกซนชิจิ เป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่งดงาม มี โซเมโยชิโนะ และ ชิดาเระซากุระ บานสะพรั่งทั่วบริเวณวัดโดยเฉพาะในช่วงค่ำ ตั้งแต่ พระอาทิตย์ตกจนถึงเวลา 22:00 น. จะมี การไลท์อัพเปิดไฟประดับที่บริเวณอาคารหลักของวัด
พร้อมแสงไฟจาก โคมไฟหินกว่า 2,000 ดวง ช่วยสร้างบรรยากาศที่สวยงามและน่าหลงใหล ทำให้ซากุระยามค่ำคืนดูงดงามราวกับอยู่ในโลกแห่งความฝัน
วัดชิกิซัง โชโกซนชิจิ (Shigisan Chogosonshi-ji)
ที่อยู่ | 2280-1 Shigisan, Heguri, Ikoma, Nara |
วิธีเดินทาง | -จากสถานีรถไฟ JR Kintetsu Oji Station นั่งรถบัส Kotsu Nara สายมุ่งหน้าไป Shigisanmon ลงรถที่ป้าย Shigiohashi (ใช้เวลาประมาณ 22 นาที) และเดินต่อไปอีก 5 นาที หากใช้บริการรถแท็กซี่ ระยะทาง 4 กม. (ใช้เวลาประมาณ 13 นาที) -จากสถานีรถไฟ Kintetsu Shigisanshita Station นั่งรถแท็กซี่หรือรสบัส ใช้เวลาประมาณ 10 นาที -จากสถานีรถไฟ Kintetsu Shigisanguchi Station นั่งรถ Cable car ไปยังสถานี Takayasuyama Station และนั่งรถบัส Kintestu bus สายมุ่งหน้าไป Shigisanmon (ประมาณ 10 นาที) ลงรถที่ป้าย Shigisanmon และเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน |
เวลาทำการ | เดือนเมษายน – เดือนกันยายน เวลา 08.30 – 17.30 น. เดือนตุลาคม – เดือนมีนาคม เวลา 09.00 – 17.00 น. |
ค่าเข้าชม | ฟรี |
Website | วัดชิกิซัง โชโกซนชิจิ (Shigisan Chogosonshi-ji) |
วัดไทมะเดระ (Taimadera)
วัดไทมะเดระ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดนารา ภายในวัดและบริเวณโดยรอบมีซากุระหลากหลายสายพันธุ์ปลูกไว้ สร้างความงดงามเมื่อภาพของดอกซากุระบานที่สะพรั่งตัดกับทิวทัศน์ของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของวัด เช่น ประตูทางเข้า หอระฆัง อาคารหลัก และเจดีย์คู่โบราณ
จุดเด่นของที่นี่คือ ต้นซากุระชิดาเระอายุกว่า 300 ปี ในบริเวณวัด ซึ่งเป็นจุดชมซากุระที่งดงามที่สุด และเป็นที่นิยมของช่างภาพที่ต้องการเก็บภาพความลงตัวระหว่างธรรมชาติและศิลปะสถาปัตยกรรมโบราณในฤดูใบไม้ผลิ
วัดไทมะเดระ (Taimadera)
ที่อยู่ | 1263 Taima, Katsuragi, Nara |
วิธีเดินทาง | ลงรถไฟที่สถานีสาย Kintetsu Minami Osaka Line สถานี Taimadera Station แล้วเดินต่อไปอีก 15 นาที |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน |
เวลาเข้าชม | 09.00 – 17.00 น. |
ค่าเข้าชม | Garan Sando (Mandara-do, Kon-do, Ko-do) ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็กชั้นประถมศึกษา 500 เยน เวลา 09.00 – 17.00 น. Nakano bo ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็กชั้นประถมศึกษา 250 เยน เวลา 09.00 – 17.00 น. Oku no in ผู้ใหญ่ 500 เยน (รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์) เด็กเล็ก 250 เยน เวลา 09.00 – 17.00 น Sainan in ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็กชั้นประถมศึกษา 100 เยน เวลา 09.00 – 17.00 น. |
Website | วัดไทมะเดระ (Taimadera) |
ปราสาทโคริยามะ (Koriyama Castle)
ซากปราสาทโคริยามะ เป็นหนึ่งใน 100 สถานที่ชมซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น บริเวณคูน้ำรอบปราสาทมี ต้นซากุระโซเมโยชิโนะกว่า 800 ต้น ที่บานสะพรั่งสร้างบรรยากาศที่งดงามและเต็มไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์
ในช่วงที่ซากุระบานเต็มที่ จะมีการจัดงาน “เทศกาลปราสาท” ซึ่งเต็มไปด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น ขบวนพาเหรดย้อนยุค และ การไลท์อัพซากุระยามค่ำคืน ทำให้ที่นี่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาชมความงามของซากุระและร่วมสนุกกับบรรยากาศของเทศกาล
ปราสาทโคริยามะ (Koriyama Castle)
ที่อยู่ | 2-255 Jonaicho, Yamatokoriyama, Nara |
วิธีเดินทาง | -เดินประมาณ 7 นาทีจากสถานีรถไฟสาย Kintetsu-Kashihara Line สถานี Kintetsu-Koriyama Station -เดินประมาณ 15 นาทีจากสถานีรถไฟสาย JR Kansai Line สถานี Koriyama Station |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน |
เวลาสวนเปิดทำการ | 24 ชั่วโมง |
ค่าเข้าชม | ฟรี |
Website | ปราสาทโคริยามะ (Koriyama Castle) |
ทาคาดะเซ็มบงซากุระ (Takada Senbonzakura)
ทากาดะเซ็มบงซากุระ เป็นแนวซากุระที่ปลูกขึ้นตั้งแต่ปี 1948 และมีอายุมากกว่า 70 ปี ปัจจุบันมี ต้นซากุระกว่า 1,200 ต้น บานสะพรั่งตลอดสองฝั่งของแม่น้ำทากาดะ เป็นระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร สร้างทิวทัศน์ที่งดงามและชวนหลงใหล
ช่วงเวลาชมซากุระที่ดีที่สุดคือ ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน โดยในช่วงเทศกาลจะมี การไลท์อัพในยามค่ำคืน เพิ่มเสน่ห์ให้บรรยากาศยามค่ำคืนงดงามไม่แพ้เวลากลางวัน
ทาคาดะเซ็มบงซากุระ (Takada Senbonzakura)
ที่อยู่ | 1-1 Kasugacho, Yamatotakada, Nara |
วิธีเดินทาง | เดินประมาณ 10 นาทีจากสถานีรถไฟสาย Kintetsu-Minami Osaka Line สถานี Takadishi Station เดินประมาณ 13 นาทีจากสถานีรถไฟสาย Kintetsu-Osaka Line สถานี Yamato-Takadishi หรือ สาย Wakayama Line หรือ Sakurai Line สถานี Takada Station |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน |
เวลาสวนเปิดทำการ | 24 ชั่วโมง |
ค่าเข้าชม | ฟรี |
Website | ทาคาดะเซ็มบงซากุระ (Takada Senbonzakura) |
วัดอะเบะมอนจูอิน (Abe Monju-in)
วัดอะเบะมอนจูอิน มีต้นซากุระโซเมโยชิโนะประมาณ 500 ต้น ที่บานสะพรั่งทั่วบริเวณวัด โดยเฉพาะซากุระที่ล้อมรอบ ศาลาลอยน้ำคินคะคุ ซึ่งสร้างทิวทัศน์ที่งดงามเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ จาก ศาลาเซเมโด สามารถมองเห็นซากุระที่บานทั่วทั้งวัดได้ในมุมกว้าง และยังสามารถชมวิว ภูเขาสามลูกแห่งยามาโตะ ที่อยู่ไกลออกไป ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง
วัดอะเบะมอนจูอิน (Abe Monju-in)
ที่อยู่ | 645 Abe, Sakurai, Nara |
วิธีเดินทาง | เดินทางด้วยรถไฟ : ลงรถไฟที่สถานี JR Kintetsu-Sakurai Station และเดินไปประมาณ 20 นาที เดินทางด้วยรถบัส : จากทางออกทางด้านทิศเหนือของสถานีรถไฟ Sakurai Station นั่งรถบัสสายใต้ของ Sakurai City Community Bus (Nara Kotsu Bus) ลงที่ป้าย Abe Monju-in และเดินไปอีกประมาณ 1 นาที |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน |
เวลาเข้าชมดอกไม้ | 9:00-17:00 น |
ค่าเข้าชม | Hondokokubou – Monjyubosatsu ผู้ใหญ่ 700 เยน เด็กชั้นประถมศึกษา 500 เยน Kinkaku- ukimi-do ureiboukan (Golden Pavilion) ผู้ใหญ่ 700 เยน เด็กชั้นประถมศึกษา 500 เยน Hondo Kinkaku – ukimi-do kyotsusanpai ผู้ใหญ่ 1200 เยน เด็กชั้นประถมศึกษา 800 เยน |
Website | วัดอะเบะมอนจูอิน (Abe Monju-in) |
ศาลเจ้าทันซัง (Tanzan Shrine)
ศาลเจ้าทันซัง มีต้นซากุระราว 500 ต้น ปลูกอยู่ทั่วบริเวณ โดยจุดเด่นที่สุดคือ ต้นซากุระอุซุซึมิ (Usuzumi Zakura) อายุกว่า 600 ปี ที่มีความงดงามเป็นพิเศษ
ซากุระที่นี่เบ่งบานอย่างกลมกลืนกับ เจดีย์ 13 ชั้นและอาคารหลักของศาลเจ้า สร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์และความงามของธรรมชาติ
ช่วงเวลาชมซากุระที่ดีที่สุดคือ ต้นถึงกลางเดือนเมษายน และในช่วงนี้ยังมี การไลท์อัพในเวลากลางคืน ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับซากุระได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ศาลเจ้าทันซัง (Tanzan Shrine)
ที่อยู่ | 319 Tonomine, Sakurai, Nara |
วิธีเดินทาง | สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด คือ Kintetsu Sakurai Station และ JR Sakurai Station เดินทางโดยรถบัส ขึ้นรถบัส Kotsu Nara สาย Tonomine Line มุ่งหน้าไป Tanzan-jinja ที่ป้ายหมายเลข 2 บริเวณทางออกทางทิศใต้ของสถานีรถไฟ Sakurai Station ลงรถที่ป้ายสุดท้าย คือ ป้าย Tanzan-jinja (ใช้เวลา 25 นาที) และเดินต่อไปอีก 3 นาที เดินทางโดยรถแท็กซี่ ใช้เวลา 15 นาที จากสถานีรถไฟ Sakurai Station |
ช่วงเวลา | ต้นเดือน – กลางเดือนเมษายน |
เวลาทำการ | 08.30 – 16.30 น. |
ค่าเข้าชม | ผู้ใหญ่ (เด็กชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นขึ้นไป) : 600 เยน เด็กชั้นประถมศึกษา 300 เยน เด็กอายุยังไม่ถึงเกณฑ์เข้าเรียน : ฟรี |
Website | ศาลเจ้าทันซัง (Tanzan Shrine) |
วัดฮาเซเดระ (Hasedera Temple)
วัดฮาเซเดระ ในเมืองซากุไร จังหวัดนารา ได้รับฉายาว่า “วัดแห่งดอกไม้” เพราะตลอดทั้งปีจะมีดอกไม้บานให้ชม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซากุระกว่า 1,000 ต้น จะบานสะพรั่งทั่วบริเวณวัด
จุดที่งดงามเป็นพิเศษคือบันไดทางเดินขึ้นสู่พระวิหารหลัก และ บริเวณรอบเจดีย์ห้าชั้น ซึ่งซากุระที่บานรายล้อมสร้างภาพที่กลมกลืนกับสถาปัตยกรรมโบราณอย่างลงตัว ดึงดูดผู้มาเยือนได้อย่างน่าประทับใจ
วัดฮาเซเดระ (Hasedera Temple)
ที่อยู่ | 731-1 Hase, Sakurai, Nara |
วิธีเดินทาง | เดินทางโดยรถไฟ เดิน 15 นาที จากสถานีรถไฟ Hasedera Station บนสาย Kintetsu-Osaka Line เดินทางโดยรถบัส จากสถานีรถไฟ JR และ Kintetsu Sakurai Station นั่งรถบัส Kotsu-Nara สายมุ่งหน้าไป Hasederasandoguchi ลงรถที่ป้าย Hasederasandoguchi และเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – กลางเดือนเมษายน |
เวลาเข้าชม | เดือนเมษายน – เดือนกันยายน 08.30 -17.00 น. เดือนตุลาคม – เดือนพฤศจิกายน 09.00 – 17.00 น. เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์ 09.00 – 16.30 น. เดือนมีนาคม 09.00 – 17.00 น. |
ค่าเข้าชม | ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็กชั้นมัธยมศึกษา 500 เยน เด็กชั้นประถมศึกษา 250 เยน |
Website | วัดฮาเซเดระ (Hasedera Temple) |
จุดชมดอกซากุระในเกียวโต
เกียวโตมีเสน่ห์ของทิวทัศน์อันงดงามที่ผสมผสานระหว่างวัด ศาลเจ้า และสวนประวัติศาสตร์กับดอกซากุระที่บานสะพรั่ง ที่นี่มีซากุระหลากหลายสายพันธุ์ ทั้ง โซเมโยชิโนะ และ ชิดาเระซากุระ พร้อมจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น วัดโทจิ สวนมารุยามะ และวัดคิโยมิซุเดระ
นอกจากนี้ ในช่วงค่ำยังมี การไลท์อัพตามสถานที่ต่าง ๆ ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศซากุระยามค่ำคืนที่สวยงามและเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์
วัดโทจิ (To-ji)
วัดโทจิเป็นหนึ่งในสถานที่ชมซากุระที่สวยงาม โดยมี “ฟุจิซากุระ” ต้นซากุระอายุประมาณ 120 ปี และ เจดีย์ห้าชั้นที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ที่ตั้งตระหง่านอย่างงดงาม โดยเฉพาะในช่วง ไฟประดับตอนกลางคืน เงาของซากุระและเจดีย์ที่สะท้อนลงบนผิวน้ำสร้างบรรยากาศที่สวยงามและน่าหลงใหล
วัดโทจิ (To-ji)
ที่อยู่ | 1 Kujocho, Minami, Kyoto |
วิธีเดินทาง | ลงรถไฟที่สถานี Toji Station บนสาย Kintetsu-Kyoto Line และเดินไปประมาณ 10 ยาที จากทางออก Hachijoguchi ของ สถานีรถไฟ JR Kyoto Station เดินไป 15 นาที (ระยะทาง 1.1 กม.) เดินทางโดยรถบัส จากทางออก Karasumaguchi ของสถานีรถไฟ JR Kyoto Station นั่งรถบัสสาย 78 (มุ่งหน้าไป Kuze Kogyodanchi ) หรือ สาย 19 (มุ่งหน้าไป Chushojima – Yokooji Shako ) ลงรถที่ป้าย Toji Minamimon-mae และเดินไปประมาณ 1 นาที จากทางออก Hachijoguchi ของสถานีรถไฟ JR Kyoto Station นั่งรถบัสสาย 16 (มุ่งหน้าไป Minami Kusokochosha – Kujo Shako) ลงรถที่ป้าย Toji Nishimon-mae และเดินไปประมาณ 1 นาที จากสถานีรถไฟ Hankyu Omiya Station นั่งรถบัสสาย 71 (มุ่งหน้าไป Omiya dori – Koga Ishiharacho) หรือสาย 207 (มุ่งหน้าไป Kujo Omiya – Kujo Shako) ลงรถที่ป้าย Toji Higashimon-mae และเดินไปประมาณ 1 นาที |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – กลางเดือนเมษายน |
เวลาเข้าชม | เวลาปกติ 08.00 – 17.00 น. (ปิดให้เข้าเวลา 16.30 น.) ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่มีการประดับไฟซากุระในช่วงกลางคืน 18.00 – 21.30 น. ( ปิดให้เข้าเวลา 21.00 น.) |
ค่าเข้าชม | ปกติ : Kindo – Kodo 500 เยน ช่วงเวลาประดับไฟกลางคืน : ราคาพิเศษ 1,000 เยน |
Website | วัดโทจิ (To-ji) |
สวนสาธารณะมารุยามะ (Maruyama Park)
สวนมารุยามะ ตั้งอยู่ในเขตฮิงาชิยามะของเกียวโต และเป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง โด่งดังในเรื่อง ชิดาเระซากุระ (ซากุระกิ่งย้อย) โดยเฉพาะ “กิออนชิดาเระซากุระ” ซึ่งเป็นต้นที่สองและมีอายุกว่า 90 ปี ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีการประดับไฟยามค่ำคืน ทำให้ซากุระยิ่งดูสวยงาม ดึงดูดผู้คนให้มาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก
สวนสาธารณะมารุยามะ (Maruyama Park)
ที่อยู่ | Maruyamacho, Higashiyama, Kyoto |
วิธีเดินทาง | เดินทางโดยรถไฟ ลงรถไฟที่สถานี Gion-Shijo Station บนสาย Keihan Main Line และเดินไปประมาณ 10 นาที ลงรถไฟที่สถานี Kawaramachi Station บนสาย Hankyu-Kyoto Line และเดินไปประมาณ 15 นาที เดินทางโดยรถบัส จากสถานีรถไฟ JR Kyoto Station นั่งรถสาย 100 (มุ่งหน้าไป Ginkakuji Temple) หรือ สาย 206 (มุ่งหน้าไป Kita Oji Bus Terminal) ลงรถที่ป้าย Gion แล้วถึงทันที |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน |
เวลาสวนเปิดทำการ | 24 ชั่วโมง |
ค่าเข้าชม | ฟรี |
Website | สวนสาธารณะมารุยามะ (Maruyama Park) |
วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu Temple)
วัดคิโยมิซุเดระ เป็นหนึ่งในสถานที่ชมซากุระที่สวยที่สุดในเกียวโต ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ซากุระที่บานสะพรั่งจะแต่งแต้มความงดงามทั่วบริเวณวัด โดยเฉพาะวิวจาก “ระเบียงวัดคิโยมิซุ” ที่สามารถมองเห็นทะเลซากุระที่แผ่กว้างสุดสายตา ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วง ไฟประดับยามค่ำคืน บรรยากาศยิ่งดูโรแมนติกและงดงาม ด้วยแสงไฟที่ขับให้ซากุระและสถาปัตยกรรมของวัดโดดเด่นยิ่งขึ้น
วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu Temple)
ที่อยู่ | 1-294 Kiyomizu, Higashiyama, Kyoto |
วิธีเดินทาง | เดินทางโดนรถไฟ จากทางออกหมายเลข 4 ของสถานีรถไฟ Kiyomizu-Gojo Station บนสาย Keihan Main Line เดินไปประมาณ 19 นาที เดินทางโดยรถบัส จากสถานีรถไฟ JR Kyoto Station นั่งรถสาย 100 (มุ่งหน้าไป Kiyomizu-dera Gion – Ginkakuji) หรือสาย 206 ( Higashiyamadori – Kita Oji Bus Terminal) ลงรถที่ป้าย Gojo-zaka หรือ Kiyomizu-michi และเดินไปประมาณ 10 นาที |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน |
เวลาเข้าชม | ช่วงปกติ เวลา 06.00 – 18.00 น. ฤดูใบไม้ผลิ ช่วงเวลากลางคืน เวลา 18.00 – 21.00 น. (ปิดให้เข้าชม) |
ค่าเข้าชม | ช่วงปกติ ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็กชั้นประถมและมัธยมศึกษาตอนต้น 200 เยน เข้าชมพิเศษช่วงเวลากลางคืน ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็กชั้นประถมและมัธยมศึกษาตอนต้น 200 เยน |
Website | วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu Temple) |
จุดชมดอกซากุระในโอซาก้า
โอซาก้า เป็นเมืองที่มีทิวทัศน์งดงาม ผสมผสานระหว่าง สถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์และซากุระ ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะที่ สวนปราสาทโอซาก้า ซึ่งมีซากุระกว่า 3,000 ต้นบานสะพรั่ง ตัดกับฉากหลังของปราสาทอย่างสวยงาม
อีกหนึ่งจุดชมซากุระที่น่าสนใจคือ สวนเทนโนจิ ใกล้กับ อาเบะโนะฮารุกัส ซึ่งสามารถชมซากุระพร้อมวิวของ อาเบะโนะฮารุกัส และ หอคอยซึเทนคาคุ ได้อย่างลงตัว
ทั้งสองสถานที่เราสามารถเพลิดเพลินกับซากุระได้ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นความสดใสในช่วงกลางวัน หรือบรรยากาศโรแมนติกยามค่ำคืนที่มีแสงไฟประดับเพิ่มความงดงาม
สวนปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle Park)
สวนปราสาทโอซาก้า เป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่สวยที่สุดในคันไซ โดยมีซากุระกว่า 3,000 ต้น บานสะพรั่งทั่วทั้งสวน
สวนนิชิโนมารุ เป็นจุดเด่นของที่นี่ มีซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะราว 300 ต้น ที่บานตัดกับฉากหลังของ ปราสาทโอซาก้า เป็นภาพที่งดงามและน่าประทับใจในช่วงกลางคืน จะมีการประดับไฟ ทำให้บรรยากาศของ โยซากุระ (ซากุระยามค่ำคืน) ดูสวยงามและมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นอีกด้วย
สวนปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle Park)
ที่อยู่ | 1-1 Osakajo, Chuo, Osaka |
วิธีเดินทาง | เดินทางโดยรถไฟ -เดิน 15 นาที จากทางออกหมายเลข 1-B ของสถานีรถไฟ Tanimachiyonchome Station หรือ จากทางออกหมายเลข 3 ของสถานีรถไฟ Temmabashi Station บนสาย Osaka Metro Tanimachi Line -เดิน 15 นาทีจากทางออกหมายเลข 9 Tanimachiyonchome Station หรือจากทางออกหมายเลข 1 และ 3-B ของสถานีรถไฟ Morinomiya Station บนสาย Osaka Metro Chuo Line -เดิน 15 นาทีจาก ทางออกหมายเลข 3-B ของสถานีรถไฟ Morinomiya Station หรือ จากทางออกหมายเลข 1 ของสถานีรถไฟ Osaka Business Park Station บนสาย Osaka Metro Nagahori Tsurumi-Ryokuchi Line -เดิน 15 นาที จากสถานีรถไฟ Morinomiya Station หรือ สถานี Osakajokoen Station บนสาย JR Osaka Loop Line -เดิน 20 นาทีจากสถานีรถไฟ Osakajokitazume Station บนสาย JR Tozai Line เดินทางโดยรถบัส นั่งรถบัส Osaka City Bus สาย 62 จากสถานีรถไฟ Osaka Station ไปลงที่ป้าย Osakajo-otemae หรือ Babacho แล้วเดินต่อไปอีก 10 นาที |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน |
เวลาเปิดทำการ | 24 ชั่วโมง |
ค่าเข้าชม | ฟรี |
Website | สวนปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle Park) |
สวนสาธารณะเทนโนจิ (Tennoji Park)
สวนเทนโนจิ เป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่สวยงามในโอซาก้า โดยมีซากุระบานสะพรั่งบริเวณ ภูเขาชะอุสุ (Chausuyama), บึงคาเตอิ (Kasokotei), ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองโอซาก้า และสวนสัตว์เทนโนจิ
โดยเฉพาะที่บริเวณ “เทนชิบะ” (Tenshiba) ซึ่งเป็นลานสนามหญ้ากว้าง เหมาะสำหรับครอบครัวและกลุ่มเพื่อนมาปิกนิกชมดอกซากุระ
นอกจากนี้ ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวซากุระที่มีฉากหลังเป็น “อาเบะโนะฮารุกัส” และ “หอคอยซึเทนคาคุ” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมุมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่อีกด้วย
อาเบะโนะฮารุกัสและซากุระ
หอคอยสึเทงคาคุ กับ ซากุระ
สวนสาธารณะเทนโนจิ (Tennoji Park)
ที่อยู่ | 5-55 Chausuyamacho, Tennoji, Osaka |
วิธีเดินทาง | เดินทางโดยรถไฟ -เดิน 3 นาที จากสถานีรถไฟ Tennoji Park บนสาย Osaka Metro Midosuji Line ・Tanimachi Line เดิน 3 นาที จาก ประตูทางเข้า-ออกกลาง Chuo-guchi Kaisatsu ของสถานีรถไฟ JR Tennoji Station -เดิน 3 นาที จาก ประตูทางเข้า-ออกทิศตะวันตก Nishi Kaisatsuguchi ของสถานีรถไฟ Osaka – abenobashi Station บนสาย Kintetsu-Minamiosaka Line -เดิน 3 นาที จาก ประตูทางเข้า-ออกกลาง Kaisatsu-guchi ของสถานีรถไฟ JR Tennojieki-mae Station บนสาย Hankaidenki – Uemachi Line เดินทางโดยรถบัส นั่งรถบัส Osaka City Bus ลงรถบัสที่ป้าย Abenobashi และเดินต่อไปอีก 5 นาที |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน |
เวลาทำการ | 07.00 – 22.00 น. |
ค่าเข้าชม | ฟรี |
Website | สวนสาธารณะเทนโนจิ ( Tennoji Park) |
วัดโดเมียวจิเท็นมังกู (Domyoji Tenmangu)
เป็นหนึ่งในสถานที่ชมซากุระที่สวยงามของโอซาก้า ภายในวัดมีซากุระประมาณ 200 ต้น จาก 10 สายพันธุ์ โดยมี โซเมโยชิโนะ เป็นพันธุ์ที่พบได้มากที่สุด ดอกซากุระที่บานสะพรั่งทำให้ทั่วบริเวณวัดถูกแต่งแต้มไปด้วยสีชมพูอ่อนอย่างงดงาม
ที่นี่ยังเป็น จุดชมดอกบ๊วย (อุเมะ) ชื่อดัง ซึ่งจะบานก่อนซากุระ ทำให้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ วัดแห่งนี้ดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้มาเยี่ยมชมความงามของทั้งดอกบ๊วยและดอกซากุระพร้อมกัน
วัดโดเมียวจิเท็นมังกู (Domyoji Tenmangu)
ที่อยู่ | 1-16-40 Domyoji, Fujiidera, Osaka |
วิธีเดินทาง | เดิน 3 นาทีจากสถานีรถไฟ Domyoji Station บนสาย Kintetsu Minami Osaka Line |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน |
เวลาทำการ | 09.00 – 17.00 น. |
ค่าเข้าชม | ฟรี |
Website | วัดโดเมียวจิเท็นมังกู (Domyoji Tenmangu) |
จุดชมดอกซากุระในมิเอะ
จังหวัดมิเอะ เป็นจังหวัดที่มีจุดชมซากุระมากมาย โดยผสมผสานความงดงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ได้อย่างลงตัว ที่นี่มีสถานที่ที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “100 จุดชมซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น” รวมถึงแหล่งชมซากุระสายพันธุ์หายาก ดึงดูดผู้คนให้มาเยี่ยมชมและเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่งดงามในฤดูใบไม้ผลิ
สวนสาธารณะอุเอโนะ (Ueno Park)
ปราสาทอิงะอุเอโนะ (Iga Ueno Castle) ตั้งอยู่ภายใน สวนอุเอโนะ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่สวยงามที่สุดในพื้นที่ โดยรอบ หอคอยปราสาท (Tenshukaku) มีซากุระพันธุ์ โซเมโยชิโนะ กว่า 600 ต้น บานสะพรั่ง สร้างภาพที่งดงามของปราสาทที่ตัดกับซากุระสีชมพูอ่อน
ในช่วงกลางคืน จะมีการ ประดับไฟบริเวณหอคอยปราสาท ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับความงามของ โยซากุระ (ซากุระยามค่ำคืน) ที่มีบรรยากาศชวนฝันและโรแมนติก เหมาะสำหรับการเดินเล่นและถ่ายภาพความงามของซากุระในยามค่ำคืน
สวนสาธารณะอุเอโนะ (Ueno Park)
ที่อยู่ | 106 Uenomarunouchi, Iga, Mie |
วิธีเดินทาง | เดินประมาณ 8 นาที จากสถานีรถไฟ Iga-Tetsudo Uenoshi Station |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน |
เวลาเปิดทำการ | 24 ชั่วโมง |
ค่าเข้าชม | ฟรี |
Website | สวนสาธารณะอุเอโนะ (Ueno Park) |
มิยางาวะซึซึมิ (Miyagawa Tsutsumi)
มิยางาวะซึซึมิ เป็นแนวต้นซากุระที่ทอดยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ตามริมฝั่งแม่น้ำมิยางาวะในเมืองอิเสะ โดยมี ซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะกว่า 1,000 ต้น บานสะพรั่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ตั้งแต่สมัยเอโดะ ที่นี่เป็นที่รู้จักในชื่อ “ซากุระโนะวาตาชิ”และได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน “100 จุดชมซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น”
เมื่อซากุระบานเต็มที่จะกลายเป็น อุโมงค์ซากุระ ที่งดงาม และในช่วงกลางคืนยังมี การประดับไฟ ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศของ โยซากุระ (ซากุระยามค่ำคืน) ที่สวยงามและชวนหลงใหล
มิยางาวะซึซึมิ (Miyagawa Tsutsumi)
ที่อยู่ | 1-16 Nakajima, Ise, Mie |
วิธีเดินทาง | จาก สถานี JR Kintetsu Ise-shi Station ขึ้นรถบัส Mie Kotsu สายมุ่งหน้าไป Tamarujo-ato (Wataraicho yakuba-mae) ใช้เวลาประมาณ 7 นาที ลงที่ป้าย Wataraibashi เดิน 15 นาทีจากสถานีรถไฟ Yamadakamiguchi Station บนสาย JR Sangu Line เดิน 15 นาทีจากสถานีรถไฟ Miyamachi Station บนสาย Kintetsu Yamada Line |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน |
เวลาเปิดทำการ | 24 ชั่วโมง |
ค่าเข้าชม | ฟรี |
Website | มิยางาวะซึซึมิ (Miyagawa Tsutsumi) |
ศาลเจ้าอิเสะไนกุ (Ise Jingu Naiku)
ศาลเจ้าอิเสะไนกู เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีทิวทัศน์ซากุระงดงาม โดยมี ซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะและยามาซากุระ กว่า 600 ต้น บานสะพรั่งทั่วบริเวณ สร้างบรรยากาศที่กลมกลืนไปกับความร่มรื่นของป่าไม้ในศาลเจ้า
โดยเฉพาะ แนวซากุระริมฝั่งแม่น้ำอิซุซุ (Isuzugawa) ที่เรียงรายอย่างสวยงาม ทำให้ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสถึง กลิ่นอายของฤดูใบไม้ผลิ ได้อย่างเต็มที่
ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Jingu Naiku)
ที่อยู่ | (Naiku) 1 Ujitachicho, Ise, Mie |
วิธีเดินทาง | -จาก สถานีรถไฟ Kintetsu Isuzugawa Station ขึ้นรถบัส Mie Kotsu ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ลงที่ป้าย Naiku-mae -จาก สถานีรถไฟ Kintetsu Ujiyamada Station ขึ้นรถบัส Mie Kotsu ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ลงที่ป้าย Naiku-mae |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน |
เวลาเข้าชม | เดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน และกันยายน เวลา 05.00 – 18.00 น. เดือนพฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม และสิงหาคม เวลา 05.00 – 19.00 น. เดือนตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม |
ค่าเข้าชม | ฟรี |
Website | ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Jingu Naiku) |
นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato)
ในฤดูใบไม้ผลิ นาบานะโนะซาโตะ จะเต็มไปด้วยซากุระพันธุ์ โซเมโยชิโนะกว่า 300 ต้น ที่บานสะพรั่ง โดยเฉพาะแนวต้นซากุระที่ทอดยาวสวยงามเป็นพิเศษ
ในช่วงที่ซากุระบานเต็มที่ ยังมีการ ประดับไฟตอนกลางคืน ให้ได้ชม โยซากุระ (ซากุระยามค่ำคืน) ท่ามกลางบรรยากาศที่โรแมนติกและชวนหลงใหล
นอกจากซากุระแล้ว ดอกไม้ชนิดอื่น เช่น ทิวลิป ก็เบ่งบานพร้อมกัน ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยสีสันของฤดูใบไม้ผลิ และเป็นพิกัดที่ไม่ควรพลาด
สวนดอกไม้นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato)
ที่อยู่ | 270 Urushibata Nagashimacho Komae, Kuwana, Mie |
วิธีเดินทาง | เดินทางจากสถานีรถไฟ Nagoya Station Direct Bus : จาก Meitetsu Bus Center (ติดกับสถานีรถไฟ Nagoya) มีรถบัสตรงไปที่ Nabana no Sato ให้บริการ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เดินทางโดยรถไฟ -นั่งรถไฟจากสถานีรถไฟ Kintetsu Nagoya Station ไปที่สถานี Kintetsu Nagashima Station ใช้เวลาประมาณ 20 นาที และนั่งรถบัส Mie Kotsu ต่อไปอีกประมาณ 10 นาที -นั่งรถไฟจากสถานี Kintetsu Osaka namba Station ไปยังสถานี Kintetsu Nagashima Station ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง และนั่งรถบัส Mie Kotsu ต่อไปอีกประมาณ 10 นาที |
ช่วงเวลา | ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน |
เวลาเปิดทำการ | มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาลและงานอีเว้นต์ กรุณาตรวจสอบรายละเอียดผ่าน Official Website →https://www.nagashima-onsen.co.jp/nabana/fee/calendar/index.html |
ค่าเข้าชม | ผู้ใหญ่หรือเด็กชั้นประถมศึกษาขึ้นไป 2,500 เยน ( รวมคูปองเงินสดใช้ภายในสวน มูลค่า 1,000 เยน) เด็กต่ำกว่าประถมศึกษา เข้าชมฟรี |
Website | สวนดอกไม้นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato) |
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความนี้ เราได้แนะนำสถานที่ชมซากุระที่สวยงามตามแนวเส้นทางของรถไฟคินเท็ตสึ ในจังหวัด นารา, เกียวโต, โอซาก้า และมิเอะ อย่างละเอียด หวังว่าข้อมูลเกี่ยวกับจุดเด่นของแต่ละสถานที่และวิธีการเดินทาง จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนทริปชมซากุระในฤดูใบไม้ผลิได้อย่างเพลิดเพลินอย่าลืมใช้บริการ รถไฟคินเท็ตสึ เพื่อการเดินทางที่สะดวกสบาย และออกไปสัมผัสความงดงามของซากุระกันนะ!