บุกอาณาจักรสัตว์โกเบ แอนิมอล คิงดอม (Kobe Animal Kingdom) สวรรค์ของคนรักสัตว์ที่สามารถใกล้ชิดกับสัตว์น่ารักชนิดต่างๆ ได้

12/11/2024
โกเบ ( Kobe ) เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องเนื้อวากิว ซึ่งหลายคนไปโกเบ ส่วนใหญ่นั้นอยากไปลิ้มลองสเต๊กเนื้อวากิว ซึ่งโกเบไม่ได้มีแค่เนื้อวากิวที่เป็นจุดขาย ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ โกเบ แอนิมอล คิงดอม ( Kobe Animal Kingdom )

โกเบ แอนิมอล คิงดอม ( Kobe Animal Kingdom ) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวสามารถใกล้ชิดสัตว์ต่างๆ รวมถึงได้เห็นสัตว์หายากด้วย โดยที่นี่จะจัดแบ่งเป็น 2 โซนใหญ่ๆคือ โซนในร่ม และโซนแบบกลางแจ้ง

โกเบ แอนิมอล คิงดอม ( Kobe Animal Kingdom )

โกเบ แอนิมอล คิงดอม ( Kobe Animal Kingdom ) ตั้งอยู่ที่ Port Island เมือง Kobe ในจังหวัด Hyogo ซึ่งสามารถเดินทางไปได้ง่ายจาก Osaka  ซึ่งที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบอาณาจักรสัตว์ที่นักท่องเที่ยวมีโอกาสใกล้ชิด หรือสัมผัสสัตว์บางชนิดได้ รวมถึงได้มีโอกาสได้เห็นสัตว์หายากที่ใกล้ศูนย์พันธุ์บางชนิดได้ เท่านั้นยังไม่พอที่นี่มีการแสดงโชว์ของนก ให้นักท่องเที่ยวได้ชมอีกด้วย

โดยที่นี่จะแบ่งออกเป็น 2 โซนคือโซนในร่ม ( Inside Park ) และโซนกลางแจ้ง ( Outside Park )

  • ทางโซนในร่ม ( Inside Park ) ก็มีสัตว์น่ารักๆให้นักท่องเที่ยวได้ใกล้ชิดเช่น หมา แมว กระต่าย คาปิบาร่า เป็นต้น
  • ทางด้านโซนกลางแจ้ง ( Outside Park ) ก็จะมีกิจกรรมต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้ทำเช่นการขี่อูฐ การให้อาหารสัตว์ เป็นต้น

สวนสัตว์สไตล์เปิดและการสัมผัสสัตว์

โซนในร่ม ( Inside Park )

Dog Touch & Cat Touch และ Rabbit Touch

ที่มา https://en.kobe-oukoku.com/touch/

ราจะมาเริ่มต้นกันที่โซน Dog Touch & Cat Touch โซนนี้จะอยู่ทางเหนือของโซนในร่ม ซึ่งตามชื่อเลย คือโซนนี้จะมีหมาและแมวให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันแบบใกล้ชิด เท่านั้นไม่พอนักท่องเที่ยวยังสามารถลูบหัวหรือเล่นกับน้องหมาน้องแมวได้ด้วย ซึ่งใครที่เป็นทาสหมาทาสแมว ห้ามพลาดโซนนี้เลย

โดยน้องหมาก็มีชื่อเป็นของตัวเองด้วยนะครับ

และที่โซนนี้ยังมีสัตว์หายากให้นักท่องเที่ยวได้ชมด้วย เช่นแมวทราย หรือ Sand Cat ซึ่งถูกขนานนามว่านางฟ้าแห่งทะเลทราย, ตัวพูดู ( Pudu ) ซึ่งเป็นกวางขนาดเล็ก เป็นต้น

และนักท่องเที่ยวยังสามารถให้อาหารน้องหมาได้ด้วย โดยมีวันละ 3 รอบ ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่จะต้องจองก่อนถึงเวลา 20 นาที สามารถเช็คตารางได้ที่นี่ ตารางเวลาให้อาหารน้องหมา

ที่มา https://en.kobe-oukoku.com/touch/

ทางด้านโซน Rabbit Touch ก็เช่นกันนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัส เล่นกับกระต่ายได้ และยังสามารถให้อาหารน้องกระต่ายได้อีกด้วย โดยจะมีวันละ 3 รอบ และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สามารถเช็คตารางได้ที่นี่ ตารางเวลาให้อาหารกระต่าย

Sumatran Tiger Ecological Garden

ที่มา https://en.kobe-oukoku.com/parkguide/

โซนนี้เป็นโซนที่จัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้พบกับเสือโคร่งสุมาตรา โดยในพื้นที่นี้ได้จัดสภาพแวดล้อมให้ใกล้เคียงกับที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของเสือเคร่งสุมาตรา เนื่องจากว่าเสือโคร่งสุมาตรานั้นเป็นสัตว์ที่ชอบพรางตัวเวลาออกล่าเหยือ ทำให้นักท่องเที่ยวได้เห็นวิธีการพรางตัวของมัน และได้ลองมองหามันว่ามันพรางตัวอยู่ตรงไหน และเห็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของมันเช่น การปีนต้นไม้ การนอนพักผ่อนบนก้อนหิน เป็นต้น

โซนป่าเขตร้อน Tropical Forest

ที่มา https://en.kobe-oukoku.com/parkguide/

พื้นที่บริเวณนี้ได้จำลองเป็นภูมิประเทศแบบป่าเขตร้อน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เห็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามป่าเขตร้อนเช่น นกออสเตรเลี่ยนปากกบ สุนัขป่าบุชด็อก ( Bushdog ) โดยจะได้วิถีชีวิตของบุชด็อกไม่ว่าจะการเดินบนบกหรือการว่ายน้ำ และที่ไฮไลท์ของโซนนี้คือ นักท่องเที่ยวได้เห็นสมเสร็จอเมริกา ที่ไม่มีกรง หรือตาข่ายใดๆกัน ซึงนักท่องเที่ยวใกล้ชิดกับมันจนได้ยินลมหายใจของมันเลยทีเดียว นอกนั้นยังมีตัวสล็อต, มาร์โมเซต ให้ได้ชมอีกด้วย

พื้นที่ชุ่มน้ำเขตร้อน Tropical Wetlands

ที่มา https://en.kobe-oukoku.com/parkguide/

โซนนี้จะจัดแสดงเกี่ยวกับสัตว์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำเขตร้อนเช่น งูเหลือมพม่า, กิ้งก่ากีกัวน่าเขียว และเสือปลาซึ่งถือว่าเป็นสัตว์หายาก

แต่ไฮไลท์ของโซนนี้คือ สมเสร็จมลายู ซึ่งเป็นสัตว์หายากชนิดหนึ่ง โดยตัวของมันจะมีลายขาวดำ การจัดแสดงของสมเสร็จมลายูนั้น จะแสดงเฉพาะวันที่เป็นเลขคู่เท่านั้น อย่างเช่นวันที่ 2, 4, 6, 8 เป็นต้น

Flower Shower

ที่มา https://en.kobe-oukoku.com/parkguide/

โซนนี้จะเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ และยังมีดอกไม้ที่แขวนไว้ทำให้ดูสวยงามมากขึ้นไปอีก และยังมีร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ไว้บริการนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวสามารถนั่งกินอาหารพลางชมดอกไม้สวยๆ เรียกได้ว่าฟินน์สุดๆ

สิ่งที่น่าสนใจอื่นๆสำหรับโซน Inside Park

ที่มา https://en.kobe-oukoku.com/parkguide/

โซนสัตว์หากินตอนกลางคืน Wild Night Animal

 โซนนี้จะจัดแสดงเกี่ยวกับสัตว์หากินตอนกลางคืน โดยจัดบรรยากาศให้มีแสงไฟสลัวๆคล้ายๆกับเวลากลางคืน โดยนักท่องเที่ยวจะได้เห็นสัตว์หากินตอนกลางคืนที่อาศัยอยู่บนต้นไม้ อย่างเช่น กระรอกบินเล็กญี่ปุ่น, ตัวพอสซัม เป็นตัน

โซนพื้นที่ชุ่มน้ำแอฟริกัน African Wetlands

 โซนนี้จะมีสระน้ำขนาดใหญ่และมีนกหลายสายพันธุ์อาศัยอยู่ที่นี่อย่างเช่น เป็ด นกกระทุง นกไอบิส เป็นต้น นอกจากนกแล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถใกล้ชิดกับสัตว์อย่างตัวลีเมอร์หางวงแหวนได้อีกด้วย และสัตว์กินเนื้อขนาดเล็กเช่นจิ้งจอกเฟ็นเน็ค 

โซนร็อคกี้ วัลเลย์ สัตว์แห่งทวีปอเมริกาเหนือ Rocky Valley – Animals Of North America

  โซนนี้จัดแสดงเกี่ยวสัตว์ที่อาศัยตามหุบเขาที่อเมริกาเหนือโดยมีการจัดสภาพแวดล้อมให้ใกล้เคียงของจริงมากที่สุด อย่างเช่น Wolf Creek ก็ซึ่งที่อยู่อาศัยของหมาป่า ก็จะจัดภูมิประเทศให้มีต้นไม้ล้มอยู่ริมฝั่งน้ำ พร้อมทั้งปรับแต่งพืชพรรณให้เหมือนเป็นป่าที่เป็นที่อาศัยของหมาป่า เป็นต้น หรือ Bear Canyon เป็นที่อยู่อาศัยหมีอเมริกันสีดำ ( American Black Bear )  ก็จะมีการทำภูมิประเทศจำลอง อย่างเช่นมีต้นไม้ให้หมีปีน หรือพักผ่อน รวมถึงแหล่งน้ำ ซึ่งจะแต่งให้มีความคล้ายคลึงกับเทือกเขาร็อกกี้ เป็นต้น 

นอกจากนั้นแล้วโซนนี้ยังมีเสือพูม่า และอเมริกันบีเวอร์ให้นักท่องเที่ยวได้ดูด้วย

โซนป่าเอเชีย Asian Forest

 โซนนี้จะเน้นไปที่สัตว์ที่อาศัยอยู่ในทวีปเอเชีย โดยไฮไลท์อยู่ที่แพนด้าแดง ที่เป็นสัตว์ที่ปีนต้นไม้เก่งชนิดหนึ่ง

โซนกลางแจ้ง ( Outside Park )

Aqua Valley

ที่มา https://en.kobe-oukoku.com/parkguide/

Aqua Valley นั้นเป็นโซนที่จัดแสดงสัตว์ประเภทแมวน้ำขนปุยอเมริกาใต้, แมวน้ำลายจุด, เพนกวิ้นแอฟริกัน โดยมีการจำลองภูมิประเทศให้มีความสมจริง โดยนักท่องเที่ยวสามารถชมสัตว์เหล่านี้ว่ายน้ำผ่านทางกระจกได้ 

และไฮไลท์ที่เป็นทีเด็ดของ Aqua Valley ก็คือ นักท่องเเที่ยวสามารถให้อาหารสัตว์ได้ด้วย โดยจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และมีวันละไม่กี่รอบด้วย เพื่อนๆสามารถเช็ครอบได้ที่นี่ โดยจะต้องจองก่อนถึงรอบให้อาหารอย่างน้อย 30 นาที

ตารางการให้อาหารแมวน้ำ

ตารางการให้อาหารเพนกวิ้น

Carmel Corner

ที่มา https://en.kobe-oukoku.com/parkguide/

โซนนี้นักท่องเที่ยวจะได้พบกับอูฐ ซึ่งในโซนนี้จะมีกิจกรรมขี่อูฐให้ได้ลองด้วย โดยการขี่อูฐนั้นจะมีข้อจำกัดที่ส่วนสูงและน้ำหนัก โดยจำกัดความสูงของผู้ที่จะขี่ที่ต้องมีส่วนสูงมากกว่า 100 เซนติเมตร และน้ำหนักต้องไม่เกิน 75 กิโลกรัม หากวันไหนสภาพอากาศไม่ดี หรือสัตว์มีสุขภาพที่ไม่สู้ดี ก็จะยกเลิกกิจกรรมนี้ โดยการขี่อูฐนั้นมีค่าใช้จ่าย 800 เยน และมีวันละ 2 รอบ สามารถเช็คตารางได้ที่นี่

ตารางการขี่อูฐ

Kangaroo Farm

ที่มา https://en.kobe-oukoku.com/parkguide/

ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถชมจิงโจ้อย่างใกล้ชิดได้ โดยสามารถสัมผัสและให้อาหารจิงโจ้ได้ โดยมีค่าอาหารถ้วยละ 100 เยน

Squirrel Forest

ที่มา https://en.kobe-oukoku.com/parkguide/

โซนนี้ถือว่าเป็นโซนใหม่ที่เพิ่งเปิดเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2023 ที่ผ่านมานี้เอง โดยจะมีการปลูกต้นไม้ไว้ให้กระรอกปีน อย่างเช่นต้นโอ๊ค ต้นเมเปิ้ล เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วก็สามารถเดินชมความน่ารักของน้องกระรอกได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย

Alpaca Space

ที่มา https://en.kobe-oukoku.com/parkguide/

ที่นี่ถือว่าเป็นอีก 1 ไฮไลท์ของโซนกลางแจ้ง โดยตัวอัลปาก้านั้นถือว่าเป็นขวัญใจนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ สามารถให้อาหารตัวอัลปาก้าได้ด้วย ซึ่งถ้าใครมาที่ โกเบ แอนิมอล คิงดอม ( Kobe Animal Kingdom ) ห้ามพลาดการมาชมน้องอัลปาก้าโดยเด็ดขาด

การแสดงโชว์สัตว์

ที่มา https://en.kobe-oukoku.com/parkguide/

การแสดงโชว์สัตว์ของ โกเบ แอนิมอล คิงดอม ( Kobe Animal Kingdom ) นั้นจะมีไฮไลท์หลักๆเลยก็คือการแสดงโชว์นก ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เห็นความฉลาด ความสง่างามของนก ยามที่บินเข้าหาครูฝึกผู้ทำการแสดง และนักท่องเที่ยวต้องทึ่งกับความสามารถของน้องนกที่นี่อย่างแน่นอน โดยการแสดงโชว์นกนั้น จะจัดขึ้นที่โซนที่เรียกว่า Kaze No Stadium 

การโชว์ที่น่าสนใจอีกโชว์ของที่นี่ก็คือ โชว์สุนัข ซึ่งที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นโชว์ของสุนัขต้อนแกะ การวิ่งตามไปคาบจานร่อนของสุนัข และโชว์อื่นๆอีกมากมาย โดยโชว์นี้จะจัดที่เดียวกับโชว์นก นั่นก็คือ Kaze No Stadium 

ส่วนโชว์อื่นๆที่น่าสนใจของที่นี่เพื่อนๆสามารถดูตารางและสถานที่ได้ที่นี่

ตารางการแสดงโชว์ของสัตว์

ค่าเข้าชม โกเบ แอนิมอล คิงดอม ( Kobe Animal Kingdom )

ราคา
ผู้ใหญ่ อายุ 13 ปีขึ้นไป2200 เยน
เด็กประถม1200 เยน
เด็กอายุระหว่าง 4 – 5 ปี500 เยน
ผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป1600 เยน

วิธีการเดินทางมายัง โกเบ แอนิมอล คิงดอม ( Kobe Animal Kingdom )

เดินทางโดยต้นทางปลายทางรายละเอียดการเดินทาง
รถไฟสถานี Sannomiyaสถานี Keisan Kagaku Centerจากสถานี Sannomiya นั่งรถไฟ Portliner มาลงสถานี Keisan Kagaku Center แล้วเดินอีก 3 นาที
รถ Shinki Busสถานี Sannomiyaป้าย Kobe Animal Kingdomจากสถานี Sannomiya นั่งรถบัสมาลงป้าย Kobe Animal Kingdom ( มีเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุด )

ตารางข้อมูล

โกเบ แอนิมอล คิงดอม ( Kobe Animal Kingdom )

ที่อยู่7 Chome-1-9 Minatojima Minamimachi, Chuo Ward, Kobe, Hyogo 650-0047
เวลาทำการเปิดตั้งแต่ 10.00 น. – 17.00 น. ปิดวันพฤหัสบดี
WebsiteKobe Animal Kingdom

ดูแผนที่ โกเบ แอนิมอล คิงดอม ( Kobe Animal Kingdom )

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับ โกเบ แอนิมอล คิงดอม ( Kobe Animal Kingdom )

Kobe Port Tower

หอคอย Kobe Port Tower เป็นหอคอยที่สร้างเสร็จเมื่อปีค.ศ. 1963 ซึ่งได้รับการออกแบบโดยบริษัท Nikken Sekkei ซึ่งเคยอยู่เบื้องหลัง Tokyo Skytree และสนาม Camp Nou ของสโมสร Barcelona ในสเปน

Kobe Port Tower มีความสูง 108 เมตร โดยรูปร่างของตัวหอคอยนั้นออกแบบมาให้มีความคล้ายกับกลองญี่ปุ่นโบราณที่ใช้ในการแสดงละครโนกับคาบูกิ และในช่วงเวลากลางคืนตัวหอคอยจะเปิดไฟซึ่งจะมีความสวยงามมาก

ด้านในของหอคอยนั้นมีจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวได้ชมเมืองโกเบได้อย่างสวยงามอีกด้วย รวมถึงมีร้านค้า ร้านคาเฟ่ อีกด้วย โดยหอคอย Kobe Port Tower ได้กลับมาเปิดบริการอีกครั้งเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2024 ที่ผ่านมานี่เอง หลังจากที่ปิดปรับปรุง

Kobe Port Tower

ที่อยู่5-5 Hatobacho, Chuo Ward, Kobe, Hyogo 650-0042
วิธีเดินทางเดิน 5 นาทีจากประตูทางออกหมายเลข 2 ของสถานีรถไฟใต้ดิน Minato Motomachi
เวลาทำการโซนชมวิวเปิดตั้งแต่ 09.00 น. – 23.00 น. 
โซนด้านล่างเปิดตั้งแต่ 10.00 น. – 20.00 น.
ราคาObservation Floor + Rooftop ผู้ใหญ่ 1200 เยน  เด็ก 500 เยน
Observation Floor อย่างเดียว ผู้ใหญ่ 1000 เยน เด็ก 400 เยน
WebsiteKobe Port Tower

ดูแผนที่ Kobe Port Tower

Kobe Harborland

Kobe Harborland ถือว่าเป็นย่านช็อปปิ้งและความบันเทิงที่ครบวงจร โดยที่นี่มีทั้งร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะช่วงเวลาเย็นๆจะได้บรรยากาศโรแมนติกมาก

โดยแหล่งช็อปปิ้งที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือ Umie ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 ส่วนได้แก่ Mosaic, South Mall และ North Mall 

Kobe Harborland

ที่อยู่1 Chome Higashikawasakicho, Chuo Ward, Kobe, Hyogo 650-0044
วิธีเดินทางเดิน 3 นาทีจากสถานี Kobe
เวลาทำการเปิดตั้งแต่ 10.00 น. -19.00 น.
WebsiteKobe Harborland

ดูแผนที่ Kobe Harborland

ปราสาท Himeji

ปราสาท Himeji ถือว่าเป็น 1 ใน 12 ปราสาทดั้งเดิมที่ผู้คนเดินทางเยี่ยมเยียนมากที่สุด โดยปราสาทแห่งนี้มีสีขาวและตั้งเด่นเป็นสง่า สามารถมองเห็นได้จากสถานีรถไฟ Himeji เลยทีเดียว

โดยด้านในปราสาทเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เห็นลักษณะโครงสร้างไม้ต่างๆของปราสาท

ปราสาท Himeji

ที่อยู่68 Honmachi, Himeji, Hyogo 670-0012
วิธีเดินทางเดิน 10 นาทีจากสถานี Himeji
เวลาทำการเปิดตั้งแต่ 09.00 น. – 17.00 น. ปิดวันที่ 29 – 30 ธันวาคม
ราคาผู้ใหญ่ 1000 เยน เด็ก 300 เยน
Websiteปราสาท Himeji

ดูแผนที่ ปราสาท Himeji

สรุป

แล้วก็จบลงไปแล้วสำหรับบทความ โกเบ แอนิมอล คิงดอม ( Kobe Animal Kingdom ) ซึ่งสถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบสัตว์ หรือนักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัวก็ได้มีความทรงจำดีๆ สำหรับครอบครัว เพราะที่นี่สามารถใช้เวลาร่วมกันได้ และนักท่องเที่ยวจะได้ประสบการณ์ล้ำค่าจากการให้อาหารสัตว์อย่างแมวน้ำ หรือเพนกวิ้น และที่สำคัญที่นี่เดินทางมาได้ไม่ยาก ซึ่งถ้าใครมาโกเบแล้วไม่ควรพลาดการมาเยือน โกเบ แอนิมอล คิงดอม ( Kobe Animal Kingdom ) แห่งนี้โดยเด็ดขาด

Kintetsu Line LP R3
Kitslaughter666

Blogger : Kitslaughter666

ผมชื่อ กิด เป็นคนที่สนใจประเทศญี่ปุ่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และชอบทานราเมง กับ ปลาปักเป้า เป็นชีวิตจิตใจ รักการถ่ายเซลฟี่กับกวางที่เกาะมิยาจิม่า ชอบภูมิภาคชูโกกุ ชอบเที่ยวสถานที่Unseenของญี่ปุ่น

81 Posts

CCJ Hotel Search

สถานที่เที่ยว

| Feature

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515