คูปองส่วนลดที่น่าสนใจ
10%
5%
17%
Kyoto Aquarium นั้น เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ตั้งอยู่ที่ Umekoji Park ใกล้ๆกับสถานีรถไฟ Kyoto โดยด้านในมีสัตว์น้ำมากมายหลายชนิดให้นักท่องเที่ยวชมกัน และมีโซนต่างๆที่น่าสนใจเช่น Dolphin Stadium, The Sea Of Kyoto, Jellyfish Wonders เป็นต้น
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดให้ผู้คนเข้าชมครั้งแรกในปี 2012 นี่เอง
โดยบทความในวันนี้นั้น ผมจะพาเพื่อนๆมารู้จักส่วนต่างๆของ Kyoto Aquarium แห่งนี้ว่าแต่ละโซนมีอะไรให้นักท่องเที่ยวได้ชมบ้าง

Dolphin Stadium ถือว่าเป็นไฮไลท์อันหนึ่งของ Kyoto Aquarium ซึ่งที่นี่จะมีการโชว์ของโลมาปากขวด ซึ่งจะได้เห็นความสามารถในการว่ายน้ำ และการกระโดดของโลมา ซึ่งระหว่างที่กำลังดูโชว์ถ้าตั้งใจฟังดีๆอาจจะได้ยินเสียงสื่อสารของโลมากันเลยทีเดียว
นอกจากนั้นแล้วอีก 1 ไฮไลท์ของ Dolphin Stadium อันนี้ก็คือ ฉากหลัง เพราะเวทีโชว์ปลาโลมาจะเป็นเวทีที่อยู่ด้านนอกอาคาร ซึ่งสามารถมองเห็นวิวต้นไม้ในสวนด้านหลังได้ ซึ่งก็จะเป็นไปตามฤดูกาล ถ้าเป็นช่วงซากุระ ก็เห็นดอกซากุระบาน หรือถ้าเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีเป็นฉากหลัง
ซึ่งบอกได้เลยว่า บรรยากาศนั้นสุดฟินน์ ซึ่งเพื่อนๆควรไปสัมผัสซักครั้งหนึ่งในชีวิต

โซน Penguin จะเป็นมี เพนกวิ้น สายพันธุ์ แอฟริกัน ( Cape Penguin ) ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน ซึ่งหลายคนอาจจะเข้าใจว่า เพนกวิ้น จะต้องอาศัยอยู่ตามสถานที่หนาวๆ เช่น แอนตาร์กติกา แต่จริงๆแล้ว เพนกวิ้นสายพันธุ์นี้อาศัยอยู่เขตอบอุ่นทางตอนใต้ของแอฟริกา
โดยในส่วนของสถานที่จัดแสดงเพนกวิ้นของที่นี่นั้นส่วนที่เป็นพื้นดิน จะถูกออกแบบให้เพนกวิ้นปีนจากน้ำสู่ส่วนที่เป็นเนินได้ยาก เพราะเนื่องจากว่าต้องการให้เพนกวิ้นใช้พลังงานจากคลื่นในการปีน เพื่อไม่ให้มันเสียสัญชาติญาณของสัตว์
การชมเพนกวิ้นนั้นถ้านัักท่องเที่ยวในช่วงฤดูผสมพันธุ์ทางพิพิธภัณฑ์จะสร้างหลุ่มสำหรับวางไข่ให้นกเพนกวิ้นอีกด้วย
สำหรับการชมนกเพนกวิ้นนั้น นักท่องเที่ยวจะสามารถชมได้ตั้งแต่ชั้น 1 ซึ่งเป็นโซนในน้ำ ส่วนชั้น 2 จะเป็นโซนเนินเขา

โซนนี้จะเป็นโซนของสิ่งมีชีวิตในแม่น้ำ Yura ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยมีปลาชาร์และปลาแซลม่อนมาสุ ว่ายอยู่บริเวณต้นน้ำ ส่วนกลางน้ำจะมีปลาตะเพียนลายและปลาซิว และปลายน้ำ จะเป็นคารพ และปลาชนิดอื่น
แต่ไฮไลท์ประจำโซนนี้นั้นได้แก่ตัว ซาลาแมนเดอร์ยักษ์ ซึ่งสัตว์ชนิดนี้ถูกยกให้เป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติพิเศษของญี่ปุ่น เปรียบเสมือนฟอสซิลที่มีชีวิต และเชื่อกันว่ามันอาจจะเป็นสัตว์สะเทือนน้ำสะเทือนบกที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
โดยทางพิพิธภัณฑ์นั้นต้องการให้ผู้คนได้รู้จักสัตว์ชนิดนี้มากขึ้น จึงได้ตั้งให้วันที่ 9 กันยายน ของทุกปีเป็นวันซาลาแมนเดอร์ยักษ์ สามารถที่เลือกวันที่ 9 เพราะตัวซาลาแมนเดอร์ยักษ์นั้น ดูเหมือนเลข 9
ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงระบบนิเวศของซาลาแมนเดอร์ยักษ์ให้ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด

โซนนี้จะมีแมงกะพรุนมากกว่า 30 สายพันธุ์ และมีแมงกะพรุนมากกว่า 5000 ตัวให้ชมกันเลยทีเดียว ซึ่งในโซนนี้นั้นได้จัดแสดงแบบ Panorama 360 องศา เมื่อนักท่องเที่ยวเดินเข้ามาในโซนนี้ ก็จะพบกับบรรยากาศสุดฟินน์ ที่ล้อมรอบไปด้วยแมงกะพรุน จนทำให้รู้สึกว่าเหมือนกำลังว่ายน้ำอยู่กับฝูงแมงกะพรุนเหล่านี้ ที่นี่ยังมีส่วนที่เรียกว่า ชมรมวิทยาศาสตร์แมงกะพรุนแห่งเกียวโตอีกด้วย ซึ่งเป็นห้องแล็บแบบเปิด ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมการผสมพันธุ์และวิจัยแมงกะพรุนของเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ได้อย่างใกล้ชิด

ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ไม่ได้จัดแสดงแค่ปลาเท่านั้น ยังจำลองทิวทัศน์ชนบนของ Kyoto ให้นักท่องเที่ยวได้มาชมอีกด้วยในโซนนี้ โดยมีการปลูกข้าว หัวหอมคุโจ ผักกาดโชโกอิน และผักเกี่ยวโตแบบดั้งเดิมอื่นๆโดยขึ้นอยู่กับฤดูกาล
นอกจากผักแล้วยังมีแมลงชนิดดต่างๆที่มายังโซนนี้ในฤดูที่แตกต่างกันอีกด้วย

โซนนี้จะเน้นไปทางสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในน้ำจืดของ Kyoto โดยจะแบ่ง 2 กลุ่มคือ กลุ่มแม่น้ำ Yura และกลุ่มทะเลสาบ Biwa โดยนิทรรศการนี้จัดแสดงสิ่งที่ชีวิตที่อาศัยอยู่ในบ่อ Mizorogaike และบ่อ Oguraike
สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะเฉพาะที่พบได้ใน Kyoto อย่างเช่นปลา Aucha Perch, ปลา Niwaella, เต่าบ่อสีเหลือง เป็นต้น
นอกจากนั้นแล้วยังมีนิทรรศการ The Sanshisuimei ซึ่งแสดงความงามของธรรมชาติใน Kyoto และสิ่งมีชีวิตที่อาศัยบริเวณริมน้ำ อย่างเช่นสัตว์หายากที่ไม่มีใครได้พบเห็นในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา

แล้วก็มาถึงโซนที่เป็นไฮไลท์ที่สำคัญที่สุดและทุกคนต้องมาคือโซน The Sea Of Kyoto ซึ่งโซนนี้เป็นโซนที่นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตของสิ่งมีชีวิตได้ทะเลได้เต็มอิ่มที่สุด โดยมีแทงค์น้ำขนาดใหญ่ที่จุดน้ำมากกว่า 500 ตันเป็นการจำลองทะเล Kyoto ที่มีความอุดมสมบูรณ์ให้สมจริงมากที่สุด และมีสัตว์น้ำมากกว่า 50 ชนิดให้ได้ดูกัน
ซึ่งนักท่่องเที่ยวจะได้เห็นฝูงปลาซาดีน Kanataru ซึ่งเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในทะเล Kyoto และเป็นของกินขึ้นชื่ออีกด้วย และยังมีระบบนิเวศของปลากระเบนสีแดง ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันอย่างใกล้ชิดอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีปลาฉลาม, ปลาแมคเคอเรล ให้นักท่องเที่ยวได้ชมอีก
| ผู้ใหญ่ | เด็กมัธยมปลาย | เด็กมัธยมต้นและเด็กประถม | เด็กเล็ก |
|---|---|---|---|
| 2400 เยน | 1800 เยน | 1200 เยน | 800 เยน |
| ต้นทาง | เดินทางโดย | รายละเอียดการเดินทาง |
|---|---|---|
| สถานี Kyoto | รถบัส | นั่งรถบัสสาย 205, 208, 103, 104, 110, 86, 88, 206, 33 มาลงป้าย Nanajo Omiya, Kyoto Suizokukan-mae |
| สถานี Kyoto | เดิน | เดิน 15 นาทีจากสถานี Kyoto |
Kyoto Aquarium
| ที่อยู่ | 35-1, Kankijicho, Shimogyo-ku Kyoto-shi, Kyoto, 600-8835 |
| เวลาทำการ | เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00 น. – 18.00 น. |
| Website | Kyoto Aquarium |

Kyoto Tower เป็นหอคอยที่มีความสูง 131 เมตร โดยตั้งตระหง่านอยู่ตรงข้ามกับสถานี Kyoto โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาชมความงามของเมือง Kyoto ได้ จุดชมวิวจะมีความสูงอยู่ที่ 100 เมตร นอกจากจุดชมวิวแล้วที่นี่ยังมีโรงแรม และร้านค้ามากมาย
Kyoto Tower
| ที่อยู่ | 721-1 Higashishiokoji-cho, Karasuma-dori Shichijo-sagaru, Shimogyo-ku, Kyoto 600-8216 |
| วิธีเดินทาง | เดิน 1 นาทีจากสถานี Kyoto |
| เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 10.00 น. – 21.00 น. |
| ราคา | ผู้ใหญ่ 900 เยน เด็กมัธยม 700 เยน เด็กมัธยมต้น – ประถม 600 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี 200 เยน |
| Website | Kyoto Tower |

วัด Higashi Honganji เป็นวัดหลักของกลุ่ม Otani ของนิกาย Jodo – Shin พุทธศาสนา โดยอาคารหลักเรียกว่า Goeido ซึ่งถือว่าเป็นอาคารไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของ Kyoto ซึ่งสร้างเพื่ออุทิศให้แก Shinran ผู้ก่อนตั้งนิกาย ใกล้ๆกันก็มีอาคารที่ใหญ่เกือบเท่า Goeido เรียกว่า Amidado Hall ซึ่งสร้างเพื่ออุทิศให้พระ Amida
วัด Higashi Honganji
| ที่อยู่ | Karasuma Shichi-jō Agaru, Shimogyō-ku, Kyoto 600-8505 |
| วิธีเดินทาง | เเดิน 7 นาทีจากสถานี Kyoto |
| เวลาทำการ | เดือนมีนาคม – ตุลาคม เปิดตั้งแต่ 05.50 น. – 17.30 น. เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ 06.20 น. – 16.30 น. |
| ราคา | ฟรี |
| Website | วัด Higashi Honganji |

แม่น้ำ Kamo เป็นแม่น้ำที่มีความยาวมากของ Kyoto ซึ่งข้างแม่น้ำก็จะมีทางเดินให้นักท่องเที่ยว ประชาชนทั่วไป เดิน หรือพักผ่อน ทำกิจกรรมต่าง ได้
โดยใกล้ๆแม่น้ำจะมีย่านที่เรียกว่า Pontocho ซึ่งเป็นย่านกินดื่ม และร้านอาหารมากมาย รวมถึงผับบาร์ ด้วยเช่นกัน ซึ่งสามารถนั่งกินดื่มพลางชมวิวแม่น้ำ Kamo ได้
แม่น้ำ Kamo
| วิธีเดินทาง | เเดิน 15 นาทีจากสถานี Kyoto |
| เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
| ราคา | ฟรี |

แล้วก็จบลงไปเรียบร้อยแล้วสำหรับบทความ Kyoto Aquarium ซึ่งเห็นได้ว่าที่นี่เป็น Aquarium ที่มีครบทุกรสชาติเช่น สัตว์ทะเล สัตว์น้ำจืด รวมถึงสัตว์หายาก และการจำลองชนบทของ Kyoto
ซึ่งเห็นได้ว่า Kyoto ไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวแค่วัด ปราสาท ศาลเจ้า แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถไปเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัว และสามารถมีกิจกรรมที่สามารถเพลิดเพลินได้ทั้งครอบครัวเช่นการดูโชว์ปลาโลมา เป็นต้น
ถ้าใครมา Kyoto ควรมาสัมผัสกับ Kyoto Aquarium ซักครั้งในชีวิต

Blogger : Kitslaughter666
ผมชื่อ กิด เป็นคนที่สนใจประเทศญี่ปุ่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และชอบทานราเมง กับ ปลาปักเป้า เป็นชีวิตจิตใจ รักการถ่ายเซลฟี่กับกวางที่เกาะมิยาจิม่า ชอบภูมิภาคชูโกกุ ชอบเที่ยวสถานที่Unseenของญี่ปุ่น
112 Posts

นั่งชินคันเซ็นคุ้มๆ จากโตเกียวไปโอซาก้า เดินทางง่ายแค่ใช้ JR PASS
เที่ยวให้ทั่วโตเกียวแล้วไปต่อโอซาก้า เพราะเรามีแผนการเดินทางสุดคุ้มจากโตเกียวไ...

ไป โตเกียวพักย่านไหนดี แนะนำ 15 ย่าน เลือกพักตามสไตล์ที่ใช่
ตอบคำถามให้หายสงสัย ไปโตเกียว พักย่านไหนดี ! แนะนำ 15 ย่านในโตเกียวที่คู่ควรแก...

จากนาริตะไปโตเกียว รวมวิธีเดินทางสุดสะดวก เข้าเมืองชิลๆ
รวมมิตรวิธีการเดินทาง จากนาริตะไปโตเกียว ที่รู้ไว้ก่อนออกเดินทางแล้วรับรองไม่ม...

เที่ยวญี่ปุ่น 2022 เปิดเงื่อนไข วิธีการขอวีซ่า ไกด์ไลน์เที่ยวจัดเต็ม
เปิดข้อมูลการ เที่ยวญี่ปุ่น 2022 / 2565 เปิดทุกเกณฑ์การท่องเที่ยวแบบจัดเต็ม กา...

10 ที่เที่ยวฟูจิ เปิดพิกัดที่เที่ยวแบบใหม่ ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
Kitaguchi-hongu Fuji Sengen Shrine ศาลเจ้าที่อุดมไปด้วยพลังงานของขุนเขา คิตะกุ...
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-6233-9266
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
090-4435-7812
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
090-1895-0987
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515