ข้อมูลทั่วไปและประวัติของ Kyoto National Museum
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเกียวโต Kyoto national museum นั้นถูกสร้างขึ้นในสมัยเมจิ เนื่องจากว่าญี่ปุ่นในสมัยเมจินั้นได้รับวัฒนธรรมของตะวันตกเข้ามา ทำให้เกิดความกังวลว่าวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นอาจจะถูกลืมเลือนได้ ทำให้มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติขึ้นมาที่โตเกียว นาระ ฟุกุโอกะ และก็ที่นี่นั่นก็คือเกียวโต
โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะจัดเก็บดูแลวัตถุโบราณ รวมถึงวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้ เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมไว้นั่นเอง ซึ่งมีผลงานศิลปะมากกว่า 1 หมื่นรายการ
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างเสร็จเมื่อปีค.ศ. 1985 ก่อนที่จะเปิดบริการให้ปีค.ศ. 1897
ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ถูกเปลี่ยนชื่อมาหลายครั้ง จนกระถึงปีค.ศ. 1952 ก็ได้มาใช้ชื่อ Kyoto National Museum มาจนถึงปัจจุบัน
ที่นี่จะประกอบไปด้วยอาคารมากมาย แต่ไฮไลท์ของพิพิธภัณ์แห่งนี้คืออาคารคือ อาคารเมอิจิโคโตคัง, อาคารเฮเซฉิชินคัง เป็นต้น
อาคารเมอิจิโคโตคัง
อาคารแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวีนตก ซึ่งออกแบบ Katayama Takuma โดยเป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์ เรเนซองส์ กับ บาโรก
ซึ่งในยุคนั้นได้มีบางคนแย้งว่าสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกของอาคารนี้จะไม่เหมาะสมกับเมืองเกียวโต แต่สุดท้ายแล้ว อาคาร เมอิจิโคโตคังก็เข้ากับเมืองเกียวโตได้ จนถูกจัดเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ
อาคารแห่งนี้ถูกใช้ให้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการ ซึ่งด้านในมีห้องสำหรับจัดแสดงนิทรรศการถึง 10 ห้อง
ปัจจุบัน อาคารเมอิจิโคโตคัง ปิดให้บริการตั้งแต่ 2015 โดยยังไม่มีกำหนดเปิดบริการ
อาคารเฮเซฉิชินคัง
อาคารนี้ออกแบบโดย Taniguchi Yoshio ซึ่งเป็นสถานีปานิกที่ออกแบบหออนุสรณ์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว ( Gallery of Horyuji Treasures ) และท่านได้ออกแบบพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ที่นิวยอร์กด้วย
โดยอาคาร เฮเซฉิชินคังนั้นมีแรงบันดาลใจจากโครงสร้างแบบสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นดั้งเดิม แต่ด้านนอกดูมีความทันสมัย
โดยอาคารแห่งนี้เปิดบริการในปีค.ศ. 2014 นี่เอง ซึ่งที่อาคารแห่งนี้ก็มักจะมีการจัดนิทรรศการแบบพิเศษด้วย โดยเฉพาะเดือนหน้าจะมีนิทรรศการพิเศษ เนื่องจากครบรอบ 430 ปีของ Toyotomi Hidetsugu ( เดือนมิถุนายน 2024 )
โรงน้ำชา Tan’an
โรงน้ำชาแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1958 โดยสร้างขึ้นมาในรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า Sukiya ซึ่งในสมัยยุคเอโดะ เป็นที่นิยมของขุนนางเกียวโต
ที่ห้องโถงหลักจะมีห้องน้ำชาขนาดใหญ่ที่มีระเบียงกว้างอยู่ด้านหน้า ห้องที่สำคัญที่สุดของที่นี่คือ ห้องน้ำชาขนาดเล็กประมาณ 3 เสื่อ เรียกว่า Tan’an โดยจะอยู่ทางขวาของอาคารหลัก ซึ่งสร้างขึ้นมาตามสไตล์ที่ปรมาจารย์ด้านชาอย่าง Kanamori Sowa ชื่นชอบ
ในปีค.ศ. 1966 โรงน้ำชาได้ย้ายจากฝั่งทางใต้ของอาคารเมอิจิโคโตคัง มายังที่ตั้งในปัจจุบัน
หอจดหมายเหตุเทคนิค Technical Archives Hall
อาคารแห่งนี้เป็นอาคารสไตล์ตะวันตกที่ค่อนข้างหรูหรา สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1930 โดยมีจุดประสงค์คือสร้างขึ้นเพื่อเก็บงานศิลปะ และถูกขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้แห่งชาติในปีค.ศ. 2008
*** ที่นี่ไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม
สวนตะวันตกและสวนตะวันออก
สวนทั้ง 2 ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกของพิพิธภัณฑ์ โดยทั้ง 2 สวน เป็นสถานที่แสดงนิทรรศกาลแบบ Outdoor
สวนตะวันตกได้จัดแสดง พระพุทธรูปหิน โคมหิน โลงศพรูปบ้าน หินศิลาฤกษ์ เป็นต้น
สวนตะวันออก จะตั้งอยู่มุมตะวันออกเฉียงใต้ของพิพิธภัณฑ์โดยจัดแสดงปฏิมากรรมหินจากคาบสมุทรเกาหลี อย่างเช่นรูปแกะสลักสุสานรูปมนุษย์ 13 ชิ้น ,แกะคู่, โคมไฟ 2 อัน เป็นต้น รวมถึงเจดีย์หินและพระพุทธรูปที่ขุดพบที่หลังกำแพงหินของวัด Hokoji
วิธีการเดินทางมายัง Kyoto National Museum
ต้นทาง | รายละเอียดการเดินทาง |
---|---|
สถานีรถไฟ Kyoto | นั่งรถบัสหมายเลข 206 หรือ 208 มาลงป้าย akubutsukan Sanjusangendo-mae |
สถานีรถไฟ Keihan ชื่อ Shichijo | เดิน 7 นาที |
ตารางข้อมูล
Kyoto National Museum
ที่อยู่ | 527 Chaya-cho, Higashiyama-ku, Kyoto |
เวลาทำการ | ช่วงที่มีนิทรรศการพิเศษ เปิดตั้งแต่ 09.00 น. – 17.30 น. ช่วงที่มีนิทรรศการปกติ เปิดตั้งแต่ 09.30 น. – 17.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ |
ราคา | นิทรรศการพิเศษ ผู้ใหญ่ 1800 เยน นักศึกษามหาวิทยาลัย 1200 เยน เด็กมัธยมปลาย 700 เยน นิทรรศการปกติ ผู้ใหญ่ 700 เยน นักศึกษามหาวิทยาลัย 350 เยน เฉพาะสวน ผู้ใหญ่ 300 เยน นักศึกษามหาวิทยาลัย 150 เยน |
Website | Kyoto national Museum |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับ Kyoto National Museum
วัด Kiyomizu
วัด Kiyomizu หรือวัดน้ำใส ถือว่าเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Kyoto มีอายุมากกว่า 1000 ปี ไฮไลทฺ์ของวัดนี้อยูที่ระเบียงที่ทำจากไม้ โดยที่ไม่ใช่ตะปูแม้แต่ดอกเดียว วัดนี้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1994
วัด Kiyomizu
ที่อยู่ | Chome-294 Kiyomizu, Higashiyama Ward, Kyoto, 605-0862 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Kyoto นั่งรถบัสหมายเลข 206 มาลงป้าย Gojozaka แล้วเดิน 10 นาที |
เวลาทำการ | 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 06.00 น. – 18.00 น. ยกเว้นวันที่ 23 มีนาคม – 31 มีนาคม 06.00 น -. 21.30 น. 1 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม 06.00 น. – 18.30 น. ยกเว้นวันที่ 14 – 16 สิงหาคม 06.00 น. – 21.30 น. 1 กันยายน – 31 ธันวาคม 06.00 – 18.00 น. ยกเว้นวันที่ 18 พฤศจิกายน – 30 พฤศจิกายน 06.00 น. – 21.30 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก 200 เยน |
Website | วัดน้ำใส |
วัด Sanjusangendo
วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิมสำริดจำนวน 1001 องค์ และอาคารหลักที่นี่เป็นอาคารไม้ที่สำหรับประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิมที่ถือว่าเป็นอาคารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งมีความยาวถึง 120 เมตร
วัด Sanjusangendo
ที่อยู่ | 644 Sanjusangendomawari, Higashiyama Ward, Kyoto, 605-0941 |
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานีรถไฟ Keihan ชื่อสถานี Shichijo 7 นาที หรือเดิน 1 นาทีจากพิพิธภัณฑ์แห่ง ชาติเกียวโต |
เวลาทำการ | วันที่ 1 เมษายน – 15 พฤศจิกายน เปิดตั้งแต่ 8.30 น. – 17.00 น. วันที่ 16 พฤศจิกายน – 31 มีนาคม เปิดตั้งแต่ 09.00 น. – 16.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็กมัธยม 400 เยน เด็กประถม 300 เยน |
Website | sanjusangendo |
ย่าน Gion
ย่าน Gion เป็นย่านที่อยู่ระหว่างศาลเจ้า Yasaka และแม่น้ำ Kamo ซึ่งที่นี่ถือว่าอีก 1 ในไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวที่มา Kyoto จะต้องแวะมาที่นี่กันแทบทุกคน เพราะย่านนี้เป็นย่านแนวที่คล้ายกับการย้อนยุคไปในสมัยก่อน นักท่องเที่ยวที่มาเดินที่ย่านนี้จะได้ดื่มด่ำกับบรรยากศของเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น นอกจากนั้นแล้วย่านนี้นักท่องเที่ยวอาจจะได้เห็น “ไมโกะ” อีกด้วย
*** แต่ข้อควรระวังของการมาเที่ยวที่นี่คือ นักท่องเที่ยวจะต้องรักษามารยาทโดยไม่ถ่ายรูป ไมโกะ โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือ เดินเข้าไปในสถานที่ส่วนบุคคล
ย่าน Gion
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสสาย 206 มาลงป้าย Gion |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
สรุป
พิพิธภัณฑ์ Kyoto National Museum เป็นสถานที่ที่เก็บรักษาความเป็นญี่ปุ่นไว้ในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวควรจะมาที่นี่ซักครั้ง โดยจะได้เห็นอาคารที่มีความคลาสสิคอย่าง เมอิจิโคโตคัง หรือมาชมนิทรรศการที่ เฮเซฉิชินคัง ซึ่งนิทรรศการที่จัดขึ้นที่นี่ก็มักจะเกี่ยวข้องกับเกียวโต หรือสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงก็ยังคงความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมไว้