ข้อมูลเกี่ยวกับเกียวโตทาวเวอร์
ที่นี่เป็นหอสังเกตการณ์ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น หอคอยเหล็กเป็นโครงสร้างที่สูงที่สุดในเกียวโตมีจุดชมวิวที่ 100 เมตร และยอดแหลมที่ 131 เมตร หอคอยขนาด 800 ตันตั้งอยู่บนอาคาร 9 ชั้น ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมระดับ 3 ดาว ห้องอาบน้ำสาธารณะ และร้านค้าร้านขายของที่ระลึกมากมาย โดยคอมเพล็กซ์ทั้งหมดตั้งอยู่ตรงข้ามสถานีเกียวโตเดินทางสะดวกสบาย
ว่าไปแล้วที่นี่ก็เปรียบเสมือนแลนมาร์คสำคัญที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเกียวโตเลยก็ว่าได้ ถ้าใครมาเยือนยังเกียวโตเดินออกมาจากสถานีรถไฟเกียวโตก็จะเห็นหอคอยแห่งนี้โดดเด่นเป็นสง่าโดยเมื่อขึ้นไปชมวิวด้านบนสามารถมองเห็นภาพวิวเมืองแบบพาโนราม่า 360 องศาได้ จุดชมวิวแนะนำอยู่ที่ชั้น 5 ที่ระดับความสูง 100 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในวันที่อากาศปลอดโปร่งสดใสสามารถมองแลนมาร์คสำคัญอื่นๆ ของเกียวโตได้จากที่นี่เช่นกัน นอกจากนั้นไม่ว่าจะมาที่นี่ในช่วงฤดูกาลไหน ก็สามารถชมทัศนียภาพตามฤดูกาลได้แบบสบายใจรวมทั้งช่วงเวลาพระอาทิตย์ อัสดงก็มีความงดงามจุดหนึ่งในเกียวโตเลยล่ะ
ประวัติของ Kyoto Tower
เกียวโตทาวเวอร์ได้รับการเสนอในช่วงต้นทศวรรษ 1960 และมีแผนที่จะสร้างและแล้วเสร็จทันเวลาเพื่อให้สอดคล้องกับโอลิมปิกฤดูร้อนปีค.ศ. 1964 ในโตเกียวการก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1963 บนพื้นที่เดิมของที่ทําการไปรษณีย์กลางของเกียวโต และแล้วเสร็จในช่วงปลายปีค.ศ. 1964 ซึ่งแตกต่างจากหอคอยอื่ ๆ (เช่นโตเกียวทาวเวอร์) ที่สร้างโดยใช้โครงตาข่ายโลหะโครงสร้างภายในของเกียวโตทาวเวอร์ประกอบด้วยวงแหวนเหล็กจํานวนมากซ้อนทับกัน โครงสร้างถูกปกคลุมด้วยแผ่นเหล็กน้ำหนักเบาเชื่อมเข้าด้วยกันและทาสีขาว ผลโดยรวมที่ตั้งใจไว้คือให้หอคอยมีลักษณะคล้ายกับเทียนพุทธแบบญี่ปุ่นนั่นเอง
เกียวโตทาวเวอร์ถูกออกแบบโดยคุณ Mamoru Yamada สถาปนิกสมัยใหม่ในช่วงเวลานั้นซึ่งเป็นผู้ออกแบบสนามกีฬานิปปอน บูโดกันอันโด่งดังของโตเกียวด้วย ภายใต้คําแนะนําจากคุณ Makoto Tanahashi ผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์วิศวกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเกียวโตตัวหอคอยเกียวโตถูกสร้างขึ้นเพื่อต้านทานแรงของแผ่นดินไหว และพายุไต้ฝุ่นได้ดี หลังจากที่สร้างเสร็จ ได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ค.ศ.1964 ภายในปีแรกของการเปิดมีผู้เข้าชมมากกว่า 1 ล้านคน แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมายอดขายบัตรเข้าชมมีจำนวนลดลงเหลือน้อยกว่า 400,000 คนต่อปี หรือประมาณ 1,100 ต่อวันเท่านั้น
ไฮไลท์สำคัญของที่นี่
มาถึงเกียวโตทาวเวอร์ทั้งที ไฮไลท์สำคัญและไม่อยากให้พลาดชมมีหลายจุด ซึ่งในบทความนี้จะขออนุญาตเลือกมาแนะนำคุณผู้อ่านสักเล็กน้อยก่อน
NIDEK Kyoto Tower Observation Deck
หอสังเกตการณ์สูง 100 เมตรสูงที่สุดในเมืองเกียวโตและให้ทัศนียภาพอันงดงามของเมืองหลวงเก่า ผู้เข้าชมเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับฤดูกาลทั้งสี่และช่วงเวลาที่แตกต่างกันของวัน โดยชั้นนี้มีบริการกล้องโทรทรรศน์ฟรี ตั้งอยู่ที่จุดชมวิวชั้น 5 เมื่อมองผ่านเข้าไปจะมองเห็นเสน่ห์อันน่าประทับใจของเมืองเกียวโตจากความสูง 100 เมตร และในวันที่อากาศแจ่มใส คุณยังสามารถมองเห็นโอซาก้าในระยะไกลได้อีกด้วย! นอกจากนั้นที่นี่ยังสามารถมองเห็นแหล่งมรดกโลกและสมบัติของชาติได้ อาทิ วัดโทจิ วัดคิโยมิสึเดระ วัดโทฟุคุจิ วัดซันจูซันเกนโด วัดชิออนอิน หรือภูเขาฮิกาชิยามะและอาราชิยามะ ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นวัดและศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่นหลายแห่งในเกียวโตเลย เรียกได้ว่ามาเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามที่คุณไม่สามารถเห็นได้จากที่อื่นนอกจากที่เกียวโตทาวเวอร์กัน
Sky Lounge
บนจุดชมวิวทาวเวอร์ชั้น 3 เป็นที่ตั้งของ Sky Lounge Café and Bar โดยที่นี่จะทำหน้าที่เป็นคาเฟ่ในช่วงเวลากลางวันและพื้นที่เลานจ์กึ่งบาร์ในตอนกลางคืน (เวลา17.00 – 23.00 น.) ผู้มาเยือนจะสามารถเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของหอคอย และสามารถเลือกที่นั่งได้หลากหลายแบบรวมถึงที่นั่งที่เคาน์เตอร์หรือที่นั่งส่วนตัวสำหรับคู่รัก ส่วนบริเวณบาร์มีให้บริการวิสกี้และค็อกเทลมากมาย
Kyoto Tower Hotel
โรงแรมเกียวโตทาวเวอร์ ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 – 9 ของอาคาร เรียกได้ว่าโรงแรมนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่พักที่สะดวกที่สุด และคุณสามารถเพลิดเพลินกับการเที่ยวเล่นในเกียวโตทาวเวอร์ ได้อย่างสะดวกสบาย แถมยังเดินเท้าไปยังสถานีเกียวโตเพียง 2 นาที จะไปเที่ยวที่ไหนต่อก็แสนสะดวก ส่วนร้านอาหาร ก็มีให้เลือกมากมายภายในอาคารนี้ จะเดินทางมาเป็นครบครัว คู่รัก หรือกลุ่มเพื่อนก็ได้ นอกจากนั้นยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมบริการ WiFi รวมทั้งส่วนลดสำหรับบัตรเข้าชมวิวหอคอยเกียวโตทาวเวอร์ได้อีกด้วย
Kansai Tourist Information Center Kyoto
หากคุณต้องการข้อมูลการท่องเที่ยวใดๆ ทั้งเรื่องการคมนาคม และประสบการณ์ทางวัฒนธรรมในภูมิภาคคันไซหรือทั่วทั้งญี่ปุ่นสามารถมายังจุดนี้ได้ ตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 ของอาคารนี้ ที่นี่มีตั้งแต่โบรชัวร์นำเที่ยว เจ้าหน้าที่คอยตอบข้อสงสัย มีบริการทัวร์ท่องเที่ยวทั่วประเทศญี่ปุ่น แผนที่พัก ตั๋วชินคันเซ็นและเจอาร์ นอกจากนี้ยังมีบัตรโดยสารประเภทพาสและบัตรผ่านเข้าอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งบริการจัดเก็บและส่งต่อสัมภาระไว้ให้บริการ เปิดทำการเวลา 10.00 – 17.30 น.
เกียวโต ทาวเวอร์ (Kyoto Tower)
ที่อยู่ | 721-1 Higashishiokojicho, Shimogyo Ward, Kyoto, 600-8216 |
วิธีเดินทาง | เดินประมาณ 1 นาที จากสถานี Kyoto |
เวลาทำการ | 10.00 – 21.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 900 เยน, เด็กมัธยมปลาย 700 เยน, เด็กมัธยมต้นและประถม 600 เยนและเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี 200 เยน |
Website | Kyoto Tower |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
มาเที่ยวชมเกียวโตทาว์เวอร์กันอย่างเพลิดเพลินแล้ว ไปต่อกันที่สวนสย วัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และพิพิธภัณฑ์ที่ทำให้คุณได้รู้จักเกียวโตอีกแง่มุมกัน
สวนโชเซเอ็น (Shosei-en)
โชเซเอ็นเป็นสวนสวยในทุกฤดูกาลตั้งอยู่ในพื้นที่ของวัดฮิกาชิฮงกันจิ (Higashi Hongan-ji) โดยวัดนี้ก่อตั้งขึ้นหลังจากโทคุงาวะ อิเอะยะสึ โชกุนคนแรกในสมัยเอโดะได้บริจาคที่ดินให้วัดในปี ค.ศ. 1602 และต่อมาโชกุน โทคุงาวะ อิเอมิตสึได้บริจาคที่ดินเพิ่มเติมให้กับวัดในปีค.ศ. 1641 สวนโชเซเอ็นมีความสวยงามมากส่งผลทำให้ผู้คนจำนวนมากหลงใหล เหล่ากวีชาวญี่ปุ่นหลายคนที่ยกย่องความงดงามของสวนแห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นสวนญี่ปุ่นที่โดดเด่นถึงขนาดมีจุดเด่นด้านทิวทัศน์ถึง 13 จุดและคุณลักษณะอื่นๆ ที่ส่งต่อทิวทัศน์ของสวนสวยสมัยเอโดะมาจนถึงปัจจุบัน
สวนโชเซเอ็น (Shosei-en)
ที่อยู่ | 600-8190 Shimozusuyamachi, Dorimanomachi, Shimogyo Ward, Kyoto City, Kyoto |
วิธีเดินทาง | เดินประมาณ 10 นาที จากสถานี JR Kyoto |
เวลาทำการ | 9.00 น. – 17.00 น. (เดือนมีนาคมถึงตุลาคม) , 9.00 น. – 16.00 น. (เดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์) |
ราคา | 500 เยน |
Website | Shosei-en |
วัดซันจูซันเกนโด (Sanjusangendo Temple)
วัดพุทธชื่อดังแห่งนี้โดดเด่นเรื่องรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมที่ทำจากไม้และมีขนาดเท่าคนจริงจำนวน 1,001 รูป ที่สวยงาม และมีความโดดเด่นอีกทั้งยังมีความสง่างามแกะสลักจากไม้ไซเปรสและปิดด้วยทองคำเปลว ซึ่งเป็นผลงานชิ้นเอกของประติมากร Tankei และถือว่าเป็นสมบัติของชาติในญี่ปุ่นด้วย ส่วนชื่อวัดมีความหมายตามตัวอักษรว่า “ห้องโถงที่มีช่องว่างระหว่างเสาสามสิบสามช่อง” ซึ่งบรรยายถึงสถาปัตยกรรมของห้องโถงหลักของวัดที่มีความยาว 120 เมตร ถือเป็นอาคารไม้ที่ยาวที่สุดในโลก ล้วนสร้างความตื่นตาตื่นใจในเรื่องความงามของสถาปัตยกรรมและประติมากรรมทางพุทธศาสนาแบบญี่ปุ่นที่หาชมได้อยากยิ่งในปัจจุบัน
วัดซันจูซันเกนโด (Sanjusangendo Temple)
ที่อยู่ | 657 Sanjusangendomawari, Higashiyama Ward, Kyoto, 605-0941 |
วิธีเดินทาง | เดิน 5 นาทีจากสถานี Shichijo |
เวลาทำการ | 8.00 – 17.00 น., 9.00 – 16.00 น. (วันที่16 พฤศจิกายน – 31 มีนาคม) |
ราคา | ผู้ใหญ่ 600 เยน, เด็กมัธยมต้นและปลาย 400 เยนและเด็กประถม 300 เยน |
Website | Sanjusangendo Temple |
พิพิธภัณฑ์รถไฟเกียวโต (Kyoto Railway Museum)
พิพิธภัณฑ์รถไฟเกียวโตเปิดให้เข้าชมในปีค.ศ. 2016 โดย JR West ที่นี่ติดอันดับ 1 ใน 3 พิพิธภัณฑ์รถไฟที่มีความยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น ควบคู่ไปกับพิพิธภัณฑ์รถไฟของ JR East ในไซตามะ และพิพิธภัณฑ์การรถไฟญี่ปุ่น (SCMAGLEV and Railway Park) และสวนรถไฟของ JR Central ในนาโกย่า ตัวพิธภัณฑ์แห่งนี้มีพื้นที่ 3 ชั้นบนพื้นที่ 30,000 ตารางเมตร จัดแสดงรถไฟที่เลิกใช้แล้วมากกว่า 50 ขบวน ตั้งแต่หัวรถจักรไอน้ำไปจนถึงรถไฟฟ้ารุ่นใหม่และชินคันเซ็น นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการที่ผู้เข้าชมสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมรถไฟหรือขับรถจำลองรถไฟได้ บริเวณพื้นที่ร้านอาหารของพิพิธภัณฑ์ที่อยู่บนชั้น 2 สามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของรถไฟสาย JR Kyoto และ Tokaido Shinkansen ขณะวิ่งผ่านได้อย่างใกล้ชิดด้วย
พิพิธภัณฑ์รถไฟเกียวโต (Kyoto Railway Museum)
ที่อยู่ | Kankijicho, Shimogyo Ward, Kyoto, 600-8835 |
วิธีเดินทาง | เดิน 2 นาทีจากสถานี Umekoji-Kyotonishi |
เวลาทำการ | 10.00 – 17.00 น. ปิดวันพุธ |
ราคา | ผู้ใหญ่ 1,500 เยน, เด็กมัธยมปลาย 1,300 เยน, เด็กมัธยมต้นและเด็กประถม 500 เยน |
Website | Kyoto Railway Museum |
สรุป
เกียวโตทาวเวอร์ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเกียวโตสมัยใหม่ เดินทางท่องเที่ยวแสนสะดวกโดยวิธีเดินเท้าจากตัวสถานีเกียวโตเพียงไม่กี่นาที เรียกได้ว่าถ้าอยากทำความรู้จักเมืองนี้ มาเริ่มทำความคุ้นเคยกับบรรยากาศของเมืองเก่าได้จากที่นี่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบครันทั้งจุดชมวิว ร้านค้าร้านอาหาร ห้องอาบน้ำสาธารณะ และที่พัก จะมาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ หรือเดินทางทำความรู้จักเกียวโตมากยิ่งขึ้นจากที่นี่ก็ได้