เกียวโต กับ โตเกียว ต่างกันยังไง เที่ยวเมืองไหนดี ?

เราพบว่ามีหลายคนที่ยังแยกระหว่าง เกียวโต กับ โตเกียว ไม่ออก ก็ชื่อมันคล้าย ๆ กันนี่เนาะ และยิ่งกว่านั้นยังมีคนคิดว่าสองเมืองเป็นเมืองเดียวกันด้วยนะเอ้อ ! แต่ไม่เป็นไร คนไม่รู้ไม่ผิด เรามาทำความรู้จัก 2 เมืองนี้ให้มากขึ้น เพื่อให้คุณตัดสินใจว่าเมืองไหนที่คุณอยากไปและเมืองไหนที่เป็นสไตล์คุณ

ชื่อเมือง / ที่มาของแต่ละเมือง

Tokyo

โตเกียว คือชื่อเมืองหลวงปัจจุบันของประเทศญี่ปุ่น หรือชื่อเป็นทางการว่า มหานครโตเกียว ตั้งอยู่บริเวณภูมิภาคคันโตของญี่ปุ่น เป็นศูนย์รวมแห่งความทันสมัย แหล่งท่องเที่ยว ย่านการค้าที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของโลก เช่น Shinjuku, Shibuya, Harajuku นอกจากนี้ก็ยังมีวัดที่มีชื่อเสียงอย่างวัด Asakusa ที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

Kyoto

เมืองเกียวโต หรือจังหวัดเกียวโต ตั้งอยู่ที่ภูมิภาคคันไซ ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสามด้าน จึงทำให้มองไปทางไหนก็มักจะเห็นวิวภูเขา เป็นเมืองที่มีความเก่าแก่ที่รวบรวมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ไว้มากมาย และยังเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมอีกด้วย

สนามบิน

Tokyo

สามารถเดินทางเข้าเมืองโตเกียวได้โดยนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินนาริตะ ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ จังหวัดชิบะ (ใช้เวลาเดินทางจากนาริตะไปในเมืองโตเกียวประมาณ 1 ชั่วโมง) ซึ่งเป็นสนามบินหลักที่ให้บริการผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เดินทางเข้าและออกจากประเทศญี่ปุ่น หรือสนามบินฮาเนดะ เป็นสนามบินศูนย์กลางของเที่ยวบินภายในประเทศที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อยู่ห่างจากเมืองโตเกียวประมาณ 15 กิโลเมตร

ภายในสนามบินมีร้านค้า , ร้านอาหาร , ร้านขายของปลอดภาษี (Tax Free) , ร้านขาย Sim โทรศัพท์ หรือเช่า Pocket WIFI รวมถึงเคาท์เตอร์ที่ให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติ สามารถเดินทางเข้าเมืองโตเกียวจากทั้งสองสนามบินได้โดย รถไฟ , รถ Bus , รถ TAXI , Airport Limousine Bus , รถไฟความเร็วสูง , เช่ารถ และอีกหลากหลายวิธี

Kyoto

หากจะเดินทางไปเกียวโต ต้องนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินคันไซ ที่ตั้งอยู่ที่เมืองโอซาก้า สนามบินคันไซ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองโอซาก้าประมาณ 1 ชั่วโมง และเข้าเมืองเกียวโตประมาณ 2-3 ชั่วโมง

ภายในสนามบินมีร้านค้าต่าง ๆ และร้านอาหารมากมาย รวมถึงจุดให้บริการและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวด้วย สามารถเดินทางไปลงที่โอซาก้า หรือตรงเข้าเกียวโตได้เลยโดยรถไฟของ JR และ Nankai , Airport Limousine bus , รถ Taxi หรือเช่ารถ

ลักษณะบ้านเมือง / บรรยากาศ

Tokyo

เนื่องจากโตเกียวเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นจุดศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยความเจริญทางเทคโนโลยี คุณจะได้เห็นภาพบรรดาตึกสูง ๆ เต็มไปทั่วเมืองจนชินตา มีร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งบันเทิงกระจายตัวอยู่ทั่วเมือง รวมถึงตึกของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงก็ต่างมารวมกันที่เมืองนี้ เรียกว่าถ้าหากได้มาเที่ยวที่โตเกียวแล้วล่ะก็ คุณจะต้องเพลิดเพลินกับแสงสีและความทันสมัยของเมืองนี้อย่างแน่นอน

แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่ตึกซะทีเดียว เพราะที่นี่เค้าก็ให้ความสำคัญกับทั้งมนุษย์และธรรมชาติ มีวัดวาอาราม ศาลเจ้าที่ผู้คนนับถือ หรือสวนสาธารณะให้ได้พักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์และศิลปะด้วย

Kyoto

เกียวโตเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น คุณจะได้เห็นบ้านเรือนที่ให้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นสุด ๆ เมืองแทบทั้งเมืองจะเป็นโทนสีเดียวกันหมดเลยล่ะ ที่นี่เต็มไปด้วยวัด และศาลเจ้าชื่อดังอย่าง วัดน้ำใส (Kiyomizu-dera) , ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ หรือที่เราเรียกกันว่า ศาลเจ้าจิ้งจอก (Fushimi Inari Taisha) นอกจากนี้ยังสามารถท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ได้โดยไม่เบื่อเลย

ที่เกียวโตนี้เหมาะกับคนที่ชอบความ Slow Life อย่างที่สุด เพราะคุณจะได้เจอบรรยากาศและกลิ่นอายญี่ปุ่นแบบเก่า ๆ อากาศดี ๆ ถึงจะเป็นเมืองเก่าแต่ก็มีความทันสมัยเฉพาะตัว มีคาเฟ่ และร้านอาหารที่ถูกตกแต่งให้ได้บรรยากาศเฉพาะตัวของเกียวโตให้คุณได้นั่งเล่น จิบกาแฟพลางชมเมืองที่น่าทึ่งนี้ไปพร้อมกัน

แหล่งท่องเที่ยว / แนวการท่องเที่ยว

Tokyo

ต้องบอกว่าย่านท่องเที่ยวในโตเกียวนั้นมีเยอะมากกกกก ถ้าให้ลองยกตัวอย่างย่านที่มีชื่อเสียงอย่าง ชินจูกุ (Shinjuku), ชิบุย่า (Shibuya), ฮาราจูกุ (Harajuku), กินซ่า (Ginza), อุเอโนะ (Ueno), อากิฮาบาระ (Akihabara), อิเคะบุคุโระ (Ikebukuro), อาซากุสะ (Asakusa) , รปปงหงิ (Roppongi), โอไดบะ (Odaiba) ล่ะก็ทุกคนต้องเคยได้ยินแน่ ๆ เพราะเป็นย่านโปรดของนักท่องเที่ยวที่ไปละลายทรัพย์กันให้หมดตัว

ไหนจะหอคอยสูงๆอย่างโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree), โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) หรือจะสวนสนุกโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) ขวัญใจเด็ก ๆ และคนรัก Disney อีก โอ้โหเยอะแยะไปหมด นี่ยังไม่รวมตามชานเมือง ตรอกซอกซอย สถานีต่าง ๆ หรือที่เที่ยวใหม่ ๆ ที่ผุดขึ้นมาทุกปี เรียกได้ว่าไปแค่เมืองโตเกียวที่เดียวก็เที่ยวได้ครบทุกแบบ ถลุงเงินกันให้หนำใจ ไม่ว่าจะกลางวันกลางก็เที่ยวได้ทั้งวันเลย

Kyoto

เนื่องจากเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่และเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ การท่องเที่ยวในเกียวโตนั้นส่วนใหญ่จะเป็นการไปตามวัด ศาลเจ้า พิพิธภัณฑ์ หรือเที่ยวชมธรรมชาติ นอกจากชื่อสถานที่ที่กล่าวไปด้านบนนั้น เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินชื่อ อาราชิยาม่า (Arashiyama) หรือป่าไผ่ที่โด่งดังนั่นเอง , วัดคินคะคุจิ หรือวัดทอง (Kinkakuji Temple) ที่มีความสวยงามมากโดยเฉพาะหน้าหนาวที่มีหิมะตกลงมาปกคลุมหลังคาวัด และย่านอื่น ๆ เช่น กิออน (Gion) ย่านเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีปราสาทเก่าแก่อย่างปราสาทนิโจ (Nijo Castle) ที่ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกอยู่ที่เมืองเกียวโตแห่งนี้ด้วย รวมถึงรถไฟสายโรแมนติก (Romantic train) ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจในช่วงฤดูใบไม่ร่วงก็เป็นไฮไลท์ของที่นี่เช่นกัน

การเดินทางในเมือง / Pass

Tokyo

การเดินทางในมหานครโตเกียวนั้นมีหลากหลายวิธี แต่วิธีที่ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวนิยมใช้มากที่สุดนั่นก็คือการนั่งรถบัส และรถไฟ ซึ่งสายรถไฟที่โตเกียวนั้นมีหลายบริษัทมาก ๆ อาจจะทำให้เกิดความสับสนได้ ดังนั้นอย่าลืมหาข้อมูลก่อนเดินทางดี ๆ ด้วยนะ

Pass รถไฟก็มีหลากหลายแบบให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นแบบ Tokyo 1-Day , Tokyo Subway Ticket , Tokyo Wide Pass , JR East Pass Tohoku Area โอ๊ยยยเยอะแยะไปหมด แถมราคาและจำนวนวันใช้งานก็แตกต่างกันไป หากใครไม่แน่ใจว่าควรใช้ Pass ตัวไหน ให้ลองเอาแผนการท่องเที่ยวของคุณไปปรึกษากับพนักงานขาย Pass ได้ แล้วเค้าจะแนะนำตัวที่คุ้มที่สุดให้เอง

แต่หากต้องการความสะดวกสบาย เข้าใจง่าย ไม่ต้องจำอะไรเยอะ ก็แนะนำให้ใช้บัตร IC ที่มีชื่อว่า Suica Card เป็นบัตรเติมเงินที่ใช้แทนเงินสด เพียงกดซื้อตั๋วง่าย ๆ ที่ตู้ขายตั๋วในสถานีรถไฟ ก็สามารถใช้ขึ้นรถบัส รถไฟ ซื้อของตามร้านร้านสะดวกซื้อได้ง่าย ๆ เพียงแค่แตะบัตรที่เครื่องเท่านั้น

Kyoto

การเดินทางในเกียวโตนั้นก็คล้าย ๆ กับโตเกียว คือใช้รถสาธารณะ หรือรถประจำทาง อย่างรถบัส และรถไฟ ที่เกียวโตมีสถานีใหญ่อย่าง สถานีเกียวโต สามารถเดินทางโดยรถไฟ และชินคันเซนได้ หากต้องการเดินทางข้ามเมืองก็สามารถมาขึ้นรถไฟได้ที่นี่เลย เพราะเป็นสถานีใหญ่ที่เชื่อมต่อกับแทบทุกสถานีในเกียวโต หรือหากต้องการซื้อ Pass รถไฟก็มีให้เลือกได้ที่นี่

สำหรับรถบัสแนะนำ Kyoto city bus & Kyoto bus one day pass ที่สามารถขึ้นบัสไปไหนก็ได้ในเกียวโตตลอดหนึ่งวัน ถือว่าคุ้มมาก ๆ และอีกแบบหนึ่งคือ Kyoto Sightseeing ที่มีทั้งแบบ 1 วัน และ 2 วัน เป็นบัตรที่าสามารถใช้ขึ้นรถบัส รถไฟ และเป็นส่วนลดสำหรับเข้าสถานที่เที่ยวต่าง ๆ ที่ระบุในบัตรไว้ได้ด้วย

นอกจากนี้ก็ยังมีบัตร IC หรือ ICOCA Card ที่ใช้งานเหมือนบัตร Suica Card คือเป็นบัตรเติมเงินที่ใช้แทนเงินสด ใช้ง่ายและสะดวกมากๆ

ผู้คนในแต่ละเมือง

Tokyo

โตเกียวเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ เป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลกเลยล่ะ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ไม่ว่าจะไปมุมไหนก็มักจะเจอความวุ่นวาย และผู้คนจำนวนมาก เรามักจะได้เจอมนุษย์เงินเดือนเดินกันขวักไขว่ เพราะเป็นเมืองที่ผู้คนเข้ามาทำงานกันมากเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น คล้าย ๆ กับกรุงเทพฯเมืองหลวงของบ้านเรา ชีวิตของคนที่นี่จะค่อนข้างเร่งรีบ ช่วงเวลาเริ่มงานและเลิกงาน รถไฟจะอัดแน่นไปด้วยผู้คน แน่นถึงขนาดที่เมืองไทยเราสู้ไม่ได้เลยล่ะ

แต่ถ้าพูดถึงความยิ้มแย้มแจ่มใสของชาวญี่ปุ่น รับรองว่าคุณจะต้องประทับใจ โดยเฉพาะย่านท่องเที่ยวตามร้านค้าต่าง ๆ คุณจะได้รับการเชิญชวนและให้บริการอย่างเป็นมิตรตามแบบฉบับของคนญี่ปุ่น ถ้าหลงทางก็ไม่ต้องกังวลเพราะคนญี่ปุ่นเค้าพร้อมช่วยเหลือเราเสมอ อาจจะมีปัญหาเรื่องกำแพงทางภาษาอยู่บ้าง แต่ถ้าค่อย ๆ อธิบายให้เค้าเข้าใจก็สามารถสื่อสารกันได้อย่างแน่นอน

Kyoto

หากคุณได้ไปเยือนเมืองเกียวโตสักครั้งล่ะก็ คุณจะต้องแปลกใจว่า ทำไมถึงเจอคนแก่เยอะขนาดนี้ ! และไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็จะเจอคนใส่ชุดกิโมโนเดินกันทั่วเมือง โดยเฉพาะย่านท่องเที่ยวเก่า ๆ และหากคุณคิดว่าการมาเที่ยวเมืองเก่า แล้วจะไม่ค่อยเจอนักท่องเที่ยวต่างชาติล่ะก็ คิดผิด ! เพราะเสน่ห์ของความเก่าแก่นี่แหละที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลมาเยี่ยมที่เมืองแห่งนี้ทุกปี และมากขึ้นปีละหลายเท่า !

ประชากรส่วนใหญ่ของเมืองนี้จะเป็นผู้สูงอายุ แต่เห็นแบบนี้เป็นชาวเกียวโตที่มีสุขภาพแข็งแรงมาก ๆ สามารถขึ้นลงรถบัส รถไฟเองได้ด้วยนะ แถมคุณตาคุณยายที่นี่เค้าก็ใจดียินดีช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่หลงทางอย่างพวกเราด้วยล่ะ นอกจากนักท่องเที่ยวแล้ว คนเกียวโตเองเค้าก็นิยมแต่งชุดกิโมโนเดินเที่ยวเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นวัยหนุ่มสาว วัยทำงาน หรือคนแก่เอง เป็นภาพที่ดูแล้วสมกับเป็นบ้านเมืองญี่ปุ่นเก่าแก่จริง ๆ เลย ผู้คนที่นี่จะใช้ชีวิตกันแบบเรียบ ๆ ช้า ๆ ไม่เร่งรีบ ทำให้เราสามารถท่องเที่ยวได้แบบสบาย ๆ ไปด้วยได้

ค่าครองชีพ

Tokyo

ค่าครองชีพในโตเกียวนั้นจะสูงกว่าเกียวโตอยู่ซักหน่อย เนื่องจากเป็นเมืองหลวง และอีกหลายปัจจัยยิบย่อย แต่โดยรวมนั้นถือว่าสูงเลยทีเดียว และสูงกว่าไทยแน่นอน ค่าเงินญี่ปุ่น 100 เยน เท่ากับประมาณ 30 บาทไทย แต่ค่าอาหารที่ถูกที่สุดอย่างอาหารในร้านสะดวกซื้อมักจะมีราคา 100 เยนขึ้นไป หรือหากเป็นร้านอาหารครอบครัวจะอยู่ที่ประมาณ 400 เยนขึ้นไปเลยล่ะ แน่นอนว่าเรื่องราคาของที่พักนั้นก็สูงมาก ๆ ดังนั้นควรเตรียมเงินไปใช้ให้พอ หรือรอโปรโมชั่นดี ๆ นะ แต่หากใครที่พร้อมลุยพร้อมฟาด ! ราคาเท่าไหร่ไม่สนเพราะเงินพร้อมแล้ว ก็ลุยโลด

Kyoto

สำหรับค่าครองชีพในเกียวโตนั้นจะถูกกว่าโตเกียวนิดหน่อย แต่ก็ยังถือว่าสูงอยู่ดี ค่าอาหารการกินส่วนใหญ่จะราคาใกล้เคียงกัน แต่ถ้าหากต้องการพักแบบเรียวกัง (โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น) เพื่อให้ได้บรรยากาศเมืองเก่าจะมีราคาสูงมากกกกก ต้องเลือกให้พอดีงบของตัวเองนะจะได้เหลือเงินไว้ช้อปปิ้ง ส่วนค่าเดินทางก็สามารถวางแผนเลือก Pass ที่คุ้มได้เพื่อประหยัดเงินส่วนนี้

ข้อสรุป

เกียวโต กับ โตเกียว อ่านแล้วถูกใจเมืองไหนกันบ้าง ดูเป็นเมืองคนละสไตล์เลยใช่ไหมล่ะ เมืองหนึ่งก็ดูทันสมัย เที่ยวช้อปได้แบบฟิน ๆ อีกเมืองหนึ่งก็ดูเก่าแก่ แลดูมีมนต์ขลัง อยากไปไหว้พระวัดดังสักครั้ง งั้นก็ไปทั้ง 2 เมืองเลย ! เพราะใคร ๆ ที่เคยไปญี่ปุ่นก็มักจะบอกว่าไปครั้งเดียวไม่เคยพอ ถ้าได้ไปแล้วจะหลงรักญี่ปุ่น ไม่ว่าเมืองไหนก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน แต่ที่แน่ๆคุณจะลืมญี่ปุ่นไม่ลงอย่างแน่นอน