ข้อมูลมาโกเมะจุกุ (Magome Juku)
มาโกเมะจุกุ (Magome Juku) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้ๆหุบเขา Kiso ในเมือง Nakatsugawa ในจังหวัด Gifu ซึ่งในอดีตนั้นเคยเป็นเมือง ( Post Town ) ที่นักเดินทางที่เดินทางในเส้นทาง Nakasendo ระหว่างเอโดะ – เกียวโต มักมาพักค้างคืนกันที่นี่
ปัจจุบันนั้น มาโกเมะจุกุ (Magome Juku) ได้ถูกบูรณะใหม่ทำให้มีทิวทัศสวยงามแต่ก็ยังคงรักษาความเป็นเมืองเก่าสมัยเอโดะ จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด Gifu
บรรยากาศภายในเมืองนั้นจะประกอบไปด้วยถนนที่ปูด้วยก้อนกรวดและมีบ้านเก่าๆที่ใช้หน้าต่างแบบไม้ขัดแตะ และมีร้านขายของที่ระลึก ซึ่งได้บรรยากาศ กลิ่น ของสมัยเอโดะ
ส่วนคำว่ามาโกเมะที่เป็นชื่อเมืองนั้นมีที่มาก็คือ ซึ่งมาจากเรื่องราวที่เล่าขานมา คือ เนื่องจากถนนและเส้นทางของที่นี่นั้นค่อนข้างชัน เวลานักเดินทางมาค้างแรมที่นี่จะต้องเอาม้าผูกไว้ที่โรงแรม เพราะด้วยความสูงชันของพื้นที่ม้าไม่สามารถเดินทางต่อไปได้
นอกจากนั้นแล้ว มาโกเมะจุกุ ( Magome – Juku ) ยังเป็นบ้านเกิดของ Shimazaki Toson ซึ่งท่านเกิดในปีค.ศ. 1872 ซึ่งท่านเป็นบุคคลที่ได้รับการยกย่องในแวดวงวรรณคดีของญี่ปุ่น โดยเฉพาะนิยายเรื่อง Yoakemae ซึ่งที่นี่ก็มีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับตัวท่านให้นักท่องเที่ยวได้ไปศึกษาหาข้อมูลกันด้วย
ไฮไลท์ที่น่าสนใจของมาโกเมะจุกุ (Magome Juku)
เส้นทาง Nakasendo
มาโกเมะจุกุ ( Magome – Juku ) เป็นเมืองที่อยู่ในเส้นทาง Nakasendo ดังนั้นแล้วเมื่อนักท่องเที่ยวมาที่ มาโกเมะจุกุ ( Magome – Juku ) สิ่งที่นักท่องเที่ยวควรจะสัมผัสซักครั้งก็คือ การเดินตามเส้นทาง Nakasendo โดยนักท่องเที่ยวนั้นสามารถลองเดินเส้นทางนี้ได้ระหว่าง มาโกเมะจุกุ ( Magome – Juku ) ไปยัง ทสึมะโกะจุกุ ( Tsumago – Juku ) โดยมีระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวจะใช้เวลาเดินประมาณ 1.30 – 2 ชั่วโมงเท่านั้น
โดยระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ระหว่างทางก็พบกับต้นสนไซเปรส และมองเห็นแม่น้ำด้านล่าง ซึ่งเส้นทางอาจจะคดเคี้ยวและลาดชั้นบ้าง แต่ก็สามารถเดินได้ไม่ยาก ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ที่ต้องห้ามพลาดในการมาเยือน มาโกเมะจุกุ ( Magome – Juku )
พิพิธภัณฑ์ชิมะซะกิ โทซง ( Shimazaki Toson Museum )
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อรำลึกถึง Shimazaki Toson ผู้ซึ่งเป็นนักเขียนวรรณคดีซึ่งเมืองนี้เป็นบ้านเกิดของเขา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1947 และเปิดให้บริการครั้งแรกในปีค.ศ. 1952
โดยภายในพิพิธภัณฑ์นั้นได้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ ที่ท่าน Toson เคยใช้สมัยยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งสิ่งของต่างๆมากกว่า 5000 ชิ้นนั้นได้รับบริจาคมาจากลูกชายคนโตของท่าน Toson
ซึ่งที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้คอลเลคชั่นนิยายเรื่องต่างๆที่ท่านแต่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่อง Yoakemae ( ก่อนรุ่งสาง ) ซึ่งถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของท่านเลยทีเดียว
พิพิธภัณฑ์ชิมะซะกิ โทซง ( Shimazaki Toson Museum )
ที่อยู่ | Magome 4256-1, Nakatsugawa, Gifu, 508-0502 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสจากสถานี Nakatsugawa มาลงป้าย Magome จากป้ายรถเมล์เดินอีก 10 นาที |
เวลาทำการ | เดือนเมษายน – พฤศจิกายน เปิดตั้งแต่ 09.00 น. – 17.00 น. เดือนธันวาคม – มีนาคม เปิดตั้งแต่ 09.00 น. – 16.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 100 เยน |
Website | พิพิธภัณฑ์ชิมะซะกิ โทซง ( Shimazaki Toson Museum ) |
โรงเตี๊ยมทาจิมะยะ ( Tajimaya Ryokan )
มาโกเมะจุกุ (Magome Juku) ถือว่าเป็นเมืองที่นักเดินทางมักจะมาค้างแรมในสมัยเอโดะ ดังนั้นถ้าไม่พูดถึงสถานที่พักก็คงไม่ได้
โรงเตี๊ยมทาจิมะยะ ( Tajimaaya Ryokan ) นั้นถือว่าเป็นโรงเตี๊ยมเก่าแก่แห่งหนึ่ง โดยเปิดบริการมามากกว่า 110 ปี และปัจจุบันก็ยังคงเปิดให้บริการอยู่ โดยห้องพักของที่นี่จะเป็นห้องพักสไตล์ย้อนยุคซึ่งได้บรรยากาศสมัยเก่าๆ นอกจากนั้นแล้วจากห้องพัก นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวถนนเก่าแก่ของมาโกเมะจุกุได้อีกด้วย
นักท่องเที่ยวสามารถจองห้องพักได้ที่นี่ จองห้องพัก
โรงเตี๊ยมทาจิมะยะ ( Tajimaya Ryokan )
ที่อยู่ | 4266 Magome, Nakatsugawa, Gifu 508-0502 |
วิธีเดินทาง | นั่งจากป้ายรถเมล์ Magome เดินไปทางซ้ายมือประมาณ 200 เมตร |
เวลาทำการ | เช็คอินตั้งแต่ 15.00 น. เช็คเอาท์ได้ไม่เกิน 10.00 น. |
Website | โรงเตี๊ยมทาจิมะยะ ( Tajimaya Ryokan ) |
วิธีการเดินทางมายัง มาโกเมะจุกุ ( Magome – Juku )
ต้นทาง | ปลายทาง | เดินทางโดย | รายละเอียดการเดินทาง |
---|---|---|---|
สถานี Nakatsugawa | ป้าย Magome | รถบัส | จากสถานี Nakatsugawa นั่งรถบัสมาลงป้าย Magome |
มาโกเมะจุกุ (Magome Juku)
ที่อยู่ | Magome, Nakatsugawa, Gifu 508-0502 |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | มาโกเมะจุกุ ( Magome – Juku ) |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับมาโกเมะจุกุ (Magome Juku)
ทสึมะโกะจุกุ ( Tsumago-juku )
ทสึมะโกะจุกุ ( Tsumago-juku ) เป็นอีก 1 เมืองที่อยู่บนเส้นทาง Nakasendo ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวควบคู่กับมาโกเมะจุกุ ( Magome – Juku ) ได้ โดยเมืองนี้ก็เป็นอีก 1 เมืองบนเส้นทาง Nakasendo ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ โดยยังคงบรรยากาศความเป็นเอโดะไว้ อย่างเช่นบ้านเรือนเก่าๆ โดยมีที่พักอย่างเรียวกังไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย
โดยนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสเส้นทาง Nakasendo ได้ด้วยการเดินระหว่าง ทสึมะโกะจุกุ ( Tsumago-juku ) กับ มาโกเมะจุกุ ( Magome – Juku )
ทสึมะโกะจุกุ ( Tsumago-juku )
ที่อยู่ | Azuma, Nagiso, Kiso District, Nagano 399-5302 |
วิธีเดินทาง | เดิน 2 ชั่วโมงจากมาโกเมะจุกุ ( Magome – Juku ) หรือ จากสถานี Nagiso นั่งรถบัสมาลงป้าย Tsumago |
Website | ทสึมะโกะจุกุ ( Tsumago-juku ) |
พิพิธภัณฑ์แร่นาคะทสึกะวะ ( Nakatsugawa Mineral Museum )
พิพิธภัณฑ์แร่แห่งนี้ได้จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวพวกธรณีวิทยาซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแร่ธาตุที่ค้นพบแถว Naegi โดยแร่ธาตุที่จัดแสดงเช่น ควอตซ์และโทแพซ นอกจากนั้นแล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถศึกษา เรียนรู้เกี่ยวกับแร่ที่ค้นพบแถว Naegi ได้อีกด้วย
พิพิธภัณฑ์แร่นาคะทสึกะวะ ( Nakatsugawa Mineral Museum )
ที่อยู่ | 639-15 Naegi, Nakatsugawa, Gifu 508-0101 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Nakatsugawa ขับรถ 15 นาที หรือ นั่งรถบัสมาลงป้าย Yoake No Mori แล้วเดินอีก 40 นาที |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 09.30 น. – 17.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ และวันที่ 27 ธันวาคม – 5 มกราคม |
ราคา | ค่ผู้ใหญ่ 330 เยน เด็ก ฟรี |
Website | พิพิธภัณฑ์แร่นาคะทสึกะวะ ( Nakatsugawa Mineral Museum ) |
ซากปราสาทนาเอะกิ ( Naegi Castle Ruin )
ซากปราสาทนาเอะกิ ( Naegi Castle Ruin ) นั้น เป็นปราสาทประเภทปราสาทบนยอดเขา ( Moutaintop Castle ) ซึ่งถือว่าเป็นจุดชมวิวที่ดีแห่งหนึ่งของ Nakatsugawa เมื่อนักท่องเที่ยวขึ้นไปถึงซากปราสาทนั้นจะสามารถชมวิวเมือง Nakatsugawa และภูเขา Ena ได้สวยงามนาม ซึ่งถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูหนาว ในช่วงเช้าๆ ถ้าโชคดีอาจจะได้เห็นทะเลหมอกเลยทีเดียว
ซากปราสาทนาเอะกิ ( Naegi Castle Ruin )
ที่อยู่ | Naegi, Nakatsugawa, Gifu 508-0101 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Nakatsugawa นั่งรถบัสมาลงป้าย Naegijo แล้วเดินอีก 15 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | ซากปราสาทนาเอะกิ ( Naegi Castle Ruin ) |
สรุป
มาโกเมะจุกุ (Magome Juku) นั้นนับว่าเป็นสถานที่ที่ต้องห้ามพลาดถ้าหากนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสมาเที่ยวจังหวัด Gifu เพราะที่นี่รักษาบรรยากาศความเป็นเอโดะเอาไว้ เท่านั้นไม่พอนักท่องเที่ยวยังมีโอกาสได้สัมผัสเส้นทาง Nakasendo ซึ่งสามารถเดินไปยัง ทสึมะโกะจุกุ ( Tsumago – Juku ) ได้ ซึ่งระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะได้เสพบรรยากาศธรรมชาติสุดฟินน์ และระยะทางก็ไม่ใกล้และไม่ไกลจนเกินไป
หากนักท่องเที่ยวต้องการค้างคืนก็สามารถทำได้เช่นกันเพราะที่นี่ยังมีโรงแรมที่เปิดให้บริการอยู่ บางโรงแรมเปิดบริการมาตั้งแต่สมัยเอโดะซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้บรรยากาศตอนกลางคืนเปรียบเสมือนเป็นนักเดินทางในสมัยก่อนที่มาพักค้างแรมระหว่างทาง