แดดออกหรือฝนตก​ก็ยังสนุกได้เป๊ะ เที่ยวมิเอะ แบบ Unseen (EP1)

EP1 ชิลๆที่นาโงย่า นั่งกระเช้าลอยฟ้า ตระเวนกินดะ จุดหมายคือสักการะศาลเจ้าอิเสะ

Day 1 เก็บไฮไลท์นาโงย่า แล้วไปซ่าที่นาบาน่าโนะซาโตะ

Osu Kannon (โอสุ คันนง) วัดดังที่ต้องไป ใจกลางนาโงย่า

Cr: ID19 & Daodesu

โอสุ คันนง คือวัดเจ้าแม่กวนอิมที่มีชื่อเสียงของนาโงย่า องค์พระแกะสลักจากไม้ ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม เมื่อไปถึงวัด ก็ให้ไปสักการะเจ้าแม่กวนอิม ที่อยู่ในตัวอาคารด้านบน

Cr: ID19 & Daodesu

เริ่มจากกวักควันธูปเขาหาตัวก่อน เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย จากนั้นวิธีสักการะตามแบบฉบับญี่ปุ่น ก็เริ่มจากโยนเหรียญ (ควรใช้เหรียญมีรู เช่นเหรียญ 5 เยน) จากนั้นสั่นกระดิ่ง, คำนับสองครั้ง แล้วตบมืออีกสองครั้ง จึงค่อยขอพรค่ะ แล้วก็คำนับอีก 1 ที เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ

Osu Kannon (โอสุ คันนง)

JTRRD Cafe คาเฟ่สุดชิคสำหรับคนรักสุขภาพ และรักการถ่ายภาพ

Cr: ID19 & Daodesu

ที่นี่นอกจากจะได้ทานสมูทตี้จากผักผลไม้ที่สวยสุดๆ ยังกับงานอาร์ต แถมอร่อยไม่แพ้หน้าตา และคุณค่าระดับ Super Food ทางร้านยังมีการจัดสถานที่และพร็อพไว้สำหรับถ่ายภาพอย่างสนุกสนานเลยด้วย

Cr: ID19 & Daodesu

Cr: ID19 & Daodesu

อยากชวนใครที่ไม่ชอบทานผักผลไม้ให้ลองดู เพราะเราจะไม่รู้สึกเลยว่ามันคือน้ำผักผลไม้ อย่างอันสีเขียว อร่อยมากจนไม่น่าเชื่อ ให้ทายว่าทำจากอะไร เฉลย ! ทำจากผักโขมค่า

JTRRD cafe

หมูทอดมิโซะ Yabaton รสชาติที่แท้ทรูของนาโงย่า

Cr: ID19 & Daodesu

จากนั้นเราก็เดินช้อปปิ้งกันต่อ พอท้องเริ่มหิว ก็มาต่อกันที่ร้านหมูทอดมิโซะเจ้าดัง Misokatsu Yabaton ที่เปิดกิจการที่นี่มานานกว่า 60 ปี และยังเป็นเจ้าเก่าแก่สาขาแรกอีกด้วย

สำหรับชาวนาโงย่า “มิโซะแดง” คือของขึ้นชื่อที่ถ้ามาแล้วต้องไปชิม เพราะถ้าไปชิมจังหวัดอื่น ก็จะไม่ได้รสหรือสีแบบนี้ เพราะที่นี่เป็นแหล่งปลูกถั่วที่ขึ้นชื่อ และมีกรรมวิธีหมักแบบไม่เหมือนใคร

หมูทอดยาบะตง มีให้เลือกหลากหลายเมนู ฮิตกันมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย จนถึงกับขอเมนูภาษาไทยได้ที่สาขานี้ ส่วนจะอร่อยกว่าสาขาที่ไทยหรือไม่ ขอให้ลองไปทานดูค่ะ

Cr: ID19 & Daodesu

เมนูที่เราสั่ง คือ Waraji Misokatsu Half-Half หมูสันนอก (น่าจะเป็นหมูยักษ์) ชุบเกล็ดขนมปังทอด ราดซอสอะคะมิโซะ แลอีกครึ่งเป็นวูสเตอร์ซอส(ซอสทงคัตสึ) เวลาทาน พนักงานจะเอาซอสมิโซะมาราดให้เลย ช่างน่าตื่นตาตื่นใจ

Cr: ID19 & Daodesu

บนซ้ายเป็น Teppan Hire Misokatsu หมูสันในนุ่มๆ ในเซตมีข้าวและซุปเติมได้ไม่อั้น

Cr: ID19 & Daodesu

บรรยากาศความสงบก่อนพายุลูกค้ามา พอเที่ยงปุ๊บ ลูกค้าก็เริ่มยืนต่อแถวตามขั้นบันไดตั้งแต่ชั้น 1 ขึ้นไปถึงชั้น 5 เลยทีเดียว ถ้ามาแล้วเจอคิวยาวเหยียด ก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะด้วยการบริการที่ฉับไว ยืนรอไม่นานค่ะ

มิโซะคัตสึ ยาบะตง สาขาใหญ่ (Misokatsu Yabaton Honten)

บัตรคินเท็ตสึ เรลพาส พลัส (Kintetsu Rail Pass Plus) ใบเดียวเที่ยวทั่วถึง

เราเดินทางต่อแบบอืดๆ โดยนั่งรถไฟย้อนเส้นทางเดิม กลับไปยังสถานีนาโงย่า Nagoya Station จากนั้นก็ได้เวลาใช้เจ้านี่แล้ว มันคืออออออออออ!!!!?! Kintetsu Rail Pass แบบ Plus

Cr: ID19 & Daodesu

ที่เราเลือกใช้ Kintetsu Rail Pass แบบ Plus ก็เพราะคินเท็ตสึ มีสายรถไฟที่ครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวใหญ่ๆ แถบคันไซ ไล่ตั้งแต่นาโงย่า โอซาก้า เกียวโต นารา อิเสะ ทำให้เรารู้สึกสบายใจ ไม่ต้องมานั่งคำนวณเรื่องค่าใช้จ่ายจุกจิกในการเดินทาง

บัตรโดยสารรถไฟของ Kintetsu ที่เราใช้ เป็นแบบ Pass 5 day Plus ราคา 4,800 เยน ซื้อจากที่ไทยถูกกว่า (ถ้าซื้อที่สนามบินญี่ปุ่น 5,000 เยน) บัตรนี้สามารถใช้โดยสารรถไฟฟ้าคินเท็ตสึได้ทุกสาย รวมไปถึงรถไฟอิกะ และรถบัสด้วย ลองศึกษาเพิ่มเติมกันได้ที่นี่ค่ะ >>> Kintetsu

และที่เจ๋งคือ จะได้รับส่วนลดร่วมกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆใน นาโงย่า มิเอะ นารา เกียวโต โอซาก้า บางทีลดเยอะด้วยนะ สายวางแผนลองตามไปเช็คดูค่ะ >>> Kintetsu

เราเริ่มต้นใช้งานเจ้า Kintetsu Rail Pass กันที่ สถานี Kintetsu Nagoya อยู่ในตัวสถานีนาโงย่านี่แหละ แค่เดินตามป้ายไป รับรองไม่หลงทาง

Cr: ID19 & Daodesu

มาถึงก็จะเจอกับทางเข้าหน้าตาแบบนี้ มีคุณน้าใจดีคอยยืนให้ข้อมูลกับชาวต่างชาติด้วย เราเดินกันตัวปลิวเข้าไป ต่อรถไฟ Kintetsu Limited Express ไปลงที่ Kuwana Station ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที

Cr: ID19 & Daodesu

จากนั้นก็ใช้เจ้า Pass หนึ่งเดียวของเรา ต่อรถบัสของคินเท็ตสึ จาก สถานี kuwana ไปยัง Nabana-no Sato ได้เลยไม่ต้องจ่ายตังค์เพิ่ม (เพราะมันรวมไปในบัตรแล้ว555 ที่เหลือก็แค่นั่งให้คุ้ม)

Cr: ID19 & Daodesu

หาป้ายทางออก 2 เดินออกมา จะเจอป้ายรถบัสแบบนี้ค่ะ

กลางวันชมดอกไม้สดใส กลางคืนชมแสงไฟอลังการ ที่ Nabana No Sato (นาบะนะ โนะ ซาโตะ)

บานานะ เย๊ย!! นาบานะ โนะ ซาโตะ เป็น หนึ่งในสวนดอกไม้ที่ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะมาในฤดูไหน จะมีดอกไม้สวยๆตามฤดูกาลนั้นรอต้อนรับเราอยู่ในเวลากลางวัน และในช่วงเดือน ต.ค. – พ.ค. มีไฮไลท์ที่การประดับประดาไฟหลากสีสันในเวลากลางคืน

Cr: ID19 & Daodesu

ที่ที่เราเข้าไปกันเป็นเรือนเพาะชำดอกบิโกเนีย ชื่อ Andes Flower Garden/Begonia Garden ซึ่งขอบอกว่า มันสวยงามและมีขนาดใหญ่ มากกกกกกจริงๆค่ะ

Cr: ID19 & Daodesu

และเนื่องจากสวนแห่งนี้อยู่ในร่ม อากาศจึงเย็นสบาย สามารถเที่ยวได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลสภาพอากาศข้างนอก

Cr: ID19 & Daodesu

ด้านนอกของเรือนกระจก ก็ยังเต็มไปด้วยสถานที่สนุกๆมากมาย มีน้ำพุร้อนให้แช่เท้าด้วย

Cr: ID19 & Daodesu

ที่ชอบสุดคืออันนี้ ฟูจิซัง หรือภูเขาไฟฟูจิ ที่ดูเผินๆมีความ…อิหยังวะ ทำไมอยู่ตรงนี้อ่ะ…แต่พอเผลอหันไปแป๊บเดียว

Cr: ID19 & Daodesu

มันลอยได้เฉยเลยจ้าาาาา ! สูงมากกกกกก ตอนแรกแอบตกใจ นึกว่ายานแม่มารับ

Nabana no Sato：นาบานะ โนะ ซาโตะ

อะควาอิกนิส (Aquaignis) ที่พักสุดชิค กับอาหารสุดพิเศษจากเชฟเซเลบริตี้

Cr: ID19 & Daodesu

ใครจะไปรู้ว่า กลางดง…พงป่าเขาลำเนาไพร จะมีสถานที่สุดชิคซ่อนตัวอยู่เงียบๆ ที่นี่มีทั้งทั้งสปา คาเฟ่ บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง ฯลฯ บรรยากาศสวยงามน่าประทับใจ

Cr: ID19 & Daodesu

ที่ชอบสุดคือที่พักค่ะ เป็นบ้านแยกกัน 4 หลัง แต่ละหลังจะออกแบบตกแต่งไม่เหมือนกัน

Cr: ID19 & Daodesu

มีบ่อแช่น้ำร้อนกลางแจ้งแยกออกไปเป็นส่วนตัว

Cr: ID19 & Daodesu

ลานหลังบ้านมีเปลญวนไว้นอนอ่านหนังสือ

Cr: ID19 & Daodesu

ห้องญี่ปุ่น ที่เปิดออกไปเป็นสวน และมีขนมกับชาไว้ต้อนรับ

Cr: ID19 & Daodesu

ห้องน้ำที่มีของทุกอย่างเตรียมไว้เกินครบครัน ตั้งแต่หวี (สบู่ ยาสีฟัน ยาสระผมไม่ต้องพูดถึง) โฟมล้างหน้า โทนเนอร์ ครีมบำรุงผิว โลชั่น ก็มี โดยผลิตกับแบรนด์เครื่องสำอางค์ MMC ไฮโซมาก! ไม่ต้องแบกโต๊ะเครื่องแป้งมาเอง

Cr: ID19 & Daodesu

จากนั้นเราลงไปทานอาหารเย็นที่ห้องอาหาร คะสะอัน ซันปิเรียวรง [Kasaan] Sanpiryoron จากร้านอาหารสามารถมองเห็นวิวสวยงาม

Cr: ID19 & Daodesu

ร้านอาหารนี้อยู่ในความดูแลของเชฟชื่อดัง อารมณ์ประมาณเชฟกระทะเหล็กบ้านเรา คือเชฟ Masahiro Kasahara โดยเมนูที่เสริฟจะเป็น Full Course แบบญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า “ไคเซกิ” อาหารจะถูกนำมาเสริฟทีละจาน ไปจนครบเซ็ต

Cr: ID19 & Daodesu

แต่ละจานจะรังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบขึ้นชื่อของมิเอะ เช่น เนื้อมัตสึซากะ!

Cr: ID19 & Daodesu

บรรยากาศภายในห้องนอน

Cr: ID19 & Daodesu

Cr: ID19 & Daodesu

ที่นี่มีไร่สตรอว์เบอร์รี่ด้วยนะ ใครมาที่นี่ช่วงธันวาคม – พฤษภาคม ก็จะได้ลองเก็บสตรอว์เบอร์รี่สดๆจากไร่ดู หรืออาจจะได้เจอเชฟขนมหวาน Tsujiguchi มาเดินเก็บสตรอว์เบอร์รี่ไปทำของหวานให้เราทานด้วย

Cr: ID19 & Daodesu

พูดถึงของหวาน ที่นี่มีร้านของหวาน ConfitureH ที่เราสามารถเอนจอยเมนูลิมิเต็ดจากเชฟชื่อดัง ได้ที่นี่ที่เดียว

Cr: ID19 & Daodesu

เค้กแต่ละชิ้นหน้าตาและรสชาติประณีตมาก แถมที่เจ๋งไปกว่านั้นคือ ราคาไม่ได้แพงเว่อร์วังอย่างที่คิดเลย เราเลยจัดชุดใหญ่กันไป

Cr: ID19 & Daodesu

แต่ถ้าใครไม่ใช่สายของหวาน ที่นี่ยังมีร้าน Mariage de Farine ที่แปลเป็นไทยว่า “การแต่งงานของแป้ง” เพราะรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ของขนมปังที่นี่ เกิดจากการผสมผสานจากแป้งที่มีในจังหวัดมิเอะเท่านั้น

Cr: ID19 & Daodesu

ขนมปังพวกนี้ แขกสามารถไปเลือกหยิบที่ร้านเพื่อมาทานคู่กับอาหารเช้าได้

Aquaignis：อะควาอิกนิส

Day 2 นั่งกระเช้าเทนโบได แล้วไปสักการะสุดยอดศาลเจ้า

นั่งกระเช้าชมวิว ChillChill ที่โกไซโช (Gozaisho Ropeway)

Cr: ID19 & Daodesu

อิเสะ นอกจากจะมีทะเล ก็ยังมีภูเขาที่สวยงาม Gozaisho Ropeway เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่า สามารถขึ้นมาชมวิวที่สวยได้ในทุกฤดู

Cr: ID19 & Daodesu

เพื่อนคนญี่ปุ่นแอบกระซิบมาว่า ถ้ามาในฤดูร้อน ท้องฟ้าเปิด ก็จะสวยกว่านี้ ถ้ามาในฤดูใบไม้ร่วง ก็จะเห็นภูเขาสลับสีเหลือง แดง สวยงาม แต่ถ้ามาในช่วงฤดูหนาวก็จะได้เห็นทัศนียภาพหิมะที่ขาวโพลน ส่วนฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้สีต่างๆก็จะเบ่งบาน พูดซะทำเอาอยากมาให้ครบทุกฤดูเลย

แล้วก็ถ้ามีบัตร Kintetsu Rail Pass สามารถลดราคาค่าเข้าได้ 30%เลยนะ >>> Kintetsu

Gozaisho Ropeway

แดนดี้ไลอ้อน ช็อกโกแลต (Dandelion Chocolate) สาขา ISE GEKU

Cr: ID19 & Daodesu

คนรักช็อกโกแลตต้องมาแสวงบุญที่นี่ ร้านขายช็อกโกแลตสุดชิค มีช็อกโกแลตจากที่ต่างๆทั่วโลกมาให้ลองชิม ที่สำคัญคือเนื้อช็อกโกแลตจะมีส่วนผสมจากเมล็ดโกโก้และน้ำตาลชนิดพิเศษล้วน ไม่มีนมวัวผสม รสชาติของช็อกโกแลตทุกชิ้น จึงเป็นรสชาติของโกโก้ที่มาจากแต่ละสายพันธุ์จริงๆ

Cr: ID19 & Daodesu

บริเวณหน้าเค้าน์เตอร์สามารถชิมช็อกโกแลตได้

Cr: ID19 & Daodesu

เราเลือกทานเมนูที่มีเฉพาะที่มิเอะ คือ Ise Hot Cholote ที่ผสมโฮจิชะ (ชาคั่วแบบญี่ปุ่น) ห๊อมหอม แถมคุณภาพและรสชาติล้นแก้ว (ล้นจริงๆต้องค่อยๆจิบ) ถือว่าคุ้มมาก

เผื่อคุณไปถึงแล้วยังยืนมึนงงอยู่หน้าเค้าน์เตอร์ เราขอแนะนำให้จิ้มไปที่อันนี้ Chef’s Tasting ก็ในเมื่อเชื่อใจตัวเองไม่ได้ ก็เอาอันที่เชฟแนะนำให้เลยละกัน เมนูนี้มีวันละ 15 ชุดเท่านั้นนะ รีบจัดไปไวๆเด้อ

Cr: ID19 & Daodesu

ในเซ็ตจะมีของหวานที่ทำจากโกโก้ 5 ชนิดจาก 5 แหล่งที่มา และเชฟยังกระซิบว่า เมนูนี้ มีขายที่แดนดี้ไลอ้อน สาขา Ise Geku เท่านั้นนาจาาาา คุ้มค่ากับการบุกมาถึงที่นี่จริงๆ

Dandelion Chocolate สาขา ISE GEKU

&

&

&

&

&

&

&

&

&

&

&

&

&

&