ทำความรู้จัก Mount Moiwa (ภูเขาโมอิวะ)
Mount Moiwa (ภูเขาโมอิวะ) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่กลางใจเมืองซัปโปโร มีประวัติอันยาวนาน ในอดีตนั้นเป็นที่อยู่ของชนเผ่าไอนุ (Ainu) ที่อาศัยอยู่ในแถบฮอกไกโด ข้อสังเกตคือชื่อสถานที่หรือเมืองในแถบนี้จะอ้างอิงมาจากภาษาไอนุ อย่าง ซัปโปโร ที่ในภาษาของชนเผ่านี้หมายถึง “สายน้ำที่ไหลลงสู่ที่ลุ่ม” ซึ่งภูเขาโมอิวะ ถือได้ว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่สถิตย์ของพระเจ้า ที่คอยเฝ้ามองพวกเขาอยู่บนภูเขาลูกนี้ โดย Mount Moiwa มีความสูงอยู่ที่ 531 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นสถานที่ต่างๆ ของเมืองซัปโปโรได้รอบทิศทางเลยล่ะ
ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดของ Mount Moiwa
เนื่องจาก Mount Moiwaนั้นตั้งอยู่ในทำเลที่เรียกว่าเกือบจะกลางใจเมืองซัปโปโร และด้วยความสูง 531 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้ที่นี่เป็นจุดชมวิวยอดนิยมที่ผู้มาเยือนต้องมาเช็คอิน ไม่เช่นนั้นจะถือว่ามาไม่ถึงเมืองนี้ โดยภูเขาโมอิวะ เคยได้รับการจัดอันดับว่าเป็น 1 ใน 3 ของจุดชมวิวยอดนิยมของประเทศญี่ปุ่นในปี 2015 ยืนยันได้ถึงทัศนียภาพด้านบนที่คุ้มค่ากับการเดินทางแน่นอน เพราะสามารถมองเห็นวิวของเมืองซัปโปโร ได้แบบ 360 องศา โดยช่วงเวลาที่ถือว่าสวยที่สุดก็คือหลังพระอาทิตย์ตกดินที่คุณจะได้เห็นแสงไฟระยิบระยับของเมือง เป็นภาพที่ใครเห็นก็ต้องชมว่าสวยงามและน่าประทับใจ
แต่ใช่ว่าภูเขาโมอิวะ จะสวยงามแค่ยามค่ำคืนเท่านั้น เพราะในตอนกลางวันคุณก็จะได้เห็นต้นไม้ ดอกไม้ ที่จะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาลต่างๆ เรียกว่าไปตอนไหนก็สวยไม่ซ้ำกัน ซึ่งด้านบนยังมีท้องฟ้าจำลอง ร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกเอาไว้ให้ซื้อกลับมาฝากคนที่บ้านด้วย สำหรับการเดินทางนั้นจะต้องขึ้นระกระเช้าลอยฟ้า แล้วต่อด้วยมินิเคเบิ้ลคาร์ เพื่อไปบริเวณจุดสูงสุดซึ่งเป็นจุดชมวิว
พิกัด Mount Moiwa
ที่อยู่ | 5-3-7 Fushimi, Chuo, Sapporo, Hokkaido 064-0942 |
วิธีเดินทาง | เดินทางด้วยรถบัสสาย 51 จากสถานี Nishi juitchome มาลงที่ป้าย Keimei Terminal และเดินไปขึ้นรถบัส ที่ป้าย Minami 13 West 22 ไปลงที่ป้าย Moiwasan Ropeway และเดินต่อไปยัง Sapporo Mt.Moiwa Ropeway อีกประมาณ 8 นาที |
เวลาทำการ | กระเช้าลอยฟ้า ฤดูร้อน (เมษายน – พฤศจิกายน) 10.30 – 22.00 น. (ขึ้นรอบสุดท้าย 21.30 น.) / ฤดูหนาว (ธันวาคม – มีนาคม) 11.00 – 22.00 น. (ขึ้นรอบสุดท้าย 21.30 น.) |
ราคา | นั่งกระเช้าลอยฟ้า/มินิเคเบิ้ลคาร์ : ราคา ไป – กลับ ผู้ใหญ่ 1,200 เยน / เด็ก 600 เยน ราคาเที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 600 เยน / เด็ก 300 เยน |
Website | https://mt-moiwa.jp/en/ |
กิจกรรมที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือน Mount Moiwa (ภูเขาโมอิวะ)
1. การเคาะระฆังที่ตั้งอยู่บนจุดชมวิว 360 องศา
ถือว่าเป็นจุดเช็กอินบนภูเขาโมอิวะก็ว่าได้ สำหรับระฆังแห่งความสุข (Shiawase no kane) ที่คู่รักจะต้องมาถ่ายรูปและตีระฆังนี้(ให้คนโสดอิจฉาตาร้อน) โดยมีความเชื่อว่าคู่ไหนมาตีระฆังนี้จะครองรักกันได้ยาวนาน รวมถึงมีความสุขในการใช้ชีวิตคู่ด้วยล่ะ แต่เขาก็ไม่ได้ห้ามคนโสดตีนะ ไม่แน่ตีแล้วอาจจะได้คู่กับเขาบ้างก็ได้ใครจะรู้
2. คล้องกุญแจแห่งความรัก (Ai no nankinjo)
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะบนจุดชมวิวของ Mount Moiwa ยังมีจุดคล้องกุญแจแห่งความรัก (Ai no nankinjo) ที่ว่ากันว่าหากคู่รักเขียนชื่อของตัวเองลงไปคู่กันบนกุญแจแล้วคล้องเอาไว้บนราวความรักก็จะมั่นคง ไม่มีวันพรากจากกัน โดยมีทั้งคู่ที่ใส่ลูกกุญแจเอาไว้ด้วยและโยนลูกกุญแจทิ้ง เรียกว่าใครเชื่อแบบไหนก็ตามสะดวกเลย ซึ่งถ้าใครไม่ได้เตรียมไปที่ Moiwa Midway เขาก็มีขายในราคา 1,000 เยนครับ
3. กิจกรรม Snow Cruising ที่ Sapporo Mt. Moiwa Ski Resort
หนึ่งในไฮไลท์เมื่อมาเยือนเมืองนี้ที่ต้องไม่พลาดคือกิจกรรม Snow Cruising ที่ลานสกีภูเขาโมอิวะ ซัปโปโร ซึ่งห่างจากตัวเมืองซัปโปโรเพียง 20 นาที โดยที่นี่มีทั้งหมด 10 คอร์ส รองรับตั้งแต่ระดับพื้นฐาน ระดับกลาง และผู้เล่นระดับมืออาชีพ ซึ่งความแตกต่างของลานสกีที่นี่กับที่อื่นก็คือ สามารถมองเห็นวิวเมืองซัปโปโรได้ชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน รวมถึงมีพื้นที่ให้เด็กๆ ได้สนุกกับการเล่นหิมะรวมถึงมีร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกเอาไว้รองรับนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน
พิกัด Sapporo Mt. Moiwa Ski Resort
ที่อยู่ | Moiwashita 1991, Minami-ku, Sapporo-shi |
วิธีเดินทาง | สามารถขึ้นรถบัสจากสถานี Sapporo มาลงที่ลานสกีได้โดยตรง |
เวลาทำการ | ช่วงกลางเดือนธันวาคมถึงปลายเดือนมีนาคมของทุกปี ไม่มีวันหยุด |
ราคา | ตั๋วลิฟท์ผู้ใหญ่ 400 เยน/รอบ, เด็ก 300 เยนต่อรอบ ตั๋วลิฟท์ผู้ใหญ่ 4,000 เยน/12 รอบ, เด็ก 3,000 เยน/ 12 รอบ ค่าเช่าอุปกรณ์ขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของอุปกรณ์ |
Website | https://www.sapporo.travel/th/spot/facility/sapporo_moiwayama_ski_area/ |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง Mount Moiwa
1. ย่านซูซิกิโนะ(Susukino)
ไม่ไกลจาก Mount Moiwa คือย่านเศรษฐกิจซูซิกิโนะ (Susukino) แหล่งรวมสถานบันเทิงที่เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดทางภาคเหนือของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นผับ บาร์ ร้านอาหารระดับต่างๆ ที่พัก ห้างสรรพสินค้า แหล่งช้อปปิ้งทั้งใต้ดินและบนดิน สวรรค์ของนักท่องราตรีทั้งใน Sapporo และผู้มาเยือนจากต่างถิ่น เรียกว่าเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหลแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยล่ะ หลังจากชื่นชมความงามบนยอดเขาแล้วที่นี่เป็นอีกแห่งที่ไม่ควรพลาด
อ่านบทความต่อที่นี่
Susukino ย่านที่ไม่เคยหลับไหลแห่งเมือง Sapporo
ย่านแห่งนี้มีทั้งห้างสรรพสินค้า ถนนช็อปปิ้งทั้งบนดิน และใต้ดิน รวมถึงร้านอาหารมากมาย
พิกัด ย่านซูซิกิโนะ (Susukino)
ที่อยู่ | 064-0804 Hokkaido Sapporo City Chuo Ward South 4 West 4-1 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Odori นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Susukino ค่าโดยสาร 200 เยน |
เวลาทำการ | ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน |
ราคา | ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน |
Website | – |
2. สวนดอกลาเวนเดอร์ โฮโรมิโตเกะ (Horomitoge Lavender Garden)
ใครที่เคยฝันเอาไว้ว่าอยากยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์ สวนดอกลาเวนเดอร์ โฮโรมิโตเกะ (Horomitoge Lavender Garden) คือที่ที่คุณกำลังมองหาเมื่อมาเที่ยวซัปโปโร ซึ่งเราแนะนำว่าควรไปในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม เพราะดอกลาเวนเดอร์กำลังบานสะพรั่ง ทั่วทั้งเนินเขาเต็มไปด้วยสีม่วงและกลิ่นหอมของดอกไม้นี้ที่มีมากกว่า 5,000 ต้น โดยนอกจากต้นและดอกแล้วยังมีการสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยเอาไว้จำหน่ายเป็นที่ระลึกอีกด้วย
พิกัด Horomitoge Lavender Garden
ที่อยู่ | 471-110 Bankei, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 064-0945 |
วิธีเดินทาง | จากซับโปโรขึ้นรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี Odori ต่อด้วยรถไฟสาย Subway Tozai ไปลงที่สถานี Maruyamakoen ก่อนจะต่อระแท็กซี่เดินทางไปยังสวนใช้เวลาราว 10-15 นาที |
เวลาทำการ | แบ่งเป็น 2 ช่วงคือ 10:00-17:00 น. และ 18:00-01:30 น. |
ราคา | ช่วงเช้า 300 เยน ช่วงค่ำ 500 เยน |
Website | – |
3. สวนชิโรอิโคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park)
สำหรับใครที่มาท่องเที่ยวกันแบบครอบครัวเราขอแนะนำสวนชิโรอิโคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park) โรงงานผลิตขนมชื่อดังของ Sapporo ที่มีการออกแบบและตกแต่งให้เป็นสวนสนุกที่มีความสดใส พร้อมด้วยอาคารสไตล์คลาสสิก และต้นไม้ดอกไม้นานาชนิด ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือการเข้าชมการผลิตและชิมช็อกโกแลต, ขนมชิโรอิ, โคอิบิโตะ บอกเลยว่าใครพาลูกเที่ยวต้องมาที่นี่
นอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาว จะมีการจัดแสดงไฟ แสง สี เสียง รวมถึงการเนรมิตดินแดนขนมสุดหรรษา ทั้งต้นคริสต์มาส รูปปั้น โมเดลขนม ส่วนในฤดูร้อนก็จะตกแต่งในธีมสวนกุหลาบสไตล์อังกฤษมากกว่า 200 สายพันธุ์ ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปกันอีกด้วย
อ่านบทความต่อ
พาเที่ยว โรงงานช็อกโกแลตฮอกไกโด ทำเวิร์กช็อปแสนหวานที่ Shiroi koibito park
พาไปรู้จัก โรงงานช็อกโกแลตฮอกไกโด Shiroi koibito park ไปเยือนบ้านเกิดคุกกี้ของฝากชื่อดัง
พิกัด สวนชิโรอิโคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park)
ที่อยู่ | Miyanosawa 2-2-11-36, Nishi, Sapporo, Hokkaido 063-0052 |
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถบัสสาย 42 จากสถานี Inazumikoen ลงที่ป้าย Hassamu จากนั้นใช้เวลาเดินต่อราว 20 นาที |
เวลาทำการ | 10.00 – 17.00 น. (ขึ้นอยู่กับร้านค้า) |
ราคา | ขึ้นอยู่กับร้านหรือพื้นที่ |
Website | https://www.shiroikoibitopark.jp/th/ |
4. พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)
สำหรับคอเบียร์ พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum) คือที่ที่คุณน่าจะสนใจเป็นอันดับแรกๆ เมื่อมาเที่ยวซัปโปโร ซึ่งที่นี่ต้องบอกว่าแค่เห็นภายนอกก็น่าประทับใจแล้วกับอาคารรูปทรงและสีสันดูคลาสสิกมีสไตล์ที่ผ่านกาลเวลามาหลายยุคสมัย ถึงกับได้รับการยกย่องให้เป็นอาคารอันทรงคุณค่าในยุคเมจิของฮอกไกโดอีกด้วยล่ะ
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร เป็นที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ ในแต่ละยุคของการผลิตเบียร์ มีการรรวบรวมเครื่องไม้เครื่องผู้ที่ใช้ ภาพถ่าย โปสเตอร์โฆษณา โลโก้เบียร์ โดยมีไกด์คอยเล่าประวัติความเป็นมาตลอดการเยี่ยมชม ปิดท้ายด้วยการซื้อของที่ระลึกเพื่อยืนยันว่าคุณคือคอเบียร์ตัวจริง
อ่านบทความต่อที่นี่
จิบเบียร์สดระดับตำนาน ลิ้มรสเนื้อย่าง เจงกีสข่าน ที่ Sapporo Beer Museum
พิพิธภัณฑ์ เบียร์ ซัปโปโร ที่ต้องถูกใจคอเบียร์ชาวไทยกันอย่างแน่นอน
พิกัด Sapporo Beer Museum
ที่อยู่ | 9-1-1, Kita 7 Johigashi, Higashi, Sapporo, Hokkaido 065-8633 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย JR Hakodate จากสถานี Shiroishi ไปลงที่สถานี Naebo จากนั้นเดินต่ออีกราว 13 นาที |
เวลาทำการ | 11.30 – 16.30 น. |
ราคา | นักเรียนประถมหรือต่ำกว่านั้น ฟรี, นักเรียนมัธยมต้น (ถึงอายุ 20 ปี) 300 เยน, ผู้ใหญ่ 500 เยน |
Website | https://www.sapporobeer.jp/brewery/s_museum/ |
5. ศาลเจ้าฮอกไกโด จิงกู (Hokkaido-jingu Shrine)
สำหรับสายบุญอิ่มตาแล้วก็ต้องอิ่มใจ ด้วยการเที่ยวต่อที่ศาลเจ้าฮอกไกโด จิงกู (Hokkaido-jingu Shrine) ซึ่งอยู่บริเวณสวน Maruyama ของเมืองซัปโปโร เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโต อายุกว่า 150 ปี ที่ประดิษฐานเทพเจ้า 4 องค์ ที่ชาวฮอกไกโดนับถือ ทำให้ในโอกาสพิเศษหรือวนสำคัญต่างๆ จะมีผู้คนมากมายมาสักการะ
โดยอาคารหลักนั้นถูกสร้างขึ้นมาใหม่หลังจากถูกไฟไหม้ในปี ค.ศ.1974 ที่นี่ยังเป็นจุดชมดอกซากุระที่ปลูกเอาไว้มากกว่า 1,500 ต้น และเป็นที่จัดงานเทศกาลต่างๆ อีกด้วย เช่น เทศกาล Sapporo Matsuri เป็นช่วงเวลาที่คึกคักและคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ
พิกัด Hokkaido-jingu Shrine
ที่อยู่ | 474 Miyagaoka, Chuo-ku, Sapporo-shi |
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟสาย Subway Tozai แล้วลงที่สถานี Maruyamakoen จากนั้นเดินต่อราว 15 นาที |
เวลาทำการ | 9:00-17:00 น. ไม่มีวันหยุด |
ราคา | เข้าชมฟรี แต่อาจมีค่าใช้จ่ายสำหรับพิธีกรรมพิเศษบางอย่าง |
Website | http://www.hokkaidojingu.or.jp/ |
สรุป
ผ่านไปแล้วกับการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของเมือง Sapporo อย่าง Mount Moiwa (ภูเขาโมอิวะ) กิจกรรมที่มีให้ทำอย่างหลากหลาย รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ซึ่งแต่ละที่นั้นมีให้ครบทั้งความท้าทาย ความสนุกสนาน ความสวยงาม ความรู้ทางประวัติศาสตร์ รวมถึงศาลเจ้าที่ชาวฮอกไกโดถือว่าเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจ หวังว่าจะช่วยให้เพื่อนๆ ที่กำลังวางแผนไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นมีข้อมูลเบื้องต้นในการเตรียมตัว เอาไว้ครั้งหน้าเรายังคงมีสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจมาฝากันเช่นเดิม ส่วนจะเป็นที่ไหนนั้นรอติดตามกันได้เลยครับ