Nezu Shrine ขอพรเรื่องความรัก ชมดอกซึซึจิ ถ่ายรูปชิคชิคกับเสาโทริอิ จบครบทุกเรื่องได้ที่ศาลเจ้าเนซุ แห่งกรุงโตเกียว

มารู้จัก “ศาลเจ้าเนซุ (Nezu Shrine)” กันสักนิด

ศาลเจ้าเนซุ (Nezu Shrine) ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในศาลเจ้าทางศาสนาชินโตที่เก่าแก่และสำคัญในโตเกียว มีประวัติยาวนานกว่า 1,900 ปีเลยทีเดียว ศาลเจ้าเนซุแห่งนี้มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และเป็นที่รู้จักด้วยอาคารสไตล์กงกูซึกุริ (Gongen-zukuri) ซึ่งเป็นรูปแบบการก่อสร้างที่แปลกตาและมีเอกลักษณ์

แต่ถ้าเพื่อน ๆ ไปดูศาลเจ้าสถานที่จริงกันมาแล้ว ก็คงจะรู้สึกว่ามันไม่น่าจะเก่าแก่เป็นพันปีขนาดนั้น นั่นก็เพราะว่าศาลเจ้าเนซุได้รับการก่อสร้างขึ้นใหม่ในปี 1705 ภายใต้การสนับสนุนของ โทคุกาวะ ซึนาโยชิ (Tokugawa Tsunayoshi) ซึ่งเป็นโชกุนแห่งราชวงศ์โทคุกาวะนั่นเอง

บริเวณด้านหน้าของศาลเจ้า เราก็จะเจอกับ “Romon” หรือประตูสองชั้นประจำศาลเจ้าของศาสนาชินโต ที่มีสถาปัตยกรรมสุดสวยงามจากยุคสมัยเอโดะ

เข้ามาบริเวณด้านในศาลเจ้า เราก็จะเจอกับ “Honden” หรืออาคารที่สำคัญที่สุดของศาลเจ้าศาสนาชินโต โดยจะเป็นที่ตั้งของ “คามิ” หรือเทพเจ้า ตามความเชื่อของชินโต โดยปกติแล้ว ส่วนของ Honden จะไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าไปในพื้นที่ภายใน อย่างที่เพื่อน ๆ เห็นว่าจะมีประตูสีดำปิดไว้อยู่นั่นเอง

หากเพื่อน ๆ คิดว่าศาลเจ้าแห่งนี้น่าจะเป็นศาลเจ้าเล็ก ๆ แล้วละก็… เราขอนำภาพแผนที่ของตัวศาลเจ้าและบริเวณรอบ ๆ มาให้ชมกัน (ว่าไม่เล็กนะคร้าบ)

สำหรับไฮไลท์ที่น่าสนใจ

แวะชมความงามของสวนดอกไม้ซึซึจิ (Nezu Shrine Azalea Garden)

ดอกอาซาเลีย (Azalea) หรือที่เรียกว่าดอกซึซึจิ (Tsutsuji / つつじ) ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถพบดอกซึซึจิได้มากถึง 100 สายพันธุ์เลยทีเดียว ! ในส่วนของสวนดอกไม้ซึซึจิแห่งนี้ เพื่อน ๆ จะต้องเสียค่าเข้าชมอยู่ที่ 200 เยนต่อคน

โดยช่วงเวลาที่แนะนำสำหรับการชมดอกซึซึจิจะอยู่ประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคม หรือหากเพื่อน ๆ ต้องการมาชมเทศกาลดอกไม้ซึซึจิ “Bunkyo Azalea Festival (Bunkyo Tsutsuji Matsuri / 文京つつじまつり)” ก็จะเป็นในช่วงกลางเดือนเมษายนของทุก ๆ ปี ต้องติดตามอัปเดตบนหน้าเว็บไซต์ของศาลเจ้า

ช่วงเวลาชมดอกซากุระ

ที่ศาลเจ้าเนซุแห่งนี้ ไม่ได้มีแค่ความงามจากดอกซึซึจิ หากแต่ว่าเพื่อน ๆ ยังสามารถเก็บภาพความงามของต้นซากุระได้อีกด้วยนะ โดยช่วงเวลาที่เราแนะนำจะเป็นช่วงเดียวกันคือ ต้นเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม

ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี อีกหนึ่งความงามที่ไม่ควรพลาด

เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนที่ไปแเที่ยวญี่ปุ่นบ่อย ๆ อาจจะชินตากับภาพของดอกไม้ที่มีสีสดสวยงาม หากแต่ว่าที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ยังมีความงามของใบไม้เปลี่ยนสีให้เราได้รับชมกันอีกด้วย โดยช่วงเวลาที่แนะนำจะเป็นช่วงกลางเดือนตุลาคม – ต้นเดือนธันวาคม

เสาโทริอิ

ประตูเสาโทริอิหรือซุ้มประตูแบบญี่ปุ่น ตั้งไว้เพื่อให้ผู้คนได้รับรู้ว่าอาณาเขตเบื้องหลังเสาโทริอินี้เป็นอาณาเขตของเทพเจ้า สำหรับขนาดของซุ้มเสาโทริอิแล้ว หากให้เราเทียบกับศาลเจ้า Fushimi Inari ของเกียวโตที่เรามักจะคุ้นตากัน ซุ้มเสาของที่ศาลเจ้าเนซุจะมีขนาดที่เล็กกว่านิดหน่อย รวมไปถึงขนาดและจำนวนที่อาจจะไม่ได้มีมากเท่ากับศาลเจ้า Fushimi Inari 

อีกหนึ่งไฮไลท์คือ หากเพื่อน ๆ เดินลอดซุ้มเสาโทริอิไปจนถึงตรงกลางก็จะพบกับศาลเจ้า Otome Inari หรือศาลเจ้าที่มีฉายาว่า “ศาลเจ้าแห่งความรัก” ที่เหล่าวัยรุ่นชาวญี่ปุ่นจะนิยมมาไหว้ขอพรในเรื่องของความรัก ขอให้พบคู่และขอให้ได้ใช้ชีวิตกับคนรักที่ยืนยาว

ห้ามพลาดชิม “WAGURIYA TOKYO” ร้านดังใกล้ศาลเจ้าเนซุ

อาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในร้านขนมหวานที่ห้ามพลาดประจำศาลเจ้าแห่งนี้ โดยขนมทุกชิ้นล้วนทำมาจาก “คุริ” หรือ “เกาลัด” ชื่อดังขอกรุงโตเกียว จุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาลิ้มลองก็คือเมนู ขนมมองบลังค์ญี่ปุ่นในสไตล์ “วะกะชิ” และขนมหวานอื่น ๆ ที่ล้วนแล้วแต่จะใช้แค่เกาลัดและไม่ปรุงแต่งส่วนผสมอื่นเลย

พิกัด ศาลเจ้าเนซุ (Nezu Shrine)

ที่อยู่	1 Chome-28-9 Nezu, Bunkyo City, Tokyo 113-0031
วิธีเดินทาง	นั่งรถไฟสายสีเขียว (Yamanote Line) มาที่สถานี Nishi-Nipporiแล้วต่อด้วย Chiyoda Line มาลงที่ศาลเจ้า Nezu
เวลาทำการ	เปิดทุกวัน 05.00 – 18.00 น.
ราคา	บริเวณศาลเจ้า เข้าชมฟรี
Website	ศาลเจ้าเนซุ (Nezu Shrine)

ดูแผนที่ ศาลเจ้าเนซุ (Nezu Shrine)

วิธีการเดินทาง

วิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดเราขอแนะนำให้ใช้รถไฟ โดยสามารถเดินทางมาได้ด้วยรถไฟสายสีเขียว (Yamanote Line) และ รถไฟสายสีฟ้า (Keihin-Tōhoku Line) มาลงที่สถานี Nishi-Nippori แล้วเปลี่ยนสายรถไฟด้วย Chiyoda Line มาลงที่ศาลเจ้า Nezu Station ซึ่งเดินขึ้นมาก็จะตรงกับทางเข้าศาลเจ้าเนซุพอดี

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

1. วัดชิโนะบะสุโนะอิเคะ เบนเทนโด

วัดเบนเทนโดะแห่งนี้ ตั้งอยู่ในย่านอุเอโนะของเมืองโตเกียว ที่จะมีไฮไลท์เด่นๆอยู่ตรงจะมีอาคารที่มีสถาปัตยกรรมทรง 8 เหลี่ยมตั้งอยู่บนเกาะกลางบ่อน้ำชิโนบาสุ (Shinobazu Pond) ซึ่งเจดีย์ที่ตั้งอยู่ตรงนี้เป็นส่วนจำลองรูปแบบวัดกลางน้ำมาจาก วัดโฮกนจิ แห่งเกาะจิคุบุชิมะ

พิกัด วัดชิโนะบะสุโนะอิเคะ เบนเทนโด

ที่อยู่	2-1 Uenokoen, Taito City, Tokyo 110-0007
วิธีเดินทาง	สามารถเดินทางด้วยรถไฟสายสีฟ้า (Keihin-Tōhoku Line) มาลงที่สถานี Ueno Station แล้วเดินไปอีกประมาณ 600 เมตร
เวลาทำการ	เปิดทุกวัน 9.00-17.00 น.
ราคา	ฟรี
Website	วัดชิโนะบะสุโนะอิเคะ เบนเทนโด

ดูแผนที่ วัดชิโนะบะสุโนะอิเคะ เบนเทนโด

2. Ueno Park

สวนอุเอโนะ (Ueno Park/上野公園) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า อูเอโนอนชิโกเอ็ง (Ueno Onshi Koen/上野恩賜公園) ที่แปลว่าสวนอุเอโนะของขวัญจากจักพรรดิเพราะสร้างขึ้นบนที่ดินของจักรพรรดิ เปิดทำการครั้งแรกในปี ค.ศ.1897 จึงนับเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกที่มีการขึ้นทะเบียน และมีความเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น

พิกัด Ueno Park

ที่อยู่	Ikenohata 3, Uenokoen, Taito, Tokyo 110-0007
วิธีเดินทาง	สามารถเดินทางด้วยรถไฟสายสีฟ้า (Keihin-Tōhoku Line) มาลงที่สถานี Ueno Station
เวลาทำการ	เปิดทุกวัน 05.00-23.00 น.
ราคา	ฟรี
Website	Ueno Park

ดูแผนที่ Ueno Park

3. พิพิธภัณฑ์ศิลปะมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan Art Museum)

ความงดงามของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็ไม่ได้มาจากงานศิลปะอย่างเดียวเท่านั้น เพราะทั้งภายนอกและภายในอาคารอาคารก็มีความงดงามและถูกออกแบบมาอย่างดีด้วยดีไซน์ที่สวยงาม ใครที่ชอบงานศิลปะนั้น Ueno museum แห่งนี้ไม่ควรพลาดชม ภายในสวนอุเอโนะนี้คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะมหานครโตเกียวที่มีการจัดแสดงผลงานศิลปะอยู่ภายในเกือบ 300 นิทรรศการ โดยเปิดให้บริการครั้งแรกในปี ค.ศ. 1926

พิกัด Tokyo Metropolitan Art Museum

ที่อยู่	8-36 Ueno-Koen, Taito-ku, Tokyo 110-0007
วิธีเดินทาง	ขึ้นรถไฟสาย Ginza Line มาลงที่สถานี Ueno แล้วเดินต่ออีก 11 นาที
เวลาทำการ	9.00-17.30 น. เฉพาะวันศุกร์ 9.30-20.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์ที่ 1 และ 3 ของเดือน)
ราคา	ฟรีค่าเข้า ราคาค่าเข้าชมขึ้นอยู่กับงานนิทรรศการ
Website	Tokyo Metropolitan Art Museum

ดูแผนที่ Tokyo Metropolitan Art Museum

สรุป

ในเรื่องของความคุ้มค่าในการมาเยี่ยมชมศาลเจ้าเนซุแห่งนี้ ส่วนตัวเราค่อนข้างประทับใจมากกว่าที่คาดหวังเอาไว้ อาจเพราะไปในช่วงฤดูกาลดอกไม้ซึซึจิพอดี รวมถึงบรรยากาศที่เงียบสงบ ผู้คนที่ไม่พลุกพล่าน ก็พอทำให้เราได้รู้สึกผ่อนคลายจิตใจอยู่ไม่น้อย  และถึงแม้ว่าเพื่อน ๆ จะไม่ได้ไปตรงกับช่วงเทศกาลดอกไม้ แต่ศาลเจ้าแห่งนี้ก็ยังเหมาะกับการแวะมาเยี่ยมชม ขอพรด้านความรัก และเดินเล่นในบริเวณใกล้เคียงก็มีอาหารอร่อย ๆ ให้กินกันเพลิน ๆ รับรองว่าไม่ผิดหวังอีกเช่นกัน