Kobe Nunobiki Herb Gardens & Ropeway
Kobe Nunobiki Herb Gardens & Ropeway คือสวนสมุนไพรอันสวยงามที่ภูเขา Rokko สวนสมุนไพรแห่งนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและภายในมีสมุนไพรมากถึง 75,000 พันธุ์ รวมไปถึงดอกไม้กว่า 200 พันธุ์ ให้ชมตลอดทั้งปี ซึ่งสมุนไพรและดอกไม้ภายในสวนจะถูกจัดเปลี่ยนไปตามธีมต่าง ๆ บนพื้นที่ของสวนแห่งนี้
โดยผู้ที่เดินทางเข้าไปเยี่ยมชมอย่างเราจะมีโอกาสได้เห็นดอกไม้ชนิดต่าง ๆ บานตามฤดูกาลตลอดทั้งปี และแต่ละฤดูก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันไป เที่ยวชมได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและไม่ควรพลาดโอกาสไปเยือนเมื่อมาถึงเมืองโกเบ ทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากสถานี JR Shin-Kobe หรือสถานี Shikansen ด้วย
การขึ้น Kobe Nunobiki Ropeway ไปยังสวนสมุนไพร
การเดินทางขึ้นไปชมความงดงามภายในสวนสมุนไพรแห่งนี้นั้นจะต้องขึ้นกระเช้าไฟฟ้าพาเราขึ้นไปยังสวนแสนสวยที่อยู่บนภูเขา โดยกระเช้าไฟฟ้าที่ว่านี้มีชื่อว่า Kobe Nunobiki Ropeway ซึ่งขึ้นได้ที่สถานี Harb en san roku อันเป็นสถานีแรกของการเริ่มต้นเดินทางขึ้นไปชมสวน
โดยเราสามารถเดินทางมาสถานีขึ้นกระเช้า Kobe Nunobiki Ropeway ได้โดย นั่ง City Loop Bus แล้วลงที่ป้ายหมายเลข 11 หรือนั่งรถไฟสาย JR Shin-Kobe หรือ Kobe Municipal Subway ลงที่สถานี Shin-Kobe แล้วเดินต่อไปยังสถานีขึ้นรถกระเช้า จะใช้เวลาประมาณ 5 นาที
จากนั้นกระเช้าไฟฟ้าจะพาเราเดินทางไปยังสวนโดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ระหว่างทางเราจะได้เห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองโกเบ พร้อมความงดงามของธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นน้ำตก Nunobiki no Taki ที่มีความสวยติดอันดับ 1 ใน 100 น้ำตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น และ Gohonmatsu Entei เขื่อนคอนกรีตอันเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของโกเบ และความสวยงามของทัศนียภาพระหว่างทางนี้แหละที่จะทำให้เวลาในการเดินทางด้วยกระเช้าไฟฟ้า 10 นาทีนั้นสนุกสนาน
เที่ยวชมสวนสมุนไพร Kobe Nunobiki Herb Gardens & Ropeway
เมื่อกระเช้าไฟฟ้าพาเราเดินทางมาถึงสถานีปลายทางอย่าง Herb Gardens Top Station ก็เป็นอันถึงเวลาที่เราจะลงไปเดินเล่นชมดอกไม้น่ารัก ๆ ในสวนสมุนไพรที่กว้างใหญ่ แนะนำให้เดินชมวิวดอกไม้บริเวณนี้พร้อมกับมองดูความสวยงามของประกายสีฟ้าระยิบระยับจากอ่าวโกเบที่อยู่เบื้องล่างไปด้วย รับรองโรแมนติกสุด ๆ
การเดินเล่นภายในสวนสมุนไพรแห่งนี้จะรายล้อมเราไปด้วยดอกไม้แสนสวยและสมุนไพรหลากชนิดที่ส่งกลิ่นหอมรื่นรมย์ให้เราเพลิดเพลนทั้งกับความหอมและสีสันอันสวยงามของเหล่าดอกไม้ที่เบ่งบานตามฤดูกาล แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรานั้นสามารถไปดูดอกไม้ชนิดต่างๆ ได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น
- ช่วงเดือนเมษายน : ชมความงามของดอกซากุระที่เบ่งบานบนภูเขา
- ช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน : ชมความงามของดอกกุหลาบ
- ช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม : ชมความงามของดอกลาเวนเดอร์
- ช่วงเดือนสิงหาคม : ชมความงามของดอกลิลลี่
- ช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน : ชมความงามของดอกกุหลาบ
- ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม : ชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง
นอกจากความสวยงามของดอกไม้แล้วยังมีร้านอาหารและร้านกาแฟมากมายเปิดให้บริการ โดยร้านอาหารและร้านกาแฟเหล่านี้ยังมีเมนูที่ใช้สมุนไพรตามฤดูกาลมาเป็นวัตถุดิบในการปรุงแต่ง เราจึงจะได้ลิ้มรสทั้งความอร่อยของรสชาติอาหารสูตรพิเศษและเพลิดเพลินในบรรยากาศที่สวยงามของสวนแห่งนี้
Mint Cafe พร้อมเสิร์ฟอาหารอร่อย
สำหรับร้านอาหารที่เราอยากจะแนะนำให้ลองไปชิมเมื่อมาถึงสวนสมุนไพรแห่งนี้ก็คือร้าน Mint Cafe
ร้านคาเฟ่สุดน่ารักอย่าง Mint Cafe แห่งนี้เปิดให้บริการอยู่ภายในสวนสมุนไพรที่สวยงาม
สำหรับเมนูของร้านจะมีทั้งชาสมุนไพรกลิ่นหอมหวาน เมนูแนะนำอย่าง Nunobiki Herb Burger ราคา 750 เยน ที่มีส่วนผสมของสมุนไพร และเมนูของหวานน่าอร่อยอย่างแพนเค้กชิ้นหนานุ่มกินกับเบอร์รี่ชนิดต่าง ๆ ราดค้วยน้ำเชื่อมและวิปครีม
หากมาเที่ยวที่สวนสมุนไพรแห่งนี้ก็ลองแวะมาชิมกันดูได้ ร้านเปิดทำการเวลา10.30-16.00 น. นอกจากนี้ภายในสวนยังมีส่วนที่น่าสนใจอีกหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น
Mori no Hall พื้นที่ Acoustic chamber สำหรับจัดแสดงคอนเสิร์ต และ Fragrance Museum พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงน้ำหอม
Glasshouse เรือนกระจกที่เปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปี โดยจะมีดอกไม้สวย ๆ และพืชเมืองร้อนให้ชม
Herbal Footbath พื้นที่สำหรับสปาเท้าในน้ำที่มีผสมสมุนไพรลงไปในน้ำ โดยจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นยิ่งขึ้น
View Rest House พื้นที่รวมร้านรับประทานอาหารและร้านขายของน่ารัก ๆ ซึ่งหอมอบอวลไปด้วยอโรม่าสมุนไพรที่ช่วยให้ผ่อนคลาย
เมื่อเที่ยวกันจนเพลินและเดินกับจนครบแล้ว สำหรับขากลับเราขอแนะนำให้เลือกเดินผ่านสวนที่มีชื่อว่า Four Seasons Garden และ the Oriental Garden ชมความสวยงามของเหล่าดอกไม้นานาชนิด ก่อนที่จะเดินไปยังบริเวณสถานีกระเช้าไฟฟ้าส่วนกลาง (Ropeway ของที่นี่จะมี 3 สถานีคือ Sanroku Station (สถานีต้น) Chukan Station (สถานีกลาง) Sansho Station (สถานีปลาย) และถ้าหากใครอยากสัมผัสบรรยากาศและความสดชื่นจากธรรมชาติอย่างเต็มที่ก็สามารถเลือกเดินเท้าตามเส้นทางลงเขาไปได้ด้วยเช่นกัน
Kobe Nunobiki Herb Gardens & Ropeway
ที่อยู่ | 1-4-3 Kitanocho, Chuo-ku, Kobe City, Hyogo Prefecture Japan 650-0002 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Shin-Kobe แล้วเดินต่อไปยัง Kobe Nunobiki Herb Gardens & Ropeway ประมาณ 5 นาที หรือนั่ง City Loop Bus ลงที่ป้ายหมายเลข 11 (Kobe Nunobiki Herb Gardens & Ropeway) |
เวลาทำการ | 20 มีนาคม-19 กรกฎาคมและ 1 กันยายน-30 พฤศจิกายน จันทร์ถึงศุกร์เปิดเวลา 10.00-17.00 น. เสาร์อาทิตย์และวันหยุด 10.00-20.30 น. 20 กรกฎาคม-31สิงหาคม เปิดเวลา 10.00-20.30 น. และ 1 ธันวาคม-19 มีนาคม เปิดเวลา 10.00-17.00 น. |
ราคา | (รวมค่าขึ้น Kobe Ropeway) ช่วงกลางวัน แบบไป-กลับ ผู้ใหญ่ราคา 1,400 เยน, เด็ก 700 เยน และแบบเที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ราคา 900 เยน เด็ก 450 เยน ช่วงกลางคืน (หลัง 17.00 น.) แบบไป-กลับ ผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็ก 500 เยน |
โทรศัพท์ | 078-271-1160 |
Website | Kobe Nunobiki Herb Gardens & Ropeway |
ข้อสรุป
แวะเวียนมาเที่ยวยังสวนสมุนไพรแห่งนี้กันได้เสมอ เพราะที่นี่มีดอกไม้สวย ๆ นานาชนิดที่ผลัดกันเบ่งบานให้เราได้ชมตลอดทั้งปี พร้อมด้วยบรรยากาศดี ๆ และกลิ่นหอม ๆ ของสมุนไพรและเหล่าดอกไม้ที่เดินเที่ยวเล่นแล้วจะสดชื่นไปตลอดทั้งวัน
KOBE Free WiFi
สะดวกใช้ง่าย ครอบคลุมทั่วถึง 3,000 จุดเชื่อมต่อสัญญาณ เที่ยวเพลินมีเน็ตใช้สูงสุดทริป 7 วัน อัพเดทโซเชียลและข้อมูลการท่องเที่ยวได้สบายๆ สิทธิพิเศษนี้มอบให้แด่นักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคน เพียงแค่โชว์พาสปอร์ตที่เคาน์เตอร์บริการนักท่องเที่ยวของเมืองโกเบ(Tourist infomation center) ซึ่งมีให้บริการอยู่ถึง 3 จุด แล้วก็รับรหัส WiFi Free ไปเลย จากนั้นก็นำมาล็อกอิน WiFi ที่ชื่อว่า ‘Wi2’ หรือ ‘Wi2 premium’ ผ่านสมาร์ทโฟนได้เลย
City Loop
เดินทางท่องเที่ยวในเมืองโกเบด้วย รถบัส City Loop ที่สามารถโดยสารไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตได้รอบเมืองทั้ง 17 จุดรับส่ง ในราคา ผู้ใหญ่เที่ยวละ 260 เยน (เด็กเที่ยวละ 130 เยน) ตลอดสาย แถมมีราคาเหมาจ่ายให้เที่ยวกันอย่างประหยัดในราคา ผู้ใหญ่ 660 เยน (เด็ก 330 เยน) นั่งได้ไม่จำกัดเที่ยวตลอด 1 วัน
BAY SHUTTLE
บริการรับ-ส่งในการเดินทางระหว่างสนามบินคันไซและสนามบินโกเบเพียง 30 นาที ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงกลางคืน ในราคา ไป-กลับ ผู้ใหญ่ 3,000 เยน เด็ก (6-12 ปี) 1,500 เยน และ แบบเที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 1,850 เยน เด็ก 930 เยน ซึ่งบริการทั้งหมดนี้มีพร้อมไว้สำหรับนักท่องเที่ยวทุกท่านเสมอ และยังมี Promotion สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ด้วยนะ เพียงแค่โชว์พาสปอร์ตตที่ Ticket counter ในสนามบินคันไซจะได้รับส่วนลดไปเลย 45%
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
14 พิกัดที่เที่ยวโกเบ ใกล้โอซาก้าเพียงครึ่งชั่วโมง
14 ที่เที่ยวทั่ว โกเบ (Kobe) เที่ยวเมืองท่า แห่ง โกเบวากิว แค่ครึ่งชั่วโมงจากโอซาก้า
เป็นอีกหนึ่งเมืองยอดนิยมที่ผู้คนต่างมาเที่ยว และสำหรับใครที่อยากรู้ข้อมูลที่เที่ยวต้องอ่านบทความนี้เลย เพราะมีบอกครบทุกข้อมูลที่ต้องรู้ก่อนการเดินทาง ให้เตรียมตัวให้พร้อม เที่ยวให้สนุก และกินของเด็ดประจำเมืองที่ไม่ควรพลาด ใครอยากรู้ข้อมูลด้านไหนอ่านเลย