เที่ยว Nagoya มาดูรถไฟแม่เหล็กสุดล้ำ ที่ SCMaglev and Railway Park

09/07/2024
ญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศที่มีระบบขนส่งแบบรางหรือเรียกง่ายๆว่ารถไฟที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความตรงต่อเวลา ความสะอาดของรถไฟ รวมถึงการบริการ และที่สำคัญคือรถไฟญี่ปุ่นนั้นพัฒนาให้ล้ำสมัยอยู่แทบจะตลอดเวลา

ทำให้ญี่ปุ่นได้มีการพัฒนารถไฟชนิดหนึ่งขึ้นมา เรียกกันว่า SCMAGLEV ซึ่งเป็นรถไฟความเร็วสูงที่ลอยเหนือรางแม่เหล็กโดยมีกำหนดการจะเปิดใช้จริงในปี ค.ศ. 2027 เส้นทางระหว่าง Nagoya - Tokyo ซึ่งจะลดเวลาการเดินทางจากเดิมได้มากเลยทีเดียว ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียง 40 นาทีเท่านั้น

ซึ่งที่เมือง Nagoya มีพิพิธภัณฑ์รถไฟที่ชื่อว่า SCMaglev and Railway Park ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราจะพูดถึงในบทความนี้กัน

โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้จัดแสดงเกี่ยวกับรถไฟต่างๆ รวมถึงเจ้ารถไฟ SCMaglev ด้วยเช่นกัน
เมื่อพร้อมแล้วก็ไปกันเลย

SCMaglev and Railway Park

ข้อมูลเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์

พิพิธภัณฑ์รถไฟ SCMaglev and Railway Park ตั้งอยู่ที่เมือง Nagoya ในจังหวัด Aichi สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 2011 โดยด้านในพิพิธภัณฑ์จะมีการจัดแสดงรถไฟตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีตู้รถไฟของจริง 39 ตู้มาให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน เท่านั้นไม่พอยังมีโซน Simulator ให้นักท่องเที่ยวมีประสบการณ์สัมผัสการขับรถไฟเสมือนของจริงด้วย รวมถึงห้องจำลองที่สร้างมาเพื่อให้คล้ายห้องโดยสารของรถไฟ SCMaglev ให้นักท่องเที่ยวได้ลองนั่งด้วย

และที่สำคัญพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังมีรถไฟที่มีความเร็วสถิติโลกจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวดูหลายขบวนเลยทีเดียว

ไฮไลท์ที่น่าสนใจที่ห้ามพลาดของ SCMaglev And Railway Park 

นิทรรศการรถจักไอน้ำ Kifujin และ Shirokuni

ที่มา https://museum.jr-central.co.jp/event/?240603

นิทรรศการนี้ถือว่าเป็นนิทรรศการใช้เวลาจัดแสดงยาวนาน เริ่มตั้งแต่ วันที่ 20 มีนาคม 2024 – 27 มกราคม 2025 เลยทีเดียว

เป็นนิทรรศการเกี่ยวกับรถจักรไอน้ำ C57 ที่เรียกกันว่า Kifujin และรถจักรไอน้ำ C62 ที่เรียกว่า Shirokuni เป็นนิทรรศการพิเศษที่พูดถึงการพัฒนาของรถจักรไอน้ำ รวมถึงประวัติตั้งแต่ญี่ปุ่นเริ่มใช้รถจักรไอน้ำ การกำเนิดรถจักรไอน้ำที่ใช้ภายในประเทศ กิจกรรมต่างๆ เป็นต้น

โดยนิทรรศการนี้จะจัดที่บริเวณชั้น 2 ของพิพิธภัณฑ์

นิทรรศการเทคโนโลยี ประวัติของที่นั่งบนรถไฟ

ที่มา https://museum.jr-central.co.jp/event/?240603

นิทรรศการนี้ก็เป็นนิทรรศการที่ใช้เวลาจัดนานอีกหนึ่งนิทรรศการ โดยจัดตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2024 – 12 พฤษภาคม 2025 

โดยเป็นนิทรรศการที่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติและคุณสมบัติของที่นั่งบนรถไฟชินคันเซนและรถไฟชนิดอื่นๆ 

สถานที่จัดนิทรรศการอยู่ที่ชั้น 1 

เรียนรู้ระบบการทำงานของรถไฟ

โซนนี้เป็นโซนที่ให้ความรู้เกี่ยวกับรถไฟชินคันเซน ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ การวิวัฒนาการของรถไฟชินคันเซน จนถึงชินคันเซนสมัยใหม่ รวมถึงให้ความรู้ด้านการรักษาความปลอดภัย ความเร็ว และความสะดวกสบายของรถไฟชินคันเซนชนิดที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าใจได้โดยง่าย 

โดยจะมีหัวข้อต่างๆที่น่าสนใจของโซนนี้ครับ เช่น “A day in the life of the Shinkansen” and “The Life of the Shinkansen” นอกนั้นยังมีหัวข้อเกี่ยวกับความปลอดภัย ความเร็ว ความสะดวกสบาย ตั๋ว และสิงแวดล้อม

ทดลองขับรถไฟที่โซน Conventional Train Driving Simulator & Train Crew Simulator

ที่มา https://museum.jr-central.co.jp/en/floormap/

โซนนี้ถือว่าเป็นโซนที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะเป็นโซนที่ให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองขับรถไฟผ่านระบบ Simulator โดยมีพื้นฐานมาจากรถไฟซีรีส์ 211 และ 313 โดยมีทั้งหมด 8 เครื่องแบ่งเป็น ซีรีส์ 211 4 เครื่อง และ 313 4 เครื่อง และยังมี Train Crew Simulator ให้ผู้ใช้ดูภาพบนหน้าจอขนาดยักษ์ในการเปิด ปิดประตูที่สถานี โดยต้องกดเปิดปิดหลังจากยืนยันความปลอดภัยแล้วโดยการใช้บริการ Simulator จะมีค่าใช้จ่ายต่างหากTrain Diving Simulator 100 เยน ต่อ 10 นาที/ครั้งTrain Crew Simulator 500 เยน ต่อ 15นาที/ครั้ง

Symbolic Rolling Stock Hall

โซนนี้เป็นโซนที่ต้องห้ามพลาดอีก 1 โซนครับ จะอยู่ใกล้ๆกับทางเข้า โดยโซนนี้เป็นโซนที่จัดแสดง รถไฟที่เป็นสัญลักษณ์ของรถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่น 3 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทเคยทำลายสถิติโลกมาแล้วทั้งสิ้น

ประเภทแรกคือ The Class C62 เป็นรถจักรไอน้ำที่มีขนาดใหญ่และเร็วที่สุดของญี่ปุ่น โดยทำสถิติโลกในปีค.ศ. 1954 ที่ความเร็ว 129 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ประเภทที่ 2 คือ Class 955 เป็นชินคันเซนรุ่นทดลอง (300X) โดยถูกบันทึกสถิติที่ความเร็ว 443 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในปี 1996 

ประเภทที่ 3 คือ MLX01-1 เป็นรถไฟ Maglev ที่ทำสถิติโลกในปีค.ศ. 2003 ด้วยความเร็ว 581 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Great Rolling Stock Hall

บริเวณนี้จะเป็นโถงขนาดใหญ่ที่มีขบวนรถไฟถึง 32 ตู้ให้ชมกัน โดยมีหัวเรือใหญ่ของ Tokaido Shinkansen อย่าง ซีรีส์0 ,100,300 และซีรีส์ 700 ซึ่งถือว่าทันสมัยมากในยุคนั้น ให้นักท่องเที่ยวได้เห็นของจริงและได้เห็นถึงพัฒนาการของ Tokaido Shinkansen 

เท่านั้นไม่พอยังมีรถไฟขบวนคลาสสิคอย่าง ED11, Moha 1 และ Moha 52 ถึงถือว่าเป็นรถไฟที่ถือว่าอยู่ในระดับแถวหน้าของญี่ปุ่นในยุคก่อนๆ

และยังมีขบวน Kuha 381 และ Khi 181 ซึ่งเป็นขบวนที่มีส่วนทำให้ระบบรางมีความทันสมัยกับเทคโนโลยีล่าสุดในสมัยก่อน

Relic Train Area

โซนนี้จะเป็นโซนที่จัดแสดงรถไฟที่มีความทรงคุณค่าและล้ำค่าในประวัคิศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีทั้งหมด 13 แบบ โดยมีการจัดแสดงรถไฟเช่น ชินคันเซน, รถรางไฟฟ้า, รถรางดีเซลและตู้โดยสาร และบนฝาผนังยังมีแบบนาฬิกาจำลองขนาดใหญ่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสถานี Nagoya 

รวมถึงมีรถไฟ Class Oya 31 เป็นรถไฟที่ตรวจจับสิ่งกีดขวางบนรางรถไฟ โดยติดตั้งเซ็นเซอร์รอบตัวรถไฟ

Superconducting Maglev Room

ที่มา https://museum.jr-central.co.jp/en/floormap/

โซนนี้จะถือว่าเป็นพระเอกของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็ไม่ผิดนัก โดยจะเป็นนิทรรศการที่ให้ความรู้เกี่ยวกลไกการทำงานและความปลอดภัยของรถไฟ Superconducting Maglev ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีระดับโลกและที่น่าภูมิใจของญี่ปุ่น

โดยในโรงภาพยนตร์นั้นจะออกแบบให้เหมือนห้องโดยสารของ Scmaglev ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถได้รับประสบการณ์การนั่ง Maglev บนสาย Yamanashi ผ่านภาพ CG

 มีนิทรรศการยังมีระบบตอบคำถามโดยการใช้ โมเดล และ CG อย่างเช่นคำถาม ทำไมรถไฟถึงลอยได้ เป็นต้น

การเดินทางมายัง SCMaglev and Railway Park

เดินทางโดยสถานีปลายทางรายละเอียดการเดินทาง
รถไฟสาย Aonami Kinjofutoนั่งรถไฟสาย Aonami มาลงสถานี Kinjofuto แล้วเดินต่ออีก 3 นาที

ตารางข้อมูล

SCMaglev and Railway Park

ที่อยู่3 Chome-2-2 Kinjofuto, Minato Ward, Nagoya, Aichi 455-0848
เวลาทำการเปิดตั้งแต่ 10.00 น. – 17.30 น. ปิดวันอังคาร
ราคาผู้ใหญ่ 1000 เยน เด็กนักเรียน 500 เยน เด็กเล็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป 200 เยน
WebsiteSCMaglev and Railway Park

ดูแผนที่ SCMaglev and Railway Park

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับ SCMaglev and Railway Park

Legoland Japan Resort

สวนสนุก Legoland เป็นสวนสนุกที่คนรัก Lego ห้ามพลาด โดยมีตัวต่อ Lego มากกว่าล้านชิ้น รวมถึงเครื่องเล่นอีกมากมาย และยังมีทีเด็ดอีก 1 แห่งก็คือ Sea Life Nagoya ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

เท่านั้นยังไม่พอถ้ายังเต็มอิ่มกับสวนสนุก ที่นี่ยังมีรีสอร์ทให้นักท่องเที่ยวได้ค้างคืนอีกด้วย

Legoland Japan Resort

ที่อยู่LEGOLAND Japan Limited, 1 Kinjoufutou, Nagoya-shi, 2 Chome-2, Minato Ward, Nagoya, 
Aichi 455-8605
วิธีเดินทางจากสถานี Nagoya นั่งรถไฟสาย Aonami มาลงสถานี Kinjofuto แล้วเดิน 6 นาที 
หรือเดิน 10 นาทีจาก SCMaglev and Railway Park
เวลาทำการเปิดตั้งแต่ 10.00 – 17.00 น.
Sea Life Nagoya เปิดตั้งแต่ 11.00 น. – 18.00 น.
ราคา Legoland Japan + Sea life Nagoya ผู้ใหญ่ 5300 เยน เด็ก 4100 เยน
 Legoland ผู้ใหญ่ 4500 เยน เด็ก 3300 เยน
 Sea Life Nagoya ผู้ใหญ่ 1800 เยน เด็ก 1400
WebsiteLegoland Japan Resort

ดูแผนที่ Legoland Japan Resort

Port Of Nagoya Public Aquarium

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ มีทีเด็ดอยู่ที่การแสดงโชว์ความแสนรู้ ความน่ารักของปลาวาฬเบลูก้า ปลาโลมา และวาฬเพชรฆาต และยังมีโซนอื่นๆที่น่าสนใจ เช่นโซนจำลองแถนวประการัง Great Barrier Reef ซึ่งเป็นแนวประการังที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

Port Of Nagoya Public Aquarium

ที่อยู่1-3 Minatomachi, Minato Ward, Nagoya, Aichi 455-0033
วิธีเดินทางนั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Nagoyako ออกทางออกหมายเลข 3 แล้วเดิน 5 นาที
เวลาทำการเปิดตั้งแต่ 09.30 น. – 17.30 น.
ช่วงวันที่ 20 กรกฎาคม – 1 กันยายน เปิดตั้งแต่ 09.30 น. – 20.00 น.
วันที่ 1 ธันวาคม – 24 มีนาคม เปิดตั้งแต่ 09.30 น. – 17.00 น.
ปิดวันจันทร์
ราคาผู้ใหญ่ 2030 เยน เด็กมัธยมปลาย 2030 เยน เด็กมัธยมต้น – ประถม 1010 เยน เด็กเล็ก 500 เยน
 ตั๋วรอบกลางคืนหลังเวลา 17.00 น. ผู้ใหญ่ 1620 เยน เด็กมัธยมปลาย 1620 เยน 
เด็กมัธยมต้น – ประถม 800 เยน เด็กเล็ก 400 เยน
WebsitePort Of Nagoya Public Aquarium

ดูแผนที่ Port Of Nagoya Public Aquarium

Asahi Park Sakura Trees

หากเพื่อนๆมาช่วงดอกซากุระกำลังบาน ผมขอแนะนำจุดดูซากุระที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของ Aichi นั่นคือที่ Asahi Park 

โดยช่วงประมาณเดือนเมษายน ที่นี่จะมีเทศกาลชมดอกซากุระ โดยมีต้นซากุระมากกว่า 700 ต้น โดยสวนจะเหมือนถูกละเลงไปด้วยสีชมพูของดอกซากุระ และมีอุโมงค์ดอกซากุระด้วย

Asahi Park Sakura Trees

ที่อยู่Segama Hinaga, Chita, Aichi 478-0041
วิธีเดินทางจากสถานี Meitetsu Shin Maiko นั่งรถบัสมาลงป้าย Asahi Park Mae

ดูแผนที่ Asahi Park Sakura Trees

สรุป

พิพิธภัณฑ์รถไฟ SCMaglev And Railway Park นั้นนับว่าเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรถไฟแก่ผู้มาเยือนให้เข้าใจง่าย และยังสามารถเห็นรถไฟ Maglev ของจริง รวมถึงได้ศึกษาขั้นตอนกลไกการทำงานต่างๆได้อีกด้วย เท่านั้นไม่พอเพื่อนๆยังหาประสบการณ์จากการลองขับรถไฟแบบ Simulator ได้อีกด้วย ซึ่งบอกได้เลยว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ทุกคนควรมาในยามมาเที่ยว Nagoya

Kitslaughter666

Blogger : Kitslaughter666

ผมชื่อ กิด เป็นคนที่สนใจประเทศญี่ปุ่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และชอบทานราเมง กับ ปลาปักเป้า เป็นชีวิตจิตใจ รักการถ่ายเซลฟี่กับกวางที่เกาะมิยาจิม่า ชอบภูมิภาคชูโกกุ ชอบเที่ยวสถานที่Unseenของญี่ปุ่น

69 Posts

สถานที่เที่ยว

| Feature

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515