สวนซุยเซ็นจิ โจจูเอ็น ( Suizenji Jojuen Garden ) ดื่มด่ำกับธรรมชาติสุดร่มรื่นใจกลางเมือง Kumamoto ที่ต้องไม่พลาด !!!

26/03/2025
หากพูดถึงจังหวัด Kumamoto แล้วหลายคนจะต้องนึกถึงปราสาท Kumamoto ที่ดูน่าเกรงขาม, ภูเขาไฟ Aso ที่สวยงาม, คุมะมง ตัวมาสคอต ประจำจังหวัด หรือการ์ตูนเรื่องวันพีช เป็นต้น

แต่จริงๆ Kumamoto ยังมีอีก 1 สถานที่ที่ผมอยากจะมาแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จักนั่นก็คือ สวนซุยเซ็นจิ โจจูเอ็น ( Suizenji Jojuen Garden ) ซึ่งเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่น ที่มีความไม่เหมือนใคร อย่างเช่นภายในสวนได้มีการจำลองสถานที่สำคัญของญี่ปุ่นหลายๆแห่งแบบย่อส่วน ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน เป็นต้น และจุดเด่นๆอีกหลายๆอย่าง ซึ่งผมจะแนะนำให้รู้จักในบทความนี้
Meiji Amino Collagen LP R1

ประวัติความเป็นมา

สวนซุยเซ็นจิ โจจูเอ็น ( Suizenji Jojuen Garden ) สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 โดย Hosokawa Tadatoshi ซึ่งเป็นผู้ครองแคว้นฮิโกะ สวนแห่งนี้ได้เริ่มสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1632 

โดยเริ่มต้นจากการสร้างวัดริมทะเลสาบขึันมาก่อนซึ่งวัดแห่งนี้มีชื่อว่า Suizenji จากนั้นก็ได้มีการย้ายวัดไปแล้วสร้างร้านน้ำชาขึ้นมาแทนวัด ซึ่งบริเวณที่แห่งนี้นั้นแต่เดิมเป็นสถานที่พักผ่อนของตระกูล Hosokawa เท่านั้น

ในสมัย Tsunatoshi ผู้ที่เป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล Hosokawa ก็ได้มีการออกแบบเป็นสวน ต่อมาในสมัยเมจิ ก็ได้มีการสร้างสะพานหินขึ้นมา 2 แห่ง และในปีค.ศ. 1878 ก็ได้มีการสร้างศาลเจ้า Izumi ขึ้นมา แต่สิ่งก่อสร้างที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือภูเขาเทียมที่มีความคล้ายๆคลึ่งกับภูเขาไฟฟูจิซึ่งเรียกว่า Tsukiyama ซึ่งในอดีตว่ากันว่าสมัยสงครามกบฎ Satsuma นั้นภูเขาไฟฟูจิเทียมอันนี้คือถูกใช้เป็นฐานสำหรับยิงปืนใหญ่อีกด้วย

จนกระทั่งมาถึงศตวรรษที่ 19 ในช่วงปลายสวนแห่งนี้ก็ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าชมได้

ว่ากันว่าสาเหตุที่ตระกูล Hosokawa  ได้เลือกสถานที่บริเวณนี้ในการสร้างร้านน้ำชาขึ้นมา เพราะเนื่องจากที่บริเวณนี้นั้นมีบ่อน้ำที่มีคุณภาพสูง โดยน้ำในบ่อน้ำนั้นเป็นน้ำที่มาจากภูเขาไฟ Aso ซึงเหมาะสำหรับใช้ในการชงชา

ส่วนคำว่า Jojuen ที่มีอยู่ด้านหลังคำว่า Suizenji นั้นมีที่มาจากบทกวีของ Tao Yuanming

ลักษณะและการออกแบบสวน

การออกแบบสวนซุยเซ็นจิ โจจูเอ็น ( Suizenji Jojuen Garden ) นั้นในสมัยของ Hosokawa Tsunatoshi ผู้ที่เป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล ได้ออกแบบสวนให้เป็นสวนในสไตล์ยุคที่เรียกว่า Momoyama ซึ่งภายในสวนนั้นได้จำลองสถานที่ต่างๆในลักษณะที่ย่อส่วน ของถนน Tokaido ซึ่งเป็นถนนที่สำคัญในยุค Edo ซึ่งเชื่อมระหว่าง Edo หรือปัจจุบันคือ Tokyo กับ Kyoto โดยไฮไลท์อยู่ที่ ภูเขาไฟฟูจิขนาดเล็ก นอกจากภูเขาไฟฟูจิจำลองแล้วที่นี่ยังองค์ประกอบสำคัญอื่นๆอีกอย่างเช่น สระน้ำหลัก, ศาลเจ้า Izumi, ร้านน้ำชา Kokindenju No Ma

สระน้ำหลักและTsukiyama ( ภูเขาไฟฟูจิจำลอง )

บ่อน้ำที่มีเนื้อที่มากกว่า 10000 ตารางเมตร ที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นความงามของธรรมชาติ เงาต้นไม้ที่สะท้อนอยู่กลางน้ำ และไฮไลท์อยู่ที่ภูเขาไฟฟูจิขนาดจิ๋ว ซึ่งนักเที่ยวจะเห็นความงามที่หาจากที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่ ซึ่งถ้านักท่องเที่ยวมาช่วงเดือนมิถุนายน – กันยายน จะได้เห็นหญ้าสีเขียวสวยงามอีกด้วย

นอกจากนั้นแล้วบริเวณนี้ยังมีดอกไม้ตามฤดูกาลที่มีความสวยงามให้นักท่องเที่ยวได้ชมอีกด้วยเช่น ดอกบ๊วย, ดอกซากุระ, ดอกเมลเลีย และดอกแไฮเดรนเยีย

ศาลเจ้า Izumi

ศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของสวนสร้างขึ้นมาเมื่อปีค.ศ. 1878 เพื่ออุทิศให้แก่ตระกูล Hosokawa ผู้ที่เคยปกครองแคว้นฮิโกะ ( ปัจจุบันคือ Kumamoto ) มาช้านาน

โดยในปีค.ศ. 2016 ซึ่งเป็นปีที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ Kumamoto เสาโทริอิหิน ได้พังทลายลงมา ก่อนที่ในปีค.ศ. 2020 ก็ได้มีการสร้างเสาโทริอิแบบไม้ ขึ้นมาแทนที่

ภายในศาลเจ้านั้นนักท่องเที่ยวยังสามารถเสี่ยงโชคที่เรียกว่า Omikuji ได้ และยังมีเครื่องรางที่เรียกว่า Omamori จำหน่ายอยู่อีกด้วย

ร้านน้ำชา Kokindenju No Ma

บริเวณทิศตะวันตกของสวน จะมีอาคารที่มีหลังคามุงจาก ซึ่งอาคารแห่งนี้ถูกเรียกว่า Kokindenju No Ma ซึ่งในอดีตนั้นร้านนี้เคยอยู่ที่ Kyoto ก่อนที่จะย้ายมาที่ Kumamoto ในปี ค.ศ. 1912

ซึ่งนักท่องเที่ยวนั้นสามารถใช้บริการร้านน้ำชาแห่งนี้ได้ โดยสามารถสั่งกาแฟ, มัทฉะ หรือขนมหวานต่างๆ มานั่งรับประทานได้ นอกจากนั้นแล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถออกมานั่งข้างนอกบนเสื่อทาทามิ พร้อมกับชมวิวสวนแบบสุดฟินน์ได้อีกด้วย

กิจกรรมและประสบการณ์ที่น่าสนใจ

พิธีชงชา

กิจกรรมชงสไตล์ Higo Koryu ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสการชงชาแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาที่ Kumamoto มากกว่า 400 ปี ซึ่งแน่นอนว่าการชงชาสไตล์นี้จะได้เกี่ยวข้องกับตระกูล Hosokawa ด้วยอย่างแน่นอน

ซึ่งกิจกรรมการชงชาสไตล์ Higo Koryu นั้นไม่ได้มีทุกวัน แต่จัดแค่ภายในเวลาแค่ไม่กี่วันเท่านั้น ซึ่งในปี 2025 นี้ก็มีเทศกาลที่ชื่อว่า Suizenji Jojuen Festival ซึ่งจัดในวันที่ 29 มีนาคม และ 30 มีนาคม ซึ่งในเทศกาลนี้ก็มีกิจกรรมการชงชาแบบ Higo Koryu ให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสได้ชมอีกด้วย

การเดินชมสวน

แน่นอนว่าการมาเที่ยวสวนซุยเซ็นจิ โจจูเอ็น ( Suizenji Jojuen Garden ) นั้น ทุกคนก็ต้องย่อมต้องการที่จะเดินชมสวน สูดอากาศบริสุทธิ์แบบชิลๆ ซึ่งสวนแห่งนี้นั้น ถ้ามาประมาณช่วง พฤษภาคม – กันยายน นักท่องเที่ยวก็จะได้พบกับความเขียวขจีของหญ้าในสวน หรือมาช่วงที่อากาศเย็นหน่อยคือช่วงตุลาคม – เมษายน หญ้าที่สวนก็อาจจะมีสีเหลือง แต่การมีสีเหลืองก็ไม่ได้ทำให้ความสวยงามของสวนลดลงแต่อย่างใด

นอกจากความสวยงามของพื้นดินแล้ว ระหว่างที่เดินชมสวนอยู่นั้นหากนักท่องเที่ยวก้มมองบริเวณสระน้ำ ก็จะเห็นได้ว่าน้ำในสระน้ำนั้น ค่อนข้างใสและมองเห็นปลาคาร์ฟกำลังว่ายน้ำเล่นอยู่ หรือแม้กระทั่งเห็นนกเป็ดน้ำ หรือหงส์ที่กำลังว่ายน้ำอยู่ ซึ่งสร้างบรรยากาศได้ดีทีเดียว

นอกจากเดินชมธรรมชาติแล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถแวะหาของหวานอร่อยๆรับประทานได้อีกด้วย นอกจากร้านน้ำชาแล้ว ที่สวนก็ยังมีตู้ขายของอัตโนมัติคอยบริการด้วย ซึ่งก็มีของกินอร่อยๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ลองรับประทาน

การชมดอกซากุระ

水前寺成趣園の桜咲く風景

หากนักท่องเที่ยวมาที่สวนซุยเซ็นจิ โจจูเอ็น ( Suizenji Jojuen Garden ) ในช่วงปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายนนั้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดอกซากุระของภูมิภาค Kyushu กำลังบาน ซึ่งที่สวนแห่งนี้นั้นมีต้นซากุระมากกว่า 150 ต้นที่บานสะพรั่งรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ ซึ่งถ้าใครมา Kyushu ในช่วงเวลานั้นแล้ว ห้ามพลาดในการมาที่นี่โดยเด็ดขาด

ข้อมูลสำหรับผู้เข้าชม

สวนซุยเซ็นจิ โจจูเอ็น ( Suizenji Jojuen Garden )

ที่อยู่8-1 Suizenji Koen, Chuo Ward, Kumamoto, 862-0956
วิธีเดินทางโดยรถรางจากสถานี Kumamoto นั่งรถรางมาลงป้าย Suizenji Park แล้วเดินอีก 5 นาที หรือ
โดยรถไฟจากสถานี Kumamoto นั่งรถไฟสาย Higo – Ozu ไปลงสถานี Suizenji แล้วเดินอีก 15 นาที
เวลาทำการเปิดตั้งแต่ 08.30 น. – 17.00 น.
ราคาผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก 200 เยน
Websiteสวนซุยเซ็นจิ โจจูเอ็น ( Suizenji Jojuen Garden )

ดูแผนที่ สวนซุยเซ็นจิ โจจูเอ็น ( Suizenji Jojuen Garden )

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับสวนซุยเซ็นจิ โจจูเอ็น ( Suizenji Jojuen Garden )

ปราสาทคุมาโมโต้ ( Kumamoto Castle )

หากพูดถึงเมือง Kumamoto แล้ว ปราสาท Kumamoto ย่อมจะที่แรกที่คนนึกถึง ปราสาท Kumamoto นั้นสร้างขึ้นโดย Kato Kitomasa ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการสร้างปราสาทคนนึงของยุคนั้น

ปราสาท Kumamoto นั้นขึ้นชื่อว่าเป็นป้อมปราการที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นหากนักท่องเที่ยวได้มีโอกาศไปปราสาทแห่งนี้จะสังเกตได้ว่า คูน้ำ และกำแพงหินของปราสาท รวมถึงการที่เดินไปถึงตัวหอคอยหลักของปราสาท ค่อนข้างใช้เวลานาน และซับซ้อนอย่างมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการออกแบบที่ล้ำเลิศของ Kato Kiyomasa

ปัจจุบันนั้นปราสาท Kumamoto เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง ด้านในได้จัดแสดงประวัติของปราสาท Kumamoto รวมถึงประวัติเกี่ยวกับเมือง Kumamoto อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นแลนด์มาร์กที่ห้ามพลาด

ปราสาทคุมาโมโต้ ( Kumamoto Castle )

ที่อยู่1-1 Honmaru, Chuo Ward, Kumamoto, 860-0002
วิธีเดินทางจากสถานี Kumamoto นั่งรถรางมาลงป้าย Kumamoto Castle / City Hall 
แล้วเดินอีก 15  นาที
เวลาทำการเปิดตั้งแต่ 09.00 น. – 17.00 น. ปิดวันที่ 29 – 31 ธันวาคม
ราคาผู้ใหญ่ 800 เยน เด็ก 300 เยน
Websiteปราสาทคุมาโมโต้ ( Kumamoto Castle )

ดูแผนที่ ปราสาทคุมาโมโต้ ( Kumamoto Castle )

Sakura-no-baba Josaien

May 17 2024 Sakura no baba Josaien, Preserving the Spirit of Historic Saga

สถานที่ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับปราสาท Kumamoto โดยออกแบบให้มีความคล้ายกับเมืองปราสาท โดยที่นี่นั้นประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ร้านอาหาร มากมาย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถแวะก่อนหรือหลังเที่ยวปราสาท Kumamoto ก็ได้ 

นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองอาหารท้องถิ่นของ Kumamoto อย่างเช่นราเมงเนื้อม้าได้ที่นี่ หรือซาลาเปารูปคุมะมง ก็สามารถหากินได้ที่นี่ด้วยเช่นกัน

Sakura-no-baba Josaien

ที่อยู่1-1-2 Ninomaru, Chuo Ward, Kumamoto, 860-0008
วิธีเดินทางจากสถานี Kumamoto นั่งรถรางมาลงป้าย Kumamoto Castle / City Hall 
แล้วเดินอีก 5  นาที
เวลาทำการเปิดตั้งแต่ 09.00 น. – 18.00 น.
ราคาฟรี
WebsiteSakura-no-baba Josaien

ดูแผนที่ Sakura-no-baba Josaien

ย่านช้อปปิ้งชิโมโตริ

ถนนช็อปปิ้งที่มีร้านค้า ร้านอาหาร มากมายกว่า 100 ร้าน ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อของฝากจากร้านเด่นร้านดัง ที่มารวมกันที่นี่ นอกจากนั้นแล้วที่นี่ยังมีร้านอาหารมากมายให้เลือกรับประทานโดยเฉพาะเมนูเนื้อม้า ซึ่งเป็นของกินขึ้นชื่อของ Kumamoto 

หากนักท่องเที่ยวมาที่นี่ตอนเช้าๆที่ร้านค้าเพิ่งเปิดล่ะก็ สามารถเดินช็อปปิ้งได้ชิลๆเลย เพราะช่วงนั้นคนจะน้อยมาก และมีร้านที่สามารถทำ Tax Free ได้หลายร้านด้วยเช่นกัน

ย่านช้อปปิ้งชิโมโตริ

ที่อยู่1 Chome-3-10 Shimotori, Chuo Ward, Kumamoto, 860-0807
วิธีเดินทางนั่งรถรางมาลงป้าย Torichosuji หรือเดิน 20 นาทีจากปราสาท Kumamoto
Websiteย่านช้อปปิ้งชิโมโตริ

ดูแผนที่ ย่านช้อปปิ้งชิโมโตริ

สรุป

สวนซุยเซ็นจิ โจจูเอ็น ( Suizenji Jojuen Garden ) นั้นนับว่าเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ Kumamoto ซึ่งถ้านักท่องเที่ยวต้องการหาสถานที่สำคัญพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ที่ไม่ไกลจากตัวเมือง Kumamoto สวนซุยเซ็นจิ โจจูเอ็น ( Suizenji Jojuen Garden ) ถือว่าเป็นสถานที่ที่ต้องไป

Kintetsu Line LP R3
Kitslaughter666

Blogger : Kitslaughter666

ผมชื่อ กิด เป็นคนที่สนใจประเทศญี่ปุ่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และชอบทานราเมง กับ ปลาปักเป้า เป็นชีวิตจิตใจ รักการถ่ายเซลฟี่กับกวางที่เกาะมิยาจิม่า ชอบภูมิภาคชูโกกุ ชอบเที่ยวสถานที่Unseenของญี่ปุ่น

94 Posts

โหวต

| Polls
โหวต | Polls
  • คุณเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นปีละกี่ครั้ง?

    View Results

    Loading ... Loading ...
CCJ Hotel Search

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515

จองทริปของคุณ

| Book your trip
With:
City:

Check-in:

Night :

x