Tochigi 16 จุดกินเที่ยวพักทำกิจกรรมน่าทำที่หลายคนยังไม่รู้

ที่เที่ยว

นิกโก ( Toshogu Shinto Shrine )

ถ้าจะพูดถึงจังหวัดโทชิงิ แน่นอนว่าหลายคนจะต้องนึกถึง Nikko แน่นอน เพราะที่นี่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก บรรยากาศรอบเมืองนี้ก็มีความเป็นญี่ปุ่นที่สูง รายล้อมไปด้วยธรรมาติที่สวยงามโดยเฉพาะให้ฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้ที่นี่จะเปลี่ยนเป็นสีแดงจากต้นเมเปิ้ล

จุดท่องเที่ยวที่ทุกคนต้องแวะมาชมเมื่อมา Nikko นั่นก็คือ ศาลเจ้า โทโชกุ ( Toshogu Shinto Shrine ) ที่มีความสวยงามวิจิตรพิศดารเหลือเกิน โดยสิ่งที่เตะตามากที่สุดคงหนีไม่พ้นซุ้มประตูสีทอง Yomeimon Gate ที่ประดับด้วยแผ่นทองคำเปลวถึง 240,000 แผ่น

และอีกสิ่งหนึ่งสัญลักษณ์ของที่นี่ก็คือภาพแกะสลักลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดตา ปิดปาก จริงๆแล้วบนผนังไม่ได้มีแค่ลิง 3 ตัวนี้ แต่เป็นการบอกเล่าเรื่องราววัฏจักรชีวิตของคนตั้งแต่การเกิด ไปเรื่อยๆในช่วงชีวิตต่างๆ ถ้าดูแล้วคิดตามเราจะรู้สึกอินไปกับเรื่องราวได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

รายละเอียด

ที่อยู่	2301 Sannai, Nikko, Tochigi 321-1431 ญี่ปุ่น
Website	https://www.toshogu.jp/keidai/index.html
วิธีเดินทาง	จากสถานีรถไฟ JR Nikko เดินไปขึ้นรถเมล์ที่ JR Nikko Eki Mae 7 นาที เดินต่ออีก 8 นาที
ค่าเข้า	ผู้ใหญ่ 1,300 เยน เด็ก 450 เยน
เวลาทำการ	1 เมษายน ~ 31 ตุลาคม : 9:00 ~ 17:00 1 พฤษจิกายน ~ 31 มีนาคม : 9:00 ~ 16:00

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอยะ ( Oya History Museum )

มาต่อกันที่เมืองข้างๆอย่าง Utsunomiya กันบ้าง เมืองนี้เค้ามีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน หนึ่งในนั้นก็คือ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอยะที่เคยเป็นเหมืองหินโดยสมัยก่อนคนที่นี่จะขุดหลุมลึกลงไปใต้ดินเมื่อนำหินมาทำสิ่งต่างๆ ทำให้เกิดเป็นเหมือนถ้ำขนาดใหญ่ใต้ดินลึกลงไป 60 เมตร

บริเวณชั้น 1 ของที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่บอกเล่าเรื่องราวในการทำเหมืองหินโอยะที่มีชื่อเสียงที่ใช้เพียงแรงงานคนในสมัยก่อน แต่ละคนจะต้องแบกหินน้ำหนักร้อยกว่ากิโลกรัมขึ้นมาทีละชิ้น ก่อนที่จะพัฒนามาเครื่องจักรในตอนหลัง

ชั้นใต้ดินของที่นี่ยังเคยถูกใช้เป็นที่ซ้อนอาวุธและรถต่างๆในช่วงสงครามเพื่อหลบสายตาศัตรู แม้ว่าในปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและนิยมในการจัดงานอีเว้นท์ ถ่ายทำโฆษณาและมิวสิควิดีโอต่างๆอยู่บ่อยอีกด้วย

รายละเอียด

ที่อยู่	909 Oyamachi, Utsunomiya, Tochigi 321-0345
Website	http://www.oya909.co.jp/
วิธีเดินทาง	จากป้าย Utsunomiyaekinishiguchi ขึ้นรถบัสหมายเลข 45 ใช้เวลา 30 นาที มาลงที่ป้าย Shiryokaniriguchi เดินต่ออีก 3 นาที
ค่าเข้า	ผู้ใหญ่ 800 เยน เด็ก 400 เยน
เวลาทำการ	เมษายน ~ พฤษจิกายน : 9:00 ~ 17:00 เ ธันวาคม ~ มีนาคม : 9:30 ~ 16:30 ( เข้าชมก่อนเวลา 16:00 )

สวนไผ่ ( Wakayama Farm )

เยือนสวนไผ่ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น Wakayama Farm เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเมือง Utsunomiya จากการเป็นสวนที่ปลูกต้นไผ่นานาชนิดและสวนเกาลัดที่มีขนาดใหญ่กว่าโตเกียวโดมถึง 5 เท่า สู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวของเมืองนี้

เพื่อให้ได้หน่อไม้ที่มีคุณภาพสูง ต้นไผ่ที่นี่จึงได้รับการดูแลใส่ใจอย่างดีในทุกๆปี บรรยากาศทิวทัศน์ของต้นไผ่และผืนดินที่มาบรรจบกันได้อย่างลงตัว เป็นภาพที่หาชมได้ยากมากในญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ที่นี่เป็นที่นิยมในการมาทำถ่ายภาพยนต์ ละครโทรทัศน์ และโฆษณาต่างๆมากมาย

ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เรายังสามารถเพลิดเพลินกับการจิบชาในแก้วไม้ไผ่ ในร้านน้ำชาที่ตั้งอยู่ใจกลางป่าไผ่ ตกกลางคืนก็มีการประดับไฟสวยๆ ท่ามกลางบรรยากาศป่าไผ่อีกด้วย

รายละเอียด

ที่อยู่	2018 Takaragihoncho, Utsunomiya, Tochigi 320-0075
Website	https://www.wakayamafarm.com
วิธีเดินทาง	จากสถานี JR Utsunomiya นั่ง Kanto bus บัสหมายเลข 52 , 56 และ 58 มา 30 นาที ลงที่ป้าย Nozawaderamae แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
ค่าเข้า	ผู้ใหญ่ 750 เยน เด็ก 6 – 15 ปี 500 เยน เด็ก 3 – 5 ปี 250 เยน
เวลาทำการ	วันธรรมดา : 9:00 ~ 17:00 วันสุดสัปดาห์และวันหยุดราชการ : 9:00 ~ 20:00

ที่ทำกิจกรรม

รองเท้าเดินหิมะ Snow Shoes ( Mt. Jeans Nasu )

เมื่อพูดถึงฤดูหนาวทุกคนจะต้องคิดถึงกิจกรรมกลางหิมะอย่างแน่นอน และกิจกรรมที่เราจะพาทุกคนไปชมวันนี้ก็คือ การเดินในป่ากลางหิมะด้วยรองเท้าแบบพิเศษที่เรียกว่า Snow Shoes เป็นกิจกรรมที่เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่นกันที่ Mt. Jeans Ski Resort ในเมือง Nasu กัน

ข้อดีของการเดินป่าในช่วงฤดูที่มีหิมะของจังหวัดโทจิงิก็คือ การที่เราสามารถเดินชมความสวยงามของธรรมชาติที่นี่ได้ในจุดที่ฤดูอื่นๆไม่สามารถเข้าถึง เพราะปกติแล้วบริเวณนี้จะเป็นป่าทึบมีต้นไม้อยู่หนาแน่น ผิดกับฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมสูงทำให้เกิดเป็นทางเดินให้เราทำกิจกรรมนี้ได้ โดยมีไกด์ที่คอยนำทางและดูแลความปลอดภัยให้เราตลอด

ถ้าใครอยากมาแค่เล่นหิมะ หรือ สกี ก็สามารถมาได้เพราะเค้ามีบริการแบบครบวงจรแทบไม่ต้องพกอะไรมาเองเลย หรือถ้าใครอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นแล้วอยากพาสุนัขมาเล่นหิมะ ที่นี่ก็มีบริเวณที่จัดไว้โดยเฉพาะสำหรับน้องหมาด้วย

รายละเอียด

ที่อยู่	Oshima, Nasu, Nasu District, Tochigi 329-3223
Website	https://www.mtjeans.com/winter/activity/
วิธีเดินทาง	นั่งแท็กซี่ 40 นาที จากสถานี Nasushiobara
ค่ากิจกรรม Snow Shoes	ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นขึ้นไป 7,000 เยน ระดับประถมศึกษาหรือต่ำกว่า 6,000 เยน
เวลาทำการ	วันธรรมดา :เช้า 10:00 ~ 12:00 บ่าย 13:30 ~ 15:30
ข้อมูลราคาตั๋วลิฟต์	https://www.mtjeans.com/winter/ticket

ตีกอล์ฟ ( Seven Hundred Club )

มาถึงสายกีฬากันบ้าง สนามกอล์ฟ Seven Hundred Club เป็นสนามกอล์ฟที่ตั้งอยู่ในเมืองซากุระ สีสันในช่วงฤดูหนาวก็จะดูแปลกตาหน่อย เพราะคนส่วนใหญ่คงชินกับสนามกอล์ฟสีเขียวๆ แต่สนามกอล์ฟที่นี่ถือว่าเป็นสนามระดับ Luxury เลยก็ว่าได้

ไม่ใช่การตีกอล์ฟเท่านั้น เค้ายังมีกิจกรรมที่คุณหนูๆสามารถร่วมสนุกได้อย่าง Foot Golf ที่ใช้ลูกบอลแทนลูกกอล์ฟแล้วใช้เท้าเตะให้ลงหลุมตามจุดต่างๆ เหมาะกับการมาทำกิจกรรมกับครอบครัวมากๆ

ด้านในมีบริการร้านอาหารและคาเฟ่ให้นั่งพักชมวิวชิลๆ เงียบสงบมีความเป็นส่วนตัวสูง วิวที่นี่สวยมาก ฉากหลังของสนามกอล์ฟเราจะเห็นเป็นภูเขาที่บนยอดถูกหิมะปกคลุมให้อารมณ์เหมือนอยู่ยุโรปเลย และที่นี่ยังมีบริการจัดเตาย่างบาร์บีคิวด้วย

รายละเอียด

ที่อยู่	2370 Sootome, Sakura, Tochigi 329-1414
Website	https://www.700c.jp/
วิธีเดินทาง	นั่งรถแท็ก จากสถานี Ujiie 11 นาที
ค่าบริการ	6,430 เยน ~ เป็นต้นไป เด็ก 6 – 15 ปี 500 เยน เด็ก 3 – 5 ปี 250 เยน
เวลาทำการ	วันธรรมดา : 9:00 ~ 17:00 วันสุดสัปดาห์และวันหยุดราชการ : 9:00 ~ 20:00

เก็บสตรอเบอร์รี่ ( Yoshimura Nouen )

มาโทชิงิทั้งทีจะไม่ไปเก็บสตรอว์เบอร์รี่ได้ยังไง เพราะจังหวัดนี้เค้าเป็นอันดับ 1 เลย ครั้งนี้เราจะไปเก็บสตรอว์เบอร์รี่กันที่สวน Yoshimura Nouen ในเมืองที่มีชื่อว่า Mashiko-machi กัน โดยฤดูที่สตรอว์เบอร์รี่ของที่นี่อร่อยที่สุดจะเป็นตั้งแต่เดือนธันวาคมจนถึงเดือนพฤษภาคม

สตรอว์เบอรี่ของสวยนี้มีให้เราเลือกเก็บมากถึง 10 สายพันธุ์กันเลยที่เดียว เราจะทานเท่าไหร่ก็ได้ไม่จำกัดเวลา โดยทางสวนจะให้ถาดเรามา 1 ถาดและกำหนดเขตในการเก็บของเรา จากนั้นเราก็เข้าไปลุยเก็บมาชิมได้เลยโดยไม่จำกัดรอบ

สำหรับใครที่ติดใจอยากซื้อไปทานต่อ หรืออยากซื้อเป็นของฝากที่สวนจะมีร้านขายสตรอว์เบอร์รี่สด แพ็คให้อย่างดีอยู่ที่หน้าสวน ใครที่ขับรถมาเองเค้าก็มีที่จอดรถบริการให้ฟรี มีที่จอดได้หลายคันเลย

รายละเอียด

ที่อยู่	520 Hanawa, Mashiko, Haga District, Tochigi 321-4216
Website	https://yoshimura-nouen-1985.com/sp/
วิธีเดินทาง	เดิน 6 นาทีจากสถานี Kitayama
ค่าบริการ	ธันวาคม 2,300 เยน มกราคม ~ มีนาค 2,200 เยน เมษายน ~ พฤษภาคม 1,800 เยน เด็กอายุ 0 – 3 ปี ฟรี
เวลาทำการ	9:00 ~ 16:00

ชิมสาเก ( Tonoike Brewery )

ชิมสาเกจากโรงงานท้องถิ่นดีกรีระดับโลกกันต่อที่เมือง Haga กันที่ Tonoike Brewery ที่เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1937 โดยกรรมวิธีการผลิตที่พิถีพิถัน จนสามารถไปคว้าแชมป์ระดับโลกที่ประเทศฝรั่งเศสมาแล้ว

โดยการชิมของเราในครั้งนี้จะถูกจัดมาเป็นเซ็ทสาเกถึง 5 ชนิดจากหลายสิบชนิดที่โรงงานผลิตขึ้น พร้อมกับแกล้มให้เราได้ลองชิมพร้อมๆกับการจิบสาเกไปด้วย แต่สำหรับใครที่ไม่ดื่มสาเกก็สามารถเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มอย่างอื่นแทนได้

นอกจากการชิมสาเกแล้วที่นี่เค้าก็ยังเปิดให้เราเข้าไปศึกษาขั้นตอนการทำสาเกญี่ปุ่นด้านในพิพิธภัณฑ์ ตั้งแต่การเลือกข้าว การหมักไปจนถึงชนิดต่างๆของสาเก เราจะได้เห็นความละเอียดอ่อนในทุกขั้นตอนก่อนที่จะมาเป็นสาเกให้เราได้ชิมกัน

รายละเอียด

ที่อยู่	333-1 Hanawa, Mashiko, Haga District, Tochigi 321-4216
Website	https://tonoike.jp/
วิธีเดินทาง	นั่งแท็กซี่จากสถานี Kitayama 3 นาที
ค่าเข้า	คอร์สชิมสาเก 3 ชนิด รวมกับแกล้ม ผู้ใหญ่ 1,000 เยน
เวลาทำการ	9:00 ~ 17:00

ที่กิน

ยูบะ ( Nikko – Yuba Yuzen )

เมื่อพูดถึงอาหารท้องถิ่นของนิกโกก็คงจะขาดยูบะไปไม่ได้ ร้านที่เราจะพาทุกคนไปชิมกันครั้งนี้จะเป็นร้านที่อยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง Toshogu ที่เปิดขายในช่วงมื้อกลางวันด้วย ร้านมีชื่อว่า Nikko – Yuba Yuzen

ยูบะก็คือฟองเต้าหู้ซึ่งในญี่ปุ่นจะมีอาหารประเภทนี้ที่เป็นที่รู้จักกันดีอยู่ 2 ที่นั่นก็คือเกียวโตและนิกโก ซึ่ง 2 ที่นี้มีกรรมวิธีในการทำที่แตกต่างกัน ของเกียวโตจะมีแผ่นฟองเต้าหู้แค่หนึ่งชั้น ส่วนของนิกโกจะพับเป็น 2 ชั้น ทำให้มีความเข้มข้นเมื่อกัดลงไปจะให้สัมผัสที่แน่นกว่า

สำหรับสายรักสุขภาพไม่ควรพลาดเมนูนี้เด็ดขาด ที่ร้าน Nikko – Yubayuzen จะมีเซ็ทที่ทำเป็นเหมือนกล่องอาหารกลางวัน มีให้เราได้ลองสารพัดเมนูยูบะในมื้อเดียว ขนาดก็พออิ่มกำลังดีสำหรับมื้อกลางวัน

รายละเอียด

ที่อยู่	1-22 Yasukawacho, Nikko, Tochigi 321-1432
Website	http://www.nikko-yubayuzen.com
วิธีเดินทาง	จากสถานี Tobu Nikko นั่งบัสสาย The world heritage sightseeing bus มาลงที่ป้าย Shinkyo แล้วเดินต่ออีก 4 นาที
ราคาอาหาร	เซ็ท Meguri – zen 2,750 เยน
เวลาทำการ	11:30 ~ 15:00

กินเนื้อแกะย่าง ( Nasu – Minamigaoka Dairy )

เนื้อแกะย่างหรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า เนื้อเจงกิสข่าน โดยการนำเนื้อมาย่างบนเตาพร้อมผักต่างๆ โดยการนำผักมารองด้านล้างเวลาย่าง ทำให้น้ำที่ออกมากเนื้อเข้าไปผสมคลุกเคล้ากับผัก ทำให้ผักมีรสชาติอร่อยเข้มข้นขึ้น

เนื้อแกะของที่นี่ไม่มีกลิ่นสาบเลย เนื้อนุ่มๆทานคู่กับผักเข้ากันดีมากๆ ด้านในร้านกว้างขวางพอสมควร จะมากลุ่มเล็กหรือกลุ่มใหญ่ก็มีที่นั่งเพียงพอ ประดับด้วยโต๊ะและเก้าอี้ไม้ที่ทางฟาร์มทำขั้นมาเอง ให้บรรยากาศแบบคันทรี่ๆ

เหมาะกับนักท่องทุกวัย รวมถึงเด็ก ๆ ก็สามารถเข้าไปทำกิจกรรมด้านให้ฟาร์มได้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารให้อาหารสัตว์ กิจกรรมการทำไส้กรอกและเนย หรือการทำไอศครีม หรือจะแวะซื้อของฝากที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ของจากฟาร์มนี้ก็ได้ด้วย

รายละเอียด

ที่อยู่	579 Yumoto, Nasu, Nasu District, Tochigi 325-0393
Website	https://minamigaoka.co.jp/
วิธีเดินทาง	นั่งแท็กซี่จากสถานี Nasushiobara 29 นาที
ราคาอาหาร	เซ็ทเนื้อวัว, เนื้อแกะ, เนื้อเจงกิสข่านย่างแบบรวม 1,710 เยน
เวลาทำการ	8:00 ~ 17:30 ( เวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับฟดูกาลและสภาพอากาศ )

เกี๋ยวซ่า ( Kirasse )

มาถึงของขึ้นชื่อของเมือง Utsunomiya กันบ้าง ถ้ามาเมืองนี้ก็ต้องทานเกี๋ยวซ่าแต่ถ้าจะทานร้านเดียวก็ไม่รู้จะทานร้านไหน เราเลยจะพาไปจุดศูนย์รวมร้านเกี๋ยวซ่าอร่อยๆไว้ในที่เดียวอย่าง Kirasse กันค่ะ

ที่นี่จะมีลักษณะเหมือนฟู้ดคอร์ทที่รวมสารพัดเมนูเกี๋ยวซ่ามีให้เลือกหลายร้าน เราสามารถสั่งร้านนี้นิดร้านนี้หน่อยมานั่งแชร์กันทานได้ แต่ละร้านก็จะมีเมนูเกี๋ยวซ่าที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองที่สำคัญราคาก็ไม่แพงด้วย

เกี๋ยวซ่าของที่นี่มีความแตกต่างจากที่อื่นในญี่ปุ่นตรงที่มีผักเป็นส่วนผสมอยู่ค่อนข้างเยอะกว่าที่อื่น เพราะผักที่นี่อร่อย เป็นผลมาจากน้ำในบริเวณนี้ที่มีคุณภาพดีทำให้ผักมีรสชาติที่กลมกล่อมกว่าที่อื่นนั่นเอง

รายละเอียด

ที่อยู่	320-0026 Tochigi, Utsunomiya, Babadori, 2 Chome−3−12 Mega Don Quijote B1 floor
Website	https://www.gyozakai.com/kirasse/
วิธีเดินทาง	นั่งแท็กซี่จากสถานี Nasushiobara 29 นาที
ราคาอาหาร	เซ็ทเนื้อวัว, เนื้อแกะ, เนื้อเจงกิสข่านย่างแบบรวม 1,710 เยน
เวลาทำการ	จันทร์ – ศุกร์ 11:00 ~ 20:30 ( สั่งอาหารได้ถึง 20:00 ) เสาร์ – อาทิตย์ 11:00 ~ 21:00 ( สั่งอาหารได้ถึง 20:30 )

อาหารไคเซกิ ( Sariki Kyogasaka )

ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศกลางเขาในเมือง Mashiko-machi กับอาหารญี่ปุ่นสุดอลังการที่ร้าน Sariki Kyogasaka ร้านที่คนท้องถิ่นการันตีว่าไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็นวิวที่สวยจับใจ และอาหารที่บ่งบอกความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างดีเยี่ยม

เซ็ทที่เราทานกันในวันนี้เป็นเซ็ทมื้อกลางวันที่ถือว่าอลังการพอสมควรเลย ในเซ็ทมีทั้งปลา ซาชิมิและซูกิยากิเนื้อวัว ที่จัดเรียงออกมาอย่างสวยงามเป็นทั้งอาหารปากและอาหารตา วัตถุดิบที่ใช้ก็สดใหม่ อร่อยทุกเมนู (เมนูอาจเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดูกาล)

เมนูจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลและวัตถุดิบที่ทางร้านได้มาในวันนั้นๆ สำหรับใครที่กลัวจะทานไม่หมด ที่ร้านก็มีเซ็ทอื่นให้เลือกทานด้วย เวลาสั่งก็ไม่ยากเพราะในเมนูจะมีรูปให้ดู สำหรับคนที่มาเป็นหมู่คณะก็สามารถติดต่อทางร้านเพื่อจองไว้ก่อนได้

รายละเอียด

ที่อยู่	4413-2 Mashiko, Mashiko Town, Haga District, Tochigi 321-4217
Website	https://www.sariki-kyogasaka.com/
วิธีเดินทาง	จากสถานี Mashiko นั่งแท็กซี่ 8 นาที
ราคาอาหาร	เซ็ท SHOKADO – Bento 3,300 เยน
เวลาทำการ	มื้อกลางวัน 11:00 ~ 15:00 มื้อค่ำ 17:00 ~ 21:00

ที่พัก

The Ritz Carlton-Nikko

โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ริมทะเลสาบชูเซ็นจิ ทะเลสาบที่อยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ท่ามกลางธรรมชาติของอุทยานแห่งชาตินิกโก้ โรงแรมที่ตกแต่งลงตัวกลมกลืนไปกับธรรมชาติ รอบโรงแรมมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายทั้ง วัด ศาลเจ้า น้ำตกและน้ำพุร้อน

ภายในห้องตกแต่งอย่างหรูหราแต่อบอุ่น ประดับของตกแต่งคุณภาพสูงในสไตล์ของ The Ritz Carlton ภายในห้องมีสปาแบบส่วนตัวที่เราสามารถเห็นวิวทะเลสาบที่ในช่วงฤดูหนาวจะมีภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะเป็นฉากหลังสวยเหมือนภาพวาด

ภายในโรงแรมมีบริการครบตลอด 24 ชั่วโมง รวมไปถึงแพ็คเกจทัวร์สุดพิเศษมากมายที่สามารถทำได้เฉพาะลูกค้าของ The Ritz Carlton เท่านั้น ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่โรงแรมเลย

รายละเอียด

ที่อยู่	2482 Chugushi, Nikko, Tochigi 321-1661
Website	https://www.sariki-kyogasaka.com/
วิธีเดินทาง	จากสถานี Nikko นั่งบัสสายที่จะไป Yumoto Onsen มาลงที่ป้าย The Ritz Carlton Nikko ใช้เวลา 40 นาที
ค่าที่พัก	เริ่มต้นที่ 128,205 เยน ต่อ คืน
เวลาทำการ	24 ชั่วโมง

Epinard Nasu

ตื่นเช้ามารับแสงท่ามกลางธรรมชาติของ Nasu Highland กันที่โรงแรม Epinard Nasu โรงแรมที่มาแล้วแทบไม่ต้องออกไปไหนเลย เพราะที่นี่เค้ามีทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นออนเซ็น สระว่ายน้ำ เกมเซ็นเตอร์ หรือแม้แต่กิจกรรมกลางแจ้งท่ามกลางธรรมชาติ

แต่สิ่งที่ต้องยกให้เป็นที่สุดของที่นี่นั้นก็คือ ไลน์อาหารแบบบุฟเฟ่ต์ทั้งเช้าและเย็น เพราะอาหารมีให้เลือกเยอะมากทั้งของคาวของหวาน และเครื่องดื่ม มากกว่า 90 ชนิด และอาหารที่นี่ก็อร่อยไปซะทุกอย่างอีกด้วย

ในแต่ละช่วงก็จะผลัดเปลี่ยนอาหารไปในแต่ละฤดู แต่ถ้าใครมาช่วงฤดูหนาวก็จะได้พบกับบุฟเฟ่ต์ปูที่ทานได้ไม่อั้น ถูกใจนักท่องเที่ยวไทยแน่นอน ราคาบุฟเฟ่ต์จะไม่ได้รวมอยู่ในราคาค่าที่พัก โดยมื้อค่ำราคา 6,900 เยน มื้อเช้า 2,300 เยน

รายละเอียด

ที่อยู่	1 Takakuhei, Nasu, Nasu District, Tochigi 325-03021
Website	https://epinard.jp/
วิธีเดินทาง	นั่ง Express bus จาก Shinjuku bus terminal มาลงที่ หน้าโรงแรม Epinard Nasu ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ค่ารถบัส 3,400 เยนต่อเที่ยว
ค่าที่พัก	เริ่มต้นที่ 14,300 เยน ต่อ คืน
เวลาทำการ	24 ชั่วโมง

Sachinoyu Onsen

เรียวกันออนเซ็นสวยๆในเมือง Nasushiobara น้ำที่นี่มีความเป็นด่างที่อ่อนโยนแม้แต่กับผิวของเด็ก เวลาแช่จะรู้สึกได้ถึงผิวที่นุ่มลื่น และน้ำที่นี่ก็ไม่ร้อนมากจนเกินไปทำให้เราแช่น้ำไปชมวิวไปได้นานๆ

แต่ความแปลกของที่นี่นั่นก็คือ ออนเซ็นยืน หรือ Tachinoyu ด้วยความที่น้ำออนเซ็นที่นี่ไม่ได้ร้อนจัด ทำให้แช่ได้นานๆ เลยกลายมาเป็นวัฒนธรรมในการยืนแช่ออนเซ็นในบ่อที่มีความลึก 140 เมตร และเพื่อไม่ให้ยื่นเมื่อยเลยมีการน้ำเชือกมาให้ผู้แช่จับเชือกไว้ขณะอยู่ในบ่อ

และสำหรับใครที่ชอบความเงียบสงบที่นี่เหมาะแก่การมาพัก เพราะเรียวกังตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เมื่อเดินเข้าไปในห้องเราจะได้กลิ่นของไม้ที่หอมอบอวน ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากเลยทีเดียว

รายละเอียด

ที่อยู่	3536-1 Momura, Nasushiobara, Tochigi 325-0115
Website	http://www.satinoyu-onsen.com/
วิธีเดินทาง	จากสถานี Nasushiobara นั่งบัสรับส่งฟรีของทางออนเซ็นใช้เวลา 25 นาที ( ต้องทำการจอง )
ค่าที่พัก	เริ่มต้นที่ 7,990 ต่อคืนต่อคน
ค่าบริการแช่ออนเซ็นแบบรายวัน	10:00 ~ 17:00 ราคา ผู้ใหญ่ 800 เยน เด็ก 500 เยน 17:00 ~ 21:00 ราคา ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 300 เยน
เวลาทำการ	แช่ออนเซ็นสำหรับผู้เข้าพัก 8:30 ~ 21:00 สำหรับลูกค้าที่มาแช่ออนเซ็นแบบรายวัน 10:00 ~ 21:00

Omaruyama Hotel

เที่ยวมาเหนื่อยๆ มาแช่ออนเซ็นแก้เมื่อยล้าที่โรงแรม Omaruyama ในเมืองซากุระ สำหรับนักท่องเที่ยวไทยหลายๆคนที่ไม่กล้าลงแช่บ่อออนเซ็นรวม โรงแรมนี้เค้ามีบริการบ่อส่วนตัวให้แช่แบบไม่ต้องเขินใคร ในราคา 2,750 เยน ( 45 นาที )

ภายในห้องก็กว้างขวางเหมาะแก้การมาพักเป็นกลุ่มเพื่อน 2 – 4 คน ที่นอนก็มีทั้งแบบเตียงและฟูตงแบบญี่ปุ่น รวมถึงมีบริการอาหารเช้า อาหารค่ำที่เราสามารถเลือกได้ตามงบประมาณของเรา

นอกซะจากบ่อออนเซ็นส่วนตัวแล้วยังมีบ่อออนรวมขนาดใหญ่ รวมถึงมีห้องซาวน่าไว้บริการด้วย ถ้าใครมาเที่ยวเมืองซากุระ ลองมาพักที่นี่สักคืนแล้วจะติดใจ

รายละเอียด

ที่อยู่	5445-1 Kitsuregawa, Sakura, Tochigi 329-1412
Website	https://omaruyama.jp/
วิธีเดินทาง	จากสถานี Ujiie นั่งแท็กซี่ 16 นาที
ค่าที่พัก	เริ่มต้นที่ 7,800 เยนต่อคืนต่อคน หรือที่พักรวมอาหาร 2 มื้อ ราคา 13,000 ต่อคืนต่อคน
เวลาทำการ	24 ชั่วโมง

Utsunomiya Tobu Hotel Grande

โรงแรมที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Utsunomiya เน้นความสะดวกสบายเพราะบริเวณรอบๆมีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย ที่นี่ยังไม่ไกลจากสถานีอีกด้วย

ภายในห้องก็มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแบบมาตรฐานไว้ให้อย่างครบครัน แม้ว่าห้องจะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็ไม่ได้เล็กจนอึดอัด เหมาะสำหรับคนที่อยากใช้เวลาส่วนใหญ่ไปท่องเที่ยวข้างนอกและมีห้องไว้สำหรับพักผ่อนจริงๆ

แต่เรื่องที่ต้องยกให้ว่าดีมาก นั่นคือเรื่องของบุฟเฟต์อาหารเช้า เพราะที่นี่มีบริการปรุงเมนูไข่ให้เรากินสดๆ อยากได้แบบไหนก็สามารถบอกให้เชฟทำให้ได้เลย

รายละเอียด

ที่อยู่	5-12 Honcho, Utsunomiya, Tochigi 320-0033
Website	https://www.tobuhotel.co.jp/utsunomiya/en/
วิธีเดินทาง	จากสถานี Tobu – Utsunomiya เดิน 7 นาที
ค่าที่พัก	เริ่มต้นที่ 10,000 เยนต่อคืน
เวลาทำการ	24 ชั่วโมง

สรุป

จังหวัดโทชิงิ มีที่เที่ยวที่รอให้ทุกคนมาค้นหาอยู่อีกมาก ไม่ว่าจะเที่ยวกับเพื่อน ครอบครัว หรือมาคนเดียว โทจิงิก็จะทำให้คุณได้ความประทับใจกลับไปแน่นอน