Cr: DARIN | ダーリン
โอฮาโยโกไซมัสสุ เพื่อนๆ วันนี้อากาศสดชื่น แดดแรงเป็นพิเศษ ใกล้เคียงกับคำว่าร้อนมากค่ะ 555 (ถ้าถามว่าสู้ที่ไทยได้ไหม ตอบอย่างมั่นใจเลยค่ะ ได้! ) แต่ถึงอย่างงั้นก็ตาม อะไร ๆ ก็หยุดเราไม่ได้ ถ้าเราจะเที่ยวอะเนอะ อิอิ ทริปนี้หญิงจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวเมืองโกเบ เมืองของจังหวัดเฮียวโกะ เมืองที่ไม่ได้มีแค่เนื้อโกเบเท่านั่นที่แซ่บ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนี้ก็แซ่บไม่แพ้กันค่ะ
เพื่อนๆ เมืองโกเบ ตั้งอยู่ห่างจากโอซาก้าเพียง 21 นาทีเท่านั่น โดยการนั่งรถไฟ JR สายสีน้ำเงิน Shinkaisoku(新快速) มาได้ไม่ยากเลย
Cr: DARIN | ダーリン
ปัจจุบันเมืองโกเบเป็นเมืองที่มีประชากรอันดับ 5 ของประเทศญี่ปุ่น และมากกว่านั้นตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบันเมืองนี้ก็เป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2ได้มีการเปิดประเทศ และทำการค้าขายกับชาวตะวันตก ชาวจีน และอีกหลากหลากเชื้อชาติได้เดินทางมาที่นี่ จึงทำให้เมืองโกเบเป็นเมืองที่มีการรวมตัวของหลากหลายวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ซึ่งส่งผลให้มีสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นโดยชาวต่างชาติเยอะพอสมควรเลยค่ะเพื่อนๆ แน่นอนว่าทุกอย่างผสมผสานได้อย่างลงตัว จนเป็นเมืองโกเบในปัจจุบันนี้ค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
อีกอย่างหนึ่งคือ เมืองโกเบตั้งอยู่ระหว่างชายฝั่งและภูเขาเป็นเมืองที่แคบแต่มียาว ที่พิเศษคือเมืองนี้มีการวางผังเมืองเอาไว้ได้สุดยอด เพราะว่าเส้นทางที่ยาวระนาบไปกับชายฝั่งของเมืองนี้เขาจะใช้รถไฟในการเดินทางค่ะ แต่หากว่าเป็นเส้นทางเดินขึ้นไปทางภูเขาจะโดยสารโดยรถบัสค่ะเพื่อนๆ ซึ่งวันนี้เราจะขึ้นไปเที่ยวกันบนเขานั่นเองค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
หลังจากที่รู้ข้อมูลคร่าวๆของเมืองนี้กันแล้ว เรามาเริ่มเดินทางไปที่เกิดเหตุ อุ้ย สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองโกเบกันเลยดีกว่าค่ะ การเดินทางครั้งนี้เราจะเริ่มที่สถานี Sannomiya Station (三ノ宮駅)เพื่อนๆอาจสงสัยว่าทำไมถึงต้องเริ่มจากสถานีนี้ทำไมไม่เริ่มจากสถานนี Shin-Kobe (新神戸駅)ล่ะ ก็เพราะว่าสถานีนี้เป็นสถานที่แหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองโกเบ ที่รวมร้านค้าและมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ถึงสามห้างอยู่ด้วยกัน รวมถึงเป็นจุดหลักของการเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ในโกเบและเมืองใกล้เคียงอีกด้วย
ก่อนมาโกเบ มีข้อมูลอะไรบ้างที่ควรรู้ รวมไปถึงการเดินทางและที่เที่ยวที่น่าสนใจ : คลิ๊กที่นี่
Hakutsuru Sake Brewery Museum (白鶴酒造資料館): สาเกหนอ เขาทำกันยังไงนะ
Cr: DARIN | ダーリン
สถานที่แรกที่หญิงจะพาไปในทริปนี้ เพื่อน ๆ ที่ชอบสาเกจะต้องชอบแน่นอน เพราะเราจะพาไป พิพิธภัณฑ์โรงกลั่นสาเกฮาคุสึรุ พร้อมชิมเหล้าญี่ปุ่นชนิดต่าง ๆ ตบท้ายด้วยช้อปสินค้าที่ทำจากสาเกค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รวบรวมและจัดแสดงกระบวนการผลิตสาเกอย่างละเอียดและเข้าใจง่าย โดยการใช้หุ่นขี้ผึ้ง (ถ้าในส่วนมืดๆก็แอบน่ากลัวนิดหน่อย ฮ่าๆ) เป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดกรรมวิธีค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
กรรมวิธีการผลิตสาเกนั้น หากกล่าวคร่าว ๆ ก็จะเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกชนิดพันธุ์ข้าว แหล่งน้ำที่ใช้ จนกระทั่งอุปกรณ์เครื่องมือในการผลิต ที่พิเศษเป็นในเรื่องของแหล่งน้ำที่ใช้ ซึ่งจะตั้งอยู่ในบริเวณระแวกที่ตั้งโรงสาเกนี้ ตั้งอยู่ในเขตนาดะซึ่งคุณภาพน้ำในเขตนี้ดีเยี่ยมถึงที่สุด จึงทำให้สาเกออกมารสชาติยอดเยี่ยมนั่นเองค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
มากกว่านั้นในยุคที่ยังไม่มีเทคโนโลยีใด ๆ ผู้คนต้องใช้ภูมิปัญญา กำลังแรง จิตวิญญาณ เพื่อผลิตสาเกที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและความอร่อยกันเลยทีเดียว ซึ่งในปัจจุบันนับตั้งแต่การก่อตั้งโรงงานสาเกฮาคุสึรุ ในปี ค.ศ. 1743 โรงงานแห่งนี้ก็สืบทอดการผลิตสาเกแบบดั้งเดิมพร้อมกับนำเอาเทคโนโลยีและเครื่องมือใหม่ๆ มาหลอมรวมกัน เพื่อให้สามารถผลิตสาเกได้อย่างเหมาะสมตามยุคค่ะเพื่อนๆ
Cr: DARIN | ダーリン
รู้สึกว่ามาที่นี่แล้วความรู้จะแน่นขึ้นค่ะ หลังจากที่เราดูกรรมวิธีต่าง ๆ มาแล้ว จุดต่อไปที่ห้ามพลาดคือ จุดปลอมตัวเป็นคนผลิตสาเก ตอนถ่ายก็อาจจะโพสต์ท่าเมาๆหน่อย ให้เข้ากับบรรยากาศ (ล้อเล่นนะะ)
Cr: DARIN | ダーリン
หลังจากที่เราถ่ายภาพแบบเมาดิบกันแล้ว ต่อไปเราไปดื่มของจริงกันดีกว่า ฮุฮุ เพราะที่แห่งนี้เขามีให้เราชิมสาเกชนิดต่างๆ มีทั้ง สาเกบ๊วย (Nigori Ume-shu) สาเกผลยุซุ (Nigori Yuzu-shu) และชนิดอื่น ๆ ค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
อ้าวคุณลุงสวัสดีค่ะ (ล้อเล่นค่ะ หนูขอประทานอภัยค่ะ) ภายในพิพิธภัณฑ์ก็มีร้านขายสินค้าจากสาเกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สาเกระดับคุณภาพ Hakutsuru-Nishiki ที่ได้รับรางวัลระดับเหรียณทองและมีขายเฉพาะที่นี่เท่านั้น ที่มาส์กหน้า ครีมทาผิว ขนมจากสาเก แก้วสาเก และสินค้าละลานตาอีกมากมายเลยค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือสิ่งนี้ เพราะที่ไทย(น่าจะ)ไม่มีแน่นอน ซอฟต์ไอศรีมสาเก แสนอร่อย! กลมกล่อมมีรสสาเกนิด ๆ และรสชาติของนมหน่อยๆ สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ไม่ชอบรสสาเกจัดจ้าน มาลองชิมสิ่งนี้กันค่ะแล้วจะติดใจ เพียง 300 เยน เท่านั่นเอง
Hakutsuru Sake Brewery Museum (白鶴酒造資料館)
ที่อยู่ | 4-5-5, Sumiyoshiminami-machi Higashinada-ku, Kobe-shi, Hyogo Prefecture 658-0041 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินทางจาก Sannomiya (三宮駅)ด้วยรถไฟสาย Hanshinhonzen(阪神本線)มุ่งหน้าสู่จากสถานี Umeda 梅田駅 ลงที่สถานี Sumiyoshi (住吉駅)เป็นเวลา 20 นาทีแล้วเดินต่ออีก 5 นาที ค่าโดยสาร 190 เยน หรือขับรถจากสถานีใช้เวลาเพียง 15 นาที (มีที่จอดรถ) |
เวลาทำการ | 9:30 – 16:30 น. (ประตูเปิดให้เข้าถึง 16:00 น.) |
วันปิดทำการ | ช่วงหน้าร้อน 13 สิงหาคม – 17 สิงหาคม 2018 ช่วงปีใหม่ 28 ธันวาคม 2018 – 4 มกราคม 2019 |
ราคา | ไม่เสียค่าใช้จ่าย |
โทรศัพท์ | 078-822-8907 |
Rokko Cable Car (六甲ケーブル下駅): เคเบิลคาร์พาสู่ยอดเขา
Cr: DARIN | ダーリン
หลังจากชิมผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ทำจากสาเกแล้ว เพื่อน ๆ อย่าเพิ่งเมานะคะ เพราะเราจะไปขึ้นเคเบิลคาร์กันค่ะ เมาไม่ขับ นั่งเคเบิลคาร์ก็อย่าเมานะคะ 555
Cr: DARIN | ダーリン
เคเบิลคาร์นี้จะพาเราขึ้นไปถึง Rokkosan ซึ่งเป็นสถานที่ชมวิวอันดับต้นๆของญี่ปุ่น แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น อยากบอกเพื่อน ๆ ว่า ระหว่างที่เรานั่งเคเบิลคาร์ เราก็สามารถชมวิวรอบ ๆ ของภูเขา ที่มีสีเขียวขจีและดอกไฮเดรนเยียที่จะมีเฉพาะในช่วง เดือน 6 หรือช่วงเข้าหน้าร้อนได้ค่ะ และยิ่งถ้าเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะได้ชมความงามของใบไม้สีแดง เหลือง และเขียวที่ตัดกันได้อย่างลงตัว อยากจะบอกว่าถึงแม้ด้านล่างจะร้อน แต่พอนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นเขามารู้สึกเย็นสบายมากค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
หลังจากที่เราขึ้นมาแล้ว ก็ยังไม่ถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะไปค่ะ เพราะบนเขา Rokko เราจะเที่ยวกันด้วยรถบัสที่จะพาเราไปส่งตามป้ายที่เที่ยวต่างๆ ที่สำคัญบนเขา Rokko มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ไปเยอะมาก หญิงเลยอยากแนะนำพาส สำหรับมาเที่ยวที่ Rokko แถมไปด้วยเลยจ้า นั่นก็คือ Rokkosan Tourist Pass ราคาแค่ 1,000 เยนเฉพาะชาวต่างชาติอย่างเราเท่านั้น สามารถใช้เดินทางรถบัสได้ทั้งหมด และส่วนลดค่าเข้าที่เที่ยวบน Rokko ด้วยคุ้มค่าที่สุดเลย
Rokko Cable Car
วิธีเดินทาง | เดินทางจาก Hakutsuru Sake Brewery Museum โดยรถบัสหมายเลข 16 ที่ป้ายHanshinmigeki (阪神御影バス停) ลงป้าย Rokko Cable Shita (六甲ケーブル下) ใช้เวลาทั้งหมด 45 นาที ค่าเดินทาง 210 เยน หรือ ② เดินทางจาก Sannomiya (三宮駅)ด้วยรถไฟสาย Hanshinhonzen(阪神本線)มุ่งหน้าสู่จากสถานี Umeda 梅田駅 ลงที่สถานี Rokko(六甲駅)เป็นเวลา 7 นาทีแล้วขึ้นรถบัสหมายเลข 16 ที่ป้าย Hankyu-Rokko 阪急六甲 เป็นเวลา16 นาที ค่าโดยสารทั้งหมด 400 เยน ช่วงเวลาทำการ : 7:40 – 21:10 น. |
---|---|
เวลาทำการ | 7.40-21.10 น. ไม่มีวันหยุด |
ราคา | ค่าขึ้นเคเบิลคาร์รอบละ สำหรับผู้ใหญ่ (อายุ 12 ขึ้นไป) 590 เยน , สำหรับเด็ก( 6-11) 300 เยน |
Rokko International Musical Box Museum (六甲オルゴールミュージアム): หีบเพลงบอกเล่าเรื่องราว
Cr: DARIN | ダーリン
หลังจากที่เรานั่งเคเบิลคาร์ ต่อด้วยกระโดดขึ้นรถบัสแล้ว สถานที่ต่อไปก็คือ Rokko International Musical Box Museum พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงหีบเพลงหายากมากมาย ที่มาจากตะวันตกในช่วงยุคศตวรรษที่ 19 และช่วงต้นของยุคศตวรรษที่ 20 ทุกๆ ครึ่งชั่วโมงที่นี่จะมีจัดการแสดง เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้สัมผัสถึงเสียงเพลงที่บรรเองออกมาจากหีบเพลง และจากเครื่องดนตรีน่าหลงไหล
Cr: DARIN | ダーリン
และภายในพิพิธภัณฑ์ในส่วนของห้องขายของที่ระลึก ชั้น 1 พอเข้าไปแล้วจะให้ความรู้สึกคล้ายกับ Otaru Music Box Museum ที่มีย่อมเยาลงมาเท่านั่นเอง สินค้ามากมายภายในร้านก็น่ารักมาก เหมาะกับเพื่อน ๆ ที่ชอบสะสมของสวย ๆ งาม ๆ และชอบหีบเพลงโดยเฉพาะเลยนะ
Cr: DARIN | ダーリン
ภายในพิพิธภัณฑ์ก็มีให้เราทำเวิร์คช็อปด้วย เวิร์คช็อปนี้ เราสามารถที่จะทำหีบเพลงของตัวเอง โดยการเลือกเพลงที่ชอบจากนั้นก็นำมาจูนเสียง แต่การจูนเสียงมีความลับอย่างหนึ่งค่ะ นั่นคือแต่ละคนจะจูนเสียงได้ออกมาไม่เหมือนกัน เพราะเสียงของเพลงที่ออกมาจะขึ้นอยู่กับนิสัยของคนทำขึ้นมานั่นเอง โอ้โห ล้ำไปอีก
Rokko International Musical Box Museum
ที่อยู่ | 4512-145 Kita-Rokko , Rokko Yama-Chou ,Nada-ku ,Kobei-shi , Hyogo Prefecture 657-0101 |
---|---|
วิธีเดินทาง | สถานีหมายเลข R01 Rokko Cable Sanjo (六甲ケーブル山上駅) ลงที่สถานีหมายเลข R04 Rokko Internstional Musical Box Museum(オルゴールミュージアム前) |
เวลาทำการ | 10:00 – 17:00 น. |
วันปิดทำการ | ช่วงฤดูใบไม้ผลิ วันที่ 6 กันยายน 2018 และ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2018 ช่วงฤดูหนาว วันที่ 31 ธันวาคม 2018 – 1 มกราคม 2019 และทุกวันพฤหัสบดี (ทว่า วันที่ 21 และ 28 มีนาคม เปิดทำการปกติ ) |
ราคา | 1030 เยน (หากมี Rokkosan Tourist Pass : 820 เยน ) |
โทรศัพท์ | 078-891-1284 |
Rokko Garden Terrace (六甲ガーデンテラス): เมืองเล็กๆของปีเตอร์แรบบิท
Cr: DARIN | ダーリン
และที่ต่อไปใกล้ ๆ กับพิพิธภัณฑ์เลย นั่นคือ Rokko Garden Terrace เป็นจุดชมวิวที่มีร้านค้าและร้านอาหาร สำหรับให้เพื่อน ๆ ได้พักผ่อนและชมวิวทิวทิศน์ แน่นอนว่าถ้าหญิงแนะนำที่นี่ต้องมีอะไรพิเศษแน่นอนค่ะ เพราะที่ Rokko Garden Terrace ติดอันดับ 3 จุดชมวิวยามค่ำคืนที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่นจ้า
Cr: DARIN | ダーリン
นี่คือทิวทัศน์ยามกลางวันของที่นี่ ที่สามารถมองเห็นวิวตั้งแต่เมืองโกเบ ไปถึงอ่าวโอซาก้าเลยด้วยแหละเพื่อนๆ
Cr: DARIN | ダーリン
และยิ่งถ้าเป็นตอนกลางคืนนะเพื่อน ๆ มองจากจุดๆนี้ จะเห็นไฟยามค่ำคืนของเมืองโกเบได้ทั้งหมดเลย
Cr: DARIN | ダーリン
โดมแปลกๆนี้ คือ Rokko-Shidare Observatory (六甲枝垂れ) เป็นจุดชมวิวสูงสุดบนเขา Rokko ที่มีสถาปัตยากรรมที่โดดเด่นและแปลกมากๆ มีแรงบันดาลใจมากจาก ต้นไม้และกิ่งก้านใบไม้
Cr: DARIN | ダーリン
ภายในจะคล้ายกับห้องโถงใหญ่ ๆ มีลูกเล่นพิเศษ คือภายในถ้าเป็นในช่วงหน้าร้อนจะเย็นสดชื่น แต่ถ้าเป็นเป็นฤดูหนาวจะกลับอบอุ่นจากความพอดีของแสงอาทิตย์ได้อย่างน่าแปลกประหลาด สาเหตุมากจากห้องนี้สร้างให้คงอุณหภูมิให้พอดีได้และมีน้ำไหลเวียนอยู่ด้วยตลอดเวลา โดยกลไกที่ว่าด้านล่างจะมีห้องน้ำตั้งอยู่สองข้าง และส่วนตรงกลางคือช่องลม เมื่อในอากาศร้อนลมเย็นจะถูกพัดมาจากข้างล่างทำให้สดชื่นค่ะ นี้คือการปรับอากาศแบบธรรมชาติ
Cr:Feel good
Rokko-Shidare Observatory ก็เป็นจุดที่เหมาะมากสำหรับมองพระอาทิตย์ตอนจะตกดิน และความพิเศษของสถาปัตยากรรมนี้อีกอย่างคือในตอนกลางคืน ส่วนของโดมจะเป็นไฟเรืองแสงเปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ ค่ะ สุดยอดไปเลยเนอะ แค่ ว้าวววว อย่างเดียวก็คงไม่ได้ ต้องลองมาดูด้วยตัวเองนะ ค่าเข้าชม 300 เยนจ้า
Cr: DARIN | ダーリン
และช่วงที่หญิงไปเป็นช่วงของงาน Rokko Art หรือ British Fair at Mt.Rokko ที่มีน้องพี่ปีเตอร์แรบบิทจากอังกฤษมาให้เราได้ชื่นชมความน่ารัก แต่ทว่าพี่ปีเตอร์แรบบิท จะอยู่กับเราถึงแค่ถึงวันที่ 2 กันยายน 2018 เอง แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะงาน Rokko Art จะจัดขึ้นอีกและเปลี่ยนตัวละครไปเรื่อย ๆ ให้ได้ลุ้นกันเล่น ๆ อิอิ
Cr: DARIN | ダーリン
และนี่คือหอคอยพี่ปีเตอร์แรบบิทที่ขึ้นไปแล้วสามารถมองไปทั่ว Rokko Garden Terrace เลย
Cr: DARIN | ダーリン
เดินเล่นมาหลายที่แล้ว เราไปแวะทานอะไรอร่อย ๆ กับบรรยากาศน่ารัก ๆ ของร้านอาหารสไตล์บ้านปีเตอร์แรบบิทกันดีกว่าดู ๆ เพื่อน ๆ ประตูหน้าร้านยังน่ารักมากขนาดนี้ แน่นอนว่า….
Cr: DARIN | ダーリン
ข้างในร้านก็น่ารักมากๆเช่นกันค่า ฮือ ปลิ้มมาก เดินเข้าไปกันเลยดีกว่า เย้! แต่อ้าว หญิงลืมบอกชื่อร้านให้เพื่อน ๆ รู้ อิอิ ร้านนี้ชื่อว่า Granite Cafe ค่ะ อยู่ใกล้ๆกับหอคอยพี่แรบบิทเลย
Cr: DARIN | ダーリン
และในที่สุดหญิงก็มาถึงจุดๆ นี้ จุดที่เหงาแล้วต้องมากินข้าวกับกระต่าย ไม่ใช่แล้วค่ะ! หญิงล้อเล่น อิอิ เรามากินกับพี่แรบบิทเพื่อเพิ่มความมุ่งมิ้งให้กับเมนูอาหารนี้ค่ะ เมนูที่หญิงสั่งคือ Granite lunch ปลาค็อตทอดราดด้วยซอสมะเขือเทศ ราคา 1,836 เยน
Cr: DARIN | ダーリン
และแน่นอนว่าหลังมื้ออาหาร เราก็ต้องตบท้ายด้วยขนมหวานสุดแสนจะน่ารักจานนี้ ปีเตอร์แรบบิทสโคน ในราคา 626 เยน ค่ะ อยากบอกว่าอร่อยแบบแปลก ๆ ดีค่ะ ต้องมาลอง
Cr: DARIN | ダーリン
หลังจากที่กินอิ่มแล้ว เราไปช้อปของฝาก น่ารัก ๆ ที่มีลวดลายความคิ้วท์ของพี่ปีเตอร์แรบบิทกันดีกว่า ร้านของฝากมีขายทั้ง จาน กระดาษ ขนม คุ้กกี้ ผ้าเช็ดหน้า และอีกหลายอย่างเลย
Rokko Garden Terrace
ที่อยู่ | 1877-9 Gofukeyama , Rokko Yama-Chou ,Nada-ku ,Kobei-shi , Hyogo Prefecture 657-0101 |
---|---|
วิธีเดินทาง | สถานีหมายเลข R01 Rokko Cable Sanjo (六甲ケーブル山上駅) ลงที่สถานีหมายเลข R07 Rokko Garden Terrace (六甲ガーデンテラス) |
เวลาทำการ | วันธรรมดา จันทร์ – ศุกร์ 9:30 – 21:00 น. วันหยุด เสาร์- อาทิตย์ 9:30 – 22:00 น. |
ราคา | ไม่เสียค่าใช้จ่าย |
โทรศัพท์ | 078-894-2281 |
Arima Onsen (有馬温泉): ออนเซนผ่านมาแค่จุ่มลง
Cr: DARIN | ダーリン
หลังจากที่เราไปตะลอนมาแล้วหลายที่ ก็มีบ้างที่จะปวดเมื่อย ปวดเท้านิด ปวดขาหน่อย หรือรู้สึกว่าวันนี้ตากแดดเยอะจังต้องการบำรุงผิว หญิงขอแนะนำที่นี้เลยค่ะ Arima Onsen เป็นที่ที่ไม่ต้องพักเรียวคัง เราก็เข้าไปสัมผัสถึงความสบายในการแช่ออนเซนได้แบบชิวๆเลย
และที่นั่นก็คือ Taiko No Yu จ้า จุดเด่นของอาริมะออนเซนคือ ออนเซนเซนที่นี่ มีอยู่สองแบบ แบบแรกคือ Kin sen น้ำสีทอง มีคุณสมบัติบำบัดความเครียดและช่วยเรื่องผิวพรรณ อีกแบบคือ Gin sen น้ำสีเงินมีคุณสมบัติคลายอาการปวดเมื่อยและช่วยบำบัดอาการความดันโลหิตสูง
Cr: DARIN | ダーリン
อ้าว หนูระวังตกน้ำลูก เดี๋ยวน้ำขุ่น อิอิ (พี่ล้อเล่นจ้า)เรามาคุยเรื่องของเรากันต่อดีกว่าค่ะเพื่อน ๆ ปล่อยน้องเล่นน้ำไปก่อน เพื่อน ๆ เห็นสะพานสีแดงทางนั้นไหมคะ นี่คือสะพานไม้เล็ก ๆ สีแดงใจกลางเมืองอาริมะออนเซน ซึ่งตั้งตามชื่อของภรรยาของท่าน Toyotomi Hideyoshi สะพานนี้มีชื่อว่า Nene-Bashi นั่นเอง
Cr: DARIN | ダーリン
อุ้ย! ขาเต็มไปหมดเลยยย นี่คือคินเซนหรือเรียกว่าบ่อน้ำสีทอง เอาไว้แช่เท้าให้เท้าแดงเล่น ๆเหมือนใส่ถุงเท้าวันคริสต์มาส ไม่ใช่ค่ะ อิอิ เอาไว้แช่เพื่อความผ่อนคลายหลังจากเดินมานาน ๆ ค่ะเพื่อนๆ ที่สำคัญแช่ได้ 24 ชั่วโมงแถมฟรีอีกนะคะ
Cr: DARIN | ダーリン
บรรยากาศภายในเมืองอาริมะออนเซนก็ประมาณนี้เลยค่ะ มีร้านขายองมากมาย ไม่ว่าจะเสื้อผ้า ร้านขนม ร้านของเก่า และแน่นอนคือ เรียวคังค่ะ ได้ยินมาว่าเรียวคังติดท๊อปของที่นี้คือ Arima grand hotel ค่ะเพื่อนๆ ดียังไงอย่าลืมมาบอกหญิงด้วยนะคะ
Cr: DARIN | ダーリン
ตัวอย่างร้านขนมดังเดิมของเมืองนี้ค่ะ เมืองนี้ดังเรื่องนำน้ำออนเซนที่มีแร่ธาตุมากมายมาทำเป็นขนมเซนเบ ที่สอดไส้ช็อคโกแลค ชาเขียว วานิลา และรสชาติอื่นอีกมากมาย แถมมีให้ชิมอีกด้วย
Cr: DARIN | ダーリン
และที่น่าแปลกใจคือที่เมืองอาริมะออนเซนมี Arima Toys &Automata Meseum ตั้งอยู่ด้วยค่ะ มิวเซียมนี้เพื่อน ๆสามารถย้อนวัยไปในช่วงตอนเด็ก ๆ ที่เล่นของเล่นซึ่งทำจากไม้ จากอลูมีเนียมได้อย่างเพลิดเพลินบอกเลย อยากรู้ว่าเพลินขนาดไหนก็ต้องมาลองเล่นกันแล้วค่ะ ในส่วนของค่าเข้าชม ผู้ใหญ่อยู่ที่ ราคา 800 เยน เด็กราคา 500 เยนจ้า เปิด 9:30-18:00 นะจ๊ะ
Arima Onsen
ที่อยู่ | 790-3 Arima-cho, Kita-ku ,Kobei-shi , Hyogo Prefecture 6571-1401 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จาก Rokko Garden Terrace เดินไปที่ Rokko-Arima Ropeway ใช้เวลา 4นาที หลังจากนั่นขึ้น Ropeway จากสถานี Rokkosancyou(六甲山頂駅)ไปที่สถานี Arima onsen(有馬温泉) ใช้เวลา 12 นาที ราคา 1,010 เยน |
เวลาทำการ | เปิดตลอดเวลา |
โทรศัพท์ | 078-904-0708 |
Michi-no-Eki KOBE Fruit&Flower Park Ozo (道の駅 神戸フルーツ・フラワーパック大沢): สวนแห่งความสนุก
Cr: DARIN | ダーリン
หลังจากที่เราไปพักผ่อน อาบน้ำแร่เงินแร่ทองกันแล้ว ร่างกายก็สดชื่นขึ้นมาทันที สถานีต่อไปของเราคือ Michi-no-Eki KOBE Fruit & Flower Park Ozo หรือ Farm Circus เป็นสวนที่ครบรสมากจริง ๆ ค่ะเพื่อน ๆ เพราะมีทั้งดอกไม้สวย ๆตามฤดูกาล ผลไม้อร่อย ๆ และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เหมาะสำหรับมาเป็นครอบครัว หรือจะมากันแบบไหนก็สนุกได้แบบเต็มที่เลยจ้า
Cr: DARIN | ダーリン
เริ่มจากที่แรกเลยละกันค่ะเพื่อน ๆ สวนสนุกแห่งนี้มีเครื่องเล่น ทั้งหมด6ชนิด ราคาประมาณ 200-400 เยน ต่อครั้ง และที่สำคัญเลยค่ะพิเศษมาก ๆ สำหรับเด็ก ๆ ค่ะ ผู้ใหญ่อย่างเราเล่นไม่ได้ ฮือ แต่พาน้อง ๆ หนู ๆ ลูกหลานเรามาเล่นได้ค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
อย่างเช่นเครื่องเล่นม้าหมุนนี้ คนญี่ปุ่นเรียนว่า merry-go-round ค่ะ น่ารักมากเลยอย่างกับหลุดมาจากแฟรี่เทล จัดไปค่ะ 300 เยน ส่งลูกส่งหลานไปเป็นตัวแทนค่ะ ทางเราก็ยืนถ่ายรูปเอาละกันนะคะ อิอิ
Cr: DARIN | ダーリン
หลังจากที่เดินเล่นอยู่ในสวนสนุกแล้ว ก็ออกมาพักผ่อนที่ร้านนี้กันเลยค่ะเพื่อน ๆ มีขายอาหารเครื่องดื่ม ขนม นมเนย ขนมปัง ให้เลือกเยอะแยะมากมาย ที่สำคัญด้านหน้าเขาบริการแช่ออนเซนเท้าด้วยค่ะ ฟรี !!
Cr: DARIN | ダーリン
และร้านนี้ก็คือร้าน Days Kitchen ร้านนี้โดดเด่นเรื่องพิซซ่าอิตาลีมาก เขาบอกมาค่ะ(ไม่รู้ว่าเขาคือใคร อิอิ)และยิ่งไปกว่านั้นคือมีให้เลือกชนิดผักถึง 10 ชนิดไว้ไปปทำพิซซ่าด้วย เฮลตี้มากกก ในราคาเพียง 1,300 เยน หรือถ้าไม่อยากทานพิซซ่าที่นี่ก็มีบริการเครื่องดื่มอร่อย ๆ ด้วย
Cr: DARIN | ダーリン
สถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องผลไม้ แน่นอนว่าในแต่ละหน้าของฤดูผลไม้ ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนตุลาคม ก็มีกิจกรรมบุฟเฟ่ต์ผลไม้ที่ต่างกันไปแต่ละเดือนด้วยอย่างเช่นในปลายเดือนกรกฎาคม จัดกิจกรรมบุฟเฟ่ต์ลูกพีช (โมโมะ) ในราคา 1,200 เยนหรือจะเป็นในช่วงต้นเดือนสิงหาคม จะเป็นกินกรรมเก็บองุ่นในราคา 1,500 เยน นอกจากลูกพีช องุ่น แล้ว ก็ยังมีแอปเปิ้ลในช่วงปลายเดือนกันยายนด้วย
Cr: DARIN | ダーリン
สวนแห่งนี้ก็ยังมีดอกไม้ และสถาปัตยกรรมที่สวยมาก ไว้ให้เพื่อนๆมาเดินเล่น ถ่ายรูปสวย ๆ
Cr: DARIN | ダーリン
ภายในสถานที่แห่งนี้ก็มีโรงแรมที่แอบซ่อนอยู่ภายใน เป็นโรงแรมที่สวยมากใหญ่มาก ไม่เหมือนกับอยู่ที่ญี่ปุ่นเลย พอเดินเข้าประตูมา โรงแรมนี้ชื่อว่า Kobe Hotle Fruit&Flower หากเพื่อน ๆ คนไหนสนใจ ก็สามารถติดต่อสอบถามเข้าไปพักได้นะคะ
Michi-no-Eki KOBE Fruit&Flower Park Ozo
ที่อยู่ | 189 Ubayanagicho Nakagyo-ku Kyoto Kyoto |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินทางจาก Arima onsen(有馬温泉) นั่งรถแท็กซี่ 18 นาทีหรือ เดินทางจากสถานีรถบัส Sannomiya (三宮駅バスターミナル) โดย รถบัส Shinki(神姫バス)หมายเลย 38 ใช้เวลา 35 นาที (ให้บริการเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) |
เวลาทำการ | 9:00-17:00 น. |
โทรศัพท์ | 078-954-1010 |
Kobe-Sanda Premium outlets (神戸三田プレミアム・アウトレット): สวรรค์นักช้อปแบรนด์ชั้นนำในราคาเกินคาด
Cr: DARIN | ダーリン
หลังจากที่เราไปเที่ยวมาแล้วหลายที่มาก แต่ก็ยังไม่ได้ช้อปเป็นจริงเป็นจังเลยเนอะเพื่อน ๆ ณ จุดๆนี้เราควรจะเปิดศึกช้อปกันได้แล้วค่ะ! ด้วยการพามาปิดทริปนี้กับสถานที่ที่เป็นสวรรค์ของนักช้อปแบรนด์ชั้นนำในราคาที่สุดแสนจะดี ที่ Kobe-Sanda Premium outlets จ้าาาา
Cr: DARIN | ダーリン
เอาท์เล็ตแห่งนี้มีร้านค้าชั้นนำจากทั่วโลกถึง 210 ร้าน แค่รู้จำนวนร้านค้าแล้วก็เห็นสภาพอนาคตตัวเองเลยค่ะ ฮ่าๆ ไม่ว่าจะเป็น Adidas, Balenciaga, Billabong, Coach, Dr.Martens, Gap, Godiva
Gucci, Issey Miyake, Jimmy Choo, Lego, Marc Jacobs, Nike, Nikon, Reebok, Saint Laurent, Swarovski, Timberland, Vans และอื่น ๆ อีกมากมายเลยค่ะเพื่อน ๆ แค่เห็นชื่อร้านค้าก็ปลื้มค่ะ ขอบอกเลย
Cr: DARIN | ダーリン
และก่อนอื่นที่เราจะไปช้อปกัน หญิงขอแนะนำให้มาหาสองสวยคนสวยก่อนค่ะ เพราะไม่ใช่แค่เขาจะตอบคำถามเราเท่านั้น แต่หากว่าเรายืนพาสปอร์ตให้เขาปุ๊ป เขาจะยื่นโบว์ชัวร์ลิสต์ชื่อร้านต่าง ๆ พร้อมกับส่วนลดมาให้ค่ะเพื่อนๆ และที่สำคัญก่อนไปช้อปก็อย่าลืมแผนที่นะคะ ขอได้จากที่นี่เหมือนกันจะได้วางแผนเปิดศึกได้ถูกค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
นอกจากที่นี้จะเป็นการรวมตัวของสินค้าหลากหลายชนิดที่ข้ามน้ำ ข้ามทะเลมาแล้ว ก็ยังลดราคาไปถึง 70% เลยด้วย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแบรนด์หรูอย่าง Prada, Balenciaga,Marc Jacobs หรือ Saint Laurent ก็ตาม ก็ลดราคากันแบบไม่มีใครน้อยหน้าใครเลยค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
เรามายกตัวอย่างร้านแรกเลยดีกว่าค่ะ ร้านนี้ไม่ติดป้ายสีแดงนะคะ ติดสีดำค่ะ แต่ถึงจะดำแต่ตัวเลขก็ไม่ใจดำเลยค่ะ เพราะร้าน Coach จัดลดไป 50% แล้วก็ยังไม่พอ เขายังลดให้อีก ด้วยการให้คูปองลด 30% เมื่อเดินเข้ามาในร้าน แต่คูปองนี้เขามีให้เฉพาะวันพิเศษๆนะคะเพื่อนๆ(แต่อยากบอกว่าหญิงไปทุกครั้งเขาก็ให้ทุกครั้งเลยค่ะ ว้าว) และหากซื้อสินค้าสองชิ้นขึ้นไปตามเงื่อนไขของทางร้าน ก็จะลดให้อีก 10% ที่สำคัญคือเราในฐานะนักท่องเที่ยวแน่นอนว่าไม่ต้องจ่ายภาษีจ้า
Cr: DARIN | ダーリン
ที่เริ่ดสุด คือ ร้านเครื่องสำอางนามว่า Cosmetics & Designer Fragrances เขานำสินค้าเครื่องสำอางค์ชั้นนำ เช่น Shu uemura, LANCOME มาลดราคาให้เห็น ๆ ตั้ง 50% แถมให้อีกหน่อยละกันค่ะ ผลิตภัณฑ์ของ YVES SAINT LAURENT ก็มีนะลดกันไปเลย 40 %
Cr: DARIN | ダーリン
ส่วนเพื่อน ๆ คนไหน ชอบแนวสปอร์ต ก็ไม่ต้องน้อยใจเลยค่ะเพราะที่ Kobe Sanda Premium outlets ก็จัดมาทั้งขบวนแบรนด์สปอร์ต ไม่ว่าจะ Reebok ที่ลด 50% Adidas ที่ก็ลด 50% หรือจะเป็น Nike ที่ Sale ตั้งแต่หน้าร้านจนถึงมุมร้านเลยค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
สถานีต่อไปจะพาไปเป็นร้านของน้อง ๆ หนู ๆ หรืออาจจะสำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบ Lego ที่ไม่ว่าช่วงเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน การเล่นเลโก้ก็ถือว่าเป็นอะไรที่ไม่ล้าสมัยเลย ร้าน Lego ก็นำสินค้าออกใหม่ มาลดด้วยนะ
Cr: DARIN | ダーリン
หน้านี้มันร้อนเนอะค่ะเพื่อน ๆ รู้สึกว่าแสบตาหน่อย ๆ เนอะเวลาเดินช้อป แปลว่าของที่ต้องมีในวันนี้ก็คงต้องเป็นแว่นตากันแสบตาของร้าน Ray Ban ที่สินค้าทุกชนิดถูกจัดลดราคาไวตั้งแต่ 30% เลยจ้า ที่สำคัญมีสินค้าให้เลือกเยอะมากด้วยลองไม่ถูกเลย
มากกว่านั้นที่ Kobe Sanda Premium outlets แห่งนี้ก็มีไปถึงร้าน Nikon ร้านขวัญใจคนรักกล้องด้วยนะคะ อิอิ เขาจัดลดราคายังไงต้องเข้าไปดูเองแล้วแหละค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
เริ่มหิวแล้วแต่ขอหญิงแวะกลับไปที่ร้านเสื้อผ้าและกระเป๋าแบรนด์ขวัญใจสาว ๆ ก่อนที่เราจะไปหาอะไรลงท้องกันนะคะ แบรนด์นี้แน่นอนว่าถ้ามาญี่ปุ่นต้องซื้อกลับไทยค่ะ นั่นก็คือร้าน Issey Miyake ที่ลดถึง 70% ให้คนที่ชอบแบรนด์นี้ใจเต้นไปเล่น ๆ แต่อารมณ์อยากซื้อจริงจัง
Cr: DARIN | ダーリン
แป๊ปค่ะเพื่อนๆ ขอต่ออีกนิด แวะเข้าร้าน Prada แป๊ปค่ะอยากจะอวดว่าตอนหญิงเข้าไปคำนวณราคากระเป๋าใบหนึ่ง สวยมาก ๆ แต่ลดราคาเกือบครึ่งเลยค่ะเพื่อนๆ แน่นอนว่าใครชอบแบรนด์นี้ ไม่มาที่ Kobe-Sanda Premium outlets ไม่ได้จริงๆค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากพักผ่อน ขอนั่งทานอะไรชิลล์ ๆ สักหน่อย ก่อนที่จะไปช้อปต่อก็อย่าพลาด Food Gallery ของที่นี่เลยค่ะ เพราะมีทั้งร้านอาหารและขนมจำนวนกว่า 10 ร้าน
Cr: DARIN | ダーリン
ไม่ว่าจะเป็นร้านขายพิซซ่า Tana Forno ร้านอาหารญี่ปุ่น Hagakure (はがくれ)หรือจะเป็นร้านข้าวหน้าเนื้อ Donburi Yatai(丼ぶり屋台)ก็มีให้เพื่อน ๆเลือกสรรเยอะแยะเลย แถมให้กับบรรยากาศดี ๆ ของลานสวนอาหาร พร้อมกับ Free wifi ไม่ว่าจะอยู่ตรงจุดไหนของเอาท์เล็ตก็ใช้ได้
Cr: DARIN | ダーリン
และแน่นอนว่า ไม่ใช่แค่ใน Food Gallery ที่มีร้านอาหารร้านขนม ภายนอกระหว่างที่เราเดินช้อป ก็จะเจอร้านอาหารชั้นนำมากมาย เช่น ร้าน Real Dining Gafe , ร้าน Kobe Motomachi Doria ซึ่งเขาบอกว่าดังเรื่องชีสฟองดูว์
Cr: DARIN | ダーリン
พูดถึงแต่ร้านอาหาร อยากจะพามาร้านของหวานบ้างค่ะ ทาง Kobe-Sanda Premium outlets ก็ลงทุนลงแรง ยกร้าน Lindt ร้านช็อคโกแลตสุดแสนจะเข้มข้นจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาให้เพื่อน ๆ ได้ชิมในราคาที่สะเทือนกระเป๋าแต่ยิ้มแย้มเมื่อได้ลิ้มลอง เพราะขนาดแก้วเล็ก ไซส์น่ารักขนาดนี้ ก็ราคาเบาๆค่ะ ประมาณ 200 บาทเองค่ะ (ฮือ)
Cr: DARIN | ダーリン
และแล้วพระอาทิตย์ก็จะตกดินเข้าสู่บรรยากาศยามเย็นแล้วค่ะ เพื่อน ๆ คนไหนอยากจะเดินออกไปช้อปต่อให้ถึงมืด แล้วค่อยแบกร่างตัวเองกลับโรงแรมก็ไม่มีปัญหาเลยค่ะ หญิงสนับสนุน อิอิ เพราะกว่าจะหาที่ช้อปเริ่ด ๆ แบบนี้ได้ ก็ไม่ใช่จะหาได้ง่าย ๆเนอะคะ งั้นลุยต่อเลยค่ะ แต่ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนอยากกลับแล้ว เดี๋ยวหญิงพาไปขึ้นรถบัสกลับค่า อ้าว ลืมบอกไปเลยค่ะเอาท์เล็ตนี้อยู่ติดกับห้างอีออนด้วยและค่ะ
Cr: DARIN | ダーリン
เพื่อน ๆ คนไหนต้องการจะกลับสถานีซังโนมิยะ (三ノ宮駅) หรือจะสถานี Shin-Kobe(新神戸駅)ที่ Kobe-Sanda Premium outlets ก็มีบริการรถบัสไปส่งถึงที่เลยจ้า ป้ายรถบัสนี้ตั้งอยู่หลังเอาท์เล็ท ส่วนราคาค่าโดยสารอยู่ที่ 660 เยน ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 60 นาทีค่ะ และแน่นอนว่าสำหรับมนุษย์ช้อปอย่างเรา สัมภาระเยอะแน่นอน ทางรถบัสก็มีบริการเก็บของใต้รถที่กว้างมากให้สำหรับเพื่อนๆโดยเฉพาะเลย ถ้างั้นขึ้นรถและเดินทางกลับปลอดภัยนะคะเพื่อนๆ
Cr: YOKOSOJapan
แต่ก่อนที่เราจะจากกันไป หญิงมีโปรแกรมทัวร์เริ่ดๆ มาฝากเพื่อนๆด้วยนะคะ โปรแกรมนี้เริ่มรวมตัวที่สถานีรถไฟ JR โอซาก้า ต่อด้วยล่องเรือที่โกเบ แวะเดินเล่นชมบ้านเรือนสไตล์ตะวันตก พักทานอาหารกลางวันที่ CHISUN Hotel Kobe ต่อด้วยแช่ออนเซ็นที่เมืองอาริมะ ช้อปต่อที่ Kobe Sanda Premium Outlets สถานที่ช้อปปิ้งที่รวมแบรนด์ชั้นนำกว่า 210 แบรนด์ แถมทางเอาท์เล็ทยังมอบคูปองส่วนลดให้อีกด้วยค่ะ
ปิดท้ายวันดีๆด้วยกิจกรรม “นั่งรถบัสเปิดหลังคา” ชมวิวเมืองโอซาก้าค่ะเพื่อน ๆ แค่เห็นโปรแกรมก็ตื่นเต้นแล้วเนอะ แน่นอนว่าโปรแกรมนี้ เหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากไปเที่ยวโกเบแต่ตัวอยู่โอซาก้า ในส่วนของค่าใช้จ่ายนั่นอยู่ที่ 9,990-10,990 เยน ต่อ 1 ท่านค่ะ หญิงติดลิงค์ YOKOSO Japan ไว้ให้เพื่อนๆที่สนใจนะคะ คลิกได้เลยนะ >> YOKOSO Japan
เที่ยวโกเบ แวะช้อป Kobe Sanda Premium Outlet เอาท์เล็ทบอกเลยว่าฟิน
ครั้งนี้การช้อปของเราจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ไม่ต้องรอช่วงลดราคา ไม่ต้องรอฤดูกาลช้อป ยิ่งซื้อก็ยิ่งถูก ลดแล้วก็ลดอีก มีร้านค้าหลากหลายแบรนด์ชั้นนำอยู่ที่นี่กว่า 210 แบรนด์ บรรยากาศในการช้อปก็ดีเลิศ ต้องที่นี่เลยที่ Kobe Sanda Premium Outlets ไม่ใกล้ไม่ไกลจากศูนย์กลางเมืองโกเบ!
วิธีเดินทาง
① เดินทางจาก JR Kyoto Station ขึ้นรถบัสที่ JR Kyoto Station Beru Karasuma Gate (JR京都駅ビル烏丸口) วันเสาร์อาทิตย์ ตั๋วขาเดียว ราคาพิเศษจาก 2,000 เยน เหลือเพียง 1,350 เยน ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 27 นาที (ให้บริการเฉพาะเสาร์อาทิตย์ และวันที่ลดราคา
② เดินทางจาก Osaka International Airport(Itami Airport) สถานที่ขึ้นรถบัส ให้สอบถามทางสนามบิน ตั๋วไปกลับ ราคา 2,200 เยน ใช้เวลา 40 นาที (ให้บริการเฉพาะเสาร์อาทิตย์ และวันที่ลดราคา)
③ เดินทางจาก JR Osaka Station ตั๋วไปกลับ 2,400 เยน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที (ให้บริการทุกวัน)
④ เดินทางจาก Sannomiya (三宮駅バスターミナル) โดยรถบัส Shinki (神姫バス)ตั๋วขาเดียว 660 เยน ใช้เวลา 52 นาที (ให้บริการทุกวัน)
⑤ เดินทางจาก Fruit Flower Park โดยรถบัส Shinki (神姫バス) ตั๋วขาเดียว 360 เยน ใช้เวลา 15 นาที (ให้บริการทุกวัน)
Kobe-Sanda Premium outlets
ที่อยู่ | 7-3, Kouzudai, Kita-Ku, Kobe-Shi, Hyogo Prefecture 651-1515 |
---|---|
เวลาทำการ | 10:00-20:00 น. วันหยุด เดือนกุมภาพันธ์ วันพฤหัสบดีของสัปดาห์ที่ 3 |
โทรศัพท์ | 078-983-3450 |
ข้อสรุป
ในที่สุดการเดินทางครั้งนี้ก็จบไปอย่างฟิน ๆ และทำให้รู้ว่าโกเบไม่ได้มีแค่เนื้อย่างลายหินอ่อนที่สุดแสนจะอร่อย แต่เขายังเป็นสถานที่ผลิตสาเกแห่งสำคัญของญี่ปุ่น และยังมีสถานที่ดูวิวกว้างๆ สวย ๆ และออนเซนที่ติดอันดับต้น ๆ ต่อด้วยสวนผลไม้พร้อมบรรยากาศสไตล์ยุโรปและจบท้ายด้วยแหล่งช้อปปิ้งที่แน่นอนว่ามาโกเบแล้วต้องแวะเข้าไปช้อปให้ได้ และท้ายสุดแต่ไม่สุดท้ายนี้ หญิงขอฝากแหล่งท่องเที่ยวของเมืองโกเบ ให้เพื่อนๆได้มาเที่ยว พักผ่อน เติมพลังกันนะคะแล้วไว้เจอกันอีกนะคะเพื่อน ๆ กับบทความต่อไป สวัสดีค่า
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
เที่ยวแบบจุใจในโกเบ กับพิกัดที่เที่ยวพร้อมข้อมูลที่ต้องรู้ก่อนไป
14 ที่เที่ยวทั่ว โกเบ (Kobe) เที่ยวเมืองท่า แห่ง โกเบวากิว แค่ครึ่งชั่วโมงจากโอซาก้า
เป็นอีกหนึ่งเมืองยอดนิยมที่ผู้คนต่างมาเที่ยว และสำหรับใครที่อยากรู้ข้อมูลที่เที่ยวต้องอ่านบทความนี้เลย เพราะมีบอกครบทุกข้อมูลที่ต้องรู้ก่อนการเดินทาง ให้เตรียมตัวให้พร้อม เที่ยวให้สนุก และกินของเด็ดประจำเมืองที่ไม่ควรพลาด ใครอยากรู้ข้อมูลด้านไหนอ่านเลย