คนรักราเมงห้ามพลาด พิพิธภัณฑ์ราเมง Shin-Yokohama Ramen Museum เดินทางง่ายติดสถานี Shin Yokohama

ข้อมูลทั่วไปของ Shin – Yokohama Ramen Museum

พิพิธภัณฑ์ราเมง Shin – Yokohama เป็นสวนสนุกที่มีธีมเป็นราเมงแห่งแรกของโลก เปิดบริการเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ปีค.ศ. 1994 

ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้นั้น นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ราเมง นอกนั้นไม่พอที่นี่ยังมีคลาสสำหรับเรียนการทำราเมง โดยมีไฮไลท์อยู่ที่การทำเส้นราเมงโดยใช้ไม้ไผ่ตีซึ่งเป็นวิธีทำแบบดั้งเดิมมาจากจีนโบราณ (คลาสเรียนทำราเมงจะต้องจองล่วงหน้าก่อน สามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่ https://takigami-raumen.urkt.in/ja/direct/offices/2268/courses )

ทางด้านภายในพิพิธภัณฑ์นั้นได้จัดเป็นธีมญี่ปุ่นแบบยุคโดยมีปีค.ศ. 1958 เป็นพื้นหลัง ซึ่งปีค.ศ. 1958 นั้นเป็นปีที่มีการคิดค้นราเมงสำเร็จรูปสำเร็จครั้งแรกในโลก 

แนะนำร้านราเมงในพิพิธภัณฑ์

Ryu Shanghai Honten

ร้านราเมงร้านนี้ที่ต้นกำเนิดอยู่ที่จังหวัด Yamagata ทางภูมิภาค Tohoku เดิมที่นั้นร้านนี้ขายราเมงแบบโชยุราเมง แต่ว่าผู้คนมักจะเอาน้ำซุปกลับไปบ้านแล้วเติมมิโซะเข้าไป ทำให้เกิดเป็นมิโซะราเมงขึ้นมา โดยน้ำซุปจะทำมาจากมิโซะและปลาซาดีนตากแห้ง 

เมนูเด่นของร้านนี้คือ Karamiso Ramen หรือเรียกง่ายๆว่า ราเมงมิโซะแบบเผ็ด โดยตัว Karamiso นั้นจะว่างอยู่บนกลางชามแล้วค่อยๆละลายไปเรื่อยๆลงไปในซุป ในระหว่างที่กิน 

นอกจากมิโซะราเมงแล้วที่นี่ยังมีราเมงแบบ มังสวิรัติอีกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่กินเนื้อสัตว์ 

ราคาของราเมงร้านนี้อยู่ที่ประมาณ 680 เยน ถึง 1350 เยน

Rishiri Ramen Miraku

ร้านนี้มีต้นกำเนิดมาจากเกาะ Rishiri ที่จังหวัด Hokkaido โดยร้านนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ Yakishoyu Ramen ซึ่งราเมงชนิดนี้ มีน้ำซุปที่เคี่ยวกับกระดูกหมูและกระดูกไก่ ผสมกับสาหร่าย Rishiri ที่หาได้จากเกาะ Rishiri 

จากนั้นถ้ามีออร์เดอร์จากลูกค้า ทางร้านจะนำซีอิ๊วมาคั่วกับทะเลให้มีกลิ่นหอม จากนั้นก็น้ำซุปเคี่ยวไว้ก่อนหน้านี้มาผสมผสานกับซีอิ๊วที่คั่วในกระทะ ทำให้น้ำซุปมีความหอมกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น โดยเสิร์ฟพร้อม Topping อย่าง หมูชาชู เห็นหูหนู หน่อไม้ ต้นหอม และสาหร่ายทะเล

ราคาของราเมงร้านนี้อยู่ที่ 680 เยน – 1050 เยน

Asakusa Rairaiken

ร้านราเมงแห่งนี้เปิดเมื่อปีค.ศ. 1910 โดยร้านนี้เป็นร้านที่ทำให้กระแสการกินราเมงนั้นบูมขึ้นมา หลังจากผ่านไป 100 ปี ร้านนี้ราเมงแห่งนี้ก็ถูกชุบชีวิตอีกครั้งโดยเป็นร่วมมือกัน 3 ฝ่ายระหว่างทางพิพิธภัณฑ์ราเมง Shin – Yokohama, Shina Sobaya และทายาทของร้าน Rairaiken

ราเมงของร้านนี้นั้น น้ำซุปมีการเคี่ยวน้ำซุปที่มีเนื้อหมู ไก่ ปลาซาดีนแห้ง และผัก โดยเป็นเคี่ยวแบบช้าๆด้วยไฟอ่อนๆ 

เส้นราเมงของร้านนี้ทำมาจากข้าวสาลีที่เป็นสายพันธุ์โบราณ ทางดาน Topping หน่อไม้จากไต้หวัน และหมูย่าง

ราคาของราเมงร้านนี้เริ่มต้นที่ 680 เยน – 1540 เยน

Ryukyu Shinmen Tondou

ดูจากชื่อร้านแล้ว แน่นอนว่าร้านนี้มีต้นดำเนิดจากเกาะ Okinawa โดยราเมงร้านนี้ได้ก่อตั้งเมื่อปี 2001 ซึ่งว่าเป็นราเมงน้องใหม่ โดยปี 2021 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นการครบ 20 ปีของร้าน ทางร้านได้คิดสูตรราเมงชนิดใหม่ขึ้นมา ชื่อว่า Shin Onji Aji โดยใช้เวลาคิดค้นสูตร 1 ปี โดยเป็นการเอาเมนูของร้านที่ชื่อว่า Onji Aji มาดัดแปลงใหม่

น้ำซุปของราเมงร้านนี้เป็นการเคี่ยวระหว่างเนื้อหมู กระดูกผสมผสานกับน้ำซุปญี่ปุ่นที่มีส่วนผสมของสาหร่ายทะเล ปลาแห้ง และใส่เกลือลงไป ส่วน Topping นั้นเป็นหมูชาชูที่มีกรรมวิธีคือน้ำเนื้อหมูไปแช่ในน้ำเค็ม แล้วย่างหมู

ราคาราเมงของร้านนี้อยู่ที่ 710 เยน – 1080 เยน

Komurasaki

ร้าน Komurasaki มีถิ่นกำเนิดที่ Kumamoto ที่เกาะ Kyushu ซึ่งราเมงร้านนี้จะมีรสชาติของ Kumamoto Ramen โดยแท้จริง โดยจะใช้กระเทียมเจียวมาโรยในราเมง แทนที่จะใช้กระเทียมสดแบบราเมงคิวชูที่อื่นๆ

ส่วน Topping ก็จะเป็นหมูชาชู เห็ดหูหนู หน่อไม้  ส่วนน้ำซุปนั้นเป็นซุปกระดูกหมูที่ช้อนมัน และกากหมูที่เป็นส่วนเกินออกไป

ราคาราเมงของร้านนี้จะอยู่ที่ 680 เยน – 1300 เยน

วิธีการเดินทางมายัง Shin – Yokohama Ramen Museum

ตารางข้อมูล

Shin – Yokohama Ramen Museum

ดูแผนที่ Shin – Yokohama Ramen Museum

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับ Shin – Yokohama Ramen Museum

Cup Noodles Museum Yokohama

ที่ Yokohama ไม่ได้มีเพียงพิพิธภัณฑ์ราเมง แต่มีพิพิธภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปด้วย ซึ่งพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ใกล้กับ Cosmo World 

ภายในพิพิธภัณฑ์ก็เล่าเรื่องราวเกี่ยวประวัติของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รวมถึงมีกิจกรรมพิเศษให้นักท่องเที่ยวได้ทำเช่น การทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในแบบฉบับของตัวเอง และสามารถนำกลับไปรับประทานที่บ้านได้ด้วย

Cup Noodles Museum Yokohama

ดูแผนที่ Cup Noodles Museum Yokohama

Nissan Stadium

สนาม Nissan Stadium เป็นสนามกีฬาอเนกประสงค์ โดยสามารถจุคนดูได้มากถึง 75000 คน สนามแห่งนี้ใช้จัดกีฬาสำคัญๆเช่น ฟุตบอลโลก 2002 โดยเฉพาะนัดชิงชนะเลิศระหว่างบราซิลกับเยอรมัรน ก็เล่นที่สนามแห่งนี้ โดยเป็นสนามเดียวของญี่ปุ่นที่เคยจัดฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศ นอกจากฟุตบอลแล้วยังเคยจัดรักบี้ชิงแชมป์โลกด้วยเมื่อปีค.ศ. 2019 และยังใช้จัดคอนเสิร์ตอีกด้วยเช่นวง X-japan เมื่อปี 2010

ปัจจุบันสนามแห่งนี้ใช้เป็นสนามเหย้าของสโมสร Yokohama F. Marinos

สนาม Nissan Stadium

ดูแผนที่ สนาม Nissan Stadium

Mitsuike Park

ถ้าหากใครมาเที่ยว Yokohama ในช่วงที่ดอกซากุระบาน สวน Mitsuike ก็คือสถานที่ที่ต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

เพราะว่าที่สวนแห่งนี้นับว่าเป็น 1 ใน 100 จุดชมซากุระที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งจริงๆแล้วไม่เพียงแต่ช่วงซากุระเท่านั้นสวนแห่งนี้สามารถเที่ยวในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีได้อีกด้วย

Mitsuike Park

ดูแผนที่ Mitsuike Park

สรุป

พิพิธภัณฑ์ Shin – Yokohama Ramen Museum  คือสถานที่ที่คนรักราเมงห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะที่นี่จะมีทั้งประวัติราเมง คลาสสอนทำราเมง รวมถึงร้านราเมงเด็ดๆที่คัดมาอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักราเมงก็ไม่ผิดนัก