ซูชิ 3 ร้านเทพแห่งโตเกียว อร่อย การันตีด้วย 3 Michelin Stars!

Sushi Yoshitake ซูชิ หลากสไตล์ ที่ไม่ได้มีดีแค่รสชาติ

Cr: City Foodsters

บริเวณชั้น 3 ของอาคาร Suzuryu ย่าน Ginza คือ ที่ตั้งของร้าน Sushi Yoshitake บรรยากาศร้านตกแต่งด้วยไม้ในสไตล์ญี่ปุ่น เคาน์เตอร์บาร์ไม้ขนาด 7 ที่นั่ง สำหรับรองรับเฉพาะลูกค้าที่ทำการจองล่วงหน้า โดยเชฟ Yoshitake และผู้ช่วยเชฟจะคอยให้บริการเราอยู่หน้าเคาน์เตอร์อย่างใกล้ชิด ชนิดที่ว่าเห็นทุกขั้นตอนเลยล่ะค่ะ

Cr: City Foodsters

ซูชิและซาชิมิของที่นี่มีความพิเศษกว่าที่อื่น ๆ ตั้งแต่หน้าตาของ ซูชิ ไปจนถึงวิธีการจัดเสิร์ฟ แต่สิ่งสำคัญคือความสดใหม่ของวัตถุดิบ ซึ่งเชฟเลือกใช้และคัดสรรแต่ของดีมีคุณภาพ ตั้งแต่หอยเป๋าฮื้อ (Awabi) ที่ตัดแต่งเพื่อเลือกเอาส่วนที่อร่อยที่สุดเท่านั้น เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่ทำจากตับเป๋าฮื้อ ที่บอกได้เลยว่าคุณอาจไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน

Cr: City Foodsters

ซาชิมิปลาหมึก (Tako Sashimi) นุ่มละมุนลิ้นแทบจะละลายในปาก เป็นสัมผัสที่ต่างจากปลาหมึกแบบปกติที่เราเคยกิน ปลามากุโร่ 2 ส่วน คือ ส่วนท้อง (Otoro) และส่วนเนื้อแดง (Amaki) ถูกเชฟนำมาใช้ทำเป็นซูชิคำเดียวกัน เนื้อแดงไร้มันเข้ากันกับส่วนท้องที่มีมันมาก ทำให้รสชาติของซูชิคำนี้ลงตัวเป็นที่สุด

Cr: City Foodsters

ทุกเมนูถูกเสิร์ฟในอุณหภูมิที่ค่อนข้างอุ่น ต่างจากซูชิและซาชิมิเย็นที่เราคุ้นเคย จึงไม่แปลกใจเลยที่ร้าน Sushi Yoshitake แห่งนี้จะมีชื่อเสียงจนสามารถได้รับดาวจาก Michelin ถึง 3 ดวงโดยไม่ต้องไต่อันดับจาก 1 ดาวขึ้นไป

หากใครอยากมาลิ้มรสฝีมือของคุณ Yoshitake เชฟระดับ 3 ดาวแล้วล่ะก็ สามารถจองล่วงหน้าได้โดยให้เจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่ไปพักช่วยติดต่อให้ เนื่องจากทางร้านไม่สะดวกพูดคุยภาษาอังกฤษ และขอแนะนำให้จองล่วงหน้าก่อนเดินทางอย่างน้อย 1 เดือน เพราะลูกค้านั้นเยอะจริง ๆ ค่ะ

Sushi Yoshitake

Sushi Saito ซูชิ อันดับหนึ่งจาก Tabelog

Chef Takashi Saito was at @takabysushisaito the last two days. Get your name on the wait list for his next visit in November/December. Dates to be finalised soon. #3michelinstars #sushisaito #takabysushisaito

A post shared by Taka by Sushi Saito (@takabysushisaito) on Aug 15, 2016 at 8:41pm PDT

Sushi Saito เป็นอีกร้านที่ได้รับ 3 Michelin Stars เช่นเดียวกับร้าน Sushi Yoshitake และ Sukibayashi Jiro Honten โดยทางร้านนั้นสามารถรักษามาตราฐานของ 3 ดาว ไว้ได้มาตั้งแต่ปี 2009 ที่ได้รับดาวเป็นครั้งแรก และร้านแห่งนี้ยังได้รับการจัดอันดับให้ได้คะแนน 4.55 คะแนน จากเว็บไซต์ Tabelog ซึ่งเป็นคะแนนที่สูงที่สุดในบรรดา 3 ร้านอีกด้วย

ทางร้านมีเมนูให้เลือก 2 แบบ คือ การเสิร์ฟซูชิเพียงอย่างเดียวหรือจะเลือกแบบจัดเต็มที่มีทั้งซูชิและ Appetizer ด้วย ซึ่งในวันนี้เราจะขอพูดถึงแบบที่สองที่เป็นคอร์สจัดเต็มกันค่ะ

We are at the start of the Autumn season. Shinko (Baby Sardine) is now in season! Make your reservations now to try the latest new ingredient on our menu! #babykohada #seasonalmenus #takabysushisaito

A post shared by Taka by Sushi Saito (@takabysushisaito) on Sep 8, 2016 at 12:23am PDT

เริ่มกันด้วยไข่ปลาแซลมอน (Ikura) ที่เชฟเลือกนำผิวส้ม Yuzu มาโรยเพื่อตัดความเค็มและมันของไข่ปลา ทำให้ได้ทั้งความหอมและอร่อยกลมกล่อม ตามด้วยหมึกยักษ์ต้มซีอิ๊วรสหวาน ทานคู่กับวาซาบิและเกลือที่รสชาติตัดกันได้ดี โรลซาบะ (Saba Battera) ที่ดีทั้งกลิ่นและรสชาติ เพราะเนื้อปลาที่ถูกดองมาอย่างดี หอมมันเป็นที่สุด ยิ่งทานกับไชเท้าดองยิ่งอร่อย

Bafun Uni Gunkan Sushi #fresh #seasonalmenus #takabysushisaito #fatuni

A post shared by Taka by Sushi Saito (@takabysushisaito) on Feb 27, 2017 at 12:07am PST

ไข่หอยเม่น (Uni) ของที่นี่ถูกจัดเสิร์ฟในรูปแบบที่ต่างออกไป เชฟจะวางข้าวญี่ปุ่นแบบไม่ปั้นลงในจาน ท้อปปิ้งด้วย Uni ด้านบน ใส่วาซาบิเล็กน้อยเพื่อให้ทานง่าย แล้วให้เราใช้ช้อนในการตักกินแทนการใช้มือหยิบหรือตะเกียบคีบแบบซูชิ Uni คำนี้ปราศจากสาหร่ายอย่างที่คุ้นตา ทำให้ได้รสชาติของ Uni แบบเต็ม ๆ

และเมนูเด็ดที่พลาดไม่ได้ในคอร์ส ซูชิ นั่นคือ เมนูปลามากุโร่ที่ทางร้านเลือกใช้ปลาคุณภาพดีที่ไม่ผ่านการแช่แข็งและถูกบ่มจนได้รสชาติที่ต้องการ ทำให้เนื้อปลาที่เสิร์ฟมีรสชาติดีเยี่ยม โดยเชฟจะจัดเสิร์ฟพร้อมกัน 3 คำ คือ ส่วนท้อง (Otoro) ส่วนเนื้อใกล้ครีบ (Chutoro) และส่วนเนื้อแดง (Akami)

ร้าน Sushi Saito จะเปิดรับจองในวันแรกของแต่ละเดือน (ในวันทำการ) ลูกค้าที่เคยไปต่างบอกว่าเชฟที่นี่นั้นอัธยาศัยดี ชวนพูดคุยกับเราเพื่อสร้างความเฮฮาระหว่างมื้ออาหาร แม้จะจองยากแต่คงไม่เกินความสามารถของนักชิมชาวไทยแน่นอนค่ะ

Sushi Saito

Sukiyabashi Jiro Honten ซูชิฝีมือเชฟในตำนาน

Cr: sushi-jiro.jp/

Jiro Dreams of Sushi หนังสารคดีสะท้อนเรื่องราวของ Ono Jiro เชฟซูชิผู้มีฝีมือและฝึกฝนพัฒนาตนเองอย่างหนัก เขาพิถีพิถันในทุกขั้นตอนของการปั้นซูชิ ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การแล่ปลา การรมควันปลา การนวดปลาหมึก การย่างสาหร่าย การหุงข้าว และขั้นตอนอื่น ๆ ที่เขาลงมือทำด้วยความใส่ใจ

Cr: www.sushi-jiro.jp

จนในที่สุดร้าน Sukiyabashi Jiro Honten ก็ได้รับการจัดอันดับให้ได้รับ 3 Michelin Stars และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก จนแม้แต่ Barack Obama นายกรัฐมนตรีสหรัฐอเมริกายังมารับประทาน (ตอนท้ายของหนังแอบบอกไว้ว่าในวันที่ Michelin มาจัดอันดับนั้น ลูกชายของ Jiro เป็นผู้ปั้นซูชิ)

นี่คือซูชิที่อร่อยที่สุดตั้งแต่ผมเคยกินมา – Barack Obama ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาCr: Businessinsider

Cr: www.sushi-jiro.jp

“10 ที่นั่ง จองยาก เชฟดุ และไม่มีห้องน้ำ” คงเป็น 4 คำที่อธิบายร้าน Sukiyabashi Jiro Honten ได้ดี ถึงแม้จะดูยากลำบาก แต่นักชิมทั้งหลายต่างก็ใฝ่ฝันที่จะได้ไปชิมซูชิของที่นี่สักครั้งในชีวิต เพราะหลายเสียงที่มีโอกาสได้ลิ้มลอง ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “อร่อยที่สุดในชีวิต”

ซูชิของที่นี่เป็นซูชิสไตล์เอโดะ (Edomae Sushi) คือ เป็น Traditional Sushi ที่จะไม่มีการตกแต่งหรือเพิ่มลูกเล่นลงบนหน้าซูชิ มีเพียงวัตถุดิบหลักเท่านั้นที่เชฟเน้น

และความพิเศษที่ทำให้ร้านแห่งนี้แตกต่างจากร้านซูชิอื่นนั่นคือหน้าซูชิจะถูกเสิร์ฟในอุณหภูมิที่ต่างกันไป แบ่งได้เป็น 5 ระดับ ตั้งแต่เย็นที่สุด เย็นเล็กน้อย เย็นกว่าอุณหภูมิห้องเล็กน้อย อุณหภูมิห้อง และอุ่น ถือได้ว่าพิถีพิถันมากจริง ๆ

Cr: Sukiyabashi Jiro Honten

เมนูซูชิของที่นี่จะถูกเปลี่ยนไปไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน ขึ้นอยู่กับดูกาล โดยเชฟจะเป็นผู้จัดเมนูซูชิให้เอง ทั้งหมด 20 คำ และซูชิที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด คือ ไข่หอยเม่น (Uni) นั่นเอง แม้หน้าตาของเจ้า Uni จะไม่ได้สวยงามเหมือนกับร้านอื่น แต่รสชาตินั้นสุดยอดจริง ๆ เช่นเดียวกันกับปลาไหล (Anago) ที่ถูกนำไปต้มจนได้เนื้อนิ่มฉ่ำแทบจะละลายในปาก ซอสหวานที่ราดมาด้านบนก็แสนจะเข้ากันได้ดี แบบนี้ต้องขอสอง!

Cr: Sukiyabashi Jiro Honten

การจองร้าน Sukiyabashi Jiro Honten ต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน เนื่องจากคิวนั้นแน่นและเต็มเร็วมาก โดยอาจให้เพื่อนชาวญี่ปุ่นช่วยจองหรือให้ทางโรงแรมที่ไปพักจองให้ แต่เงื่อนไขหลักที่ทางร้านกำหนด คือ โรงแรมนั้นต้องเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว เนื่องจากทางร้านต้องการความมั่นใจว่าลูกค้าจะมารับประทานจริง ๆ เพื่อไม่ให้เตรียมวัตถุดิบเก้อ โดยที่ลูกค้าไม่มาตามเวลานัดแถมยังติดต่อไม่ได้อีกด้วย

Sukiyabashi Jiro Honten

ข้อสรุป

ไปญี่ปุ่นเมืองแห่งซูชิทั้งที หากไม่ได้ลองซูชิต้นตำรับคงเหมือนกับไปไม่ถึง ร้านทั้ง 3 ที่เราแนะนำ ไม่ใช่แค่ร้านซูชิต้นตำรับธรรมดา เพราะร้านเหล่านี้ได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับสูงสุดด้วย 3 Michelin Stars จาก MIchelin Guide เลยทีเดียว ลองเลือกมาสักหนึ่งร้านที่คิดว่าใช่แล้วไปลองชิมดูสักครั้งสิคะ