6 ออนเซ็น ทั่วคิวชู แช่ดี วิวเด่น คุณภาพเน้นๆ

1.เบปปุออนเซ็น (Beppu Onsen)

แหล่งออนเซ็นที่แรกที่จะมาแนะนำ คือ เบปปุออนเซ็น ซึ่งหลายๆ คนคงรู้จักกันดี เพราะเป็นแหล่งออนเซ็นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเบปปุออนเซ็นนั้นอยู่ในเขตโออิตะ ถือว่าเป็นเมืองที่มีออนเซ็นเยอะมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว มีบ่อน้ำแร่ธรรมชาติกระจายอยู่ทั่วทั้งเมือง จุดที่ทำให้ที่นี่ได้รับความนิยมก็คือ บ่อนรกทั้ง 8 ที่เรียกกันว่าบ่อนรกก็เพราะ แต่ละบ่อมีความแปลกในเรื่องของสี ทั้งบ่อสีแดงสด บ่อสีฟ้า บ่อโคลน เป็นต้น แต่ละบ่อก็จะมีสรรพคุรแตกต่างกันไป อย่างบ่อสีฟ้าก็จะมีคุณสมบัติที่ช่วยรักษาโรคผิวหนัง ที่นี่ส่วนมากจะเป็นบ่อแบบรวม แต่แยกชายหญิงชัดเจน ใครไม่กล้าเปลือยกลายก็สามารถใส่ชุดว่ายน้ำลงแช่ได้ แต่ถ้าจะแช่แบบให้ได้สัมผัสออนเซ็นโดยตรงก็ต้องแก้ผ้านะถึงจะรู้สึกดีกว่า

Cr: beppu-navi

แหล่งออนเซ็นของทีนี่ก็สามารถเดินทางมาได้ง่ายเลย จะนั่งแท็กซี่ รถโดยสาร หรือขับรถมาเองก็สะดวกมากเพราะอยู่ใจกลางเมืองโออิตะเลย แถมยังมีโรงอาบน้ำสาธารณะแบบดั้งเดิมอยู่มากถึงกว่า 100 แห่งเลยนะ แต่ว่าจะไม่มีเครื่องใช้ในห้องน้ำ แนะนำว่าให้เตรียมไปเองจะดีกว่า ส่วนเรื่องราคาก็ถือว่าถูกมากๆ อยู่ที่ 100-200 เยน เท่านั้นเอง น่าไปมากๆ เลยใช่ไหมล่ะ ยังไงก็ฝากเบปปุออนเซ็นไว้ด้วยนะ

Cr: beppu-navi

เบปปุออนเซ็น (Beppu Onsen)

2.ยูฟุอิน ออนเซ็น (Yufuin Onsen)

Cr: Amusouen

ยูฟุอินออนเซ็น เป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่เมืองยูฟุ จังหวัดโออิตะ บนเกาะคิวชู เป็นเมืองขนาดเล็กแต่มีเสน่ห์มากเลยทีดียว เพราะเป็นเมืองที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แต่ละฤดูก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันออกไป นอกจากนี้การมาแช่ออนเซ็นที่นี่นอกจากจะได้สบายตัวแล้ว ยังสามารถชมวิวของภูเขายูฟุ มองวิวทิวทัศน์ของเมืองก้จะรู้สึกสบายใจสุดๆ เลยแหละ น้ำพุร้อนหรือออนเซ็นของที่นี่ได้รับฉายาว่าเป็น “สรวงสวรรค์แห่งบ่อน้ำพุร้อน” ด้วยนะ เพราะเป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่อุดมสมบูรณ์มีตาน้ำถึง 852 จุด ถือว่าเป็นออนเซ็นที่มีตาน้ำมากเป็นอันดับสองในญี่ปุ่น และน้ำพุร้อนของที่นี่ไหลด้วยอัตรา 38,600 ลิตรต่อนาที ซึ่งมากเป็นอันดับสามในญี่ปุ่นอีกด้วย

Cr: musouen

Cr: yufuin-onsen

จุดเด่นของที่นี่ก็คงหนีไม่พ้นบ่อออนเซ็น เพราะมีสรรพคุณช่วยในเรื่องผิวสวยตามธรรมชาติ เรื่องของการรักษาความชุ่มชื้น รักษาโรคผิวหนังต่างๆ แช่แล้วผิวหนังเด้งเต่งตึงแน่นอน และอีกจุดเด่นที่ทำให้ที่นี่ได้รับความนิยม
ก็คือ ความเป็นเมืองชนบท โรงแรมและเรียวกังก็เรียบง่ายไม่ได้ใหญ่โต อากาศดีๆ วิวสวยๆ แถมยังมีทะเลสาบที่อยู่ส่วนท้ายของเมือง เราก็สามารถไปเที่ยวชมได้เหมือนกัน และที่ Yufuin Ryokan Sansoh Warabino มีบ่อ
ออนเซ็นกลางแจ้งสวยงามและใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ สรุปง่ายๆ เลยคือ ที่นี่ดีเยี่ยมที่สุดเลย ไว้ลองแวะมาเที่ยวกันนะ

ยูฟุอิน ออนเซ็น (Yufuin Onsen)

3.คุโรคาวะ ออนเซ็น (Kurokawa Onsen)

Cr: kurokawaonsen

มาต่อกันที่ คุโรคาวะ ออนเซ็น ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูเขาเอโซะ ในจังหวัดคุมาโมโตะ ออนเซ็นแห่งนี้ติดอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว ใครที่อยากแช่ออนเซ็นก็ต้องมีชื่อนี้อยู่ในใจกันบ้างแหละ เพราะว่าที่นี่มีเป็นเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมของหมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณอายุกว่า 300 ปี ตัวตึกอาคารต่างๆ ยังเป็นแบบสไตล์ญี่ปุ่น เมืองมีขนาดเล็กๆ ที่เดินได้รอบแบบสบายๆ ตลอดเส้นทางมีทั้งไม้และหิน มีแม่น้ำไหลผ่าน และถ้าเราเข้ามาภายในเมืองแล้วสิ่งหนึ่งที่มีตลอดทางเลยก็คือ โรงอาบน้ำแบบออนเซ็น มีเป็นทั้งแบบโรงแรมและเรียวกัง โดยที่คุโรกาวะออนเซ็นแห่งนี้มีออนเซ็นทั้งหมด 6 ประเภท คือ “บ่อออนเซ็นกรดอ่อน” มีสรรพคุณช่วยฟื้นฟูความเหนื่อยล้าและคลายความเครียด “ออนเซ็นด่างอ่อน” มีสรรพคุณด้านความงาม ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง “บ่อออนเซ็นกำมะถัน” ซึ่งมีสรรพคุณช่วยขับสารพิษต่างๆ ของร่างกาย “บ่อออนเซ็นกรดคาร์บอนิก” หรือจะเรียกอีกอย่างว่า
“บ่อแห่งความงาม” และ “บ่อออนเซ็นเกลือกำมะถัน” ซึ่งมีสรรพคุณช่วยเรื่องโรคความดันโลหิตสูงและโรคเส้นเลือดแข็ง ใครชอบแบบไหนก็สามารถเลือกแช่ได้ตามใจชอบ

Cr: kurokawaonsen

Cr: kurokawaonsen

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามาที่นี่ในฤดูใบไม้ร่วงล่ะก็จะเจอกับเมืองที่เต็มไปด้วยใบไม้หลากสี ทั้งแดง เหลือง ส้ม มีอยู่ทั่วทุกพื้นที่ นักท่องเที่ยวสามารถใส่ชุดยูกาตะและรองเท้าเกี๊ยะแบบญี่ปุ่นออกมาเดินเที่ยวชม ตามทางเดินระหว่างทางที่จะไปแช่ออนเซ็น หรือแช่ออนเเซ็นแล้วจะมาเดินเล่นก็ได้ มีร้านค้า ร้านอาหารอยู่เพียบ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่คลาสสิคมากเลย

คุโรคาวะ ออนเซ็น (Kurokawa Onsen)

4.อุนเซ็น ออนเซ็น (Unzen Onsen)

Cr: unzenonsen

อุนเซ็น ออนเซ็นอยู่ในอุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ในจังหวัดนางาซากิ ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1300 ปี เป็นเมืองออนเซ็นที่ล้อมรอบไปด้วยทะเลและวิวของภูเขาไฟ เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ถือว่าธรรมชาติสุดๆ
ออนเซ็นของที่นี่มีความเป็นกรดสูงเนื่องจากมีปริมาณกำมะถันในน้ำมาก จะช่วยในเรื่องความดันโลหิตสูง การแข็งตัวของหลอดเลือด โรคผิวหนังเรื้อรัง และอาการปวดข้อต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม พิเศษไปกว่านั้นเราสามารถมองเห็น บ่อนรกอุนเซ็น หรือเรียกว่า อุนเซ็นจิโกกุ ที่เต็มไปด้วยควันไอน้ำที่เกิดจากไอน้ำร้อนที่ลอยขึ้นมาจากบ่อน้ำพุได้ ก็จะมีกลิ่นของกำมะถันหน่อยๆ ทำให้มีความรู้สึกเหมือนอยู่ในนรกตามแบบความเชื่อของชาวญี่ปุ่น

Cr: unzenonsen

Cr: unzenonsen

Cr: unzenonsen

นอกจากนี้ยังมีโรงอาบน้ำสาธารณะซึ่งสามารถใช้บริการอาบน้ำแบบชั่วคราวได้ และยังมีบ่อแช่เท้าอีกด้วยนะ ที่
อุนเซ็นออนเซ็นยังมีอาหารขึ้นชื่อที่มาถึงแล้วไม่ควรพลาดการลิ้มลองเลยก็คือ “อุนเซ็นฮายาชิ” และ “ยุเซ็มเป” อุนเซ็นฮายาชินั้นโรงแรมและร้านอาหารแต่ละแห่งก็จะมีการปรับปรุงสูตรเฉพาะตัว ส่วนยุเซ็มเป เป็นขนมที่อบด้วยน้ำร้อนจากออนเซ็นและมีลักษณะหวานอ่อนๆ จิบกับชาอุ่นๆ ก็รู้สึกดีไปอีกแบบ ขอแนะนำให้มาเที่ยวในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงเพราะสภาพอากาศจะไม่ค่อยแปรปรวน แถมยังได้เห็นความสวยงามของต้นไม้ ดอกไม้อีกด้วย

อุนเซ็นออนเซ็น (Unzen Onsen)

5.อูเรชิโนะ ออนเซ็น (Ureshino Onsen)

Cr: ureshino-shoen

อูเรชิโนะ ออนเซ็น ตั้งอยู่ในจังหวัดซากะ ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 แหล่งออนเซ็นที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นสำหรับผิวโดยเฉพาะ และยังเป็นแหล่งออนเซ็นที่นิยมมากในกลุ่มผู้หญิงเพราะออนเซ็นที่นี่มีคุณสมบัติในการช่วยดูแลผิวพรรณให้เรียบเนียน ก็มีดีเรื่องผิวโดยเฉพาะแถมยังได้รับการการันตีอีก สาวๆ ไม่ควรพลาดแล้วนะ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีแหล่งน้ำแร่มากถึง 17 แหล่งด้วยกัน ในน้ำแร่จะประกอบไปด้วยเกลือ กรดคาร์บอนิก และมีอุณหภูมิสูงถึง 100 องศาเซลเซียส จนมีที่มาของชื่อในภาษาญี่ปุ่นว่า “Ureshii” ที่แปลว่า “เยี่ยมไปเลย” ซึ่งเป็นคำที่ราชนีจิงกุ (Empress Jingu) ได้อุทานออกมา ภายในรอบๆ ตัวเมืองก็ยังมีสถานที่ที่ไว้ชมความสวยงามของธรรมชาติ
อย่างเช่น ต้นซากุระอายุ 100 ปี ที่เรียกว่า “นันโดเรียวโนะเฮียคุเน็นซากุระ” และน้ำตกสามขั้น “โทโดโรกิโนะทากิ” เป็นต้น

Cr: hamilton-ureshino

Cr: bansyoukaku-sikisima

ในสมัยเอโดะอูเรชิโนะออนเซ็น และย่านนางาซากิถือว่าคึกคักมาก เต็มไปด้วยผู้คนที่มาเดินเที่ยวเล่นกัน ทำให้ปัจจุบันมีที่พักหลากหลายรูปแบบ ทั้งรียวกัง ทั้งโรงแรม โดยเฉพาะที่ริมแม่น้ำอูเรชิโนะยิ่งมีเยอะมาก ยังมีโรง
อาบน้ำสาธารณะที่มีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกอยู่ด้วยนะ นั่นก็คือ โรงอาบน้ำซีโบลด์ (Siebold-no-Yu Public Bath) นั่นเอง ขอบอกว่าสวยมากๆ แช่ออนเซ็นเสร็จก็ไปฝากท้องกับเมนูอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อย่างเต้าหู้ต้มน้ำแร่ “ออนเซ็นยุโดฟุ” กันได้ด้วย แอบมากระซิบเบาๆ ว่าเมืองนี้มีชื่อเสียงเรื่องผลิตชาเขียวด้วยนะ ใครสายนี้ก็ต้องมาจัดแล้ว

อูเรชิโนะ ออนเซ็น (Ureshino Onsen)

6.อิบุสึกิ ออนเซ็น (Ibusuki Onsen)

Cr: SYUSUIEN

มาถึงที่สุดท้าย เป็นแหล่งออนเซ็นที่แตกต่างจากที่อื่นอย่างมาก เพราะต้องเอาทรายมาอบตัวนั่นเอง โดยที่ อิบุสึกิออนเซ็น เป็นกลุ่มของบ่อน้ำพุร้อนในอิบุซุคิ จังหวัดคาโกชิม่า ที่บอกว่าแปลกเพราะว่าออนเซ็นส่วนมากจะต้องลงแช่ในน้ำ แต่ที่นี่นักท่องเที่ยวจะต้องใส่ชุดยูกาตะนอนลงบนทรายสีดำที่กำลังร้อนๆ แล้วจะมีพนักงานคอยเอาทรายมากลบที่ตัว มีร่มคันเล็กๆ กางให้เราเพื่อบังแสงแดด ความร้อนจากทรายจะทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น มีการทดสอบจากทาางการแพทย์ด้วยนะว่ามันมีประโยชน์มากกว่าการแช่บ่อน้ำพุร้อนแบบปกติ 3-4 เท่าเลยแหละ แต่ไม่แนะนำให้ผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ อบทรายร้อนๆ นะ อันตรายมาก อาจจะทำให้ช็อกหมดสติได้เลย ส่วนสาเหตุที่เขาเอาทรายมาทำเป็นออนเซ็นก็เพราะว่าที่ใต้ผืนทรายของหาดนี้ ได้รับความร้อนจากแหล่งออนเซ็น โดยอุณหภูมิก็จะสูงตั้งแต่ประมาณ 50-55 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว แต่การมาอบออนเซ็นทรายดำริมทะเลก็ต้องดูด้วยว่าวันไหนคลื่นลมไม่สูงมากก็จะได้อบอยู่ริมหาด แต่ถ้าคลื่นลมสูงก็ต้องมาอบในที่ร่มไกลจากริมหาดมา แต่ยังเห็นวิวอันสวยงามอยู่ดี ยังไงถ้าจะมาแนะนำให้เช็คคลื่นลมกันให้ดีๆ ก่อนนะ

Cr: kinkouroh

อิบุสึกิ ออนเซ็น (Ibusuki Onsen)

ข้อสรุป

ภูมิภาคคิวชู ภูมิภาคแห่งออนเซ็น นอกจากจะมีสรรพคุณที่หลากหลายแล้วแต่ละที่ก็ยังมีบรรยากาศสวยงามแตกต่างกันไป สถานที่ท่องเที่ยวรอบๆ แหล่งออนเซ็นก็มีเยอะแยะ ให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ได้เดินเที่ยวชมแบบไม่มีเบื่อ ทั้งร้านอาหาร ร้านของฝากก็มีเพียบ แล้วก็ยังมีออนเซ็นแปลกๆ อย่างออนเซ็นทราย ที่หลายๆ คนอาจจะเพิ่งเคยได้ยินครั้งแรก ซึ่งถือว่าแปลกใหม่มากๆ ยังไงถ้าต้องการแช่ออนเซ็นหลากหลายรูปแบบก็ต้องแวะมาที่ภูมิภาคคิวชูแล้วแหละ รับรองติดใจแน่นอน