แนะนำ 10 จุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อของนิกโก้ปี 2023 ที่เดินทางสะดวก ไม่ไกลจากโตเกียว

03/10/2017 (อัพเดทเมื่อ 07/11/2023)
ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่นิกโก้ที่รวมการเดินทางง่ายๆจากโตเกียวและสถานที่ขึ้นชื่อ รวมถึงค่าเข้าชม และช่วงพีคสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีไว้ให้แล้ว มีที่ไหน ช่วงเดือนอะไรไปดูในบทความกันเลย

น้ำตกริวซู (Ryuzu Waterfall)

น้ำตกริวซู (Ryuzu Waterfall) ตั้งอยู่บนแม่น้ำยูคาวะ (Yukawa River) เมืองนิกโก้(Nikko) จังหวัดโทจิงิ(Tochigi) ถือว่าเป็นอีกหนึ่งน้ำตกที่ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติ ซึ่งน้ำตกแห่งนี้ตั้งบนแม่น้ำยูคาวะ(Yukawa River) ที่ไหลลงสู่ทะเลสาบชูเซนจิ(Lake Chuzenji)  และยังเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ขึ้นชื่อของที่นี่อีกด้วย

น้ำตกริวซู (Ryuzu Waterfall)

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชม ในปี 2023ประมาณช่วง 18 ตุลาคม – 30 ตุลาคม
เวลาเปิดทำการ24 ชั่วโมง
ราคาค่าเข้าชมฟรี
การเดินทางจากสถานี JR Nikko นั่งรถบัส TOBU ไปทาง Onsen Yumoto ลงที่ป้าย ‘Ryuzu no Taki’ เดินต่อประมาณ 2 นาที

ดูแผนที่

น้ำตกเคงอน (Kegon Waterfall)

น้ำตกเคงอน (Kegon Waterfall) ตั้งอยู่ภายในเมืองนิกโก้ (Nikko) จังหวัดโทจิงิ (Tochigi) ซึ่งได้รับการจัดอันดับติด 1 ใน 3 น้ำตกที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น  เนื่องจากที่นี่มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่จึงเป็นอีกจุดที่ไม่ควรพลาด เพราะน้ำตกนี้สามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปชมจากมุมสูงได้ด้วย และที่สำคัญยังเดินทางจากโตเกียวสะดวกอีกด้วย

น้ำตกเคงอน (Kegon Waterfall)

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชม ในปี 2023ประมาณช่วง 29 ตุลาคม – 11 พฤศจิกายน
เวลาเปิดทำการ8:00-17:00 (ลิฟท์น้ำตกเคงอน)
ราคาลิฟท์น้ำตกเคงอน (ค่าใช้จ่ายไป-กลับ)
ผู้ใหญ่ (นักเรียนมัธยมศึกษาและสูงกว่า) 570 เยน นักเรียนประถมศึกษา 340 เยน นักเรียนประถมศึกษาต่ำกว่า ฟรี

■ กลุ่มทั่วไป (30 คนขึ้นไป) ※ผู้ใหญ่และนักเรียนประถมศึกษารวมกัน 30 คนขึ้นไป
ผู้ใหญ่・นักเรียนมัธยมปลาย・นักเรียนมัธยมต้น 500 เยน นักเรียนประถมศึกษา 290 เยน
■ กลุ่มนักเรียน (30 คนขึ้นไป) ※รวมครูและนักเรียน 30 คนขึ้นไป
นักเรียนมัธยมปลาย 450 เยน นักเรียนมัธยมต้น 360 เยน นักเรียนประถมศึกษา 290 เยน ※ค่าใช้จ่ายเท่ากันสำหรับครูและนักเรียน
การเดินทางจากสถานี JR Nikko นั่งรถบัส TOBU ไปทาง Chuzenji Onsen ประมาณ 50 นาที, ลงที่ป้าย ‘Chuzenji Onsen’ เดินประมาณ 5 นาที

ดูแผนที่

Yunishigawa Onsen (Heike no Sato)

Yunishigawa onsen ตั้งอยู่ระหว่างหุบเขาในภูเขาของจังหวัดโทจิงิ ที่นี่เป็นเมืองน้ำพุร้อนขนาดเล็กๆที่มีพักเรียวกังและโรงแรมขนาดใหญ่แห่งใหม่หลายแห่ง ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่พักที่สงบและเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามที่ล้อมรอบ ในช่วงใบไม้ร่วงที่นี่จะถูกเปลี่ยนไปด้วยสีเหลือง แดง ส้ม สลับกันไปมาทำให้ทั้งหมู่บ้านถูกล้อมไปด้วยสีสันสดใส โดยมีการจัดแสดงไฟตอนกลางคืนที่”Heike-no-Sato” ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่จัดแสดงวัฒนธรรมของตระกูลไทระ ที่อยู่ในหนูม่บ้าน Yunishigawa onsen จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากแนะนำให้ลองไปสัมผัส

Yunishigawa Onsen (Heike no Sato)

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชม ในปี 2023ประมาณช่วง 31 ตุลาคม – 14 พฤศจิกายน
เวลาเปิดทำการเวลาเข้าชมบริเวณ Heike no Sato 8:30 ถึง 17:00 (เข้าครั้งสุดท้าย 16:30)
ราคามีค่าเข้า
ค่าเข้า Heike no Sato ผู้ใหญ่ 510 เยน, เด็กประถม-มัธยมต้น 250 เยน
การเดินทางจากสถานี Kinugawa Onsen บนสายรถไฟ Tobu Kinugawa เดินทางด้วยรถบัส Dial Bus ของ Nikko Kotsu ประมาณ 55 นาที, หรือจากสถานี Yumoto Onsen บนสายรถไฟ Yagan เดินทางด้วยรถบัส Dial Bus ของ Nikko Kotsu ประมาณ 20 นาที

ดูแผนที่

น้ำตกคิริฟุริ (Kirifuri Falls)

นำ้ตกคิริฟุริ (Kirifuri Falls) เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงคิริฟุริ โดยมีความสูงกว่า 75 เมตร ซึ่งคำว่าคิริฟุริ แปลว่า หมอกน้ำตก เนื่องจากน้ำตกนี้ทีความสูงและชันจึงทำให้มีละอองน้ำฟุ้งกระจายจนเหมือนกับหมอกเวลาที่น้ำตกไหลกระทบสู่ด้านล่าง ที่นี่ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีเนื่องจากมีธรรมชาติที่รายล้อม ทำให้ในฤดูใบไม้ร่วงต้นไม้ที่นี่จะพากันเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แดง ส้ม ตัดกับหมอกจากละอองน้ำและสีของน้ำตก รวมถึงเส้นทางเดินชมธรรมชาติของที่นี่ก็จะถูกเปลี่ยนสีไปตลอดทั้งเส้นทาง จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากให้ไปสัมผัส

น้ำตกคิริฟุริ (Kirifuri Falls)

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชม ในปี 2023ประมาณช่วง 5 พฤศจิกายน – 16 พฤศจิกายน
เวลาเปิดทำการ24 ชั่วโมง
ราคาค่าเข้าชมฟรี
การเดินทางจากสถานี Nikko ของ JR หรือสถานี Tobu-Nikko นั่งรถบัสไปทาง Kirifuri no Taki ประมาณ 15 นาที, ลงที่ป้าย “Kirifuri no Taki”, เดินต่อประมาณ 10 นาที

ดูแผนที่

ถนนอิโรฮาซากะ (Irohazaka)

ถนนอิโรฮาซากะ เป็นถนนสายโรแมนติกที่ตั้งอยู่บนภูเขาอิโรฮา (Iroha) ของโอคุนิกโก้ ตัวถนนอิโรฮาซากะถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี ค.ศ.1954 และ 1965 ซึ่งเส้นทางนี้เป็นเส้นทางวันเวย์ขาลง แต่ในส่วนของเส้นถนนใหม่ที่เป็นเส้นทางขึ้นจะมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นถนนอิโรฮาซากะ(Irohazak) และหุบเขาด้านล่าง โดยในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ถนนสายจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม และแดงสลับกันไปมา ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยสะกดใจมาก ๆ 

ถนนอิโรฮาซากะ (Irohazaka)

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชม ในปี 2023ประมาณช่วง 29 ตุลาคม – 11 พฤศจิกายน
เวลาเปิดทำการ24 ชั่วโมง
ราคาค่าเข้าชมฟรี
การเดินทางจากสถานี Nikko นั่งรถบัสประมาณ 25 นาที

ดูแผนที่

หุบเขาริวเคียว (Ryuokyo gorge)

หุบเขาริวเคียว (Ryuokyo Gorge) ตั้งอยู่ระหว่างสถานี Ryuokyo และสถานี Kawaji-onsen ของสายรถไฟ Yagan Railway Line โดยช่องเขานี้มีความยาวประมาณ 4 กม. ถือเป็นรูทเดินป่าและชมธรรมชาติที่สวยในทุกฤดู โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสีประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายนที่นี่จะถูกเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม เหลือง ทั่วทั้งหุบเขา รวมถึงเส้นทางน้ำตกในเส้นนี้ก็สวยงามสุดๆ

หุบเขาริวเคียว (Ryuokyo gorge)

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชม ในปี 2023ประมาณช่วง 10 พฤศจิกายน – 22 พฤศจิกายน
เวลาเปิดทำการ24 ชั่วโมง
ราคาค่าเข้าชมฟรี
การเดินทางจากสถานี Ryuokyo สาย Aizu Kinugawa นั่งรถบัสประมาณ 5 นาที

ดูแผนที่

จุดชมวิวที่ลุ่มเซนโจงาฮาระ (Senjougahara Marshland)

ที่ลุ่มเซนโจงาฮาระ(Senjogahara Marshland) ตั้งอยู่เมืองนิกโก้(Nikko) มีพื้นที่ครอบคลุมระหว่างทะเลสาบชูเซนจิ(Lake Chuzenji) และยูโมโตะออนเซน ที่มีระดับความสูง 1,400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล โดยเป็นรูทสำหรับคนที่ชอบเดินป่ารูทง่ายๆ ซึ่งถือเป็นเส้นทางที่สวยในทุกฤดูแต่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงในเดือนตุลาคมใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองไปทั้่วทั้งทุ่ง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสายธรรมชาติที่สวยจนอยากให้ลองไปสัมผัสกันดูสักครั้ง

จุดชมวิวที่ลุ่มเซนโจงาฮาระ (Senjougahara Marshland)

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชม ในปี 2023ประมาณช่วง 19 ตุลาคม – 6 พฤศจิกายน
เวลาเปิดทำการ24 ชั่วโมง
ราคาค่าเข้าชมฟรี
การเดินทางจุดชมวิวที่ลุ่มเซนโจงาฮาระ 
จากสถานี JR Nikko นั่งรถบัส Tobu ไปทาง Yumoto Onsen ประมาณ 65 นาที, ลงที่ป้าย “Sanbonmatsu”, เดินต่อประมาณ 1 นาที

ดูแผนที่

ทะเลสาบชูเซนจิ (Lake Chuzenji)

ทะเลสาบชูเซนจิ (Lake Chuzenji) ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองนิกโก้ (Nikko) ทะเลสาบแห่งนี้นี่จะตั้งอยู่บริเวณฐานภูเขาไฟนันไต (Mount Nantai)  ซึ่งทะเลสาบชูเซนจิมีเส้นรอบวงอยู่ที่ 25 กิโลเมตร และที่นี่ยังสามารถล่องเรือจาก Chuzenjiko Onsen ได้ด้วย โดยบริเวณชายฝั่งชูเซนจิโกะ เป็นเมืองน้ำพุร้อนเล็กๆ Chuzenjiko Onsen ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเราจะได้เห็นทัศนียภาพของสีสันของต้นไม้และภูเขา ที่ถูกเปลี่ยนสีเป็นส้ม แดง เหลือง เรียกได้ว่าเป็นอีกจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยสะกดตาอีกที่หนึ่ง

ทะเลสาบชูเซนจิ (Lake Chuzenji)

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชม ในปี 2023ประมาณช่วง 1 ตุลาคม – 12 พฤศจิกายน
เวลาเปิดทำการ24 ชั่วโมง
ราคาค่าเข้าชมฟรี
การเดินทางจุดชมวิว Hangetsusan
จากสถานี JR Nikko นั่งรถบัส Tobu ไปทาง Yumoto Onsen หรือ Chuzenji Onsen ประมาณ 45 นาที, ลงที่ป้าย “Chuzenji Onsen”, เปลี่ยนรถบัสไปทาง “Hangetsusan”, ลงที่ป้าย “Hangetsusan”, เดินต่อประมาณ 30 นาที

※รถบัสไปทาง Hangetsusan มีบริการตามฤดูกาล (ปี 2023 เปิดบริการระหว่างวันที่ 1 ตุลาคมถึง 12 พฤศจิกายน)

ดูแผนที่

สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge)

สะพานชินเคียว ( Shinkyo Bridge) อยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้านิกโก้ฟูตาระซาน ( Nikko Futarasan Shrine) ที่ตั้งอยู่ ในอำเภอนิกโก้ จังหวัดโทจิงิ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นสะพานศักดิ์สิทธิ์แห่งนิกโก้ เป็นสะพานสีแดงที่พาดข้ามแม่น้ำแม่น้ำไดยากาวะ โดย สะพานชินเคียวถูกสร้างขึ้นโดยศาลเจ้านิกโก้ฟุตาระซาน  และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1999 ตัวสะพานมีความยาว 28 เมตร กว้าง 7.4 เมตร และสูง 10.6 เมตร ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยด้วยธรรมชาติที่รายล้อมรอบๆ สะพาน ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวแวะไปชมกันเป็นจำนวนมาก

สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge)

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชม ในปี 2023ประมาณช่วง 7 พฤศจิกายน – 19 พฤศจิกายน
เวลาเปิดทำการศาลเจ้าโทโชกุ
วันที่ 1 เมษายน – วันที่ 31 ตุลาคม (เวลา 9.00 น. – 17.00 น.)
วันที่ 1 พฤศจิกายน – วันที่ 31 มีนาคม (เวลา 9.00 น. – 16.00 น.)
ราคาศาลเจ้าโทโชกุ 1,300 เยน, ศาลเจ้านิกโกฟูตาระซัง 300 เยน, วัดรินโนจิ 900 เยน
ค่าข้ามสะพาน: ผู้ใหญ่ 300 เยน, นักเรียนมัธยม 200 เยน, นักเรียนประถม-มัธยมต้น 100 เยน, เด็กก่อนวัยเรียนฟรี
※นักเรียนกรุณานำบัตรนักเรียนมาด้วย
การเดินทางจากสถานี JR Nikko นั่งรถบัส Tobu หรือ The world heritage sightseeing bus (ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะแออัด) ลงป้าย Shinkyo แล้วเดิน 10 นาที, หรือเดินจากสถานี JR Nikko ประมาณ 30 นาที

ดูแผนที่

วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple)

วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple) ก่อตั้งในปีค.ศ. 766 โดยพระโชะโดะ โชะนิง ในปัจจุบันเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์นิกายเท็นได วัดรินโนจิ(Rinnoji Temple) เป็นวัดที่สำคัญของเมืองนิกโก้(Nikko) โดยวัดแห่งนี้มีรูปแกะสลักไม้ Amida, Senju-Kannon และBato-Kannon ที่เป็นที่ประดิษฐานของสองสิ่งล้ำค่าทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอย่าง รวมถึงที่นี่ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีความสวยงามมากอย่างมากอีกที่หนึ่ง เนื่องจากใบของต้นเมเปิ้ลจะพากันเปลี่ยนสีช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีเสน่ห์มากๆ อีกที่หนึ่ง

วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple)

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชม ในปี 2023งานไฟประดับ สวน Shoyoen 27 ตุลาคม (ศุกร์) – 29 ตุลาคม (อาทิตย์)
3 พฤศจิกายน (ศุกร์, วันหยุด) – 5 พฤศจิกายน (อาทิตย์)
10 พฤศจิกายน (ศุกร์) – 12 พฤศจิกายน (อาทิตย์)
เวลาเปิดทำการ27 ตุลาคม – 29 ตุลาคม 17:00 – 19:00
3 พฤศจิกายน – 5 พฤศจิกายน 16:00 – 21:00
10 พฤศจิกายน – 12 พฤศจิกายน 16:00 – 19:00
ราคา500 เยนต่อคน
*ไม่รวมคาชม Homotsuden
*ระบบเปลี่ยนตั๋วกลางวันและกลางคืน (ตั๋วกลางวันไม่สามารถใช้ได้ตอนกลางคืน)
※นักเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา และเด็กก่อนวัยเรียนที่มากับผู้ปกครองเข้าฟรี
การเดินทางจากสถานี JR Nikko นั่งรถบัส TOBU ไปทาง Chuzenji Onsen หรือ Yumoto Onsen ประมาณ 5 นาทีลงป้าย “Shinkyo” เดินประมาณ 5 นาที

ดูแผนที่

ข้อสรุป

เป็นยังไงกันบ้างจ้า กับบทความรวมจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีของเมืองนิกโก้ ที่ทาง Chill Chill Japan รวบรวมมาให้ ซึ่งนอกจาก 10 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีแล้วเรายังมีรีวิวที่เที่ยวอื่นๆ ของเมืองนิกโก้อีกนะ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถดูได้จากลิ้งก์ที่เราแปะไว้ให้ได้ตามนี้จ้า

ก้าง

Blogger : ก้าง

ก้างหลงใหลอิสระและการแบกเป้เที่ยว ว่างเข้าป่า ปีนเขา เผลอใจให้กับธรรมชาติง่าย ตอนวัยรุ่นชอบการนอนตามป้ายรถเมล์หรือตามสถานีรถไฟ ใช้ชีวิตอย่างคนไร้บ้านทุกปิดเทอมตั้งแต่อายุ 16 ชอบลองกินของแปลกใหม่ ชอบหาความหมายของทุกสิ่งรอบๆตัว และมีความสุขที่ได้เรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละประเทศที่เราไป ก้างผู้ชื่นชอบการนั่งรถไฟในช่วงเวลาเร่งด่วนเพื่อหาวิวดีๆ อิอิ!!! ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ เว็บไซต์ : https://chillchill-trip.com/

42 Posts

สถานที่เที่ยว

| Feature

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515