Tokyo DisneySea Fantasy Springs แนะนำทุกอย่างเกี่ยวกับวิธีการเข้าสู่โซนใหม่ ประเภทตั๋ว ฯลฯ พร้อมรีวิวสถานที่จริง

Fantasy Springs คืออะไร?

แฟนตาซีสปริง คือพื้นที่สร้างใหม่รวม 140,000 ตารางเมตร และเป็นพื้นที่ใหม่แห่งที่ 8 ที่สร้างขึ้นหลังจากการปรับปรุงพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัวโตเกียวดิสนีย์ซี โดยแบ่งออกเป็น 3 พื้นที่ตามภาพยนตร์ของดิสนีย์ รวมถึงโรงแรม ได้แก่ 

1) Frozen Kingdom

2) Rapunzel’s Forest

3) Peter Pan’s NeverLand

4) Tokyo DisneySea Fantasy Springs Hotel

โดยจะเปิดตัวโซนนี้ในวันที่ 6 มิถุนายน 2024

ประตูทางเข้าโซน Fantasy Springs

ประตูทางเข้าสำหรับเข้าสู่พื้นที่ Fantasy Springs มี 2 ทางเข้าดังนี้

ทางเข้า 1: Fantasy Springs entryway

คนส่วนใหญ่จะใช้ในการเข้าสู่พื้นที่ Fantasy Springs คือทางเข้าจากโตเกียวดิสนีย์ซี ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างโซนเครื่องเล่น “Raging Spirits” และ “Jasmine’s Flying Carpets” ถือเป็นทางเข้าหลักที่สะดวกและเชื่อมต่อกับโซนยอดนิยมในสวนสนุกได้ง่ายและรวดเร็ว

ทางเข้า 2 : Fantasy Springs

เป็นทางเข้าสำหรับแขกที่พักในโรงแรม Tokyo DisneySea Fantasy Springs มีการเชื่อมต่อโดยตรงกับโรงแรมและตั้งอยู่ตรงด้านหน้าสถานี Bayside   ซึ่งเป็นสถานีรถไฟโมโนเรลของดิสนีย์ ลูกค้าของโรงแรมสามารถเข้าถึงพื้นที่ Fantasy Springs ได้อย่างง่ายดายและเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ตั๋วเข้าโซน Fantasy Springs

การเข้า Fantasy Springs ได้ จำเป็นต้องมีตั๋วผ่านพิเศษ โดยมีตั๋วหลายประเภท แบ่งตั๋วออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆดังนี้ เลือกซื้อได้ตามความสะดวกกับการใช้งานได้เลย 

1. ตั๋วเข้าสวนสนุกดิสนีย์ซี + Standby Pass 
2. ตั๋วเข้าสวนสนุกดิสนีย์ซี + Disney Premier Access
3. แขกโรงแรม Fantasy Springs Hotel
4. DisneySea Day Passport: Fantasy Springs Magic

ตั๋วเข้าสวนสนุกดิสนีย์ซี + Standby Pass

หลังจากซื้อตั๋วสวนสนุกโตเกียวดิสนีย์ซีและเข้ามาด้านในสวนสนุกแล้ว คุณสามารถเข้าสู่พื้นที่ Fantasy Springs ได้โดยการรับบัตรสแตนด์บาย บัตรสแตนด์บายนี้จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงพื้นที่ใหม่และสนุกกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องการโดยไม่ต้องรอคิวนานเกินไป โดยสามารถเลือกจองเครื่องเล่นได้ 1 อย่างจากทั้งหมด 4 เครื่องเล่น

เครื่องเล่นที่มีการเข้าแถว Standby Pass ได้มีดังนี้
・Fairy Tinker Bell’s Busy Buggies
・Peter Pan’s NeverLand Adventure
・Anna and Elsa’s Frozen Journey
・Rapunzel’s Lantern Festival

เราสามารถรับ Standby Pass ได้ฟรี แต่เป็นระบบมาก่อนได้จองก่อน และสามารถรับสิทธิได้หลังจากเข้ามาในสวนสนุกแล้วเท่านั้น

ซึ่งถ้าหากอยากรับ Standby Pass แน่นอน แนะนำให้รอตั้งแต่ตอนเช้าก่อนสวนสนุกเปิด หรือโดยการเข้าพักที่โรงแรมที่ร่วมรายการ (Tokyo DisneySea Hotel MiraCosta หรือ Tokyo DisneySea Fantasy Springs Hotel) และใช้ Happy Entry

ตั๋วเข้าสวนสนุก + Disney Premier Access

หลังจากซื้อตั๋วเข้าสวนสนุกโตเกียวดิสนีย์ซีและเข้ามาด้านในสวนสนุกแล้ว เราสามารถเข้าสู่พื้นที่Fantasy Springsได้โดยการซื้อ “Disney Premier Access” เพื่อรับสิทธิเข้าแถวจองเครื่องเล่น 3 อย่างใน Fantasy Springs

เครื่องเล่นที่ใช้กับบัตร Disney Premier Access
・Peter Pan’s NeverLand Adventure　（2,000เยน／ครั้ง）
・Anna and Elsa’s Frozen Journey（2,0000เยน／ครั้ง）
・Rapunzel’s Lantern Festival（2,0000เยน／ครั้ง）
*นี่เป็นค่าธรรมเนียมแยกต่างหากจากตั๋วเข้าสวนสนุก
*ตั๋วสวนสนุกได้ 1 ใบสำหรับ 1 คนเท่านั้น (ตั๋วสวนสนุกหนึ่งใบไม่สามารถซื้อเพื่อใช้สำหรับหลายๆ คนได้)

แขกโรงแรม Fantasy Springs Hotel

เมื่อเราเข้าพักที่ Fantasy Springs Hotel จะได้รับบัตรพิเศษ ช่วยให้เราสามารถใช้ทางเข้า Fantasy Springs Entrance ที่ติดกับโรงแรมได้เลยโดย ลดเวลาในการเดินและได้ชมวิวสวนสนุกอย่างใกล้ชิดสุดๆ รวมถึงวิวยามค่ำคืน **โปรดทราบว่ากรณีต้องการเข้าสวนสนุกโตเกียวดิสนีย์ซีด้วยต้องซื้อตั๋วเข้าสวนสนุกแยกต่างหาก

ภายในโรงแรมถูกตกแต่งสวยงามเต็มไปด้วยธีมของสวนสนุกที่ให้ความเป็นดิสนีย์ตั้งแต่วันเข้าพักจนไปถึงวันรุ่งขึ้นเลย

บรรยากาศอีกฝั่งของโรงแรมหลังจากที่เราเดินเข้ามาด้านในแล้ว ซึ่งคนที่อยู่ในโรงแรมสามารถมองเห็นเครื่องเล่นสวนสนุกและวิวได้จากด้านบนโรงแรมเช่นกัน

ใครที่อยากได้ความฟินสุดๆ ลองจองที่พักที่นี่สักคืนดู มีห้องพักหลายแบบที่เลือกตามความชอบได้เลย ขอบอกว่า ได้ความเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายมากๆ 

ทุกมุมของโรงแรมเรียกได้ว่าเป็นรันเวย์จริงๆ สามารถเดินถ่ายรูปได้ทุกมุม แค่ภายในโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นทางเข้า ห้องพัก ล็อบบี้ ห้องอาหาร ก็เพลิดเพลินมาก

สำหรับตอนกลางคืนก็สวยงามมากจริงๆ ลืมโรงแรมแบบธรรมดาทั่วไปได้เลย เพราะที่นี่เหมือนกับเราหลุดเข้ามาในโลกแห่งนิยายที่อลังการมากๆ

การเข้าสวนสนุกสำหรับแขกของโรงแรม 

ให้ขอรับใบรับรองที่พักที่ออกโดยโรงแรม Fantasy Springs Hotel และโปรดแสดงตั๋วเข้าสวนสนุกและใบรับรองที่พักกับเจ้าหน้าที่สวนสนุกตรงทางเข้าได้เลย

อย่างไรก็ตาม หากอยากเล่นเครื่องเล่นจริงๆ เราจะต้องมี Standby Pass หรือ Disney Premier Access แยกต่างหากเหมือนกรณีอื่นๆด้วย

1 Day Passport: Fantasy Springs Magic

Fantasy Springs Magic เป็นหนึ่งในตั๋วเข้าชมดิสนีย์ซี และเป็นวิธีที่นิยมมากอย่างหนึ่งในการใช้เข้า Fantasy Springs ด้วย

Fantasy Springs Magic มีเงื่อนไขดังนี้
・ตั๋วไม่มีเวลากำหนด สามารถกลับเข้าและออกFantasy Springsได้ไม่จำกัดครั้ง
・สามารถนั่งเครื่องเล่นที่ Fantasy Springs ได้บ่อยเท่าที่ต้องการโดยใช้เวลารอไม่นาน เรียกว่าคุ้มสุดๆ

ดังนั้น เมื่อใช้ตั๋วนี้ ไม่จำเป็นต้องได้รับ Standby Pass หรือ Disney Premier Access เลย
*หมายเหตุ เงื่อนไขนี้ใช้ได้เฉพาะโซนเครื่องเล่นใน Fantasy Springs เท่านั้น

คนที่สามารถซื้อ Fantasy Springs Magic ได้
・แขกของโรงแรม สามารถซื้อพาสนี้ที่ Fantasy Springs Hotel เลย
・คนที่ซื้อตั๋ว Tokyo DisneySea แบบรวมเพจ Fantasy Springs Magic 

ราคา Fantasy Springs Magic 
ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป) 22,900 เยน ถึง 25,900 เยน
นักเรียนมัธยมต้น (นักเรียนมัธยมต้น/มัธยมปลาย/อายุ 12 ถึง 17 ปี) 21,600 ถึง 24,000 เยน
เด็ก (ทารก/นักเรียนชั้นประถมศึกษา/อายุ 4 ถึง 11 ปี) 19,700 ถึง 20,600 เยน
*ราคา ณ เดือนพฤษภาคม 2567

สำรวจ Fantasy Springs ว่ามีอะไรบ้าง

ทางเข้า Fantasy Springs Entrance

บริเวณใกล้ทางเข้า Fantasy Springs Entrance ซึ่งให้บริการเฉพาะแขกที่เข้าพักที่ Fantasy Springs Hotel เท่านั้น ได้รับการตกแต่งด้วยรูปปั้นตัวละครดิสนีย์มากมาย และมีจุดถ่ายรูปมากมาย มีร้านค้าอยู่ใกล้ๆ ที่นี่ด้วย ดังนั้นหากเราต้องการซื้อสินค้า Fantasy Springs ก็เข้ามาทางนี้ได้เลยเช่นกัน

รูปปั้นใกล้ทางเข้า

ทันทีที่เดินเข้ามาด้านใน เราจะเห็นการตกแต่งสถานที่ตามมุมต่างๆด้วยรูปปั้นตัวละครดิสนีย์มากมาย!  ให้เพื่อนๆลองสังเกตดูนะ

มิคกี้เมาส์ตัวใหญ่อยู่ตรงลานน้ำพุที่อยู่ติดกับโรงแรมเลย ถือเป็นไฮไลต์สำหรับการเดินมาชมไฟประดับยามค่ำคืนด้วยนะ

Fantasy Springs Gift [SHOP]

ร้านแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ของ Tokyo DisneySea Fantasy Springs Hotel และสามารถเข้าถึงได้จากภายในสวนสนุกเท่านั้น มีสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ Fantasy Springs น่ารักทั้งนั้นเลย

เดินเข้ามาแล้วก็อยากจะร้องกรี๊ด เพราะว่ามีแต่ของน่ารักๆเต็มไปหมดเลย โดยเฉพาะที่คาดผม ที่นี่จะมีทั้งของกินและของใช้นะ

เสื้อยืดจาก ปีเตอร์แพน ตำนานของเด็กชายผู้บินได้ และไม่มีวันโต เป็นทั้งนวนิยายอมตะ เป็นทั้งการ์ตูนและละครเวทีมากมายจนถึงปัจจุบัน

พื้นที่ Frozen Kingdom

พื้นที่ Frozen Kingdom อิงจากภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่อง “Frozen” ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากงานเขียนของ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน เรื่อง “The Snow Queen”

พูดถึงเรื่องราวการผจญภัยในแดนคำสาปของราชินีหิมะ “แอนนา” เจ้าหญิงผู้น้อง ที่ออกตามหา “เอลซ่า” พี่สาวคนโต หลังจากที่เอลซ่าบังเอิญปลุกคำสาปร้าย ทำให้อาณาจักรกลายเป็นฤดูหนาวตลอดกาล

สำหรับ “Frozen” หรือชื่อไทย “ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ” ได้รับการยกย่องว่ายอดเยี่ยม สนุก ตื่นเต้น และได้ลุ้นไปตลอดเรื่อง พอได้มาเจอเจ้าหญิงตัวจริงก็ยิ่งประทับใจ ดิสนีย์เนรมิตเจ้าหญิงตัวจริงออกมาสวยมากๆ 

ระหว่างที่เดินชมวิวไปนั้น ก็จะได้ยินเสียงเพลงของเรื่องนี้ตลอดเวลา หนึ่งในบทเพลงนั้นคือ Let it go ที่คุ้นหูที่สุดและร้องตามได้เลย

ทุกช่วงบรรยากาศสวยงามสุดๆ หลายฉากก็ปรากฏในภาพยนตร์จริงๆด้วยนะ อยู่ตรงนี้เพลินมากๆ เที่ยววันเดียวแทบจะไม่พอเลย

เดินทางมาถึงหมู่บ้านเอเรนเดลล์เพื่อชมปราสาทของเอลซ่ากัน กลางคืนจะมีการประดับไฟสวยงดงามมาก

ที่นี่สามารถมองเห็นได้จากหลายๆมุม กลางวันว่าถ่ายรูปสวยแล้ว กลางคืนก็ยิ่งตระการตามากเลย ระหว่างนี้ก็ร้องเพลง Let it go ตาม

ต้องบอกว่า อาณาจักรของเอลซ่าและอันนานี่คือใหญ่มากจริงๆ นี่เรายังไม่ทันได้เดินดูรอบทั้งหมดเลยนะ ก็ใช้เวลาไปมากแล้วเพราะถ่ายรูปทุกๆ 5 เมตร ฮ่าๆ 

 [เครื่องเล่น] Anna and Elsa’s Frozen Journey

เครื่องเล่นตัวนี้สนุกมากๆ เจ้าหน้าที่จะพาเรายืนตามช่องเพื่อรอขึ้นเรือ ระหว่างเตรียมตัวจะขึ้นเรือก็ตื่นเต้นแล้ว พร้อมแล้วไปลุยกันเล้ย

ล่องเรือท่องโลกภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่อง Frozen พร้อมเพลงประกอบตลอดเส้นทาง ภาพที่เพื่อนๆเห็นไม่ใช่ภาพจากภาพยนตร์นะ แต่มาจากฉากที่อยู่สองฝั่งที่เห็นได้ระหว่างการนั่งเรือชม

ตัวคาแรกเตอร์ทั้งหมด มีทั้งแบบหุ่นจริง และแบบ 3D ที่สามารถขยับได้เสมือนมีตัวตนจริงๆ นอกจากเพลงจะตื่นเต้นแล้ว เรือที่เรานั่งอยู่ก็แล่นไปมาตามจังหวะอย่างสนุกเลยล่ะ 

[ร้านอาหาร] Royal Banquet of Arendelle

หนึ่งในร้านอาหารที่เราอยากแนะนำเพื่อนๆเข้ามากินดู สถานที่ด้านนอกสวยงามเวอร์สุดๆ เห็นแล้วคิดถึงบรรยากาศแบบไทยๆของเราเลย

ด้านในมีเคาน์เตอร์สำหรับสั่งอาหารอย่างเรียบร้อย กว้างขวาง มีน้ำดื่มเย็นๆไว้คอยบริการฟรีด้วยนะ แม้คนจะเยอะแต่รับรองว่าเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลได้อย่างดีเลย 

ที่นี่มีอาหารประเภทเนื้อและอาหารประเภทปลา ฯลฯ อาหารเซ็ทแนะนำก็มีทั้งสลัด ปลาดิบและในถ้วยพร้อมขนมปังที่ด้านในมีเมนูคล้ายสตู และยังมีเมนูแนะนำอื่นๆ

ช้อนและส้อมสำหรับเก็บไว้เป็นที่ระลึก หากอยากได้สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ได้เลย เราว่าน่ารักมากๆเลย และยังได้กล่องเท่ๆอีก ควรค่าแก่การสะสม

[ร้านอาหาร] Oaken’s OK Foods

ขนมปังจากร้าน Oaken’s OK Foods เป็นร้านอาหารที่เปิดตัวใน Disney’s Frozen แลนด์ ณ แฟนตาซีสวนสนุกในหัวข้อการเตรียมความพร้อมในการจัดเตรียมก่อนการเดินทาง ร้านนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวละคร Oaken ในภาพยนตร์ “Frozen” ของ Disney ซึ่งเป็นตัวละครที่น่ารักและเป็นมิตรที่จัดการกับร้านของตนอย่างใจดี

ร้าน Oaken’s OK Foods นำเสนออาหารและเครื่องดื่มที่อร่อยและเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวในโลกแห่งดิสนีย์ด้วยความอบอุ่นและบรรยากาศที่เป็นมิตร สำหรับคำนี้คือ เข้มข้นและกลมกล่อมมาก

พื้นที่ Rapunzel’s Forest

พื้นที่ Rapunzel’s Forest ใน Tokyo DisneySea Fantasy Springs อิงจากภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่อง “Tangled” หรือ “ราพันเซล เจ้าหญิงผมยาวกับโจรซ่าจอมแสบ” ที่หลายคนชื่นชอบ

หอคอยของราพันเซล: หนึ่งในจุดเด่นของพื้นที่นี้คือหอคอยสูงที่ราพันเซลอาศัยอยู่ ถูกสร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เหมือนในภาพยนตร์ จะมีเจ้าหญิงราพันเซลออกมาร้องเพลง ขยับตาได้ตลอดเวลา

พื้นที่นี้ถูกออกแบบให้เหมือนกับป่าในภาพยนตร์ “Tangled” ที่เต็มไปด้วยความเขียวชอุ่มและความมหัศจรรย์ เช่น น้ำตกและดอกไม้ที่เรืองแสงในยามค่ำคืน

เมื่อเรามาถึงราพันเซล แน่นอนก็จะเจอโคมไฟที่ประดับตามทางเดินแบบนี้ โคมไฟสีม่วงที่พร้อมเปล่งประกายแสงสว่างเมื่อความมืดมาเยือน

ใครที่มาตรงโซนราพันเซล อย่าลืมมาลองล่องเรือสุดโรแมนติกกันนี้นะ  บรรยากาศเหมือนการล่องเรือผจญภัยมากๆ แต่ว่าด้านในถ้ำคือสวยสุดๆเลยจ้า

[เครื่องเล่น] Rapunzel’s Lantern Festival

ด้านในก็เป็นคล้ายๆกับในฉากที่สองคนกำลังล่องเรือแล้วมีโคมลอยลอยขึ้นสูงไปเรื่อยๆ แต่จริงๆแล้วคือโคมไฟที่นิ่ง ฉากนี้เรือจะพาเราล่องไปรอบๆ ให้เห็นฉากหวานๆนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมเพลงประกอบซึ้งๆ

[ร้านอาหาร] The Snuggly Duckling

หนึ่งในร้านอาหารที่เราชอบบรรยากาศมากคือร้าน The Snuggly Duckling ที่เป็นเมนูสบายๆอย่างแฮมเบอร์เกอร์ และเครื่องดื่มอร่อยๆ ฯลฯ

เซ็ทแฮมเบอร์เกอร์ที่มาพร้อมของหวานเบเกอรี่ ชาเอิร์ลเกรย์เย็น ดีต่อสุขภาพและ เค้ก เป็นต้น ถ้าได้กินแฮมเบอร์เกอร์ตอนร้อนๆนี่คืออร่อยเลยล่ะ 

เค้กลายเป็ดน้อยน่ารักและด้านบนโปะด้วยครีมสด รสชาติกลมกล่อมอย่างลงตัว กินแล้วไม่ผิดหวังเลยจ้า 

สำหรับร้านอาหารนี้ ก็มีของที่ระลึกจากราพันเซล เป็นจานรอง กระเป๋าผ้า แก้วน้ำ ที่รองแก้ว ถ้าซื้อครบเซ็ทก็พร้อมออกบ้านไปปิคนิคได้เลย

พื้นที่ Peter Pan’s NeverLand

พื้นที่ Peter Pan’s NeverLand เป็นพื้นที่ที่สร้างจากภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่อง “Peter Pan” ที่เป็นที่นิยมชมชอบจากแฟนๆทั่วโลก ด้วยความเท่ๆคูลๆของเรือโจรสลัด

เรือโจรสลัดขนาดใหญ่นี้ นอกจากจะสามารถถ่ายรูปได้จากทั่วทุกมุมรอบๆแบบ 360 องศาแล้ว ยังสามารถขึ้นไปถ่ายรูปด้านบนเรือได้ด้วยนะ

ปีเตอร์แพน ก็ถือเป็นโซนเครื่องเล่นที่มีขนาดใหญ่มากเช่นกัน สำหรับเราแล้ว เราชอบเครื่องเล่นของปีเตอร์แพนมาก เพราะได้ความตื่นเต้นผจญภัยสุดๆ

แค่ด้านในทางเข้าก็สวยมากเลย อย่างกับเราได้หลุดเข้ามาสู่โลกของหนังสือนิทานที่เคยอ่านตอนเด็กๆ

[เครื่องเล่น] การผจญภัยที่เนเวอร์แลนด์ของปีเตอร์ แพน

ก่อนจะเข้าร่วมกับปีเตอร์ แพนและทิงเกอร์เบลล์ในการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่บนเรือเหาะ เจ้าหน้าที่จะให้เราได้ลองชมตัวอย่างของตัวคาแรกเตอร์ก่อน

[เครื่องเล่น] รถบักกี้จอมยุ่งของ Fairy Tinker Bell

ทัวร์สี่ฤดูกาลแห่งโลกแห่งนางฟ้าบน Busy Buggies ของ Tinker Bell เครื่องเล่นนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าชมได้เข้าถึงโลกมหัศจรรย์ของ Pixie Hollow ด้วยทิวทัศน์ที่ละเอียดอ่อนที่สะท้อนความเป็นบ้านของทิงเกอร์เบลล์

เครื่องเล่นนี้เหมาะสำหรับทุกวัย ทำให้เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กที่มาเยือนสวนสนุก การขับขี่ที่อ่อนโยนและดอกไม้ขนาดใหญ่ที่น่ารักถูกออกแบบมาเพื่อดึงดูดใจทั้งเด็กเล็กและผู้ใหญ่

 [ร้านอาหาร] Lookout Cookout

ร้านอาหารที่พนักงานดูสนุกสนานมากเพราะเต้นตลอดทั้งวันและภายในร้านก็ยังยืนเต้นกันตลอดเวลา เป็นซีนที่ประทบใจมากๆ ที่พนักงานทุกคนก็อินในบทบาทและสนุกกับงานจริงๆ 

ร้านอาหารเป็นแบบเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่สร้างสรรค์โดย Lost Kids ร้านอาหารแห่งนี้ซึ่งทำหน้าที่เป็นที่ซ่อนของกลุ่ม Lost Kids ด้วยนั้น สร้างขึ้นจากส่วนหนึ่งของซากเรืออัปปางที่ถูกซัดขึ้นฝั่งในเนเวอร์แลนด์(อินกับเรื่องราวไปแล้ว)

เมนูขนมหวานนี้มีสีสันสดสวยมากๆ พร้อมด้วยครีมเนียนนุ่มสร้างสัมผัสที่น่าจดจำและอร่อยด้วยนะ และแผ่นไวท์ช็อกโกแลตที่มีการเขียนว่า “FS” อย่างหรูหรา

เมนูนี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบของทอด ด้วยความหลากหลายและความอร่อยของแต่ละเมนู เหมาะสำหรับเป็นของว่าง พร้อมด้วยเครื่องดื่มโซดาที่สดชื่น

บรรยากาศภายในร้านนี้แม้ในวันที่ฝนตกก็สามารถนั่งได้อย่างสบายๆ ด้วยการตกแต่งภายในที่ชวนให้นึกถึงฉากในหนังผจญภัยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นโทนสีที่อบอุ่น การใช้วัสดุจากธรรมชาติ 

สรุป

Tokyo DisneySea Fantasy Springs เป็นโซนใหม่ล่าสุดในสวนสนุก Tokyo DisneySea ที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ โดยเน้นพื้นที่กว้างเพื่อการเดินเล่น ถ่ายรูปและสำรวจอย่างเต็มที่ ด้วยธีมเทพนิยายที่ตกแต่งด้วยปราสาท, ป่าเวทมนตร์, และมีโรงแรมที่สวยงามรวมถึงเครื่องเล่นแนวผจญภัยแฟนตาซีเสมือนจริงในโลกแห่งจินตนาการ ** โปรดตรวจสอบข้อมูลล่าสุดบนเว็บไซต์ทางการก่อนการเดินทางเพื่ออัพเดตราคาและเงื่อนไขตั๋ว

Official Site
https://www.tokyodisneyresort.jp/en/tds/