มารู้จัก “Fuji Speedway” กันสักนิด
Fuji Speedway เป็นสนามแข่งรถมาตรฐานระดับโลก ตั้งอยู่ในจังหวัดชิซุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของญี่ปุ่น สนามแห่งนี้ถือเป็นแหล่งรวมของคนรักความเร็วและผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีการแข่งรถ ด้วยความสำคัญในฐานะเจ้าภาพการแข่งขันระดับนานาชาติและความโดดเด่นด้านภูมิทัศน์ที่งดงาม
เดิมที Fuji Speedway ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1963 โดยบริษัท Japan NASCAR Corporation ตั้งใจให้เป็นสนามรูปวงรีสำหรับการแข่งขัน NASCAR ในญี่ปุ่น แต่เนื่องจากข้อจำกัดด้านการเงิน ทำให้สนามถูกเปลี่ยนมาเป็นสนามแข่งแบบ Circuit แทน
จนในปี 1976 Fuji Speedway ได้รับเกียรติเป็นสนามจัดการแข่งขัน Formula 1 Japanese Grand Prix เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น การแข่งขันครั้งนั้นโด่งดังจากเหตุการณ์ “Niki Lauda” นักแข่งในตำนานถอนตัวจากการแข่งขันเนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่ปลอดภัย
หลังจากเกิดอุบัติเหตุหลายครั้งในช่วงแรก สนามแข่งแห่งนี้จึงถูกปรับปรุงในช่วงประมาณปี 1980 ลดระยะทางของสนามจาก 6 กิโลเมตร เหลืออยู่ที่ 4.36 กิโลเมตร และในปี 2000 บริษัท Toyota ได้ซื้อกิจการของสนามและลงทุนปรับปรุงครั้งใหญ่ทำให้ Fuji Speedway เป็นสนามแข่งที่ทันสมัยมากขึ้น พร้อมรองรับการแข่งขันระดับโลก
ปัจจุบันสนามแข่งมาตรฐานระดับโลกรองรับกิจกรรมได้หลากหลาย เช่น Super GT, World Endurance Championship (WEC), และกิจกรรมพิเศษต่างๆ โดยมีระยะทางราว 4.36 กิโลเมตร ตามแผนที่ด้านบนเลย ซึ่งถือว่าใหญ่มาก โดยถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการแข่งขันที่มีความเร็วสูงสุด อีกทั้งยังเคยเป็นสนามที่จัดการแข่งขัน Formula 1 Japanese Grand Prix
ไฮไลท์กิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
กิจกรรมทดลองขับและคอร์สฝึกขับรถ
โซนนี้จะเป็นโซนสนามแข่งรองและโซนกิจกรรมสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสประสบการณ์ขับรถ (Sub Tracks and Activity Areas)
– Short Course และ Drift Course:
สนามย่อยที่ออกแบบมาสำหรับการดริฟต์และการฝึกซ้อมขับรถอย่างใกล้ชิด เหมาะสำหรับนักแข่งมือสมัครเล่นหรือผู้ที่สนใจการดริฟต์แบบมืออาชีพ
– Go-Kart Track:
สนามโกคาร์ทขนาดเล็กสำหรับครอบครัวและเด็กๆ ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ขับรถแข่ง โดยมีราคาอยู่ที่ 3,300 – 13,300 เยน ขึ้นอยู่กับโปรแกรมและรุ่นรถที่ต้องการทดลองขับ โดยสามารถดูตารางและรุ่นรถได้ที่ ลิ้งนี้
พิพิธภัณฑ์และโซนจัดแสดงรถยนต์
Fuji Speedway ไม่ได้เป็นแค่สนามแข่งรถเท่านั้น แต่ยังมี พิพิธภัณฑ์ และ โซนจัดแสดงรถยนต์ ที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับคนรักรถและผู้ที่สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตและเทคโนโลยียานยนต์
1. Fuji Motor Sports Museum จัดแสดงรถแข่งและรถยนต์ที่เป็นไอคอนในประวัติศาสตร์การแข่งรถ รถ Formula 1, Super GT และรถแข่งจากยุคคลาสสิกจนถึงยุคปัจจุบัน
2. โซนจัดแสดงรถยนต์ (Car Display Zones) พื้นที่จัดแสดงรถยนต์ในธีมต่างๆ รวมถึงจัดแสดงรถยนต์ต้นแบบ (Concept Cars)
3. โซนจำลองสนามแข่งและเทคโนโลยีขับขี่ ทดลองขับรถแข่งในสนาม Fuji Speedway ผ่านเทคโนโลยีจำลอง (Simulator)
โดยตัวของพิพิธภัณฑ์จะเปิดทำการทุกวัน เวลา 10:00-17:00 โดยมีราคาอยู่ที่ 1,600 – 2,000 เยนต่อท่าน
ช่วงเวลาแนะนำสำหรับการมารับชมสนามแข่ง
ช่วงการจัดการแข่งขันรายการใหญ่
ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวและแฟน ๆ ที่มาดูรายการแข่งรถใหญ่ ๆ เช่น Super GT, Super Formula และ World Endurance Championship
ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง
เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่เราแนะนำให้มาเที่ยวที่สนามแข่งแห่งนี้ เพราะเราจะได้เห็นภูเขาฟูจิในพื้นหลังจะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงนี้ พร้อมอากาศที่เย็นสบาย เหมาะแก่การเดินเล่นรอบสนามแข่ง
วันธรรมดาในช่วงนอกฤดูกาลแข่ง
หากเราไม่ต้องการเบียดเสียดกับผู้คนมากนัก ก็จะแนะนำให้เพื่อน ๆ เช็คโปรแกรมการแข่งรถรายการใหญ่ ๆ ที่ใช้สนามแห่งนี้ไว้ก่อน ในยามค่ำคืนก็สวยงามไม่แพ้กัน ถ้าจะบอกว่าวิวยามค่ำคืนสุดสวยแบบนี้ เราจะสามารถดูได้แค่เฉพาะในช่วงที่มีการจัดงานแข่งเท่านั้น เพราะในเวลาปกติจะปิดทำการอยู่ที่เวลาประมาณ 17.00 ซึ่งก็ถือว่าได้รับชมตั้งแต่เช้ายันหัวค่ำกันเลย และอาจได้เห็นพลุสวย ๆ แบบภาพด้านล่างอีกด้วย
Fuji Speedway
ที่อยู่ | 694 Nakahinata, Oyama, Sunto District, Shizuoka 410-1307 |
วิธีเดินทาง | นั่งต่อด้วยรถบัส (Fujikyu Bus) จากสถานี Mishima ตรงไป Fuji Speedway ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน 09:00 – 17:00 |
ราคา | ค่าเข้าชมสำหรับบุคคลทั่วไป 1,200 เยน |
Website | Fuji Speedway |
วิธีการเดินทาง
วิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดเราขอแนะนำให้ใช้รถไฟแล้วต่อด้วยรถบัส โดยสามารถเดินทางมาได้ด้วยรถไฟชินคันเซ็นจากสถานี Tokyo Station ไปเปลี่ยนที่สถานี Mishima โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง และนั่งต่อด้วยรถบัส (Fujikyu Bus) ตรงไป Fuji Speedway ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
ภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji)
ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิสุโอกะ (Shizuoka) และจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับท็อปฮิตที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมักจะไปเยือนมากที่สุดเนื่องจากภูเขาไฟฟูจินั้นเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ที่งดงามของประเทศที่ชาวญี่ปุ่นผูกพัน ทั้งยังเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศอีกด้วย โดยภูเขาไฟฟูจินั้นมีความสูงถึง 3,776 เมตรเลยทีเดียว นอกจากความสูงแล้วภูเขาไฟลูกนี้ยังมีความงดงามในด้านของรูปทรงที่สมมาตรกันทุกด้าน ไม่ว่ามองมุมไหนก็ไม่บิดเบี้ยว ทั้งยังมีความงามของยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมเป็นสีขาวโพลนเกือบตลอดทั้งปี กลายเป็นทิวทัศน์สุดงดงาม
ภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji)
ที่อยู่ | 3641, Funatsu, Fujikawaguchiko-machi, Minamitsuru-gun, Yamanashi-ken 401-0301 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Chou Line จากสถานี Shinjuku ไปลงที่สถานี Otsuki แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Fujikyu Railway ไปลงที่สถานี Kawaguchiko |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | – |
Gotemba Premium Outlets
Gotemba Premium Outlets ตั้งอยู่ที่เมืองโกเท็มบะ (Gotemba) จังหวัดชิซุโอกะ เป็นแหล่งช้อปปิ้งเอาท์เล็ตรายใหญ่ที่อยู่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิ
Gotemba Premium Outlets
ที่อยู่ | 1312 Fukasawa, Gotemba, Shizuoka 412-0023 |
วิธีเดินทาง | สามารถขึ้นรถบัสตรงจากโตเกียวไป Gotemba Premium Outlets ที่สถานี Tokyo Station และ Shinjuku Station ใช้เวลาเดินทาง: ประมาณ 2 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณ 1,500–2,000 เยน (เที่ยวเดียว) |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน 10.00-19.00 น. |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Gotemba Premium Outlets |
Lake Kawaguchi
คาวากุจิโกะเป็นทะเลสาบหนึ่งในห้าทะเลสาบรอบภูเขาฟูจิ ทะเลสาบคาวางกุจิเป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมอันดับต้นๆ ในหมู่นักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางมาปีนภูเขาไฟฟูจิในฤดูปีนเขา และยังเป็น 1 ในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 แห่งที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกพร้อมกันกับภูเขาฟูจิ อุทยานแห่งชาติฟูจิฮาโกเนอิซุและน้ำตกชิราอิโตะ แถมที่นี่ยังมีดอกไม้ตลอดทั้งปี ซึ่งไม่ว่ามาฤดูกาลไหนก็จะได้วิวดอกไม้สวยๆ กลับไปแน่นอน
Lake Kawaguchi
ที่อยู่ | 1163-1 Asakawa, Fujikawaguchiko, Nantodome, Yamanashi 401-0303 |
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟสาย Limited Express trains Chuo Line , Limited Express Kofu ลงสถานี OTSUKI จากนั้นต่อรถ FUJISAN VIEW EXPRESS หรือ Fujikyu Railway ลงสถานี KAWAGUCHIKO |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | – |
สรุป
ต้องขอบอกว่าถึงแม้การเดินทางมาที่สนามแข่งรถแห่งนี้อาจใช้เวลาอยู่พอสมควร แต่สามารถมาเที่ยวแบบ day trip ได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะหลาย ๆ คนที่อยากกลับมาแวะชมภูเขาไฟฟูจิแต่อยากเปลี่ยนบรรยากาศออกไปจากการเที่ยวทะเลสาบแบบเดิม ๆเราขอแนะนำสนามแข่งรถ Fuji Speedway แห่งนี้ รับรองว่าถ่ายรูปแล้วสวยไม่เหมือนใครแน่นอน !