ทำไมต้องจับตาแผ่นดินไหว “โอซาก้า” และ “โตเกียว”
สำหรับในประเทศญี่ปุ่นนั้น “โตเกียว” และ “โอซาก้า” ได้ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ ที่ถูกจับตาเป็นพิเศษกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้น ด้วยเป็นเมืองใหญ่ เมืองเศรษฐกิจ มีผู้คนหนาแน่น มีโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และมีตำแหน่งทางธรณีวิทยาที่สำคัญ นั่นคือรอยเลื่อนขนาดใหญ่ ที่อาจจะมีแนวโน้มในการเกิดแผ่นดินไหวนั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าแผ่นดินไหวนั้น ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อแรงสั่นสะเทือนโดยตรง แต่ยังรวมไปถึงผลกระทบต่อเนื่องที่อาจเกิดขึ้นตามมาอีกมาก
เมืองใหญ่ที่มีความเสี่ยงจากรอยเลื่อน
ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญที่ทำให้เมืองโอซาก้า และโตเกียว เป็นพื้นที่ที่ถูกจับตาเป็นพิเศษนั้น ก็ด้วยทั้ง 2 เมือง เป็นเมืองที่มีตำแหน่งทางธรณีวิทยา ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เรียกว่า Pacific Ring of Fire ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกมาบรรจบกันทับซ้อนหลายแผ่น เช่น รอยเลื่อนฟิลิปปินส์ (Philippine Sea Plate) รอยเลื่อนแปซิฟิก (Pacific Plate) รอยเลื่อนยูเรเชีย (Eurasian Plate) จึงทำให้มีโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวได้บ่อยนั่นเอง และที่สำคัญ ก็คือ รอยเลื่อน Nankai และ รอยเลื่อน Kanto ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุด แก่โตเกียว ในปี 1923 (พ.ศ. 2466)
โอซาก้า – โตเกียว ศูนย์กลางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว
แน่นอนว่าโตเกียวนั้น เป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่น เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวระดับประเทศ ซึ่งไม่ใช่แค่เมืองหลวงของญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็น มหานครระดับโลก ที่มีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และวัฒนธรรม และโอซาก้า ที่เป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญด้านการค้า การผลิต และยังเป็นประตูสำคัญสู่ภูมิภาคตะวันตกของญี่ปุ่น ซึ่งหากเมืองใหญ่เหล่านี้ เกิดแผ่นดินไหว อาคารสูงจำนวนมากอาจได้รับความเสียหาย รวมถึงระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น การคมนาคม ไฟฟ้า น้ำประปา อาจหยุดชะงักให้บริการ นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิด “สึนามิ” หากศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ใกล้ชายฝั่ง โดยเฉพาะแถบโอซาก้านั่นเอง
โอซาก้า – โตเกียว เมืองท่องเที่ยว ที่คนไทยนิยมเที่ยวมากที่สุด
เมืองโอซาก้าและโตเกียวนั้น เป็นเมืองสำคัญของประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว เป็นทั้งเมืองหลวงและศูนย์กลางการเงิน เป็นศูนย์รวมของอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท ไปจนถึงแฟชั่น และการค้าขนาดใหญ่ และที่สำคัญ ทั้งเมืองโอซาก้าและโตเกียวนั้น เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่คนไทยนิยมเที่ยวมากที่สุด กับสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนคุ้นเคย ทั้ง พระราชวังอิมพีเรียล วัดเซ็นโซจิ ย่าน Asakusa, ย่านช้อปปิ้งชั้นนำ อย่าง ชินจูกุ ชิบูย่า กินซ่า สวนสนุกชื่อดัง อย่างเช่น Tokyo Disney เป็นต้น
ผลกระทบที่นักท่องเที่ยวไทย อาจพบเจอจากเหตุแผ่นดินไหว
ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นเองนั้น จะมีการเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้ดีมากๆ แห่งหนึ่งของโลก แต่ด้วยขนาดของเมืองใหญ่ทั้งโอซาก้าและโตเกียวนั้น ที่เป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว และความซับซ้อนของโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งหากเกิดแผ่นดินไหว แน่นอนว่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ก็อาจได้รับผลกระทบ ทั้งด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ระบบคมนาคม เป็นต้น
แผ่นดินไหวโอซาก้า, โตเกียว กับการเดินทาง รถไฟหยุดชะงัก สนามบินปิด!
ด้วยตำแหน่งที่ตั้งทางธรณีวิทยา ที่มีการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกมาบรรจบ จึงทำให้เมืองโอซาก้า และโตเกียวนั้น มีโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวได้ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวอล้วนั้น ไม่เพียงแค่สร้างแรงสั่นสะเทือน แต่ยังสร้างผลกระทบต่อระบบขนส่งสาธารณะทั่วประเทศ ทั้งรถไฟ JR, รถไฟใต้ดิน Subway, รถไฟด่วนชินคันเซ็น รวมถึงสนามบินสำคัญๆ อย่าง Kansai, Haneda และ Narita ที่อาจต้องประกาศ หยุดให้บริการทันที ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว แต่ทั้งนี้ สำหรับประเทศที่มีระบบจัดการภัยพิบัติที่ดีที่สุดอย่างญี่ปุ่นนั้น เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหว แม้จะส่งผลให้เกิดความไม่สะดวก แต่ก็สามารถจัดการ รับมือกับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความสูญเสียจากภัยธรรมชาติ
โรงแรม–ห้างสรรพสินค้า–สถานที่ท่องเที่ยว ปิดชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย
แม้จะเป็นประเทศท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่ด้วยที่ตั้งบนรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกหลายแผ่นทับซ้อนกัน ทำให้อาจเกิดแผ่นดินไหวได้บ่อยครั้ง ทั้งในระดับเบาและรุนแรง แม้เพียงไม่กี่วินาที แต่อาคารและสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง โรงแรม, ห้างสรรพสินค้า, และ สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ จะถูกปิดให้บริการชั่วคราวทันที เพื่อความปลอดภัย และจะมีแนวทางการจัดการ และแนวทางการปฏิบัติที่เคร่งครัด เช่น มีระบบแจ้งเตือนภัยอัตโนมัติ ระบบลิฟท์ที่จะล็อกอัตโนมัติเพื่อป้องกันการติดค้าง การจัดการเร่งอพยพออกจากอาคารตามแผน เป็นต้น และหลังจากเหตุการณ์สงบ ก็จะมีการประเมินความเสียหายทางโครงสร้างโดยวิศวกร และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเข้าตรวจสอบอาคารอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าอาคารยังคงแข็งแรงและปลอดภัยสำหรับการใช้งาน
การสื่อสารขัดข้อง อินเทอร์เน็ต, โทรศัพท์ล่ม !
เมื่อแผ่นดินไหวเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในโตเกียว โอซาก้า หรือเมืองอื่นๆ อีก 1 ผลกระทบที่ตามมาก็คือ ความเสียหายทางการสื่อสาร ทั้ง อินเทอร์เน็ต, สัญญาณโทรศัพท์, และแม้แต่การสื่อสาธารณะอื่นๆ ที่จะเกิดการขัดข้อง ระบบอินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์ จะหยุดชะงักเมื่อเกิดแผ่นดินไหว รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานเสียหาย เช่น เสาสัญญาณ, ตัวอาคารสถานี แม้แต่สายเคเบิลใต้น้ำหรือใต้ดิน ก็อาจได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือนได้ รวมไปถึง การใช้งานที่จะพุ่งสูงผิดปกติทันทีหลังเกิดเหตุ ส่งผลให้เครือข่ายล้มนั่นเอง แต่ทั้งนี้ ทางญี่ปุ่นเอง ก็มีมาตรการเพื่อรับมือกับปัญหาการสื่อสารล่ม หากเกิดเหตุแผ่นดินไหว เช่น บริการข้อความภัยพิบัติ รับบ Wi-Fi สาธารณะฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ โทรศัพท์สาธารณะในกรณีฉุกเฉิน หรือการรับฟังข่าวสารผ่านวิทยุ โทรทัศน์ และสื่อสังคมออนไลน์
ร้านค้าปิด! ขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม ของใช้จำเป็น
นอกเหนือจากความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว อีกผลกระทบที่เกิดขึ้นแน่ๆ นั่นคือ การขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม ของใช้จำเป็น ที่สำคัญต่อชีวิตประจำวันของประชาชน และนักท่องเที่ยวโดยตรง ซึ่งเมื่อเกิดแผ่นดินไหวแล้ว หลังจากนั้นร้านสะดวกซื้อต่างๆ ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้าก็จะ ปิดชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย ซึ่งทำให้ไม่สามารถเข้าถึงอาหาร น้ำดื่ม และของใช้จำเป็นได้ตามปกติ หรืออาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูป มักจะถูกซื้อหมดภายในไม่กี่ชั่วโมง หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ ที่มีประชากรหนาแน่น เช่น โตเกียวและโอซาก้านั่นเอง
เกิดเหตุแผ่นดินไหว นักท่องเที่ยวควรเตรียมตัวอย่างไร
ประเทศญี่ปุ่นนั้น เป็นประเทศท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทย อย่างไรก็ตาม ก็เป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่อแผ่นดินไหวสูง ซึ่งแม้รัฐบาลญี่ปุ่นจะมีระบบเตือนภัย และการรับมือที่มีประสิทธิภาพ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยแล้วนั้น การเตรียมตัวล่วงหน้าสำหรับเหตุการณ์ต่างๆ ก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้ เช่น การศึกษาข้อมูลล่วงหน้าของพื้นที่ การทำความเข้าใจสัญญาณเตือนเบื้องต้น เว็บไซต์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรับมือภัยพิบัติ เป็นต้น นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวชาวไทยยังสามารถติดตั้งแอปเตือนภัยต่างๆ เช่น Yurekuru หรือ NHK Alert และควรดาวน์โหลดแผนที่แบบ Offline เก็บเอาไว้ หรือจดเบอร์สถานทูตไทยเอาไว้ด้วย
กรณี “ติดค้าง” ในญี่ปุ่น หลังเกิดแผ่นดินไหว
หากเกิดแผ่นดินไหวในโตเกียว หรือโอซาก้า แน่นอนว่า นักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนมาก อาจติดค้าง ไม่สามารถเดินทางกลับได้ตามกำหนด และอาจจะอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวไทย ควรมีการเตรียมตัว เช่น อยู่ในที่ที่ปลอดภัย และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นอย่างเคร่งครัด คอยติดตามการประกาศต่างๆ จากสายการบิน และติดต่อสถานทูตไทยเพื่อรับความช่วยเหลือ รวมถึงให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากเว็บไซต์ทางการญี่ปุ่น หรือใช้แอปพลิเคชัน เช่น NHK World, Safety Tips, Yurekuru Call เพื่อติดตามข้อมูลเกี่ยวกับแผ่นดินไหว หรือการประกาศเตือนภัยฉบับต่างๆ เป็นต้น และหลังจากเหตุการณ์คลี่คลาย นักท่องเที่ยวอาจต้องเปลี่ยนแปลงวันเดินทาง หรือเปลี่ยนสนามบิน ควรติดต่อกับสายการบินที่จองไว้ หรือปรึกษากับทางสถานทูตไทยเพื่อขอคำแนะนำในการเดินทางกลับ
กรณีศึกษา แผ่นดินไหวโตเกียว โอซาก้า
อย่างที่รู้กัน ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความเสี่ยงจากแผ่นดินไหว แต่ทั้งนี้ ก็เป็นประเทศที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในการเตรียมพร้อมและรับมือกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวได้เป็นอันดับต้นๆ ของโลก แม้แต่ในโตเกียวและโอซาก้า ซึ่งเป็นเมืองใหญ่และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวที่สำคัญของญี่ปุ่น ก็เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวเช่นกัน
- วันที่ 11 มีนาคม 2011 แผ่นดินไหวโทโฮคุ : เป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น และเกิดสึนามิขนาดใหญ่ตามมา กับความรุนแรงขนาด 9.0 แมกนิจูด ใต้ทะเล นอกชายฝั่งตะวันออกของเกาะฮอนชู บริเวณภูมิภาคโทโฮคุ สร้างความเสียหายอย่างมหาศาล โดยเฉพาะต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งที่ทำให้รถไฟหยุดเกือบทั้งประเทศ และสนามบินหยุดรับเที่ยวบิน
- วันที่ 18 มิถุนายน 2018 แผ่นดินไหวโอซาก้า : เหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.1 แมกนิจูด โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ทางตอนเหนือของโอซาก้า แม้จะไม่รุนแรงหรือก่อให้เกิดสึนามิ แต่เป็นอยู่ใกล้กับพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ ทำให้แผ่นดินไหวครั้งนี้ สร้างผลกระทบต่อชีวิตของชาวโอซาก้า และนักท่องเที่ยวอย่างมาก มีการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน บาดเจ็บกว่าอีก 400 ราย อาคารเรียน บ้านเรือน และสิ่งปลูกสร้างหลายแห่งเสียหาย ไฟฟ้าและน้ำประปาขัดข้อง รวมถึงระบบขนส่งหยุดชะงัก การจราจรบนท้องถนนติดขัดเป็นวงกว้าง
- วันที่ 14 เมษายน 2016 แผ่นดินไหวคุมาโมโตะ : แผ่นดินไหวขนาด 7.3 แมกนิจูด ซึ่งแม้ว่าความเสียหายหลักจะเกิดขึ้นในพื้นที่ชนบท แต่ได้สร้างผลกระทบโดยตรงต่อนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ สนามบินคุมาโมโตะ (Kumamoto Airport) ซึ่งกลายเป็นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้ที่ติดค้าง โดยเหตุการณ์นี้ กลายเป็นกรณีศึกษาสำคัญถึงการจัดการสนามบิน และสถานที่สำคัญต่างๆ ในภาวะฉุกเฉินหากเกิดภัยพิบัติ
โอซาก้า – โตเกียว เที่ยวได้ แต่อย่าประมาท
แม้จะอยู่ในพื้นที่ที่เสียงต่อแผ่นดินไหว แต่ตลอดมา ประเทศญี่ปุ่นได้แสดงให้เห็นถึงความเตรียมพร้อม ในการรับมือกับแผ่นดินไหว และภัยพิบัติอื่นๆ มาโดยตลอด แต่ทั้งนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยแล้ว การทำความเข้าใจ และเตรียมตัวถึงเหตุุการณ์ต่างๆ และผลกระทบ ก็จะช่วยให้ตระหนักถึงความสำคัญ สามารถเผชิญหน้ากับเหตึการณ์ได้อย่างมีสติ ซึ่งการไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น โตเกียวหรือโอซาก้านั้น สามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย เพียงแค่เราเตรียมตัว ตั้งสติ และการทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด ก็สามารถเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างมั่นใจ