สถานีโตเกียวมีชื่อเสียงและเป็นสถานีที่สวยงาม ด้านนอกสถานีสามารถให้ถ่ายรูปได้ โดยไปทางด้านทางออก Marunouchi แล้วยังมีทางเข้า-ออก Yaesu ที่ใช้ขึ้นลงรถไฟชินคันเซ็นได้อย่างสะดวกสบายด้วย
สถานีโตเกียวเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวที่รวบรวมร้านค้าคาแรกเตอร์มากมายไว้ด้วยกัน เรียกว่า “TOKYO CHARACTER STREET” แล้วยังมีผู้ผลิตขนมชื่อดังของญี่ปุ่น ได้แก่ CALBEE PLUS, MORINAGA CANDY SHOPและ GLICOYA มามอบความอร่อยแบบสดๆถึงที่เลย ยังไม่หมดนะ
สถานีโตเกียวยังมีจุดที่น่าสนใจพิเศษอยู่อีกตั้งสามแห่ง ได้แก่ TOKYO RAMEN STREET ที่รวบรวมราเมงรสชาติชั้นเลิศของโตเกียวมาไว้ โซน NIPPON GOURMET ROAD ก็มาสมทบความอิ่มอร่อยด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำจากทั่วประเทศ
เมื่อทุกคนพร้อมสำหรับผจญภัยสถานีโตเกียวแล้ว เราจะพามาทัวร์ด้านนอกสถานีกันก่อน ด้านที่เค้าว่ากันว่า ถ่ายรูปออกมาแล้วเหมือนอยู่ยุโรปม๊ากมาก มุมนี้อยู่ด้านทางออก Marunouchi ไม่ว่าจะออกทางโซนเหนือ กลาง ใต้ เราก็จะเดินออกมาด้านเดียวกันเหมือนเดิม ดูความงดงามไปพร้อมกัน โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในเดือนพฤศจิกายนจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีเหลืองสวยด้วย
เอาเฉพาะแค่มุมด้านนอกนี่ก็ใช้เวลาวิ่งถ่ายภาพไปมาอยู่ราว 1 ชั่วโมงเลย ฮ่าๆ ไม่ว่าเราจะมาถึงที่นี่กี่โมง ที่นี่ก็สวยงามตามแสงและเงาของดวงอาทิตย์เสมอ ช่วงค่ำก็มีการประดับไฟด้วย
เมื่อเก็บภาพด้านนอกจนสะใจแล้ว เราไปดูด้านในกันว่าที่นี่มีอะไรเด็ดๆให้เราได้อัพเดทบ้าง สำหรับใครที่เดินทางมาจากสายรถไฟอื่นและเมื่อเดินมาจากด้านในสถานีแล้ว ต้องออกมาทางด้านป้ายนี้ก่อน Yaesu Central Exit
เนื่องจากด้านในสถานีโตเกียวกว้างขวางมาก แต่ว่าแผนผังการเดินกลับไม่ได้ยากและสร้างความสับสนเท่าไหร่ แค่เราต้องค่อย ๆ ดูป้ายแล้วเดินตามเท่านั้นเอง ป้ายจะนำเรามาสู่ฝั่ง Yaesu และที่เราต้องมองหาต่อไปคือทางลงชั้นใต้ดิน ซึ่งจะเป็นป้ายบอกว่า Yaesu Underground Central Exit เห็นแค่คำว่า Underground ความคึกคักในหัวใจก็เริ่มก่อตัวขึ้นทันที
ก่อนจะไปทางไหน ต้องรู้ก่อนว่าด้านล่างนี่มีแหล่งบันเทิงเริงใจอะไรบ้าง มีแผนผังอะไรยังไง โดยการเช็คที่ลิงค์นี้ Tokyo Station
TOKYO OKASHI LAND
เมื่อใจพร้อม สองมือล้วงกระเป๋า ก้าวสองเท้าเดินลงไปเลย ก่อนจะไปถึงอะไร ก็อย่าลืมแตะบัตรออกก่อนนะ และแล้วเบื้องหน้าเราก็จะเป็น ดินแดนขนม หนม หนม ” TOKYO OKASHI LAND “ โซนนี้เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนเมษายน 2012 ความตั้งใจของเค้าคือต้องการรวบรวมผู้ผลิตขนมชื่อดังของญี่ปุ่นมาตั้งสถานีขนมเล็ก ๆ เปิดห้องครัวปรุงขนมสด ๆให้เราได้ทานกันในตอนนั้นเลย นี่แหละคือความสดใหม่ รสชาติเลยเยี่ยมยอดด้วย
เวลาให้บริการ 9.00 – 21.00
ให้เราสังเกตที่พื้นนะ จะมีลูกศรชี้ทิศทางต่าง ๆ ว่าแหล่งของกิน แหล่งช้อปปิ้งอยู่ด้านไหน มีภาษาอังกฤษกำกับด้วยนะเห็นไหมว่า ตรอกราเมง (สีแดงเข้ม) และโซนอาหาร (สีชมพู) อยู่ทางเดียวกัน ใครหิวข้าวแล้วเลี้ยวขวาไปก่อนเลยจ๊ะ
เดี๋ยวเรามาลองชิมขนมดู ว่ากันว่าที่สถานีโตเกียวนี่ รวมแต่ร้านดังๆแล้วแต่ละเมนูก็จัดทำขึ้นพิเศษด้วยนะ อย่างเช่นร้านแรกที่เราจะไปคือร้านขนมสไตล์มันฝรั่ง Calbee Plus เด็ก ๆ ชอบนักแล ที่พิเศษคือน้ำมันที่สาขานี้ใช้ทอดมันฝรั่งคือน้ำมันมะกอกด้วยนะดีต่อสุขภาพมาก ๆ
คนที่ยืนกันอยู่หน้าร้าน คือ ต้องต่อคิวซื้อคูปองก่อน มีเมนูภาษาอังกฤษแบบนี้เลย ง่ายมาก จะเลือกเมนูแนะนำหรือเมนูตามใจฉันก็ตามสบาย เมนูที่เค้าแนะนำคือแบบแก้วสีเขียว ชื่อ Poteriko Salad ราคา 340 เยน
หน้าตาตู้กดคูปองก็จะเป็นแบบนี้ มีภาษาอังกฤษอีกแล้ว สบายจังเลย ทำตามขั้นตอนเลยจ้า
แล้วเราก็รอการเรียกขานหมายเลขทางหน้าจอตรงที่มีพนักงานยืนอยู่
ระหว่างที่รอขนม ก็ดูกรรมวิธีการผลิตไปด้วย สดใหม่ น่าทานที่สุด
ถึงคิวของเราแล้ว ไปรับขนมได้เลยจ้า วันนี้สั่งมาสองรายการ กำลังร้อนๆเลย ใกล้ ๆ ร้านมีโต๊ะให้ยืนทานได้ ทานเสร็จแล้วก็ทิ้งขยะลงถังขยะตรงนั้นเลย
ทานเล่นไปพอสมควรแล้ว มาสำรวจขนมอื่นต่อ ร้านต่อไปคือขนมจากแบรนด์ MORINAGA ชื่อร้าน MORINAGA CANDY SHOP ( 森永のおかしなおかし屋さん) ซึ่งเจ้านี้เค้าเป็นเจ้าแม่แห่งวงการขนมจริง ๆ โดยเฉพาะพวกช็อกโกแลตต่าง ๆ
ที่วางอยู่นี่คืออร่อยทุกอย่าง และรุ่นลิมิเต็ดที่มีขายเฉพาะที่สถานีโตเกียวคือ Morinaga Chocoball Dodeka Box ( กล่องสีเหลือง แถบน้ำเงิน ด้านหน้าสุด) ในกล่องจะมีสามรสคือ รสช็อกโกแลต สตรอเบอร์รีและชีสเค้ก ด้านในเป็นเมล็ดถั่ว
ขนมแบบอื่นก็น่าอร่อยมาก ควรลองชิมทุกอัน
อันนี้เป็นตู้สำหรับทำเหรียญที่ระลึก ของเจ้าโคโร่จัง มาเที่ยวทั้งทีควรมีอะไรกลับไปดูต่างหน้าหน่อย
หยอดเงินแค่ 100 เยน เลือกแบบลายของเหรียญเลยว่าจะเอา A B หรือ C
ออกมาแล้ว ฮ่า ๆ น่ารักเนอะ ใส่กรอบทำเป็นสร้อยคอก็เท่ดีนะ
ไปมุมอื่นกันต่อดีกว่า ไหนๆก็มีครัวทำขนมมาตั้งถึงในสถานีแล้ว เราไปต่อกันที่ผู้ผลิตกูลิโกะบ้าง ซึ่งก็อยู่ใกล้กันนี่เอง ชื่อร้าน Glico ALMOND DAYS
ที่นี่มีผลิตภัณฑ์ที่จำจากอัลมอนด์มากมาย เช่น นมอัลมอนด์ที่ทำจากธัญพืช, ครีมนมอัลมอนด์ที่ทำจากน้ำมันสกัดจากอัลมอนด์, และขนมอบที่ทำจากแป้งอัลมอนด์
เมนูแนะนำก็ต้องรายการนี้เลย CRAFT ALMOND MILK นมอัลมอนด์ที่ทำเองในร้านโดยใช้ส่วนผสมที่ทำจากอัลมอนด์คั่วที่มีกลิ่นหอมบดละเอียดมาทำ
NIPPON GOURMET ROAD
ทานขนมพอสนุกสนานแล้ว เอาล่ะ ถึงคราวชีวิตจะต้องจริงจังเสียที หาร้านข้าวทานกันดีกว่า สองเท้าพุ่งไปตามลูกศรสีชมพูที่พื้นตะกี้นี้เลย ตรงโซนอาหาร “ NIPPON GOURMET ROAD ” นี่เป็นโซนเปิดใหม่ใสกิ๊ก รวบรวมสุดยอดอาหารญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่ (ที่นี่จะแบ่งโซนร้านอาหารไว้หลายแบบ เวลาให้บริการแต่ละร้านก็แตกต่างกันนิดหน่อย) เวลาทำการ 10.00 – 23.00 น.(Last order 22.30 และปิด 23.00 )
KAGOSHIMA KUROKATSU TEI ( 鹿児島黒かつ亭 )
โดยร้านแรกที่เราจะพามาชิม ขอบอกว่า ดังมากและหาทานได้ยากที่สุด นั่นคือ ร้านทงคัตสึ และไม่ใช่หมูธรรมดา แต่เราเรียกว่า Kurobuta มาไกลจากจ.คาโกชิม่า เกาะคิวชู ร้านนี้ชื่อว่า KAGOSHIMA KUROKATSU TEI ( 鹿児島黒かつ亭 )
ร้านหาง่ายมาก ในโซนอาหารให้สังเกตว่าไฟประดับบนเพดานจะเป็นสีเหลืองทอง
ด้านในตกแต่งสบาย ๆ ถึงมาคนเดียวก็ไม่เหงานะ มีที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ด้วย
เครื่องปรุงของร้าน ทุกอย่างนำมาจากจ.คาโกชิม่า
ไม้แขวนเสื้อตรงฝาผนัง เอาไว้แขวนเสื้อโค้ท เสื้อกันหนาว
สามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิต เงินสด แม้แต่บัตร IC Card ก็ยังได้เลย
เสิร์ฟน้ำด้วยชาเขียวหอมๆ
ได้เวลาสั่งอาหารกันแล้ว เอาเมนูบนโต๊ะออกมากางดู ที่นี่มีเมนูภาษาอังกฤษด้วยนะ ถ้าไม่เห็นวางบนโต๊ะสามารถขอกับพนักงานได้ เมนูไหนเค้าอยากให้เราลองชิม เค้าจะเขียนว่า Recommended เพราะนี่คือตัวเด่นของร้านเลย สังเกตทุกรูปเมนูอาหารจะมีตัวอักษร เช่น D, E ,F เพื่อให้การพูดสั่งอาหารทำได้ง่ายมากขึ้น
ร้านนี้มี Facebook ด้วยนะ ทันสมัยจริงๆ เพื่อจะได้ทราบที่มาที่ไปของร้าน รวมถึงขั้นตอนการปรุงอาหารที่เลิศเลอของเค้า เราสามารถตามไปดูเวบไซต์ของร้านเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษต่อได้ที่นี่ KUROKATSU TEI
สั่งอาหารกันมาเลยจ้า หิวแล้ว นี่เป็นเมนูแนะนำของร้านเช่นกัน เดี๋ยวจะสาธยายความพิถีพิถันในการทำอาหารของร้านนี้ให้ฟัง เริ่มจาก
- ข้าว
เอามาจากจ.คาโกชิม่า ใช้เวลาในการหุง 2 ชั่วโมงข้าวจะยิ่งหอม นุ่มอร่อย แล้วใช้ข้าวพันธุ์ดีด้วย
- ทงคัตสึ
ชุบด้วยเกล็ดขนมปังสด และใช้น้ำมันคาโนล่าทอด ประโยชน์ของน้ำมันคาโนล่า คือ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
- ถ้วยน้ำซอส 3 ช่อง
ช่องซ้ายเป็นน้ำซอส เรียกว่า Black Sauce เข้มข้น มีขวดซอสบนโต๊ะสามารถเติมเพิ่มได้ ช่องกลางคือเกลือผสมผงบ๊วย ช่องขวาคือหัวไชเท้าฝนกับซอสเปรี้ยวพอนสึ
ถ้าในโลกของเนื้อวัว เนื้อวากิวหรือเนื้อโกเบคือที่สุดแล้ว ในโลกของเนื้อหมู Kurobuta นี่ก็คือราชาแห่งเนื้อหมูเลยนะ
Kuro – สีดำ , Buta – หมู คือ เป็นหมูพันธุ์สีดำ นี่เอง
ถ้วยงาพร้อมไม้บด เอาไว้เพิ่มสีสันรสชาติ ถ้าทานหมูราดซอสปกติแล้วอยากเพิ่มรสชาติใหม่ ก็เอาไม้บดงา เทใส่ถ้วยช่องน้ำซอสอีก ก็จะได้ความแปลกใหม่ หอมงาบด
น้ำซุปถ้วยนี้ อร่อยมาก รสชาติแบบนี้ไม่เคยทานที่ไหนเลย เรียกว่า ทงจิหรุ (Ton Jiru) รับรองว่าทานคำแรกไปแล้วจะต้องประทับใจเลย เพราะเค้าใช้มิโสะเข้มข้นคุณภาพดี
เมนูนี้คือเนื้อบดชุบเกล็ดขนมปังทอด เรียกว่า Kagoshima Juicy Minced Meat Cutlet ราคา 350 เยน อร่อยมาก
เนื้อบดที่ใช้ก็เป็นเนื้อ Kurobuta เหมือนกันนะ เมนูนี้เป็นเมนูแนะนำของร้านเลย
เราสามารถสั่งขนาดถ้วยข้าวได้นะ ว่าจะเอาเล็ก กลาง ใหญ่ แต่ต้องสั่งตั้งแต่ออเดอร์ครั้งแรกเลย ถ้าจะเติมข้าวครั้งต่อไปก็เสียเงินเพิ่มถ้วยละ 150 เยน
การราดซอสก็คือศิลปะการกินอย่างหนึ่งเช่นกัน จะจิ้มหรือจะราดก็ตามความชอบเลย
Kagoshima Kurokatsu tei
ที่อยู่ | 100-0005 , 1 Chome-9-1 Marunouchi, Chiyoda-ku, Tokyo Tokyo Station Ichibangai, B1F Japan Gourmet Street |
---|---|
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน 10. 00น.- 23.00 น. ( Last order 22.30 น.) |
โทรศัพท์ | 03-6269-9123 |
Website | Kagoshima Kurokatsu tei |
Hakodate Tachiguizushi Kantaro
แล้วเราก็มาหาแหล่งกินกันต่อ ถ้าเนื้อหมูยังไม่ทำให้อิ่มสุด ๆ เนื้อปลาดิบเบา ๆ กันสักหน่อยดีไหม ร้านนี้ โอ้โห ไม่น่าเชื่อว่าเราจะมีโอกาสได้ทานด้วย เพราะเค้ามาจากฮาโกดาเตะเชียวนะ ชื่อว่าร้าน Hakodate Tachiguizushi Kantaro เราเรียกเค้าสั้น ๆ ว่า Kantaro ( 函太郎 ) แล้วกันเนอะ
สาขานี้เป็นร้านยืนทานนะคะ ร้านประเภทนี้มีเยอะมากในโตเกียว เพราะพื้นที่ค่อนข้างจำกัดแต่ก็ขยับตัวสะดวกสบายนะ เป็นบรรยากาศสนุก ๆ เลย
สังเกตหน้าร้าน แต่ละร้านจะมีรูปแผนที่แสดงตำแหน่งแหล่งที่มาว่ามาจากไหนของประเทศ จะจุดสีชมพูไว้
บรรยากาศในร้านคึกคักมาก ร้านนี้คนมาทานเยอะนะ ต้องแจ้งพนักงานก่อนว่ามากี่คน เดี๋ยวเค้าจะพาเข้าร้าน
พนักงานจะเอาจอเมนูมาให้กดสั่ง เราเปลี่ยนภาษาเป็นอังกฤษได้นะ สะดวกมาก เพราะที่นี่คือสถานีโตเกียว
ดูหน้าตาเมนู กดเลือกภาพ กดจำนวนชิ้น แล้วกดสั่งที่ปุ่มเขียวมุมขวาล่าง สั่งได้รอบละ 5 เมนูเท่านั้น พอทานหมดค่อยกดสั่งใหม่
จะบอกว่า ภาพเป็นแบบไหน ของจริงมาแบบในภาพเลย
พนักงานปั้นซูชิเสร็จแล้วจะเอามาวางบนใบไม้ด้านหน้าเรา
ดูความเป็นซูชิฮาโกดาเตะ
สั่งมาเรื่อย ๆ เพราะไม่รู้ว่าเผลอทานหมดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ หวานละลายในปาก แถมเชฟยังทำให้ทานสดๆ อู๊ย ฟิน
ค่อย ๆ คีบเข้าปาก แม่บอกว่าเวลาทานข้าวอย่าคุยกัน งั้นขอตัวไปทานก่อนนะคะ
มาดูกันว่าเวลาคนญี่ปุ่นทานซูชิ เค้าคีบ หรือจุ่มโชยุกันแบบไหน ก่อนอื่นเราต้องหากระปุกขิงก่อน
จากนั้น สังเกตน้ำโชยุมีสองแบบ คือแบบกาน้ำสีขาว กับแบบขวดที่มีปุ่มกดด้านบน ด้านในคือโชยุตัวเดียวกัน แต่การใช้งานไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง ขวดแบบมีปุ่มกดด้านบน เหมาะสำหรับเหยาะลงซูชิที่เป็นสาหร่ายพันแบบนี้
ส่วนแบบกาน้ำ โชยุจะเทไหลออกง่าย จึงต้องรินใส่ถ้วยใบเล็ก แล้วคีบขิงดองจุ่ม ๆ แตะ ๆ ลงไป
แล้วเอามาแตะลงบนผิวของเนื้อปลาดิบแบบนี้อีกที ให้โชยุชุ่มฉ่ำอยู่บนผิวเนื้อปลา
แบบนี้ข้าวก็ไม่เละ ส่วนเนื้อปลาก็สัมผัสกับโชยุโดยตรง แล้วก็อ้าปากเลยจ้า
ทานไปก็แอบมองแซลมอนในตู้ไป ขอจองชิ้นขวาสุดนะ
มีเครื่องดื่มมากมาย สั่งมาดื่มได้เช่นกัน
ร้านนี้มีวิธีการคิดเงินที่เป็นเอกลักษณ์มาก คือวิธีนี้เคยใช้กันในสมัยอดีต เค้าจะคิดเลยว่า ซูชิตัวนี้คือเหรียญสีอะไร เช่น แซลมอนคือสีแดง ปูคือสีเขียว แล้วพอจะคิดเงินก็เอาเหรียญในกล่องมาคำนวณ
Standing Sushi Bar ( Hakodate Tachiguizushi Kantaro)
ที่อยู่ | A-7, B1, First Avenue Tokyo Station 1-9-1 Marunouchi, Chiyoda-ku, Tokyo |
เวลาทำการ | 10.00 – 23.00 น. |
โทรศัพท์ | 03-6551-2398 |
Website | Standing Sushi Bar ( Hakodate Tachiguizushi Kantaro) |
JAPAN TAX FREE COUNTER
ท้องอิ่ม สบายใจแล้ว จากนี้จะเป็นรายการเดินซื้อของกันละนะ รู้หรือเปล่าว่าที่ภายในสถานีโตเกียวก็สามารถ Tax-Free ได้ด้วยนะ ก็จะมีขั้นตอนนิดนึงแต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร โดยเคาน์เตอร์สำหรับทำเรื่องคืนภาษีนี้ก็อยู่โซนใกล้กับแหล่งช้อปปิ้งนี่เอง เรามองตามป้ายที่อยู่ตามทางเดิน แล้วเดินตามกันมาเลย เวลาทำการ 9.00 – 21.00
จะเจอเคาน์เตอร์แบบนี้ ซึ่งก็อยู่ติดกับที่รับฝากกระเป๋าด้วยเช่นกัน และที่นี่ก็ยังสามารถส่งกระเป๋าไปสนามบินแบบภายในวันเดียวได้ด้วยนะ เข้าไปติดต่อเลย มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ 2 ท่าน สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีมาก
เจ้าหน้าที่ขอพาสปอร์ต แล้วจากนั้นไม่เกิน 5 นาทีก็พิมพ์ใบสีขาวมาให้ ตัวนี้คือเราต้องยื่นกับร้านค้าที่เราซื้อของทุกครั้งก่อนที่จะชำระเงิน เมื่อเดินซื้อของจนครบพอใจแล้ว ก็ให้กลับมาที่นี่อีกครั้ง เพื่อขอคืนภาษีซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานเช่นกัน
ขั้นตอนการซื้อของเพื่อได้คืนภาษี
- ไปที่เคาน์เตอร์ TAX FREE
- ยื่นพาสปอร์ตตัวจริงให้เจ้าหน้าที่
- รับสลิป TAX FREE และคู่มือ
- เวลาซื้อของที่ร้านค้า ให้ยื่นสลิปนี้ทุกครั้ง
- ซื้อของเสร็จเรียบร้อยแล้ว หอบทุกอย่างกลับมาที่เคาน์เตอร์ โชว์พาสปอร์ต ใบสลิป TAX FREE คู่มือที่ได้รับและสินค้าที่ได้รับคืนภาษี
- เซ็นชื่อที่จอดิจิตอล
- รับเงินคืน ในสกุลเงินเยน
- ใบเสร็จที่แปะอยู่บนพาสปอร์ต ให้เอาไว้ให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรในสนามบิน อย่าเปิดหรือแกะห่อสินค้าจนกว่าจะบินออกนอกประเทศ *เวลาเช็คอินกระเป๋า ถ้ามีสินค้าที่คืนภาษีอยู่ในกระเป๋าเดินทาง ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ด้วย
มีแผนผังร้านค้าที่เข้าร่วมเงื่อนไขนี้ ซึ่งก็แทบจะครอบคลุมเกือบหมด ทั้งโซนขนมของฝาก และซอยละลายทรัพย์อย่างถนนคาแรกเตอร์ และเหมือนทุกห้างคือแยกประเภทของทาน ของใช้ ซึ่งยอดขั้นต่ำก็ 5000 เยนโดยยึดตัวเลขตามบิลใบเสร็จ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ Tokyo Station
ร้านที่เข้าร่วมรายการก็มากมาย คือทั้งขชั้นนี้ก็แทบจะครอบคลุมหมดเลย ลองเช็คดู
ถ้าไม่รู้ว่าร้านนั้นได้เข้าร่วมไหม ก็ดูป้ายหน้าร้านก็ได้ เขียนแสดงชัดเจน จะได้มั่นใจก่อนเข้าไปซื้อ
TOKYO CHARACTER STREET
จากนี้ เราก็เริ่มต้นนับเวลาแห่งความสนุกกันอีกครั้งแล้วสิ TOKYO CHARACTER STREET เป็นถนนที่รวบรวมแหล่งการ์ตูน ตุ๊กตาคาแรกเตอร์ อนิเมะ และสินค้ายอดนิยมมากมาย ที่จะทำให้เราใจละลาย จ่ายหนักกว่าของลูกอีกนะคะ ซอยละลายทรัพย์โตเกียว อยู่ตรงหน้าแล้ว จะรออะไรอีก เดินเข้าไปเลย (ช่วงนี้ประดับไฟด้านบนเป็นสีฟ้ายาวไปทั้งแนวเลย)เวลาทำการ 10.00 – 20.30
Prism Stone :ร้านนี้ของเด็กหญิง มีของเล่นเพียบ เพลินดีเหมือนกันนะ
Precure :ส่วนร้านนี้ถ้าเป็นภาษาญี่ปุ่น プリキュア จะอ่านว่า พุรีคูอะ ชื่อเสียงโด่งดังมายาวนานมากเป็นสิบกว่าปีมาแล้ว
Miffy:มิฟฟี่ ยังอยู่สบายดีจ้า มีสินค้าใหม่ ๆ มาอัพเดทตลอดนะ
ใครชอบหมีบ้าง หอบไปได้หอบไปเลย
หอบไม่ไหว เอาตัวเล็กไปก่อนนะ ใส่ยูนิฟอร์มอย่างเท่เลย นี่ชุดพนักคนขับรถบัสหรือเปล่า
Moomin : สาวกมูมิน ต้องมีกรี๊ด เพราะร้านนี้มีทั้งของใช้มากมาย
Pokemon:โปเกม่อน กับดินสอ Kurutoga ยอดนิยมของเด็กนักเรียน คู่ควรที่จะซื้อกลับไปใช้มากๆ
The bears’school :ใครยังไม่รู้จักเจ้าคาแร็กเตอร์ตัวนี้ ขอเล่าให้ฟังหน่อยจะเป็นเรื่องราวของแจ็กกี้ เป็นหมีเด็กหญิงที่มีหมีพี่ชายล้อมรอบอีก 11 ตัว ไปโรงเรียนบ้าง เล่นบ้าง แจ็กกี้เกิดวันที่ 24 มิถุนายนนะ ใครเกิดวันเดียวกันบ้าง ฮ่า ๆ
ที่นี่ยังมีสินค้าคาแรกเตอร์น่ารัก ๆ อีกหลายแบบเลย ละลานตามาก Let’s check it out
Tomica :ใครชอบงานประกอบ งานต่อราง แบบแมน ๆ เล่นกัน ก็ต้องมุมของโทมิกาเลย
Sumikko Gurashi :สุมิกโกะเอาใจสาวน้อยด้วยของเล่นนุ่มนิ่มสกุชชี่ ยังฮิตอยู่นะ
มีขนมสุมิกโกะด้วยนะ น่าทานไหม
ก่อนจะออกจากโซนนี้ ไม่ลืมที่จะเทหน้าตัก ควักตังค์เหรียญไปหยอดกาชาปองจ้า ที่นี่มีแต่กาชาปองรุ่นใหม่ ๆ ทั้งนั้นเลย ร้านอยู่ติดกับร้านโปเกม่อน มีร้อยหมดร้อย มีพันหมดพัน
จริง ๆ ยังมีอีกหลายร้าน ใช้เวลาเดินซื้อของต่อได้อีกมากมาย แต่ตอนนี้เราแวบไปดูมุมขนมของฝากกันหน่อย ว่าที่เค้าบอกว่า สถานีโตเกียวคือแหล่งรวมของฝากอย่างสมบูรณ์แบบนี่จะเป็นอย่างไรบ้าง ก็มีทั้งแบบถือกลับได้ กับแบบสดที่ต้องทานในวันนั้นก็มีนะ และโซนนี้ ก็สามารถจับมาอยู่ในกลุ่ม Tax free ได้เช่นกัน
TOKYO RAMEN STREET
เดินมาเยอะ ก็เหนื่อยและหิวอีกแล้ว แต่เรามาหาอะไรทานเบา ๆ ก่อนมื้ออาหารเย็นกันดีกว่า ไปตรอกราเมงกัน ราเมงอร่อย ๆ จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น เพราะที่นี่รวบรวมร้านราเมงที่ดังมากและมีชื่อเสียงในเขตโตเกียวและรอบๆ มา 8 ร้าน เราไม่ต้องไปตระเวนชิมที่ไหนเลย มาที่นี่แล้วลองให้สะใจ บางร้านไม่เคยมีเมนูที่ร้านต้นตำรับ ก็มาทำเมนูใหม่ที่นี่ คนก็ตามมาทานอีกเช่นเเดิม ตรอกราเมงอยู่โซนเดียวกับร้านอาหาร
โดยมีขั้นตอนการซื้อคือ การกดซื้อคูปองจากตู้ขายตั๋วอัตโนมัติที่หน้าร้าน มีภาษาอังกฤษกำกับ ไม่ต้องสื่อสารกันเยอะ ยื่นคูปองแล้วรอทานได้เลย
เข้าตามตรอก ออกทางประตู เอ้ย เข้าตรอกราเมงแล้วหาร้านนั่งทานกัน
TOKYO NIBOSHI RAMEN GYOKU
ราเมงร้านที่สอง ที่จะมาแนะนำคือ TOKYO NIBOSHI RAMEN GYOKU ( 東京煮干らーめん玉 ) ร้านนี้เน้นน้ำซุปที่ทำมาจากปลาแอนโชวี่ เหมาะสำหรับคนที่อยากทานซุปแบบมาจากดาชิ มาจากเมืองคาวาซากิ จ.คานากาว่า ใกล้โตเกียวนี่เอง
ซื้อคูปองที่หน้าร้านกันก่อนนะ
ยื่นคูปองให้พนักงานแล้ว เดี๋ยวน้อง ๆ จะถือราเมงมาให้ที่โต๊ะ
ถ้วยแรกเป็นราเมงน้ำข้น ทานแล้วเต็มปากเต็มคำมากได้ความเป็นเนื้อปลาจริงๆ หมูชาชูก็ดีงาม ชื่อ Sarari ราคา 780 เยน (หมายเลข 9 )
ถ้วยที่สอง เป็นราเมงน้ำใสขึ้นมาหน่อย ความเหนียวนุ่มของเส้นยังคงเหมือนเดิม แต่น้ำซุปออกรสชาติโชยุ ซึ่งเป็นรสชาติที่ทานง่าย ใครชอบแบบน้ำใส อาจจะทานง่ายขึ้น ถ้วยนี้ชื่อ Torori ราคา 830 เยน (หมายเลข 4)
ดูความฟูฟ่องของคัทสึโอะบุชิ แผ่นปลาบางๆที่โรยหน้าเมนูทุกจาน
ความเหนียมนุ่มของเส้น บวกกับน้ำซุปปลาเข้มข้น
นอกจากนี้เรายังสั่งข้าวสวยที่ทานกับไข่ดิบมาด้วยนะ (หมายเลข 20) ราคา 350 เยน วิธีทานให้ข้าวไม่เละเกินไป คีบทานง่ายคือ เราจะเอาเฉพาะไข่แดงแยกออกมาจากไข่ขาว ค่อยโปะไข่แดงลงบนถ้วยข้าวที่มีคัทสึโอะบูชิวางฟูฟ่องอยู่ แล้วเราค่อยๆเทโชยุ และใช้ตะเกียบคลุก ๆ ด้วยกัน
TOKYO NIBOSHI RAMEN GYOKU 東京煮干し らーめん玉
ที่อยู่ | 1-9-1 Marunouchi, Chiyoda-ku, Tokyo Tokyo Station No.1 street B1F |
---|---|
เวลาทำการ | 10.00 – 23.00 น.( Last order 22.30 ) ไม่มีวันหยุด |
โทรศัพท์ | 03-6551-2205 |
Website | TOKYO NIBOSHI RAMEN GYOKU |
สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่มาพร้อมกระเป๋าล้อลาก บางร้านเค้าก็ดูแลรับฝากให้อย่างดีนะ มีสายโซ่คล้องเรียบร้อยด้วย
สรุป
นับจากวันนี้ สถานีโตเกียว ไม่ได้เป็นแค่ที่เปลี่ยนเส้นทางสายรถไฟอีกต่อไป แต่ยังเป็นจุดนัดพบสำหรับพวกเราทุกคน ที่เติมเต็มช่วงเวลาสนุกสนานในระหว่างวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะเราจะได้ชิมอาหารชั้นเลิศที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี ทั้งยังมีครัวผลิตขนมมาให้อิ่มอร่อยถึงที่ รวมถึงของฝากมากมายเหมาะสำหรับเป็นของที่ระลึกเพื่อคนพิเศษของคุณ One Day Trip in Tokyo Station.
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
พิกัดเที่ยวโตเกียวยังมีอีกมาก แนะนำให้อัพเดตที่เที่ยวก่อนไป รับรองว่าคุ้ม
ที่เที่ยว โตเกียว (Tokyo) 12 ย่านดัง และ 17 ที่เที่ยวแนะนำอัพเดทใหม่ 2023
โตเกียว เมืองยอดฮิตติดชาร์ตเที่ยวญี่ปุ่นตลอดกาล มีที่เที่ยวและกิจกรรมครบรสหลากสีสัน ไปกี่ครั้งก็ยังไปซ้ำได้ไม่มีเบื่อ