ซื้อกล้องที่ญี่ปุ่น มันดีแบบนี้เอง! แนะนำกล้องมือสองคุณภาพมือหนึ่ง

08/02/2016 (อัพเดทเมื่อ 15/07/2024)
ใครๆ ต่างก็รู้กันว่าสินค้ามือสองของญี่ปุ่นเป็นของดีมีคุณภาพในราคาน่าคบหา รวมถึงของแพงอย่าง "กล้อง" ด้วย ขออาสาพาเพื่อน ๆ ไปช้อป 'กล้องถ่ายรูปมือสอง' ที่ญี่ปุ่นด้วยกันแบบมีสติและประหยัดสตางค์ พร้อม Tips ในการเลือกซื้อ และพิกัดกล้องมือสองดีๆ ราคาสมเหตุสมผล ซึ่งขอบอกเลยว่า ซื้อกล้องที่ญี่ปุ่น ...คุ้มเว่อร์!!

ในช่วงที่ผ่านมา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์การถ่ายรูปนั้นมาแรงสุด ๆ เพราะใคร ๆ ต่างก็อยากบันทึกภาพของความทรงจำเก็บเอาไว้ ซึ่งในปัจจุบันหลายคนนิยมแชร์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คกันมากขึ้น ทำให้เกิดเป็นการแข่งขันเล็ก ๆ ที่อยากจะอวดภาพสวย ๆ ที่ถ่ายมาให้โลกได้เห็น

และ ‘กล้องถ่ายรูป’ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้การบันทึกความทรงจำของเราสวยงามยิ่งขึ้น นอกเหนือไปจากองค์ประกอบภาพ แสงเงา มุมกล้อง และความสามารถของผู้ถ่าย แต่กล้องดี ๆ สักตัวมันก็แพงเหลือเกิน เพราะฉะนั้นเราลองไป ซื้อกล้องที่ญี่ปุ่น แบบมือสองที่ราคาถูกกว่าที่ญี่ปุ่นกันดีกว่าค่ะ

หากใครมีโอกาสเดินทางไปช้อปปิ้งที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่บ่อย ๆ ก็คงจะทราบดีว่าสินค้ามือสองของที่นี่เป็นของดีมีคุณภาพ ซึ่งบางชิ้นยังมีสภาพใหม่เอี่ยมราวกับไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน

กล้องถ่ายรูปเองก็เช่นกัน ด้วยความที่เป็นสินค้าที่มีการผลิตเป็นจำนวนมาก ทำให้มีกล้องรุ่นใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ส่วนรุ่นเก่าที่ตกรุ่นแล้วก็ถูกเจ้าของนำมาขายทอดตลาดกลายเป็นกล้องมือสองที่มีขายอยู่มากมายในญี่ปุ่นนั่นเอง

ประเภทของ ‘กล้องญี่ปุ่น’

สำหรับกล้องที่จำหน่ายอยู่ในประเทศญี่ปุ่นถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

  • ประเภทที่ 1

เป็นสินค้าที่ผลิตและขายในประเทศญี่ปุ่น ทุกอย่างจะเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด ตั้งแต่เมนู คู่มือ ซอฟต์แวร์ ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนภาษาได้ และจะรับประกันเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งบางครั้งอาจใช้ไฟฟ้า 110 V. ได้อย่างเดียว ซึ่งไม่สามารถใช้ที่ไทยได้ แต่มีข้อดีคือราคาถูกกว่าประเภทอื่นมาก

  • ประเภทที่ 2

ตัวกล้องจะมีเมนู คู่มือ และซอฟต์แวร์เป็นภาษาอังกฤษ (ยกเว้นกล้องดิจิตอลยี่ห้อ Sony และ Panasonic) กระแสไฟฟ้าที่ใช้รองรับตั้งแต่ 110-240 V. แต่จะรับประกันเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น และมีราคาไม่ต่างจากประเภทที่ 1 มากนัก

  • ประเภทที่ 3

เป็นกล้องที่ผลิตขึ้นเพื่อส่งขายไปยังตลาดต่างประเทศ ทำให้รองรับได้หลายภาษา ซึ่งบางครั้งอาจมีภาษาไทยด้วย ตั้งแต่เมนู คู่มือ และซอฟต์แวร์ มีกระแสไฟฟ้าที่ครอบคลุมและการรับประกันแบบ Worldwide สามารถนำไปเคลมที่ประเทศใดก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่ามีราคาสูงที่สุดในบรรดากล้องทั้งสามประเภท

แม้ว่าจะเป็นกล้องมือสองที่ราคาถูกลดลงมากกว่าครึ่งแล้วก็ตาม เราก็ยังต้องใช้ความตั้งใจในการเลือกซื้อ โดยเพื่อน ๆ จะต้องรู้ก่อนว่าอยากได้กล้องไว้ใช้ทำอะไร เพราะถ้าใช้ในการทำงานก็ต้องเลือกกล้องเสปคสูง ๆ แต่ถ้าใช้เพื่อถ่ายภาพบันทึกความทรงจำก็อาจเลือกเสปคที่ต่ำลงมาหน่อย จะได้มีเงินเหลือเก็บไว้ช้อปปิ้งอย่างอื่นต่อ

Tips รู้ไว้ก่อนซื้อ

และไม่ว่าจะซื้อกล้องรุ่นใด ราคาเท่าไร จะเสปคสูงหรือต่ำ สิ่งที่เราชาวไทยต้องยึดมั่นไว้เสมอคือหลักสิทธิผู้บริโภคนั่นเอง พูดง่าย ๆ ก็คือ ‘ซื้ออย่างไร…ไม่ให้เสียเงินฟรี’ และนี่คือข้อแนะนำและสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ ซื้อกล้องที่ญี่ปุ่น มือสอง

1. หากไม่ได้ซื้อ JR All Pass ไว้ แนะนำให้ซื้อเป็น 1 Day Pass ของจังหวัดที่ไปเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพราะเราอาจไม่เจอกล้องแบบที่ต้องการในร้านเดียว ทำให้ต้องเดินทางตามหา

2. อย่าลืมพกพาสปอร์ตติดตัวไปด้วยเพื่อใช้ในการขอยกเว้นภาษี (ในกรณีที่ซื้อสินค้าครบ 10,800 เยนขึ้นไป) เพราะถึงแม้จะเป็นกล้องมือสองแต่ก็สามารถยกเว้นภาษีได้ เท่ากับว่าเราได้ลดราคาไปอีก 8% เพราะฉะนั้นห้ามลืมเด็ดขาด

3. ร้านขายกล้องมือสองในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะไม่ให้ต่อราคาเพราะเค้าไม่ได้ตั้งราคาสูงไว้เผื่อต่อเหมือนบ้านเรา

4. แทบทุกร้านจะมีระบบสมาชิกให้สะสมแต้มสำหรับการซื้อแต่ละครั้ง ซึ่งนักท่องเที่ยวอย่างเราที่ไม่ได้ซื้อบ่อย ๆ นั้นไม่จำเป็น จึงอาจลองพูดคุยเพื่อต่อรองกับพนักงานดูว่าเราสามารถเปลี่ยนเป็นสิทธิพิเศษอื่นได้หรือไม่ เช่น ส่วนลดเพิ่มจาก 5% เป็น 10% เป็นต้น

5. กล้องมือสองจะถูกแบ่งเกรดออกเป็น A, B และ C (บางร้านอาจแบ่งเกรดไว้มากกว่านี้) ซึ่งราคาก็จะลดหย่อนตามสภาพกันไป โดยการจัดเกรดจะเขียนไว้ที่มุมบนขวาของป้ายราคา รวมทั้งรายละเอียดสินค้าอย่างเช่นอุปกรณ์ที่มากับตัวกล้องหรือกล้องตัวนี้ขาดอุปกรณ์ใดและมีตำหนิตรงไหนบ้าง (เป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ แนะนำให้ขอพนักงานลองเล่นดู)

6. เมื่อเจอกล้องมือสองรุ่นที่ต้องการแล้ว อันดับแรกที่ต้องทำคือการทดลองใช้ด้วยตัวเองเพื่อทดสอบตัวกล้องเบื้องต้นกันก่อน เริ่มจากเช็คด้านกายภาพว่าสึกหรอมากน้อยเพียงใด แล้วจะส่งผลต่อการใช้งานหรือเปล่า ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่จะมาจากเลนส์ที่ได้มาพร้อมกล้อง เพราะหากมีราขึ้นเพียงจุดเล็ก ๆ ก็อาจทำให้เลนส์ไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

จากนั้นก็เริ่มทดสอบเมนูคำสั่งและปุ่มกดต่าง ๆ ว่ายังใช้งานได้ปกติหรือไม่ กดไปกดมาจนแน่ใจว่าไม่มีอะไรที่ผิดปกติ และการทดสอบที่ดีที่สุดก็คือการลองถ่ายจริงแล้วดูว่าภาพที่ได้มีความคมชัดหรือแสงสีตามที่ต้องการไหม สุดท้ายคือเรื่องประกันว่าหมดอายุหรือยัง แต่ถ้าไม่ใช่แบบ Worldwide ก็ไม่มีผลเท่าไรนัก

7. และที่สำคัญที่สุดที่อยากบอกก็คือ “ควรซื้อกล้องมือสองในวันแรก ๆ ที่เดินทางไปถึงญี่ปุ่นและลองใช้งานจริงเลย เพราะหากมีปัญหายังสามารถนำกลับไปให้ที่ร้านดูได้ ฉะนั้น…ไม่ควรซื้อวันสุดท้ายก่อนกลับ”

ร้านขาย ‘กล้องมือสอง’ ในโตเกียว

ในโตเกียวนั้นมีร้านจำหน่ายกล้องอยู่มากมาย ตั้งแต่แบรนด์ยักษ์ใหญ่ไปจนถึงร้านเล็ก ซึ่งแหล่งรวมร้านขายกล้องส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้น Akihabara ย่านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ นั่นเอง ซึ่งเกือบทุกร้านขายกล้องจะมีขายทั้งกล้องมือหนึ่งและมือสอง โดยอาจจะขายแยกกันคนละชั้นหรือคนละตึก

รุ่นของกล้องและราคาก็จะแตกต่างกันไป เพราะกล้องมือสองแต่ละตัวก็เปรียบเหมือนกับสินค้าที่มีตัวเดียวในโลก เพราะผ่านการใช้งานมาต่างกัน และตัวไหนถูกขายไปแล้วก็คือไม่มีแล้ว หมดแล้วหมดเลย ในฐานะลูกค้า เราก็ต้องอาศัยความใจเย็นและศึกษาข้อมูลมาให้เยอะ ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ

Yodobashi-Akiba

สำหรับร้าน Yodobashi สาขา Akihabara นั้นเป็นสาขาที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีขายทั้งกล้องมือหนึ่งและมือสองที่ให้เลือกกันแบบสะใจ ส่วนรุ่นและราคาก็มีหลากหลาย ค่อย ๆ เดินและหากันไปอย่าใจร้อน

yodobashi
Cr: WIKIMEDIA COMMONS

ที่อยู่ 1-1 Kandahanaokacho, Chiyoda-ku, Tokyo 101-0028, Japan
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line มาลงสถานี Akihabara ออกทางออกฝั่งถนน Showa Dori แล้วเดินอีก 2 นาที
เวลาทำการ 9.30-22.00 น.
โทรศัพท์ 03-5209-1010
Website Yodobashi-Akiba

ดูแผนที่ Yodobashi-Akiba

Fujiya Camera

ร้าน Fujiya Camera สาขาที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานี Nagano นั้น แบ่งร้านออกเป็นหลายตึกและหลายชั้นเพื่อแยกประเภทและยี่ห้อของกล้องออกจากกัน ซึ่งก็มีมากมายจนอาจเลือกไม่ถูก และเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนเราควรเลือกประเภทของกล้องที่ต้องการเอาไว้ก่อน

fujiya camera
Cr: Fujiya Camera

ที่อยู่ 5-61-1 Yubinbango, Nakano-ku, Nakano, Tokyo 164-0001
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟ JR สาย Chou Line มาลงสถานี Nagano แล้วเดินอีก 3 นาที
เวลาทำการ 10.00-20.30 น.
โทรศัพท์ 03-5318-2241
Facebook Fujiya Camera

ดูแผนที่ Fujiya Camera

Map Camera

หากไม่ใช่นักช้อปกล้องมือสองตัวจริง อาจไม่ค่อยคุ้นชื่อร้าน Map Camera มากนัก แต่ที่นี่เป็นอีกร้านขายกล้องมือสองที่น่าสนใจ ภายในร้านจะแบ่งประเภทของกล้องในแต่ละชั้นที่ค่อนข้างชัดเจน ทำให้สะดวกกับลูกค้าอย่างเรา

ที่อยู่ 1-12-5 อาคาร, Buranshe Nishi-Shinjuku, Shinjuku, Tokyo 160-0023
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line มาลงสถานี Shinjuku ออกทางออกฝั่ง Shinjuku Post Office แล้วเดินอีก 5 นาที
เวลาทำการ 10.30-20.00 น.
โทรศัพท์ 03-3342-3381
Website Map Camera

ดูแผนที่ Map Camera

ตะลุยโอซาก้าตามล่าร้าน ‘กล้องมือสอง’ ที่เค้าว่าเด็ด !

ตะลุยโอซาก้าตามล่าร้าน ‘กล้องมือสอง’ ที่เค้าว่าเด็ด !

ใครที่กำลังวางแผนจะไปโอซาก้าเชิญทางนี้ ! เราได้ทำการรวบรวมร้านขาย ‘กล้องมือสอง’ เด็ด ๆ ในโอซาก้ามาไว้ให้เพื่อน ๆ ได้ไปละลายทรัพย์แบบคุ้มค่ากันแล้ว

Mytarn

Blogger : Mytarn

เราเองก็เป็นหนึ่งในคนไทยที่หลงใหลในประเทศญี่ปุ่น ?? และรู้สึกเหมือนกับหลาย ๆ คนที่ไม่เคยเบื่อการเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศแห่งนี้ สิ่งที่ชอบที่สุดคงจะเป็นขนม เบียร์ และการช้อปปิ้ง อิ้ง อิ้ง อิ้ง~ ???

165 Posts

CCJ Hotel Search

สถานที่เที่ยว

| Feature

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515